ใยรักสีเพลิง

7.8

เขียนโดย dko9Nlbiu

วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.28 น.

  10 ตอน
  4 วิจารณ์
  15.84K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556 16.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ใยรักสีเพลิง 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
      
   รถญี่ปุ่นสีเทายี่ห้อมีชื่อติดอันดับรถยอดนิยมชะลอความเร็วแล้วจอดเทียบริมทางบริเวณถนนพหลโยธินฯขาเข้ากรุงเทพมหานคร เบื้องหน้ามีป้ายทำจากไม้เนื้อแข็งขนาดค่อนข้างใหญ่เขียนด้วยอักษรหวัด ๆอ่านว่า กระท่อมกาแฟ
   ร่างสูงในชุดเสื้อยืดพอดีตัวสีขาวสะอาดกับกางเกงยีนส์สีเข้มก้าวลงจากรถ นัยน์ตาสีนิลเป็นประกายระยับแต่บัดนี้ดูอิดโรยจากการอดหลับอดนอนมาค่อนคืน การถูกเพื่อนลากไปเที่ยวจังหวัดด้วยจริง ๆแล้วก็ไม่ต่างจากการถูกหลอกให้ไปเป็นคนขับรถประจำตัวพวกเธอเหล่านั้นที่หลับคอพับจนกระทั่งเขาตระเวณส่งทุกคนถึงที่พัก ชายหนุ่มสูดออกซิเจนเข้าปอดลึกๆนึกถึงต้นเหตุอย่างเพื่อนสาวร่วมวิชาชีพที่ดันลืมว่าตัวเองมีคำสั่งให้ไปอบรมวันอาทิตย์แล้วตั้งวงชวนคนอื่นไปตากอากาศถึงปากช่อง ฝันหวานท่ามกลางไอหนาวในรีสอร์ทแสนสบายของเพื่อนร่วมชะตาอีกสามคนมีอันหมดสิ้นหลังเข้าสู่นิทรากันได้ไม่กี่ชั่วโมง ตีสาม...ทุกคนถูกปลุกเพื่อให้กลับกรุงเทพด่วน กลิ่นใบไม้ต้องลมผสมกลิ่นกาแฟคั่วบดชวนให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมามากโข ปัณณทัตส่ายศีรษะอย่างระอาในตัวเพื่อนสาวจอมโก๊ะ...นัยน์ตาระยับใต้กรอบยาวรีกวาดมองรอบกายแล้วสูดกลิ่นหอมนั้นลึกยาวอีกครั้ง อากาศตรงนี้ดีกว่าริมถนนเป็นไหน ๆ
น่าแปลกเขาเดินทางผ่านถนนสายนี้เป็นว่าเล่นแต่กลับไม่เคยสังเกตร้านกาแฟเล็ก ๆบรรยากาศดีเช่นนี้ คงเพราะว่าเขาไม่ค่อยจะยอมจ่ายเงินเพื่อแลกเครื่องดื่มแก้วละค่อนร้อยบ่อยนัก ถ้าไม่ใช่เพราะเปลือกตาหนาหนักจนแทบจะลืมไม่ขึ้น ปัณณทัตก็คงไม่รู้จักร้านนี้ไปอีกนาน...ร้านเล็กแต่บรรยากาศเหมือนเดินหลงมาพบฉากกลางป่าจากนิทานสักเรื่องหนึ่ง
โครม ...!!! เสียงนั้นทำให้ร่างหนาสะดุ้ง ถูกฉุดออกจากอารมณ์ดื่มด่ำธรรมชาติทันที นัยน์ตาดำขลับเบนกลับมายังริมทาง อาการง่วงงุนเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง ชายหนุ่มเดินเร็วๆไปยังรถของตัวเองที่บัดนี้มีรถสีขาวคันใหม่เอี่ยมทิ่มจ่อเข้าไปจนมองเห็นท้ายรถของเขายุบย่นเต็มสองตา
ร่างเพรียวสมส่วนก้าวลงจากรถต้นเหตุของเสียงชวนตกใจเมื่อครู่ ใบหน้าหวานมีแววตระหนกจนคิ้วเรียวเหนือดวงตาคู่สวยขมวดเข้าหากัน กลิ่นหอมอ่อนโชยจากร่างบางผ่านปลายจมูกโด่งได้รูป หญิงสาวเครื่องหน้าสวยหวานเหมาะเจาะ ริมฝีปากระเรื่อเม้มแน่นบ่งบอกอารมณ์เครียดชัดเจน สะดุดตาแต่แรกเห็นก็ดวงตาบนใบหน้ารูปไข่นั่น มันหวานระคนเศร้าซึ้ง จนเขานึกเสียดายที่เธอเอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์เขาจึงมีโอกาสมองแววตานั้นเพียงเสี้ยววินาที
 รอยยุบยู่ตรงหน้าชวนให้เขาหงุดหงิดจับใจ ดูรถอีกคันสิ ป้ายยังแดงอยู่แท้ ๆ จะเป็นอะไรอื่นได้นอกจากผู้หญิงขับ ! ถ้าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อนสักนิดล่ะก็คงได้เอ่ยปากต่อว่าไปแล้วแต่สิ่งที่คนอย่างปัณณทัตทำได้ก็เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมองคนรูปสวย คู่กรณีที่ไม่คิดจะเอ่ยปากขอโทษสักที... ดูแม่คุณเถอะยังมัวแต่กดโทรศัพท์อยู่นั่นธุระช่างเยอะอะไรเช่นนี้
“รถจอดอยู่แท้ ๆขับชนได้ยังไงครับ”
เสียงนุ่มถูกเปล่งออกจากริมฝีปากหยักได้รูปเขาก้มลงมองรอยยุบนั่นอีกครั้งด้วยท่าทางของคนเสียดายรถ ความจริงก็ไม่อยากจะต่อว่าเธอนักหรอกแต่วันนี้ถ้าปัณณทัตไม่เริ่มเอ่ยปาก แม่คุณก็คงจะเอาแต่กดโทรวุ่นวายอยู่ไม่จบสิ้น
“ขอโทษค่ะ ฉันเบรกไม่ทัน” 
เสียงใสแต่ค่อนข้างห้วนจนชายหนุ่มที่กำลังสำรวจร่องรอยท้ายรถเงยหน้าขึ้นมองคนพูดอย่างกะทันหัน ทันเห็นเธอยัดมือถือราคาแพงโขลงกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาสั้น ทำเอาเขาหน้าร้อนวูบตอนเผลอเลื่อนสายตาขึ้นสูงและไปปะทะกับช่วงขาเนียนเหนือเข่า ปัณณทัตรีบเบนสายตาไปจับจ้องใบหน้างดงามนั้นแทน ผิวนวลเนียนเปล่งปลั่งด้วยเลือดฝาด ริมฝีปากเม้มแน่นปรากฏแก่สายตาอีกครั้ง เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย ดูสีหน้าเธอไม่ได้รู้สึกผิดพอ ๆ กับน้ำเสียงของเจ้าหล่อนนั่นแหละ
“เบรกไม่ทัน...หรือว่าไม่ได้เบรกครับ”
น้ำเสียงนั้นนุ่มนวลแต่คนฟังกลับรู้สึกได้ดีว่าภายใต้ใบหน้าหล่อเหลานั้นซ่อนแววเยาะเย้ยและคำพูดนั่นมันสบประมาทกันชัด ๆ เขาเสมองทางป้ายทะเบียนรถที่ยังแดงโร่แล้วส่ายหน้า  ภาริษาชักสีหน้าอย่างไม่คิดจะเก็บอาการแม้แต่น้อย ความที่เธออารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ออกจากบ้านยิ่งทำให้ความรู้สึกอยากรักษามารยาทของเธอหายไปจนแทบไม่อยู่ในความคิดเลยสักนิด
“จะเบรกไม่ทันหรือหรือไม่ได้เบรกก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ ไม่ต้องมาวิจารณ์ฉัน...คุณรอคุยกับประกันก็แล้วกัน ฉันร้อน”
ร่างบางเดินไปนั่งกับเบาะภายในรถของเธอพลางติดต่อบริษัทประกันภัยก่อนจะคว้ากระเป๋าใบหรูก้าวออกจากรถสีขาวคันสวยซึ่งหน้ารถยุบย่นไม่แพ้รถคันหน้า ปิดล็อกประตูรถด้วยอาการกระแทกกระทั้น ใบหน้าเนียนบึ้งตึงชัดเจน ผู้ชายวิเศษวิโสทั้งหลายดูถูกผู้หญิงไปซะทุกอย่าง อะไร ๆก็โทษแต่ผู้หญิง ไม่เคยมองความผิดของตัวเอง..! ถ้าเขาไม่จอดตรงนี้ เธอก็ไม่ชนหรอก จริงไหม!
 ภาริษาคิดอย่างขุ่นเคือง เธอเพิ่งจะมีปากเสียงกับรดิศก่อนออกจากบ้าน มิหนำซ้ำเขายังโทรมาต่อว่าเรื่องที่เธอมัวแต่สนใจร้านกาแฟจนไม่เข้าบริษัทมาหลายเดือน แล้วยังต่อด้วยเรื่องบัญชีซึ่งทำผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อย เขาโทษว่าต้นเหตุมาจากเธอไม่รับผิดชอบหน้าที่ให้ดีกว่านี้...หญิงสาวย่นจมูกขึ้นเมื่อนึกถึงรดิศ เขายังจะมีหน้ามาออกคำสั่งกับเธอได้อีก ทั้งที่ความผิดด้วยเรื่องเดิม ๆต้นเหตุจากความไม่รู้จักพอของเขายังคงเกิดซ้ำ ๆซาก ๆจนภาริษาเอือมระอา ยิ่งนึกก็ยิ่งเคืองขุ่น รดิศนั่นแหละเป็นต้นเหตุทุกอย่าง รวมถึงเรื่องที่เธอขับรถชนรถของผู้ชายช่างประชดนี่ด้วย หญิงสาวเดินเชิดผ่านหน้าผู้คนสี่ห้าคนซึ่งเดินผ่านมาและหยุดมองด้วยความสนใจ แต่ภาริษาไม่สนใจใครทั้งนั้นยามที่เธอกำลังอารมณ์บูด !
แววตาที่ทอดตามร่างเพรียวนั่นแม้จะเรียบสนิทแต่กลับสะท้อนแววขบขันไปยังหญิงสาวไม่น้อย เธอเป็นคนผิดแต่ทำเหมือนเขาซะอีกที่ทำผิด ขาเรียวภายใต้กางเกงยีนส์ขาสั้นบนรองเท้าส้นสูงรัดส้นก้าวฉับ ๆราวกับมั่นใจนักหนา ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วเดินตามไปสายตายังจับจ้องอยู่กับร่างระหงที่จู่ ๆก็ทรุดลงไปกับพื้นหินกรวดสลับด้วยแผ่นหินหยาบ ๆ ในท่าจับกบ
        ปัณณทัตพยายามกลั้นหัวเราะและแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการเข้าไปช่วยพยุงร่างบางให้ลุกขึ้น เขารู้สึกปวดแก้มจนต้องยกมือขึ้นคลึงหนัก ๆ ใบหน้าสวยแดงจัดด้วยความอายเธอเห็นสายตาจากคนในร้านมองมาแต่เพราะติดลูกค้าจึงไม่มีใครออกมาซักถาม เธอสะบัดมือใหญ่ออกแล้วเดินเขยกไปนั่งบนเก้าอี้ใกล้ ๆ
     สายลมเอื่อยพัดพากลิ่นธรรมชาติรอบร้านคลอเคล้ากับเสียงน้ำกระทบน้ำจากม่านน้ำตกขนาดย่อมไม่อาจผ่อนปรนอารมณ์หญิงสาวให้เย็นลงได้  เหงื่อเม็ดเล็ก ๆผุดตามใบหน้าที่อ่อนสีลง ดวงตาเขียวปัดเหลือบมองชายหนุ่มซึ่งยืนอวดความสูงอยู่ใกล้ ๆก่อนจะหลุบลงสำรวจร่องรอยบาดแผลตรงหัวเข่าและแขน คนตัวโตหลุดหัวเราะพรืดอย่างอดไม่ไหวทำให้ดวงตาพองโตนั่นสะบัดใส่เขาอีกครั้ง
“คุณขำอะไรนักหนา ไปไกล ๆเลยไปไม่มีมารยาท"  พูดจบก็ก้มลงมองมือตัวเองอีกครั้งปัณณทัตไม่ได้รู้สึกโกรธเมื่อถูกต่อว่าเขากลับยิ่งเพิ่มเสียงหัวเราะขึ้นอย่างหมดความเกรงใจจะกลั้นจะได้อีก ผิวหน้าขาวมองเห็นไรหนวดเขียวครึ้มตามสันคางซับสีเลือดจนแดงระเรื่อริมฝีปากหนาหยักแย้มอวดเรียวฟันสะอ้าน ขับนัยน์ตาระยับให้ระยิบราวกับแสงดาว
“เอ้าคุณ...ทำไมกลายเป็นผมไปล่ะครับ ผมเป็นผู้เสียหายนะคุณจะขอโทษสักคำก็ไม่มี”
“ฉันไม่มีอารมณ์จะขอโทษหรือรู้สึกผิดอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ คุณจะมาโทษฉันคนเดียวได้ยังไงนี่มันหน้าร้านฉัน คุณต่างหากจอดรถไม่ดูตาม้าตาเรือ แล้วยังเสียมารยาทดูถูกสุภาพสตรีอีก ”
       จอดรถไม่ดูตาม้าตาเรือ ปกตินอกจากแม่แล้วปัณณทัตก็ไม่เคยจะต่อปากกับผู้หญิงคนไหน ส่วนใหญ่เขาจะยอม แม้แต่เพื่อนสาวอย่างสิริยุพาที่สร้างวีรกรรมชวนเลิกคบเมื่อคืนนี้ก็ยังไม่ได้รับคำต่อว่าสักน้อยจากเขา แต่กับแม่คนช่างแถคนนี้ เขากลับอยากลองเถียงดูสิว่าเธอจะยอมรับผิดเป็นกับชาวบ้านบ้างไหม
“แล้วทีคุณขับรถมาชนรถผม  เดินกระแทกเท้า สะบัดหน้าใส่ผม แล้วยังมาด่าผมทั้งที่ผมช่วยพยุงคุณลุกขึ้นแท้ ๆ มารยาทคุณดีมากเลยนะครับ” พูดเสียงเรียบพลางอมยิ้ม “ผมว่า...” คำพูดต่อจากนี้ถูกเสียงแหวที่ดังกว่าหลายเดซิเบลแทรกขึ้น   
“ใช่ฉันมันคนไม่มีมารยาท...! ฉันจะทำกิริยาแบบไหนกับใครมันก็เรื่องของฉัน” เสียงดังที่ปัณณทัตเรียกว่า ตวาด! ออกจากปากหญิงสาวหน้าหวานนั้นสั่นเครือในท้ายประโยค ดวงตาคู่สวยมีน้ำผุดขึ้นมาคลอหน่วยจนเกือบจะล้นขอบตา เขาใจหายวาบ พยายามทบทวนคำพูดตัวเอง เขาว่าอะไรเธอรุนแรงไปหรือเปล่า
  ภาริษาเบือนหน้าไปคนละทางกับร่างสูงซึ่งยืนค้ำศีรษะเธออยู่  ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องรักษามารยาทกับคนซึ่งหาว่าเธอ ขับรถห่วย  !และยังหัวเราะเยาะความซุ่มซ่ามของเธออีก
    เขาเดินไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวซึ่งห่างออกไป ไม่กล้าพูดอะไรกับหญิงสาวจอมพาลอีก บรรยากาศอยู่ในความเงียบยาวนาน เขายังได้ยินแม่คนต้นเรื่องโทรไปต่อว่าตัวแทนประกันภัย ว่าชักช้าอีกแน่ะ ! เอากะแม่คุณสิ... เมื่อตัวแทนจากบริษัทประกันภัยมาถึงและได้คุยตกลงเรื่องค่าเสียหาย โดยหญิงสาวได้หายตัวเข้าไปในร้านขณะที่เขากำลังดูตัวแทนลากรถไปส่งซ่อม เธอไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับรถของตัวเองเท่าไร เธอห่วงเพียงคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่วางไว้ในรถเท่านั้น ชายหนุ่มเหลียวมองเข้าไปในร้านอีกครั้งกระแสประหลาดบางอย่างวิ่งเข้าสู่หัวใจจนรู้สึกวูบไหว
ดวงตาบวมช้ำที่มีน้ำใส ๆคลอหน่วยนั้นยังติดตาไม่จางหาย เขาพูดอะไรทำร้ายจิตใจเธอ มือหนาโบกเรียกรถแท็กซี่ซึ่งผ่านมาพอดีไม่วายเหลียวมองร้านกาแฟบรรยากาศร่มรื่นนั้นจนลับตา หัวใจหนุ่มเต้นดังตึกตักจนเผลอตัวทาบฝ่ามือกับตำแหน่งที่เต้นเร้านั่น...เพียงสมองคิดว่าจะมาที่นี่อีก หัวใจก็กระดี๊กระด๊าเร่งเร้า  อยากค้นหาความหมายจากแววตาเศร้าคู่นั้นของหญิงสาวจอมพาลที่ชื่อภาริษา  ...จนสุดท้ายเธอก็ยังไม่ยอมขอโทษและไม่ยอมรับว่าเธอผิดคนเดียวเต็ม ๆ .

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา