พ่ายรัก

-

เขียนโดย กวางตุ้ง

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.59 น.

  9 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) พ่ายรัก1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               สายตาว่างเปล่าของฬีรนันท์ รัตนเกียรติ กรรมการผู้จัดการสาว ทอดมองออกไปอย่างไร้จุดหมายบนตึกสูง 25 ชั้น ณ ห้องทำงานของเธอ  ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการกว่าจะได้มา เธอเริ่มต้นด้วยการเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน พอเรียนจบก็มาสมัครที่บริษัทแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่พนักงานทั่วไป มีโอกาสได้แสดงความสามารถจึงไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆจนตำแหน่งงานปัจจุบัน คือ หนึ่งในกรรมการผู้จัดการของบริษัท ผลิตและออกแบบจิลเวอร์รี่ ชื่อดังของเมืองไทย

                “5 ปีแล้วสินะ” เธอคิด 5 ปีที่หน้าที่การงานพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และเป็น 5 ปีเช่นกันที่ความรักของเธอดิ่งลงเหว อย่างไม่มีวันหวนคืน ตั้งแต่วันนั้น ...

                เธอหยุดความคิดแค่นั้น เมื่อมีเสียงเคาะประตู พร้อมกับเสียงขออนุญาตจากเลขาเธอ

                “ค่ะ พี่ชุ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฬีรนันท์เอ่ยทักเลขาของเธอ อัญชุลี ทำงานเป็นเลขาของบริษัทนี้มาเกือบจะ 10 ปี และเพิ่งมาเป็นเลขาให้เธอ เมื่อเธอขึ้นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ

                “คุณฬีต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” อัญชุลี เข้ามาถามความต้องการ จริงๆก็คือได้เวลาเลิกงานแล้ว แต่คุณฬีไม่เคยกลับตรงเวลาสักวัน มักจะทำงานเลยเวลาตลอด เธอรู้จักฬีรนันท์ตั้งแต่เป็นนักศึกษาฝึกงาน ใช้ได้ คือคำแรกในความรู้สึก เริ่มแรกอาจแค่ผิวเผิน แต่พอมาเป็นพนักงานก็เจอกันบ่อยขึ้น อัญชุลีคิดเลยว่า เด็กคนนี้ใช้ได้ ทั้งในเรื่องการงาน และนิสัยส่วนตัว จึงไม่ลำบากใจเลยเมื่อเวลาผ่านไปจากหนูฬีจะกลายเป็นคุณฬี เจ้านายสาวอายุยังน้อยของเธอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกไม่เหมือนเดิม แววตาจากการเป็นเด็กฝึกงานที่เคยสดใสแม้จะพูดน้อย แต่มันใสกว่านี้ ไม่ใช่เฉยชา แทบไม่มีความรู้สึกอะไรเลย

                “ได้เวลาเลิกงานแล้วนี่คะ พี่ชุกลับได้เลยไม่มีอะไรแล้วค่ะพี่ ฝากจุ๊บแก้มน้องบัวด้วยนะคะบอกพี่ฬีคิดถึง ป่านนี้คงรอแย่แล้ว” ฬีรนันท์เงยหน้ามองนาฬิกา เมื่อเห็นเวลาเลิกงาน เธอรู้ เลขาเธอต้องไปแวะรับลูกสาวที่โรงเรียนก่อนกลับบ้าน

                “ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่บอกให้ ว่าแต่วันอาทิตย์หน้าวันเกิดยัยบัว พี่ว่าจะมีปาร์ตี้เล็กๆที่บ้านสนใจไหมคะคุณฬี” อัญชุลีบอกอย่างนึกขึ้นได้ ลูกสาวตัวน้อยวัย 7 ขวบ ชอบพี่หนูฬีมาก หลังจากที่เจอเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง

                “ตรงกับวันอาทิตย์ไม่น่าจะมีปัญหา ฬียังไม่รับปากนะคะ พี่ชุอย่าเพิ่งบอกน้องบัวนะ เผื่อฬีไปไม่ได้ ฬีไม่อยากผิดสัญญา” เธอจะไม่รับปาก ถ้าเธอไม่มั่นใจว่าทำได้ เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายผิดหวังไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

                “ได้ค่ะ งั้นพี่กลับก่อนนะคะ คุณฬีอย่าอยู่ดึกมากนะ ขับรถกลับดึกๆอันตราย” อัญชุลีบอกด้วยความเป็นห่วง

                “ ขอบคุณค่ะพี่ชุ อีกสักครู่ฬีก็กลับแล้วค่ะ” เธอเข้าใจความหวังดี พี่ชุเป็นแบบนี้เสมอ  เพื่อนร่วมงานที่ดีก็มีส่วนทำให้การทำงานออกมาดี เธอโชคดีนักที่ได้ทำงานที่ชอบ แล้วเพื่อนร่วมงานยังดีอีก

“ว่าไงยัยรัก อ้าว! อยู่บ้านแล้วเหรอ กลับไม่บอกพี่เลยนะ แล้วไปยังไงหนะ อ๋อ นายกลางไปส่ง ถึงบ้านแล้วใช่ไหม อือ พ่อกับแม่ทำอะไรอยู่ แล้วทำไมไม่ช่วยแม่ทำกับข้าว ก็ไม่บอกพี่จะรู้ไหมละว่าช่วยอยู่ นายกลางเนี่ยนะช่วยแม่ทำกับข้าวด้วย  หึหึหึ เข้าใจทำคะแนน แล้วเรียวอะ ยังอยู่ในอู่อีกเหรอ เลิกงานได้แล้วมั้ง อืม บอกแม่แล้วกันพรุ่งนี้พี่จะไปนะ เค บายจ้าน้องรัก” ฬีรนันท์ว่างสายจากการสนทนา รัก รักษณา น้องสาวคนเล็ก นักศึกษาคณะบริหาร สาขาการตลาด ชั้นปี3 ปกติแล้วรักจะพักอยู่กับเธอที่คอนโด แห่งหนึ่ง ที่เธอตัดสินใจซื้อ แม้จะไม่ใช่เงินสด แต่ก็เหลือผ่อนปีสุดท้ายแล้ว ตอนที่เธอขึ้นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการนั่นเอง  ส่วน เรียว รัทธชัย น้องชายคนกลาง จบวิศวกรรมเครื่องยนต์มาได้เกือบ 3 ปี ตอนนี้ก็ช่วยพ่อดูแลกิจการอู่ซ่อมรถยนต์อย่างเต็มตัว แต่เธอรู้สึกว่าตอนนี้เรียวทำแทบทุกอย่าง และมีพ่อเป็นที่ปรึกษาแทน ปกติเธอก็กลับบ้านทุกวันหยุด เย็นวันศุกร์แล้วกลับมาบ่ายวันอาทิตย์ บ้านเธออยู่ไม่ได้ไกลมาก แค่ชานเมืองกรุงเทพนี่เอง แต่วันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยๆอยากอยู่คนเดียวสะมากกว่า ในอีกด้านหนึ่งที่เธอเพิ่งวางสายไป

                “แม่คะ วันนี้พี่ฬีไม่มานะ มาพรุ่งนี้นะคะ” หลังจากที่รักษณาวางสาย ก็รายงานผู้เป็นแม่ทันที

                “ฬี โทรมาบอกแม่ตั้งแต่บ่ายแล้วล่ะ สงสัยจะเหนื่อย พรุ่งนี้ค่อยดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า กลางแกะกุ้งเสร็จยังลูก รักเรานี่ก็น้าบล็อคโคลี่แม่จะได้ผัดกับกุ้งไหมนี่” กานดา มารดาของ3พี่น้องบ่นลูกสาวตัวเองเมื่อเห็นผักยังหั่นไม่เสร็จ ส่วนกุ้งของกลาง เพื่อนพิเศษของลูกสาวคนเล็กนั้นโดนแกะเปลือกและวางเรียงอย่างสวยงาม

                “แกะเปลือกได้สวยกว่านายเรียวกับยัยรักอีกนะเนี่ย เข้าครัวบ่อยเหรอเรานะ” กานดาถามขึ้นพร้อมหยิบจานกุ้งไปวางใกล้กระทะเตรียมผัด รอแค่ผักที่ลูกสาวเธอยังหั่นไม่เสร็จ

                “นิดหน่อยครับ ตอนไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ ผมมักทำอาหารทานเองครับ”  กลาง หรือ  กวิน พรหมเทพตอบมารดาของผู้หญิงที่เขาบ่มความรักมากว่า3ปี เขาเจอรักษณาเมื่อวันที่จบการศึกษารับปริญญาบัตร ในขณะที่รักษณาเพิ่งเข้ามาเป็นเฟรชชี่ในรั้วมหาวิทยาลัย เจอเธอขณะที่กำลังตั้งอกตั้งใจร้องเพลงบูมให้รุ่นพี่ที่กำลังจบและเขาก็อยู่ในวงนั้น มองเธอที่ตั้งอกตั้งใจร้องเพลง ผิวขาวๆแก้มชมพูไรผิวสีน้ำตาลเข้มชื้นเหงื่อกับท่าทางตั้งใจ ทำให้เขารู้สึกละสายตาไม่ได้จากผู้หญิงคนนี้ และเขามีเวลาอีกแค่ 2 เดือนก่อนที่เขาต้องเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท และวันนั้นสิ่งที่เขารู้ก็คือ เธอ ชื่อ รักษณา รัตนเกียรติ เฟรชชี่ของสาขาการตลาด แค่นั้นจริงๆ ไม่มีแม้แต่อีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ ตามมา แต่ตอนนี้เขาสามารถเข้าออกบ้านนี้ได้สะดวก เหลือสิ่งเดียว รอผู้หญิงคนนี้เรียนจบสักที

                “บล็อคโคลี่ของรักได้แล้วค่ะแม่ นี่จ้า” รักษณา ยื่นจานใส่ผักที่หั่นเสร็จแล้วให้แม่เธอ พลางมองกุ้งตัวสวยในจานพี่กลาง

                “ดีนะที่พี่ฬีไม่มาวันนี้ ไม่งั้นพี่กลางโดนบ่นแน่” เมื่อเห็นกวินขมวดคิ้วใส่อย่างไม่เข้าใจ เธอจึงอธิบายต่อ

                “จะทำอะไรที่เกี่ยวกับกุ้ง บ้านนี้ต้องเอาหางออกค่ะ พี่ฬีแกไม่กินกุ้งที่ไม่แกะหาง ไม่ได้แพ้อะไรนะ แต่ขี้เกียจแกะ”

                “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ กลาง เรานี่ก็น้ายัยรัก เผาพี่สาวเราสะหมด” กานดาส่ายหน้ากับความทะเล้นของลูกสาวคนเล็ก

                “มิน่าล่ะ ตอนไปกินข้าวที่คอนโดพี่ฬี กุ้งถึงไม่มีหางนี่เอง พี่ว่าจะถามหลายครั้งแล้วว่าทำไม..”กวินนึกถึงบ่อยครั้งที่ไปกินข้าวที่คอนโดของสองสาว ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าครัวเอง ทุกเมนูกุ้งที่ทำเองจะไม่มีหาง นึกไปถึงตอนที่ซื้อผัดไทกุ้งสดไปให้รักษณา และเผื่อฬีรนันท์ นั่งทานกัน3คน แต่ฬีรนันท์กลับตักกุ้งทั้งหมดให้น้องสาวตัวเอง ช่างแปลกจริงๆ

                “มีอะไรกินมั่งครับแม่” เรียว หรือ รัทธชัย ยื่นหน้าเข้ามาในครัว พร้อมคว้าทอดมันปูเข้าปาก จึงโดนซัดเผียะเต็มๆมือเชียวละ

                “แม่อะ ชิ้นเดียวเอง” ปากก็เคี้ยว มืออีกข้างก็ลูบรอยที่โดนตี

                “มือสกปรก หยิบของเข้าปาก เดี๋ยวเถอะ”กานดาถึงจะบ่นลูกชายตัวดี แต่มือก็หยิบโน่นนี่ปรุงรสบล็อคโคลี่ผัดกุ้งในกระทะ

                “ คร้าบบบ เฮ้ กลาง มาก็ดี คืนนี้ไปท่องราตรีกัน นัดพวกนั้นไว้ กำลังขี้เกียจขับรถพอดี เอารถนายไปดีกว่า” รัทธชัย หันมาคุยกับกวิน แต่ มือก็เปลี่ยนเป้าหมายไปคว้าไก้ทอดอีกชิ้น

                “ได้ๆ พรุ่งนี้วันเสาร์ไม่ได้ทำงาน” กวินรับคำ เขารู้จักกับรัทธชัย พอๆกับรักษณา ด้วยความอายุใกล้เคียงกัน พอมาบ้านนี้บ่อยๆ จึงกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด และกลายเป็นเพื่อนๆของกลุ่มรัทธชัยโดยปริยาย

                “รักอยากไปด้วย” ประโยคเดียวของรักษณา ทำเอาสายตา3คู่หันขวับมาทันที

                “ไปยังไงละลูก พี่เขาไปแต่กับเพื่อนผู้ชาย” กานดายกจานอาหารที่เสร็จแล้ววางลงบนโต๊ะ

                “เรียวไปกับกลุ่มพี่หนึ่งหรือเปล่าล่ะ รักก็รู้จักทุกคนนี่นา ให้รักไปนะคะแม่ ” รักษณาหันมาอ้อนมารดา นิสัยช่างอ้อน ช่างฉอเลาะ หาเหตุผลมาโน้มน้าวของลูกสาวคนเล็ก ทำให้ใครก็ตามที่ฟังต้องทำตามความต้องการของเธอโดยปริยาย

                “เดี๋ยวค่อยคุยกัน ไปทานข้าวกันก่อน มาช่วยแม่ยกกับข้าวตั้งโต๊ะ ส่วนเรียวหยุดหยิบโน่นนี่ใส่ปาก แล้วไปอาบน้ำได้แล้วลูก” กานดาตัดบทลูกสาว รอถามวินัยผู้เป็นสามีดีกว่า

               

                เมื่อทุกคนต่างทานอาหารเสร็จ รักษณาจึงไปหยิบสละลอยแก้ว ที่แม่ของเธอทำแช่เย็นไว้ ออกมาเสิร์ฟให้กับทุกคน รัทธชัยรู้เลยว่ายังไงงานนี้ยัยรักตัวแสบก็ต้องไปด้วยแน่ๆ

                “พ่อขา  คืนนี้เรียว พี่กลาง แล้วก็กลุ่มพี่หนึ่งเขาจะไปเที่ยวกัน รักอยากไปดูไปเปิดหูเปิดตาบ้าง พ่ออนุญาตให้รักไปไหมคะรักขอแม่แล้ว แต่แม่ยังไม่ให้คำตอบ คงรอปรึกษาพ่อก่อน พ่ออนุญาตรักไหมคะ”วินัยเงยหน้ามองผู้เป็นภรรยา สื่อมาชัดเจนว่าไม่อยากให้ไป

                “รักเคยไปที่แบบนี้บ้างหรือเปล่าละลูก” วินัยถามลูกสาวอย่างใจเย็น

                “ ก็ไม่เคยค่ะ เพื่อนๆก็มีชวนบ้างนะคะ แต่รักไม่รู้สึกอยากไป แต่วันนี้เรียวก็ไปด้วย พี่กลาง กลุ่มพี่หนึ่ง พ่อก็รู้จัก อีกอย่างไม่เปลืองเงินรักด้วย ให้เรียวจ่ายให้ เพราะเรียวทำงานแล้ว” รักษณาหันมายักคิ้วทำหน้าทะเล้นใส่พี่ชาย แต่แปลก เธอไม่ยักกะเรียกเขาว่าพี่ แต่เพื่อนๆของเรียวเธอเรียกพี่ได้ทุกคน เธอจึงแทบจะเป็นน้องน้อยของกลุ่มเพื่อนพี่ชายไปโดยปริยาย อย่าว่าแต่เธอไม่เรียกเรียวว่าพี่เลย เรียวก็ไม่เรียกพี่ฬีว่าพี่เหมือนกันแหละ

                “แม่ครับ แล้ววันนี้ฬีไม่มาเหรอ จะได้ไปด้วยกันเลย ไหนๆยัยรักก็ไปอยู่แล้ว”

                “ไม่มาลูก พรุ่งนี้แหละฬีถึงจะมา”

                “พ่อให้รักไปไหมคะ” รักษณาหันมาถามย้ำ

                “พ่อให้ไป ลูกโตแล้วคิดได้ว่าอะไรควรไม่ควร ดีไม่ดี เรียวกับกลางก็ดูๆน้องหน่อยละกันนะ ให้ไปกับพวกเรา ก็ยังดีกว่าให้รักไปเรียนรู้จากคนที่เราไม่รู้จัก” วินัยสรุป เขามั่นใจว่าเรียวต้องดูแลน้องสาวตัวเองได้ แม้จะเห็นไม่ค่อยลงรอยกัน แต่เรียวก็หวงและห่วงน้องไม่ต่างกับฬีรนันท์เลยล่ะ อีกทั้งกวิน เขาก็ค่อนข้างมั่นใจและเชื่อสายตาตัวเอง ผู้ชายคนนี้ไว้ใจได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา