Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) เพียงข้อความสั้นๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเด็กชายที่ไม่น่าที่จะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่มีการทำลายล้างสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ที่ต่อยอดมาจากพันธุกรรมที่วิวัฒนาการมาจนเกือบจะถึงขีดสุดของผู้ถือตนเป็นเจ้าผู้ปกครองโลกจนแทบจะไม่เหลือซึ่งสายพันธุ์เหล่านั้นเอาไว้ให้จดบันทึกเข้าไปในสารานุกรมสิ่งมีชีวิตตัดแต่งพันธุกรรมชนิดใหม่ของโลก ในขณะนี้ได้เดินทางกลับมายังอดีตอันแสนห่างไกลเพื่อดำเนินการแก้ไขทุกสิ่งให้ดำเนินไปตามที่ควรจะเป็นด้วยความบังเอิญอย่างที่สุด
ซึ่งในขณะนี้เขาได้ร่วมมือกับแองเจลอยด์ที่เขาแทบจะไม่รู้จักมักคุ้นด้วยกันเลยในการที่จะให้แผนการที่ได้วางเอาไว้สดๆร้อนนั้นสำเร็จลุล่วงไปให้ได้โดยเกิดความสูญเสียน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้พบหน้ากับผู้ที่เขายอมรับว่าเป็น"ครอบครัว"อีกแล้วก็ตาม...
"โคริคาวะคุง... ฉันชอบเธอนะ"
"หนูสัญญานะคะ...ว่าถ้าหนูโตขึ้นเป็นสาวเมื่อไหร่ หนูจะใส่รองเท้าคู่นี้ให้พี่ชายดูทุกวันเลย..!"
"ฉันฝากน้องสาวของฉัน...ให้นายดูแลด้วยนะ ฮิซาชิคุง"
"ฉันจะแสดงออกมาให้นายเห็นเอง ความรู้สึกในใจของseiriพวกนั้นน่ะ!"
"อย่างฉันน่ะ...ไม่มีวันยอมปล่อยหมอนั่นให้seiriคนอื่นแย่งไปหรอก!!"
"ถึงมันจะช้าไปมากก็ตามเถอะนะ...แต่ฉันอยากจะบอกอะไนให้นายรู้ไว้สักอย่าง..."
พวกเราทุกคน...รักนายที่สุดเลย!!!
ถึงจะเป็นผู้ชาย... ถึงจะอยู่ต่อหน้าผู้หญิง... ถึงจะดูไร้เหตุผลมากในสายตาคนอื่น...
แต่ในขณะนี้ฮิซาชิได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ลูกผู้ชายไม่สมควรกระทำที่สุดออกมาให้ผู้ที่เหมือนกับเป็นพี่สาวของเพื่อนคนที่สองในชีวิตของเขาได้เห็นอย่างไม่อายสายตาสีฟ้าเป็นประกายน้ำทะเลของเธออย่างไม่ลังเล
ครั้งนี้มิรันรู้สึกสับสนในการรับมือการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ที่ไม่แน่นอนซึ่งสามารถทำได้10ท่า5นาทีของมนุษย์ที่เธอไม่มีวันเข้าใจได้เป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนั้นเริ่มขึ้นเพียงเพราะฮิซาชิเป็นฝ่ายถามที่อยู่ของseiriที่เขารู้จักเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง
ซึ่งหากดูเพียงผิวเผิน...จะเห็นได้ว่าเท่าที่ผ่านมารอบตัวของฮิซาชินั้นมีแต่ผู้หญิงสาวๆสวยๆทั้งที่เป็นมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์คอยมาถวายกายและใจล้อมหน้าหลังเต็มไปหมด ซึ่งพวกเธอแต่ละคนนั้นต่างมอบหัวใจและความเป็นตัวเองให้กับชายหนุ่มที่ยอมให้ที่อยู่อาศัย ข้าวฟรีน้ำฟรี สวัสดิการครบถ้วนโดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียวอย่างไม่มีเงื่อนไข
เพราะเช่นนั้นฮิวาชิสามารถที่จะออกคำสั่งอะไรก็ได้กับพวกเธอตามต้องการ ซึ่งพวกเธอเหล่านั้นก็จะสนองความต้องการอย่างไม่ลังเลและไม่มีบิดพลิ้ว ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งให้ทำเรื่องน่าอายอย่างการให้เดินเปลือยท่อนบนไปรอบโลก หรือแม้แต่งานใหญ่อย่างการยึดครองโลกให้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฮิซาชิแต่เพียงผู้เดียว พวกเธอจะลงมือกระทำอย่างไม่ลังเลเลย
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้ฮิซาชิจะใช้ให้พวกเธอมาเป็นคนรักของเขารวดเดียวยกกองทัพก็สามารถทำได้ และเขายังสามารถที่จะเรียกใช้บริการสนองความต้องการส่วนตัวยามค่ำคืนโดยที่พวกเธอเหล่านั้นไม่สามารถขัดขืนได้ด้วยเช่นกัน
ถ้าหากว่ามีผู้หญิงมารุมล้อมพวกคุณถึงขนาดนี้... ยอมอุทิศกายเพื่อความปรารถนาบ้าๆบอๆของพวกคุณอย่างเอาจริงเอาจังขนาดนี้... มันคงจะเป็นสวรรค์บนดินเลยใช่ไหม!?
มันก็คงจะใช่... แต่สำหรับฮิซาชิแล้ว การที่เขาสามารถดึงตัวพวกseiriที่มีพลังแข็งแกร่งที่จะสามารถฆ่ามนุษย์ที่บอบบางได้เพียงการกระดิกปลายนิ้วสั้นๆออกมาจากขุมนรกที่เรียกว่า"ความโดดเดี่ยว"นั้น... นับว่าเป็นงานที่ยากยิ่งกว่าการลุยข้อสอบเคมีเรื่องกรด-เบสโดยปราศจากความรู้เรื่องลอการิทึ่มเสียอีก
เพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้พวกseiriที่แสนน่ารักเหล่านั้นกลายเป็นคนที่มีค่ามากสำหรับเขา ความสัมพันธ์ที่ฮิซาชิมีให้กับพวกเธอ...และความสัมพันธ์ที่เหล่านางฟ้ามีให้กับฮิซาชินั้นจึงก้าวข้ามคำว่า"รัก"ไปไกลมาก เป็นความผูกพันที่สูงค่าและเหนียวแน่นจนฮิซาชิไม่ต้องการที่จะทำลายมันลงด้วยการเลือกเอาใครสักคนหนึ่งมาเป็นคนรักของตน
ซึ่งฮิซาชิเองก็รู้ตัวดีว่าหากเขาทำเช่นนั้น... พวกseiriที่เขาสามารถช่วยเหลือออกมาจากนรกที่ลึกมากแห่งนั้นได้อาจจะกลับลงไปยังนรกแห่งนั้นจนเขาไม่สามารถช่วยออกมาได้แน่
สำหรับชายหนุ่มที่ไร้เดียงสาในหลายๆความหมายแล้ว...พวกเธอทุกคนคือครอบครัวที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ตั้งแต่มิคาสะหรือยูนะที่ผูกสัมพันธ์กับเขาได้อย่างง่ายดาย ไปจนกระทั่งฮิคาริที่เคยพยายามจะฆ่าเขาก็เช่นกัน
ถึงแม้ว่าพวกนางฟ้าแต่ละคนจะมีนิสัยและความชอบที่แตกต่างกัน ถึงพวกเธอแต่ละคนจะคอยสร้างปัญหาให้ฮิซาชิคอยเคลียร์ไม่เว้นแต่ละวัน ฮิซาชิก็ยังคงเห็นพวกเธอเป็นคนสำคัญมากสำหรับเขาอยู่ดี ยังคงคอยเก็บเอารายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คนทั่วไปไม่สนใจมาทำให้พวกเธอเหล่านั้นมีความสุขโดยไม่สนใจว่าผู้ที่เขากำลังเล่นด้วย...อาศัยอยู่ด้วยนั้นจะเป็นตัวอะไร
เพราะถึงseiriจะไม่ใช่มนุษย์...พวกเธอก็ยังสามารถเรียนรู้อารมณ์ความรู้สึกแบบเดียวกับมนุษย์ได้อยู่ดี ยังคงยิ้ม หัวเราะ มีความสุข หรือแม้แต่ทุกข์ใจได้เช่นเดียวกัน จริงไหม!?
"ก็ใช่ว่าฉันจะไม่เข้าใจความรู้สึกของนายนะ... แต่ถ้านายยังร้องไห้อยู่ต่อละก็...เดี๋ยวทิชชู่ที่ฉันเอาไว้ซับน้ำมันของทอดก็หมดพอดีหรอก"
มิรันพูดขึ้นมาลอยๆเพื่อให้ฮิซาชิพอได้มีอารมณ์ขันให้สามารถลดทอนดาเมจจากอาการโศกเศร้าลงได้บ้าง แต่แม้ว่าจะพูดออกไปอย่างนั้น เด็กชายตรงหน้าที่เธอเอามือแตะไหล่เป็นกำลังใจก็ไม่ได้บรรเทาความเศร้าลงได้เลย เพราะเช่นนั้นเองมิรันจึงตัดสินใจใช้ไม้ตายสุดยอดที่เหนือกว่าท่าลูกบอลแสงสีฟ้าที่เคยสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่seiriในสมัยของเด็กชายคนนั้นจะสามารถโค่นลงได้ออกมาทันที
"เธอพูดเองสินะว่าฉันฝากให้เธอดูแลseiriสามคนนั่น... ถ้าเธอเป็นคนอ่อนแอแบบนี้ ฉันจะฝากเด็กพวกนั้นไว้กับเธอได้ยังไง"
เมื่อได้ยินคำพูดเชิงให้กำลังใจชนิดยาแรงของแองเจลอยด์ที่เคยเข้าใจผิดว่าเป็นอควารอยด์เข้าไปเช่นนั้น น้ำตาของฮิซาชิก็หยุดไหลทันที พร้อมกันนั้นมิรันก็ยื่นหน้าเข้าไปหาเด็กชายที่เหลือบดวงตาขึ้นมาจากลำแขนสีขาวผ่องราวกับต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งในตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม...
"ขอบใจนะ...ที่เธอร้องไห้ให้กับการตายของseiriอย่างพวกเรา ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครร้องไห้เสียใจกับความเสียสละของพวกเราเลยแม้แต่คนเดียว ขอบใจเธอจริงๆ"
มิรันสลักคำขอบคุณอย่างสุดหัวใจในรูปแบบของเธอให้กับเด็กชายที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนลงบนหน้าผากของเขา ซึ่งริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอเมื่อทำปฏิกิริยาทางเคมีกับหน้าผากที่อ่อนนุ่มเช่นกันของเด็กชายที่เป็นเหมือนตัวทำปฏิกิริยาชั้นเยี่ยมแล้ว... ผลลัพธ์ที่ได้จึงออกมาเป็นตำหนิสีแดงระเรื่อบนแก้มทั้งสองข้างของฮิซาชิอย่างไม่รู้ตัว
"มิรัน... เธอ..."
"ทำไม... ที่ผ่านมาพวกseiriของเธอไม่เคยทำอย่างนี้ให้เลยหรือไง..!?"
ฮิซาชิไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่แองเจลอยด์ระดับ2ที่น่าจะมีคนที่เธอปลื้มอยู่ก่อนแล้วทำให้กับเขา ที่เขาจำได้คือมิรันนั้นเป็นแองเจลอยด์...เป็นseiriที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างเดียวดายมาตลอดเท่าที่เขารู้จักและเห็นเธอมาเมื่อตอนยังเด็ก และยิ่งกว่านั้นเธอยังเป็นคนที่เป็นห่วงคนอื่นยิ่งกว่าตัวเองอยู่เสมอ สังเกตได้จากที่เธออุตส่าห์ฝืนร่างกายใกล้จะสิ้นลมแล้วออกไปพบกับพวกมิคาสะเป็นครั้งสุดท้าย
แต่ฮิซาชิไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแท้จริงแล้วมิรันนั้นเรียกได้ว่าเป็นseiriที่มีอารมณ์ความรู้สึกเทียบชั้นได้กับมนุษย์ ซึ่งหาได้ยากมากในบรรดาseiriด้วยกัน ต่อให้เป็นseiriรุ่นที่สองซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยผู้นำมาซึ่งความวิบัติยังไม่สามารถแปลอารมณ์ได้ในระดับนี้
ทำไมกัน...ทั้งๆที่seiriเป็นพวกที่น่ารักถึงขนาดนี้...ทำไมถึงต้องสร้างพวกเธอขึ้นมาเพื่อการต่อสู้ด้วย!?
[ในขณะนี้ทางเราได้รับแจ้งจากทางการบินว่ามีสัญญาณขอความช่วยเหลือถูกส่งออกมาตลอดเวลาจากละติจูด39องศาเหนือ ลองจิจูด140องศาตะวันออก ซึ่งในขณะนี้เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยที่เดินทางไปยังจุดที่คาดว่าสัญญาณน่าจะถูกส่งออกมานั้นได้ขาดการติดต่อมาเป็นเวลานับชั่วโมงแล้ว จึงของประกาศให้ทราบว่านี่อาจจะเป็นฝีมือของผู้ไม่ประสงค์ดี....]
เหตุผลที่ว่าทำไมผู้นำมาซึ่งความวิบัติถึงเน้นเป้าหมายโจมตีมายังญี่ปุ่นอันเป็นบ้านเกิดและที่อยู่อาศัยของฮิซาชิและเหล่าseiriแต่เพียงแห่งเดียว หากไม่นับฮารันด้าที่เริ่มโจมตีที่อเมริกาที่กำลังทหารแข็งแกร่งที่สุดก่อนนั้น ตอนแรกๆฮิซาชิก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่ในขณะนี้เขาได้ทราบถึงสาเหตุนั้นเมื่อสักครู่นี้เอง...
จุดมุ่งหมายของผู้นำมาซึ่งความวิบัตินั้นก็คือ... เพื่อกำจัดก้างขวางหลอดคอชิ้นโตที่ขัดระหว่างลำคอของมันอยู่ออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุด
"ฮิซาชิ... นายไปไม่ได้หรอก พลังของนายยังอ่อนแอเกินไป เดี๋ยวฉันจัดการเอง!"
อีกแล้ว..!? ถึงฮิซาชิจะไม่เห็นด้วยที่จะให้มิรันที่เพิ่งจะฟื้นตัวจากขั้นตอนการชดเชยพลังงานที่โอเวอร์ฮีทจากการเปิดโหมดสงครามในร่างของแองเจอลยด์ระดับ2ที่ยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับแรงย้อนกลับของมันได้ แต่เนื่องจากพลังที่เขามีอยู่นั้นก็ไม่ได้มากกว่ามิรันเลย...ซ้ำยังน้อยกว่าเธอในระดับครึ่งหนึ่งด้วย ฮิซาชิจึงทำได้เพียงยอมให้เธอออกไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่อาจจะเป็นศัตรูต่อมวลมนุษย์และเหล่าseiriโดยไม่คิดที่จะห้ามแม้แต่ครั้งเดียว
"ฉันขออะไรเธออย่างนึง... ขอแค่อย่างเดียวเท่านั้นนะ"
กลับกันนั้น... ฮิซาชิกลับจะยิ่งอวยพรให้เธอโชคดีในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย เนื่องจากเวลาที่บีบรัดในการล้างเผ่าพันธุ์seiriที่หดสั้นเข้ามาทุกขณะ และยังไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไหร่อีกด้วย
"อย่าตาย... กลับมานะ!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ