Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
7.2
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.
44 ตอน
5 วิจารณ์
49.89K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) ฝ่ามือที่กำไว้ที่ดวงใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฝ่าเท้าที่กระแทกลงบนพื้นอย่างรุนแรงนั้นได้เร่งปฏิกิริยาการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตที่มีการกำหนดขีดจำกัดของการแบ่งเซลล์เพื่อการก้าวเข้าสู่ระดับเสน่ห์ของผู้หญิงขั้นต่อไปให้ดำเนินไปได้เร็วยิ่งขึ้น เส้นผมสีฟ้าที่กำลังงอกยาวขึ้นมาจากระยะประหลังไปสู่ช่วงสะโพกถูกตัดจนสั้นเท่าแผ่นไหล่ด้วยสันมือที่กำลังเรืองแสงสีฟ้าราวกับมีความคมประดุจกรรไกรที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ส่วนสูงและน้ำหนักตัวที่อยู่ในขีดจำกัดสูงสุดของเหล่าผู้หญิงที่กำลังรักษาทรวดทรงเอวให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายได้เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นค่าเฉลี่ยในระดับที่พอเหมาะพอดีสำหรับดึงดูดผู้ชายให้เข้ามานัวเนียได้อย่างสบาย และหน้าอกหน้าใจเองก็เช่นเดียวกัน...เว้นแต่หากจะมีบางอย่างที่ลดลงในขั้นตอนวิวัฒนาการของเหล่าเซย์รินั้นก็เห็นจะมีเพียง... อาการบาดเจ็บที่ตกค้างอยู่จากการต่อสู้เมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่บั่นทอนพละกำลังและพลังชีวิตจนเหลือต่ำติดขอบกราฟให้สูงขึ้นมาอยู่ในระดับเพดานสูงสุดเท่านั้น"เอาล่ะ... คราวนี้มันจะต่างกันกับแขนของฉันที่เข้าไปอยู่ในท้องของแกแล้วล่ะนะ! ไอ้ตัวน้ำลายยืด!!!"มิรันที่กลับมาอยู่ในร่างที่สมบูรณ์พร้อมจะต่อสู้กับศัตรูด้วยพลังทั้งหมดที่มีอย่างไม่มีหมกเม็ดต่อหน้าขอบตาที่ถูกล้อมด้วยรอยช้ำสีแดงสดของฮิโรมิตั้งท่าต่อสู้พร้อมรับการโจมตีขั้นถัดมาของโซลเนลที่พร้อมจะปล่อยลำแสงเพลิงใส่คู่ต่อสู้ตรงหน้าอย่างไร้ความลังเลเพื่อจับมาเป็นอาหารประทังความหิวชั่วข้ามวันอย่างจดจ่อ แม้ว่าในขณะนี้พลังทำลายของลูกเพลิงเหล่านั้นจะไม่สามารถทำอะไรร่างกายของเธอได้แล้วก็ตาม..."เข้ามาเลย..!! ไอ้ตัวที่ไม่รู้ว่าจะเป็นกิ้งก่าหรือเต่ากันแน่!!!""เอาล่ะ..! เตรียมตัวบอกลาโลกได้เลย อัลเกีย!!" โอ๊ววววว........ในช่วงจังหวะก่อนที่ลูกเพลิงจากช่องท้องของสัตว์ประหลาดเกราะส้มจะถูกปล่อยออกมาทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้น เซย์ริผมน้ำเงินที่ต่อสู้ด้วยความยากลำบากมาเป็นเวลากว่าชั่วโมงภายใต้ท้องฟ้าสีดำสนิทที่รายล้อมไปด้วยแสงดาวได้รวบรวมพลังรูปคลื่นไฟฟ้าสีน้ำเงินเอาไว้ที่กำมือทั้งสองข้างเตรียมสะสมเพื่อใช้เป็นท่าไม้ตายที่มีพลังทำลายล้างสูงโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเป็นรูปลูกบอลแสงบนกำมือที่ประกบกันตรงหน้า ฮานามิและอัลเกียที่สะสมพลังทำลายสูงสุดเสร็จสิ้นพร้อมกันได้ยิงลูกพลังเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงจนเกิดคลื่นสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ"ฉันไม่ยอม...ให้แกได้ทำลายโลกที่ฉันรักหรอกน่า!! แม้ว่าพวกมนุษย์จะไร้ค่าก็เถอะ!!!"แสงสว่างที่ย้อมบรรยากาศยามค่ำคืนให้เต็มไปด้วยแสงสว่างราวกับท้องฟ้ายามบ่ายที่ประดับไปด้วยแสงสีน้ำเงินและสีส้มจากการปะทะกันของท่าไม้ตาย'ริคิเดเตอร์'ของแองเจลอยด์ที่แข็งแกร่งที่สุดกับลูกไฟของสัตว์ประหลาดที่เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด และดูเหมือนว่าการโจมตีของมิรันจะกำลังออกแรงดันมวลรวมพลังนั้นอยู่ด้วยเช่นกัน... "พยายามเข้านะคะ...พี่สาวเซย์ริ!!""แล้วอีกอย่างนะ... ฉันน่ะไม่อยากจะให้ความตั้งใจแต่เดิมของอัทสึชิคุง...ต้องสูญเปล่าเหมือนกัน!!!"เสียงตะโกนประกาศความปรารถนาที่จะยืนหยัดต่อสู้ของเซย์ริที่มีความตั้งใจที่จะทำลายล้างมนุษย์ที่ประสานเข้ากันกับเสียงร้องให้กำลังใจของเด็กสาวที่มีเธอเป็นเครื่องจุดประกายความหวังภายในใจได้กระตุ้นพลังใจของฮานามิจนสามารถดันมวลรวมพลังเข้าปะทะกับร่างของอัลเกียได้เป็นผลสำเร็จ และในจังหวะนั้นเองที่ร่างกายของอัลเกียได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากพลังทำลายที่เล่นงานไปจนถึงเนื่อเยื่อภายในจนไม่สามารถขยับไปไหนได้และในจังหวะนั้นเองที่ลำแขนทั้งสองข้างของเซย์ริที่หันหลังให้กับมนุษย์ได้ถูกยกขึ้นมาในท่าประสานเป็นเครื่องหมายกากบาทเป็นการปิดฉากการรุกรานของเหล่าสัตว์ประหลาดที่มีชีวิตอยู่ใต้พื้นโลกมาเป็นระยะเวลานาน... "พลาสม่าแสลชเชอร์..!!" ในขณะที่ฮานามิกำลังรวบรวมพลังใช้ท่าไม้ตายสูงสุดอยู่นั้น ทางด้านมิรันเองก็กำลังกางแขนออกเพื่อรวบรวมพลังไม้ตายขั้นสูงสุดเช่นเดียวกัน... และด้วยท่วงท่าที่ต่างกันนี้เองที่ทำให้แองเจลอยด์สองคนนี้ดูต่างกันโดยสิ้นเชิง และแม้ว่า...ภายในจิตใจของมิรันในตอนนี้จะมีคำพูดของฮิซาชิที่เคยพูดเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้ปรากฏขึ้นมาขัดขวางการรวบรวมพลังสร้างแส้ลำแสงขึ้นที่ลำแขนทั้งสองข้างก็ตามที 'เธอคิดดีแล้วงั้นเหรอ... เซย์ริน่ะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการต่อสู้อีกแล้วงั้นเหรอ!?' 'ก็มันช่วยไม่ได้ไม่ใช่เหรอ!? ก็พวกเราน่ะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องมนุษย์จากการทำลายล้างที่ไม่อาจคาดเดาได้ เพราะอย่างนั้นพวกเราก็เลยต้องเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ตั้งแต่ที่เกิดขึ้นมาเลย...' 'ก็นั่นน่ะสินะ ในเมื่อนั่นมันเป็นชะตากรรมของพวกเธอเอง...ฉันก็คงจะเข้าไปสอดไม่ได้แล้วล่ะนะ แต่ว่านะมิรัน...'ขั้นตอนการรวบรวมพลังของมิรันที่กำลังดำเนินไปได้อย่างสะดวกนั้นได้ถูกหยุดเอาไว้อย่างไม่สบอารมณ์จากห้วงความคิดที่ฉุดรั้งการกระทำของเธอเอาไว้เพื่อใช้เวลาในการตอบคำถามที่ถูกตั้งเอาไว้เมื่อนานมาแล้วให้ได้ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แต่ในขณะนั้นสัตว์ประหลาดที่กำลังจะถูกฆ่าในชั่วพริบตานั้นก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาแองเจลอยด์ที่หยุดมือลงเพื่อชำระแค้นที่สั่งสมเอาไว้เมื่อครู่นี้ให้หมดไป"มิรัน...ถ้าเธอเลือกได้ระหว่างจะเกิดเป็นเซย์ริที่แข็งแกร่งหรือมนุษย์ที่บอบบาง เธอน่ะ...จะเลือกเกิดเป็นอะไรอย่างนั้นเหรอ!?""ฉันน่ะเหรอ... ถ้าเลือกได้ฉันก็จะเกิดมาเป็นเซย์รินี่แหละ! เพราะสิ่งที่ทำให้ฉันได้พบกับนายก็เป็นเพราะเรื่องนี้นั่นแหละ!!""ถ้าอย่างนั้นฉันจะเปลี่ยนคำถามนะ ระหว่างการต่อสู้...เธอจะเลือกปล่อยคู่ต่อสู้ที่ไร้ความผิดไปโดยที่ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาเล่นงานเธออีกหรือเปล่า กับ จัดการคู่ต่อสู้คนนั้นให้หายไปจากโลกนี้เพื่อตัดปัญหาคาใจในส่วนนั้น เธอจะเลือกเดินทางไหนงั้นเหรอ!?" มิรันเริ่มลังเลใจกับคำตอบที่เหมือนกับเคยถูกตั้งประเด็นมาแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ไม่นาน ที่ผ่านมาแองเจลอยด์อย่างเธอได้ถูกสอนมาเพื่อให้ไม่มีความคิดวอกแวกที่จะนึกถึงเหตุการณ์อื่นๆที่จะมาเป็นตัวรบกวนสมาธิในการต่อสู้มาเป็นอย่างดี แต่ในขณะนี้...นับตั้งแต่ที่เธอได้พบกับฮิซาชิเป็นต้นมา ทุกสิ่งที่ได้เรียนรู้มาก็ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นและแล้วในตอนนั้นเองที่มิรันรวบรวมพลังแสงขึ้นมาที่ลำแขนอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะกำจัดศัตรูที่อยู่ตรงหน้าโดยเร็วที่สุด...เพื่อที่จะพาตัวฮิโรมิที่ได้รับบาดเจ็บหนักไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามจุดมุ่งหมายที่สลับตำแหน่งระหว่างมิรันกับเธอเสียเอง "ฉันจะเลือกเดินทางไหน...มันไปเกี่ยวอะไรกับนายด้วยล่ะ! ฮิซาชิ..." "หายไปซะแก!!!"ในที่สุดท่าไม้ตายสูงสุดของฮานามิก็ถูกปล่อยออกมาจู่โจมร่างของอัลเกียอย่างรุนแรงจนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง และในเวลาเดียวกันนั้นเองที่ร่างของสัตว์ประหลาดก็ระเหยหายไปกับการระเบิดครั้งนั้นด้วยเช่นกัน พร้อมกันกับที่ฮานามิสยายปีกสีขาวที่แผ่นหลังของเธอออกกว้างเพื่อออกเดินทางไปรักษาบาดแผลเพื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่กำลังจะถูกส่งตรงเข้ามาหาตัวเธอเองในเวลาอีกไม่นานนับจากนี้"ฉันเลือกแล้วว่าจะทำลายพวกมนุษย์ให้สิ้นด้วยตัวของฉันเอง...แต่ก่อนหน้านั้น พวกเราลองมาสู้กันดูหน่อยไหมว่าเส้นทางของใครจะถูกต้องกันแน่..!?""ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า!! แต่ว่าฉันน่ะ...ไม่มีวันเลือกที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์อยู่แล้ว!! นายก็น่าจะรู้ดีนี่นา!!!"ชั่วพริบตาก่อนที่การโจมตีสุดท้ายของมิรันจะถูกปล่อยออกมา ลำแสงที่รวบรวมพลังทำลายมหาศาลของเธอก็ได้แปรสภาพไปเป็นละอองแสงที่มีความเข้มข้นสูงจู่โจมเข้าสู่ร่างของโซลเนลอย่างรวดเร็ว แต่แล้วสิ่งที่ได้กลับมานั้นก็คือ... โฮก..................กกกกบาดแผลที่ร่างกายของสัตว์ประหลาดนั้นหายสนิทราวกับไม่เคยมีการต่อสู้ใดๆเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ในจังหวะเดียวกันนั้นร่างของโซลเนลก็เอนเอียงเล็กน้อยราวกับว่ากำลังงุนงงกับการกระทำของคู่ต่อสู้ที่พยายามจะเอาชีวิตของมันจนถึงเมื่อสักครู่นี้ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังทางที่ตัวเองมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยที่ยังดูโหดๆอยู่ดี พร้อมกับแววตาที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้แม้แต่น้อยทั้งของมิรันและฮิโรมิ"เมื่อกี้เธอทำอะไรกันแน่... ทำไมถึงได้ปล่อยโซลเนลไปล่ะ!?""ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไม...แต่ถ้าเป็นฮิซาชิ ฉันก็คิดว่าหมอนั่นคงจะเลือกที่จะทำแบบนั้นเหมือนกัน!"สายตาที่เฝ้ามองโซลเนลกำลังขุดหลุมลงไปใต้ดินเพื่อเข้าสู่การนอนหลับอย่างสบายอารมณ์อีกครั้งหนึ่งของมิรันนั้นราวกับกำลังมองดูเด็กน้อยที่สามารถระงับอารมณ์โกรธเกรี้ยวของตัวเองลงได้กำลังทำความเข้าใจกับคู่อริของตัวเองอย่างอ่อนโยน แต่ภายใต้แววตาที่ดูสงบเสงี่ยมนั้นกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนกับกำลังจะปะทุออกมาอย่างรุนแรง"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าวิวัฒนาการระดับที่สามของฉันจะต่อสู้กับเธอได้อย่างทัดเทียมสักแค่ไหน... แต่ฉันไม่มีวันยอมให้เธอได้ทำตามใจชอบแน่ ฮานามิ!!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ