Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
24) เมล็ดพันธุ์ของอะไรสักอย่าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแกร่ก..แกร่ก..แกร่ก..แกร่ก..แกร่ก!! (120 bpm)
เสียงปุ่มกดมหัศจรรย์สีขาวที่ถูกกดซ้ำไปซ้ำมาจนเกิดเป็นเสียงอันแสนไพเราะเสนาะหูสะท้อนก้องเข้าไปในลำหูนั้นได้รังสรรค์ลำแสงสีฟ้าแกมเขียวถูกส่งเข้าไปตามท่ออะไรบางอย่างที่ต่อเข้ากับแป้นพิมพ์โยงไปยังกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวขนาดยักษ์ที่ถูกฉาบพื้นที่ด้านในไปด้วยสีขาวสว่างที่ถูกกลืนกินด้วยแสงสว่างสีเทาจะหม่นลงไปเพื่อให้เป็นการปกป้องของที่อยู่ข้างในเอาไว้จากแสงสว่างที่มากเกินพอดีจนเกิดการชำรุดได้ ซึ่งก็มีสายสีแดงโยงออกมาจากเครื่องประมวลผลขั้นสูงซึ่งภายในบรรจุข้อมูลมหาศาลเอาไว้ซึ่งแยกออกจากกันเป็นกลุ่มอย่างละเอียด
ซึ่งข้อมูลที่ถูกบรรจุอยู่ภายในนั้นกว่าครึ่งซึ่งไม่ได้ถูกติดตั้งระบบป้องกันใดๆทั้งสิ้นราวกับคลิปวิดีโอซึ่งสามารถเปิดดูได้ไม่ว่าจะเป็นใครนั้นเป็นบันทึกการต่อสู้และภาพการวิวัฒนาการของseiriทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดๆก็ตาม
และมีแฟ้มข้อมูลบางประเภทที่ถูกลงโปรแกรมปกป้องเอาไว้เป็นม่านบางๆเป็นรายชื่อและข้อมูลประวัติของเหล่าseiriทั้งสามสายพันธุ์ซึ่งถูกเขียนเอาไว้อย่างละเอียดตั้งแต่เวลาเกิดและชีวิตประจำวันของพวกเธอแม้แต่การเคี้ยวข้าว ซึ่งในบัญชีนั้นได้ระบุเอาไว้อย่างละเอียดถึงที่อยู่ของพวกเธอแต่ละคนในขณะนี้...รวมทั้งสถานะทางสังคมของพวกเธอด้วย!!
ซึ่งในจำนวนนั้นประมาณ20จากseiriทั้งหมด74คนที่ถือกำเนิดขึ้นมานั้นได้ขึ้นบัญชีว่าถูกสังหารไปแล้ว... และยังมีseiriอีก5คนที่ถูกตั้งสถานะหายสาปสูญไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ!!!
จากแป้นพิมพ์สีขาวซึ่งถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยศตวรรษที่21ประมาณเกือบสองร้อยปีที่แล้วนั้น นอกจากสายที่เชื่อมต่อกับเครื่องประมวลผลหลักที่สามารถบรรจุข้อมูลกว่าล้านล้านกิกะไบต์ลงไปได้แล้วนั้น... ยังมีสายข้อมูลอีกสายหนึ่งซึ่งเรืองแสงสีฟ้าแกมเขียวโยงออกไปยังอีกด้านหนึ่งของกำแพงซึ่งถูกปิดกั้นด้วยกระจกกันกระสุนซึ่งมีการติดตั้งระบบป้องกันขั้นสูง 'AEGIS' เอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่อยู่ข้างในเสียหายจากสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นภายนอก
และภายในฐานข้อมูลขนาดยักษ์นั้นยังมีข้อมูลที่ถูกลงรหัสป้องกันระดับที่หนาและแน่นสุดยอดจนผู้ที่คิดจะขโมยมันคงเลิกล้มความตั้งใจตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มแล้วเสียด้วยซ้ำ!! ข้อมูลพันธุกรรมและความสามารถพิเศษของseiriทั้งหมดเท่าที่จะถูกสร้างขึ้นมา!!!
[คุณได้รับข้อความใหม่..!]
'เธอยังสบายดีอยู่สินะ ฮานามิ... ตอนนี้พวกเราสบายดี เพียงแต่ยัยมิรันยังคลั่งอยู่เหมือนเดิมตั้งแต่ที่เธอมาเล่นเกมตอนนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็มาเที่ยวบ้านฉันอีกก็ดีนะ...เพราะยังไงเธอก็รู้ที่อยู่ของพวกเราแล้ว แล้วฉันจะรอเธอนะ...'
"ฮิซาชิ, ฮิโรมิ, ไปตายซะยัยบ้า!!!"
สาวน้อยผมดำประกายน้ำเงินอมยิ้มนิดหน่อยหลังจากที่อ่านข้อความนี้จบ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีมนุษย์คนไหนที่จะใส่ใสจะชื่อของseiriที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องพวกตัวเองอย่างเธอจนส่งข้อความมาหาจากอีเมลล์ที่เธอให้ไปทุกๆวันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไม่ขาดสาย...
แต่ในตอนนี้ฮานามิได้เริ่มรู้สึกประหลาดใจอยู่สิ่งหนึ่ง... นับจากการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดครั้งสุดท้ายที่ทำให้เธอได้พบกับพวกฮิซาชินั้นก็ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ทำไมพวกผู้นำมาซึ่งความวิบัติจึงไม่ส่งสัตว์ประหลาดตัวใหม่ลงมากวาดล้างพวกมนุษย์ตามที่มันเคยทำมาตลอดเลยสักตัว
ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขหรอกนะ... แต่แบบนี้มันสงบสุขเกินไป หรือว่าพวกมันจะ!!
[คุณได้รับข้อความใหม่]
แถบข้อความเตือนจดหมายได้ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจออีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ฮานามิอมยิ้มออกมาอีกครั้งหนึ่ง เธออยากจะรู้เหลือเกินว่าคราวนี้ฮิซาชิจะส่งข้อความหรือรูปภาพอะไรมาให้เธออีก หากแต่รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นเมื่อสักครู่นี้ของสาวน้อยก็ต้องหุบลงทันทีเมื่อเธอสังเกตเห็นจุดที่แตกต่างตรงแอดเดรสที่ส่งจดหมายนี้มา...
แถบแอดเดรสที่แนบมากับจดหมายในครั้งนี้นั้นไม่ได้มาจากมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของใครสักคนในกลุ่มฮิซาชิเลย
"CRYSIS...งั้นเหรอ!?"
seiriผู้แปลกแยกเริ่มรู้สึกกังวลมากกับข้อความที่ถูกส่งเข้ามาเป็นลำดับถัดจากของฮิซาชิ อันที่จริงแล้วชื่อของผู้ส่งนั้นไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกลที่ฮานามิไม่รู้จักเลย หากแต่เป็นสายข้อมูลขนาดใหญ่ที่ส่งออกมาจากเครื่องจักรขนาดยักษ์ที่อยู่ข้างในห้องที่ปิดกั้นจากกระจกเคลือบม่านเอจิสที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่แม้แต่ท่าไม้ตายของฮานามิจะทำลายลงได้
เจ้าเครื่องเร่งอนุภาคฟิสิกส์ "ไครซิส" ที่มิรันเคยพูดถึงนั่นแหละ!!
"หืมม์... ไหนลองดูซิว่าแกจะส่งอะไรมาให้ฉันอ่าน ขอแบบที่มันทำให้ฉันประทับใจได้ยิ่งกว่าข้อความของฮิซาชิก็แล้วกัน!"
ฮานามิเริ่มตีสีหน้านิ่งทำน้ำเสียงจริงจังในขณะที่เลื่อนนิ้วขึ้นไปกดที่รูปซองจดหมายปิดผนึกที่ปรากฏขึ้นมาแทรกระหว่างที่เธอกำลังตรวจสอบสถานะทางสังคมของพวกseiriเพื่อไม่ให้พวกเธอเหล่านั้นทำอะไรนอกลู่นอกทางบนหน้าจอมอนิเตอร์แบบที่ใช้อากาศแทนหน้าจอแก้วในการแสดงผลจากเครื่องประมวลผลหลัก
แต่ในครั้งนี้ฮานามิกลับรู้สึกเครียดอย่างไม่ทราบสาเหตุทุกๆเซนติเมตรที่นิ้วของเธอกำลังจะตัดผ่านเลเซอร์ที่สามารถรับรู้การสัมผัสเพื่อกระบวนการประมวลผลต่อไปได้... ซึ่งในทันทีที่ฮานามิอ่านข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้บนพื้นหลังแผ่นหินสลักที่เครื่องเร่งอนุภาคควอนตัมนั้นส่งมาให้ ลำไส้ของเธอก็รู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก
"อย่างนี้...เองสินะ!"
ณ สถานที่อยู่อาศัยที่ถูกจัดหาเอาไว้ให้เหล่านางฟ้าที่มีมนุษย์คนหนึ่งเข้ามาอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราวซึ่งจะถูกถ่ายโอนกรรมสิทธิ์เจ้าของให้กับเด็กชายที่ไม่รู้ที่มาที่ไปในอนาคตนับจากนี้ไปเพียงไม่กี่ปี ฮิซาชิซึ่งสามารถผูกความสัมพันธ์กับเหล่าseiriที่ไม่ค่อยจะมีมนุษย์คนไหนอยากที่จะเข้าใกล้ด้วยกำลังเครียดอยู่ว่าควรจะส่งข้อความอะไรไปหาเพื่อนใหม่ของเขาดี
แม้ว่าเขาจะรู้นิสัยของฮานามิดี... แต่ว่าฮานามิในตอนนี้เรียกได้ว่าแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยนอกจากฮิซาชิเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับพวกลิ่วล้อของผู้นำมาซึ่งความวิบัติได้เท่านั้น เพราะเช่นนั้นการที่จะสร้างความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนกับเธออีกครั้งหนึ่งนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากมากหากเทียบกับเมื่อครั้งก่อน
"ชิ! ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เราเจอยัยฮานามิเป็นครั้งแรกมันก็ง่ายอยู่หรอก... แต่ตอนนี้ยัยนั่นเป็นseiriเลยไม่รู้จะส่งอะไรไปดีน่ะสิ! ถ้าเราส่งอะไรชุ่ยๆไปละก็..."
ปิ๊บ..!
[กำลังส่งข้อความ... กรุณารอสักครู่]
"เอ๋... นี่นิ้วใครล่ะเนี่ย"
ฮิซาชิแปลกใจกับเรียวนิ้วที่เพิ่มขึ้นมาจากที่เขากำลังจรดลงบนโทรศัพท์ของเขาอย่างมาก ซึ่งเธอคนนั้นก็กำลังส่งยิ้มให้เขาอยู่ข้างๆตัวเขานั่นเอง...
"นายส่งอะไรไปให้ฮานามิเหรอ... ฮิซาชิคุง"
"ยัยเนื้อ!!!"
"กระซิก กระซิก... ทำไมต้องรุนแรงกับฉันด้วยล่ะ ฉันก็แค่เห็นนายเอาแต่เลื่อนนิ้วสลับไปมาระหว่างปุ่มตัวเลขกับปุ่มสีแดงก็เลยช่วยนายตัดสินใจเท่านั้นเอง..."
"แล้วเธอคิดว่าเมื่อกี้ฉันพิมพ์อะไรลงไปบ้างล่ะ!! ฉันก็แค่คิดว่าจะชวนยัยฮานามิมาเที่ยวบ้านคืนนี้...แต่จะให้ผู้หญิงมาบ้านที่มีผู้ชายอยู่มันก็ใช่ที่ ฉันเลยจะถามต่อว่าจะให้ฉันไปรับหรือเปล่าเท่านั้น!!"
"แล้วที่ฉันทำไปเมื่อกี้มันผิดตรงไหนเหรอ..."
สาวน้อยผมแดงเอามือกุมศีรษะที่ถูกเด็กชายเอากำปั้นทุบใส่อย่างเต็มแรงจนปูดออกมาพร้อมกับถามถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องถูกลงโทษเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งฮิซาชิก็มีคำตอบเตรียมเอาไว้ให้พร้อมอยู่แล้ว...
"โดนแค่นี้มันยังน้อยไปซะด้วยซ้ำ!! ก็เมื่อกี้ฉันเพิ่งพิมพ์ไปได้แค่ว่า จะให้ฉัน..."
"จะให้ฉันเอา เธอหรือเปล่า!? นี่น่ะเหรอวิธีส่งข้อความหาผู้หญิง..."
ในระหว่างที่ฮิซาชิกำลังอธิบายในสิ่งที่ฮิโรมิทำพลาดไปเมื่อสักครู่นั้นเอง กลับมีเสียงใสๆของผู้หญิงอีกคนหึ่งดังขึ้นมาแทรกจนเด็กชายไปต่อไม่ถูก เพราะเธอคนนั้นก็คือคนที่รับข้อความที่ถูกส่งออกไปอย่างไม่ครบถ้วนเมื่อสักครู่นี้นั่นเอง...
"ฮา...ฮานามิ!!"
ในขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดรอบด้านนั้นเอง มิรันที่สงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคนนั้นจนฮานามิต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็เข้าร่วมวงสนทนาในทันที ก่อนจะใช้ความไวฉกโทรศัพท์ของฮิซาชิมาเปิดข้อความในถาดออกแล้วอ่านด้วยเสียงดังฟังชัด หลักฐานคาตาขนาดนั้นฮิซาชิคงรอดยากแน่ๆ
"จริงด้วย! 'คืนนี้ฉันว่าจะชวนเธอมาที่บ้านสักหน่อย ว่าแต่...เธอจะจะให้ฉันเอา เธอหรือเปล่า!?' ไอ้บัดซบ!!"
"คราวนี้...มีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม!? เจ้าหนู" (ฮานามิ)
"ถ้าข้อแก้ตัวของนายฟังไม่ขึ้นละก็... ฉันรับประกันเลยว่าเจ้านั่นของนายจะได้รับความคุ้มครองอย่างดีในท้องของสัตว์ประหลาดที่จะโผล่ออกมาครั้งหน้าจริงๆแน่ อยากลองไปเป็นฮิซาชิบอลในท้องสัตว์ประหลาดดูไหม!" (มิรัน)
"มีอะไรจะแก้ตัวไหม... รีบๆพูดออกมาซะ" (ก็แค่ไอ้บ้าคนหนึ่ง...)
ตายโหง!! ถ้าขืนเราพูดอะไรออกไปแบบไม่คิดละก็โดนยัยพวกนี้ฆ่าแน่!! ต้องรีบหาข้อแก้ตัวที่มันดีกว่า 'ฉันก็แค่จะชวนเธอมาเที่ยวบ้าน แต่ดันพิมพ์ตกไปตัวหนึ่ง(หรือหลายๆตัว)แล้วยัยฮิโรมิก็ดันมากดส่งข้อความไปก่อนเท่านั้นเอง' ที่เพิ่งจะพูดออกไปเมื่อกี้แล้วโดนยัยฮานามิตัดบทว่า'ลูกสาวของฉันไม่ทำอะไรแย่ๆแบบนั้นหรอก'ให้ได้ ไม่งั้น...ตายหยังเขียด!
"เอ้า! ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็รีบๆหายไปได้แล้ว... รำคาญ!!"
ว่าแล้วseiriทั้งสามก็งัดท่าไม้ตายที่รุนแรงที่สุดเตรียมล้อมวงจัดการเด็กชายที่นั่งนิ่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมที่ไม่มีทางหนีซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาลราวกับจะให้เขาหายไปจริงๆ ซึ่งพลังรวมของทั้งสามคนนั้น...ฮิซาชิในตอนนี้ไม่มีทางต้านรับเอาไว้ได้แน่ๆ
*เคล็ดลับในการจีบseiri : อย่าไปยั่วประสาทพวกเธอเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าในเร็วพลัน
"น่ารักจริงๆนะ... เธอน่ะ"
เสียงเด็กชายดังขึ้นมาท่ามกลางประกายแสงเจิดจรัสที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ทุกเมื่อนั้นได้ทำให้แสงสว่างทั้งหมดเลือนหายไปในพริบตา ซึ่งคนที่เด็กชายคนนั้นพูดถึงก็ไม่ใช่ใครอื่นเลย...
"เธอโตมาน่ารักนะ... ฉันล่ะเสียดายจริงๆที่ไม่ใช่'อัทสึชิ'อะไรนั่นของเธอที่จะได้มีโอกาสเห็นเธอกลายมาเป็นสาวน้อยน่ารักสุดยอดแบบนี้ ว่าแต่ที่ผ่านมาหมอนั่นเคยทักเธอเรื่องนี้หรือเปล่า!? ฮานามิ..."
"นาย...กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันแน่ ฉันไม่เห็นจะ-"
ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวสามารถทำให้แองเจลอยด์ที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อได้ยินเข้าไปแล้วถึงกับเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกที่ประหลาดมากก่อนจะบินออกไปทางหน้าต่างที่เปิดอ้าเอาไว้เมื่อขามา ทิ้งเอาไว้เพียงความเวียบที่ปกคลุมบ้านหลังนั้นเอาไว้อย่างเหนียวแน่น...
ซึ่ง"อัทสึชิ"ที่ฮิซาชิพูดถึงนั้นไม่ได้พูดออกมาลอยๆเลย... หากแต่เป็นชื่อของตัวเอกในอีเว้นท์ที่เป็นโบนัสในการเคลียร์เกม"เทคเค่น 124"ซึ่งจะสุ่มเอาชื่อของคนที่อยู่ในความทรงจำของผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในการต่อสู้กับอาซาเซลมาตลอดออกมาให้ตัวเองได้รับรู้ หรือถ้าพูดให้ถูกก็คือเป็น"เกมสำรวจใจ"นั่นแหละ...
"แก่แดดจริงนะ เจ้าหนู...ฮิซาชิ!"
ในขณะนี้ปัญหาใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวพันกับชีวิตของฮิซาชิก็ได้หายไปแล้ว หากแต่ยังมีปัญหายิบย่อยอีกสอง...
"รู้ตัวใช่ไหมว่าพูดอะไรออกมา... มานี่! มารับมอบซะดีๆ!!"
อ๊ากกกกกกก...............
ในระหว่างที่ฮานามิกำลังบินกลับไปอ่านข้อความซึ่งถูกขัดจังหวะโดยข้อความบ้าๆบอๆของฮิซาชิให้รู้เรื่องนั้น ในใจของเธอก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่ปรากฏขึ้นในจิตใจของเธอ เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่ปรากฏขึ้นมาในหน้าอกของเธอจนร่วงลงไปกระแทกกับพื้นจนกวาดเอาทุกอย่างที่ขวางหน้าพังทลายลงไปด้วย
ในตอนนั้นเองที่ดวงตาทั้งสองข้างของเธอมีน้ำไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง...
"ทำไมกันล่ะ...ทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไมนายถึงไม่ยอมให้อภัยพวกมนุษย์สักที ทำไมนายถึงต้องสร้างสัตว์ประหลาดพวกนั้นขึ้นมาทำร้ายลูกสาวของพวกเราด้วย!?"
"อัทสึชิคุง..!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ