Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ห้วงเวลาที่หวนคืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ก็ผมกำลังถามคุณอยู่นี่ไง!! มันเกิดอะไรขึ้นกับเมืองนี้กันแน่!!!"
ฮิซาชิฟื้นตัวเต็มที่หลังจากที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงนุ่มๆในห้องที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นยามาราวหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ทันทีที่ฟื้นมาเขาก็พยายามเค้นถามถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นข้างนอกห้องสี่เหลี่ยมนั้นราวกับเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน...
ข้างนอกหน้าต่างห้องนั้นคือสถานที่แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น โดยสังเกตได้จากตัวอักษรที่เขียนเป็นป้ายโฆษณากับป้ายชื่อร้านค้ากับบริษัท แต่ที่ประหลาดมากก็คือ... ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเข้าทำลายของกองกำลังปิศาจนั้นได้หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น และที่หน้าจอโทรทัศน์ที่กำลังออกอากาศโฆษณาท่องเที่ยวต่างประเทศก็ดูเรียบร้อยดีเหมือนไม่ใช่การโปรโมทหารายได้ฟื้นฟูประเทศของตนเลย
"สรุปแล้วคือเธอกำลังจะบอกว่ามีปิศาจกับลูกน้องอีกร้อยกว่าตัวไล่ฆ่าผู้คนในเมืองจนตายเกลี้ยง แล้วทุกประเทศทั่วโลกก็กำลังเจอสถานการณ์เดียวกัน... งั้นใช่ไหม!?"
ผู้ชายในเสื้อกาวน์คนหนึ่งสอบถามความเป็นไปของเขาพร้อมกับจดลงในใบบันทึกผลราวกับจะส่งต่อให้แผนกจิตเวชทำการรักษาต่อ...ซึ่งมันก็น่าอยู่หรอกนะ!
"แล้วเธอก็บินเข้าไปในหลุมดำบนท้องฟ้าเพื่อจะตามไปฆ่าหัวหน้าใหญ่ของพวกผู้ร้าย... แล้วอยู่ๆเธอก็ไปโผล่ในตรอกที่เต็มไปด้วยขยะเหม็นๆนั่น ทั้งตัวมีแผลถูกทำร้ายรุนแรงได้ยังไง... ลองบอกหมอหน่อยซิ!"
ฮิซาชิเล่าเหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างเขากับฮารันด้าและนูเรตัสจนหมด เขายังเล่าเรื่องที่เขาเข้าไปในหลุมอากาศที่เปิดออกเมื่อนูเรตัสตายไปแล้วอีกด้วย แต่ดูเหมือนว่านายแพทย์คนนั้นจะไม่เชื่อเรื่องที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังอมยิ้มกระแอ้มหัวเราะอีกด้วย
"เอาล่ะๆ..! เท่าที่หมอได้ฟังที่เธอเล่ามาทั้งหมดแล้วนะ... หมอว่าเธอคงจะถูกผู้ปกครองของเธอทารุณกรรมอย่างหนัก แล้วเธอก็จินตนาการถึงเกมที่เธอเคยเล่นเอามาเล่าให้หมอฟังซะมากกว่านะ แต่ไม่เป็นไรแล้วล่ะ! อยู่ที่นี่หมอจะไม่ให้มีใครมาทำร้ายเธอได้แน่นอน... หมอสัญญาเลยเอ้า!"
ไม่... ไม่ได้เข้าใจสักนิด!! ไอ้หมอคนนี้กำลังเล่นมุขตลกอะไรอยู่กันแน่... ทั้งเหตุการณ์ข้างนอกนั่นอีก! ทำไมเรื่องมันถึงได้สงบลงเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ!!
แล้วในตอนนั้นเอง... ฮิซาชิก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่เหมือนจะเป็นมุขตลกทางบ้านที่หมอคนนี้เอาไว้ใช้คลายเครียดให้กับคนไข้ ซึ่งหากมันเป็นจริง...หมอคนนี้ได้ถูกสั่งพักงานยาวแน่ๆ
"ใบบันทึกอาการผู้ป่วย วันที่2 มกราคม 2170..."
บ้าไปแล้ว!!! ถึงจะเล่นมุขตลกอะไรก็ให้มันมีขอบเขตกันบ้าง..!! นี่หมอคนนี้สะเพร่าขนาดเอาใบบันทึกอาการผู้ป่วยของ "เมื่อ27ปีก่อน" มาบันทึกอาการของเราเลยเหรอ กะเจ้าหมอคนนี้คิดจะทำให้เรากลายเป็นคุณลุงอายุ50ให้ได้เลยใช่ไหม!!
"เอ่อ..! คุณหมอครับ ไม่ทราบว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่เหรอครับ..."
หลังจากที่ได้ฟังคำถามของผู้ป่วยคนนี้ คุณหมอที่กำลังสังเกตอาการของผู้ป่วยในเคสของเขาอยู่ก็ทำหน้าเหวอราวกับกำลังพุดคุยอญุ่กับคนป่าเข้ากรุงที่ไม่รู้จักคำว่า "เวลา" อย่างนั้นแหละ!!
"นี่เธอถูกผู้ปกครองของเธอทำร้ายจนหลงวันลืมเวลาเลยเหรอ..."
"วันนี้คือวันที่ 2 มกราฯ 2170 พ่อหนูน้อย..."
อีกแล้ว!? ทำไมมีแต่คนมาเรียกเราว่า"ไอ้หนู"ตลอดเลยฟะ! อันตัวกระผมนี้โตเป็นนักศึกษาปีสี่แล้วนะครับ... ไม่ใช่เด็ก5ขวบที่จะถูกพวกผู้ใหญ่เรียกว่าไอ้หนูอีกต่อไปแล้วนะเฟ้ย!
"คุณหมอกำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่น่ะครับ..! ผมไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆนะ! ผมอายุล่อเข้าไปตั้ง22แล้วนะครับ!!"
ถึงแม้ว่าฮิซาชิจะพยายามบอกถึงอายุที่แท้จริงของเขาให้เจ้านายแพทย์รูปร่างท้วมท่าทางพึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้ให้ได้เข้าใจ แต่สายตาของหมอคนนั้นเหมือนกำลังมองฮิซาชิราวกับเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่ดี เขาจึงลุกขึ้นจากเตียงไปยังห้องน้ำเพื่อทำธุระที่อั้นไว้กว่าอาทิตย์...ซึ่งระหว่างนั้นเขาก็สังเกตว่าระยะห่างระหว่างเตียงกับพื้นกระเบื้องสีขาวนั้นมันช่างห่างไกลเหลือเกิน
และในขณะที่ฮิซาชิกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ เขาก็รู้สึกปากชักโครกอยู่สูงกว่าเดิมมากจนเขาต้องเอาเก้าอี้ที่อยู่ในห้องน้ำมาใช้เพิ่มส่วนสูง และเมื่อเขาก้มลงมองเจ้าไส้กรอกเวียนนาที่หว่างขาของเขา เขาก็รู้สึกว่าขนาดของมันเล็กลงกว่าเดิมมาก และกล้ามเนื้อที่แขนของเขาก็ดูเล็กลงมากด้วย และสิ่งเดียวที่จะตอบคำถามเรื่องนี้ได้ก็คือ...
กระจกเงา!!!
เมื่อคิดดังนั้นฮิซาชิก็เดินไปหน้ากระจกที่ติดอยู่กับอ่างล้างหน้า และเมื่อเขาไปถึงก็กระโดดยันขอบอ่างเพื่อส่องกระจกที่อยู่สูงเกินกว่าที่เขาจะส่องให้เห็นทั้งตัวได้ แต่ทันทีที่ฮิซาชิมองตัวเองผ่านกระจกเงานั้น... เขาก็ต้องร้องเสียงหลงจนหมอที่ยังอยู่ในห้องนั้นต้องรีบมาดูสาเหตุที่ทำให้เขาต้องร้องออกมา
"มันเกิดอะไรขึ้น...กับร่างกายของเรา...กันแน่!?"
สายตาอันพิศมัยในสิ่งแปลกประหลาดของฮิซาชินั้นจดจ้องไปยังกระจกที่สะท้อนรูปร่างของเขาบนฝาผนังจนแทบจะทำให้เจ้าตัวลืมหายใจไปชั้วขณะ ร่างกายของฮิซาชิที่มองผ่านกระจกเงานั้นแตกต่างจากตัวเขาที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง ร่างกายของเขานั้นตัวเล็กราวกับย้อนเวลากลับไปเป็นเด็ก5ขวบ และรอยแผลเป็นที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ก็หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น และที่แย่ไปกว่านั้น...
"นี่เราฝันไปแน่ๆ... ต้องเป็นความฝันแน่ๆ!!"
ระหว่างที่ฮิซาชิกำลังตะลึงกับภาพที่สะท้อนบนกระจกเงาอยู่นั้นเอง แขนของเขาก็เริ่มอ่อนแรงเหมือนกับเด็ก5ขวบจริงๆไม่มีผิด ฮิซาชิจึงตกลงมาจากขอบอ่างหน้าหน้าหัวกระแทกพื้นอย่างจัง!!
สิ่งที่แย่จริงๆก็คือ... "เจ็บจังว้อย..!"
ความรู้สึกเจ็บเมื่อครู่นี้เป็นของจริง..! เขาไม่ได้ฝันไปแน่ๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องวันที่ในใบบันทึกนั่นก็อาจจะ...
"เดี๋ยวก่อนเจ้าหนู!!!"
ฮิซาชิรีบวิ่งออกจากห้องผู้ป่วยไปยังห้องโถงของโรงพยาบาลปห่งนั้นอย่างรวดเร็ว เขาพยายามกดลิฟท์รัวๆเพื่อหวังให้เจ้าตู้สี่เหลี่ยมที่ใช้แทนบันไดนั้นเคลื่อนมาหาเขาเร็วขึ้น ซึ่งมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้...
"หยุดก่อน..!! รอหมอด้วยเจ้าหนู!!"
ฮิซาชิเห็นนายแพทย์คนนั้นกำลังวิ่งตรงมาหาเขาพร้อมกับนางพยาบาลสาวอีกสองคน เขารู้ดีว่าหากถูกจับได้ก็ต้องถูกนำตัวกลับเข้าห้องผู้ป่วยนั้นไปแน่... ส่วนลิฟท์ตัวปัญหานั้นก็ยังไม่ลงมาสักที
เพราะอย่างนั้น... ความหวังเดียวของเขาก็คือบันไดหนีไฟที่ต้องผ่านด่านนายแพทย์ร่างยักษ์คนนั้นไปให้ได้เท่านั้น!
เมื่อฮิซาชินับ1ถึง3ในใจเสร็จแล้ว เขาก็วิ่งหลบอ้อมแขนของนายแพทย์ สไลด์ผ่านหว่างขานางพยาบาลตรงไปยังบันไดนั้นทันที ดูเหมือนว่าทักษะร่างกายของเขาจะไม่ถดถอยลงเลยแม้จะอยู่ในร่างของเด็กตัวเล็กๆที่ไร้เรี
และเมื่อฮิซาชิวิ่งลงบันไดไปเรื่อยๆ เขาก็รู้สึกเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในขณะนั้นนายแพทย์ที่เข้ามาดูอาการของเขาก็กำลังวิ่งตามลงมาแล้ว ด้วยความเร็ววิ่งของเด็กนั้นไม่มีทางสลัดผู้ใหญ่หลุดแน่
เมื่อหมดทางให้เลือกแล้ว... ฮิซาชิก็ตัดสินใจใช้วิธีที่ไม่เคยมีเด็ก5ขวบคนไหนใช้แล้วรอดชีวิตได้มาก่อน โดยไม่สนใจความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตามมา...
"อันตราย!!!"
เสียงร้องห้ามของนายแพทย์คนนั้นดูจะไร้ประโยชน์มากสำหรับเขา ฮิซาชิกระโดดลงจากบันไดชั้น20กว่าๆลงมายังชั้น1โดยผ่านช่องว่างระหว่างบันได เพราะเหตุนี้ทำให้เขาสามารถลงมาถึงชั้นล่างได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ที่วิ่งตามลงมาหลายเท่า
แต่เพราะร่างกายของเด็กนั้นอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่ที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ฮิซาชิจึงเกาะราวบันไดที่คั่นระหว่างชั้น5กับชั้น6กลับเข้าไปยังทางปกติอย่างช่วยไม่ได้ เพราะถ้าเขายังคงลงไปต่อโดยใช้เส้นทางเดิม...ไหล่ของเขาได้หลุดแน่!
และเมื่อเด็กน้อยคนนั้นเปิดประตูชั้นหนึ่งออกมาได้ เขาก็ต้องประหลาดใจมากกับสิ่งที่ได้เห็น ในขณะนี้ผู้คนกำลังใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ มีเพียงผู้ป่วยเป็นโรคกับผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อยจนถึงหนักมากเข้ามารักษาตัวเพราะอุบัติเหตุเท่านั้น... และเมื่อเขาเดินผ่านที่แขวนหนังสือพิมพ์สำหรับให้ผู้ที่มาตรวจร่างกายได้อ่านรอเวลานั้นเอง เขาก็เห็นวันที่บนหนังสือพิมพ์เป็นวันเดียวกันทุกฉบับ...
เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่2 มกราคม 2170 ตรงกันทุกฉบับ!!
"นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรเนี่ย!!"
แต่ก่อนที่ฮิซาชิจะได้ใช้ความคิดเรียบเรียงความเป็นไปได้นั้นเอง เขาก็ต้องรีบวิ่งหนีออกประตูโรงพยาบาลไปอย่างรวดเร็วเพราะเสียงฝีเท้าของผู้ใหญ่ค่อยๆเข้ามาใกล้เขาทางบันไดหนีไฟทุกขณะ... คราวนี้ใส่เกียร์หมาหนีได้เลย!
"เป็นไง..! วันนี้จะไปไหนกันดีจ๊ะ ที่รัก!"
"นั่นสินะคะ... เอาเป็นที่ห้างตรงนั้นก็แล้วกัน เห็นมีเสื้อผ้าแบรนด์ดังตัวใหม่มาขายด้วยนี่! ที่รักซื้อให้หน่อยนะค้า..!!"
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!! ก็เราเพิ่งจะต่อสู้กับพวกผู้นำมาซึ่งความวินาศอยู่เลยไม่ใช่เหรอ... แถมตอนนั้นเมืองต่างๆก็ถูกทำลายจนพินาศไปเกือบหมดแล้วนี่นา!!
หรือว่า..! เจ้าหลุมอากาศที่เราเข้ามานั่นจะทำให้เราย้อนเวลามาที่นี่!!
แม้จะไม่น่าเชื่อ... แต่สภาพบ้านเมืองที่ฮิซาชิได้เห็นทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลแห่งนั้นได้ก็คือ ตึกสูงตระหง่านตั้งอยู่เรียงรายแบบเดียวกับที่เขาเห็นเมื่อก่อนถูกพามายังโรงพยาบาลแห่งนี้ ผู้คนในเมืองก็ใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข ไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นถ้าไม่นับเรื่องการจราจรที่มีรถวิ่งกันจนลายตาไปหมด บรรยากาศของที่นี่ช่างสงบสุขจนทำให้เด็กน้อยที่มาจากอนาคตอยากจะอยู่ที่นี่ไปตลอด...
แต่เดี๋ยวก่อน..! จะว่าไปเมื่อปี2170... ในปีนั้นมันมีเรื่องที่น่ากลัวมากเกิดขึ้นนี่นา..!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ