The begin
5.8
เขียนโดย TheBegin
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.04 น.
5 ตอน
6 วิจารณ์
8,923 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) The begin 5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ5.
“ข้าต้องสร้างรอยแผลที่ไม่มีวันลบออกบนร่างกายท่านให้ได้แน่ๆเคม”
นางพูดพร้อมกลับพุ่งทะยานเข้าใส่พ่อมดดำอีกครั้ง ชายชราเคยสัญญากับนางตั้งแต่นางจำความได้ถ้านางทำให้เคมลินเจ็บตัวหรือมีบาดแผลได้เมื่อไหร่นั้น นางจะได้ทำตามใจที่นางต้องการไม่ต้องโดนทำโทษหรือกักบริเวณจากเคมลินตราบใดที่นางทำผิดหรือมาฝึกช้า ซึ่งนั่นจะทำให้นางข้ามได้ไปที่อีกฝั่งของแม่น้ำ ที่ที่นางนั้นเฝ้าที่จะจินตนาการเอาเองว่าอีกฝั่งของแฟร์รานั้นเป็นเช่นไร
“ข้าไม่อาจปฏิเสธว่าเจ้าจะทำไม่ได้ แต่ข้าก็ไม่อาจที่จะบอกว่าเจ้าทำได้เช่นกันตราบใดที่ความเร็วของเจ้านั้นยังไม่เทียบเท่าความเร็วของข้า”
“ความเร็วจากการหายตัวนะหรือ”
หญิงสาวถามชายชราอย่างไม่ค่อยที่จะพอใจนัก นางคิดว่ามันไม่แฟร์เลยที่พระเจ้าสร้างสัตว์โลกมาไม่เท่าเทียมกัน เพราะถ้านางหายตัวได้ป่านนี้นั้นนางคงได้ไปที่อีกฝั่งของแฟร์ราแล้วเป็นแน่
“เจ้าไม่รู้หรอกว่าอีกฝั่งนั้นน่ะเป็นภัยต่อเจ้าแค่ไหนสาวน้อย”
เคมลินพูดพร้อมกับหยุดชะงักไปนิดนึงเพราะภาพการล่าล้างอมนุษย์ครั้งนั้นได้ตามมาหลอกหลอนเขา ซิลเวียร์อาศัยจังหวะนั้นยกดาบและพุ่งเข้าใส่ทันที ซึ่งนั่นได้ผลถึงแม้ว่าเคมลินจะพาตัวเองออกมาจากรัศมีของคมดาบนางได้แต่ความเร็วของนางนั้นเกือบเท่าทันความเร็วของอีกฝ่ายแล้วซึ่งนั่นก็หมายถึงนางได้สร้างรอยแผลให้แก่พ่อมดดำ แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่มันก็ปรากฏชัดเจนที่แขนซ้ายของชายชรา ซิลเวียร์มองที่รอยแผลนั้นอย่างตกตะลึงมันมีทั้งความดีใจและความสงสัยอยู่ในนั้น นางสงสัยคำพูดสุดท้ายก่อนที่จะโดนคมดาบของนางจากเคมลิน ที่ว่าอีกฝั่งของแฟร์รานั้นเป็นภัยต่อนาง
“จบการฝึกฝนในวันนี้แล้ว เจ้าจะเป็นอิสระและทำอะไรก็ได้ ตราบที่เจ้าอยากทำ”
ชายชรามองดูรอยแผล และหัวเราะในลำคอเบาๆ จากนั้นเขาก็เดินไปทางด้านหลังของกระท่อม และลัดเลาะทะลุผ่านหมู่แมกไม้ที่หนาทึบตรงไปยังยอดเขาที่เป็นที่ฝึกฝนอีกแห่งหนึ่งของเขาและเอลฟ์สาว
“เฮ้ เคมทำไมอีกฝั่งของแฟร์ร่าจึงต้องเป็นอันตรายต่อข้าด้วยล่ะ เคม เคม????”
ในเมื่อนางไม่ได้คำตอบของคำถามที่นางสงสัย เอลฟ์สาวจึงวิ่งตามชายชราไปทันที นางรู้จุดหมายของเคมลินดีว่าชายชรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ใดถึงแม้ตอนที่นางออกวิ่งนางจะไม่เห็นแม้แต่เงาของเคมลินแล้วก็ตาม
เมื่อชายชรามาถึงยอดเขาที่แสนคุ้นเคย เขาใช้เวลาไม่นานในการเดินทางจากที่พักอาศัยด้านล่างมาถึงที่นี่ เขาหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านมานานแสนนานแล้วตั้งแต่ในช่วงที่ทุกเผ่าพันธุ์อยู่ด้วยกันอย่างสันติ มนุษย์เป็นมิตรกับเอลฟ์กับพ่อมดหรือแม้แต่ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัว ไม่มีการแก่งแย่งชิงดีกัน การสู้รบปรบมือแทบจะไม่มีมาให้เห็นเลย แต่ช่วงเวลาแห่งสันติมักจะอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะเมื่อซีเลซาร์โผล่มาทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสงบสุขก็กลับตาลปัตรทันที ทุกเผ่าพันธุ์ต่างแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อความอยู่รอด
“ทำไมเจ้าไม่ใช้อิสระที่ข้ามอบให้ไปท่องเที่ยวตามใจชอบล่ะซิล ตามข้ามาทำไมอีก”
ซิลเวียร์ซึ่งแอบย่องมาทางด้านหลังของชายชราเพื่อไม่ใช้เขารู้ตัวก็เป็นอันต้องชะงักทันทีเพราะนางนั้นแน่ใจในฝีเท้าของตนเองว่าเงียบแค่ไหนแต่มีหรือว่าจะเล็ดลอดจากหูของชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วหลายพันปีอย่างเคมลินได้
“ก็นี่ไงข้ากำลังจะทำตามที่ท่านบอก ทำตามใจของข้า”
เอลฟ์สาวเดินมายืนเคียงข้างชายชรา พร้อมกับมองชายตรงหน้าอย่างพิศวง นางอยู่กับชายชรามาตั้งแต่นางจำความได้ แต่นางไม่เคยเห็นเขาแผ่รังสีความน่าเกรงขามออกมาอย่างนี้เลยนางรู้สึกว่าชายตรงหน้านางนั้นเมื่อครั้งเขายังเป็นหนุ่มเขาต้องมีความสำคัญและมีอำนาจอย่างมากเป็นแน่ แต่นางก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเหตุใดชายผู้น่าเกรงขามเช่นนี้จึงปลีกตัวออกมาอยู่ในป่าที่ห่างไกลและตัดขาดจากโลกภายนอกเช่นนี้
“ข้ามีคำถามมากมายจะถามท่าน คำถามที่ท่านต้องตอบข้าตามตรง และท่านต้องไม่เลี่ยงคำตอบหรือโกหกข้าเหมือนที่ผ่านมา”
นางสบตาชายชรา แต่ชายชราไม่หันมามองนางกลับมองไปตรงหน้าตรงที่มองเห็นแม่น้ำแฟร์ราอยู่ไกลลับตาออกไป แสงแดดค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆซึ่งนั่นหมายความว่ารัตติกาลค่อยๆคืบคลานเข้ามาใกล้แล้ว
“มันคงถึงเวลาแล้วสินะ ข้าพยามยื้อมาตลอดเพื่อให้เจ้าอยู่อย่างสบายใจให้นานขึ้น แต่ข้าคงยื้อต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เอาล่ะถามมาสิเจ้าอยากรู้เรื่องอะไร ข้าสาบานว่าจะไม่เลี่ยงและโกหกเจ้าเหมือนที่ผ่านมาอีก”
T B C>>6
https://www.facebook.com/thebeginnnnnnn?ref=hl
อยากเห็นอิมเมจตัวละครเชิญเลยนะคะ
“ข้าต้องสร้างรอยแผลที่ไม่มีวันลบออกบนร่างกายท่านให้ได้แน่ๆเคม”
นางพูดพร้อมกลับพุ่งทะยานเข้าใส่พ่อมดดำอีกครั้ง ชายชราเคยสัญญากับนางตั้งแต่นางจำความได้ถ้านางทำให้เคมลินเจ็บตัวหรือมีบาดแผลได้เมื่อไหร่นั้น นางจะได้ทำตามใจที่นางต้องการไม่ต้องโดนทำโทษหรือกักบริเวณจากเคมลินตราบใดที่นางทำผิดหรือมาฝึกช้า ซึ่งนั่นจะทำให้นางข้ามได้ไปที่อีกฝั่งของแม่น้ำ ที่ที่นางนั้นเฝ้าที่จะจินตนาการเอาเองว่าอีกฝั่งของแฟร์รานั้นเป็นเช่นไร
“ข้าไม่อาจปฏิเสธว่าเจ้าจะทำไม่ได้ แต่ข้าก็ไม่อาจที่จะบอกว่าเจ้าทำได้เช่นกันตราบใดที่ความเร็วของเจ้านั้นยังไม่เทียบเท่าความเร็วของข้า”
“ความเร็วจากการหายตัวนะหรือ”
หญิงสาวถามชายชราอย่างไม่ค่อยที่จะพอใจนัก นางคิดว่ามันไม่แฟร์เลยที่พระเจ้าสร้างสัตว์โลกมาไม่เท่าเทียมกัน เพราะถ้านางหายตัวได้ป่านนี้นั้นนางคงได้ไปที่อีกฝั่งของแฟร์ราแล้วเป็นแน่
“เจ้าไม่รู้หรอกว่าอีกฝั่งนั้นน่ะเป็นภัยต่อเจ้าแค่ไหนสาวน้อย”
เคมลินพูดพร้อมกับหยุดชะงักไปนิดนึงเพราะภาพการล่าล้างอมนุษย์ครั้งนั้นได้ตามมาหลอกหลอนเขา ซิลเวียร์อาศัยจังหวะนั้นยกดาบและพุ่งเข้าใส่ทันที ซึ่งนั่นได้ผลถึงแม้ว่าเคมลินจะพาตัวเองออกมาจากรัศมีของคมดาบนางได้แต่ความเร็วของนางนั้นเกือบเท่าทันความเร็วของอีกฝ่ายแล้วซึ่งนั่นก็หมายถึงนางได้สร้างรอยแผลให้แก่พ่อมดดำ แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่มันก็ปรากฏชัดเจนที่แขนซ้ายของชายชรา ซิลเวียร์มองที่รอยแผลนั้นอย่างตกตะลึงมันมีทั้งความดีใจและความสงสัยอยู่ในนั้น นางสงสัยคำพูดสุดท้ายก่อนที่จะโดนคมดาบของนางจากเคมลิน ที่ว่าอีกฝั่งของแฟร์รานั้นเป็นภัยต่อนาง
“จบการฝึกฝนในวันนี้แล้ว เจ้าจะเป็นอิสระและทำอะไรก็ได้ ตราบที่เจ้าอยากทำ”
ชายชรามองดูรอยแผล และหัวเราะในลำคอเบาๆ จากนั้นเขาก็เดินไปทางด้านหลังของกระท่อม และลัดเลาะทะลุผ่านหมู่แมกไม้ที่หนาทึบตรงไปยังยอดเขาที่เป็นที่ฝึกฝนอีกแห่งหนึ่งของเขาและเอลฟ์สาว
“เฮ้ เคมทำไมอีกฝั่งของแฟร์ร่าจึงต้องเป็นอันตรายต่อข้าด้วยล่ะ เคม เคม????”
ในเมื่อนางไม่ได้คำตอบของคำถามที่นางสงสัย เอลฟ์สาวจึงวิ่งตามชายชราไปทันที นางรู้จุดหมายของเคมลินดีว่าชายชรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ใดถึงแม้ตอนที่นางออกวิ่งนางจะไม่เห็นแม้แต่เงาของเคมลินแล้วก็ตาม
เมื่อชายชรามาถึงยอดเขาที่แสนคุ้นเคย เขาใช้เวลาไม่นานในการเดินทางจากที่พักอาศัยด้านล่างมาถึงที่นี่ เขาหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านมานานแสนนานแล้วตั้งแต่ในช่วงที่ทุกเผ่าพันธุ์อยู่ด้วยกันอย่างสันติ มนุษย์เป็นมิตรกับเอลฟ์กับพ่อมดหรือแม้แต่ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัว ไม่มีการแก่งแย่งชิงดีกัน การสู้รบปรบมือแทบจะไม่มีมาให้เห็นเลย แต่ช่วงเวลาแห่งสันติมักจะอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะเมื่อซีเลซาร์โผล่มาทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสงบสุขก็กลับตาลปัตรทันที ทุกเผ่าพันธุ์ต่างแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อความอยู่รอด
“ทำไมเจ้าไม่ใช้อิสระที่ข้ามอบให้ไปท่องเที่ยวตามใจชอบล่ะซิล ตามข้ามาทำไมอีก”
ซิลเวียร์ซึ่งแอบย่องมาทางด้านหลังของชายชราเพื่อไม่ใช้เขารู้ตัวก็เป็นอันต้องชะงักทันทีเพราะนางนั้นแน่ใจในฝีเท้าของตนเองว่าเงียบแค่ไหนแต่มีหรือว่าจะเล็ดลอดจากหูของชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วหลายพันปีอย่างเคมลินได้
“ก็นี่ไงข้ากำลังจะทำตามที่ท่านบอก ทำตามใจของข้า”
เอลฟ์สาวเดินมายืนเคียงข้างชายชรา พร้อมกับมองชายตรงหน้าอย่างพิศวง นางอยู่กับชายชรามาตั้งแต่นางจำความได้ แต่นางไม่เคยเห็นเขาแผ่รังสีความน่าเกรงขามออกมาอย่างนี้เลยนางรู้สึกว่าชายตรงหน้านางนั้นเมื่อครั้งเขายังเป็นหนุ่มเขาต้องมีความสำคัญและมีอำนาจอย่างมากเป็นแน่ แต่นางก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเหตุใดชายผู้น่าเกรงขามเช่นนี้จึงปลีกตัวออกมาอยู่ในป่าที่ห่างไกลและตัดขาดจากโลกภายนอกเช่นนี้
“ข้ามีคำถามมากมายจะถามท่าน คำถามที่ท่านต้องตอบข้าตามตรง และท่านต้องไม่เลี่ยงคำตอบหรือโกหกข้าเหมือนที่ผ่านมา”
นางสบตาชายชรา แต่ชายชราไม่หันมามองนางกลับมองไปตรงหน้าตรงที่มองเห็นแม่น้ำแฟร์ราอยู่ไกลลับตาออกไป แสงแดดค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆซึ่งนั่นหมายความว่ารัตติกาลค่อยๆคืบคลานเข้ามาใกล้แล้ว
“มันคงถึงเวลาแล้วสินะ ข้าพยามยื้อมาตลอดเพื่อให้เจ้าอยู่อย่างสบายใจให้นานขึ้น แต่ข้าคงยื้อต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เอาล่ะถามมาสิเจ้าอยากรู้เรื่องอะไร ข้าสาบานว่าจะไม่เลี่ยงและโกหกเจ้าเหมือนที่ผ่านมาอีก”
T B C>>6
https://www.facebook.com/thebeginnnnnnn?ref=hl
อยากเห็นอิมเมจตัวละครเชิญเลยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ