The begin
5.8
เขียนโดย TheBegin
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.04 น.
5 ตอน
6 วิจารณ์
8,925 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) The begin 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ4.
ท่ามกลางป่าอันแสนคุ้นเคยซิลเวียร์จำได้แม้กระทั่งต้นไม้ทุกต้น ก้อนหินทุกก้อน หรือแม้แต่ต้นหญ้าที่ขึ้นเป็นหย่อมๆตามฤดูกาล ที่อยู่ในบริเวณกระท่อมของพ่อมดดำ และรอบๆอาณาเขตที่ชายชราจะอนุญาติให้นางไปได้โดยที่นางไม่ถูกทำโทษ นางสงสัยมาตลอดว่าทำไม เคมลินเฒ่าถึงต้องให้นางอยู่แต่ในอาณาเขตที่อยู่หลังแม่น้ำแฟร์ราเท่านั้นนางไม่เคยข้ามแม่น้ำแฟร์ราอันกว้างใหญ่นี่สักที ไม่เคยรู้ว่าแผ่นดินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นอย่างไร จะมีต้นไม้ ใบหญ้า เหมือนฝั่งที่นางอยู่หรือไม่ หรือจะมีแต่ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาลเหมือนดั่งที่อยู่ในหนังสือของเคมลิน ทุกๆวันนางจะชอบมานั่งที่ริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่แห่งนี้และมองพระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า ซึ่งเส้นขอบฟ้าที่ว่านั่นก็คือแม่น้ำแฟร์ร่านั่นเอง ความสงสัยต่างๆประเดประดังเข้ามามากมาย ทั้งที่ว่าตัวนางเป็นใคร และทำไมนางถึงมาอยู่กับพ่อมดไม่ไปอยู่กับเผ่าพันธุ์ของตนเองซึ่งเป็นเอลฟ์
นางเก็บความสงสัยนี้อยู่กับตัวตลอดมา ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ก็แน่ล่ะจะเล่าให้ใครอื่นฟังได้ไงในเมื่อในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้มีแค่นางกับเคมลิน และพวกสัตว์ต่างๆและสัตว์พวกนั้นมันคุยรู้เรื่องที่ไหนล่ะ นางหัวเราะกับความคิดที่วุ่นอยู่ในหัวของนาง
“ได้เวลาแห่งการฝึกหฤโหดแล้วสิ”
นางพึมพำกับตัวเองและลุกขึ้นยืนอย่างว่องไว พรางนึกขำเคมลินที่แม้ดูจากภายนอกจะแก่ชรามากแล้วก็ตามแต่เมื่อถึงเวลาต่อสู้นั้นกลับคล่องแคล่วว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ นางวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางเก่าที่นางเดินมา ซึ่งบัดนี้นั้นมันได้กลายเป็นถนนส่วนตัวของนางเสียแล้ว หมู่หญ้าที่แต่ก่อนเคยขึ้นเขียวขจีตลอดเส้นทาง แต่บัดนี้นั้นมันได้ตายลงเป็นทางยาวบ่งบอกว่านางได้มาที่นี่บ่อยแค่ไหน นับตั้งแต่ที่นางได้เจอกับแม่น้ำอันน่าพิสมัยแห่งนี้ เมื่อเจอกับป่ารกทึบข้างหน้า นางไม่จำเป็นต้องมองทางเลย ก็สามารถวิ่งผ่านไปโดยที่ไม่ชนต้นไม้ได้ บัดนี้นั้นความมืดค่อยๆจางหายไปและแสงสว่างจากดวงอาทิตย์นั้นค่อยๆคืบคลานเข้ามาแทนที่ มันกลืนกินความมือเข้าไปดังเช่นมนุษย์ได้ลิ้มลองอาหารจานโปรดที่กินไปเท่าไหร่มันก็ไม่เพียงพอ
“เจ้ากลับมาช้านะซิลเวียร์”
เคมลินเฒ่าเอ่ยขึ้นและมองดูพระอาทิตย์ซึ่งบัดนี้นั้นมันได้โผล่ขึ้นเลยยอดไม้บริเวณรอบๆกระท่อมแล้ว และมองดูซิลเวียร์ซึ่งได้โผล่ออกมาจากป่าพอดี ร่างกายและสีหน้านางไม่บ่งบอกถึงความเหนื่อยจากการวิ่งเป็นระยะทางไกลจากแม่น้ำมาถึงลานโล่งหน้ากระท่อมเลย
“นิดหน่อยน่าเคม เอาล่ะมาเริ่มกันเลย”
ซิลเวียร์รับดาบที่เคมลินส่งมาให้อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็กระโดดเข้าหาเคมลินเฒ่าทันที ถ้ามองจากกายภาพของเคมลินนั้นไม่น่าจะหลบการจู่โจมพร้อมกับอาวุธที่รวดเร็วของซิลเวียร์พ้น แต่ทันทีที่ดาบกำลังจะฟาดฟันลงที่คอของเคมลินนั้น ซิลเวียร์ก็ชะงักทันที เมื่อจู่ๆเป้าหมายที่แต่ก่อนเคยอยู่ตรงหน้านั้นได้หายไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งนั่นส่งผลให้นางเสียการทรงตัวและล้มกระแทกพื้นดินทันที
“ฮ่าๆๆ เอลฟ์ที่มีการทรงตัวที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลกกลับล้มหน้ากระแทกพื้นอย่างนี้หรอซิล เจ้ากำลังทำให้บรรพบุรุษเจ้าร้องไห้นะ ๆฮ่าๆๆ”
เคมลินซึงบัดนี้นั้นได้ไปอยู่ข้างหลังของนางแล้วได้หัวเราะขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่ นางรีบหันหลังไปยังแหล่งที่มาของเสียงทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและพุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้ง
“ท่านขี้โกงน่ะสิเคม ทุกครั้งที่ท่านหนีข้าไม่ทันท่านจะหายตัวหนีทุกทีเลย”
“ข้าเคยรู้จักเอลฟ์ตนนึงสาวน้อย เขาเร็วมากจนกระทั่งจับข้าได้ขณะที่ข้ากำลังจะหายตัวไปด้วยซ้ำ”
พ่อมดเฒ่าพูดขึ้นพร้อมกับหลบดาบที่ฟาดฟันมาอย่างรวดเร็วของซิลเวียร์ซึ่งบัดนี้นั้นมันเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ และเริ่มแสดงอาการเหนื่อยหอบแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม จากการที่คอยไล่ตามชายชราที่ไม่น่าจะเดินไหวแต่มันกลับตรงกันข้ามเพราะคนตรงหน้านางนั้นไม่แสดงท่าทางว่าเหนื่อยออกมาเลย
“งั้นท่านก็สอนวิชาหายตัวให้ข้าซะสิ”
“นั่นยังไม่ทำให้เจ้าเข้าใจอีกหรือซิลว่าคนที่หายตัวได้น่ะมีแค่พ่อมดกับพวกแอตแลนด์ตาในตำนานเท่านั้นแล่ะ และสิ่งที่ข้าตั้งใจจะบอกเจ้าก็คือ เจ้าน่ะสามารถเร็วเท่ากับการหายตัวของข้าได้ตราบใดที่เจ้าพยายาม”
ชายชราพูดขึ้นพร้อมกับยกดาบขึ้นจ่อไปที่คอของนาง ซึ่งบัดนี้นั้นอาวุธในมือของนางได้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว
“ข้าฆ่าเจ้าได้สองรอบแล้วนะซิล” พ่อมดยิ้มอย่างพอใจ และส่งดาบให้อีกฝ่าย
“แฮ่กๆๆ....แล้วทำไมข้าถึงต้องเร็วกว่าท่านให้ได้ด้วยล่ะแฮ่กๆ.. ข้าไม่เห็นมีอะไรในป่านี้ที่อันตรายพอที่จะทำร้ายข้าได้เลยนี่แฮ่กๆๆๆ..”
นางพูดขึ้นอย่างยากเย็นเพราะบัดนี้นั้นลมหายใจของนางเริ่มติดขัดอย่างควบคุมไม่อยู่แล้ว แต่ชายตรงหน้านางนั้นกลับหายใจอย่างปรกติที่สุดนั่นสร้างความไม่พอใจให้กับนางยิ่งนัก
“แล้วเจ้าไม่อยากรู้หรือว่าอีกฝั่งของแฟร์ราคืออะไร แต่มีข้อแม้คือ......”
ชายชราพูดพร้อมกับมองไปที่อีกฝ่ายอย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายนั้นกระหายที่จะข้ามแม่น้ำแฟร์ราไปมากขนาดไหน ซิลเวียร์กลอกตาไปมาพลางมองไปที่ชายชราอย่างเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมอีกครั้ง
T B C>>25
https://www.facebook.com/thebeginnnnnnn?ref=hl
อยากเห็นอิมเมจตัวละครเชิญเลยนะคะ
ท่ามกลางป่าอันแสนคุ้นเคยซิลเวียร์จำได้แม้กระทั่งต้นไม้ทุกต้น ก้อนหินทุกก้อน หรือแม้แต่ต้นหญ้าที่ขึ้นเป็นหย่อมๆตามฤดูกาล ที่อยู่ในบริเวณกระท่อมของพ่อมดดำ และรอบๆอาณาเขตที่ชายชราจะอนุญาติให้นางไปได้โดยที่นางไม่ถูกทำโทษ นางสงสัยมาตลอดว่าทำไม เคมลินเฒ่าถึงต้องให้นางอยู่แต่ในอาณาเขตที่อยู่หลังแม่น้ำแฟร์ราเท่านั้นนางไม่เคยข้ามแม่น้ำแฟร์ราอันกว้างใหญ่นี่สักที ไม่เคยรู้ว่าแผ่นดินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นอย่างไร จะมีต้นไม้ ใบหญ้า เหมือนฝั่งที่นางอยู่หรือไม่ หรือจะมีแต่ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาลเหมือนดั่งที่อยู่ในหนังสือของเคมลิน ทุกๆวันนางจะชอบมานั่งที่ริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่แห่งนี้และมองพระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า ซึ่งเส้นขอบฟ้าที่ว่านั่นก็คือแม่น้ำแฟร์ร่านั่นเอง ความสงสัยต่างๆประเดประดังเข้ามามากมาย ทั้งที่ว่าตัวนางเป็นใคร และทำไมนางถึงมาอยู่กับพ่อมดไม่ไปอยู่กับเผ่าพันธุ์ของตนเองซึ่งเป็นเอลฟ์
นางเก็บความสงสัยนี้อยู่กับตัวตลอดมา ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ก็แน่ล่ะจะเล่าให้ใครอื่นฟังได้ไงในเมื่อในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้มีแค่นางกับเคมลิน และพวกสัตว์ต่างๆและสัตว์พวกนั้นมันคุยรู้เรื่องที่ไหนล่ะ นางหัวเราะกับความคิดที่วุ่นอยู่ในหัวของนาง
“ได้เวลาแห่งการฝึกหฤโหดแล้วสิ”
นางพึมพำกับตัวเองและลุกขึ้นยืนอย่างว่องไว พรางนึกขำเคมลินที่แม้ดูจากภายนอกจะแก่ชรามากแล้วก็ตามแต่เมื่อถึงเวลาต่อสู้นั้นกลับคล่องแคล่วว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ นางวิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางเก่าที่นางเดินมา ซึ่งบัดนี้นั้นมันได้กลายเป็นถนนส่วนตัวของนางเสียแล้ว หมู่หญ้าที่แต่ก่อนเคยขึ้นเขียวขจีตลอดเส้นทาง แต่บัดนี้นั้นมันได้ตายลงเป็นทางยาวบ่งบอกว่านางได้มาที่นี่บ่อยแค่ไหน นับตั้งแต่ที่นางได้เจอกับแม่น้ำอันน่าพิสมัยแห่งนี้ เมื่อเจอกับป่ารกทึบข้างหน้า นางไม่จำเป็นต้องมองทางเลย ก็สามารถวิ่งผ่านไปโดยที่ไม่ชนต้นไม้ได้ บัดนี้นั้นความมืดค่อยๆจางหายไปและแสงสว่างจากดวงอาทิตย์นั้นค่อยๆคืบคลานเข้ามาแทนที่ มันกลืนกินความมือเข้าไปดังเช่นมนุษย์ได้ลิ้มลองอาหารจานโปรดที่กินไปเท่าไหร่มันก็ไม่เพียงพอ
“เจ้ากลับมาช้านะซิลเวียร์”
เคมลินเฒ่าเอ่ยขึ้นและมองดูพระอาทิตย์ซึ่งบัดนี้นั้นมันได้โผล่ขึ้นเลยยอดไม้บริเวณรอบๆกระท่อมแล้ว และมองดูซิลเวียร์ซึ่งได้โผล่ออกมาจากป่าพอดี ร่างกายและสีหน้านางไม่บ่งบอกถึงความเหนื่อยจากการวิ่งเป็นระยะทางไกลจากแม่น้ำมาถึงลานโล่งหน้ากระท่อมเลย
“นิดหน่อยน่าเคม เอาล่ะมาเริ่มกันเลย”
ซิลเวียร์รับดาบที่เคมลินส่งมาให้อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็กระโดดเข้าหาเคมลินเฒ่าทันที ถ้ามองจากกายภาพของเคมลินนั้นไม่น่าจะหลบการจู่โจมพร้อมกับอาวุธที่รวดเร็วของซิลเวียร์พ้น แต่ทันทีที่ดาบกำลังจะฟาดฟันลงที่คอของเคมลินนั้น ซิลเวียร์ก็ชะงักทันที เมื่อจู่ๆเป้าหมายที่แต่ก่อนเคยอยู่ตรงหน้านั้นได้หายไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งนั่นส่งผลให้นางเสียการทรงตัวและล้มกระแทกพื้นดินทันที
“ฮ่าๆๆ เอลฟ์ที่มีการทรงตัวที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลกกลับล้มหน้ากระแทกพื้นอย่างนี้หรอซิล เจ้ากำลังทำให้บรรพบุรุษเจ้าร้องไห้นะ ๆฮ่าๆๆ”
เคมลินซึงบัดนี้นั้นได้ไปอยู่ข้างหลังของนางแล้วได้หัวเราะขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่ นางรีบหันหลังไปยังแหล่งที่มาของเสียงทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและพุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้ง
“ท่านขี้โกงน่ะสิเคม ทุกครั้งที่ท่านหนีข้าไม่ทันท่านจะหายตัวหนีทุกทีเลย”
“ข้าเคยรู้จักเอลฟ์ตนนึงสาวน้อย เขาเร็วมากจนกระทั่งจับข้าได้ขณะที่ข้ากำลังจะหายตัวไปด้วยซ้ำ”
พ่อมดเฒ่าพูดขึ้นพร้อมกับหลบดาบที่ฟาดฟันมาอย่างรวดเร็วของซิลเวียร์ซึ่งบัดนี้นั้นมันเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ และเริ่มแสดงอาการเหนื่อยหอบแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม จากการที่คอยไล่ตามชายชราที่ไม่น่าจะเดินไหวแต่มันกลับตรงกันข้ามเพราะคนตรงหน้านางนั้นไม่แสดงท่าทางว่าเหนื่อยออกมาเลย
“งั้นท่านก็สอนวิชาหายตัวให้ข้าซะสิ”
“นั่นยังไม่ทำให้เจ้าเข้าใจอีกหรือซิลว่าคนที่หายตัวได้น่ะมีแค่พ่อมดกับพวกแอตแลนด์ตาในตำนานเท่านั้นแล่ะ และสิ่งที่ข้าตั้งใจจะบอกเจ้าก็คือ เจ้าน่ะสามารถเร็วเท่ากับการหายตัวของข้าได้ตราบใดที่เจ้าพยายาม”
ชายชราพูดขึ้นพร้อมกับยกดาบขึ้นจ่อไปที่คอของนาง ซึ่งบัดนี้นั้นอาวุธในมือของนางได้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว
“ข้าฆ่าเจ้าได้สองรอบแล้วนะซิล” พ่อมดยิ้มอย่างพอใจ และส่งดาบให้อีกฝ่าย
“แฮ่กๆๆ....แล้วทำไมข้าถึงต้องเร็วกว่าท่านให้ได้ด้วยล่ะแฮ่กๆ.. ข้าไม่เห็นมีอะไรในป่านี้ที่อันตรายพอที่จะทำร้ายข้าได้เลยนี่แฮ่กๆๆๆ..”
นางพูดขึ้นอย่างยากเย็นเพราะบัดนี้นั้นลมหายใจของนางเริ่มติดขัดอย่างควบคุมไม่อยู่แล้ว แต่ชายตรงหน้านางนั้นกลับหายใจอย่างปรกติที่สุดนั่นสร้างความไม่พอใจให้กับนางยิ่งนัก
“แล้วเจ้าไม่อยากรู้หรือว่าอีกฝั่งของแฟร์ราคืออะไร แต่มีข้อแม้คือ......”
ชายชราพูดพร้อมกับมองไปที่อีกฝ่ายอย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายนั้นกระหายที่จะข้ามแม่น้ำแฟร์ราไปมากขนาดไหน ซิลเวียร์กลอกตาไปมาพลางมองไปที่ชายชราอย่างเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมอีกครั้ง
T B C>>25
https://www.facebook.com/thebeginnnnnnn?ref=hl
อยากเห็นอิมเมจตัวละครเชิญเลยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ