The begin
5.8
เขียนโดย TheBegin
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.04 น.
5 ตอน
6 วิจารณ์
8,919 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) The begin 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ2.
16 ปีผ่านไป
หลังจากที่เหตุการณ์ล่าล้างเผ่าเอลฟ์เอเวอร์นอร์ครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นนั้น เหล่าบรรดานักล่ารางวัลจากเผ่าวัลแคนคนอื่นๆที่ทราบข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนักล่า 100 คนที่ไปล่าพวกเอเวอร์นอร์ในครั้งนั้น ต่างก็ไม่มีใครที่จะกล้าออกตามล่าเหล่าเอลฟ์ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกเลย แต่มีหรือที่กษัตริย์จอมโฉดชั่วจะยอมให้เหล่าอมนุษย์ที่เหลืออยู่รอดไปได้อย่างสันติ ในเมื่อไม่มีนักล่ารางวัลที่คอยกำจัดเหล่าอมนุษย์ให้พระองค์แล้วทางเดียวทีเหลืออยู่ของพระองค์คือพวกเซอร์ซิลแห่งโซดอมมันไม่ใช่มนุษย์ไม่ใช่เอลฟ์และไม่ใช่พ่อมด แต่มันเป็นอสุระกายที่น่าเกียจน่ากลัว ผมยาวรกรุงรังยืนสองขาเหมือนคนแต่ทว่าทำตัวเหมือนสัตว์ กลิ่นกายของพวกมันนั้นว่ากันว่าเหม็นสาบเสมือนซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยตายไปแล้วเป็นพันๆปี แต่เมื่ออยู่ในตัวพวกมันนั้นกลับกลายเป็นเสมือนว่าซากเน่าเปื่อยที่เดินได้วิ่งได้ พวกมันมีเขี้ยวและเล็บที่แหลมคมใช้เสมือนดาบในการสู้รบ สิ่งเดียวที่จะควบคุมพวกนี้อยู่ก็คือเวทย์มนต์ของนากูล พ่อมดขาวผู้เปรียบเสมือนมือขวาของกษัตริย์ซีเลซาร์ผู้โฉดชั่ว
ท่ามกลางพระราชวังอันกว้างใหญ่แต่ทว่าปราศจากแสงสว่างทั้งปวง ทั้งตัวปราสาทกลับดำทมึนเสมือนอยู่ในหลุมลึกกลางหุบเขาที่แสงสว่างสาดส่องไปไม่ถึง ทั่วทั้งปราสาทนั้นตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นกายอันเน่าเหม็นของพวกเซอร์ซิลที่บัดนี้นั้นมันได้ละจากเทือกเขาโซดอมมาอาศัยอยู่ที่ชั้นใต้ดินของปราสาทและได้แพร่ขยายพันธุ์กันข้างล่างนั้นจนกลายเป็นกองทัพขนาดมโหฬารพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างตามแต่ซีเลซาร์จะบัญชา
“ไอ้พวกอมนุษย์เอเวอร์นอร์นั้นมันยังเหลือรอดอีกกี่ตัวนากูล”
ณ ชั้นสูงสุดของปราสาทซึ่งเป็นที่พำนักของกษัตริย์ซึ่งบัดนี้นั้นกำลังคับคั่งไปด้วยเหล่าบริวารที่จงรักภัคดีต่อพระองค์หรือจะพูดให้ถูกก็คือเกรงกลัวพระองค์นั่นเอง
“เท่าที่ทราบมาเวลานี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัวและไอ้พวกตัวที่เหลือรอดนั้นมันก็มีเวทย์มนต์ที่ใช้ตบตาพวกเซอร์ซิล และความเร็วที่ไม่ปรกติ ซึ่งนั่นทำให้มันเอาตัวรอดได้นายท่าน”
“งั้นเจ้าก็ส่งพวกวัลแคนไปล่าอีก และตบรางวัลให้พวกที่ล่าหัวเอลฟ์ได้จนพวกที่เหลืออยู่อยากที่จะเสี่ยงชีวิตไปล่าพวกมัน”
ผ้าคลุมสีดำสะบัดอย่างรุนแรงทันทีที่พระองค์ทรงตรัสจบ เหล่าบริวารที่คุกเข่าอยู่ข้างๆต่างสะดุ้งด้วยความหวาดกลัวจากรังสีแห่งความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาจากชายที่อยู่ภายใต้ถ้าคลุมนั้นๆ
“ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อ 16 ปีที่แล้วผ่านไปเผ่าเราก็ไม่ได้ออกล่าพวกเอลฟ์อีกเลย แต่ข้าคิดว่าบัดนี้คงถึงเวลาที่เผ่าเรา วัลแคนจะออกล่าอีกครั้งหนึ่งแล้วนายท่าน”
อิลซีเดอร์ผู้เป็นผู้นำแห่งวัลแคนเผ่าแห่งนักรบที่เคยแข็งแกร่งและมีศักดิศรีเมื่อสมัยที่บิดาของเขาปกครองแต่เดี๋ยวนี้นั้นกลับกลายเป็นนักล่าค่าหัวเพื่อแลกกับเงินไปเสียแล้วตั้งแต่เมื่อ อิลซีเดอร์ขึ้นมาเป็นผู้นำเผ่าแทนบิดาของเขาที่หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 20 ปีก่อน
“มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะสหายข้า เจ้าคงยังไม่ลืมบุญคุณของข้าในครั้งนั้นหรอก ใช่ไหม”
ซีเลซาร์กล่าวพร้อมกับเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของอิลซีเดอร์ เขาก้มหน้าและกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆแล้วพยัคหน้าอย่างช้าๆ ไม่กล้าสบตาต่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกับว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเป็นปีศาจเมดูซ่าที่จ้องหน้าแล้วจะตายในทันที
“แล้วพวกเอลฟ์เผ่าอีเดนล่ะนายท่าน ท่านจะให้ข้าทำยังไงกับพวกมัน”
นากูลถามขึ้น ความสนใจของชายที่อยู่ในผ้าคลุมสีดำเปลี่ยนไปจากอิลซีเดอร์ทันที จากนั้นก็ทรงเดินอย่างเชื่องช้ามาอยู่ตรงหน้าของผู้ที่เอ่ยถามออกมา
“นั่นสิๆเรายังเหลือพวกอีเดนอีกพวกนี่นาที่พวกเจ้าฆ่าไม่หมด”
แม้เป็นคำที่ดูธรรมดาๆที่คนพูดๆอย่างสบายๆแต่มันสามารถทำให้คนที่อยู่รอบๆขนหัวลุกเกลียวได้เลยทีเดียว
“เป็นความผิดของข้าเองนายท่านที่ ปล่อยปะละเลยกับพวกเซอร์ซิลจนเกินไปจนทำให้พวกมันแข็งข้อ แต่ตอนนี้ข้าสามารถคุมพวกมันได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว พวกมันจะทำตามทุกอย่างแม้แต่นายท่านจะสั่งให้พวกมันไปตาย”
“ฮ่าๆๆ นั่นนับเป็นข่าวดีเรื่องแรกของวันนี้สำหรับข้า แต่มันจะไม่ดีสำหรับพวกเจ้าแน่ถ้าเจ้าไม่รีบไปล่าพวกอมนุษย์ที่เหลือให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินของข้า ไป! ไปได้แล้ว”
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างรีบออกมาจากห้องโถงใหญ่ทันที ก่อนที่จะมีการตายเกิดขึ้นเพียงเพราะอารมณ์โกรธของผู้ที่เป็นดั่งนายเหนือหัวของพวกเขาเอง
T B C>>3
https://www.facebook.com/thebeginnnnnnn?ref=hl
อยากเห็นอิมเมจตัวละครเชิญเลยนะคะ
16 ปีผ่านไป
หลังจากที่เหตุการณ์ล่าล้างเผ่าเอลฟ์เอเวอร์นอร์ครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นนั้น เหล่าบรรดานักล่ารางวัลจากเผ่าวัลแคนคนอื่นๆที่ทราบข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนักล่า 100 คนที่ไปล่าพวกเอเวอร์นอร์ในครั้งนั้น ต่างก็ไม่มีใครที่จะกล้าออกตามล่าเหล่าเอลฟ์ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกเลย แต่มีหรือที่กษัตริย์จอมโฉดชั่วจะยอมให้เหล่าอมนุษย์ที่เหลืออยู่รอดไปได้อย่างสันติ ในเมื่อไม่มีนักล่ารางวัลที่คอยกำจัดเหล่าอมนุษย์ให้พระองค์แล้วทางเดียวทีเหลืออยู่ของพระองค์คือพวกเซอร์ซิลแห่งโซดอมมันไม่ใช่มนุษย์ไม่ใช่เอลฟ์และไม่ใช่พ่อมด แต่มันเป็นอสุระกายที่น่าเกียจน่ากลัว ผมยาวรกรุงรังยืนสองขาเหมือนคนแต่ทว่าทำตัวเหมือนสัตว์ กลิ่นกายของพวกมันนั้นว่ากันว่าเหม็นสาบเสมือนซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยตายไปแล้วเป็นพันๆปี แต่เมื่ออยู่ในตัวพวกมันนั้นกลับกลายเป็นเสมือนว่าซากเน่าเปื่อยที่เดินได้วิ่งได้ พวกมันมีเขี้ยวและเล็บที่แหลมคมใช้เสมือนดาบในการสู้รบ สิ่งเดียวที่จะควบคุมพวกนี้อยู่ก็คือเวทย์มนต์ของนากูล พ่อมดขาวผู้เปรียบเสมือนมือขวาของกษัตริย์ซีเลซาร์ผู้โฉดชั่ว
ท่ามกลางพระราชวังอันกว้างใหญ่แต่ทว่าปราศจากแสงสว่างทั้งปวง ทั้งตัวปราสาทกลับดำทมึนเสมือนอยู่ในหลุมลึกกลางหุบเขาที่แสงสว่างสาดส่องไปไม่ถึง ทั่วทั้งปราสาทนั้นตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นกายอันเน่าเหม็นของพวกเซอร์ซิลที่บัดนี้นั้นมันได้ละจากเทือกเขาโซดอมมาอาศัยอยู่ที่ชั้นใต้ดินของปราสาทและได้แพร่ขยายพันธุ์กันข้างล่างนั้นจนกลายเป็นกองทัพขนาดมโหฬารพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างตามแต่ซีเลซาร์จะบัญชา
“ไอ้พวกอมนุษย์เอเวอร์นอร์นั้นมันยังเหลือรอดอีกกี่ตัวนากูล”
ณ ชั้นสูงสุดของปราสาทซึ่งเป็นที่พำนักของกษัตริย์ซึ่งบัดนี้นั้นกำลังคับคั่งไปด้วยเหล่าบริวารที่จงรักภัคดีต่อพระองค์หรือจะพูดให้ถูกก็คือเกรงกลัวพระองค์นั่นเอง
“เท่าที่ทราบมาเวลานี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัวและไอ้พวกตัวที่เหลือรอดนั้นมันก็มีเวทย์มนต์ที่ใช้ตบตาพวกเซอร์ซิล และความเร็วที่ไม่ปรกติ ซึ่งนั่นทำให้มันเอาตัวรอดได้นายท่าน”
“งั้นเจ้าก็ส่งพวกวัลแคนไปล่าอีก และตบรางวัลให้พวกที่ล่าหัวเอลฟ์ได้จนพวกที่เหลืออยู่อยากที่จะเสี่ยงชีวิตไปล่าพวกมัน”
ผ้าคลุมสีดำสะบัดอย่างรุนแรงทันทีที่พระองค์ทรงตรัสจบ เหล่าบริวารที่คุกเข่าอยู่ข้างๆต่างสะดุ้งด้วยความหวาดกลัวจากรังสีแห่งความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาจากชายที่อยู่ภายใต้ถ้าคลุมนั้นๆ
“ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อ 16 ปีที่แล้วผ่านไปเผ่าเราก็ไม่ได้ออกล่าพวกเอลฟ์อีกเลย แต่ข้าคิดว่าบัดนี้คงถึงเวลาที่เผ่าเรา วัลแคนจะออกล่าอีกครั้งหนึ่งแล้วนายท่าน”
อิลซีเดอร์ผู้เป็นผู้นำแห่งวัลแคนเผ่าแห่งนักรบที่เคยแข็งแกร่งและมีศักดิศรีเมื่อสมัยที่บิดาของเขาปกครองแต่เดี๋ยวนี้นั้นกลับกลายเป็นนักล่าค่าหัวเพื่อแลกกับเงินไปเสียแล้วตั้งแต่เมื่อ อิลซีเดอร์ขึ้นมาเป็นผู้นำเผ่าแทนบิดาของเขาที่หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 20 ปีก่อน
“มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะสหายข้า เจ้าคงยังไม่ลืมบุญคุณของข้าในครั้งนั้นหรอก ใช่ไหม”
ซีเลซาร์กล่าวพร้อมกับเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของอิลซีเดอร์ เขาก้มหน้าและกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆแล้วพยัคหน้าอย่างช้าๆ ไม่กล้าสบตาต่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกับว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเป็นปีศาจเมดูซ่าที่จ้องหน้าแล้วจะตายในทันที
“แล้วพวกเอลฟ์เผ่าอีเดนล่ะนายท่าน ท่านจะให้ข้าทำยังไงกับพวกมัน”
นากูลถามขึ้น ความสนใจของชายที่อยู่ในผ้าคลุมสีดำเปลี่ยนไปจากอิลซีเดอร์ทันที จากนั้นก็ทรงเดินอย่างเชื่องช้ามาอยู่ตรงหน้าของผู้ที่เอ่ยถามออกมา
“นั่นสิๆเรายังเหลือพวกอีเดนอีกพวกนี่นาที่พวกเจ้าฆ่าไม่หมด”
แม้เป็นคำที่ดูธรรมดาๆที่คนพูดๆอย่างสบายๆแต่มันสามารถทำให้คนที่อยู่รอบๆขนหัวลุกเกลียวได้เลยทีเดียว
“เป็นความผิดของข้าเองนายท่านที่ ปล่อยปะละเลยกับพวกเซอร์ซิลจนเกินไปจนทำให้พวกมันแข็งข้อ แต่ตอนนี้ข้าสามารถคุมพวกมันได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว พวกมันจะทำตามทุกอย่างแม้แต่นายท่านจะสั่งให้พวกมันไปตาย”
“ฮ่าๆๆ นั่นนับเป็นข่าวดีเรื่องแรกของวันนี้สำหรับข้า แต่มันจะไม่ดีสำหรับพวกเจ้าแน่ถ้าเจ้าไม่รีบไปล่าพวกอมนุษย์ที่เหลือให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินของข้า ไป! ไปได้แล้ว”
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างรีบออกมาจากห้องโถงใหญ่ทันที ก่อนที่จะมีการตายเกิดขึ้นเพียงเพราะอารมณ์โกรธของผู้ที่เป็นดั่งนายเหนือหัวของพวกเขาเอง
T B C>>3
https://www.facebook.com/thebeginnnnnnn?ref=hl
อยากเห็นอิมเมจตัวละครเชิญเลยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ