เครื่องรางแห่งมนต์ตราพยากรณ์
9.6
เขียนโดย Daleeah
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.28 น.
9 ตอน
6 วิจารณ์
13.17K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ความไว้วางใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่5
ความไว้วางใจ
"อร๊ากกกกก สายแล้วๆ" ฉันตื่นขึ้นอย่างร้อนรนเพราะมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังเข็มยาวและเข็มสั้นชี้ให้เห็นว่าฉันตื่นสาย มากเนื่องจากวันนี้คือวันเผาศพของลุงพิชัย
"แย่แล้วฉันจะโดนตานั่นเชือดหรือเปล่าเนี่ย"
ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องรับแขก ภาพที่อยู่เบื้องหน้าทำให้ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"เธอสายนะ"
คำพูดสั้นๆจากปากชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยสูทสีดำสนิทที่นั่งจิบกาแฟยามเช้าอยู่บนโซฟาสุดหรูใช่เค้าคือเอสนั่นเอง
"ขอโทษค่ะ แล้วคนอื่นไปไหนหมดคะ"
"ไปกันหมดแล้วส่วนฉันจะรอไปพร้อมเธอไง"
ประโยคนี้เล่นเอาอึ้งไปเลยค่ะถึงแม้ว่าฉันยังคงจับต้นชนปลายกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้ก็ตาม ฉันกับเอสไปงานศพของลุงพิชัยพร้อมกัน ท่ามกลางสายตาของผู้คนในงานที่จับจ้องมาด้วยความแปลกใจ ลินดารีบวิ่งเข้ามาสวมกอดเอสผู้เป็นพี่ชาย ด้วยใบหน้าที่แสนจะมีความสุขทำเอาฉันอดปลื้มไม่ได้เลย ก็ฉันมันลูกโทนนี่นา เห็นพี่น้องรักกันก็เลยแอบอิจฉานิดๆ
"พี่ชายยอมออกมาข้างน้องแล้วลินดาดีใจที่สุดเลยค่ะ"
ลินดาพูดก่อนที่จะผละออกจากเอส หน้าตาของลินดาดูสดใสขึ้นมามาก ฉันเองที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆก็รู้สึกดีไปด้วย สักพักพีชก็เดินเข้ามาพาเอสไปทักทายกับแขกที่มาร่วมงาน ทุกสิ่งทุกอย่างดูเป็นปกติดี งานศพของลุงพิชัยดำเดินไปเรื่องจนถึงตอนฌาปนกิจ และแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยพี่เอสด้วย"
เสียงตะโกนที่สั่นเครือของลินดาดังขึ้นสร้างความตกใจให้กับแขกที่มาร่วมงานแม่แต่ฉันที่กำลังนั่งคุยกับแม่ก็พลอยตกใจไปด้วย แม่ของฉันเองก็มีสีหน้ากังวลใจไม่แพ้กัน
"เอลีฟไปดูพี่เค้าหน่อยสิลูกว่าเค้าเป็นอะไร"
"ค่ะๆ "
ฉันตอบรับคำของแม่ก่อนที่จะรีบวิ่งไปหาลินดา
"เกิดอะไรขึ้นคะคุณลินดา"
ลินดามองหน้าฉันด้วยน้ำตานองหน้าแต่ไม่ได้ตอบอะไร แต่ร่างที่ลินดาประคองอยู่นั้นกำลังซีดเผือดแสดงให้เห็นว่าเค้ากำลังทรมานอยู่มาก และเลือดก็ค่อยๆไหลออกจากจมูกของชายหนุ่มใบหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดทำเอาฉันรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
"เรียกรถพยาบาลหรือยังคะเดี๋ยวฉันโทรให้"
ฉันตั้งสติได้ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อโทรเรียกรถพยาบาล แต่ก้ถูกขัดขวางด้วยชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลัง
"ไม่ต้องโทรหรอกครับ ช่วยกันพยุงพี่ชายกลับบ้านดีกว่า"
ถึงแม้ฉันจะแปลกใจกับคำพูดของพีช แต่ฉันก็จำเป็นต้องทำตามคำขอของเค้า ฉัน พีชและลินดาช่วยกันประคองเอสไปที่รถโดยมีพ่อและแม่ของฉันตามกลับมาด้วย สีหน้าที่ดูเป็นกังวลและ ห่วงใยต่อเอสของคนบนรถได้แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แม่แต่ฉันเองก็ยังอดเป็นห่วงเอสไม่ได้
"คุณพ่อครับคุณแม่ครับ" คำพร่ำเพ้อถึงบุพการีที่ล่วงลับไปแล้วออกมาจากปากเอสเป็นระยะๆจนถึงบ้าน เราช่วยกันประคองเอสขึ้นไปที่ห้องของเขา ลินดาเช็ดตัวให้เอส สักพักเอสก็สงบเงียบลงก่อนที่จะหลับไป
"พวกเราลงไปคุยกันข้างล่างเถอะครับพี่เอสจะได้พักผ่อน"
พีชพูดขึ้นก่อนที่จะเดินไปที่ห้องรับแขกพวกเราทุกคนจึงเดินตามไป ฉัน นั่งพักผ่อนอยู่สักพัก พ่อแม่ของฉันก็ขอตัวกลับบ้าน
"พ่อกับแม่กลับก่อนนะลูกอยู่ที่นี่ตั้งใจทำงานนะแล้วอย่าลืมกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ้าง"
พ่อของฉันพูดขึ้น ฉันกอดพ่อลาพ่อกับแม่อยู่ซักพัก พีชกับลินดาก็เดินเข้ามา
"อาฝากเอลีฟด้วยนะ พีช หนูลินดา"
แม่ของฉันพูดขึ้น
"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับคุณอา"
พีชรับคำก่อนที่จะยกมือไหวพ่อกับแม่ของฉันพร้อมกับลินดา ฉันเองก็ไหว้ลาพ่อกับแม่เช่นเดียวกันก่อนที่ พ่อแม่ของฉันจะขึ้นรถไป ฉันยืนมองอยู่สักครู่จนรถของพ่อแม่ลับสายตาไปแล้วรีบเดินไปห้องรับแขกเพื่อถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเอส
"ขอโทษนะคะคุณพีชคุณลินดา ฉันต้องการที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณเอสคะทำไมคุณเอสถึงเป็นแบบนั้น เล่าให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ"
ฉันถามขึ้น
"ขอโทษด้วยนะครับคุณเอลีฟผมคงเล่าให้คุณฟังไม่ได้ คงต้องให้พี่ชายเป็นคนเล่าเองครับ เพราะคนที่จะรู้เรื่องนี้ ต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้เท่านั้นครับ"
"ฉันเข้าใจค่ะมันคงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากสินะคะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณเอลีฟ ลินดาเชื่อว่าพี่ชายจะต้องเล่าให้คุณฟังอย่างแน่นอนเพราะลินดาเองยังไว้ใจคุณเลย พี่ชายก็ต้องไว้ใจคุณเหมือนกัน"
ลินดาพูดขึ้นพร้อมกับกุมมือฉันไว้แน่น
"ใช่ครับผมเองก็ไว้ใจคุณเหมือนกัน" พีชพูดเสริม
"ขอบคุณนะคะคุณพีช คุณลินดาที่ไว้ใจฉัน"
"ถ้าอย่างนั้นลินดาขอเรียกคุณเอลีฟว่าพี่เอลีฟได้มั๊ยคะ ลินดาอยากมีพี่สาวแล้วอีกอย่างคุณเอลีฟก็อายุมากกว่าลินดาพ่อดีเป็นพี่สาวลินดานะคะ"
ลินดาพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน
"ได้สิคะ" ฉันพูดกและส่งยิ้มให้ลินดาโผเข้ากอดฉันทันที สีหน้าของลินดาดูสดใสขึ้นมาก
แต่ฉันเองก็ยังอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอสกันแน่ และเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว
บางทีความไว้วางใจก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในการที่คนเราจะเรียนรู้หรืออยู่ด้วยกันเรื่องบางเรื่องที่จะรับรู้และต้องเจอก็ต้องอาศัยความไว้วางใจเพื่อผ่านมันไปให้ได้ ยิ่งถ้าเป็นครอบครัวเดียวกันแต่ไม่มีความไว้วางใจกัน ครอบครัวนั้นก็คงจะไม่ใช่ครอบครัว
แล้วคุณหล่ะเอส คุณจะไว้วางใจที่บอกเรื่องราวของคุณให้ฉันฟังตอนไหน.......
<<<โปรดติดตามตอนต่อไป>>>
ความไว้วางใจ
"อร๊ากกกกก สายแล้วๆ" ฉันตื่นขึ้นอย่างร้อนรนเพราะมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังเข็มยาวและเข็มสั้นชี้ให้เห็นว่าฉันตื่นสาย มากเนื่องจากวันนี้คือวันเผาศพของลุงพิชัย
"แย่แล้วฉันจะโดนตานั่นเชือดหรือเปล่าเนี่ย"
ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องรับแขก ภาพที่อยู่เบื้องหน้าทำให้ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"เธอสายนะ"
คำพูดสั้นๆจากปากชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยสูทสีดำสนิทที่นั่งจิบกาแฟยามเช้าอยู่บนโซฟาสุดหรูใช่เค้าคือเอสนั่นเอง
"ขอโทษค่ะ แล้วคนอื่นไปไหนหมดคะ"
"ไปกันหมดแล้วส่วนฉันจะรอไปพร้อมเธอไง"
ประโยคนี้เล่นเอาอึ้งไปเลยค่ะถึงแม้ว่าฉันยังคงจับต้นชนปลายกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้ก็ตาม ฉันกับเอสไปงานศพของลุงพิชัยพร้อมกัน ท่ามกลางสายตาของผู้คนในงานที่จับจ้องมาด้วยความแปลกใจ ลินดารีบวิ่งเข้ามาสวมกอดเอสผู้เป็นพี่ชาย ด้วยใบหน้าที่แสนจะมีความสุขทำเอาฉันอดปลื้มไม่ได้เลย ก็ฉันมันลูกโทนนี่นา เห็นพี่น้องรักกันก็เลยแอบอิจฉานิดๆ
"พี่ชายยอมออกมาข้างน้องแล้วลินดาดีใจที่สุดเลยค่ะ"
ลินดาพูดก่อนที่จะผละออกจากเอส หน้าตาของลินดาดูสดใสขึ้นมามาก ฉันเองที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆก็รู้สึกดีไปด้วย สักพักพีชก็เดินเข้ามาพาเอสไปทักทายกับแขกที่มาร่วมงาน ทุกสิ่งทุกอย่างดูเป็นปกติดี งานศพของลุงพิชัยดำเดินไปเรื่องจนถึงตอนฌาปนกิจ และแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยพี่เอสด้วย"
เสียงตะโกนที่สั่นเครือของลินดาดังขึ้นสร้างความตกใจให้กับแขกที่มาร่วมงานแม่แต่ฉันที่กำลังนั่งคุยกับแม่ก็พลอยตกใจไปด้วย แม่ของฉันเองก็มีสีหน้ากังวลใจไม่แพ้กัน
"เอลีฟไปดูพี่เค้าหน่อยสิลูกว่าเค้าเป็นอะไร"
"ค่ะๆ "
ฉันตอบรับคำของแม่ก่อนที่จะรีบวิ่งไปหาลินดา
"เกิดอะไรขึ้นคะคุณลินดา"
ลินดามองหน้าฉันด้วยน้ำตานองหน้าแต่ไม่ได้ตอบอะไร แต่ร่างที่ลินดาประคองอยู่นั้นกำลังซีดเผือดแสดงให้เห็นว่าเค้ากำลังทรมานอยู่มาก และเลือดก็ค่อยๆไหลออกจากจมูกของชายหนุ่มใบหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดทำเอาฉันรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
"เรียกรถพยาบาลหรือยังคะเดี๋ยวฉันโทรให้"
ฉันตั้งสติได้ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อโทรเรียกรถพยาบาล แต่ก้ถูกขัดขวางด้วยชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลัง
"ไม่ต้องโทรหรอกครับ ช่วยกันพยุงพี่ชายกลับบ้านดีกว่า"
ถึงแม้ฉันจะแปลกใจกับคำพูดของพีช แต่ฉันก็จำเป็นต้องทำตามคำขอของเค้า ฉัน พีชและลินดาช่วยกันประคองเอสไปที่รถโดยมีพ่อและแม่ของฉันตามกลับมาด้วย สีหน้าที่ดูเป็นกังวลและ ห่วงใยต่อเอสของคนบนรถได้แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แม่แต่ฉันเองก็ยังอดเป็นห่วงเอสไม่ได้
"คุณพ่อครับคุณแม่ครับ" คำพร่ำเพ้อถึงบุพการีที่ล่วงลับไปแล้วออกมาจากปากเอสเป็นระยะๆจนถึงบ้าน เราช่วยกันประคองเอสขึ้นไปที่ห้องของเขา ลินดาเช็ดตัวให้เอส สักพักเอสก็สงบเงียบลงก่อนที่จะหลับไป
"พวกเราลงไปคุยกันข้างล่างเถอะครับพี่เอสจะได้พักผ่อน"
พีชพูดขึ้นก่อนที่จะเดินไปที่ห้องรับแขกพวกเราทุกคนจึงเดินตามไป ฉัน นั่งพักผ่อนอยู่สักพัก พ่อแม่ของฉันก็ขอตัวกลับบ้าน
"พ่อกับแม่กลับก่อนนะลูกอยู่ที่นี่ตั้งใจทำงานนะแล้วอย่าลืมกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ้าง"
พ่อของฉันพูดขึ้น ฉันกอดพ่อลาพ่อกับแม่อยู่ซักพัก พีชกับลินดาก็เดินเข้ามา
"อาฝากเอลีฟด้วยนะ พีช หนูลินดา"
แม่ของฉันพูดขึ้น
"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับคุณอา"
พีชรับคำก่อนที่จะยกมือไหวพ่อกับแม่ของฉันพร้อมกับลินดา ฉันเองก็ไหว้ลาพ่อกับแม่เช่นเดียวกันก่อนที่ พ่อแม่ของฉันจะขึ้นรถไป ฉันยืนมองอยู่สักครู่จนรถของพ่อแม่ลับสายตาไปแล้วรีบเดินไปห้องรับแขกเพื่อถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเอส
"ขอโทษนะคะคุณพีชคุณลินดา ฉันต้องการที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณเอสคะทำไมคุณเอสถึงเป็นแบบนั้น เล่าให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ"
ฉันถามขึ้น
"ขอโทษด้วยนะครับคุณเอลีฟผมคงเล่าให้คุณฟังไม่ได้ คงต้องให้พี่ชายเป็นคนเล่าเองครับ เพราะคนที่จะรู้เรื่องนี้ ต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้เท่านั้นครับ"
"ฉันเข้าใจค่ะมันคงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากสินะคะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณเอลีฟ ลินดาเชื่อว่าพี่ชายจะต้องเล่าให้คุณฟังอย่างแน่นอนเพราะลินดาเองยังไว้ใจคุณเลย พี่ชายก็ต้องไว้ใจคุณเหมือนกัน"
ลินดาพูดขึ้นพร้อมกับกุมมือฉันไว้แน่น
"ใช่ครับผมเองก็ไว้ใจคุณเหมือนกัน" พีชพูดเสริม
"ขอบคุณนะคะคุณพีช คุณลินดาที่ไว้ใจฉัน"
"ถ้าอย่างนั้นลินดาขอเรียกคุณเอลีฟว่าพี่เอลีฟได้มั๊ยคะ ลินดาอยากมีพี่สาวแล้วอีกอย่างคุณเอลีฟก็อายุมากกว่าลินดาพ่อดีเป็นพี่สาวลินดานะคะ"
ลินดาพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน
"ได้สิคะ" ฉันพูดกและส่งยิ้มให้ลินดาโผเข้ากอดฉันทันที สีหน้าของลินดาดูสดใสขึ้นมาก
แต่ฉันเองก็ยังอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอสกันแน่ และเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว
บางทีความไว้วางใจก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในการที่คนเราจะเรียนรู้หรืออยู่ด้วยกันเรื่องบางเรื่องที่จะรับรู้และต้องเจอก็ต้องอาศัยความไว้วางใจเพื่อผ่านมันไปให้ได้ ยิ่งถ้าเป็นครอบครัวเดียวกันแต่ไม่มีความไว้วางใจกัน ครอบครัวนั้นก็คงจะไม่ใช่ครอบครัว
แล้วคุณหล่ะเอส คุณจะไว้วางใจที่บอกเรื่องราวของคุณให้ฉันฟังตอนไหน.......
<<<โปรดติดตามตอนต่อไป>>>
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ