The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ

9.7

เขียนโดย winter

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.

  21 #
  7 วิจารณ์
  25.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) Chapter 11 ความสินหวัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
Chapter XI
ความสินหวัง
 
 “!!!ก็สวยดีนี่ และน่ากินยิ่งกว่าเดิมซะอีก ฮะๆๆๆๆ!!!”
                เสียงปริศนาที่พูดขัดขึ้นระหว่างบทสนทนาของฉันกับนายเก็น เป็นเสียงที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนักสำหรับฉันนะ แต่หมอนี่ไม่รู้จะกลัวหรือเปล่านะ
                แต่พอฉันมองออกไปภายในบ้านผีสิงก็ไม่พบร่างที่น่าสงสัยหรือต้นเสียงเลยแม้แต่เงา ภายในมีแต่โครงกระดูกปลอมและอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านผีสิงอีกมากมาย แต่ทันใดนั้น....
                 เคร้ง!!!
                เสียงอะไรบางอย่างที่น่าจะเป็นของแข็งจำพวกโลหะกระทบพื้น และเสียงของมันค่อยๆครูดและลากมากับพื้นอย่างน่ากลัว และที่ทำให้ฉันแทบจะลมใส่อีกก็คือร่างของหุ่นจัดแสดงที่เขาใช้เป็นศพในบ้านผีสิงค่อยๆลุกขึ้นมาทีละตัวๆฉันและนายเก็นค่อยๆร่นลอยหลังจนชิดกับกำแพง และในที่สุดฉันและนายเก็นก็ถูกพวกมันล้อมเอาไว้จนได้
                “เก็น เอาไงดี ฉันกลัว” ไม่กลัวก็บ้าแล้ว พวกนี่อย่างกับหุ่นผีสิงเลยอ่ะ
“หลบอยู่หลังฉันเอาไว้นะนามิ” นายเก็นพูด
                “แล้วนายจะทำยังไงล่ะ”
                “ฉันจะลองใช้ไอ้นั้นดูละนะ”
                ก็ก้าวออกไปด้านหน้าเล็กนายแล้วผสานมือแล้วพรึมพรำอะไรบางอย่าง แล้วมีแสงสีขาววูบวาบออกมาจากตัวเขา
                “เอาล่ะเจ้าพวกหุ่นเชิดปีศาจเตรียมตัวเป็นปุ๋ยผงได้เลย” แล้วนายเก็นก็หยิบอะไรบางอย่างจากในกระเป๋ากางเกงออกมา
                “แค่พวกไร้วิญญาณพวกนั้นแค่นี้คงถ่วงเวลาได้ล่ะมั้ง”
                สิ่งที่นายนั้นหยิบออกมาคือกระดาษทิชชูที่ได้รับแจกมาจากตรงประตูทางเข้าสวนสนุกเมื่อเช้า แล้วนายเก็นก็ดึงออกมาทีละแผ่นๆแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ อยากรู้จริงๆเลยหมอนี่จะทำอะไรนะ
                “เวทย์มนต์บทนี่สองร้อยหกสิบสองบรรทัดที่สี่สิบห้า เหล่าอัครสาวกทั้งสิบสอง จงแปลเปลี่ยนรูปลักษณ์แล้วทำลายปีศาจเสียให้สิ้น” นายนี่ใช้เวทย์มนต์ได้ด้วยเหรอ
                และกระดาษทิชชูพวกนั้นก็แปลสภาพเป็นนกกระดาษและลุกเผาไหม้เป็นไฟแล้วพุ่งตรงไปหาหุ่นพวกนั้น พวกมันพยายามปัดป้องจากการจิกตีของนกเวทย์มนต์พวกนั้นแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะนกน้อยพวกนั้นบินโฉบเฉี่ยวโจมตีเร็วมาก
                “สำเร็จ!!! สุดยอดเลยเก็น”
                “หึหึหึ ยังหรอกนั้นแค่ตัวล่อ” แค่ตัวล่อเหรองั้นเหรอ
                “นายจะทำอะไรอีกล่ะแค่นี้ก็ถ่วงเวลาให้หนีได้แล้วนะ”
                “เวทย์มนต์ทำลายล้างบทที่เก้าสิบบรรทัดแรก หนึ่งในห้าธาตุพื้นฐานที่ก่อตัวเป็นโลก เพลิงแห่งการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ เพลิงที่มอนพลังให้แก่ทุกสรรพสิ่ง และเพลิงที่ทำล้างทุกสรรพสิ่ง เพลิงที่อบอุ่นในกายเรา อัคคีที่ทำลายความมืดอันหนาวเหน็บ นามนั้นคือเพลิง จงมาเป็นพลังแก่ข้าผู้ใช้ นานแห่งพระเจ้า จงพิฆาตปีศาจให้หมดสิ้น”
                ทันใดนั้นก็เกิดเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่เผาผลาญหุ่นพวกนั้น และไม่เกินห้าวินาทีพวกนั้นก็เหลือแค่เถ้าถ่านอย่างที่นายเก็นพูดเอาไว้ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือใครเป็นคนบงการหุ่นพวกนี้กันนะ หลังจากหุ่นพวกนี้โดนเผาก็ไม่มีแม้แต่เงาของใครปรากฏตัวออกมาเลย
                “!!!หึ หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!”
                เสียงนี่อีกแล้วอยู่ไหนนะ ฉันกับนายเก็นพากันมองหาอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงของโลหะครูดกันพื้นและลากเป็นทางยาวมาเรื่อยๆจากความมืด และเสียงนั้นก็ใกล้เข้ามาหาฉันมากขึ้นๆ จะมีตัวอะไรโผล่ออกมาอีกล่ะเนี่ย!!!
                “เก่งมากเลยนะนาย ทำกำจัดหุ่นเชิดของฉันได้”
                เสียงนั้นเงียบลงและเผยโฉมของชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินถือเคียวคล้ายๆของยมทูตที่เคยเห็นในหนังสยองขวัญขนาดใหญ่เดินออกมาหาฉันกับนายเก็น เขาโยนเคียวนั้นทิ้งไปและเดินมาฉันเรื่อยๆ พอเดินมาถึงระยะที่มีแสงจากภายนอกส่องลอดเข้ามาเล็กน้อย ก็ทำให้ฉันเห็นใบหน้าเขาชัดขึ้น
                ผมสีดำเงางามยาวสวย จมูกโด่ง ปากสีชมพูราวกับปากผู้หญิง สเปกฉันเลย ตากลมโตสีฟ้าเข้มเหนือนยัยเรย์ เขาสวมเสื้อผ้าสีดำกับเสื้อคลุมยาวเท่ๆ เหมือนหลุดออกมาจากหนังสือนิยายแฟนตาซีเลยแหนะ ปีศาจนี่หล่ออย่างนี้ทุกคน(ตัว)ไหมนะถึงบุคลปริศนาตรงหน้าฉันจะยิ้มอย่างเป็นมิตรก็เหอะ แต่ก็แฝงความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวเอาไว้ด้วยนี่สิ นี่มันอะไรกัน?
                “หล่อชะมัดเลยแฮะ”
                “หืม…เธอว่าไงนะนามิ” อุ้ยตายล่ะ
               
 เผลอหลุดปากพูดลืมไปว่านายนี่อยู่ข่างๆฉันตายละหว่าเผลอพูดบ้าๆออกไปนายนี่ฉุนฉันแน่ๆเลย
          
“ป…เปล่า ไม่ได้พูดอะไร”
                “ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ฉันได้ยินนะ ตั้งแต่ ผมดำเงางามยาวสวยนั้นแล้วไอ้นี่มันหล่อกว่าฉันตรงไหน มันก็แค่รูปลักษณ์จำแลงเท่านั้นเองนะ ฉันนี่สิของจริงไม่มีแปลงกาย ฉันโกรธแล้วนะนามิ เธอไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเธอเลยเหรอ” นายนี่ขี้บ่นเหมือนผู้หญิงชะมัดเลย
                “จ้าๆ ฉันผิดไปแล้วขอโทษทีละกันฉันก็เผลอหลุดปาก ไม่สิ ต้องเผลอคิดซะมากกว่านายมันชอบเสียมารยาทอ่านใจฉันอยู่แล้วนี่ ชิ!!!”ฉันทำเป็นงอนนายนี่เล็กน้อย
          แต่พอหันไปมองบุคลที่นายเก็นและฉันคิดว่าน่าจะเป็นปีศาจตรงหน้าอีกครั้ง ก็รู้สึกแปลกประหลาดใจยิ่งกว่าเดิมทันที และชั่ววูบนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
 
                หมับ
                ชิ้ง
                ฉัวะ!!!
 
                “อ๊อก….นามิ…ทำไมเธอถึง” เสียงของนายเก็นร้องขึ้นไม่ดังนัก
                คมมีดพับขนาดเล็กกรีดฟันแหวกอากาศเข้าที่บริเวณท้องของนายเก็นจนถึงที่ไหล่เป็นทางยาว ถึงจะไม่ลึกเท่าไหลแต่เพราะคมมีดมันอาบยาพิษที่ใช้ฆ่าปีศาจของนายเรียวเอาไว้ เลยทำให้คนตรงหน้าล้มพับลงทันทีแต่ไม่ถึงกับตายในทันที
                นี่มันอะไรกันนายเก็น เอ่อ ไม่สิทำอะไรลงไปล่ะเนี่ย ฉันทำร้ายนายเก็นทำไมกัน นี่ มันอะไรกัน แล้วฉันหยิบมีดนี่ออกมาตอนไหนกันนะ แถมแขนขาหรือทั่วทั้งร่างฉันขยับตัวไม่ได้อย่างใจต้องการ แถมขยับเองได้อีกด้วย ตัวฉันเป็นอะไรกันนะ ร…หรือว่า
 
                ฝีมือหมอนั้น
 
                “ฮึ ฮึ ฮึ ไงล่ะสนุกไหมแม่สาวน้อย ได้เชือดคนรักของตนเอง” เสียงของชายคนนั้นพูดขึ้น เขาเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ และในที่สุดก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน “โทษทีนะคงสงสัยล่ะสิว่าทำไมเธอขยับไม่ได้ดั่งใจ และทำไมเธอถึงใช้มีดนั้นทำร้ายแฟนเธอ หึ หึ หึ” ชายคนนั้นลูบผมและหน้าฉันเล่น ทุกครั้งที่มือเขาลูบโดนผิวฉันมันให้ความรู้สึกเย็นเฉียบเหมือนโดนน้ำแข็งหรือของเย็นๆมาโดนหน้าฉัน น่ากลัวชะนัด จะร้องก็ร้องไม่ได้ จะขยับก็ขยับไม่ได้ เหมือนโดนเชือกที่มองไม่เห็นมัดไว้ทั่วร่างเลย
                “ถ้าไม่สังเกตดีๆเธอก็คงมองไม่เห็นหรอกนะ รอบๆตัวเธอน่ะ มีลวดเวทย์มนต์ของฉันพันธนาการเอาไว้อยู่ ตอนนี้เธอก็เป็นแค่ตุ๊กตาหุ่นเชิดของฉันเท่านั้นแหละ” ลวดเวทย์มนต์งั้นเหรอมิน่าล่ะ
                “แก….ใช้วิธีสกปรกที่สุด…ปล่อยนามินะไอ้ชั่ว” เสียงนายเก็นที่นอนคว่าหมดแรงเอ่ยขึ้น
         เพราะพิษบ้านั้นทำให้นายเก็นหมดแรงและทรมานจากผลของพิษ ถ้าหาทางช่วยไม่ทันล่ะก็มีหวังนายนี่ต้องตายแน่ๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!
                “เสียมารยาทนะคุณ กล้าดียังไงมาว่าผมเสียๆหายๆแบบนั้นละ” แล้วเขาก็เดินไปหานายเก็นแทน และทำท่าจะเตะแต่เขาหยุดเท้าเอาไว้
                “หึ หึ หึ ให้แฟนแกจัดการแกดีกว่าแฮะ” ว่าไงนะ!!!
 
                แย่ล่ะสิ ไม่นะฉันไม่ทำนะ แต่ร่างกายเจ้ากรรมมันดันขยับเดินเข้าไปหานายเก็นเอง และลงมือเตะ ร่างเขาไปเรื่อยๆจนนายเก็นร้องออกมาแต่เป็นเสียงที่เบามาก ฉันได้แต่ผืนตัวเองแต่ไม่เป็นผล ทำไงดีล่ะ หมดทางรอดแล้วเหรอเนี่ย!!!
                “ฮะ ฮ่า หมดฤทธิ์แล้วเหรอเจ้าลูกครึ่งใครใช้ให้พวกแกประมาทฉันกันเองล่ะ” แล้วเขาก็เดินเข้ามาหาฉันที่กำลังทำร้ายเก็นแบบไม่ได้ตั้งใจเพราะถูกมันเชิดเหมือนหุ่น “แค่นี้ก็เรียบร้อย ในที่สุดก็ถึงเวลาอาหารยามบ่ายที่วุ่นวายนิดๆแล้วสินะ ชิ เจ้าบ้าเฮลก็ดันถล่มข้างนอกซะเละเลยแย่จริงเลย เสียดายอาหารพวกนั้นชะมัด”
                ชีวิตฉันมาได้แค่นี้เองหรือนี่ อีกแค่สองอาทิตย์จะถึงวันเกิดฉันแล้วแท้ๆ ถ้าจะตายจริงๆขอตายวันนั้นจะดีกว่านะ ถึงจะเคืองเจ้าเรียวบ้าบอนั้นตอนบอว่าพวกมันจะมาล่าฉันตอนวันเกิดอายุครบ18ปี แต่ในใจลึกๆฉันอยากจะจัดวันเกิดกับเพื่อนๆและครอบครัวซะก่อน แต่ก็นะ ยังไงก็ต้องตายอยู่แล้วก็ขอตายแบบไม่เจ็บปวดหน่อยละกัน
                “โอ๊ะๆๆๆไม่ต้องร้องๆเจ็บไม่มากหรอกหรือไม่เจ็บเลยก็ว่าได้นะแม่สาวน้อย หึ หึ หึ”
                แล้วเจ้านั้นก็ค่อยกลายร่างกลายเป็นอสูรกายตัวสีดำตัวเท่าๆกับมนุษย์ทั่วไป แต่จะสูงกว่านิดหน่อย เขี้ยวสีขาวยาวและเล็บสียาว ขนของมันค่อยๆเป็นสีเงามันวาวสวยดีแฮะ แล้วมันก็ค่อยๆจับร่างฉันเข้ามาใกล้ๆแล้วทำท่าเหมือนจะงับคอฉัน ตัวฉันคงเนื้อหอมมากเลยสินะ ถึงได้มีแต่คนจ้องจะกิน หึ หึ ลาก่อนนะคะแม่ พี่ ยัยอากิ เรียว คุณซากุระ และก็…
 
                นายเก็น
 
                “แกน่ะ เอามือสกปรกออกจากตัวนามิเดี๋ยวนี้นะ” เสียงนี่มัน
                “อ๊ะ  แกยังไม่ตายอีกเหรอนี่ไอ้ลูกครึ่ง” ของนายเก็นนี่
                ฉันลืมตาขึ้นดูทันที จริงๆด้วยนายเก็นยังไม่ตาย เขาค่อยลุกขึ้นอย่างช้าๆ ร่างกายสั่นเทา แต่ที่น่าตกใจคือเมื่อสังเกตดูที่ดวงตาของเขาที่กลายเป็นสีน้ำเงินเข้มก็รู้สึกขนลุกยิ่งกว่ากำลังจะโดนเจ้าปีศาจตรงหน้าจะเขมือบซะอีก รอบๆตัวของเขามีแสงสีดำสนิดพวยพุ่งออกมา เวลาผ่านไปไม่กี่วินาทีก็ออกมาเรื่อยๆ แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าเมื่อปีศาจตรงหน้าพูดอะไรบางอย่างออกมา
 
                “อะไรเนี่ย!!พลังแบบนี้มันไม่ใช้พลังของพวกลูกครึ่งแล้วนี่”
                “แกกล้าดียังไง มาที่เอามือสกปรกของแกมาแตะต้องคนรักของฉัน” คน….รักเหรอ O////O
                “ซวยล่ะสิ ต้องรีบกินยัยนี่ซะแล้วสิ”
                หลังจากมันตลึงกับพลังที่มหาศาลของเก็นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมันก็หันมาสนใจฉันอีกจนได้ นายไม่ตายแล้วสินะ ดีแล้วล่ะเพราะฉันจะได้ไม่ลำบากใจที่เป็นต้นเหตุให้ใครตาย นายจะได้ยินที่ฉันคิดไหมน่ะเก็น ฉันก็ชอบนายเหมือนกันนะ
                จากนั้นภาพตรงหน้าก็ค่อยๆพล่ามัวลง ทุกที ทุกที ทุกที และ
 
                ตุบ
 
                “โอ๊ย!!!”
                ฉันร้องเสียงหลงทันที่ก้นฉันกระแทกกับพื้นแข็ง เจ็บชะมัดเลยอะไรเนี่ย ตอนนี้ฉันขยับตัวได้ถนัดเหมือนเดิมแล้ว ฉันลองมองไปรอบๆบริเวณ ก็พบกับผู้หญิงผมสีบลอนด์ยาวถึงเอว ขนตางอนยาว นัยน์ตาสีน้ำเงิน ปากสีแดงนิดๆ เอ๊ะ ยัยเรย์นี่
                “เรย์”
                “คะคุณพี่” ยัยเรย์ช่วยฉันไว้เหรอนี่ แต่….
          “    ยัยบ้า!!!ไม่ต้องมาคะมาขาเลยเธอไปอยู่ไหนมาเนี่ยรู้รึเปล่าฉันเกือบจะโดนเจ้าปีศาจตัวนั้นจับกินอยู่แล้วนะ!!!” ฉันตวาดยัยเรย์ไปแต่เธอกลับไม่สนใจมองไปที่ๆนายเก็นและปีศาจที่จะกินฉันนั้นตั้งท่าสู้กัน
                อ๊ะ!!!จริงสินายเก็นบาดเจ็บนี่แล้วจะสู้…
                “!!!อ๊าก...แก…มันตัวบ้าอะไรเนี่ย!!!!!”
                กรงเล็บสีขาวเหมือนกระดูกของนายเก็นได้ทะลวงร่างของปีศาจตนนั้น ทำให้มันร้องอย่างทรมานเพราะความเจ็บปวด แต่มันกลับไม่ตาย เพราะมันกระโดนถอยห่างจากนายเก็นออกมาได้ แหมอึดชะมัดเลยนะ
                “อึดใช้ได้เลยนี่แกน่ะ ดีแล้วล่ะอย่าพึ่งตายซะล่ะแก ฉันยังไม่ได้ทรมานแกเลยนะ ให้สาสมที่แกทำกับนามิเอาไว้”
 
                นายเก็นในตอนนี้ดูเอาโหดมากๆเลย ดูเหมือนอาการที่ทรมานกับพิษของเขาจะหายไปแล้วนะ แต่ที่น่าตกใจคือดวงตาที่ดุเป็นสีฟ้าเริ่มกลายเป็นสีแดง และผมสีน้ำตาลของเขาค่อยๆกลายเป็นสีขาวจนกลายเป็นสีเงินวาว ปีกสีเทาที่ไม่ได้เห็นมันอยู่พักใหญ่ ค่อยๆงอกออกจากด้านหลังเขา จนตอนนี้ปีกของเก็นกางออกกว้างยิ่งกว่าที่เคยเห็นตอนเขาป่วย เขากระพือปีกเบาๆหนึ่งครั้งก็เกิดลมกรรโชกแรงภายในบ้านผีสิงแห่งนี้ทันที
                “แย่ล่ะ บ้าชะมัดเลย ผมสีเงินแบบนี้มัน อ๊อก!! ถึงปีกนั้นไม่ได้เป็นสีดำก็ตาม แบบนี้มันคล้ายกับ ‘เทพปีศาจ’ ชัดๆเลย”
                “!!!แกต้องตายในสภาพที่ทรมานที่สุด!!!”
 
                นายเก็นในสภาพปีศาจร้ายตะโกนลั่น และพริบตาเดียวนายนั้นก็หายไป และปรากฏตัวด้านหลังปีศาจตนนั้นและจับร่างของมัน และฉีกออกเป็นชิ้นอย่างง่ายดายจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยที่มันไม่ทันจะร้องเพราะความเจ็บปวดเลยซักคำ พอเขาหยุดการกระทำได้ไม่ถึงห้าวินาทีร่างของปีศาจตนนั้นก็ค่อยๆสลายกลายเป็นผงหายไปในอากาศ เฮ้อ....รอดแล้วเรา
                “ยังคะ” ยัยเรย์พูดขึ้น
                “ยังอะไรอีกล่ะ ก็ปีศาจนั้นตายแล้วนี่” มีอะไรอีกล่ะเนี่ย
                “ก็คุณเก็นไงคะ ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพปีศาจ แถมสติสัมปชัญญะยะของเขาก็ยังค่อยๆถูกด้านมืดในตัวเขากลืนกินอยู่”
                “ว่าไงนะ แบบนี้เขาจะเป็นยังไงล่ะ เรย์บอกมานะ”
                “ถ้าไม่รีบดึงสติเขากลับมาไม่ทันการล่ะก็ เขาคงจะเอ่อ.....” เอออะไรอีกยะ
                “เขาจะเป็นยังไง”
                “โดนกลืนโดยสมบูรณ์ และทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ถ้าในตอนนี้ล่ะก็เขาจะยกเว้นคุณ เพราะจิตสำนึกของเขาก่อนเป็นแบบนี้ เขาคิดอยากจะช่วยคุณพี่ แต่....ไม่กี่อึดใจถ้าข้ามขั้นนั้นไปล่ะก็คุณพี่ก็คุณพี่เหอะ เขาฆ่าได้สบายเลยล่ะ”
                “แล้วทำยังไงล่ะถึงจะเรียกเขากลับมาได้”
                “มีวิธีเดียวคะ”
                “อะไรเหรอ”
                “ยื่นหูมาสิคะ” อะไรของยัยนี่อีกล่ะเนี่ยเรื่องมากจริง
 
                และฉันก็เอียงหน้าเข้าไปหายัยนั้น และพอยัยเรย์พูดวิธีที่จะช่วยนายเก็นออกมา ฉันก็แทบเก็บอาการเขินไม่อยู่เลยทันที จะให้ฉันทำอย่างนั้นจริงๆเหรอนี่ ฉันเป็นผู้หญิงนะ แถมไม่มีเวทย์มนต์ด้วยจะบ้าหรือเปล่า
                “ไม่เป็นปัญหาค่ะ”
                ยัยเรย์พูดจบ ก็ปรากฏแสงสีฟ้าเข้มเกือบๆน้ำเง็นรอบตัวเธอและ เรย์ก็กลายเป็นลูกไฟดวงไมใหญ่นักลอยอยู่ตรงหน้า และ เธอก็ลอยหายเขาไปในแหวนของฉันที่เป็นที่สถิตของเธอ
                “แค่นี้นายหญิงก็มีพลังที่จะช่วยคุณเก็นแล้ว พยายามเข้าใกล้เขาให้มากที่สุดและฉันจะบอกวิธีช่วยเขาเอง”
                “ได้เลย”
                ฉันวิ่งเข้าใสนายเก็นแบบตรงๆ เพราะตอนนี้นายนั้นยังอยู่ในสภาพที่สงบนิ่งแต่พลังที่เอ่อล้นออกมาตลอดเวลานี่ทำฉันขนลุกได้ตลอดเวลาเลยล่ะ
                พอถึงระยะห่างราวๆห้าเมตรนายนั้นเริ่มขยับทันที เขากระพือปีกสีเทาของเขาเล็กน้อยแต่พอให้เกิดลมพายุแรงพอที่จะพัดตัวฉันให้กระเด็นออกมาได้ ฉันพยามยามวิ่งเขาไปใกล้กว่านี้อีกครั้งแต่ก็ยังถูกลมนั้นซัดกระเด็นออกมาอยู่ดี เริ่มเหนื่อยแล้วสิ แรงกดดันที่รู้สึกได้เมื่อเข้าใกล้ตัวเขารุนแรงกว่าตอนอยู่ห่างตัวเขามากขึ้นทุกทีๆ ที่เข้าใกล้ เมื่อเข้าใกล้ก็ถูกพัดกระเด็นอยู่อย่างนั้นอยู่หลายรอบฉันเลยต้องถอยออกมาและยกแหวนที่นิ้วกลางขวาขึ้นแล้วถามยัยเรย์อีกครั้ง
                “เรย์ เอาไงดีเข้าใกล้ไม่ได้เลย แถมฉันเหนื่อยแล้วนะ”
                “ลองคิดดูสิว่าอยากใช้พลังแบบไหน เดี๋ยวฉันจัดการให้คะนายหญิง” ให้ลองคิดว่าจะใช้พลังแบบไหนเหรอ
 
                แล้วพลังแบบไหมดีล่ะ อืม ถึงนายเก็นจะไม่โจมตีฉันแค่ขยับปีพัดฉันกระเด็นตอนเข้าใกล้เท่านั้นก็ตาม แต่เห็นนายนั้นเงียบไปแล้วใจไม่ค่อยดีเลยนะ แค่จะเข้าใกล้ก็ยังยากเลย จะใช้เจ้านั้นเพื่อช่วยนายเก็นก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย โธ่โวย!!! คิดให้ออกสิจะเข้าใกล้นายนั้นต้องทำยังไงล่ะ
                “ต้องใช้ความเร็วมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า และเงียบที่สุด” ยัยเรย์ที่สถิตในแหวนเอ่ยขึ้น
                “รู้แล้วน่า!!! อ๊ะจริงสิเอาแบบนั้นล่ะกัน”
 
                ชั่วครู่ที่ยัยเรย์พูดแทรกเข้ามาในหัวฉัน ก็ทำให้ฉันคิดออกทันที
                “นี่เรย์เข้าใจที่ฉันดิดแล้วสินะ”
                “เข้าใจแล้วค่ะ นายหญิง”
                “ถ้าฉันพูดว่า ‘เวย์’ ‘สตรอม’ กับ ‘สไปรเลอร์’ เธอก็ทำแบบนั้นทันทีทุกครั้งตามที่ฉันคิดเอาไว้เลยนะ เข้าใจไหม”
                “ค่ะ นายหญิง”
 
                ฉันเริ่มเดินเข้าไปใกล้นายเก็นอีกครั้ง คราวนี้หวังว่าคงจะได้ผลล่ะนะ เอาไงเอากันสินามิ สู้ตายค่ะถึงหมอนี่จะชอบกวนประสาทชอบแกล้งชอบรังแกและก่อกวนยุ่งไม่เข้าเรื่องแส่ได้ทุกงานแต่ยังไงนายนี่ก็ เอ่อ...ก็ชอบฉันล่ะนะ ยุ่งล่ะความคิดของฉันทำฉันเสียสมาธิเป็นบ้าเลย เอาเป็นว่านายนี่เป็นแฟนคลับฉันละกัน เฮ้อ....ต้องคิดแบบนี้สิถึงค่อยโล่งหัวสมองหน่อย เอาล่ะ
                “!!!เรย์ เวย์!!!”
 
                พูดจบก็เกิดลูกศรสีขาวตรงพื้นตรงหน้าฉันทันที  พอฉันกระโดเข้าไปในใจกลางของลูกศรนั้นก็เกิดแรงผลักมหาศาล ผลักร่างฉันไปในทิศทางของลูกศรนั้น ความเร็วของมันถ้ายัยเรย์ทำแบบที่ฉันคิดแบบสมบูรณ์แบบล่ะก็ มัมก็ราวๆเกือบร้อยไมล์ต่อชั่วโมงล่ะนะ ตอนนี้ฉันพุ่งเข้าไปหานายเก็นด้วยความเร็วสูง และตามคาดการเอาไว้ นายนั้นต้องสวนกลับแน่ๆแต่คราวนี้นายเก็นสลัดปีกของเขาเบาพอที่ขนของปีกล่วง แต่มันไม่ได้ล่วงลงที่พื้นนะ มันกลายเป็นใบมีดสีเทาพุ่งมาหาฉันแทนอะดิ ไม่ได้การล่ะ
                “!!!ดับเบิ้ลเวย์!!!”
 
                ลูกศรแบบเมื่อครู่ปรากฏขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้มีสองอัน ลูกศรอันแรกฉันสร้าง(โดยยัยเรย์)เพื่อใช้หลบใบมีดพวกนั้นที่พุ่งมา ส่วนอีกลูกฉันใช้เพื่ออ้อมไปด้านหลังของนายเก็น
          แต่นายบ้าเก็นดันรู้ทันที่ฉันอ้อมไปด้านหลัง ถึงเวย์ที่สร้างมัมจะเร็วมากแต่สำหรับปีศาจอาจช้าก็เป็นได้ เพราะนายเก็นสะบัดปีกแรงกว่าเดิมและมีใบมีดสีเทาที่เกิดจากขนปีกนั่นมากับลมนั้นด้วย แย่ล่ะสิ
                “!!!เรย์ สตรอม!!!”
 
                ลูกศรสีขาวขนาดเล็กจำนวนมาก บิดเป็นเกรียวห่อหุ้มร่างกายฉันเอาไว้จากใบมีดและลมกรรโชกนั้นเอาไว้ได้ทันการ ดีนะที่คิดท่านี้ไว้กรณีฉุกเฉิน ช่วยได้มากจริงๆพลังขอยัยเรย์ ถ้าไม่มีพลังของยัยนี่ล่ะก็คิดสภาพไม่ออกเลยจริงๆว่าจะเป็นยังไง เมื่อโดนมีดบินพวกนั้นทะลวงร่าง แต่ตอนนี้ได้โอกาสแล้ว
                “!!!เวย์!!!”
 
                ฉันใช้เวย์ในการเคลื่อนที่อีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันใช้มันอ้อมไปข้างหลังนายเก็น และใช้แขนทั้งสองข้างของฉันกอดเขาไว้จากด้านหลัง และก็
                “!!!เรย์ สไปรเลอร์!!!
 
                ฉันพูดประโยคที่ฉันย้ำกับยัยเรย์นักหนาว่า ต้องสร้างให้แน่นหนาที่สุด สไปรเลอร์เป็นท่าพันธนาการด้วยลูกศรสีขาวจำนวนมาก พันร่างฉันกับนายเก็นเอาไว้จนแน่นแทบหายใจไม่ออก คราวนี้นายเก็นก็ขัดขืนและโจมตีฉันไม่ได้แล้วสินะ
                “เอาล่ะนายหญิง รีบพูดประโยดต่อไปนี้ด้วยค่ะ พูดตามนะคะ” ยัยเรย์ที่สถิตอยู่ในแหวนพูดขึ้น
                “อืม เอาเลย!!”
 
                ถึงเป็นคำพูดที่น่าอายและให้ตะโกนดังๆก็เหอะแต่ฉันก็ต้องพูดล่ะนะ เพื่อดึงเอาสติของนายบ้านี่กลับมา สู้เว้ย!!!
 
         
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา