Herry Up!!! รีบหน่อยครับนักเรียน(นักเลง)อย่างผมกำลังมา

-

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.29 น.

  1 chapter
  6 วิจารณ์
  11.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) >>นักเรียนบาดเจ็บ<<

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“ป ปล่อยผมเถอะครับ ผ ผมขอโทษ”ผมยกมือไหว้ไอ้ทิว ไอ้อันธพาลประจำห้องผมอย่างเซ็งๆ ผมเดินเพื่อกลับโต๊ะหลังจากที่ต่อแถวซื้อข้าวเป็นเวลานานอยู่ดีๆ ไอ่ทิวก็เอาขามาขวางทำให้จานข้าวที่ผมซื้อมาหวังจะกินคว่ำทันที แต่ว่ามันคงดีไม่น้อยถ้าจานข้าวไม่คว่ำใส่ไอ่เชี่ยทิวเลยทำให้ผมต้องยกมือไหว้ขอโทษมันก่อนที่ปัญหาจะเกิดทีหลัง แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว
 
“ขอโทษหรอ มึงบอกว่าขอโทษหรอ หา!!!! ไอ่ตุ๊ดแว่น!!!”
 
อยากจะตะโกนกลับไปจริงๆว่าหูมึงหนวกหรอว่ะ ไอ่เหี้ย!!!!
 
“ฮึ่ย!!!พอดีเลยพรุ่งนี้ก็ปิดเทอมแล้ว กูคงไม่มีคนให้ซ้อมแน่”มันพูดแล้วแสยะยิ้มให้ผม ผมว่าผมเหมือนจะเห็นลางหายนะอยู่กรายๆ
 
“วันนี้มึงเป็นกระสอบทรายให้กูหน่อยละกัน ไอ่ตุ๊ด!!!!!!!”
 
กูชื่อเจทครับ ไม่ใช่ตุ๊ด ไม่ใช่แว่น แล้วก็ไม่ใช่ตุ๊ดแว่นด้วย ทำไมไม่มีใครจำชื่อกูได้เลยซักคนฟะTOT
 
            ตุ๊บ!!!!
 
“โอ๊ย!!”ผมร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่ไอ่ทิวจับคอเสื้อผมแล้วเหวี่ยงอย่างแรงจนหัวผมกระแทกกับเก้าอี้ กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งอย่างรุนแรง รับรู้ได้ถึงสิ่งที่เปียกบริเวณหัว ผมคาดว่าหัวผมคงแตก
 
ผมมองหน้ามันอย่างหงุดหงิด ผมนึกว่าไอ่ทิวมันจะหยุดที่เห็นผมหัวแตกแต่ที่ไหนได้มันกับต่อยหน้าผมทำให้แว่นที่ใส่อยู่กระเด็นไปหลายเมตรเลยทีเดียว ผมเงยหน้ามองมันอีกครั้งด้วยความโกรธที่ทวีความรุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม
 
            “มึงมองกูทำไมอยากโดนรึไง เฮ้ย!!พวกมึงเอามันไปซ้อมซิ”มันหันไปสั่งลูกน้องของมันก่อนที่จะเหวี่ยงผมไปกลางวงล้อมของไอ่พวกลูกกระจ๊อกที่แสยะยิ้มชั่วรอกระทืบผมจนตัวสั่น
 
            “อั่ก”ผมพยายามกลั้นเสียงร้องไว้อย่างสุดความสามารถ ในขณะที่ลูกน้องของไอ่ทิวก็รุมกระทืบผมอย่างสะใจ
 
            ทุกครั้งที่ผมโดนกลั่นแกล้ง ผมคิดเสมอว่าทำไมพระเจ้าช่างโหดร้ายอย่างนี้ทำไมผมถึงไม่มีความกล้ามากกว่านี้นะ อยากจะสู้อยากจะตอบโต้แต่ไม่สามารถที่จะทำได้ ทำไมผมถึงไม่มีกำลังมากพอที่จะสู้กับพวกมัน ผมทำอะไรผิดครับ
 
            ผมเหลือบไปเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่ผมเรียกว่า ‘เพื่อน’ พวกนั้นมองผมด้วยสายตาสมเพช ทุกสายตาที่มองผมมันเต็มไปด้วยความสะใจ พวกเขาไม่คิดแม้แต่จะช่วยผม
 
แน่ละใครจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนจริงไหม?
 
                        น่าสมเพชจริงๆนั่นแหละ
 
            “หึ หึหึหึ หึ หึ ฮ่ะๆ ฮ่าๆๆๆ”ผมหัวเราะเยาะให้กับความอ่อนแอของตัวเองโดยไม่สนใจกับสายตาที่มองมา เพียงชั่ววินาทีความคิดหนึ่งก็ปราดเข้ามา ‘อยากกระทืบมัน’ แต่ก็แค่พริบตาเดียวเท่านั้นความคิดก็หายไป ผมมองไปรอบๆโรงอาหาร ในขณะที่ลูกน้องของไอ่ทิวก็เริ่มสังเกตอาการผิดปกติของผมได้แล้วเริ่มถอยห่าง
 
                        เอาอีกสิ สายตาแบบนั้น สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
 
                        ทำให้ผมเห็นอีกสิครับ หน้ากากที่พวกคุณใส่อยู่
 
            “พ พี่ทิวครับ ไอ่แว่นมันเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ มันหัวเราะไม่หยุดเลย”
 
            “กูจะไปรู้หรอ ทิ้งแม่งไว้นี่แหละ เฮ้ยกลับ!!!”มันหันไปสั่งลูกน้องของมันก่อนจะเดินออกจากโรงอาหารไปโดยไม่หันกลับมามองผม
 
            ผมมองภาพมันเดินจากไปด้วยสายตาพร่าเลือนก่อนสติสัมปชัญญะของผมจะดับวูบลง แล้วผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
 
 
                        {Jay:Talk}
 
            “พ่อจะย้ายน้องไปอยู่โรงเรียนอื่น!!!!!!”
 
            ผมมองพ่อที่ตวาดใส่ผมอย่างเย็นชา หลังจากที่พวกเราทั้งสองคนรู้เรื่องที่ไอ้เจทโดนซ้อม พวกเราก็รีบบึ่งรถมาที่โรงพยาบาลทันที ผมเห็นสภาพน้องผมครั้งแรกบอกได้เลยว่า ‘น้องกูแม่งอนาถจริง’
 
            “แล้วพ่อจะย้ายมันไปอยู่ที่ไหน ตราบใดที่ไอ้เจทมันไม่สู้คนอย่างนี้ แม่งก็โดนซ้อมเหมือนเดิม นี่เราย้ายมันมา 9 โรงเรียนแล้วนะพ่อ”
 
            “ทำไมไอ้เจทมันไม่เป็นผู้หญิงเลยว่ะ กูเครียด!!!”นั่นไง พ่อผมน็อตหลุดเรียบร้อยแล้ว
 
            “เจย์ถ้าพ่อจะย้ายน้องไปอยู่กับแก แกจะว่า...”
 
            “ขอปฏิเสธ!!!!!”ผมพูดแทรกทันทีก่อนที่พ่อจะพูดจบประโยค ไม่ใช่ผมรังเกียจอะไรน้องตัวเองหรอกนะแต่เพื่อความปลอดภัยของมัน ต่อให้มีผมคุ้มกะลาหัว แต่ถ้ามันยังทำตัวแบบนี้ก็เปล่าประโยชน์เลยครับ แล้วยิ่งย้ายไปโรงเรียนผมยิ่งเจ็บหนัก
 
                        เถื่อนทุกคน ตีกันเป็นชีวิตประจำวัน-_-
 
            “ทำไม?”
 
            “พ่อก็น่าจะรู้ว่าทำไม เซนต์ราฟาเอลเถื่อนจะตาย ถ้าจะย้ายนะ ผมว่าให้มันเข้าเซนต์เดวิล ยังดูปลอดภัยกว่าเยอะเลย”
 
            เหมือนคำพูดผมจะไปสะกิดต่อมความคิดของท่านพ่อให้ทำงาน
 
            “งั้นพ่อจะย้ายเจทเข้าเซนต์เดวิล”
 
            “=o=”
                        ฉิบหายเลยน้องกู
 
            “ตามใจพ่อละกัน”
 
            ถ้าพ่ออยากให้น้องเราจบชีวิตด้วยอายุเพียง 15 ปี=_= แต่ก็ทำได้เพียงพูดในใจเพราะถ้าหากขัดท่านพ่อแม้แต่นิดเดียวเดี๋ยวจะไม่มีตังค์ใช้
 
            “เจย์พ่อฝากดูแลน้องด้วยนะ เรามีกันอยู่แค่3คน ถ้าเจทเป็นอะไร พ่อจะเอาหน้าไปหาแม่บนสวรรค์ได้ยังไง”
 
                        ก็เอาไปแบบที่เคยเอาไปแหละฮะพ่อ= =^
 
            “ครับๆ”
 
            พ่อผมเดินออกจากห้องไปหลังจากที่ผมพูดจบ ผมมองหน้าไอ่เจทที่มีผ้าพันแผลและรอยฟกช้ำอยู่ตามใบหน้าและร่างกายอย่างหนักใจ ปิดเทอมคงไม่ต้องให้มันไปเรียนพิเศษแล้วมั้ง สงสัยคงต้องเทรนวิธีการต่อสู้ให้มันซักหน่อย งานหนักแน่ๆเลยตรู
 
 
                        {Jet:Talk}
 
            ผมลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เพราะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่บอกได้เลยว่า ‘โคตรน่ารำคาญ’
           
 
ผมมองไปรอบๆ อย่างประมวลผล ผมจำได้ว่าครั้งสุดท้าย ผมเห็นไอ่ทิวเดินจากไปก่อนที่ทุกอย่างจะมืดไปหมด ผมคาดว่าผมคงจะสลบและมีคนใจดีส่งผมเข้าโรงพยาบาลแน่ๆ
 
 
            ‘You Win!!!!!’
 
 
            ผมหันไปมองข้างเตียงทันที หลังจากได้ยินเสียงเกมส์ PSP
           
 
            “โว้ยยยยยยย ชนะอีกแล้ว เมื่อไหร่กูจะแพ้ซักทีว่ะ ไอ้เกมส์ห่วยแตก กูซื้อมาเล่นแมร่งชนะตลอด มึงโกงกูป่ะเนี่ย!!!!”
 
 
            กูว่ามึงนั่นแหละโกงมัน ไอ้เชี่ยพี่เจย์-__-
 
 
            “ประสาท”ผมพูดออกไปเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นไอ้เจย์ที่ได้ยิน หูมันกางเรดาร์เสือกไว้เสมอหายห่วงเถอะครับ
           
 
“ไอ้เจท มึงนี่เอาอีกแล้วนะ โดนตีนมาอีกแล้ว บลาๆๆๆ”วิ่งมาเกาะขอบเตียงผมแล้วก็เริ่มเทศน์
 
 
“ช่างเถอะชินแล้ว”
 
 
“ชินเหี้ยไร...กูจะเทรนมึง มึงไม่ต้องมองหน้ากูเหมือนหมางง กูจะเปลี่ยนมึงเป็นคนใหม่ เพื่อต้อนรับโรงเรียนใหม่ กร๊ากกกกกกกกกกกก”
 
 
หมางง? กูทำหน้าแบบนั้นตอนไหนวะ-o-
 
 
“เดี๋ยวๆ เพื่อต้อนรับโรงเรียนใหม่อย่าบอก นะว่า...”
 
 
 
 
“อย่างที่คิดเลยน้องรัก ป๋าจะย้ายมึงไปเข้าเซนส์เดวิลที่เถื่อนพอๆ กับเซนส์ราฟาเอล”
 
 
“ไหนบอกว่าเซนส์เดวิลเถื่อนน้อยกว่าไง”
 
 
“ใครจะไปยอโรงเรียนคนอื่นวะ ไอ้โง่”
 
 
พี่กูแมร่งบ้าว่ะ= =^
 
 
            “จะทำอะไรก็ทำเถอะ แต่อย่าให้กระทบกับการเรียนของผมก็พอ”
 
 
            “ไม่กระทบหรอกน้องรัก แค่เอ็งจะไม่ได้ไปเรียนพอเศษช่วงปิดเทอมแค่นั้นเอ๊ง~”
 
 
            นั่นแหละที่เรียกว่ากระทบกับการเรียนกูเต็มๆ เลยครับพี่ชาย= =^
 
 
            “ขอปฏิเสธ ถ้าเกรดผมตกจะทำยังไง”
 
 
            “เกรดมึงช่วยมึงเวลาโดนตีนมั้ย?”
 
 
            ตอบได้ทันทีไม่ต้องคิดเลยว่า “ไม่”
 
 
            “ก็แค่นั้น กูก็เลยต้องเทรนมึงช่วงปิดเทอม อ๊ะอ๊ะ อย่าเถียงมึงเป็นน้องมีหน้าที่ทำตามคำสั่ง จบ!!!”
 
 
            ไอ้ฮิตเลอร์!!!!!!
 
 
            หลังจากที่ผมต้องนอนในโรงพยาบาลถึง 3 วัน 3 คืน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ผมได้ออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้านอันแสนสุข
 
 
 
            แต่ในขณะที่ผมกำลังจะเดินขึ้นห้อง ก็มีมือปริศนาดึงคอเสื้อผมจากทางด้านหลังแล้วฉุดกระชากลากถูผมจนมาหยุดอยู่สถานที่ต้องห้ามบริเวณบ้านผมที่ผมไม่เคยคิดที่จะเข้ามาเหยียบแม้แต่ครั้งเดียว
 
 
 
            ‘โรงยิมฝึกการต่อสู้’
 
 
 
            อันที่จริงบ้านผมก็รวยอยู่มากพอสมควร ผมขอบอกความลับอย่างหนึ่งที่จริงบ้านผมสร้างทับโรงเรียน เลยมีโรงยิมที่ยังไม่ได้ทุบอยู่ แล้วอาณาเขตของบ้านมันก็กว้างมากจนครอบคลุมไปถึงโรงยิมแห่งนี้ ท่านพี่เจย์ก็เลยโมดิฟาย์ใหม่จนกลายเป็นโรงยิมฝึกการต่อสู้ของพี่แกไปโดยปริยาย
 
 
            ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ลากตูมาที่นี่ทำไม?
 
 
            ตุ๊บ!!!
 
 
            “โอ๊ย!!!!!! ทำบ้าอะไรของเฮียเนี่ย ผมพึ่งออกจากโรงพยาบาลนะ!!!”ผมร้องโอดโอยหลังจากที่ไอ้เฮียเจย์ มันบ้าเหวี่ยงผมจนไถลไปกับพื้นโรงยิมหลายเมตร
 
 
 
            “กูจะเทรนมึงตั้งแต่วันนี้ ลุกขึ้นมาเจท แล้วลองต่อยกูดิ๊”
 
 
 
            ผมลุกขึ้นก่อนจะมองหน้าเฮียที่ทำหน้าตายใส่ผมอย่างฉงน ต่อยเลยหรอ นี่กูได้รับสิทธิพิเศษต่อยเฮียเลยเรอะ OMG!!!!!
 
 
 
            “ต่อยดิ ยืนบื้ออยู่ได้ แรงๆ นะเว้ย”
 
 
 
            แรงๆ เลยเรอะ
 
 
 
            “ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก”
 
 
 
            หมับ
 
 
 
            “หมัดโคตรเบาเลย นี่มึงแดกข้าวหรือแดกรำข้าววะ เบาไม่พอยังช้าซะจนเต่าต่อยยังชนะ นี่มึงเป็นน้องกูแน่หรอวะเนี่ย”
 
 
 
            กูไม่ได้แดกรำข้าวเฟ้ย-__- กูยอมรับว่ากูต่อยหมัดช้าแถมเบา แต่คุณมึงช่วยปล่อยมือที่กำหมัดกูก่อนได้ป่ะ ไอ้ความรู้สึกชวนสะพรึงสยดสยองกับบรรยากาศสีม่วงที่ลอยอบอวลนี่มันคืออะไรกันฟะ แถวนี้มีคนบ้า Y ด้วยเรอะ = =^
 
 
 
            “หยุดด่ากูในใจได้แล้วเจท”
 
 
 
            “....”
 
 
 
            “ในเมื่อโจมตีห่วยแตก คงต้องพึ่งการหลบหลีก ประสาทสัมผัส และการประมวลผลจากสมองที่ดูจะฉลาดของมึง ให้เล็งจุดอ่อนของศัตรูให้จบเร็วๆ ดีกว่า”
 
 
 
            ที่ดูเหมือนจะฉลาดเหรอ??=o=
 
 
 
            “เออๆ ว่าไงว่าตามกัน”
 
 
 
            “งั้นก็ดี”
 
 
 
            แก๊ง     แก๊ง
 
 
 
            เฮือกกกกกกกกกก
 
 
 
            “น หนัก”ผมพึมพำออกมาเบาๆ หลังจากที่ไอ้คุณเฮียเอาเหล็กที่เหมือนปอกแขนมาล็อคแขนและขาผมไว้อย่างละข้าง ผมว่าผมเห็นรอยยิ้มมุมปากที่เกิดจากความสะใจเล็กๆ อยู่บนใบหน้าไอ้เฮียสารเลวด้วยนะ
 
 
            “แหงล่ะ มันหนักข้างละ 5 กก. เลยนะ มึงต้องใส่ไว้ตลอดช่วงปิดเทอม ห้ามถอดเด็ดขาด!!!”
 
 
 
            เจย์ครับ มึงแค้นอะไรกูรึเปล่าTOT
 
 
 
            “ไปไป ไปวิ่งอ้อมบ้าน 20 รอบปฏิบัติ!!!!!!!!”
 
           
 
กูไม่ปายยยยยยยยยย ไม่อาวววววววววววววว ช่วยด้วยยยยยยยยยย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา