อุ่นรักรสซ่า
-
เขียนโดย อนันโย
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.45 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
7,372 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเวลากิจกรรมการอยู่ค่ายฝึกฝนตนเอง อาจารย์ประกาศให้นักศึกษาทุกคนนั่งเรียงตามเลขที่แล้วแบ่งออกเป็นกลุ่มๆล่ะ 5 คนให้ได้ 8 กลุ่ม อรอยู่ในกลุ่มที่ 7 มีผู้ชายทั้งหมด 4 คนเธอจึงเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่ม
แม้เธอจะดีใจที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ แต่มันก็ทำให้เธอตะขิดตะขวงใจเพราะทั้ง 4 คนดูเหมือนจะใช่กลุ่มที่ต่อว่าเธออยู่เมื่อช่วงพักกินข้าว เธอจึงทำใจดีสู้ฉีกยิ้มแบบแปลกพิกลเมื่อมองหน้าพวกเขาเต็มตา
“เธอชื่ออะไร”
เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ด้านซ้ายมือเธอถามขึ้น อรมองใบหน้าขาวเรียวดวงตาตี่เล็กเหมือนคนจีนของเขานิ่ง แล้วปั้นยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นก่อนตอบ
“อรธิวา เรียกอรเฉยๆก็ได้”
“เราชื่อ ณรงค์ เรียกเรานนท์ก็แล้วกัน”
“นนท์เหรอ ทำไมไม่ใช้ นะ หรือ รงค์ ล่ะ”
เธอถามอย่างสงสัย
“อรถามเหมือนเราเลย เราชื่อ บอย”
ผู้ชายอีกคนที่นั่งตรงข้ามเธอเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี โดยเฉพาะดวงตาที่ฉายความขี้เล่นในนั้นทำให้เธอส่งยิ้มกว้างตอบรับไมตรี
“ส่วนเราชื่อ ชล”
อรหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆบอยแล้วผงกหัวยิ้มให้
“เราโอ๊ค”
เสียงทุ้มไม่ดังนักของคนนั่งตัวตรงทางขวามือบอยจ้องตาเธอนิ่ง อรก็ยิ้มสู้แม้ในใจจะคิดว่าจะจ้องหน้าทำไมนักหนาก็ตาม โดยรวมแล้วทั้งหมดดูน่าคบกว่าที่คิดเธอจึงสบายใจไปเปาะหนึ่ง
เพื่อนยิ่งมีน้อยอยู่ เอาฟะ เป็นเพื่อนกับพวกผู้ชายไปก่อนแล้วค่อยหาเพื่อนสนิทผู้หญิงก็แล้วกัน
อรยิ้มกริ่ม จนพวกเขามองหน้ากัน เธอจึงรีบนำสติออกจากมโนภาพเพื่อนผู้หญิงในจิตนาการโดยพลันแล้วแก้เขินหัวเราะเปลี่ยนเรื่องทันที
จากความที่เธอมีนิสัยส่วนตัวที่ประหลาดแต่ตลกจึงทำให้พวกเขาแกล้งอำเธอเล่นอยู่ตลอดเวลาและเธอก็หลงเชื่ออย่างคนซื่อทุกครั้งทำให้เธอกลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
และนั้นทำให้เธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งๆทีเจ้าตัวยังไม่รู้จักใครนอกจากคนในกลุ่มแต่เพื่อนต่างคณะหลายคนกับรู้จักเธอ บ่อยครั้งที่เธอเดินผ่านพวกเขามักถูกเรียกอย่างสนิทและทุกครั้งเธอมักยิ้มตอบรับพวกเขาพร้อมกับทำหน้าประหลาดใจและบ่นออกมาเบาๆว่า “ใครกันเราไม่เห็นรู้จักเลย”
ในวันที่ 2 ของช่วงพักรับประทานอาหารเย็น อาจารย์ให้จัดแถวใหม่โดยมีพี่ๆจากชั้นที่สูงกว่าเข้ามาด้วย ทุกคนแต่งชุดไปเวททำให้อรดูไม่รู้ว่าใครเป็นรุ่นพี่เพราะบางคนหน้าตายังกับวัยกลางคนแต่กลับเป็นรุ่นเดียวกัน
อรยืนถือจานข้าวคว้าง หันซ้ายหันขวาหน้าตาเลิ่กลั่ก พยายามเพ่งหาเพื่อนในกลุ่มแต่ก็ไม่เจอด้วยว่าคนเดินไปมาอย่างพลุกพล่าน เธอก็ยังจำไม่ได้ว่าใครอยู่ห้องเดียวกับเธอบ้าง
“แย่แล้ว...ทำไงดี อยู่ไหนกันนะ...” อรครางรู้สึกไม่ดีกับสถานการณ์นี้
เพียงไม่กี่นาทีผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาก็รวมกันเป็นทิวแถวมีเพียงเธอเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม เมื่อเห็นเช่นนั้นหญิงสาวจึงเร่งเดินไปหยุดอยู่ที่ท้ายแถวหนึ่งซึ่งดูจะสั้นกว่าแถวอื่นและแยกตัวออกมาทางด้านซ้าย สายตาแปลกๆของคนในแถวทำให้เธออึดอัดเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใช่แถวของเธอหรือเปล่า จนอาจารย์เรียกให้นั่งลงสวดมนต์เริ่มการรับประทานอาหาร
“เออ...ขอโทษนะ เธออยู่ห้องนี้หรือ” ผู้หญิงคนที่นั่งข้างเธอเอ่ยถาม
“คือ..ไม่รู้เหมือนกัน แล้วนี่ใช่ห้อง 2 Eหรือเปล่าล่ะ” อรตอบกลับงงๆอย่างไม่แน่ใจแล้วภาวนาขอให้มันใช่ทีเถอะ
หญิงสาวที่ถามเธอเลิกคิ้วมองอรอย่างประหลาดก่อนที่เธอจะตอบ เสียงอาจารย์ที่พูดใส่ไมโครโฟนก็ดังขึ้น
“นี่ ปวส.ท้ายแถวตรงนั้นน่ะ ห้ามคุยกันนะ”
เท่านั้นล่ะ อรลุกพรวดมือถือจานข้าวเดินออกจากแถวทันที
“อ้าว อ้าว แล้วนั่นเธอจะไปไหนน่ะ”
เสียงอาจารย์ตกใจพูดใส่ไมคถามเธอทันที ทุกคนที่กำลังเริ่มรับประทานอาหารอยู่หันมามองเธอกันทั้งคณะ อรหยุดเดินใบหน้าที่ก้มอยู่เงยขึ้นอย่างช้าๆรู้สึกร้อนฉ่าและแดงกล่ำไปทั่วหน้า เธอแสยะยิ้มแล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า
“ขอโทษค่ะ หนูเข้าแถวผิด”
“เธออีกแล้วหรือ” น้ำเสียงอาจารย์ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างระเหี่ย มันทำให้อรรู้ว่าเป็นอาจารย์ท่านเดียวกับที่ดุเธอบนรถ
เสียงหัวเราะดังลั่นโรงอาหารโดยเฉพาะแถวริมสุดทางด้านขวาช่วงท้ายแถว พวกในกลุ่มเธอต่างหัวเราะกันท้องแข็งอรมองพวกเขาอย่างแค้นเคือง
ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆอยากหนีไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้เลยด้วย
แม้เธอจะดีใจที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ แต่มันก็ทำให้เธอตะขิดตะขวงใจเพราะทั้ง 4 คนดูเหมือนจะใช่กลุ่มที่ต่อว่าเธออยู่เมื่อช่วงพักกินข้าว เธอจึงทำใจดีสู้ฉีกยิ้มแบบแปลกพิกลเมื่อมองหน้าพวกเขาเต็มตา
“เธอชื่ออะไร”
เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ด้านซ้ายมือเธอถามขึ้น อรมองใบหน้าขาวเรียวดวงตาตี่เล็กเหมือนคนจีนของเขานิ่ง แล้วปั้นยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นก่อนตอบ
“อรธิวา เรียกอรเฉยๆก็ได้”
“เราชื่อ ณรงค์ เรียกเรานนท์ก็แล้วกัน”
“นนท์เหรอ ทำไมไม่ใช้ นะ หรือ รงค์ ล่ะ”
เธอถามอย่างสงสัย
“อรถามเหมือนเราเลย เราชื่อ บอย”
ผู้ชายอีกคนที่นั่งตรงข้ามเธอเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี โดยเฉพาะดวงตาที่ฉายความขี้เล่นในนั้นทำให้เธอส่งยิ้มกว้างตอบรับไมตรี
“ส่วนเราชื่อ ชล”
อรหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆบอยแล้วผงกหัวยิ้มให้
“เราโอ๊ค”
เสียงทุ้มไม่ดังนักของคนนั่งตัวตรงทางขวามือบอยจ้องตาเธอนิ่ง อรก็ยิ้มสู้แม้ในใจจะคิดว่าจะจ้องหน้าทำไมนักหนาก็ตาม โดยรวมแล้วทั้งหมดดูน่าคบกว่าที่คิดเธอจึงสบายใจไปเปาะหนึ่ง
เพื่อนยิ่งมีน้อยอยู่ เอาฟะ เป็นเพื่อนกับพวกผู้ชายไปก่อนแล้วค่อยหาเพื่อนสนิทผู้หญิงก็แล้วกัน
อรยิ้มกริ่ม จนพวกเขามองหน้ากัน เธอจึงรีบนำสติออกจากมโนภาพเพื่อนผู้หญิงในจิตนาการโดยพลันแล้วแก้เขินหัวเราะเปลี่ยนเรื่องทันที
จากความที่เธอมีนิสัยส่วนตัวที่ประหลาดแต่ตลกจึงทำให้พวกเขาแกล้งอำเธอเล่นอยู่ตลอดเวลาและเธอก็หลงเชื่ออย่างคนซื่อทุกครั้งทำให้เธอกลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
และนั้นทำให้เธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งๆทีเจ้าตัวยังไม่รู้จักใครนอกจากคนในกลุ่มแต่เพื่อนต่างคณะหลายคนกับรู้จักเธอ บ่อยครั้งที่เธอเดินผ่านพวกเขามักถูกเรียกอย่างสนิทและทุกครั้งเธอมักยิ้มตอบรับพวกเขาพร้อมกับทำหน้าประหลาดใจและบ่นออกมาเบาๆว่า “ใครกันเราไม่เห็นรู้จักเลย”
ในวันที่ 2 ของช่วงพักรับประทานอาหารเย็น อาจารย์ให้จัดแถวใหม่โดยมีพี่ๆจากชั้นที่สูงกว่าเข้ามาด้วย ทุกคนแต่งชุดไปเวททำให้อรดูไม่รู้ว่าใครเป็นรุ่นพี่เพราะบางคนหน้าตายังกับวัยกลางคนแต่กลับเป็นรุ่นเดียวกัน
อรยืนถือจานข้าวคว้าง หันซ้ายหันขวาหน้าตาเลิ่กลั่ก พยายามเพ่งหาเพื่อนในกลุ่มแต่ก็ไม่เจอด้วยว่าคนเดินไปมาอย่างพลุกพล่าน เธอก็ยังจำไม่ได้ว่าใครอยู่ห้องเดียวกับเธอบ้าง
“แย่แล้ว...ทำไงดี อยู่ไหนกันนะ...” อรครางรู้สึกไม่ดีกับสถานการณ์นี้
เพียงไม่กี่นาทีผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาก็รวมกันเป็นทิวแถวมีเพียงเธอเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม เมื่อเห็นเช่นนั้นหญิงสาวจึงเร่งเดินไปหยุดอยู่ที่ท้ายแถวหนึ่งซึ่งดูจะสั้นกว่าแถวอื่นและแยกตัวออกมาทางด้านซ้าย สายตาแปลกๆของคนในแถวทำให้เธออึดอัดเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใช่แถวของเธอหรือเปล่า จนอาจารย์เรียกให้นั่งลงสวดมนต์เริ่มการรับประทานอาหาร
“เออ...ขอโทษนะ เธออยู่ห้องนี้หรือ” ผู้หญิงคนที่นั่งข้างเธอเอ่ยถาม
“คือ..ไม่รู้เหมือนกัน แล้วนี่ใช่ห้อง 2 Eหรือเปล่าล่ะ” อรตอบกลับงงๆอย่างไม่แน่ใจแล้วภาวนาขอให้มันใช่ทีเถอะ
หญิงสาวที่ถามเธอเลิกคิ้วมองอรอย่างประหลาดก่อนที่เธอจะตอบ เสียงอาจารย์ที่พูดใส่ไมโครโฟนก็ดังขึ้น
“นี่ ปวส.ท้ายแถวตรงนั้นน่ะ ห้ามคุยกันนะ”
เท่านั้นล่ะ อรลุกพรวดมือถือจานข้าวเดินออกจากแถวทันที
“อ้าว อ้าว แล้วนั่นเธอจะไปไหนน่ะ”
เสียงอาจารย์ตกใจพูดใส่ไมคถามเธอทันที ทุกคนที่กำลังเริ่มรับประทานอาหารอยู่หันมามองเธอกันทั้งคณะ อรหยุดเดินใบหน้าที่ก้มอยู่เงยขึ้นอย่างช้าๆรู้สึกร้อนฉ่าและแดงกล่ำไปทั่วหน้า เธอแสยะยิ้มแล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า
“ขอโทษค่ะ หนูเข้าแถวผิด”
“เธออีกแล้วหรือ” น้ำเสียงอาจารย์ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างระเหี่ย มันทำให้อรรู้ว่าเป็นอาจารย์ท่านเดียวกับที่ดุเธอบนรถ
เสียงหัวเราะดังลั่นโรงอาหารโดยเฉพาะแถวริมสุดทางด้านขวาช่วงท้ายแถว พวกในกลุ่มเธอต่างหัวเราะกันท้องแข็งอรมองพวกเขาอย่างแค้นเคือง
ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆอยากหนีไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้เลยด้วย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ