ในเงาใจ (The shadow)
-
เขียนโดย tofu_baby
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.29 น.
15 chapter
0 วิจารณ์
18.50K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 18.01 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) EP 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ…10…
ด้วยวันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 64 ปีของคุณหญิงธีราอร
คุณยายที่ดูสาวกว่าอายุของอสมาภรณ์
เธอจึงรีบกระตือรือร้นเป็นพิเศษ…ในฐานะหลานสาวเพียงคนเดียวของบ้าน
หลังจากที่ไปเลือกซื้อของขวัญพร้อมกับมัลลิกาในช่วงเช้าแล้ว
ช่วงบ่ายเธอก็กลับมานั่งเรียนต่อ
เพราะใจจดจ่ออยู่กับการแสดงในช่วงเย็น
เลยทำให้ไม่ได้สนใจเรียน..เท่าที่เคยเป็น
เธอนั่งจินตนาการไปถึงตอนที่ได้แสดงร่วมกับ
มัลลิกา กตัญชลี และเพื่อนหนุ่มคนล่าสุดอย่างธวัช
เธอและเพื่อนๆ กำลังบรรเลงบทเพลงพิเศษ
ที่คุณหญิงธีราอรชื่นชอบประหนึ่งวงดนตรีระดับโลก
เธอเผลอยิ้มออกมา และมองไปนอกหน้าต่างอย่างอารมณ์ดี
จนอาจารย์หนุ่มของเธอนึกโมโหเธอไม่น้อย
ที่ดันมีใครบางคนไม่สนใจในขณะที่เขาตั้งใจสอน
“คุณอสมาภรณ์เชิญออกมาหน้าชั้นด้วยครับ”
ดูเหมือนเจ้าของชื่อ ‘อสมาภรณ์’ จะยังไม่รู้ตัว
เพื่อนที่นั่งข้างๆ เลยต้องสะกิดเรียกเธอ
“แอล อาจารย์ริวอิจิเรียกเธอแหนะ”
“ฮะๆ ว่าไงนะ”
เธอลนลาน จนเกือบตกเก้าอี้
แต่เมื่อหันไปเจอสายตาดุๆ ที่อาจารย์หนุ่มส่งมาให้
เธอก็ยอมออกไปหน้าชั้นแต่โดยดี
...นี่เธอไม่ใช่เด็กประถมสักหน่อย
แค่แอบเผลอคิดอะไรเล่นๆ หน่อยเดียวแค่นั้นเอง
เธอคิด
“ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะเรียน ผมอนุญาตให้ออกจากห้องเรียนได้
และถ้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยเข้ามา เพราะการทำเบเกอร์รี่ก็เปรียบเสมือน
การดูแลคนรักของคุณ ถ้าคุณดูแลเขาได้ไม่ดี ทุกอย่างก็จบ”
อสมาภรณ์หน้าชาทันที ก็นะถึงจะเคยทำเรื่องเปิ่นๆ เป๋อๆ
ต่อหน้าคนอื่นมากขนาดไหน
แต่ต่อหน้าริวอิจิ มัทสึอิคนนั้น...มันทำใจไม่ได้
“ค่ะ”
เมื่อตอบเขาสั้นๆ เธอก็เดินออกจากห้องไปซะเฉยๆ
โทรศัพท์สายตรงต่อถึงมัลลิกาทันที
ต๊ด ตื๊ด ตื๊ด
แต่ปลายสายกับไม่รับซะนี่
กลายเป็นกตัญชลีแทนที่ต้องฟังเธอระบาย
“ใจเย็นๆ นะน้องหนู กลับไปตั้งใจเรียนซะ
แต่ลีว่าก็ถูกอย่างที่อาจารย์คนนั้นบอกนี่”
“นี่ลีเพื่อนใครเนี่ย แอล รึอาจารย์ริวอิจิ”
“ก็เพื่อนแอลนั่นแหละ แค่นี้ก่อนนะแอล
ลีต้องรีบเคีลยร์งาน แล้วเจอกันนะจ๊ะเพื่อนสาว”
“จ้า”
เมื่อวางสายจากกตัญชลีแล้ว
อสมาภรณ์เลยทำใจไปนั่งเรียนอย่างตั้งใจ
จนหมดคาบ...
แล้วด้วยความที่รีบร้อนออกจากห้องจนเกินเหตุ
ทำให้เธอต้องรีบขับรถกลับมาที่มหาวิทยาลัย...
ทั้งๆ ที่เกือบจะถึงบ้านของตัวเองเต็มที
เมื่อมาถึงที่ห้องเรียนที่ใช้เรียนในตอนบ่าย...
เธอเอื้อมมือไปเปิดประตู
โชคดีที่แม่บ้านประจำตึกยังไม่มาล๊อคห้อง
เธอเลยรีบเปิดประตูเข้าห้องไป
“เธอนั่นเอง ยังไม่กลับอีกหรอ”
เป็นเสียงดุๆ ของอาจารย์ริวอิจิ นั่นเอง
“อ๋อค่ะ คือแอลทำของหล่นหายน่ะค่ะ
ไม่แน่ใจว่าอยู่ในห้องนี้รึเปล่า
ทำไมซุ่มซ่าม เงอะงะ เฟอะฟะแบบนี้นะ
เอ่อ แล้วอาจารย์ยังไม่กลับอีกหรอคะ”
“ผมลืมเอกสารไว้บนโต๊ะน่ะ กำลังจะมาเอาพอดี
แล้วของอะไรล่ะที่คุณทำหาย”
เขาถามด้วยเสียงเรียบเฉย แต่มันกับดังก้องในโสตประสาทของอสมาภรณ์
ใบหน้าเรียวสวย กับดวงตาของเขาช่างลึกลับนัก
“เป็นกล่องของขวัญสีน้ำเงินเล็กๆ แล้วก็มีโบว์สีขาวค่ะ
ขนาดก็ประมาณนี้ค่ะ”
เธอทำไม้ทำมือประกอบ
“อืม เข้าใจแล้วล่ะ”
ริวอิจิช่วยอสมาภรณ์หากล่องของขวัญอยู่นาน
จนพบกล่องของขวัญตกอยู่ใต้โต๊ะปฏิบัติการอาหาร
“นี่ใช่ไหมที่กำลังหาน่ะ”
“ค่ะ ใช่ค่ะ อยู่ตรงนี้นี่เอง”
“ขอบคุณนะคะอาจารย์ งั้นแอลไปก่อนนะคะ”
อยู่ๆ ระบบไฟของห้องปฏิบัติการเบเกอร์รี่
รวมทั้งห้องอื่นๆ ในคณะเกิดขัดข้องขึ้น
เสียงหมอแปลงไฟฟ้าระเบิด ตู้มใหญ่
ทันใดนั้นไฟก็ดับสนิท
กรี๊ดดดดดดดดดด
เธอเผลอกระโดดกอดอาจารย์หนุ่มด้วยความตกใจ...สุดขีด
เขาเองก็ดูจะตกใจไม่น้อย เลือดในกายของชายหนุ่มแล่นให้พร่านไปทั้งตัว
ทั้งที่อยากจะกอดตอบ แต่เขาก็ได้แต่ยืนทื่อเป็นหลักให้เธอกอดฝ่ายเดียว
สักครู่ระบบไฟก็ถูกแก้ไขได้ไดในนาทีต่อมา...
และกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ริวอิจิมองสาวร่างบางที่กอดเขาแน่น
และเธอยังหลับตาปี๋ เพราะกลัวความมืด
เขาแอบยิ้มขำให้กับความน่ารักของเธอ
กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเส้นผมของเธอ
ทำให้อาจารย์หนุ่มเผลอสูดดมกลิ่นหอมๆ นี้ไปไปเต็มที่
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ ลาล่ะค่า”
เธอรีบผละจากตัวเขาทันทีที่ได้สติ
ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไปด้วยความเขินอาย
“หึหึ”
อาจารย์หนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นหัวเราะเบาๆ
ก่อนจะเดินออกจากห้องตามไป
"ยัยแอลเอ๊ย ทำไมวันนี้ถึงทำแต่เรื่องนะ ไม่ไหวจริงๆ
แล้วแบบนี้จะมองหน้าอาจารย์ริวอิจิได้ยังไงเนี่ย"
อสมาภรณ์พึมพำกับตัวเอง
ก่อนจะรีบขับรถพุ่งตรงกลับบ้านทันที
ด้วยวันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 64 ปีของคุณหญิงธีราอร
คุณยายที่ดูสาวกว่าอายุของอสมาภรณ์
เธอจึงรีบกระตือรือร้นเป็นพิเศษ…ในฐานะหลานสาวเพียงคนเดียวของบ้าน
หลังจากที่ไปเลือกซื้อของขวัญพร้อมกับมัลลิกาในช่วงเช้าแล้ว
ช่วงบ่ายเธอก็กลับมานั่งเรียนต่อ
เพราะใจจดจ่ออยู่กับการแสดงในช่วงเย็น
เลยทำให้ไม่ได้สนใจเรียน..เท่าที่เคยเป็น
เธอนั่งจินตนาการไปถึงตอนที่ได้แสดงร่วมกับ
มัลลิกา กตัญชลี และเพื่อนหนุ่มคนล่าสุดอย่างธวัช
เธอและเพื่อนๆ กำลังบรรเลงบทเพลงพิเศษ
ที่คุณหญิงธีราอรชื่นชอบประหนึ่งวงดนตรีระดับโลก
เธอเผลอยิ้มออกมา และมองไปนอกหน้าต่างอย่างอารมณ์ดี
จนอาจารย์หนุ่มของเธอนึกโมโหเธอไม่น้อย
ที่ดันมีใครบางคนไม่สนใจในขณะที่เขาตั้งใจสอน
“คุณอสมาภรณ์เชิญออกมาหน้าชั้นด้วยครับ”
ดูเหมือนเจ้าของชื่อ ‘อสมาภรณ์’ จะยังไม่รู้ตัว
เพื่อนที่นั่งข้างๆ เลยต้องสะกิดเรียกเธอ
“แอล อาจารย์ริวอิจิเรียกเธอแหนะ”
“ฮะๆ ว่าไงนะ”
เธอลนลาน จนเกือบตกเก้าอี้
แต่เมื่อหันไปเจอสายตาดุๆ ที่อาจารย์หนุ่มส่งมาให้
เธอก็ยอมออกไปหน้าชั้นแต่โดยดี
...นี่เธอไม่ใช่เด็กประถมสักหน่อย
แค่แอบเผลอคิดอะไรเล่นๆ หน่อยเดียวแค่นั้นเอง
เธอคิด
“ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะเรียน ผมอนุญาตให้ออกจากห้องเรียนได้
และถ้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยเข้ามา เพราะการทำเบเกอร์รี่ก็เปรียบเสมือน
การดูแลคนรักของคุณ ถ้าคุณดูแลเขาได้ไม่ดี ทุกอย่างก็จบ”
อสมาภรณ์หน้าชาทันที ก็นะถึงจะเคยทำเรื่องเปิ่นๆ เป๋อๆ
ต่อหน้าคนอื่นมากขนาดไหน
แต่ต่อหน้าริวอิจิ มัทสึอิคนนั้น...มันทำใจไม่ได้
“ค่ะ”
เมื่อตอบเขาสั้นๆ เธอก็เดินออกจากห้องไปซะเฉยๆ
โทรศัพท์สายตรงต่อถึงมัลลิกาทันที
ต๊ด ตื๊ด ตื๊ด
แต่ปลายสายกับไม่รับซะนี่
กลายเป็นกตัญชลีแทนที่ต้องฟังเธอระบาย
“ใจเย็นๆ นะน้องหนู กลับไปตั้งใจเรียนซะ
แต่ลีว่าก็ถูกอย่างที่อาจารย์คนนั้นบอกนี่”
“นี่ลีเพื่อนใครเนี่ย แอล รึอาจารย์ริวอิจิ”
“ก็เพื่อนแอลนั่นแหละ แค่นี้ก่อนนะแอล
ลีต้องรีบเคีลยร์งาน แล้วเจอกันนะจ๊ะเพื่อนสาว”
“จ้า”
เมื่อวางสายจากกตัญชลีแล้ว
อสมาภรณ์เลยทำใจไปนั่งเรียนอย่างตั้งใจ
จนหมดคาบ...
แล้วด้วยความที่รีบร้อนออกจากห้องจนเกินเหตุ
ทำให้เธอต้องรีบขับรถกลับมาที่มหาวิทยาลัย...
ทั้งๆ ที่เกือบจะถึงบ้านของตัวเองเต็มที
เมื่อมาถึงที่ห้องเรียนที่ใช้เรียนในตอนบ่าย...
เธอเอื้อมมือไปเปิดประตู
โชคดีที่แม่บ้านประจำตึกยังไม่มาล๊อคห้อง
เธอเลยรีบเปิดประตูเข้าห้องไป
“เธอนั่นเอง ยังไม่กลับอีกหรอ”
เป็นเสียงดุๆ ของอาจารย์ริวอิจิ นั่นเอง
“อ๋อค่ะ คือแอลทำของหล่นหายน่ะค่ะ
ไม่แน่ใจว่าอยู่ในห้องนี้รึเปล่า
ทำไมซุ่มซ่าม เงอะงะ เฟอะฟะแบบนี้นะ
เอ่อ แล้วอาจารย์ยังไม่กลับอีกหรอคะ”
“ผมลืมเอกสารไว้บนโต๊ะน่ะ กำลังจะมาเอาพอดี
แล้วของอะไรล่ะที่คุณทำหาย”
เขาถามด้วยเสียงเรียบเฉย แต่มันกับดังก้องในโสตประสาทของอสมาภรณ์
ใบหน้าเรียวสวย กับดวงตาของเขาช่างลึกลับนัก
“เป็นกล่องของขวัญสีน้ำเงินเล็กๆ แล้วก็มีโบว์สีขาวค่ะ
ขนาดก็ประมาณนี้ค่ะ”
เธอทำไม้ทำมือประกอบ
“อืม เข้าใจแล้วล่ะ”
ริวอิจิช่วยอสมาภรณ์หากล่องของขวัญอยู่นาน
จนพบกล่องของขวัญตกอยู่ใต้โต๊ะปฏิบัติการอาหาร
“นี่ใช่ไหมที่กำลังหาน่ะ”
“ค่ะ ใช่ค่ะ อยู่ตรงนี้นี่เอง”
“ขอบคุณนะคะอาจารย์ งั้นแอลไปก่อนนะคะ”
อยู่ๆ ระบบไฟของห้องปฏิบัติการเบเกอร์รี่
รวมทั้งห้องอื่นๆ ในคณะเกิดขัดข้องขึ้น
เสียงหมอแปลงไฟฟ้าระเบิด ตู้มใหญ่
ทันใดนั้นไฟก็ดับสนิท
กรี๊ดดดดดดดดดด
เธอเผลอกระโดดกอดอาจารย์หนุ่มด้วยความตกใจ...สุดขีด
เขาเองก็ดูจะตกใจไม่น้อย เลือดในกายของชายหนุ่มแล่นให้พร่านไปทั้งตัว
ทั้งที่อยากจะกอดตอบ แต่เขาก็ได้แต่ยืนทื่อเป็นหลักให้เธอกอดฝ่ายเดียว
สักครู่ระบบไฟก็ถูกแก้ไขได้ไดในนาทีต่อมา...
และกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ริวอิจิมองสาวร่างบางที่กอดเขาแน่น
และเธอยังหลับตาปี๋ เพราะกลัวความมืด
เขาแอบยิ้มขำให้กับความน่ารักของเธอ
กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเส้นผมของเธอ
ทำให้อาจารย์หนุ่มเผลอสูดดมกลิ่นหอมๆ นี้ไปไปเต็มที่
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ ลาล่ะค่า”
เธอรีบผละจากตัวเขาทันทีที่ได้สติ
ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไปด้วยความเขินอาย
“หึหึ”
อาจารย์หนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นหัวเราะเบาๆ
ก่อนจะเดินออกจากห้องตามไป
"ยัยแอลเอ๊ย ทำไมวันนี้ถึงทำแต่เรื่องนะ ไม่ไหวจริงๆ
แล้วแบบนี้จะมองหน้าอาจารย์ริวอิจิได้ยังไงเนี่ย"
อสมาภรณ์พึมพำกับตัวเอง
ก่อนจะรีบขับรถพุ่งตรงกลับบ้านทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ