Love Again : รักครั้งแรก
เขียนโดย ก่อนหวาน
วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.33 น.
แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) กลับบ้าน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความปี 2074
“สตีเฟ่นใช่มั๊ย ฉันชื่อมายา เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เหมือนกับคุณ” ผู้หญิงผมบรอนด์ออกน้ำตาลเล็กน้อยทักสตีเฟ่น หลังจากที่เธอเห็นเขาเดินออกมาจากห้อง Lap รวมด้วยสีหน้ากังวัลใจเล็กน้อย
“เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์คล้ายกับผม แต่ไม่เหมือนกับผมหรอก คุณอาจทำได้ดีกว่า” สตีเฟ่นหันมาพูดด้วยแล้วหันหลังกลับไปเพื่อเข้าห้องส่วนตัวของเขา
“แต่ฉันไม่เห็นด้วยกับการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ตัวเองหรอกนะ” มายากระซิบเบาๆ เพื่อไม่ให้ทหาร 2 คน ที่เฝ้าประตูได้ยิน
“เธอพูดว่าไงนะ” มายาดันตัวของสตีเฟ่นเข้าไปในห้องของเขาแล้วปิดประตู
“ฉันจะบอกคุณว่าฉันไม่เห็นด้วยกับระเบิด DX-5 ที่เรากำลังผลิตอยู่นี้”
“เราทำอะไรไม่ได้แล้ว มันสายเกินไป ผมพยายามเลี่ยงการวิวัฒนาการเซลล์ของอะตอมมีพิษแต่แม่ของผม คุณก็รู้ว่าผมสู้ท่านไม่ได้ พวกเขาเหลืออีกเพียงก้าวเดียว ระเบิดDX-5 จะผลิขึ้นได้ลูกแรก และลูกต่อๆไป พวกเขาจะทำได้เร็วกว่าเดิม” สตีเฟ่นพูดขณะที่นั่งลงกับเก้าอี้แล้วฉายจอมโนภาพการวิวัฒนาการของอะตอมมีพิษ ซึ่งอยู่ในชั้นบรรยากาศใต้ดิน
สตีเฟ่นเป็นคนค้บพบว่าภายในดินที่เราอาศัยอยู่นี้มีอากาศซึ่งเป็นพิษต่อมนุษย์เรา ซึ่งสมัยก่อนเราคิดว่ามันทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ สิ่งนั้นคือ ออกซิเจน แต่ที่เราหายใจในแต่ละครั้งไปนั้นมันเป็นแค่เศษของออกซิเจนเหล่านั้น คนที่โดนฝังให้ตายทั้งเป็นไม่ได้ตายเพราะขาดอากาศหายใจเหลือโดนทับด้วยดินที่กลบตัวเขาจนแหลกละเอียด แต่ตายเพราะว่าสูดออกซิเจนบริสุทธิ์ที่ซอกซอนอยู่ตามอะตอมของโมเลกุลเศษดิน เป็นก๊าสที่อันตรายกว่าปรมาณนูอย่างประเมินไม่ได้ เพราะออกซิเจนจะกระจายตัวอย่างรวดเร็ว และเงียบเชียบ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
“ฉันได้ยินมาจากแม่ของคุณว่าคุณส่ง หุ่นยนต์ No.501 ต้นแบบของหุ่นยนต์โคลนนิ่งซึ่งเหมือนคนมากที่สุดไปยังอดีตเมื่อ 60 ปีที่แล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณทำไปเพราะอะไร แต่แม่ของคุณส่ง 502 503 และ504 ไปเพื่อนำตัวเธอกลับมาแล้ว” มายาพูดขึ้นแล้ววางกล่องลงบนโต๊ะทำงานของเขา
“กล่องอะไร”
“ฉันคิดค้นพลังงานเสียงที่ตัดผ่านห้วงของกาลเวลาแล้วไม่มีทางตรวจพบได้ขึ้นมา เผื่อจะช่วยคุณได้บ้าง” มายายิ้มออกมาแล้วมองนัยต์ตาของสตีเฟ่นที่จ้องกล่องใบนั้นอย่างตาไม่กระพริบ
ปี 2014
“แล้วรู้จักกับพี่โตได้ยังไงหรอ” หลังจากที่ลั่นทมชวนตีน่าเข้ามาในบ้าน ตีน่าวางช๊อกโกแลตในถุงวางไว้ตรงโต๊ะอาหาร แล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงแล้วถามขึ้น
“ฉันเจอโตครั้งแรกตอนนั้นมือของเขาถือกล่องข้าว แล้วตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ฉันจำได้แค่นั้น” ลั่นทมวางแก้วที่มีน้ำเย็นอยู่3/4 ของแก้วไว้เบื้องหน้าของตีน่า
“ลีล่านี่เป็นคนแปลกนะ เดี๋ยวก่อน....” ติน่าทำท่าทีเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก “หน้าเธอดูคุ้นๆจังเหมือนเคยเห็นที่ไหน” ตีน่าสังเกตใบหน้าของลั่นทมหลังจากที่เธอปล่อยผมที่รวบไว้ออก
ติ๊ง ต่องงง เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น
“ไปเปิดประตูก่อนนะ” ลั่นทมพูดขึ้น
“ตีน่า มาทำอะไรจะมาขอขึ้นเงินเดือนอีกแล้วใช่มั๊ย” โตถามขึ้นหลังจากถอดเสื้อหนาวออกแล้วโยนมันไว้ที่โซฟาข้างๆตัว
“ตีน่าซื้อช๊อกโกแลตของโปรดพี่มาให้ค่ะ” ตีน่าดันกล่องช๊อคโกแลตที่วางอยู่เบื้องหน้าให้กับโต
“ซื้อมาทุกๆเดือนแบบนี้ คิดอะไรกับพีป่าวเนี่ย?”
“คิดค่ะ เอ้ยยย ไม่ใช่” ตีน่าหลุดปากพูดออกมา หน้าของเธอแดงขึ้นเรื่อยๆทำให้เธอขอตัวแล้วรีบเดินออกจากบ้านไปในทันที
“ฉันว่าเธอรักคุณมากนะ” ลั่นทมพูดขึ้น
“เธออ่านใจคนได้หรอ”
“ดวงตาของฉันทำจากใยแก้วสังเคราะห์ สามารถรับรู้พลังงานความร้อนทะลุวัตถุทุกชนิดได้ค่ะ”
“แล้วเธอรู้ได้ยังไง” โตวางผักลงขณะที่กำลังล้างผักอยู่ในอ่างล้างจาน
“ทุกครั้งที่เธอเจอคุณความร้อนจะรวมตัวกันที่ใบหน้า และหัวใจของเธอ รอยย่นที่แก้มทั้ง 2 ข้างขยับขึ้น3 องศามา 0.22 เซนติเมตร”
“งั้นเธอก้อรู้สิว่าฉันรักเธอ” โตหันหลังกลับมายืนอยู่ข้างหน้าของลั่นทม แววตาของเธอเป็นเหมือนวงแหวนที่หมุนอยู่ทุกๆเสี้ยววินาที
“น้ำเต็มกะละมังแล้วค่ะ” ลั่นทมชี้ไปที่กะละมังล้างผักที่โตเปิดน้ำทิ้งไว้แล้วกำลังล้นออกมา
“ผมคิดถึงคุณนะ” ผมบรรจงจุมพิตไปที่ริมฝีปากของเธอ ริมฝีปากของเธอเย็นเฉียบแต่ยังคงอ่อนนุ่มเหมือนเดิม ผมรับรู้ถึงกระแสไฟฟ้าอ่อนๆผ่านริมฝีปากออกมา
“คนที่เขาเป็นแฟนกันถ้าทำแบบนี้แสดงถึงความรักใช่มั๊ย” เธอดูไม่รู้สึกกับการจูบซักเท่าไหร่ถามขึ้นหลังจากโตนำปากออกจากริมฝีปากเธอ
“ความรักที่ไม่มีการแสดงหรอกนะ คนสองคนที่เป็นแฟนกันต่างรู้ซึ่งกันและกันอยู่แล้วละ หุ่นยนต์อย่างเธอคงไม่เข้าใจหรอก” โตยิ้มแล้วหันหลังกลับไปล้างผักเตรียมทำอาหารเย็นต่อ
“ถ้าฉันหายไป ชีวิตคุณก็คงไม่เปลี่ยนไปใช่ไหม”
“เธอเป็นหุ่นยนต์ส่วนผมเป็นมนุษย์เรารักกันไม่ได้หรอกนะ” ....ผมเว้นระยะคำพูดเอาไว้ช่วงหนึ่ง ผมกำลังจะพูดประโยคต่อไป เสียงปังดังลั่นขึ้น ผมหันกลับไปมองยังต้นกำเนิดเสียงนั้น ที่น่าจะอยู่ตรงประตูเข้าบ้านของผม
“501 เราจะกลับบ้านกัน”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ