จอมใจ....สุดที่รัก
เขียนโดย ปลายปากกาสีน้ำเงิน
วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.25 น.
แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) +++ อาณาจักร 'เลสเซิ้ล' +++
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตัวอย่างคฤหาสน์ 'เลสเซิ้ล'
สองสาวตระกูล 'เลสเซิ้ล'
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เสียงคลื่นซัดสาดกระทบฝั่งในยามสายกับดวงอาทิตย์ที่สาดแสงจ้าให้เมืองปาล์มบีช (Palm Beach) กลับมาเร่าร้อนอีกครั้ง ย่านสังคมไฮโซดังที่มีแต่มหาเศรษฐีร้อยล้านพันล้านอาศัยอยู่ คฤหาสน์เลิศหรูตั้งเรียงรายตามแนวชายหาดแสนสวยกับบรรดารถยนต์คันโก้ที่วิ่งขนาบไปตามเส้นทางเรียบทะเลอันแสนกว้างใหญ่ และเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวธุรกิจของตกแต่งบ้านพันล้าน ครอบครัวมหาเศรษฐีที่ดังสะพัดไปทั่วฟลอริด้า ตระกูลดังที่ไม่มีใครในเมืองปาล์มบีชไม่รู้จัก….
ครอบครัว ‘เลสเซิ้ล’
“เอ-มิ-ลี่! ตื่นได้แล้ว!” เสียงใสๆตะโกนลั่นห้องนอนแสนหรูของผู้เป็นพี่สาวที่ยังคงหลับอุตุทั้งที่จวนเกือบจะเที่ยววันแล้ว
“โอ้ย! ปล่อยให้ฉันนอน….ปล่อยให้ฉันนอน!” เสียงแหบเล็กน้อยและทรงเสน่ห์เอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด พลางดึงผ้าห่มแสนอุ่นขึ้นมาปิดจรดศีรษะ
“ป๊ะป๋าจะกลับมาแล้วนะ ถ้าพี่ยังไม่ลุกอีกฉันจะฟ้องคุณเจนนี่!” ผู้เป็นน้องกล่าวพร้อมกับออกแรงดึงผ้าห่มออกจากตัวพี่สาวแฝดคนละฝา
“ห๊ะ! อะไรนะ….ป๊ะป๋าจะกลับวันนี้เหรอ ตายแล้ว!” ร่างอวบอึ๋มกระเด้งตัวขึ้นทันทีพร้อมกับทำตาเลิกลักก่อนจะรีบลุกออกจากเตียงและรีบเก็บกวาดห้องทันที
“พี่ทำอะไรของพี่” น้องสาวแสนซื่อถามด้วยความสงสัย
“อย่ามัวแต่ถามหน่าเมียร์ ช่วยฉันเก็บห้องเดี๋ยวนี้ก่อนที่ป๊ะป๋าจะมาถึง!” ผู้เป็นพี่บอกพลางยัดเสื้อผ้าราคาแพงหูฉีกใส่ตะกร้าผ้าแบบลวกๆ
“ทำไมฉันต้องทำ มันเป็นห้องของพี่ไม่ใช่ห้องของฉันสักหน่อย” ผู้เป็นน้องกล่าวพลางทำท่าจะเดินออกจากห้อง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะมีอา! ถ้าเธอไม่หันกลับมาฉันจะยิงเธอจริงๆ”
พี่สาวสุดแสบบอกเสียงขุ่น พลางเล็งปืนเลเซอร์ที่ไว้สำหรับใช้ป้องกันตัวหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นไปทางร่างเล็ก และแม้ว่ามันจะไม่ถึงตาย แต่อาการชาชั่วครู่หากได้โดนยิงก็ทำให้ผู้เป็นน้องแขยงอยู่ไม่น้อย จึงต้องหันกลับมาและช่วยผู้เป็นพี่เก็บห้องแต่โดยดี
“พี่ต้องการอะไรจากป๊ะป๋าใช่ไหมถึงได้ทำตัวเรียบร้อยขนาดนี้” น้องสาวแสนรู้ถามขึ้นเมื่อเห็นพี่สาวเดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยชุดเดรสเรียบร้อยน่ารัก หลังจากที่หายวับไปอาบน้ำและปล่อยให้ผู้เป็นน้องเก็บกวาดห้องอยู่คนเดียว
“เดี๋ยวก็รู้” ผู้เป็นพี่เอ่ยพลางแสยะยิ้มน้อยๆเหมือนดั่งเวลาที่หล่อนมีแผนหรือคิดอะไรสนุกๆอยู่ในใจ
หลังจากงานแต่งของสุภัตราและธนรัตน์กานดาก็วุ่นอยู่กับการทำเอกสารเพื่อต่างๆในการเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีนักธุรกิจรายใหญ่อย่างวิลเลียมเป็นคนช่วยเหลือทุกอย่าง จนเขาต้องบินไปบินกลับระหว่างบ้านเกิดกับประเทศไทยอยู่สามสี่รอบ แต่ในที่สุดเรื่องก็ดำเนินการผ่านไปอย่างเรียบร้อย ทำให้เขาได้เลขาสาวคนใหม่มาจนได้
“โชคดีนะดา ไปอยู่นู่นก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ” เสียงหวานๆของเพื่อนสาวอย่างสุภัตราเอ่ยกับกานดาพลางโอบกอดเธอไว้แน่น
“จ้ะ ฝ้ายก็ดูแลตัวเองด้วยนะ ไว้เจ้าตัวเล็กคลอดเมื่อไหร่ดาจะกลับมาเยี่ยมนะ” กานดากล่าวเสียงเคลือทั้งรอยยิ้ม ก่อนจะมองไปที่ท้องนูนๆของเพื่อนสาวที่ตอนนี้มีเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ในนั้น
“ฝากดาด้วยนะคะคุณวิล เธอไม่เหมือนฝ้ายนะคะ เธอบอบบางกว่าฉันมาก ดูแลเธอให้ดีๆด้วยนะคะ” สุภัตราหันไปพูดกับอดีตเจ้านายหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่ข้างแม่เลขาสาวคนใหม่
“ได้เลยครับดาร์ลิ้ง อุ๊บ!” วิลเลียมแกล้งหยอดคำหวานที่ทำให้ว่าที่คุณพ่อลูกสองต้องมองเขาตาแทบถลนในทันใด
“เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านเกิดสมใจหรอกวิลเลียม” ธนรัตน์เอ่ยขึ้นอย่างทีเล่นทีจริง แต่ก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนได้ไม่น้อง
“บ๊ายบายครับคุณน้าดา ขอให้คุณน้าดากับวิลลี่โชคดีครับ” เจ้าตัวน้อยแสนรู้พูดเสียงใสแจ๋วพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
“แล้ววิลลี่จะขยันมาเยี่ยมนะสปันจ์น้อย” วิลเลียมย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับเด็กน้อยพลางเอ่ยออกมา
“ไม่ต้องขยันมาก็ได้ ลูกฉันไม่เฉาตายหรอกถ้าไม่เห็นหน้านายนานๆน่ะ” ธนรัตน์กล่าวเสียงขุ่น ก่อนจะอุ้มลูกชายตัวน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมอก
“เดินทางปลอดภัยนะ ถึงแล้วอย่าลืมโทรมาด้วยล่ะ” สุภัตราบอกแก่เพื่อนสาวพลางดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้ง
“จ้ะ แล้วฉันจะรีบโทรหา ไปแล้วนะคะ”
การเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นไปอย่างราบรื่น แต่การที่ต้องนั่งเครื่องนานจนเกินไปทำให้หญิงสาวรู้สึกเบื่อไม่น้อยอยู่เหมือนกัน แต่พอเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ความตื่นเต้นก็ทวีคูณขึ้นมาในทันใด จนเธอต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆและค่อยๆผ่อนออกมา ก่อนจะรีบเดินตามติดร่างใหญ่ไปเพราะกลัวจะหลงกับเขาเข้า
“ตื่นเต้นมั้ย” เสียงทุ้มตามสไตล์ฝรั่งถามคนข้างกายที่ดูตื่นๆ
“ตื่นเต้นมากเลยค่ะ” หญิงสาวตอบพลางหันไปยิ้มหวานให้กับเจ้านายหนุ่มคนใหม่
“นี่โจเซฟ เจ้าของรถทุกคันในบ้านผม และเป็นเจ้านายของผมด้วย” วิลเลียมกล่าวพลางเหยียดยิ้มให้กับสารถีประจำบ้านและลูกน้องคู่ซี้ปึกที่หันมาค้อนขวับทันทีเมื่อถูกเจ้านายใหญ่แกล้งเข้าให้ตั้งแต่มาถึง
“ยินดีที่ได้พบครับคุณกานดา” โจเซฟโค้งศีรษะและกล่าวทักทายกานดาเป็นภาษาไทยสำเนียงฝรั่งด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม
“ยินดีที่ได้พบเช่นกันค่ะคุณโจเซฟ” กานดาทักกลับพลางส่งยิ้มหวานให้กับสารถีหนุ่ม
“แหม่….เป็นเจ้านายที่ดีจริงๆเลยนะ ลูกน้องยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้กลับไม่ทักก่อน” วิลเลียมพูดเสียดสีลูกน้องหนุ่มที่หันมากระหยิ่มยิ้มใส่เขา
“เจ้านายต้องทักลูกน้องด้วยหรือครับ ผมพึ่งรู้นะเนี่ย” โจเซฟกล่าวอย่างขำๆ ก่อนจะรีบกุริกุจอขนของทันทีเพราะกลัวจะโดนบาทาจากเจ้านายตัวจริงเข้า
“ผมต้องเข้าไปที่บริษัทก่อน คุณไปรอผมที่บ้านก็แล้วกันนะ” เจ้านายหนุ่มหันมาพูดกับเลขาสุดสวยที่ทำตาโตทันทีเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูด
“แต่ว่า….ดาไม่รู้จักบ้านคุณนะคะ” กานดาเอ่ยออกมาพลางทำสีหน้าหวาดหวั่นเล็กน้อย
“เดี๋ยวโจเซฟจะพาคุณไปเอง รับรองว่าเขาไม่พาคุณไปทำอะไรที่ไหนแน่” วิลเลียมกล่าวก่อนจะหันไปส่งสายตาดุๆใส่ลูกน้องหนุ่มที่ยิ้มแหยๆและก้มศีรษะเป็นการตอบรับคำขู่ของเจ้านาย
“แต่ว่าฉัน….”
หญิงสาวยังคงอึกอัก เธอไม่ได้กลัวว่าลูกน้องหนุ่มของเขาจะทำอะไรเธอหรอก เพราะเธอรู้ว่าลูกน้องของเขาคงมีจรรยาบรรณและไว้ใจได้อยากมากจนเขาเลือกมาทำงานให้เขา แต่สิ่งที่เธอกลัวคือคนในบ้านของเขาต่างหาก เพราะเธอไม่รู้เลยว่าครอบครัวของเขามีใครบ้าง จะมีทั้งพ่อและแม่ของเขา ญาติพี่น้องของเขา หรือว่าเขาจะอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น และถ้ามีคนอยู่ด้วยพวกเขาจะต้อนรับเธอหรือเปล่า เพราะเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ไม่ได้รวมล้นฟ้าอย่างเขา แถมยังเป็นแค่เลขา ที่ดันมาขออาศัยอยู่ร่วมกับเจ้านายหนุ่มสุดหล่ออีกด้วย
แล้วอย่างนี้คนทางนั้นเขาจะมองว่าเธอใช้แผนเกาะเจ้านายแสนดีอยู่ไหมหนอ?
“ไม่ต้องกังวลนะสาวน้อย ผมบอกที่บ้านให้รู้หมดแล้ว พวกเขาจะต้อนรับคุณอย่างดีเลยล่ะ” ผู้เป็นนายหนุ่มกล่าวเพราะรับรู้ได้ถึงความกังวลใจของเลขาสาวใหม่เอี่ยม
จึงเป็นอันว่าเธอต้องตรงไปยังบ้านของเจ้านายหนุ่มก่อนโดยที่เขาสั่งให้ลูกน้องหนุ่มคู่ใจขับรถไปส่งที่บริษัท จากนั้นสารถีสุดเข้มก็พานายสาวคนใหม่เที่ยวชมวิวหาดทรายและทะเลอันสวยงาม โจเซฟเหล่มองแขกกิตติมาศักดิ์เป็นระยะๆ อดชื่นชมในความสวยหวานของเธอเสียไม่ได้ แถมยังตัวเล็กกะทัดรัดอุ้มไปไหนได้สบายๆ
อย่างงี้ไงเล่าเจ้านายของเขาถึงได้พามาอยู่ภายในรั้วบ้าน แค่กระชากหน่อยเดียวก็หล่นแหมะลงบนเตียงนุ่มแล้ว!
กานดามองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อนจะหันมาอีกฝั่งที่เป็นแถบบ้านเรือนแล้วเธอก็ต้องชะงักงันในทันใด ปากสวยอ้าค้างเล็กน้อย ดวงตากลมใสเบิกตาโตกว้างเมื่อเห็นสิ่งก่อสร้างที่ดูไม่เหมือนบ้านเลยสักนิด มันทั้งใหญ่โตมโหฬาร ทั้งสวยงามและมีหลากหลายสไตล์จนเธอตาลายไปหมด แถมดูแล้วพื้นที่ด้านหลังคงจะกว้างจนเธอไม่สามารถคำนวณได้ถูก รถยนต์คันโก้หรูที่จอดเรียงรายหลังละไม่ต่ำกว่าสองคันยิ่งทำให้เธอตะลึงงันเข้าไปใหญ่
นี่มันไม่ใช่ ‘บ้าน’ อยากที่เธอคิดแล้ว แต่นี้มันดง ‘คฤหาสน์’ ดีๆต่างหาก!
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาในเขตคฤหาสน์อันแสนใหญ่โต เส้นทางไปยังตัวคฤหาสน์ช่างยาวเสียจนหญิงสาวคิดว่าขโมยคงวิ่งกันเหนื่อยแน่ๆหากอยากจะเข้ามาปล้นคฤหาสน์หลังนี้ สองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่จัดเรียงตามแนวถนนอย่างสวยงาม และมีคนกำลังคอยดูแลอยู่ห้าถึงหกคน ซึ่งทั้งหมดก็ต่างหันมาโค้งศีรษะให้กับรถที่แล่นผ่านตามปกติถึงแม้จะรู้ว่าคนในรถจะไม่ใช่เจ้านายใหญ่ของตระกูลที่พวกเขารับใช้อยู่ก็ตาม
“ถึงแล้วครับคุณกานดา” โจเซฟพูดขึ้นเมื่อขับรถมาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์หลังสวย
“เรียกฉันว่าดาเฉยๆก็ได้ค่ะคุณโจเซฟ ขอบคุณนะคะ”
กานดากล่าวก่อนจะเดินลงจากรถโดยก้มหน้า และพอเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเท่านั้น เธอก็ต้องตะลึงงันกับความใหญ่โตมโหฬารและความงดงามของคฤหาสน์เลสเซิ้ลตรงหน้าอีกรอบ
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านเลสเซิ้ลค่ะคุณกานดา” เสียงของหญิงสูงอายุที่พูดภาษาไทยชัดแจ๋วเพราะนางเป็นคนไทยโดยแท้กล่าวขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเมื่อรีบเดินมารับแขกสาวหน้าคฤหาสน์
“สวัสดีค่ะคุณ….” กานดายกมือไหว้คนตรงหน้า ก่อนจะชะงักเมื่อไม่รู้ว่าจะเรียกนางว่าอย่างไรดี
“จวนค่ะ เรียกป้าว่าจวนนะคะ” รัญจวนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับแขกสาว
“ค่ะ สวัสดีค่ะป้าจวน” เธอยกมือไหว้คนตรงหน้าอีกครั้งพลางยิ้มรับ
“เข้าไปข้างในก่อนสิคะ ป้าสั่งให้มอร์แกนพ่อครัวประจำตระกูลทำของว่างไว้ให้แล้วค่ะ” นางเอ่ยก่อนจะเดินนำหน้าเข้าไปในตัวคฤหาสน์แสนหรู
กานดาได้แต่ยืนมองไม่ยอมขยับไปไหน ‘พ่อครัวประจำตระกูล’ ฟังแล้วดูช่างยิ่งใหญ่จนเธอไม่อาจจะคาดคิด เขาคงเป็นมหาเศรษฐีร้อยล้านพันล้านขนานแท้เลยกระมัง แต่จะว่าไปมันก็ไม่เห็นแปลก ก็ในเมื่อเขาเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดัง แถมยังมีบริษัทลูกประจำอยู่ในหลายๆประเทศอีกตั้งหลายสาขา อย่างที่ประเทศไทยก็ปาไปตั้งสามสี่สาขาแล้ว เรียกได้ว่าครอบคลุมทั่วไทยเลยทีเดียว แล้วมันจะแปลกอะไร หากว่าเขาจะเป็นมหาเศรษฐี ที่อาศัยอยู่ในย่านไฮโซโก้หรู มีรถยนต์ที่แทบจะเลี่ยมด้วยทองคำ มีคฤหาสน์อันใหญ่โตมโหฬารจนจะชาตินี้หรือชาติหน้าเธอคงเก็บเงินซื้อไม่ได้ มีอำนาจที่คอยสั่งการใครๆให้ทำโน่นทำนี่ได้อย่างไม่ต้องกลัวเกรง….
เขาอยู่สูงเหลือเกิน สูงจนเธอเริ่มจะหวาดหวั่น กลัวว่าหัวใจของเธอจะเล่นตลก ไปตกหลุมรักเขาเข้าจนถอนตัวไม่ขึ้น
แต่เหมือนมันจะสายไปไหม เพราะเธอรู้สึกว่าหัวใจมันตกหลุมที่เขาขุดไว้ไปแล้วเสียด้วยสิ!
“เอ้า….ตามมาสิคะคุณกานดา” รัญจวนหันมาร้องเรียกแขกสาวที่ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าทางเข้า
กานดาจำใจเดินเข้าไปในคฤหาสน์แสนสวย ด้านในคฤหาสน์ได้รับการตกแต่งในสไตล์คลาสสิคหรูหราผสมความโมเดิร์นทันสมัย ดูแล้วเหมือนกับว่าเธอได้เข้ามาอยู่ในรั้ววังแบบฉบับฝรั่งอย่างไงอย่างงั้น ของที่ใช้ประดับบ้านก็ดูหรูหราและคงจะมีราคาแพงจนถ้าเธอเผลอทำแตกหรือทำชำรุดคงใช้หนี้ไม่หวาดไม่ไหว แล้วดูเหมือนคฤหาสน์แห่งนี้จะมีการแบ่งสัดส่วนของบ้านมากมายเหลือเกิน จนเธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนถูก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กลางคฤหาสน์ มองซ้ายและขวาจนมึนเวียนศีรษะไปหมด
“ป๊ะ….”
เสียงใสแจ๋วแว่วขึ้นก่อนจะต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาในคฤหาสน์ไม่ใช่คนที่กำลังรอคอย ความที่หยุดวิ่งลงมาจากบันไดหรูหราอย่างกระทันหันทำให้ร่างอวบอั๋นของผู้เป็นพี่แทบจะหยุดตามไม่ทัน แต่ก่อนที่หล่อนจะได้บ่นอะไรออกมา ผู้เป็นน้องก็หันไปทำปากชู่ว์ใส่และชี้ไปที่แขกสาวประจำบ้านที่วันนี้เหล่าคนรับใช้ต่างพูดถึงกันให้แซด
“ฉันนึกอะไรสนุกๆได้แล้วล่ะ”
ผู้เป็นพี่เอ่ยพร้อมกับแสยะยิ้มให้ผู้เป็นน้องอย่างมีเลศนัย ก่อนที่น้องสาวหัวไวจะยิ้มออกมาบ้างเมื่อรู้ว่าคำที่พี่สาวตัวแสบพูดหมายถึงอะไร
กานดายังคงเดินสำรวจบ้านอย่างอยากรู้อยากเห็นเพราะแม่บ้านประจำตระกูลที่พาเธอเข้ามาตอนนี้ไม่รู้หายไปไหน แถมพอหันกลับไปดูนอกบ้านโจเซฟก็ไม่อยู่เสียแล้ว รวมทั้งกระเป๋าเดินทางของเธอด้วย หญิงสาวจึงเดินไปเรื่อยๆ เข้าห้องโน้นทีห้องนี้ทีอย่างสนุกสนาน เหมือนกับว่าที่นี่เป็นสวนสนุกขนาดย่อมอย่างนั้นแหละ
เรียกได้ว่าเป็น ‘อาณาจักร’ ที่มีเกือบครบทุกอย่างที่พอจะนึกถึงได้เลยทีเดียว!
“โอ….มีห้องดนตรีด้วยเหรอเนี่ย” เสียงหวานพึมพำกับตัวเองพลางเดินเข้าไปในห้องที่มีเครื่องดนตรีหลากหลายชิ้นจัดวางอย่างเป็นระเบียบและเหมาะสม
“หยุดนะ! ยัยหัวขโมย!”
ประโยคภาษาอังกฤษดังลั่นไปทั่วห้องจนกานดาต้องหยุดชะงักตามคำพูดนั้น ดวงหน้าหวานค่อยๆหันไปมองต้นเสียงอย่างหวาดๆ แล้วก็ทำตาโตเมื่อเห็นว่าผู้เป็นเจ้าของเสียงแหลมสูงนั้นมีปืนอยู่ในมือ!
“อย่าขยับนะ ไม่งั้นฉันยิงไส้แตกแน่”
กานดาเกร็งตัวแข็งทันทีเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น หัวใจของเธอเต้นโครมครามจนแทบจะออกมานอกอก รู้สึกมึนงงไปหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงสองคนที่ถือปืนเดินเข้ามาในห้องและเล็งมาที่เธอคือใคร แล้วตอนนี้เธอจะเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือมัจุราชได้อย่างไรกัน!
“คุณเอมมี่! คุณเมียร์! อย่าค่ะ!”
รัญจวนรีบวิ่งมาห้ามสองสาวสุดแสบด้วยความตระหนกตกใจ ร่างท้วมหอบหายใจพลางรีบแย่งปืนเลเซอร์มาจากมือของนายทั้งสอง ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กที่เริ่มจะตัวสั่นเทาเพราะความกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“หมดสนุกเลยคุณเจนนี่” เสียงใสๆของหญิงสาวตัวเล็กเอ่ยด้วยความหงุดหงิดพลางทำหน้าบึ้งตึงใส่แม่บ้านประจำตระกูล
“เล่นสนุกอะไรกันอย่างนี้ล่ะคะคุณมีอา คุณเอมิลี่” นางโอดครวญกับสองเจ้านายสาวที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าประตูห้อง
“เธอน่ะเป็นใคร เข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง” ร่างอวบอั๋นถามผู้เป็นแขกของบ้านด้วยเสียงที่บ่งบอกถึงการวางอำนาจ
“เธอคือเลขาคนใหม่ของคุณวิลเลียมค่ะ ฉันบอกพวกคุณไปแล้วไม่ใช่หรือคะ” รัญจวนตอบแทนหญิงสาวที่ยังคงยืนตัวสั่นอยู่เล็กน้อย
“อ๋อ….เด็กใหม่ของป๊ะป๋านี่เอง” หญิงสาวร่างเล็กกว่าอีกคนเอ่ยพลางแสยะยิ้มออกมา
“ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ใช่เด็กของคุณวิลเลียม ฉันเป็นแค่เลขาของเขาเท่านั้น” กานดารีบแก้ต่างทันทีเพราะกลัวจะโดนเข้าใจผิดไปใหญ่โต
“เป็นแค่เลขา แต่สะเออะมาพักในบ้านของเจ้านายเนี่ยนะ….ไม่อยากจะเชื่อ” เสียงแหบเสน่ห์เอ่ยเหยียดผู้เป็นแขกของบ้านก่อนจะทำปากเบ้
“ฉันเป็นแค่เลขาของคุณวิลเลียมจริงๆค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อคุณก็โทรไปถามเขาก็ได้นะค่ะ และถ้าคุณยังไม่พอใจฉันออกไปจากที่นี่ก็ได้ค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณอารมณ์เสีย” กานดาตอกกลับออกไปอย่างสุดจะทน ถึงแม้ว่าถ้าจะเป็นคนจนไม่ค่อยมีจะกิน แต่เธอก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ยอมให้คนต่างเชื้อชาติมาเหยียดยามเธออยู่อย่างนี้
“ใจเย็นๆค่ะคุณกานดา พวกเธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกค่ะ พวกเธอยังเด็กอย่าถือสาเลยนะคะ” รัญจวนรีบห้ามแขกสาวที่ทำท่าจะเดินปึงปังออกจากคฤหาสน์เสียให้ได้
“จะไปห้ามทำไมเจนนี่ ให้หล่อนไปน่ะดีแล้ว ทำเป็นหยิ่งดีนัก” ร่างอวบอั๋นยังคงเอ่ยต่อพลางเชิดหน้าใส่หญิงสาวตรงหน้า
“ไม่ได้นะพี่ ถ้าเขาไปล่ะก็ป๊ะป๋าเอาตายแน่ๆ” เสียงใสกระซิบบอกผู้เป็นพี่สาวด้วยความกลัวเกรงบทลงโทษจากนายใหญ่ของบ้านที่พวกเธอคงต้องเข็ดไปอีกนานเป็นแน่
“เอาล่ะค่ะๆ ป้าขอโทษแทนคุณหนูสองคนด้วยนะคะ คุณกานดาอย่าโกรธพวกเธอเลยนะคะ” แม่บ้านประจำตระกูลพยายามไกล่เกลี่ยอีกครั้งแล้วก็ต้องโล่งใจเมื่อแขกสาวพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้กับนาง
“จะว่าไปป๊ะป๋าก็คงไม่สนเธอหรอกเอมมี่ ดูสิ….ตัวเล็กซะขนาดนี้ ป๊ะป๋าของพวกเราชอบอึ๋มๆมากกว่า เนอะๆ” คนเป็นน้องเอ่ยเพื่อให้คนเป็นพี่สาวเลิกตั้งแง่กับแขกแสนสวยเสียที แต่นั่นกลับทำให้อีกฝ่ายถึงกับจุกขึ้นตรงลำคอในทันใด
แต่ก่อนอื่น….คำว่า ‘ป๊ะป๋า’ ที่พวกหล่อนใช้เรียกเจ้านายหนุ่มของเธอ มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
“นั่นสินะ….แต่บอกไว้ก่อนว่าอย่ามาสะเออะยั่วป๊ะป๋าของเรา เพราะเธอไม่มีทางยั่วเขาได้หรอก แม่ไซส์ดับเบิ้ลดับเบิ้ลเอส” ผู้เป็นพี่สาวเอ่ยขึ้นมาบ้าง ก่อนจะแสยะยิ้มให้กับคำว่าที่แสนแสบสันของตน
“ฉันไม่ยั่วป๊ะป๋าของพวกคุณหรอกค่ะ สบายใจได้เลยค่ะ!” กานดาตอกกลับอีกครั้งอย่างเหลืออด ทำไมหนาคนฝรั่งเขาชอบดูถูกกันเรื่องไซส์หรือไร เธอถึงได้โดนครอบครัวเลสเซิ้ลกระหน่ำซ้ำเติมเรื่องนี้อยู่ได้
“ก็ดีแล้ว เพราะถ้าหากพวกฉันเห็นว่าเธอยั่วคุณพ่อแสนดีของพวกเราเมื่อไหร่ล่ะก็ เตรียมตัวตายไว้ได้เลย!”
คำขู่ที่ถูกส่งมาไม่เท่ากับคำว่าคุณพ่อแสนดีที่ลูกสาวคนโตกล่าวเลยสักนิด อะไรกันนี่! เขามีลูกแล้วอย่างนั้นหรือ แถมยังมีถึงสองคน และโตเป็นสาวสวยสะพรั่งแล้วเสียด้วย ทั้งๆที่เขายังดูเด็กเกินกว่าจะมีลูกโตขนาดนี้ได้ จะบอกว่าเป็นลูกบุญธรรมก็คงจะไม่ใช่ เพราะดูๆไปแล้วหญิงสาวทั้งสองก็มีความคล้ายคลึงเจ้านายหนุ่มของเธออยู่เหมือนกัน
แล้วตกลงเรื่องจริงมันเป็นอย่างไรกันแน่!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ