สายใยรัก
เขียนโดย rose_story
วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 03.24 น.
แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556 04.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) รับขวัญหลานชาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ หมู่บ้านเศรษฐีแห่งหนึ่ง กำลังจัดงานเลี้ยงรับขวัญให้หลานชายอย่างใหญ่โต ท่ามกลางความยินดีและปลื้มปิติของคนในตระกูล ที่มาร่วมงานกันพร้อมหน้าพร้อมตา ท่านเจ้าสัวใหญ่และอาซ้อเจ้าโรงทอผ้าทองจรัญฟ้า ที่เป็นกิจการรุ่งเรื่องและเป็นร่ำลือด้านชื่อเสียงของคนทั่วไป ต่างเดินรับแขกด้วยความปราบปลี้มยินดี ตามมาด้วยลูกสาวอีกสองคนกับลูกชายคนเล็ก ลูกสาวคนโต(อาอิ๋ว) อายุ 35 ปี มีลูกสาวสองคน สามีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนตร์ก่อนจัดงานรับขวัญหลานชายเพียงปีกว่า อิ๋วเป็นลูกสาวที่กตัญญูรักครอบครัวคอยช่วยเหลืองานทุกอย่างของ และช่วยดูแลกิจการโรงทอผ้ามาตั้งแต่เด็กไม่เคยทิ้งบ้านไปไหน แต่งงานแล้วก็ขอมาอยู่ช่วยดูแลพ่อแม่ คนที่สอง(อาหมวย)อายุ 30 มีลูกชาย 1 คน อาหมวยเป็นสาวมั่นและภูมิใจในวงค์ตระกูล ค่อนข้างถือหน้าถือตาและมักจะพูดอวดลูกชายให้ใครต่อใครฟังเสมอด้วยความภูมิใจ เธออาศัยอยู่บ้านสามีไฮโซเจ้าของธุกิจชื่อดัง เป็นคู่ที่เหมาะสมในทุกด้าน และเป็นที่อิจฉาของสาวๆหลายคน น้องชายคนเล็กหรือเจ้าสัวน้อย(คิม) อายุ 25 หนุ่มเพย์บอยหน้าตาหล่อเหลา ได้เดินมากับลูกสะใภ้(อาเหมย)สาวน้อยน่าตาน่ารัก อายุเพียง 22 ที่อุ้มหลานชายวันเพียงเดือนกว่าและตามมาลูกสาวคนโต(หลิน)อายุ 3ขวบ เป็นสาวขี้อาย น่าตาสวยไม่ต่างจากมารดา ดูน่ารักเรียนร้อย แต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้าสีแดง เป็นที่เอ็นดูของผู้พบเห็น
เมื่อแขกมากันครบทุกคนต่างก็กินข้าว เดินเล่นอยู่บริเวณสถานที่จัดงานหน้าบ้านหลังใหญ่โตของท่านเจ้าสัว และมีแขกกลุ่มสุดท้ายตามเข้ามาในงาน หญิงสูงวัยแต่งใส่เสื้อไหมพรมเก่าๆและนุ่งผ้าถุงที่แตกต่างจากคนทั่วไปในงานเดินมาพร้อมกัยลูกสาวอีกสามคน ที่กำลังมองไปรอบบ้านด้วยความตะลึ่งในความยิ่งใหญ่ของงานที่จัดขึ้น ขณะที่ทั้งงานต่างพากันมองด้วยความสงสัย หญิงสูงวัยก็เข้าไปถามหาลูกสาว อาเหมยที่กำลังอุ้มหลานชายคุยกับแขก เมื่อเห็นแม่ของตัวเองก็รีบยื่นอาตี๋น้อยให้สามี และเดินไปรับด้วยความละอายต่อสายตาแขกเป็นอย่างมาก
"อาม๊าาาา ถ้าจะมาทำไมไม่บอกอั๋ว แล้วนี่อาม๊าใส่ชุดอะไรมา แต่งตัวให้ดีกว่านี้หน่อยสิ เห็นไหมคนเค้ามองกันใหญ่แล้ว" เหมย แอบพูดเบาๆด้วยความหงุดหงิดใจ
"แล้วมึงไม่บอกกูละ ว่างานมันจะใหญ่โตอย่างนี้ กูก็คิดว่าแค่รับขวัญหลานชายเท่านั้น"พี่สาวคนโตพูดขึ้นและหันไปมองรอบงานที่มีแต่คนใหญ่คนโต
"อาตี๋น้อยเป็นถึงหลานชายของลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัว อาม๊าก็น่าจะรู้ว่ามีศักดิ์เป็นถึงลูกชายคนเล็กของท่านเจ้าสัวใหญ่เชียวนะ เอาอย่างนี้นะอาม๊าและลือทั้งสามคน นั่งอยู่ตรงนี้เหละ เดี๋ยวอั๋วให้เด็กมันเอาของกินมาให้ อั๋วไปรับแขกก่อนนะ"อาเหมยพูดอย่างหงุดหงิดใจ และเดินไปอุ้มตี๋น้อยตามเดิม
"อาม๊าดูมันสิ กลายเป็นวัวลืมตีน ทำเป็นอายพวกเรา ทั้งที่เมื่อก่อนมันก็อยู่บ้านเดียวกันโตมาด้วยกัน กลับทำเป็นเหมือนไม่รู้จักกัน พวกเราไม่น่ามาให้เสียความรู้สึกเลย" ลูกสาวคนรองพูดด้วยความน้อยใจและรู้สึกโกรธน้องสาว
"เอาน่ายังไงก็พี่น้องกัน อาเหมยกำพร้าพ่อมาแต่เก็ก แค่อั๋วได้เห็นมันมีความสุขดี ได้แต่งตัวแบบที่มันชอบ ได้มีครอบครัวที่ดีเป็นเศรษฐีอยู่อย่างสบายอั๋วก็มีความสุขแล้ว"นางน้ำตาคลอยิ้มปลี้มใจมองดูลูกสาวที่อุ้มหลานชายอยู่ห่างๆ
"อาม๊าก็ ก็เป็นซะแบบนี้ตามใจมันจนจะไม่เห็นหัวพวกเราอยู่แล้ว"ลูกสาววคนโตพูดขึ้นด้วยความเอื้มระอากับแม่ของตนที่มักจะเข้าข้างและปกป้องน้องสาวคนเล็กที่ดื้อรั้นอยู่เสมอ
และเมื่อเวลาเลิกงาน ท่านเจ้าสัวกล่าวขอบคุณแขกทุกคน กล่าวเสร็จก็ลงมานั่งทักทายและส่งแขกทุกคนกลับบ้านรวมทั้งแม่ของสะใภัหาได้แสดงความรังเกียจหรือดูถูกแต่อย่างใด
"อาม๊าดูเด็กชุดกี่เพ้าสีแดงคนนั้นสินั่นใช่อาหลินไหมน่ะ ดูสิน่าตาน่ารักน่าชังเหมือนแม่มมันไม่มีผิด
"อ่าาา สวัสดี ไหว้พราะเถอะลูกทั้งสาม แล้วมายังไงกลับยังไงกัน" ท่านเจ้าสัวกล่าวทักทาย
ท่านเจ้าสั๋วรู้สึกเห็นใจ และแปลกใจที่ลูกสะใภ้ไม่บอกให้แม่ของตนรู้ทั้งที่เป็นงานสำคัญและน่ายินดีขนาดนี้ ท่านเจ้าสัวจึงพยายามพูดขอให้ทั้งสี่คนยอมให้คนขับรถของตนพาไปส่งที่บ้าน
"อาม๊า ดูเด็กสาวชุดกี่เพ้าสีแดงนั่นสิใช่อาหลินริป่าว "ทุกคนหันกลับไปมองหลินกำลังวิ่งเล่นกับพี่สาวสองคนลูกของอาอิ๋ว อย่างสนุกสนาน
"อาหลินมานี่สิมาหวัดดีอาม่ากับอาอี๋ของลือ"หลินวิ่งมาหาอากงหันไปมองอาม่ากับอาอี๋ หวัดดีด้วยสีหน้างุนงง
"พวกลือก็แปลกคน หลานทั้งคนยังจำไม่ได้ ฮ่าๆ" ท่านเจ้าสัวพูดขณะที่เห็นทั้งสี่คนต่างยืนมองหลานด้วยความเอ็นดู
"อั่วก็เพิ่งจะเคยได้เห็นหน้าหลานเนี่ยเหละ อาเหมยคงจะงานยุ่ง ไม่ค่อยเวลาพาหลานมาให้อั่วได้เห็นหน้า"
"หลินมาหาอาอี๋ใกล้ๆสิ อี๋อยากเห็นหน้าชัดๆ" หลินเดินไปหาอย่างอายๆ และหันไปมองหน้าอาม่า"หลิน นี่เป็นอาม่าของหลานนะ เป็นแม่ที่เลี้ยงแม่ของหลานมาตั้งแต่เิกิด ไปไหว้อาม่าใกล้ๆสิ"หลินเดินไปไหว้อาม่า และกอดลาญาติๆทุกคน ก่อนจะขึ้นรถจากไป
ขณะนั่งรถกลับ พี่น้องต่างพูดคุยกันเรื่องงานและเรื่องหลาน "พวกบ้านนี้ดูจะรักชอบเห่อลูกชาย อั๋วว่านะอีกหน่อยอาหลินต้องกลายเป็นหมาหัวเน่าแน่"
"หรือนี่ซี๋ซัวพูด จะเป็นอย่างนั้นได้ไง ไม่มีพ่อแม่คนไหนหลอกจะไม่รักลูกของตัวเอง อาหลินน่ารัก เรียนร้อยอย่างนั้นเหมือนแม่มันตอนเด็กไม่มีผิด" ต่างก็พูดเอ็นดูหลานกันจนถึงบ้านในที่สุด
ด้านอาเหมยหลังจากพาตี๋น้อยขึ้นไปนอนบนบ้าน เมื่อลงมาก็ไม่ทันได้พูดคุยหรือกล่าวลาแม่กับพี่สาวเดินตามหาด้วยความเป็นห่วง จนเจอกับท่านเจ้าสัวที่ยืนคุยกับแขกคนสุดท้าย รู้สึกโลงใจเมื่อเจ้าสัวบอกว่าให้คนขับรถไปส่งถึงบ้านแล้ว
____________________________________________
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ