God Problem : หมายถึงรัก
เขียนโดย ก่อนหวาน
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.08 น.
แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 02.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ผมเจอเธอแล้ว!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"เออๆ กุกำลังไปแล้วเจอกัน"พูดเสร็จผมก็รีบลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ทำกิจวัตรส่วน
ตัวในห้องน้ำ รีบแต่งตัวเตรียมไปเรียนพร้อมกับเช้าของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันนรกของใครหลายๆคน เป็นวันที่รวมทุกๆ
อย่างในตอนเช้า ทั้งเรื่องรถติด ซึ่งเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วในการใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งคนไม่หลับ
นอน...
ผมขับ big bike ไปเรียนทุกวันเพื่อแก้ไขสถานการ์ณเหล่านี้ในยามเร่งรีบ แต่อาจจะเป็นการรบกวนทางเสียงต่อ
ใครหลายๆคนก็ได้ เพราะท่อไอเสียของผมค่อนข้างดัง ก็ช่วยไม่ได้ละนะ ดังตามตัวรถของมัน
พอถึงมหาวิทยาลัย ระยะห่างจากคอนโดผมกับที่มหาลัยไม่ไกลกันมากนักถ้าขับเรื่อยๆก็ประมาณ 10-15 นาที
ผมรีบเข้าไปยังห้องเรียนซึ่งตอนนี้น่าจะสายแล้วละผมรีบเดินเข้ามายังห้องเรียนเปิดประตูเข้าไป
กึก กัก... ทำไมต้องดังตอนนี้ด้วยแว๊
ทุกคนในห้องจับจ้องมาที่ผม แต่จะมีเฉพาะบางกลุ่มซึ่งรู้ว่าผมสายประจำเสียแล้วว ผมดึงซีนมาพอสมควร
อาจาร์ยกระแอมครั้งหนึ่ง เป็นสัญญาณว่าให้ นักเรียนสนใจที่อาจาร์ย
"ขออนุญาติเข้าห้องครับ"แล้วผมก็เดินไปนั่งแถวหลังสุด ซึ่งมีที่ว่างตรงนั้นที่เดียวในแถวหลัง ติดกลับ
ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้จักเขาแต่เคยเดินผ่านกันหลายครั้ง แต่ไม่ได้ทัก และทำความรู้จัก
"นายๆ พอจะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อน้ำค้างรึเปล่า" ผมกระซิบกับชายคนที่นั่งข้างๆผม เขามองหน้าผมแล้วยิ้ม
กลับ
"ไปอยู่ไหนมา น้ำค้างดาวคณะเลยนะ ปีที่แล้วอะประกวดนางนพมาศยังได้ที่ 2 เลย โดนจับตาดูตั้งแต่
ปี1เลยละ ถ้ารุ่นพี่ คณะบัญชี ปี 4 จบไปปีนี้ เขาลือกันว่าเธอจะขึ้นเป็นดาวมหาลัยแน่ๆเลยละ"
"พอดีอยากรู้ว่าคนไหนนะ ไม่ได้อยากรู้ประวัติเลยนะท่าน" พูดจบชายคนนั้นก็ชี้ไปทางแถวที่ 3 จากหน้า
ห้องฝั่งขวาของกระดานซึ่งติดกับหน้าต่างบานเล็กๆบานหนึ่ง ผมเห็นแค่ท้ายทอยของเธอ...เธอมัดผมเหมือนผู้
หญิงทั่วๆไปสีผมของเธอเมื่อสะท้อนกับแสงแดดที่ผ่านเข้ามาทางกระจกหน้าต่างข้างๆแล้วเห็นเป็นสีแดงแกมดำ
แบบอ่อนๆ
ผมของเธอเรียบสวยงามมาก ผมค่อยๆมองไปรอบๆตัวเธอเพื่อเก็บข้อมูล
ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนเรียนเก่งเลยทีเดียวเชียวละ เพราะเพื่อนข้างๆที่เป็นทั้งหญิงและชายเทียมปรึกษากับเธอ
ตลอดเวลา หรือว่าเธอกำลังเมาท์มอยอยู่นะ
ผมมองเธอนานพอสมควรแล้วผมก็ตั้งคำถามถามกับตัวเองว่า"สวยขนาดไหนนะ เทพบุตรอย่างป๋าป๊อดถึงจีบไม่ติด
หรือเธอรวย หยิ่ง หรืออะไรกันนะ"
ผมมองไปมองมาอยู่ดีๆเธอก็หันมามองผมพร้อมกับเพื่อนๆรอบตัวเธอ
เอ้า!! งานหยาบ ลืมปิดเสียงโทรศัพท์ ผมรู้สึกอายมากรีบก้มหน้าลงในทันทีแล้วตัดสายทิ้ง เปลี่ยนเป็นระบบสั่น
ผมนะโคตรอยากจะออกจากห้องนะวินาทีนั้นเลยด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่ระหว่างเดินออก ผมต้องผ่านคนหลายคน และ
หลายโต๊ะไง คงตั้งนั่งรอจนกว่าคนส่วนใหญ่เดินออกจากห้องจนหมดละมั้ง แต่ที่สำคัญผมยังคงมองเธออย่างเป็น
จังหวะ
"นายชอบเธอเหรอ" เสียงที่ผมไม่ได้ยินมาซักพักหนึ่งได้พูดขึ้น
"เราบอย นายละ"ผมรีบเปลี่ยนประเด็น
"ก็ไม่แปลกหรอกนะที่นายจะตกหลุมชอบเธอ เรียกเราว่า โต้งแล้วกัน"
"จะบ้าหรอ ไม่ได้ชอบ แต่เห็นนายบอกว่า เป็นดาวคณะ อนาคตดาวมหาลัย ไม่ใช่หรอ ไม่เห็นจะ..."ผม
สุดดุดกับคำพูดผม เอ... แต่ว่าตอนเธอหันมาเราก็มองเห็นหน้าเธอไม่ชัดนี่นา เลยไม่รู้ว่าสวยรึเปล่า
หลังเลิกเรียนที่แสนยาวนานได้จบลงผมคงต้องรอคนอื่นๆ ออกจากห้องไปก่อนซักกลุ่มใหญ่ๆเลยละผมแอบ
ชำเลืองมองไปที่น้ำค้าง
ผมยังคงมองเห็นแต่ข้างหลังของเธอขณะที่เธอกำลังเก็บของเตีรยมตัวออกจากห้อง ผมพยายามเพ่งไปที่ใบหน้า
ของเธอแต่ระยะทางระหว่างผมกับเธอไกลพอสมควรหรือผมสายตาสั้นก็ไม่รู้สินะ
หลังจากที่คนอื่นออกจากห้องไปพอสมควร ผมค่อยๆเดินออกจากห้องมาพร้อมกับคนอื่นๆที่บางตา
ผมชักหิวแล้วสิ...
การทานอาหารของวันนี้คงเป็นการทานอาหารเหมือนเช่นทุกวัน คือ นั่งที่เดิม สั่งข้าวร้านเดิม เมนูเดิมๆ
กะเพราหมูไข่ต้ม ผมกินประจำในวันที่ผมเรียนตั้งแต่ช่วง ปีแรก พูดคุยกับเพื่อนๆกลุ่มเดิม คุยกันเรื่องเดิมๆ เสียง
ของทุกๆโต๊ะดังตลอดช่วงพัก บางคนพกหนังสือมาอ่านคนเดียวบ้าง เป็นกลุ่มบ้าง พร้อมกับน้ำแก้วหนึ่ง เกือบทุก
โต๊ะ โรงอาหารนี้ไม่ค่อยนักศึกษาหน้าใหม่ๆมาทานกันมากนัก เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะรุมทึ้งกันที่โรงอาหารหลัก
และบางคนจะออกไปกินนอกมหาลัย แต่ผมและกลุ่มเพื่อนของผมไม่ชอบที่นั่น เพราะทั้งสกปรกทั้งมลภาวะทาง
เสียง แต่ที่สำคัญพวกเราไม่ค่อยถูกชะตากับนักการภารโรงที่นั่นด้วย เพราะเคยสูบบุหรี่ แล้วทิ้งก้นบุหรี่เต็มห้องน้ำ
ไปหมด บางทีกลุ่มผมก็ไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวหรอกนะ ที่ประสบปัญหาเหล่านี้
"เออ วันนี้กุเห็นมาแล้ว น้ำค้าง อะไรนั่นนะ" ผมพูดขึ้นกับป๊อด
"ใช้ได้ป่าว แต่หยิ่งอิ๊บอ๋าย เริ่มหมดความอดทนแล้วละ ที่ตามจีบไป เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ"ป๊อด
บ่นพร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
"แต่เห็นหน้าไม่ค่อยชัดวะ" พูดเสณ้จผมก็ดีดบุหรี่ทิ้งไป แล้วเดินไปที่รถมอไซด์ที่รักของผม
"มึงจะไปไหนเนี่ย พ่อหนุ่ม" ป๊อดตะโกนขึ้นหลังจากที่ผมกำลังเดินไปถึงรถ แต่ผมหันหน้ามาหามันแล้วก็
พยักหน้าแล้วยิ้มเป็นเลศนัย เพราะพวกเราสื่อถึงกันได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดนี่นา เนอะ!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ