อลัน ลัสเบิร์ก...ผมกำลังตามหาเจ้าหญิง
-
เขียนโดย WhenSasukefollowers
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.47 น.
5 ตอน
3 วิจารณ์
9,693 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 00.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ผมกับเชอรีนกำลังไปหาเหยื่อ!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเชอรีนโทรเรียกแท็กซี่มารับเรากลับบ้านที่หน้าทางเข้าเดอะ ริเวอร์ ส่วนผม...กำลังช็อค
“กลับเข้าเมืองเรฟลีย์ใช้เวลาตั้งเกือบสามสิบนาที ฉันว่าเราต้องหาทางมาที่นี่ด้วยวิธีอื่นแล้วล่ะ” เชอรีนพูดขึ้น เส้นผมสีบลอนด์ของเธอปลิวสไวในสายลม ผมไม่รู้ว่าผมกำลังทำหน้ายังไงอยู่เพราะเชอรีนเดินเข้ามาใกล้แล้วตบหน้าผมแรงๆ!
“โอ๊ย!”
“ถ้านายเจ็บ ก็แสดงว่านายไม่ได้อยู่ในความฝัน”
“ใช้วิธีอื่นที่ดีกว่าตบไม่ได้เรอะ” ผมลูบหน้าตัวเองเบาๆ ผมคิดว่ารอยบนหน้าผมคงมีรอยแดงจางๆประทับไปจนสิ้นสุดวันปิดเทอม
“รถมาแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”
“อืม”
ผม กับเชอรีนเดินขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของรถแท็กซี่สีเหลืองสดใส เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยคนขับก็แล่นรถสู่ถนนอันกว้างใหญ่ ก่อนที่เดอะ ริเวอร์เพลสจะลับตาไป ผมมองเห็นตาคุณสกู๊ปกระโดดหย็องแหย็งโบกมือให้เรา ผมไม่รู้ว่าเชอรีนเห็นรึเปล่า เพราะเธอกำลังนั่งม้วนปลายผมอีกแล้ว เธอคงกำลังวิตกเกี่ยวกับเรื่องหินโรสเซสนั่น
“เราจะไปขอความช่วยเหลือจากใครดีนะ” ผมพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ “ใครจะยอมฟังเรื่องที่ว่า...สโนวไวท์มีฝาแฝดน่ะ” ประโยคหลังผมหันไปกระซิบกับเชอรีนเบา เธอขมวดคิ้วเหมือนกับกำลังวิตกอยู่เช่นกัน
“ขนาดนายยังเชื่อเลยนี่”
“ฉันก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง”
“ถ้างั้นก็คงต้องใช้เวท- ให้สกู๊ปช่วย” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
เมื่อกี้นี้เธอพูดถึงเวทมนตร์ใช่ไหม ? ถึงผมค่อนข้างจะชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซีแต่ผมก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ว่าบนโลกนี้มีเวทมนตร์ มีพ่อมดหรือแม่มดอยู่จริงๆ
“อลัน”
“หืม?”
“ฝากจ่ายค่ารถหน่อยนะ” เชอรีนพูดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับไป
ผมโบกมือบ๊ายบายให้เชอรีนก่อนจะเดินเข้าบ้านไป แต่ดันมีลิง(?)ตัวหนึ่งกระโดดลงจากรั้วมาขวางหน้าผมไว้ก่อน
“อลัน ลัสเบิร์ก!!” วี นัส วาเลนไทน์ เพื่อนบ้านที่ชอบทำตัวเหมือนลิงกำลังยืนชี้หน้าผมอยู่ ผมส่ายหน้าด้วยความระอาก่อนจะเบี่ยงตัวออกมาเพื่อเดินเข้าบ้าน แต่วีนัสก็ฉุดแขนผมไว้ก่อน
“วีนัส วาเลนไทน!!” ผมหันขวับ “ถ้าเธอยังไม่เลิกยุ่งกับฉัน ฉันจะฟ้องหม่ามี๊เธอ!!”
“วันนี้นายไปไหนมา” เจ้าของเรือนผมสีชมพูยาวถามโดยไม่สนใจฟังที่ผมพูดเมื่อกี้
“เรื่องของฉัน”
“เรื่องของนายมันก็เรื่องของฉันเหมือนกัน! วันนี้นายไปไหนกับเชอรีนมา!!”
“อย่ายุ่งน่า” ผมพยายามแกะมือเล็กๆของวีนัสออก แต่มันก็เกาะแน่นเหนียวหนึบ สงสัยต้องเป็นฉายาจาก ‘ยัยลิง’ เป็น ‘ยัยปลิง’ ซะแล้ว
“ตอบฉันมาสิ อลัน! วันนี้อุตส่าห์แต่งตัวสวยรอนายพาไปเที่ยวโอเชี่ยนเวิลด์ แต่นายก็ดันไปเดตกับคนอื่น!!” วี นัสต่อว่า เธอสะบัดผมยาวสีชมพูใส่ผมสองสามทีก่อนจะเดินตึงตังกลับบ้านเธอไป ข่าวร้ายก็ตรงที่บ้านเธออยู่ข้างๆบ้านผม ซึ่งมันแย่มากๆเมื่อมองออกไปทางหน้าต่างแล้วเจอลิงหัวชมพูนั่งจ้องผมอยู่
“ฉันไม่ได้ไปเดตสักหน่อย” ผมพูดเบาๆเมื่อรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว แล้วผมก็เดินเข้าบ้านตัวเองบ้าง
“อลัน กลับซะเย็นเชียว ทานข้าวไหม” คุณแม่ร่างเพรียวของผมถามขึ้นเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าประตู พ่อผมกำลังนั่งเล่นวีดีโอเกมส์(ของผม)อยู่ ท่านหันมายิ้มให้ผมแวบหนึ่ง
ก่อนจะกลับไปสนใจเครื่องบินรบของกองทัพรัสเซียต่อ
“ผมไม่หิวฮะ” ผมพูดก่อนจะเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องของตัวเอง แม่ผมตะโกนตามหลังมาว่า “แต่แม่เอาข้าวไข่เจียวไปไว้ในห้องลูกแล้ว ถ้าไม่กินก็เอาลงมาด้วยล่ะ”
ด้วยความขี้เกียจของผม แน่นอน......ผมก็ต้องกินสิ
ผม ตื่นแต่เช้า เพราะเชอรีนนัดเจอที่โรงเรียนตอนแปดโมงเช้า ถึงแม้จะปิดเทอมแล้ว นักเรียนที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองเรฟลีย์ก็จะไปเจอกันที่โรงเรียนเสมอ เชอรีนบอกว่าเราจะไปหาเหยื่อที่นั่น
‘คนที่จะมาร่วมภารกิจของเราไง’
“อลัน!!” เสียงแหลมๆของลิงตัวป่วนตะโกนเรียกผม ผมเดินจ้ำๆไปยังถนนใหญ่ แต่เจ้าลิงแสบก็ยังเดินมาเกาะแขนผม
“วีนัส! ปล่อยนะ”
“วันนี้ฉันจะตามนายไปด้วย”
“จะบ้าเหรอ! เธอไม่ได้อยู่โรงเรียนฉันสักหน่อย”
“เดี๋ยวปีหน้าฉันก็จะย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก” วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงลั้นลาก่อนจะฉุดแขนผมเดินไป ยัยลิงนี่จะมาอยู่โรงเรียนผมจริงๆเหรอ!?
ผมควรไปทำเรื่องลาออกตั้งแต่ตอนนี้เลยดีไหมเนี่ย
และแล้ววีนัสก็ลากผมมาถึงหน้า ‘อิมพิเรียล’ โรงเรียนของผมเอง เธอโบกมือทักทายลุงยามหน้าโรงเรียนราวกับซี้กันมานาน
“เธอรู้ทางมาโรงเรียนฉันได้ยังไง”
“ฉันแอบมาส่องนายเล่นบาสบ่อยๆ” วีนัสพูดขึ้น แต่ผมกลับเป็นคนที่หน้าแดงแทน “นายไม่สบายรึเปล่าเนี่ย”
“เปล่า เอ้อ! ฉันนัดกับเพื่อนไว้...”
“ฉันจะไปด้วย”
“เฮ้! ไม่ได้นะ”
“อลัน!! อ้าว...พาวีนัสมาด้วยเหรอ”
เสียงเชอรีนดังมาจากด้านหลังผม ผมกับวีนัสหันไปมอง ผมรีบขยับแขนจนมันหลุดออกมาจากการเกาะกุมของวีนัส
“ไม่ได้ตั้งใจพามาน่ะ”
“งั้นเหรอ แต่ก็ดีแล้วล่ะ วีนัส ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย”
“หืม...เรื่องของลูกผู้หญิงเหรอ”
เชอรีนยิ้มมุมปากก่อนจะลากแขนวีนัสแล้วเดินไปยังอาคารเรียน ทิ้งให้ผมยืนงงอยู่ตรงนั้น
“อลัน! กินนี่สิ”
“ไม่เอา”
“น่านะ~ กินสิๆ”
“เธอก็กินเองสิ”
ซูชิในกล่องข้าวมันมียาพิษรึไง ยัยวีนัสถึงพยายามคะยั้นคะยอให้ผมกินอยู่ได้
ตอน นี้ผมกับยัยวีนัสกำลังทำสงครามซูชิกันอยู่ใต้ถุนอาคารเรียน เชอรีนกำลังนั่งจ้องไปที่รั้วโรงเรียนเหมือนกำลังรออะไรสักอย่าง แล้วผมก็สะดุ้งทันทีเมื่อมีซูชิมาจ่ออยู่ตรงปาก
"วีนัส!!"
"กินสิ อ้าม~~"
“ฉันกินเอง” เชอรีนฉกซูชิในมือของวีนัสไปอย่างรวดเร็ว “เกี่ยงกันอยู่ได้”
“เชอรีน!! นั่นมันของอลันนะ!!”
“เฮ้อ… ทำไมฉันต้องมานั่งฟังเธอโวยวายด้วยนะ วีนัส”
“บู้!” วีนัสทำปากจู๋ก่อนจะสะบัดหน้างอนไปอีกทาง แต่เสียใจด้วย ผมง้อใครไม่เป็น
“นายเห็นผู้หญิงคนนั้นไหม” เชอ รีนชี้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้ผมดู ผมสีส้มที่ถูกเกล้าขึ้นไปส่องสว่างแข่งกับแสงแดด หน้าตาเธอดูบึ้งตึงเหมือนอยากจะเตะก้นใครสักคน แต่หวังว่ามันคงไม่ใช่ก้มผม เพราะเธอกำลังเดินมาทางนี้
“ไง! เชอรีน! ส่วนนาย...อะไรนะ”
“รูบี้ นี่อลัน อลัน นี่รูบี้ อ้อ! แล้วนี่ก็วีนัส” เชอรีนรีบเสริม เด็กหญิงผมส้มท่าทางอารมณ์ร้อนพยักหน้าเบาๆก่อนจะฟาดอะไรบางอย่างลงมาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว
แล้วผมก็รู้.....มันคือกระบองพลาสติก
“ยินดีที่ได้รู้จัก! แต่เราอย่ารู้จักกันเลยดีกว่า!”
“รูบี้! ใจเย็นๆ” เชอ รีนรีบดึงเพื่อนสาวมานั่งข้างๆ คงกลัวว่าผมจะโดนกระบองนั่นทุบหัวแบะ แต่ผมกำลังมึนงงกับรสนิยมการคบเพื่อนของเชอรีนอยู่ การโดนกระบองทุบหัวอาจเป็นการเรียกสติก็ได้
“ที่เธอบอกจะให้ช่วยน่ะ ฉัน! ตก! ลง!”
“จริงเหรอ! ยอดไปเลย!”
“เดี๋ยว...เธอให้รูบี้มาช่วยอะไรเรา” ผมรีบถาม แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองรู้คำตอบอยู่แล้ว
“ก็มีอยู่เรื่องเดียว ตามหาหินโรสเซส!”
“ใช่! มันเป็นของสำคัญของเชอรีน เราต้องหาให้เจอ” รูบี้พูดพลางเอาขามาพาดไว้บนโต๊ะ “ถึงเรื่องสโนวไวท์จะเหลือเชื่อไปหน่อยก็เถอะ”
“เธอเล่าเรื่องนั้นให้ยัยนี่ฟังแล้วเหรอ” ผม หันไปถามเชอรีน เธอพยักหน้าหงึกหงัก นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสลายไปเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะ...การตามหา หินอะไรบางอย่างที่มีเด็กสาวอารมณ์ร้อนไปด้วยหนึ่งคน
“ฉันก็รู้เรื่องนี้นะ! เชอรีนบอกฉันเมื่อเช้านี้!” วีนัสที่เงียบไปนานพูดขึ้น เธอรีบเข้ามาเกาะแขนผม “อลันอยู่ที่ไหน ฉันก็จะไปด้วย!”
เวรกรรมของอลัน.....มีเด็กสาวน่ารำคาญเพิ่มไปอีกหนึ่งคน
“ถ้าอย่างนั้น...ฉันก็เป็นผู้ชายคนเดียวน่ะสิ”
“นั่นเป็นน่าที่ของนาย” เชอรีนพูด ผมสังเกตได้ว่าแก้มของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง “นายต้องไปลาก เอสเตอร์ ฮาเทม โวลด์ย่า มาร่วมขบวนการกับเรา”
“เอสเตอร์งั้นเหรอ...ทำไมกันล่ะ”
“เขาเป็นเพื่อนนาย เพราะฉะนั้น...นายต้องชวนเขามาให้ได้” เชอรีนพูดอ้อมแอ้ม แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันมีอะไรแอบแฝง
“เขาเป็นหนุ่มฮอตของอิมพิเรียลนะ! เป็นนักบาสโรงเรียนด้วย เธอคง...ไม่ได้แอบชอบเขาอยู่ใช่ไหม!?”
“อยากตายเหรอ พูดออกมาซะดังขนาดนั้น” เชอ รีรีบเอาผมบลอนด์ยาวสลวยของตัวเองมาปิดบังใบหน้า แต่นั่นคงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเด็กหลายคนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นกำลังชะเง้อคอมองมาทางพวกเรา
รูบี้ทุบโต๊ะเสียงดังปัง! เด็กพวกนั้นหันกลับไปหมด
“เจ้าบ้าอลัน! หยุดเปิดเผยความลับของผู้หญิงสักที หุบปากแล้วไปสนามบาสซะ!!” รูบี้พูดปิดท้ายก่อนจะใช้เท้ายันผมออกมาจากโต๊ะ
“กลับเข้าเมืองเรฟลีย์ใช้เวลาตั้งเกือบสามสิบนาที ฉันว่าเราต้องหาทางมาที่นี่ด้วยวิธีอื่นแล้วล่ะ” เชอรีนพูดขึ้น เส้นผมสีบลอนด์ของเธอปลิวสไวในสายลม ผมไม่รู้ว่าผมกำลังทำหน้ายังไงอยู่เพราะเชอรีนเดินเข้ามาใกล้แล้วตบหน้าผมแรงๆ!
“โอ๊ย!”
“ถ้านายเจ็บ ก็แสดงว่านายไม่ได้อยู่ในความฝัน”
“ใช้วิธีอื่นที่ดีกว่าตบไม่ได้เรอะ” ผมลูบหน้าตัวเองเบาๆ ผมคิดว่ารอยบนหน้าผมคงมีรอยแดงจางๆประทับไปจนสิ้นสุดวันปิดเทอม
“รถมาแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”
“อืม”
ผม กับเชอรีนเดินขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของรถแท็กซี่สีเหลืองสดใส เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยคนขับก็แล่นรถสู่ถนนอันกว้างใหญ่ ก่อนที่เดอะ ริเวอร์เพลสจะลับตาไป ผมมองเห็นตาคุณสกู๊ปกระโดดหย็องแหย็งโบกมือให้เรา ผมไม่รู้ว่าเชอรีนเห็นรึเปล่า เพราะเธอกำลังนั่งม้วนปลายผมอีกแล้ว เธอคงกำลังวิตกเกี่ยวกับเรื่องหินโรสเซสนั่น
“เราจะไปขอความช่วยเหลือจากใครดีนะ” ผมพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ “ใครจะยอมฟังเรื่องที่ว่า...สโนวไวท์มีฝาแฝดน่ะ” ประโยคหลังผมหันไปกระซิบกับเชอรีนเบา เธอขมวดคิ้วเหมือนกับกำลังวิตกอยู่เช่นกัน
“ขนาดนายยังเชื่อเลยนี่”
“ฉันก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง”
“ถ้างั้นก็คงต้องใช้เวท- ให้สกู๊ปช่วย” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
เมื่อกี้นี้เธอพูดถึงเวทมนตร์ใช่ไหม ? ถึงผมค่อนข้างจะชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซีแต่ผมก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ว่าบนโลกนี้มีเวทมนตร์ มีพ่อมดหรือแม่มดอยู่จริงๆ
“อลัน”
“หืม?”
“ฝากจ่ายค่ารถหน่อยนะ” เชอรีนพูดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับไป
ผมโบกมือบ๊ายบายให้เชอรีนก่อนจะเดินเข้าบ้านไป แต่ดันมีลิง(?)ตัวหนึ่งกระโดดลงจากรั้วมาขวางหน้าผมไว้ก่อน
“อลัน ลัสเบิร์ก!!” วี นัส วาเลนไทน์ เพื่อนบ้านที่ชอบทำตัวเหมือนลิงกำลังยืนชี้หน้าผมอยู่ ผมส่ายหน้าด้วยความระอาก่อนจะเบี่ยงตัวออกมาเพื่อเดินเข้าบ้าน แต่วีนัสก็ฉุดแขนผมไว้ก่อน
“วีนัส วาเลนไทน!!” ผมหันขวับ “ถ้าเธอยังไม่เลิกยุ่งกับฉัน ฉันจะฟ้องหม่ามี๊เธอ!!”
“วันนี้นายไปไหนมา” เจ้าของเรือนผมสีชมพูยาวถามโดยไม่สนใจฟังที่ผมพูดเมื่อกี้
“เรื่องของฉัน”
“เรื่องของนายมันก็เรื่องของฉันเหมือนกัน! วันนี้นายไปไหนกับเชอรีนมา!!”
“อย่ายุ่งน่า” ผมพยายามแกะมือเล็กๆของวีนัสออก แต่มันก็เกาะแน่นเหนียวหนึบ สงสัยต้องเป็นฉายาจาก ‘ยัยลิง’ เป็น ‘ยัยปลิง’ ซะแล้ว
“ตอบฉันมาสิ อลัน! วันนี้อุตส่าห์แต่งตัวสวยรอนายพาไปเที่ยวโอเชี่ยนเวิลด์ แต่นายก็ดันไปเดตกับคนอื่น!!” วี นัสต่อว่า เธอสะบัดผมยาวสีชมพูใส่ผมสองสามทีก่อนจะเดินตึงตังกลับบ้านเธอไป ข่าวร้ายก็ตรงที่บ้านเธออยู่ข้างๆบ้านผม ซึ่งมันแย่มากๆเมื่อมองออกไปทางหน้าต่างแล้วเจอลิงหัวชมพูนั่งจ้องผมอยู่
“ฉันไม่ได้ไปเดตสักหน่อย” ผมพูดเบาๆเมื่อรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว แล้วผมก็เดินเข้าบ้านตัวเองบ้าง
“อลัน กลับซะเย็นเชียว ทานข้าวไหม” คุณแม่ร่างเพรียวของผมถามขึ้นเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าประตู พ่อผมกำลังนั่งเล่นวีดีโอเกมส์(ของผม)อยู่ ท่านหันมายิ้มให้ผมแวบหนึ่ง
ก่อนจะกลับไปสนใจเครื่องบินรบของกองทัพรัสเซียต่อ
“ผมไม่หิวฮะ” ผมพูดก่อนจะเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องของตัวเอง แม่ผมตะโกนตามหลังมาว่า “แต่แม่เอาข้าวไข่เจียวไปไว้ในห้องลูกแล้ว ถ้าไม่กินก็เอาลงมาด้วยล่ะ”
ด้วยความขี้เกียจของผม แน่นอน......ผมก็ต้องกินสิ
ผม ตื่นแต่เช้า เพราะเชอรีนนัดเจอที่โรงเรียนตอนแปดโมงเช้า ถึงแม้จะปิดเทอมแล้ว นักเรียนที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองเรฟลีย์ก็จะไปเจอกันที่โรงเรียนเสมอ เชอรีนบอกว่าเราจะไปหาเหยื่อที่นั่น
‘คนที่จะมาร่วมภารกิจของเราไง’
“อลัน!!” เสียงแหลมๆของลิงตัวป่วนตะโกนเรียกผม ผมเดินจ้ำๆไปยังถนนใหญ่ แต่เจ้าลิงแสบก็ยังเดินมาเกาะแขนผม
“วีนัส! ปล่อยนะ”
“วันนี้ฉันจะตามนายไปด้วย”
“จะบ้าเหรอ! เธอไม่ได้อยู่โรงเรียนฉันสักหน่อย”
“เดี๋ยวปีหน้าฉันก็จะย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก” วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงลั้นลาก่อนจะฉุดแขนผมเดินไป ยัยลิงนี่จะมาอยู่โรงเรียนผมจริงๆเหรอ!?
ผมควรไปทำเรื่องลาออกตั้งแต่ตอนนี้เลยดีไหมเนี่ย
และแล้ววีนัสก็ลากผมมาถึงหน้า ‘อิมพิเรียล’ โรงเรียนของผมเอง เธอโบกมือทักทายลุงยามหน้าโรงเรียนราวกับซี้กันมานาน
“เธอรู้ทางมาโรงเรียนฉันได้ยังไง”
“ฉันแอบมาส่องนายเล่นบาสบ่อยๆ” วีนัสพูดขึ้น แต่ผมกลับเป็นคนที่หน้าแดงแทน “นายไม่สบายรึเปล่าเนี่ย”
“เปล่า เอ้อ! ฉันนัดกับเพื่อนไว้...”
“ฉันจะไปด้วย”
“เฮ้! ไม่ได้นะ”
“อลัน!! อ้าว...พาวีนัสมาด้วยเหรอ”
เสียงเชอรีนดังมาจากด้านหลังผม ผมกับวีนัสหันไปมอง ผมรีบขยับแขนจนมันหลุดออกมาจากการเกาะกุมของวีนัส
“ไม่ได้ตั้งใจพามาน่ะ”
“งั้นเหรอ แต่ก็ดีแล้วล่ะ วีนัส ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย”
“หืม...เรื่องของลูกผู้หญิงเหรอ”
เชอรีนยิ้มมุมปากก่อนจะลากแขนวีนัสแล้วเดินไปยังอาคารเรียน ทิ้งให้ผมยืนงงอยู่ตรงนั้น
“อลัน! กินนี่สิ”
“ไม่เอา”
“น่านะ~ กินสิๆ”
“เธอก็กินเองสิ”
ซูชิในกล่องข้าวมันมียาพิษรึไง ยัยวีนัสถึงพยายามคะยั้นคะยอให้ผมกินอยู่ได้
ตอน นี้ผมกับยัยวีนัสกำลังทำสงครามซูชิกันอยู่ใต้ถุนอาคารเรียน เชอรีนกำลังนั่งจ้องไปที่รั้วโรงเรียนเหมือนกำลังรออะไรสักอย่าง แล้วผมก็สะดุ้งทันทีเมื่อมีซูชิมาจ่ออยู่ตรงปาก
"วีนัส!!"
"กินสิ อ้าม~~"
“ฉันกินเอง” เชอรีนฉกซูชิในมือของวีนัสไปอย่างรวดเร็ว “เกี่ยงกันอยู่ได้”
“เชอรีน!! นั่นมันของอลันนะ!!”
“เฮ้อ… ทำไมฉันต้องมานั่งฟังเธอโวยวายด้วยนะ วีนัส”
“บู้!” วีนัสทำปากจู๋ก่อนจะสะบัดหน้างอนไปอีกทาง แต่เสียใจด้วย ผมง้อใครไม่เป็น
“นายเห็นผู้หญิงคนนั้นไหม” เชอ รีนชี้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้ผมดู ผมสีส้มที่ถูกเกล้าขึ้นไปส่องสว่างแข่งกับแสงแดด หน้าตาเธอดูบึ้งตึงเหมือนอยากจะเตะก้นใครสักคน แต่หวังว่ามันคงไม่ใช่ก้มผม เพราะเธอกำลังเดินมาทางนี้
“ไง! เชอรีน! ส่วนนาย...อะไรนะ”
“รูบี้ นี่อลัน อลัน นี่รูบี้ อ้อ! แล้วนี่ก็วีนัส” เชอรีนรีบเสริม เด็กหญิงผมส้มท่าทางอารมณ์ร้อนพยักหน้าเบาๆก่อนจะฟาดอะไรบางอย่างลงมาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว
แล้วผมก็รู้.....มันคือกระบองพลาสติก
“ยินดีที่ได้รู้จัก! แต่เราอย่ารู้จักกันเลยดีกว่า!”
“รูบี้! ใจเย็นๆ” เชอ รีนรีบดึงเพื่อนสาวมานั่งข้างๆ คงกลัวว่าผมจะโดนกระบองนั่นทุบหัวแบะ แต่ผมกำลังมึนงงกับรสนิยมการคบเพื่อนของเชอรีนอยู่ การโดนกระบองทุบหัวอาจเป็นการเรียกสติก็ได้
“ที่เธอบอกจะให้ช่วยน่ะ ฉัน! ตก! ลง!”
“จริงเหรอ! ยอดไปเลย!”
“เดี๋ยว...เธอให้รูบี้มาช่วยอะไรเรา” ผมรีบถาม แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองรู้คำตอบอยู่แล้ว
“ก็มีอยู่เรื่องเดียว ตามหาหินโรสเซส!”
“ใช่! มันเป็นของสำคัญของเชอรีน เราต้องหาให้เจอ” รูบี้พูดพลางเอาขามาพาดไว้บนโต๊ะ “ถึงเรื่องสโนวไวท์จะเหลือเชื่อไปหน่อยก็เถอะ”
“เธอเล่าเรื่องนั้นให้ยัยนี่ฟังแล้วเหรอ” ผม หันไปถามเชอรีน เธอพยักหน้าหงึกหงัก นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสลายไปเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะ...การตามหา หินอะไรบางอย่างที่มีเด็กสาวอารมณ์ร้อนไปด้วยหนึ่งคน
“ฉันก็รู้เรื่องนี้นะ! เชอรีนบอกฉันเมื่อเช้านี้!” วีนัสที่เงียบไปนานพูดขึ้น เธอรีบเข้ามาเกาะแขนผม “อลันอยู่ที่ไหน ฉันก็จะไปด้วย!”
เวรกรรมของอลัน.....มีเด็กสาวน่ารำคาญเพิ่มไปอีกหนึ่งคน
“ถ้าอย่างนั้น...ฉันก็เป็นผู้ชายคนเดียวน่ะสิ”
“นั่นเป็นน่าที่ของนาย” เชอรีนพูด ผมสังเกตได้ว่าแก้มของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง “นายต้องไปลาก เอสเตอร์ ฮาเทม โวลด์ย่า มาร่วมขบวนการกับเรา”
“เอสเตอร์งั้นเหรอ...ทำไมกันล่ะ”
“เขาเป็นเพื่อนนาย เพราะฉะนั้น...นายต้องชวนเขามาให้ได้” เชอรีนพูดอ้อมแอ้ม แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันมีอะไรแอบแฝง
“เขาเป็นหนุ่มฮอตของอิมพิเรียลนะ! เป็นนักบาสโรงเรียนด้วย เธอคง...ไม่ได้แอบชอบเขาอยู่ใช่ไหม!?”
“อยากตายเหรอ พูดออกมาซะดังขนาดนั้น” เชอ รีรีบเอาผมบลอนด์ยาวสลวยของตัวเองมาปิดบังใบหน้า แต่นั่นคงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเด็กหลายคนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นกำลังชะเง้อคอมองมาทางพวกเรา
รูบี้ทุบโต๊ะเสียงดังปัง! เด็กพวกนั้นหันกลับไปหมด
“เจ้าบ้าอลัน! หยุดเปิดเผยความลับของผู้หญิงสักที หุบปากแล้วไปสนามบาสซะ!!” รูบี้พูดปิดท้ายก่อนจะใช้เท้ายันผมออกมาจากโต๊ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ