Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) หลุมลึกที่เปิดกว้าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับปิศาจได้จบลงแล้ว ฮิซาชิสามารถใช้พลังของตนโค่นจอมปิศาจที่เป็นผู้บัญชาการเหล่าสัตว์ประหลาดระดับล่างและกลางลงได้ด้วยตัวเอง โดยต้องแลกมาด้วยความเสียสละครั้งใหญ่ที่สุดของเพื่อนทั้งหมดที่เขามี...
"ฮิซาชิ... ปลอดภัยดีหรือเปล่า..."
ชายหนุ่มรีบลงไปหาเพื่อนสาวทั้งสามของเขาทันทีที่สามารถจัดการนูเรตัสลงได้ สภาพร่างกายของทั้งสามคนนั้นเรียกได้ว่าไม่มีทางรอดชีวิตได้แน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้น...พวกเธอกลับไม่ขอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อเลย
"พวกเธอพูดบ้าอะไรของเธอ..! ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครเป็นอะไรไปแน่!! ก็เพราะ..."
"เพราะนั่นคือคำพูดที่นายพูดกับตัวเองมาตลอด...ใช่หรือเปล่า!?"
ทันใดนั้นน้ำตาชายหนุ่มก็ไหลออกมาทันที ในที่สุดฮิซาชิก็รู้ตัวเองสักที่ว่าคำพูดที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุดคือคำว่าอะไร... เขาส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดถึงที่สุดเมื่อได้รู้ความจริงที่แสนโหดร้ายอย่างหนึ่ง...
ความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถปกป้องเพื่อนที่ตนเองรักได้เลยสักคนเดียว!
ตอนนั้นเองก็มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาซับน้ำตาให้กับเขาอย่างอ่อนโยน ฮิซาชิรู้สึกได้ถึงความปิติยินดีที่แผ่ออกมาจากมือข้างนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าของมือข้างนั้นจะเจ็บปวดและทรมานอยู่ก็ตาม...และแม้ว่าบนฝ่ามือนั้นจะเขรอะไปด้วยคราบเลือดที่จะทำให้ใบหน้าของเขาเลอะยิ่งกว่าเดิมก็ตามที
"อย่าร้องไห้สิ... ไม่สมกับเป็นนายเลยนะ"
"จะบ้าหรือไง..! ฉันไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย! ก็แค่เลือดที่มือเธอมันเข้าตาเท่านั้นเอง!!"
ยิ่งพูดยิ่งเหมือนเถียงตัวเอง ถึงฮิซาชิจะทำน้ำเสียงให้เข้มแข็งยังไง... น้ำตาของเขาก็ยังคงไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
"ฉันจะพาพวกเธอไปรักษา..! ฉันขอพวกเธอแค่อย่างเดียว...อย่าตายนะ!!"
แม้จะเห็นได้ชัดว่าพวกเธอบาดเจ็บสาหัสจนแม้แต่จะอ้าปากพูดยังลำบากแล้ว ฮิซาชิก็ยังพยายามจะพาพวกเธอทั้งสามคนไปรักษาให้ได้...ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงเขาก็ต้อง!
"ไม่มีประโยชน์หรอก... นายฟังฉันให้ดีๆนะ... ฉันจะพูดให้นายฟังแค่ครั้งเดียว"
สาวน้อยชาวมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าชายคนนั้นพูดออกมาเบาๆ เสียงของเธอเบามากจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์
"ที่ผ่านมานายทำดีกับพวกseiriที่นายต้องจัดการให้จบๆไปมาตลอด... นายไม่เคยคิดร้ายกับพวกเธอเลย...ไม่เคยเห็นพวกนั้นเป็นศัตรูเลยแม้แต่ครั้งเดียว... ผิดกับฉันที่มองพวกนั้นเป็นศัตรูที่ต้องกำจัดให้หมดไป..แค่ก!..เท่านั้น แค่กๆ!!"
อาคาริกระอักเลือดออกมาอย่างหนักจนเริ่มเห็นเค้าลางที่จะเกิดขึ้นกับเธอแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะพูดต่อ...แม้จะเท่ากับเร่งเวลาให้มันเกิดเร็วขึ้นก็ตาม
"ฉันอยากให้นาย...สู้ต่อไป...สู้เพื่อปกป้องสิ่งที่นาย สิ่งที่ทุกคนรักและหวงแหน...ยิ่งกว่าชีวิต! ถึงจะไม่มีพวกเราอยู่แล้วก็เถอะ... นายจะต้อง-! ค่อก!!"
ชีพจรของอาคาริเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับอีกสองคนที่เหลือ... ชิบุกิกับฮิคาริจ้องมายังชายหนุ่มที่พวกเธอรักเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อไม่ให้ลืมใบหน้าอันอ่อนโยนของเขาอย่างเด็ดขาด...
และในตอนนั้นเอง อาคาริก็หยิบเอาของบางอย่างเหมือนเหรียญโบราณออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเธอ ที่ถึงแม้จะถูกพลังทำลายล้างสูงโจมตีใส่...มันก็ยังไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
"นั่นมัน..."
ฮิซาชิจำของสิ่งนั้นได้ มันคือแกนปีกสำคัญของมิคาสะที่เขาฝากให้อาคาริช่วยคืนพลังให้เมื่อ4วันก่อน แกนปีกนั้นยังคงอยู่อย่างเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย...
"ไม่รู้ทำไมฉันอัดพลังเข้าไปในนั้นมากเท่าไหร่... แกนปีกนี้ก็ยังไม่ตอบสนองต่อพลังที่อัดเข้าไปเลย... เพราะงั้นฉันฝาก...ให้นายช่วยฟื้นพลังให้เธอ...แทนฉันด้วยนะ!"
ทันทีที่ฮิซาชิรับแกนปีกนั้นจากมือของอาคาริ สาวน้อยคนนั้นก็อ่อนแรงลงทันทีราวกับว่าเธอได้ทำในสิ่งที่คั่งค้างอยู่เสร็จแล้ว ตอนนั้นเองฮิซาชิก็เห็นรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนหน้าของเธอ
"ขอโทษด้วยนะที่ฉันซ่อมพวกนั้นไม่เสร็จน่ะ... แต่นายคงมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องมีพวกนั้นอยู่เคียงข้างหรอก...จริงไหม!? เพราะงั้นฉัน...ฝากนาย..ด้วย...นะ..."
เงียบ... เงียบไปแล้ว... เสียงที่ดังอยู่ข้างในร่างของสาวน้อยคนนั้นได้เงียบหายไปแล้ว..!
"ไม่นะ..! เธอเล่นมุขอะไรของเธอ...ฉันไม่ขำด้วยหรอกนะ!! ยัยบ้าเอ๊ย!!!!"
ฮิซาชิตะโกนเรียกสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาเสียงดังสนั่น แต่เธอก็ไม่มีท่าทีรำคาญหรือหนวกหูเลย อาคาริได้หลับพักผ่อนอย่างสงบเป็นครั้งแรกในรอบ5ปีที่ผ่านมา... เช่นเดียวกับสาวน้อยอีกสองคนที่เหลือซึ่งได้ทำในสิ่งที่พวกseiriไม่สามารถทำได้อย่างไร้ที่ติ
ใช่..! พวกเธอทุกคน...ตายไปแล้ว
แต่การนอนหลับอย่างสงบของพวกเธอนั้นสร้างความปวดร้าวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ให้แก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นอย่างมาก ฮิซาชิกอดร่างอันไร้ชีพจรของพวกเธอทั้งสามเอาไว้พร้อมหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด ที่ผ่านมาเขาไม่เคยต้องเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนนับตั้งแต่ครั้งที่เหล่าแองเจลอยด์ได้จากเขาไปเมื่อครั้งต้องต่อสู้กับสาวน้อยที่มีโอกาสได้ร่ำลาเขาเพียงคนเดียว
"เจ้าพวกน่าสมเพชตายไปได้ก็ดีแล้วนี่..!"
แต่แล้วกลับมีเสียงของคนแก่ดังขึ้นมาข้างหลังเขา เมื่อฮิซาชิหันกลับไปดูก็แทบคลั่ง...
ร่างของนูเรตัสเริ่มฟื้นตัวหลังจากที่รับการโจมตีของฮิซาชิเข้าไปจนท่อนล่างไม่เหลืออีกแล้ว แต่ในขณะนี้ร่างกายของมันเริ่มกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง!!
"ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งจริงๆ... แต่ที่ไม่ปิดบัญชีข้าให้จบเรื่องไปเลยนี่ถือว่ายังอ่อนหัดอยู่นะ!"
"งั้นก็หายไปซะ!"
ฮิซาชิเช็ดน้ำตาที่แก้มทั้งสองข้างออกก่อนจะรวบรวมพลังแสงไว้ที่แขนขวาก่อนจะปล่อยลำแสงจู่โจมใส่ร่างของนูเรตัสอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของมันเริ่มสลายตัวออกเป็นอากาศธาตุ
นูเรตัสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในขณะเดียวกันนั้นก็มีลำแสงสีม่วงค่อยๆแผ่ออกมาจากร่างของมันก่อนจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายเป็นหลุมอากาศขนาดยักษ์ ฮิซาชิกับเหล่าผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่บนโลกก็ได้แต่ตะลึงในภาพที่เห็นนั้น...ราวกับเป็นการกระทำของจอมปิศาจ
"แกอยากรู้เรื่องของนายเหนือหัวไม่ใช่เหรอ... งั้นเดี๋ยวแกก็จะรู้เอง!"
ทันใดนั้นลำแสงสีม่วงก็ขยายขอบเขตและความรุนแรงมากขึ้น ร่างของนูเรตัสเริ่มสลายตัวไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง ตอนนั้นเองก็มีสายฟ้าสีดำพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าทำลายทุกพื้นที่บนโลก
"ข้าจะให้เวลาเจ้าตัดสินใจ! เจ้าจะต่อสู้กับนายเหนือหัวที่นี่แล้วปล่อยให้โลกที่เจ้ารักต้องพังทลายไปต่อหน้าต่อตา... หรือว่าจะ!!"
ยังไม่ทันที่จอมปิศาจจะพูดจบ ร่างของมันก็สลายไปจนหมดสิ้นและหลุมอากาศนั้นก็เริ่มปิดตัวลงอย่างช้าๆ... ในขณะนั้นเอง ฮิซาชิก็กำลังตัดสินใจครั้งสำคัญอยู่
"เราจะต่อสู้กับหัวหน้าพวกมันที่โลกให้ตายกันไปข้าง... หรือว่าจะ!!!"
ฮิซาชิได้เลือกทางที่ตัวเองต้องการสำเร็จแล้ว เขาบินขึ้นไปยังหลุมอากาศนั้นด้วยความเร็วสูงสุดให้ทันก่อนที่มันจะปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์ ต่อหน้าสายตาของเหล่ามนุษย์ที่เขามอบความหวังให้โดยไม่รู้ตัว...
"ถ้ามัวลังเลอยู่มันจะได้อะไรขึ้นมา!! ฉันจะบุกเข้าไปตรงๆนี้่แหละ!!!"
แล้วฮิซาชิก็ทำได้จริงๆ..!! เขาสามารถเข้าไปในหลุมอากาศนั้นได้ก่อนที่มันจะปิดตัวลงเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น!! เขามุ่งหน้าไปยังปลายทางที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่
ซึ่งที่แน่ๆ... มันจะไม่ใช่การต่อสู้ที่สบายๆแบบครั้งที่ผ่านๆมาอีกต่อไปแล้ว!!!
แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง... ห้วงเวลาทั่วทั้งโลกได้หยุดการเคลื่อนไหวลง ราวกับว่ากำลังเฝ้ารอการกลับมาของชายคนนั้นเพื่อที่จะกลับมาเดินอีกครั้ง
และเมื่อฮิซาชิมุ่งหน้าไปถึงปลายทางแล้ว เขาก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจาก..."ความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด"เท่านั้น
.
.
.
"เฮ้! มาดูตรงนี้สิ"
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังเข้ามากระทบเยื่อแก้วหูที่ไม่ได้รับเสียงอะไรมานานของชายหนุ่มจนกระดิกประสาทรับรู้เสียงตามจังหวะสั่นสะเทือนของพื้นดิน เขายังคงนอนนิ่งอยู่กับพื้นด้วยดวงตาที่แง้มออกมาได้นิดหน่อยเพราะความเจ็บปวดและอ่อนล้าจากการต่อสู้เป็นระยะเวลานาน
"โถ...น่าสงสารจัง! สมัยนี้คนเราเป็นอะไรกันไปหมดนะ..."
"ยังไงก็ตาม! รีบพาไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ!!"
ฮิซาชิลืมตาขึ้นมาท่ามกลางแสงสว่างที่ส่องผ่านเปลือกตาเข้ามาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาต้องอยู่อย่างเดียวดายในความมืดอันไร้ที่สิ้นสุดแห่งนั้น สิ่งแรกที่เขาเห็นคือ...ผู้ใหญ่ตัวโตสองคนกำลังเดินเข้ามาหาเขาที่ได้สติขึ้นมากลางตรอกเล็กที่เต็มไปด้วยขยะเหม็นหึ่งที่พร้อมจะถล่มลงมาทับเขาได้ทุกเมื่อ
'นี่เราอยู่ที่ไหนกัน... แล้วทำไมพวกนี้ถึงได้ตัวโตกันขนาดนี้...'
เมื่อเขาถูกพาตัวออกมานอกตรอกแห่งนั้นแล้ว เขาก็เห็นสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากตั้งตระหง่านอยู่ทั่วบริเวณ มีผู้คนจำนวนมากเดินกันขวักไขว่ราวกับการต่อสู้ที่ผ่านมาเป็นเรื่องราวในความฝันเท่านั้น...
ระหว่างที่ฮิซาชิกำลังตกตะลึงกับภาพที่ต่างจากสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นกับเขาเมื่อสักครู่นั้นเอง ผู้ใหญ่ตัวโตที่กำลังอุ้มเขาขึ้นอย่างง่ายๆก็ก้มลงมาคุยกับเขา
"เดี๋ยวลุงจะพาไปโรงพยาบาลนะ อดทนเอาไว้นะเจ้าหนู..!"
อะไรนะ..! ใครเป็นเจ้าหนูกันน่ะ.!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ