Tale from monster ONLINE
-
เขียนโดย Crezus
วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.17 น.
4 บท
3 วิจารณ์
7,223 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 22.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ชีวิตอันน่าเบื่อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 1 ชีวิตอันน่าเบื่อ
“กรี๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงดังขึ้นเป็นเวลาเกือบ 10 วินาทีก่อนที่ชายวัยรุ่นตอนปลายคนหนึ่งจะลุกออกมาจากผ้าห่มแล้วเอามือของเขาฟาดลงไปบนปุ่มปิดเสียงของนาฬิกานั่น
“โถ่เว้ย! ไอ้นาฬิกาบ้าที่แกร้องดังขนาดนี้เนี่ยจะปลุกชั้นหรือปลุกคนข้างบ้านกันแน่วะ ทีหลังก็หัดปลุกเป็นเสียงอื่นบ้างนะอย่าง ปิ๊งป่อง อะไรอย่างงี้เสียงของแกมันแสบแก้วหูว่ะ”
เสียงสบถของชายคนนั้นดังตามมาหลังจากเสียงฟาดนาฬิกาอย่างแรงเขาใช้เวลาพูดทั้งประโยคนั่นภายในเวลา 2.5 วินาทีท่านผู้อ่านไม่ต้องลองจับเวลาในการพูดประโยคด้านบนหรอกเพราะมันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของเขา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาจากแท่นบรรทมอันแสนสุข แล้วเดินไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะรีบเตรียมตัวไปทำงานที่บริษัท ทุกๆอย่างเกิดขึ้นแบบเดิมซ้ำซากตลอดทุกวันคล้ายมีใครมากด copy แล้ว paste ให้เขาทำอย่างนั้น ตื่น – ด่านาฬิกา – ไปทำงาน – กลับบ้าน – เล่นเกมส์ – นอน แต่แล้วชีวิตของเขา ก็เปลี่ยนไปหลังจากที่มีจดหมายสีขาวที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยแอบสอดไว้ใต้โต๊ะทำงานของเขา
“โอ้โห คุณเมธี ซองอะไรเนี่ยมาสอดไว้ใต้โต๊ะทำงานผม คุณรู้รึเปล่าว่าใครเอามาใส่?”
ผมหยิบซองนั่นขึ้นมาพรางถามเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่นั่งข้างๆโต๊ะทำงานของผม
“ผมก็ไม่ทราบเช่นกันครับ เจ้านายอาจให้โบนัสคุณมั้ง ผมจะไปรู้ได้ไงหล่ะ”
เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขารำคาญผมมาก อาจเป็นเพราะในอดีตผมค่อนข้างเป็นคนพูดมากถามบ่อยจนพนักงานแก่ๆอย่างเขาเบื่อก็เป็นได้ แต่ถ้ามองในแง่ดีตอนนี้เขาก็กำลังคุ้ยงานขึ้นมากองบนโต๊ะทำให้เขาไม่มีเวลาจะมาสนใจเรื่องคนอื่น
“ แล้วคุณเมธี ได้รับจดหมายนี้ไหมครับ ? ”
ด้วยความหน้าด้านไร้มารยาทของผมจึงยิงคำถามต่อไป แน่นอนเจ้าตัวก็หันหน้ามาแสดงสีหน้าเบื่ออย่างเห็นได้ชัดก่อนจะตอบด้วยเสียงดุดันราวกับจะกระทืบผมให้ตายว่า
“ผมไม่ได้รับครับ คุณอยากรู้ก็เปิดอ่านเองสิครับมาถามผมอย่างงี้จะได้อะไรล่ะ ?”
ผมรีบหันหน้ากลับมาที่โต๊ะและทำบัญชีต่อก่อนที่ผมจะยั้งปากไปถามคำถามกวนบาทาพี่เมธีอีกไม่ได้ หลังเลิกงานขณะนั่งรถเมล์กลับบ้าน ผมก็เปิดอ่านว่ามันคืออะไร พูดตรงๆครับในวินาทีแรกที่ผมอ่าน ผมอยากกลับไปที่บริษัทแล้วทำป้ายด่าเจ้านายมาก ถ้าไม่ติดที่ต้องจ่ายค่ารถอีก 28 บาทแล้วผมคงไปแน่ๆ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าในจดหมายนั่นเขียนว่าอะไร “เนื่องจากบริษัทเราประสบปัญหาเรื่องการเงินจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหยุดพักงานของท่าน…” โห่ๆ ก็เจ้านายมีแต่เอาเงินไปซื้อหัวไม้กอล์ฟหนิครับ ? จะไม่ประสบปัญหาได้ไง ในหัวผมตอนนี้มีแต่ความโกรธมากกว่าความคิดที่จะทำอะไรซักอย่างกับชีวิตเพื่อจะมีข้าวกิน ในวินาทีนั้น มีกระดาษโฆษณาลอยมาแปะที่หน้าผม ปกติถ้าเป็นเวลาแบบนี้แล้ว กระดาษนั่นคงกลายเป็นโมเลกุลในอากาศไปตามจดหมายสีขาวนั่น(หมายความว่าตอนนี้จดหมายกลายผุยผงไปแล้ว) แต่ติดที่กระดาษแผ่นนี้มีรูปอัศวินขี่ม้า ทำให้ผมอยากอ่านขึ้นมาบ้าง … ใจความในกระดาษนั่นก็คือ บทนำนั่นแหละครับเพื่อความสมจริง รบกวนท่านผู้อ่าน กลับไปอ่านข้างบนอีกซักรอบนะครับ
10 ล้านบาท ! โอ้พระเจ้า แถมได้เป็นฝ่ายพัฒนาระบบของเกมส์ด้วย ได้เงินแถมมีงาน สวรรค์บันดาลชัดๆ ในทีแรกผมก็ดีใจนะครับ แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว ไอ้เครื่องที่ใช้เล่นเกมส์ 4 มิติเนี่ยมันก็ราคาแพงพอสมควร แล้วผมจะใช้เงินไหนซื้อล่ะ ไปเบิกธนาคารหรอ? ให้ผมเดินไปบอกธนาคารว่า “ผมพนักงานบริษัทขายแจกันที่เพิ่งตกงานขอเบิกเงินไปซื้อเครื่องเล่นเกมส์สักหมื่นสองหมื่นครับ” บ้าไปแล้วธนาคารที่ไหนเค้าจะให้กันหละ หลังจากที่ผมคิดฟุ้งซ่านอยู่นานรถก็มาจอดที่หน้าบ้านผมเดินคอตกเข้าบ้านอย่างช้าๆ มองสภาพบ้านที่ซอมซ่อ ไปเรื่อยๆเหมือนคนหมดอะไรตายอยาก ผมจ้องไปที่นาฬิกาแสนรักของผมพลางด่ามันในใจว่า “ถ้าแกไม่ปลุกฉันวันนี้ ฉันก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องเฮ็งซวยแบบนี้หรอก…” ผมกำลังคิดฟุ้งซ่านยังไม่ทันสุด ก็มีเสียงมาขัดจังหวะอีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นเสียงออดของบ้านผมซึ่งเกือบ 5 ปีแล้วที่ผมไม่เคยได้ยินเสียงนี้เลย ผมรีบเดินไปเปิดประตู เพื่อจะยลโฉมหน้าแขกคนแรกที่มาเยี่ยมบ้านผมในรอบ 5 ปี
“ สวัสดีครับ ใช่บ้านคุณ สุเชษฐ์ รึเปล่าครับมีพัสดุส่งมาที่บ้านคุณน่ะ ช่วยเซ็นต์รับด้วยครับ ”
เสียงของคนส่งพัสดุตัวโตที่แต่งชุดยูนิฟอร์มของบริษัทดังขึ้นทันทีหลังจากที่ผมเปิดประตู ท่าทางของเขารีบร้อนมากเหมือนมีงานมากมายรอเขาอยู่
“นี่ครับพัสดุ พร้อมจดหมาย ส่วนนี่ช่วยเซ็นต์รับทราบด้วยนะครับ ผมรีบอ่ะ”
เขายกกล่องที่ใหญ่พอสมควรวางลงพื้นพร้อมยื่นจดหมายกับใบเซ็นต์รับพัสดุให้ผม ผมก็หยิบเฉพาะจดหมายมาอ่านแล้วก็ปล่อยให้เขายืนรอผมเซ็นต์ทั้งๆที่ผมรู้ว่าเขารีบ ท่านผู้อ่านอย่าพึ่งด่าผมในใจนะครับว่าผม EQ ต่ำ ผมไม่ได้ EQ ต่ำหรอกเพียงแค่ผมสะกดคำว่า “มารยาท” ไม่เป็นเท่านั้นเอง
“ถึงคิว หลานรักของป้า”
“เป็นไงบ้างสบายดีไหม ? กับชีวิตที่กรุงเทพฯ ป้าขอโทษที่ไม่ได้มาวันรับปริญญาของหลาน แต่ป้ารู้ว่าหลานไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยป้าจึงไม่ซีเรียสในส่วนนั้น ตอนนี้ป้ากำลังไปได้สวยกับกิจการขายอาหารไทยที่ฮาวาย ลุงก็กินเหล้าน้อยลงมากเลย หลานไม่ต้องห่วงอะไรนะ ป้าเห็นว่าหลานชอบเล่นเกมส์ และ หลานๆหลายคนของป้าก็อ้อนให้ป้าซื้อเกมส์ให้ พอป้าซื้อเสร็จพวกมันก็บอกว่ามีคนซื้อให้แล้ว ป้าก็นึกถึง คิว ทันทีเลยว่าหลานคนโตของป้าเนี่ยก็ติดเกมส์ไม่แพ้น้องๆเหมือนกัน ไม่ต้องซีเรียสกับเรื่องเงินนะตอนนี้ป้ารวยแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนแค่นี้จิ๊บๆ อย่าเล่นเกมส์จนลืมไปทำงานล่ะ”
“ด้วยรัก จากป้ามณี”
พอผมอ่านจดหมายนี้เสร็จผมขมวดคิ้วเป็นโบว์ แล้วอุทานออกมาว่า
“ผมไม่เคยมีป้า และผมก็ไม่เคยมีลุงด้วย คุณส่งผิดบ้านรึเปล่าครับ?”
ผมมองขึ้นมายังหน้าคนส่งพัสดุด้วยสีหน้าเชิงตำหนิว่าเขาส่งผิดบ้านแล้ว แต่หน้าเขาแดงกล่ำทำเอาผมสะดุ้งเนื่องจากผมมัวแต่อ่านจดหมายและไม่ยอมเซ็นต์ซักที
“คุณชื่อ สุเชษฐ์ ใช่ไหม? แล้วนี่ใช่หมายเลขที่บ้านคุณไหม?”
คนส่งพัสดุกระชากจดหมายนั่นจากมือผมแล้วพลิกด้านหลังพลางชี้ไปถามผมไปด้วยอารมณ์อันรุนแรง ผมตกใจกับความโมโหอันเกรี้ยวกราดของเขา ทำให้ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ
“งั้นก็เอาเป็นว่า ผมส่งถูกบ้านและคุณก็รับทราบแล้ว ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็เคลียร์กันเอาเองละกันผมไปก่อนนะ เสียเวลามากแล้ว”
เขารีบเดินขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปโดยเร็วขณะที่ผมยังยืนค้างอยู่กับกระดาษที่ผมจับอยู่ในมืออย่างไร้สติ ผมส่ายหัวแล้วลากกล่องนั้นเข้าบ้าน พอไปถึงห้องผมเปิดกล่องออกดู ผมแทบกรี๊ดสลบ มันคือแว่นตาneouro connector พร้อมเครื่องเล่นเกมส์TFM online ที่มีของแถมอย่างเต็มลูกสูบ ทุกอย่างมีครบ ยกเว้นวิธีใช้ ผมตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่ได้ของเล่นใหม่ ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ ผมรีบเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวทดลองเล่นเจ้าเกมส์นี้ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่มีภาระอะไรต้องแบกรับอีกแล้วชีวิตนี้มีแค่ผม กับ เกมส์เท่านั้น คิดแล้วก็นึกถึงสมัยมัธยมปลาย ที่ผมมีแต่เล่นเกมแบบไม่ลืมหูลืมตา ผมเดินออกจากห้องน้ำใส่ชุดนอน แล้วนั่งประกอบเครื่องเล่นตามความเข้าใจ ผมเสียเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการงมชิ้นส่วน แต่ตอนนี้เครื่องพร้อมจะเล่นได้แล้ว ปัญหาอย่างสุดท้ายคือ ผมจะเข้าเกมส์ยังไง?(= =) และ เข้าไปแล้วจะเกิดอะไร ? ถึงแม้ผมจะเป็นคนโผงผาง แต่ผมก็ไม่คิดจะทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกครับ ผมพยายามมองหาตัวช่วย แล้วก็บังเอิญเจอ ‘โทรศัพท์’ นึกขึ้นได้ทันทีว่ามีเพื่อนสมัย ม.ปลาย เคยชวนผมเล่นTFM online แต่ตอนนั้นผมปฏิเสธไปเพราะผมยังมีการมีงานทำไม่คิดจะมาเล่นเกมส์เอาเป็นเอาตายแบบเมื่อก่อน…
“ ฮาโหลๆ เป็ด! แกยังได้เล่น TFM อยู่รึเปล่าวะ? ”
“ … เล่นสิ เห้ยไอ้คิวเอ็งตัดสินใจเล่น TFM แล้วหรอเนี่ย ดีใจจังมีเพื่อนเล่นด้วยแล้ว ”
“ เล่นสิพอดีเราโดนไล่ออกจากงานหว่ะ ก็เลยอยากเคลียร์เกมนี้แล้วจะได้มีงานใหม่ทำไง ”
“ คิว ! เอ็งว่ายังไงนะ ? จะเคลียร์เกมนี้ ? พูดง่ายแต่ทำยากนะเว้ย คนในเซิฟเวอร์มีเป็นล้าน คนเคลียร์ได้มีแค่คนเดียวเท่านั้น แถมเกมส์นี้เปิดเซิฟเวอร์มาเป็นสี่ห้าเดือนแล้ว ป่านนี้คงมีพวกเทพๆใส่เกราะสีทองเดินว่อนในเมืองแล้วแหละ ”
“ เซิฟเวอร์ ? พวกเทพ ? คนเคลียร์เกมส์มีได้คนเดียว ? ไม่เข้าใจหว่ะเป็ดขอแบบชัดๆหน่อยสิ ”
“ … อ๋อ คิว ท่านมหาเทพเกมส์ออฟไลน์… เอ็งไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์นี่หว่าข้าลืมไปเลย เซิฟเวอร์หมายถึงโลกที่เราเข้าไปอยู่ผ่านทางระบบออนไลน์จะได้พบปะกับผู้คนเรามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ในโลกนั้นไม่มีใครบังคับเราได้ พวกเทพ หมายถึงพวกผู้เล่นที่เล่นเก่งเป็นอันดับต้นๆของเซิฟเวอร์ ส่วนการเคลียร์เกมส์นั้นก็มีได้แค่คนเดียว โดยปกติโลกออนไลน์หนะจะไม่มีวันเคลียร์ได้หรอกนะต่างกับเกมส์ออฟไลน์ที่แกชอบโดยสิ้นเชิง แต่เกมส์นี้สามารถเคลียร์ได้ซึ่งข้าก็ไม่รู้จะทำยังไงแต่รู้แค่ว่า มัน ‘ยากมากๆ’ เท่านั้นเอง ”
“ อืมๆ … พอเข้าใจ แหมเป็ด แกเนี่ยเก่งแต่ทฤษฎี แต่อ่อนปฏิบัติแบบเดิมสินะ ถ้าเรามาเล่นเกมส์นี้ไม่นานก็คงตามแกทัน แล้วแกก็จะกลายเป็นไอ้อ่อนแบบ สมัย ม.ปลาย ฮ่าๆ ”
“ โถ่พ่อคนเก่งอันดับ 1 สุดยอดดาวเกมส์ออฟไลน์ค้างฟ้า ! จะบอกให้นะเกมส์ออนไลน์ต่างกับออฟไลน์ที่เอ็งเคยเล่นอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างวัดกันที่ตัวเลขข้อมูล อย่างข้าเลเวลมากว่าแกสู้กันก็มีโอกาสชนะมากกว่าเกือบ 80% แล้ว โอกาสน้อยมากที่เอ็งจะชนะข้าได้ ”
“โอ๋เอ๋ๆ เป็ดเอ๋ย แกซีเรียสหรอเนี่ย เราก็แค่พูดเล่นๆเอง เป็นเพื่อนกันมาเกือบสิบปีแกก็น่าจะรู้นิสัยเราดีนี่”
“ข้าไม่ได้ซีเรียสเว้ย ข้าก็แซวเอ็งเล่นๆเฉยๆว่ะ แต่เกมส์นี้มีระบบลูกศิษย์-อาจารย์นะ เอ็งมาเป็นลูกศิษย์ข้าก็ได้ มันจะทำให้เอ็งเก็บเลเวลง่ายขึ้นไง สนใจป่าว?”
“…ก็โอเค ดีเลย อย่างน้อยเราก็คงต้องถามแกเกี่ยวกับข้อมูลเกมส์นี้อีกมาก ถ้าจะเรียกแกว่าอาจารย์ก็คงจะไม่แปลกอะไร”
“คิว! นี่เอ็งคิดอะไรอยู่เนี่ย มันก็เป็นแค่ระบบของเกมส์ไม่เห็นจำเป็นต้องนับถือกันเป็นลูกศิษย์-อาจารย์จริงๆซะหน่อย ตลกดีว่ะ คนไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์ ฮ่าๆ”
“ อ๋อใช่ลืมไปเลย เออๆ ว่าแต่จะเข้าเกมส์ทำยังไง แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง ”
“ ก็แค่ใส่แว่นตา neuro connector ทิ้งไว้2นาที แล้วเปิดเครื่องเล่นเกมส์ พอได้ยินเสียงติ๊ดๆ ก็เตรียมตัวนอนพร้อมกับกดปุ่มสีดำที่ขาแว่นด้านขวา พอแกกดปุ่มแล้ว แกก็จะเข้าสู่โลกของ TFM ทันที เวลาในโลกนั้นจะเร็วกว่าโลกของเราสองเท่า แนะนำว่าควรกินอาหารแคปซูลไปด้วยก่อนเล่น เพราะข้ารู้ว่าคนอย่างแกเล่นทีต้องเล่นนานแน่นอน โดยอาหารแคปซูล1เม็ดอยู่ได้นาน1วันในโลกจริง แต่บริษัทเกมส์มีกฏให้ผู้เล่น เล่นได้แค่ 6 วันในเกมส์(3วันโลกจริง)ต่อการออนไลน์ครั้งหนึ่ง เพราะไม่งั้นจะนานเกินไป เออข้าก็พูดมาซะยาวเลย เอาเป็นว่าเจอกันในเกมส์ละกันข้าชื่อ ‘sander’ เอ็งจะตั้งชื่อว่าไรวะ? ”
“… ชื่อหรอ ก็คงเป็น ‘Qucize’ ชื่อประจำตัวเรานี่แหละ เอ้ยคุยกันมานานเลย ขอบคุณมากๆเจอกันในเกมส์นะเพื่อน”
“ได้เลยๆ เดี๋ยวติดต่อไปเจอกันในเกมส์”
ผมวางโทรศัพท์ลง จากนั้นก็เปิดเครื่องตามวิธีที่เป็ดบอก แล้วทุกอย่างก็หยุดที่ขั้นตอนกินอาหารแคปซูล ผมจ้องมันเพราะคิดว่าจะเล่นนานแค่ไหน และแล้วผมก็ได้คำตอบ ถึงจุดนี้ท่านผู้อ่านคงรู้ว่าผมจะออนไลน์นานเท่าไร อาหารแคปซูล 3 เม็ดถูกผมซัดเข้าไปอย่างไม่ลังเล ผมสวนแว่น neuro connectorเรียบร้อยแล้ว และเสียงติ๊ดก็ดังแล้วด้วย เหลือเพียงปลายนิ้วสัมผัสปุ่มสีดำเท่านั้นการเดินทางอันยาวไกลของผมก็จะเริ่มต้นขึ้น
“โลกแห่งTFMจ๋า ป๋ามาแล้ว!”
“กรี๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงดังขึ้นเป็นเวลาเกือบ 10 วินาทีก่อนที่ชายวัยรุ่นตอนปลายคนหนึ่งจะลุกออกมาจากผ้าห่มแล้วเอามือของเขาฟาดลงไปบนปุ่มปิดเสียงของนาฬิกานั่น
“โถ่เว้ย! ไอ้นาฬิกาบ้าที่แกร้องดังขนาดนี้เนี่ยจะปลุกชั้นหรือปลุกคนข้างบ้านกันแน่วะ ทีหลังก็หัดปลุกเป็นเสียงอื่นบ้างนะอย่าง ปิ๊งป่อง อะไรอย่างงี้เสียงของแกมันแสบแก้วหูว่ะ”
เสียงสบถของชายคนนั้นดังตามมาหลังจากเสียงฟาดนาฬิกาอย่างแรงเขาใช้เวลาพูดทั้งประโยคนั่นภายในเวลา 2.5 วินาทีท่านผู้อ่านไม่ต้องลองจับเวลาในการพูดประโยคด้านบนหรอกเพราะมันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของเขา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาจากแท่นบรรทมอันแสนสุข แล้วเดินไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะรีบเตรียมตัวไปทำงานที่บริษัท ทุกๆอย่างเกิดขึ้นแบบเดิมซ้ำซากตลอดทุกวันคล้ายมีใครมากด copy แล้ว paste ให้เขาทำอย่างนั้น ตื่น – ด่านาฬิกา – ไปทำงาน – กลับบ้าน – เล่นเกมส์ – นอน แต่แล้วชีวิตของเขา ก็เปลี่ยนไปหลังจากที่มีจดหมายสีขาวที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยแอบสอดไว้ใต้โต๊ะทำงานของเขา
“โอ้โห คุณเมธี ซองอะไรเนี่ยมาสอดไว้ใต้โต๊ะทำงานผม คุณรู้รึเปล่าว่าใครเอามาใส่?”
ผมหยิบซองนั่นขึ้นมาพรางถามเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่นั่งข้างๆโต๊ะทำงานของผม
“ผมก็ไม่ทราบเช่นกันครับ เจ้านายอาจให้โบนัสคุณมั้ง ผมจะไปรู้ได้ไงหล่ะ”
เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขารำคาญผมมาก อาจเป็นเพราะในอดีตผมค่อนข้างเป็นคนพูดมากถามบ่อยจนพนักงานแก่ๆอย่างเขาเบื่อก็เป็นได้ แต่ถ้ามองในแง่ดีตอนนี้เขาก็กำลังคุ้ยงานขึ้นมากองบนโต๊ะทำให้เขาไม่มีเวลาจะมาสนใจเรื่องคนอื่น
“ แล้วคุณเมธี ได้รับจดหมายนี้ไหมครับ ? ”
ด้วยความหน้าด้านไร้มารยาทของผมจึงยิงคำถามต่อไป แน่นอนเจ้าตัวก็หันหน้ามาแสดงสีหน้าเบื่ออย่างเห็นได้ชัดก่อนจะตอบด้วยเสียงดุดันราวกับจะกระทืบผมให้ตายว่า
“ผมไม่ได้รับครับ คุณอยากรู้ก็เปิดอ่านเองสิครับมาถามผมอย่างงี้จะได้อะไรล่ะ ?”
ผมรีบหันหน้ากลับมาที่โต๊ะและทำบัญชีต่อก่อนที่ผมจะยั้งปากไปถามคำถามกวนบาทาพี่เมธีอีกไม่ได้ หลังเลิกงานขณะนั่งรถเมล์กลับบ้าน ผมก็เปิดอ่านว่ามันคืออะไร พูดตรงๆครับในวินาทีแรกที่ผมอ่าน ผมอยากกลับไปที่บริษัทแล้วทำป้ายด่าเจ้านายมาก ถ้าไม่ติดที่ต้องจ่ายค่ารถอีก 28 บาทแล้วผมคงไปแน่ๆ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าในจดหมายนั่นเขียนว่าอะไร “เนื่องจากบริษัทเราประสบปัญหาเรื่องการเงินจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหยุดพักงานของท่าน…” โห่ๆ ก็เจ้านายมีแต่เอาเงินไปซื้อหัวไม้กอล์ฟหนิครับ ? จะไม่ประสบปัญหาได้ไง ในหัวผมตอนนี้มีแต่ความโกรธมากกว่าความคิดที่จะทำอะไรซักอย่างกับชีวิตเพื่อจะมีข้าวกิน ในวินาทีนั้น มีกระดาษโฆษณาลอยมาแปะที่หน้าผม ปกติถ้าเป็นเวลาแบบนี้แล้ว กระดาษนั่นคงกลายเป็นโมเลกุลในอากาศไปตามจดหมายสีขาวนั่น(หมายความว่าตอนนี้จดหมายกลายผุยผงไปแล้ว) แต่ติดที่กระดาษแผ่นนี้มีรูปอัศวินขี่ม้า ทำให้ผมอยากอ่านขึ้นมาบ้าง … ใจความในกระดาษนั่นก็คือ บทนำนั่นแหละครับเพื่อความสมจริง รบกวนท่านผู้อ่าน กลับไปอ่านข้างบนอีกซักรอบนะครับ
10 ล้านบาท ! โอ้พระเจ้า แถมได้เป็นฝ่ายพัฒนาระบบของเกมส์ด้วย ได้เงินแถมมีงาน สวรรค์บันดาลชัดๆ ในทีแรกผมก็ดีใจนะครับ แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว ไอ้เครื่องที่ใช้เล่นเกมส์ 4 มิติเนี่ยมันก็ราคาแพงพอสมควร แล้วผมจะใช้เงินไหนซื้อล่ะ ไปเบิกธนาคารหรอ? ให้ผมเดินไปบอกธนาคารว่า “ผมพนักงานบริษัทขายแจกันที่เพิ่งตกงานขอเบิกเงินไปซื้อเครื่องเล่นเกมส์สักหมื่นสองหมื่นครับ” บ้าไปแล้วธนาคารที่ไหนเค้าจะให้กันหละ หลังจากที่ผมคิดฟุ้งซ่านอยู่นานรถก็มาจอดที่หน้าบ้านผมเดินคอตกเข้าบ้านอย่างช้าๆ มองสภาพบ้านที่ซอมซ่อ ไปเรื่อยๆเหมือนคนหมดอะไรตายอยาก ผมจ้องไปที่นาฬิกาแสนรักของผมพลางด่ามันในใจว่า “ถ้าแกไม่ปลุกฉันวันนี้ ฉันก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องเฮ็งซวยแบบนี้หรอก…” ผมกำลังคิดฟุ้งซ่านยังไม่ทันสุด ก็มีเสียงมาขัดจังหวะอีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นเสียงออดของบ้านผมซึ่งเกือบ 5 ปีแล้วที่ผมไม่เคยได้ยินเสียงนี้เลย ผมรีบเดินไปเปิดประตู เพื่อจะยลโฉมหน้าแขกคนแรกที่มาเยี่ยมบ้านผมในรอบ 5 ปี
“ สวัสดีครับ ใช่บ้านคุณ สุเชษฐ์ รึเปล่าครับมีพัสดุส่งมาที่บ้านคุณน่ะ ช่วยเซ็นต์รับด้วยครับ ”
เสียงของคนส่งพัสดุตัวโตที่แต่งชุดยูนิฟอร์มของบริษัทดังขึ้นทันทีหลังจากที่ผมเปิดประตู ท่าทางของเขารีบร้อนมากเหมือนมีงานมากมายรอเขาอยู่
“นี่ครับพัสดุ พร้อมจดหมาย ส่วนนี่ช่วยเซ็นต์รับทราบด้วยนะครับ ผมรีบอ่ะ”
เขายกกล่องที่ใหญ่พอสมควรวางลงพื้นพร้อมยื่นจดหมายกับใบเซ็นต์รับพัสดุให้ผม ผมก็หยิบเฉพาะจดหมายมาอ่านแล้วก็ปล่อยให้เขายืนรอผมเซ็นต์ทั้งๆที่ผมรู้ว่าเขารีบ ท่านผู้อ่านอย่าพึ่งด่าผมในใจนะครับว่าผม EQ ต่ำ ผมไม่ได้ EQ ต่ำหรอกเพียงแค่ผมสะกดคำว่า “มารยาท” ไม่เป็นเท่านั้นเอง
“ถึงคิว หลานรักของป้า”
“เป็นไงบ้างสบายดีไหม ? กับชีวิตที่กรุงเทพฯ ป้าขอโทษที่ไม่ได้มาวันรับปริญญาของหลาน แต่ป้ารู้ว่าหลานไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยป้าจึงไม่ซีเรียสในส่วนนั้น ตอนนี้ป้ากำลังไปได้สวยกับกิจการขายอาหารไทยที่ฮาวาย ลุงก็กินเหล้าน้อยลงมากเลย หลานไม่ต้องห่วงอะไรนะ ป้าเห็นว่าหลานชอบเล่นเกมส์ และ หลานๆหลายคนของป้าก็อ้อนให้ป้าซื้อเกมส์ให้ พอป้าซื้อเสร็จพวกมันก็บอกว่ามีคนซื้อให้แล้ว ป้าก็นึกถึง คิว ทันทีเลยว่าหลานคนโตของป้าเนี่ยก็ติดเกมส์ไม่แพ้น้องๆเหมือนกัน ไม่ต้องซีเรียสกับเรื่องเงินนะตอนนี้ป้ารวยแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนแค่นี้จิ๊บๆ อย่าเล่นเกมส์จนลืมไปทำงานล่ะ”
“ด้วยรัก จากป้ามณี”
พอผมอ่านจดหมายนี้เสร็จผมขมวดคิ้วเป็นโบว์ แล้วอุทานออกมาว่า
“ผมไม่เคยมีป้า และผมก็ไม่เคยมีลุงด้วย คุณส่งผิดบ้านรึเปล่าครับ?”
ผมมองขึ้นมายังหน้าคนส่งพัสดุด้วยสีหน้าเชิงตำหนิว่าเขาส่งผิดบ้านแล้ว แต่หน้าเขาแดงกล่ำทำเอาผมสะดุ้งเนื่องจากผมมัวแต่อ่านจดหมายและไม่ยอมเซ็นต์ซักที
“คุณชื่อ สุเชษฐ์ ใช่ไหม? แล้วนี่ใช่หมายเลขที่บ้านคุณไหม?”
คนส่งพัสดุกระชากจดหมายนั่นจากมือผมแล้วพลิกด้านหลังพลางชี้ไปถามผมไปด้วยอารมณ์อันรุนแรง ผมตกใจกับความโมโหอันเกรี้ยวกราดของเขา ทำให้ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ
“งั้นก็เอาเป็นว่า ผมส่งถูกบ้านและคุณก็รับทราบแล้ว ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็เคลียร์กันเอาเองละกันผมไปก่อนนะ เสียเวลามากแล้ว”
เขารีบเดินขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปโดยเร็วขณะที่ผมยังยืนค้างอยู่กับกระดาษที่ผมจับอยู่ในมืออย่างไร้สติ ผมส่ายหัวแล้วลากกล่องนั้นเข้าบ้าน พอไปถึงห้องผมเปิดกล่องออกดู ผมแทบกรี๊ดสลบ มันคือแว่นตาneouro connector พร้อมเครื่องเล่นเกมส์TFM online ที่มีของแถมอย่างเต็มลูกสูบ ทุกอย่างมีครบ ยกเว้นวิธีใช้ ผมตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่ได้ของเล่นใหม่ ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ ผมรีบเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวทดลองเล่นเจ้าเกมส์นี้ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่มีภาระอะไรต้องแบกรับอีกแล้วชีวิตนี้มีแค่ผม กับ เกมส์เท่านั้น คิดแล้วก็นึกถึงสมัยมัธยมปลาย ที่ผมมีแต่เล่นเกมแบบไม่ลืมหูลืมตา ผมเดินออกจากห้องน้ำใส่ชุดนอน แล้วนั่งประกอบเครื่องเล่นตามความเข้าใจ ผมเสียเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการงมชิ้นส่วน แต่ตอนนี้เครื่องพร้อมจะเล่นได้แล้ว ปัญหาอย่างสุดท้ายคือ ผมจะเข้าเกมส์ยังไง?(= =) และ เข้าไปแล้วจะเกิดอะไร ? ถึงแม้ผมจะเป็นคนโผงผาง แต่ผมก็ไม่คิดจะทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกครับ ผมพยายามมองหาตัวช่วย แล้วก็บังเอิญเจอ ‘โทรศัพท์’ นึกขึ้นได้ทันทีว่ามีเพื่อนสมัย ม.ปลาย เคยชวนผมเล่นTFM online แต่ตอนนั้นผมปฏิเสธไปเพราะผมยังมีการมีงานทำไม่คิดจะมาเล่นเกมส์เอาเป็นเอาตายแบบเมื่อก่อน…
“ ฮาโหลๆ เป็ด! แกยังได้เล่น TFM อยู่รึเปล่าวะ? ”
“ … เล่นสิ เห้ยไอ้คิวเอ็งตัดสินใจเล่น TFM แล้วหรอเนี่ย ดีใจจังมีเพื่อนเล่นด้วยแล้ว ”
“ เล่นสิพอดีเราโดนไล่ออกจากงานหว่ะ ก็เลยอยากเคลียร์เกมนี้แล้วจะได้มีงานใหม่ทำไง ”
“ คิว ! เอ็งว่ายังไงนะ ? จะเคลียร์เกมนี้ ? พูดง่ายแต่ทำยากนะเว้ย คนในเซิฟเวอร์มีเป็นล้าน คนเคลียร์ได้มีแค่คนเดียวเท่านั้น แถมเกมส์นี้เปิดเซิฟเวอร์มาเป็นสี่ห้าเดือนแล้ว ป่านนี้คงมีพวกเทพๆใส่เกราะสีทองเดินว่อนในเมืองแล้วแหละ ”
“ เซิฟเวอร์ ? พวกเทพ ? คนเคลียร์เกมส์มีได้คนเดียว ? ไม่เข้าใจหว่ะเป็ดขอแบบชัดๆหน่อยสิ ”
“ … อ๋อ คิว ท่านมหาเทพเกมส์ออฟไลน์… เอ็งไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์นี่หว่าข้าลืมไปเลย เซิฟเวอร์หมายถึงโลกที่เราเข้าไปอยู่ผ่านทางระบบออนไลน์จะได้พบปะกับผู้คนเรามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ในโลกนั้นไม่มีใครบังคับเราได้ พวกเทพ หมายถึงพวกผู้เล่นที่เล่นเก่งเป็นอันดับต้นๆของเซิฟเวอร์ ส่วนการเคลียร์เกมส์นั้นก็มีได้แค่คนเดียว โดยปกติโลกออนไลน์หนะจะไม่มีวันเคลียร์ได้หรอกนะต่างกับเกมส์ออฟไลน์ที่แกชอบโดยสิ้นเชิง แต่เกมส์นี้สามารถเคลียร์ได้ซึ่งข้าก็ไม่รู้จะทำยังไงแต่รู้แค่ว่า มัน ‘ยากมากๆ’ เท่านั้นเอง ”
“ อืมๆ … พอเข้าใจ แหมเป็ด แกเนี่ยเก่งแต่ทฤษฎี แต่อ่อนปฏิบัติแบบเดิมสินะ ถ้าเรามาเล่นเกมส์นี้ไม่นานก็คงตามแกทัน แล้วแกก็จะกลายเป็นไอ้อ่อนแบบ สมัย ม.ปลาย ฮ่าๆ ”
“ โถ่พ่อคนเก่งอันดับ 1 สุดยอดดาวเกมส์ออฟไลน์ค้างฟ้า ! จะบอกให้นะเกมส์ออนไลน์ต่างกับออฟไลน์ที่เอ็งเคยเล่นอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างวัดกันที่ตัวเลขข้อมูล อย่างข้าเลเวลมากว่าแกสู้กันก็มีโอกาสชนะมากกว่าเกือบ 80% แล้ว โอกาสน้อยมากที่เอ็งจะชนะข้าได้ ”
“โอ๋เอ๋ๆ เป็ดเอ๋ย แกซีเรียสหรอเนี่ย เราก็แค่พูดเล่นๆเอง เป็นเพื่อนกันมาเกือบสิบปีแกก็น่าจะรู้นิสัยเราดีนี่”
“ข้าไม่ได้ซีเรียสเว้ย ข้าก็แซวเอ็งเล่นๆเฉยๆว่ะ แต่เกมส์นี้มีระบบลูกศิษย์-อาจารย์นะ เอ็งมาเป็นลูกศิษย์ข้าก็ได้ มันจะทำให้เอ็งเก็บเลเวลง่ายขึ้นไง สนใจป่าว?”
“…ก็โอเค ดีเลย อย่างน้อยเราก็คงต้องถามแกเกี่ยวกับข้อมูลเกมส์นี้อีกมาก ถ้าจะเรียกแกว่าอาจารย์ก็คงจะไม่แปลกอะไร”
“คิว! นี่เอ็งคิดอะไรอยู่เนี่ย มันก็เป็นแค่ระบบของเกมส์ไม่เห็นจำเป็นต้องนับถือกันเป็นลูกศิษย์-อาจารย์จริงๆซะหน่อย ตลกดีว่ะ คนไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์ ฮ่าๆ”
“ อ๋อใช่ลืมไปเลย เออๆ ว่าแต่จะเข้าเกมส์ทำยังไง แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง ”
“ ก็แค่ใส่แว่นตา neuro connector ทิ้งไว้2นาที แล้วเปิดเครื่องเล่นเกมส์ พอได้ยินเสียงติ๊ดๆ ก็เตรียมตัวนอนพร้อมกับกดปุ่มสีดำที่ขาแว่นด้านขวา พอแกกดปุ่มแล้ว แกก็จะเข้าสู่โลกของ TFM ทันที เวลาในโลกนั้นจะเร็วกว่าโลกของเราสองเท่า แนะนำว่าควรกินอาหารแคปซูลไปด้วยก่อนเล่น เพราะข้ารู้ว่าคนอย่างแกเล่นทีต้องเล่นนานแน่นอน โดยอาหารแคปซูล1เม็ดอยู่ได้นาน1วันในโลกจริง แต่บริษัทเกมส์มีกฏให้ผู้เล่น เล่นได้แค่ 6 วันในเกมส์(3วันโลกจริง)ต่อการออนไลน์ครั้งหนึ่ง เพราะไม่งั้นจะนานเกินไป เออข้าก็พูดมาซะยาวเลย เอาเป็นว่าเจอกันในเกมส์ละกันข้าชื่อ ‘sander’ เอ็งจะตั้งชื่อว่าไรวะ? ”
“… ชื่อหรอ ก็คงเป็น ‘Qucize’ ชื่อประจำตัวเรานี่แหละ เอ้ยคุยกันมานานเลย ขอบคุณมากๆเจอกันในเกมส์นะเพื่อน”
“ได้เลยๆ เดี๋ยวติดต่อไปเจอกันในเกมส์”
ผมวางโทรศัพท์ลง จากนั้นก็เปิดเครื่องตามวิธีที่เป็ดบอก แล้วทุกอย่างก็หยุดที่ขั้นตอนกินอาหารแคปซูล ผมจ้องมันเพราะคิดว่าจะเล่นนานแค่ไหน และแล้วผมก็ได้คำตอบ ถึงจุดนี้ท่านผู้อ่านคงรู้ว่าผมจะออนไลน์นานเท่าไร อาหารแคปซูล 3 เม็ดถูกผมซัดเข้าไปอย่างไม่ลังเล ผมสวนแว่น neuro connectorเรียบร้อยแล้ว และเสียงติ๊ดก็ดังแล้วด้วย เหลือเพียงปลายนิ้วสัมผัสปุ่มสีดำเท่านั้นการเดินทางอันยาวไกลของผมก็จะเริ่มต้นขึ้น
“โลกแห่งTFMจ๋า ป๋ามาแล้ว!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ