เมียลวง บ่วงรัก
8.0
เขียนโดย Inney
วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.18 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
15.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เพราะฉันแค้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่1 เพราะฉันแค้น
หญิงสาวใบหน้าเรียวยาวขาวดุจแป้งสาลี ดวงตากลมโต นัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นช่างน่าค้นหา ขนตาเหยียดงอน จมูกโด่งรับกลับใบหน้า ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อน่าจุมพิต เรือนผมยาวสลวย ลำคอยาวละหง เธอกำลังเหม่อมองกวาดสายตาไปรอบๆไร่องุ่นที่ใหญ่โตแห่งนี้อย่างต้องการหาหนทางหนี แต่มันก็ช่างยากเต็มทีเมื่อคนงานที่จับผิดเธออยู่ต่างพากันจ้องมองเธอไม่ละสายตา เมริณณ์นาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเก็บองุ่นสีม่วงอมแดงพวงใหญ่ต่อไป แต่สายตาของเจ้าหล่อนก็ยังคงจ้องมองหาหนทางหนีอยู่นั่นเอง ก่อนจะได้ยินเสียงใหญ่คำรามปลุกให้เธอตื่นจากห้วงความหวัง
“กำลังมองหาหนทางหนีอยู่ล่ะสิเมริณณ์นา เธอรู้หรือเปล่าว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ฉันเคยเตือนเธอแล้วนะ ถ้าเธอยังคิดที่จะหนีอยู่ล่ะก็ฉันก็คงจะต้องใช้วิธีเด็ดขาดซะแล้วสิ”อติรันณ์กระชากร่างแน่งน้อยเข้ามาปะทะอกแกร่งของตัวเองอย่างแรงด้วยอารมณ์กริ้วโกรธที่เริ่มจะครุกรุ่น ใบหน้าหล่อเหล่าแดงฉานจนเห็นเส้นเลือด นัยน์ตาฉายแววโกรธเกรี้ยวสุดขีด สันกรามนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกให้เมริณณ์นารับรู้ได้ถึงภัยที่กำลังจะมาถึงเธอได้เป็นอย่างดี หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาพนมไหว้ชายหนุ่มอย่างเกรงกลัวดวงหน้าสวยซีดเผือดจนแทบจะไม่เห็นสีเลือด
”ขอร้องล่ะ กรุณาไว้ชีวิตพ่อของฉันด้วยเถอะนะค่ะคุณรัน ถ้าคุณรับปากดิฉันสัญญาว่าจะไม่คิดหนี จะยอมทนรับใช้คุณอยู่จนกว่าคุณจะพอใจ นานเท่าไหร่ฉันก็จะทน” ดวงตากลมโตเริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาหยดใสๆ น้ำเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัวบุคคลตรงหน้ายิ่งนัก
“หึ ขอร้องง่ายดีนะ เธอรู้อะไรไหมเมริณณ์นา พ่อของเธอทำเลวอะไรกับครอบครัวของฉันเอาไว้บ้าง ความเจ็บปวดที่มันฝังอยู่ในใจของฉันมาถึง 15 ปี วันนี้ฉันจะล้างแค้นให้สาสม”ชายหนุ่มเขย่าร่างบอบบางให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เขานั้นเคยได้รับ ถึงแม้เวลามันจะผ่านมานานแต่เขาก็ไม่เคยลืม และมันก็เป็นดังเงาที่คอยตามตัวเขาให้เขาเป็นดั่งปีศาจร้ายที่พร้อมจะกระชากวิญญาณเธอเมื่อไหร่ก็ย่อมได้
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงคุณรัน ฉันก็เจ็บปวดไม่แพ้คุณหรอกนะค่ะ แต่ฉันขอร้องล่ะได้โปรดอย่าทำอะไรพ่อของฉันเลยนะค่ะ ถ้าอยากทำร้ายโปรดทำร้ายฉันแค่เพียงคนเดียว”เมริณณ์นาสะอื้นไห้อย่างแรง ทำเอาหัวใจแข็งกระด้างไหววูบไปด้วยพิษแห่งความเจ็บปวดผสมผสานกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่หัวใจของเขายังไม่เคยได้สัมผัส ชายหนุ่มสลัดความคิดนั้นทิ้งไป มือหนากระชากร่างบางให้เซถลาไปตามแรงของตนเอง เรียวขาขาวที่อ่อนแรงอยู่แล้วถึงกับทรุดลงไปกองที่พื้นถนนลูกรัง เมริณณ์นารับรู้ถึงความแสบสันทันทีจากการที่ผิวเนื้อบอบบางกระทบกับพื้นถนนอย่างแรง เลือดสีแดงฉานหลั่งไหลออกมาจากบาดแผล แต่ชายหนุ่มกลับยืนยิ้มและหัวเราะพอใจกับการกระทำของตนเอง
“อย่ามัวสำออย ยัยผู้หญิงหน้าด้าน ฉันปราณีเธอมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ไปเธอจะได้รับบทเรียนที่มันทั้งขมขืนและเจ็บปวดแทบปางตาย เธอจะต้องชดใช้ให้กับพ่อ แม่ น้อง และก็ฉัน จำไว้ว่าฉันคือเจ้าชีวิตของเธอนับต่อจากนี้ไปและพ่อของเธอจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่ต้องเห็นลูกสาวสุดที่รักของตัวเองแปดเปื้อนมีมลทินมีผัวเป็นร้อยๆคน”คำพูดเชือดเฉือนแสนร้ายอกาจกรีดลึกลงไปถึงขั้วหัวใจดวงน้อยๆของหญิงสาวอย่างไร้เยื่อใย ให้เขาทำร้ายร่างกายเธอยังดีกว่าที่เขาพูดทำร้ายจิตใจเธอแบบนี้ด้วยซ้ำไป
"คุณรัน ฮึก..ฮือ กรุณาเมตตาฉันและพ่อด้วยเถอะค่ะ ฉันกลัวแล้ว”หญิงสาวค่อยๆคลานเข้าไปเกาะขาของอติรันณ์อย่างอ้อนวอน น้ำตาหยดใสๆไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยไม่ขาดสาย แต่แทนที่ชายหนุ่มจะนึกสงสารแต่กลับยิ่งสมเพชและเวทนาหญิงสาวตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
“ฮ่าๆ เธอคิดหรือว่าคนอย่างฉันจะแพ้น้ำตาของผู้หญิงเจ้ามารยาอย่างเธอเมริณณ์นา เธอผ่านผู้ชายมาก็เยอะแล้วยังจะกลัวอะไรอีก น่าจะชินแล้วนะกลับการมีผัวเป็นร้อยๆคน” น้ำเสียงโหดเหี้ยมเยือกเย็นนั้นทำให้จิตใจของเมริณณ์นากลัวจนแทบสติแตก มือเรียวงามเกาะขาของชายหนุ่มตรงหน้าแน่นขึ้น เพราะความกลัว แต่อติรันณ์กลับสะบัดขาของตนเองให้พ้นจากพันธนาการมือเรียวของหญิงสาว
“จำใส่หัวกะโหลกหนาๆของเธอเอาไว้เมริณณ์นา เธอมันก็แค่ลูกไก่ในกำมือของฉันที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือต่อรองใดๆทั้งสิ้น”
“ฮึกๆ ฮือๆ”มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวเท่านั้นที่ตอบกลับมาปราศจากคำพูดใดๆจากหญิงสาว มันไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มใจเย็นลงเลยสักนิดแต่กลับยิ่งทำให้เขาร้อนเป็นไฟมากขึ้น เขาไม่แคร์สายตาใครใครแม้จะรู้อยู่ว่ามีคนยืนดูอยู่มากมายเขาก็ยังคงทำร้ายเธออย่างป่าเถื่อน
“ไม่พูดไม่โต้ตอบ อืม ก็ดี แต่เธอรู้ไหมว่าฉันเกลียดที่สุดการกระทำแบบนี้ มันทำให้คำพูดของฉันไม่ประกาศิตพอ มานี่เลยนังตัวดี ถ้าเธอคิดจะลองดีกับฉันก็เอาสิเมริณณ์นา” อติรันณ์กระชากข้อมือของหญิงสาวให้ลุกขึ้นแต่ตอนนี้เธออ่อนแรงเหลือเกินแม้แต่แรงจะโต้เถียงกับเขาเธอยังไม่มีเลย แรงกระชากทำให้เมริณณ์นาเจ็บจนจุกต้องฟุบหน้าลงไปกลับพื้นถนน คนงานในไร่ถึงกับตะลึงที่เห็นเจ้านายที่พวกเขาเคารพรักกระทำการโหดเหี้ยมได้มากขนาดนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยหญิงสาวเพราะเกรงกลัวอติรันณ์นั่นเอง
“โอ๊ะ...โอ๊ย ฉันเจ็บนะค่ะคุณรัน”เมริณณ์นาจ้องมองใบหน้าคมที่มีหนวดเคราเฟิ้มแต่ทว่ากลับช่างหล่อเหลาราวกับเทพบุตรแต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความแค้นที่มีต่อหล่อน
“อย่าสำออยนังตัวดี วันนี้เธอจะต้องเจ็บเจียนตาย เจ็บเหมือนที่ฉันเคยเจ็บ”ชายหนุ่มไม่สนอะไรทั้งสิ้นเขารู้แค่ว่าเขาต้องการแก้แค้นให้กับครอบครัวของเขาแต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังทำร้ายตัวเองทางอ้อม มือหนาลากร่างบอบบางของหญิงสาวให้ถูไถไปตามพื้นถนนที่เต็มไปด้วยก้อนดินกรวดทราย ผิวเนื้อที่เคยขาวเนียนไร้ริ้วรอยใดๆแต่ในตอนนี้กลับมีรอยแดงเป็นปื้นทั่วทั้งแขนและดูท่าว่ามันจะเริ่มถลอกเลือดเริ่มซึมซิบๆ หญิงสาวทั้งเจ็บและแสบแต่ก็รู้ดีว่าคำขอร้องของเธอคงไม่มีค่าพอที่จะให้เขาหยุดทารุณเธอ แต่ก่อนที่เขาจะลากเธอไปไกลกว่านี้สายตาของเธอเริ่มมืดลงพร้อมกลับสติที่ดับวูบ
“เมริณณ์นาเธอหยุดร้องไห้ทำไมล่ะ สะอื้นต่อสิ ฉันชอบ”อติรันณ์เยาะเย้ยหญิงสาว แต่มือหนาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ไหวติงของมือน้อยที่เขาจับอยู่ ชายหนุ่มชักเอ๊ะใจ ก่อนจะหันขวัญไปมองอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง หัวใจของเขาหล่นวูบหญิงสาวหน้าซีดเผือดไร้เลือดฝาดแถมยังหายใจรวยระรินอีกด้วย ไม่รอช้าอติรันณ์รีบช้อนร่างงามด้วยสองมือแกร่งร่างสูงโปร่งพาร่างหนาของตัวเองมาให้ถึงบ้านพักของตนเองอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
หญิงสาวใบหน้าเรียวยาวขาวดุจแป้งสาลี ดวงตากลมโต นัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นช่างน่าค้นหา ขนตาเหยียดงอน จมูกโด่งรับกลับใบหน้า ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อน่าจุมพิต เรือนผมยาวสลวย ลำคอยาวละหง เธอกำลังเหม่อมองกวาดสายตาไปรอบๆไร่องุ่นที่ใหญ่โตแห่งนี้อย่างต้องการหาหนทางหนี แต่มันก็ช่างยากเต็มทีเมื่อคนงานที่จับผิดเธออยู่ต่างพากันจ้องมองเธอไม่ละสายตา เมริณณ์นาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเก็บองุ่นสีม่วงอมแดงพวงใหญ่ต่อไป แต่สายตาของเจ้าหล่อนก็ยังคงจ้องมองหาหนทางหนีอยู่นั่นเอง ก่อนจะได้ยินเสียงใหญ่คำรามปลุกให้เธอตื่นจากห้วงความหวัง
“กำลังมองหาหนทางหนีอยู่ล่ะสิเมริณณ์นา เธอรู้หรือเปล่าว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ฉันเคยเตือนเธอแล้วนะ ถ้าเธอยังคิดที่จะหนีอยู่ล่ะก็ฉันก็คงจะต้องใช้วิธีเด็ดขาดซะแล้วสิ”อติรันณ์กระชากร่างแน่งน้อยเข้ามาปะทะอกแกร่งของตัวเองอย่างแรงด้วยอารมณ์กริ้วโกรธที่เริ่มจะครุกรุ่น ใบหน้าหล่อเหล่าแดงฉานจนเห็นเส้นเลือด นัยน์ตาฉายแววโกรธเกรี้ยวสุดขีด สันกรามนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกให้เมริณณ์นารับรู้ได้ถึงภัยที่กำลังจะมาถึงเธอได้เป็นอย่างดี หญิงสาวรีบยกมือขึ้นมาพนมไหว้ชายหนุ่มอย่างเกรงกลัวดวงหน้าสวยซีดเผือดจนแทบจะไม่เห็นสีเลือด
”ขอร้องล่ะ กรุณาไว้ชีวิตพ่อของฉันด้วยเถอะนะค่ะคุณรัน ถ้าคุณรับปากดิฉันสัญญาว่าจะไม่คิดหนี จะยอมทนรับใช้คุณอยู่จนกว่าคุณจะพอใจ นานเท่าไหร่ฉันก็จะทน” ดวงตากลมโตเริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาหยดใสๆ น้ำเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัวบุคคลตรงหน้ายิ่งนัก
“หึ ขอร้องง่ายดีนะ เธอรู้อะไรไหมเมริณณ์นา พ่อของเธอทำเลวอะไรกับครอบครัวของฉันเอาไว้บ้าง ความเจ็บปวดที่มันฝังอยู่ในใจของฉันมาถึง 15 ปี วันนี้ฉันจะล้างแค้นให้สาสม”ชายหนุ่มเขย่าร่างบอบบางให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เขานั้นเคยได้รับ ถึงแม้เวลามันจะผ่านมานานแต่เขาก็ไม่เคยลืม และมันก็เป็นดังเงาที่คอยตามตัวเขาให้เขาเป็นดั่งปีศาจร้ายที่พร้อมจะกระชากวิญญาณเธอเมื่อไหร่ก็ย่อมได้
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงคุณรัน ฉันก็เจ็บปวดไม่แพ้คุณหรอกนะค่ะ แต่ฉันขอร้องล่ะได้โปรดอย่าทำอะไรพ่อของฉันเลยนะค่ะ ถ้าอยากทำร้ายโปรดทำร้ายฉันแค่เพียงคนเดียว”เมริณณ์นาสะอื้นไห้อย่างแรง ทำเอาหัวใจแข็งกระด้างไหววูบไปด้วยพิษแห่งความเจ็บปวดผสมผสานกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่หัวใจของเขายังไม่เคยได้สัมผัส ชายหนุ่มสลัดความคิดนั้นทิ้งไป มือหนากระชากร่างบางให้เซถลาไปตามแรงของตนเอง เรียวขาขาวที่อ่อนแรงอยู่แล้วถึงกับทรุดลงไปกองที่พื้นถนนลูกรัง เมริณณ์นารับรู้ถึงความแสบสันทันทีจากการที่ผิวเนื้อบอบบางกระทบกับพื้นถนนอย่างแรง เลือดสีแดงฉานหลั่งไหลออกมาจากบาดแผล แต่ชายหนุ่มกลับยืนยิ้มและหัวเราะพอใจกับการกระทำของตนเอง
“อย่ามัวสำออย ยัยผู้หญิงหน้าด้าน ฉันปราณีเธอมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ไปเธอจะได้รับบทเรียนที่มันทั้งขมขืนและเจ็บปวดแทบปางตาย เธอจะต้องชดใช้ให้กับพ่อ แม่ น้อง และก็ฉัน จำไว้ว่าฉันคือเจ้าชีวิตของเธอนับต่อจากนี้ไปและพ่อของเธอจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่ต้องเห็นลูกสาวสุดที่รักของตัวเองแปดเปื้อนมีมลทินมีผัวเป็นร้อยๆคน”คำพูดเชือดเฉือนแสนร้ายอกาจกรีดลึกลงไปถึงขั้วหัวใจดวงน้อยๆของหญิงสาวอย่างไร้เยื่อใย ให้เขาทำร้ายร่างกายเธอยังดีกว่าที่เขาพูดทำร้ายจิตใจเธอแบบนี้ด้วยซ้ำไป
"คุณรัน ฮึก..ฮือ กรุณาเมตตาฉันและพ่อด้วยเถอะค่ะ ฉันกลัวแล้ว”หญิงสาวค่อยๆคลานเข้าไปเกาะขาของอติรันณ์อย่างอ้อนวอน น้ำตาหยดใสๆไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยไม่ขาดสาย แต่แทนที่ชายหนุ่มจะนึกสงสารแต่กลับยิ่งสมเพชและเวทนาหญิงสาวตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
“ฮ่าๆ เธอคิดหรือว่าคนอย่างฉันจะแพ้น้ำตาของผู้หญิงเจ้ามารยาอย่างเธอเมริณณ์นา เธอผ่านผู้ชายมาก็เยอะแล้วยังจะกลัวอะไรอีก น่าจะชินแล้วนะกลับการมีผัวเป็นร้อยๆคน” น้ำเสียงโหดเหี้ยมเยือกเย็นนั้นทำให้จิตใจของเมริณณ์นากลัวจนแทบสติแตก มือเรียวงามเกาะขาของชายหนุ่มตรงหน้าแน่นขึ้น เพราะความกลัว แต่อติรันณ์กลับสะบัดขาของตนเองให้พ้นจากพันธนาการมือเรียวของหญิงสาว
“จำใส่หัวกะโหลกหนาๆของเธอเอาไว้เมริณณ์นา เธอมันก็แค่ลูกไก่ในกำมือของฉันที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือต่อรองใดๆทั้งสิ้น”
“ฮึกๆ ฮือๆ”มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวเท่านั้นที่ตอบกลับมาปราศจากคำพูดใดๆจากหญิงสาว มันไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มใจเย็นลงเลยสักนิดแต่กลับยิ่งทำให้เขาร้อนเป็นไฟมากขึ้น เขาไม่แคร์สายตาใครใครแม้จะรู้อยู่ว่ามีคนยืนดูอยู่มากมายเขาก็ยังคงทำร้ายเธออย่างป่าเถื่อน
“ไม่พูดไม่โต้ตอบ อืม ก็ดี แต่เธอรู้ไหมว่าฉันเกลียดที่สุดการกระทำแบบนี้ มันทำให้คำพูดของฉันไม่ประกาศิตพอ มานี่เลยนังตัวดี ถ้าเธอคิดจะลองดีกับฉันก็เอาสิเมริณณ์นา” อติรันณ์กระชากข้อมือของหญิงสาวให้ลุกขึ้นแต่ตอนนี้เธออ่อนแรงเหลือเกินแม้แต่แรงจะโต้เถียงกับเขาเธอยังไม่มีเลย แรงกระชากทำให้เมริณณ์นาเจ็บจนจุกต้องฟุบหน้าลงไปกลับพื้นถนน คนงานในไร่ถึงกับตะลึงที่เห็นเจ้านายที่พวกเขาเคารพรักกระทำการโหดเหี้ยมได้มากขนาดนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยหญิงสาวเพราะเกรงกลัวอติรันณ์นั่นเอง
“โอ๊ะ...โอ๊ย ฉันเจ็บนะค่ะคุณรัน”เมริณณ์นาจ้องมองใบหน้าคมที่มีหนวดเคราเฟิ้มแต่ทว่ากลับช่างหล่อเหลาราวกับเทพบุตรแต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความแค้นที่มีต่อหล่อน
“อย่าสำออยนังตัวดี วันนี้เธอจะต้องเจ็บเจียนตาย เจ็บเหมือนที่ฉันเคยเจ็บ”ชายหนุ่มไม่สนอะไรทั้งสิ้นเขารู้แค่ว่าเขาต้องการแก้แค้นให้กับครอบครัวของเขาแต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังทำร้ายตัวเองทางอ้อม มือหนาลากร่างบอบบางของหญิงสาวให้ถูไถไปตามพื้นถนนที่เต็มไปด้วยก้อนดินกรวดทราย ผิวเนื้อที่เคยขาวเนียนไร้ริ้วรอยใดๆแต่ในตอนนี้กลับมีรอยแดงเป็นปื้นทั่วทั้งแขนและดูท่าว่ามันจะเริ่มถลอกเลือดเริ่มซึมซิบๆ หญิงสาวทั้งเจ็บและแสบแต่ก็รู้ดีว่าคำขอร้องของเธอคงไม่มีค่าพอที่จะให้เขาหยุดทารุณเธอ แต่ก่อนที่เขาจะลากเธอไปไกลกว่านี้สายตาของเธอเริ่มมืดลงพร้อมกลับสติที่ดับวูบ
“เมริณณ์นาเธอหยุดร้องไห้ทำไมล่ะ สะอื้นต่อสิ ฉันชอบ”อติรันณ์เยาะเย้ยหญิงสาว แต่มือหนาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ไหวติงของมือน้อยที่เขาจับอยู่ ชายหนุ่มชักเอ๊ะใจ ก่อนจะหันขวัญไปมองอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง หัวใจของเขาหล่นวูบหญิงสาวหน้าซีดเผือดไร้เลือดฝาดแถมยังหายใจรวยระรินอีกด้วย ไม่รอช้าอติรันณ์รีบช้อนร่างงามด้วยสองมือแกร่งร่างสูงโปร่งพาร่างหนาของตัวเองมาให้ถึงบ้านพักของตนเองอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ