The Door
-
เขียนโดย sanago
วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.
1 บท
2 วิจารณ์
3,490 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 05.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) The Door 01
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“คุณสมหวังค่ะช่วยส่งเอกสารให้ดิฉันด้วย”
“คุณนภารับสาย2ด้วยค่ะ”
“คุณประสงค์ครับเอกสารยังไปไม่ถึงอีกเหรอครับ”
“…………”
มันคือชีวิตวุ่นวายในบริษัทประกันสังคมที่ผมได้ทำงานอยู่ มันเป็นชีวิตที่หน้าเบื่อแต่ผมทนกับความเบื่อได้ถึง9ปี ชีวิตที่ไม่มีอะไรนอกจากงานและการพักผ่อนเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงและก็เริ่มทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จบ ผมไม่รู้ว่าชีวิตของผมมันน่าเบื่อหน่ายตั้งแต่ตอนไหน เวลามันมักจะไปเร็วกว่าความคิดเสมอ อยู่นี่ผมเป็นพนักงานลูกจ้างเงินเดือนพออยู่พอกิน รายได้ต่อปีก็หลักแสนขึ้นตลอดจะมีแต่พนักงานบางคนเท่านั้นทนทุกข์ทรมานกับการฟุ่มเฟื่อยจนติดหนี้สิ้น แต่มันคงไม่เกิดกับผมแน่เพราะตัวผมรู้จักการใช้จ่ายพออยู่พอกิน อันที่จริงก็ไม่เชิงรู้หรอก เพราะตัวผมไม่รู้จะซื้ออะไรดีมากกว่าต่างหาก ในห้องเก่าๆค่าเช่าแค่2000ไม่มีอะไรนอกจากพัดลม ที่นอนและตู้เสื้อผ้า ตัวผมคิดว่ามันไม่จำเป็น ถึงแม้คนเราต้องอาศัยปัจจัย4 แต่ผมคิดว่า ผมอยู่ได้ถึงจะไม่ครบ4ปัจจัยก็ตาม ผมมักทำงานอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้หัวหน้าพอใจและขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนต่ำแหน่งแต่มันก็ทำให้ผมดีใจกับเรื่องอะไรต่างๆไม่ออก คนในบริษัทไม่ค่อยมีใครสนิทกับผม เพราะผมไม่ต้องการที่จะพึ่งพาอาศัยใครและไม่ชอบวุ่นวายกับใครด้วย หลายต่อหลายคนก็ไม่ชอบหน้าผมเช่นกัน นอกเสียจากพนักงานทำความสะอาดที่อยู่มาได้5เดือนกว่าๆเท่านั้นที่กล้ามาวอแวกับผม มันชื่อธง มันเป็นคนที่เข้ากับทุกคนแต่พวกนี้ไม่มีใครซักคนที่อยากคุยกับมันเพราะมันมีฐานะที่ประชากรส่วนใหญ่ทำตัวแสแสร้งทำท่าทางเหมือนขยะแขยงในตัวมัน ตัวผมคิดว่ามันมีมันสมองดีกว่าพวกพนักงานหลายต่อหลายคนในที่นี้ซะอีก ที่ผมสนิทกับมันได้เพราะผมวานให้มันไปเป็นธุระให้ผมบ่อยครั้ง ถ้าจะถามผมว่าทำไมถึงกล้าให้มันไปทำธุระให้นะเหรอ อาจจะเป็นเพราะความสงสารละมั้ง พระเจ้ามักจะเล่นตลกกับคนทุกคนเสมอ ถ้าพูดถึงเรื่องเวรกรรม บุญบารมี ใจของผมก็อยากจะเชื่อเรื่องแบบนี้ คนอื่นอาจจะมองว่ามีเวรกรรมต่อกัน แต่ผมมองว่ามันขึ้นอยู่กับมนุษย์สัมพันธ์มากกว่า ความงมงายทำให้คนลุ่มหลง ผมไม่คิดจะดูถูกใคร ถ้าไม่มีใครมาดูถูกผมก่อน ความไว้เนื้อเชื่อใจถึงได้เกิดขึ้นระหว่างผมกับไอ้ธงถึงแม้ผมไม่ค่อยอยากวุ่นวายกับมันก็ตาม เพราะเหตุนี้ผมถึงได้ไว้ใจไอ้ธงไปเป็นธุระให้ผม เพราะมันไม่ได้คิดร้ายกับผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าถามคุณอีกว่าคุณจะเชื่อไหมว่าในโลกนี้มีมันคนเดียวเท่านั้นที่ผมได้คุยกับมันโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะทั้งที่ผมพึ่งรู้จักกับมันไม่นาน หรืออาจเป็นเพราะการที่ผมเติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนมันรึป่าว ผมไม่มีครอบครัวไม่มีความรัก ชีวิตผมอาจจะมีแต่การทำงานเท่านั้นและได้คุยกับไอ้ธง หรือไม่ก็อาจจะมีบางสิ่งที่จะทำให้ผมเปลี่ยนไปตลอดกาล หลังต่อจากนี้
………………..
“ ธง ”
“ครับเฮีย”
“มานี่ซิ วานไปทำธุระให้หน่อยซิว่ะ”
“ครับ..จะให้ทำอะไรเหรอครับเฮีย”
“เอาเอกสารนี้ไปให้คุณนงนุชฝ่ายบัญชีที่ชั้น3ทีนะ แล้วบอกเขาว่าข้ายังเหลือเอกสารอีก2ชุดนะ”
“ครับเฮีย”
“แล้วอีกอย่างนะ….เอ็งเลิกเรียกข้าว่าเฮียได้แล้ว ข้าก็อายุเท่าๆกับเอ็ง เรียกชื่อข้าจะดีกว่า”
“ครับเฮียยุทธ”
ผมไม่พูดอะไรมาก พูดไปมันก็เกรงใจผมอยู่ดีนี่อาจเป็นเพราะฐานะที่ต่างกันก็เป็นได้ มันมักจะถามเรื่องที่อยู่อาศัยของผม2วันต่อครั้งเนื่องมาจากเดือนก่อนมันชวนผมไปดื่มเหล้าที่บ้านของมัน ผมเลยบอกมันให้ไปกินห้องผมดีกว่าและหลังจากที่มันได้เห็นสภาพที่อยู่อาศัยกับสถานะภาพในการทำงานมันจึงทำตัวเป็นไกด์แนะนำบ้านตามสถานที่ต่างๆให้ผม ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าผมอยากได้บ้านซักหลังแต่นิสัยผมไม่ต้องการเสียเงินไปโดยใช่เหตุและไม่ยอมลงทุนอะไรโดยง่ายๆถ้าผลกำไรไม่เด่นชัด คงจะมีคราวนี้ที่ต้องรับฟังคำพูดมันเกี่ยวกับบ้านเพราะห้องเช่าที่ผมอยู่ก็เริ่มโทรมขึ้นเรื่อยๆไม่รู้วันไหนจะพังถลายลงมา
“มาแล้วครับเฮีย”ไอ้ธงเดินมายิ้มละรื่นมาที่โต๊ะทำงานของผมเพื่อมาคุยเรื่องบ้านเหมือนเดิมเพราะครบ2วันพอดี
“เฮียย้ายยังเฮีย”
“ยังวะยังอยู่ที่เดิม”
“ไม่ต้องห่วงนะเฮียผมจะหาบ้านสวยๆอยู่สบายๆให้เฮียเอง”
“เออ...ข้ารู้”
มันยิ้มพร้อมกับหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์ยับๆของวันที่แล้วมาให้ผมดู
“นี่เลยเฮียยุทธ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว สวยอีกต่างหากสนใจไหมเฮีย”
“เอ็งก็ช่างสรรหามานะ เอ็งไม่คิดหรอว่ามันใหญ่โตสำหรับข้า ข้าอยู่คนเดียวนะโว้ย หรือเอ็งจะเข้าไปอยู่กับข้า”
“อยู่ก็ดีซิ ผมได้เป็นคนใช้ทำความสะอาด”
“เอ็งนี่ ตอบได้ภูมิใจปากจิงๆ ไม่ละข้าไม่ชอบวะ”
“โถ่...เฮียเรื่องมากจังเฮีย แล้วอย่างนี้เมื่อไรเฮียจะได้มีเมียซะทีละ”
“เอ็งอย่ามานอกเรื่อง..ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากได้บ้านนะ แต่เอ็งดูซิราคามันแพงซะขนาดนี้ซื้อไปก็ไม่คุ้มหรอกโว้ย”
“5 ล้านกว่าๆเองคนอย่างเฮียจ่ายได้สบายอยู่แล้ว”
“เฮ้ยพูดเหมือนเอ็งหาตังค์ได้สบายเลยนะ...ให้ตายซิ...เอางี้ข้าให้เต็มที่ไม่เกิน3ล้านแล้วข้าจะซื้อเอ็งไปหามา”
“โถ่....เฮีย...โอเคครับเฮียผมขอเวลา...”
“2 วันไม่ต้องบอกข้ารู้”
“เฮียคืนนี้ว่างไหมเฮีย”
“เอ็งจะชวนข้าไปดื่มละซิ”
“โถเฮียไม่เดาซักเรื่องได้ไหมขอเถอะคร้าบ”
“งั้นเอ็งจะชวนข้าไปไหน?”
“ไปดื่มครับฮีย”
“ตังค์ข้าเปลืองก็เพราะเอ็งนี้แหละ ข้าไม่ไป”
“โถเฮียไปเถอะนะครับ...เอางี้ผมเลี้ยงละกันเพราะผมเป็นคนชวน”
“เอ็งแน่ใจว่าจะไม่ชักดาบ”
“okเลยนะเฮียเดี๋ยวผมแนะนำร้านที่มีสาวๆน่ารักๆให้นะเฮีย ขอตัวก่อนนะเฮียหมดเวลาอู้งานแล้วครับ แล้วเจอกันตอนเลิกงานนะเฮีย”
ไอ้ธงมันก็เป็นอย่างนี้ประจำซึ่งผมคงไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่ามันเพราะมีแต่ผมเท่านั้นที่ไปด้วยกันกับมันเพียงแค่2คน
“คุณนภารับสาย2ด้วยค่ะ”
“คุณประสงค์ครับเอกสารยังไปไม่ถึงอีกเหรอครับ”
“…………”
มันคือชีวิตวุ่นวายในบริษัทประกันสังคมที่ผมได้ทำงานอยู่ มันเป็นชีวิตที่หน้าเบื่อแต่ผมทนกับความเบื่อได้ถึง9ปี ชีวิตที่ไม่มีอะไรนอกจากงานและการพักผ่อนเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงและก็เริ่มทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จบ ผมไม่รู้ว่าชีวิตของผมมันน่าเบื่อหน่ายตั้งแต่ตอนไหน เวลามันมักจะไปเร็วกว่าความคิดเสมอ อยู่นี่ผมเป็นพนักงานลูกจ้างเงินเดือนพออยู่พอกิน รายได้ต่อปีก็หลักแสนขึ้นตลอดจะมีแต่พนักงานบางคนเท่านั้นทนทุกข์ทรมานกับการฟุ่มเฟื่อยจนติดหนี้สิ้น แต่มันคงไม่เกิดกับผมแน่เพราะตัวผมรู้จักการใช้จ่ายพออยู่พอกิน อันที่จริงก็ไม่เชิงรู้หรอก เพราะตัวผมไม่รู้จะซื้ออะไรดีมากกว่าต่างหาก ในห้องเก่าๆค่าเช่าแค่2000ไม่มีอะไรนอกจากพัดลม ที่นอนและตู้เสื้อผ้า ตัวผมคิดว่ามันไม่จำเป็น ถึงแม้คนเราต้องอาศัยปัจจัย4 แต่ผมคิดว่า ผมอยู่ได้ถึงจะไม่ครบ4ปัจจัยก็ตาม ผมมักทำงานอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้หัวหน้าพอใจและขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนต่ำแหน่งแต่มันก็ทำให้ผมดีใจกับเรื่องอะไรต่างๆไม่ออก คนในบริษัทไม่ค่อยมีใครสนิทกับผม เพราะผมไม่ต้องการที่จะพึ่งพาอาศัยใครและไม่ชอบวุ่นวายกับใครด้วย หลายต่อหลายคนก็ไม่ชอบหน้าผมเช่นกัน นอกเสียจากพนักงานทำความสะอาดที่อยู่มาได้5เดือนกว่าๆเท่านั้นที่กล้ามาวอแวกับผม มันชื่อธง มันเป็นคนที่เข้ากับทุกคนแต่พวกนี้ไม่มีใครซักคนที่อยากคุยกับมันเพราะมันมีฐานะที่ประชากรส่วนใหญ่ทำตัวแสแสร้งทำท่าทางเหมือนขยะแขยงในตัวมัน ตัวผมคิดว่ามันมีมันสมองดีกว่าพวกพนักงานหลายต่อหลายคนในที่นี้ซะอีก ที่ผมสนิทกับมันได้เพราะผมวานให้มันไปเป็นธุระให้ผมบ่อยครั้ง ถ้าจะถามผมว่าทำไมถึงกล้าให้มันไปทำธุระให้นะเหรอ อาจจะเป็นเพราะความสงสารละมั้ง พระเจ้ามักจะเล่นตลกกับคนทุกคนเสมอ ถ้าพูดถึงเรื่องเวรกรรม บุญบารมี ใจของผมก็อยากจะเชื่อเรื่องแบบนี้ คนอื่นอาจจะมองว่ามีเวรกรรมต่อกัน แต่ผมมองว่ามันขึ้นอยู่กับมนุษย์สัมพันธ์มากกว่า ความงมงายทำให้คนลุ่มหลง ผมไม่คิดจะดูถูกใคร ถ้าไม่มีใครมาดูถูกผมก่อน ความไว้เนื้อเชื่อใจถึงได้เกิดขึ้นระหว่างผมกับไอ้ธงถึงแม้ผมไม่ค่อยอยากวุ่นวายกับมันก็ตาม เพราะเหตุนี้ผมถึงได้ไว้ใจไอ้ธงไปเป็นธุระให้ผม เพราะมันไม่ได้คิดร้ายกับผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าถามคุณอีกว่าคุณจะเชื่อไหมว่าในโลกนี้มีมันคนเดียวเท่านั้นที่ผมได้คุยกับมันโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะทั้งที่ผมพึ่งรู้จักกับมันไม่นาน หรืออาจเป็นเพราะการที่ผมเติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนมันรึป่าว ผมไม่มีครอบครัวไม่มีความรัก ชีวิตผมอาจจะมีแต่การทำงานเท่านั้นและได้คุยกับไอ้ธง หรือไม่ก็อาจจะมีบางสิ่งที่จะทำให้ผมเปลี่ยนไปตลอดกาล หลังต่อจากนี้
………………..
“ ธง ”
“ครับเฮีย”
“มานี่ซิ วานไปทำธุระให้หน่อยซิว่ะ”
“ครับ..จะให้ทำอะไรเหรอครับเฮีย”
“เอาเอกสารนี้ไปให้คุณนงนุชฝ่ายบัญชีที่ชั้น3ทีนะ แล้วบอกเขาว่าข้ายังเหลือเอกสารอีก2ชุดนะ”
“ครับเฮีย”
“แล้วอีกอย่างนะ….เอ็งเลิกเรียกข้าว่าเฮียได้แล้ว ข้าก็อายุเท่าๆกับเอ็ง เรียกชื่อข้าจะดีกว่า”
“ครับเฮียยุทธ”
ผมไม่พูดอะไรมาก พูดไปมันก็เกรงใจผมอยู่ดีนี่อาจเป็นเพราะฐานะที่ต่างกันก็เป็นได้ มันมักจะถามเรื่องที่อยู่อาศัยของผม2วันต่อครั้งเนื่องมาจากเดือนก่อนมันชวนผมไปดื่มเหล้าที่บ้านของมัน ผมเลยบอกมันให้ไปกินห้องผมดีกว่าและหลังจากที่มันได้เห็นสภาพที่อยู่อาศัยกับสถานะภาพในการทำงานมันจึงทำตัวเป็นไกด์แนะนำบ้านตามสถานที่ต่างๆให้ผม ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าผมอยากได้บ้านซักหลังแต่นิสัยผมไม่ต้องการเสียเงินไปโดยใช่เหตุและไม่ยอมลงทุนอะไรโดยง่ายๆถ้าผลกำไรไม่เด่นชัด คงจะมีคราวนี้ที่ต้องรับฟังคำพูดมันเกี่ยวกับบ้านเพราะห้องเช่าที่ผมอยู่ก็เริ่มโทรมขึ้นเรื่อยๆไม่รู้วันไหนจะพังถลายลงมา
“มาแล้วครับเฮีย”ไอ้ธงเดินมายิ้มละรื่นมาที่โต๊ะทำงานของผมเพื่อมาคุยเรื่องบ้านเหมือนเดิมเพราะครบ2วันพอดี
“เฮียย้ายยังเฮีย”
“ยังวะยังอยู่ที่เดิม”
“ไม่ต้องห่วงนะเฮียผมจะหาบ้านสวยๆอยู่สบายๆให้เฮียเอง”
“เออ...ข้ารู้”
มันยิ้มพร้อมกับหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์ยับๆของวันที่แล้วมาให้ผมดู
“นี่เลยเฮียยุทธ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว สวยอีกต่างหากสนใจไหมเฮีย”
“เอ็งก็ช่างสรรหามานะ เอ็งไม่คิดหรอว่ามันใหญ่โตสำหรับข้า ข้าอยู่คนเดียวนะโว้ย หรือเอ็งจะเข้าไปอยู่กับข้า”
“อยู่ก็ดีซิ ผมได้เป็นคนใช้ทำความสะอาด”
“เอ็งนี่ ตอบได้ภูมิใจปากจิงๆ ไม่ละข้าไม่ชอบวะ”
“โถ่...เฮียเรื่องมากจังเฮีย แล้วอย่างนี้เมื่อไรเฮียจะได้มีเมียซะทีละ”
“เอ็งอย่ามานอกเรื่อง..ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากได้บ้านนะ แต่เอ็งดูซิราคามันแพงซะขนาดนี้ซื้อไปก็ไม่คุ้มหรอกโว้ย”
“5 ล้านกว่าๆเองคนอย่างเฮียจ่ายได้สบายอยู่แล้ว”
“เฮ้ยพูดเหมือนเอ็งหาตังค์ได้สบายเลยนะ...ให้ตายซิ...เอางี้ข้าให้เต็มที่ไม่เกิน3ล้านแล้วข้าจะซื้อเอ็งไปหามา”
“โถ่....เฮีย...โอเคครับเฮียผมขอเวลา...”
“2 วันไม่ต้องบอกข้ารู้”
“เฮียคืนนี้ว่างไหมเฮีย”
“เอ็งจะชวนข้าไปดื่มละซิ”
“โถเฮียไม่เดาซักเรื่องได้ไหมขอเถอะคร้าบ”
“งั้นเอ็งจะชวนข้าไปไหน?”
“ไปดื่มครับฮีย”
“ตังค์ข้าเปลืองก็เพราะเอ็งนี้แหละ ข้าไม่ไป”
“โถเฮียไปเถอะนะครับ...เอางี้ผมเลี้ยงละกันเพราะผมเป็นคนชวน”
“เอ็งแน่ใจว่าจะไม่ชักดาบ”
“okเลยนะเฮียเดี๋ยวผมแนะนำร้านที่มีสาวๆน่ารักๆให้นะเฮีย ขอตัวก่อนนะเฮียหมดเวลาอู้งานแล้วครับ แล้วเจอกันตอนเลิกงานนะเฮีย”
ไอ้ธงมันก็เป็นอย่างนี้ประจำซึ่งผมคงไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่ามันเพราะมีแต่ผมเท่านั้นที่ไปด้วยกันกับมันเพียงแค่2คน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ