รอยต่อแห่งฝัน

7.4

เขียนโดย candle

วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.36 น.

  11 ตอน
  31 วิจารณ์
  16.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 22.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
ลมหนาวพัดไหวเป็นระยะ  ไม้ใหญ่ริมหน้าต่างหลายใบปลิดขั้วร่วงสู่พื้น  มีใบหนึ่งพลัดหลงเข้ามาในห้อง  นิศาเก็บมันมาถือไว้  หล่อนยื่นหน้าออกนอกผ้าม่านสีม่วงอ่อนที่ยาวประมาณครึ่งบานหน้าต่าง  จับจีบรูดระบายทางด้านบน
 
นิศาปล่อยใบในมือลงไปรวมกับเพื่อน ๆ ของมันบนพื้นหญ้าฉ่ำน้ำค้าง
 
บนถนนสายเล็ก ๆ ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นตะแบก  เด็กนักเรียนชั้นประถมใกล้ ๆ เดินไปโรงเรียนกันเป็นกลุ่ม  เสื้อหนาวหลากสีช่วยตกแต่งให้ถนนสายนี้สดใสกว่าที่เป็นอยู่  เสียงหัวเราะไร้เดียงสาเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้แก่ผู้เฝ้ามอง
 
“บทกวีในสายลมหนาว”  นิศาอดคิดถึงชื่อหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาไม่ได้
 
“สายลมเย็นนำความรักมาสู่ฉัน 
กระซิบผ่านใบไม้ร่ายรำ
ในเช้าแรกแห่งฤดูหนาว”
 
นิศารำพึงบทกวีออกมาเบา ๆ
 
“นิ  ตื่นแล้วใช่มั๊ย  วันนี้มีงานรึเปล่า”  แพรวายื่นหน้าเข้ามาทางประตูร้องถาม
“มีตอนบ่าย”  นิศาเหลือบมองบอร์ดข้างฝาผนัง
“ถ้างั้นลุกไปอาบน้ำ  แพรทำข้าวต้มกุ้งไว้  อย่าหลับไปอีกล่ะ”
“ค่ะคุณครู”  นิศารับคำล้อ ๆ กับแม่พิมพ์ของชาติ  ที่เตรียมตัวออกไปทำหน้าที่แต่เช้าเช่นทุกวัน
 
หล่อนรับคำเพื่อที่จะลืมไปอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า  ก็แหม๋...อากาศน่าสบายออกอย่างนี้  น่าพิสมัยน้อยอยู่เมื่อไหร่กัน  คิดได้ดังนั้นนิศาก็กระโดดขึ้นเตียงหลังจากโบกไม้โบกมือให้แพรวาข้างนอกหน้าต่าง
 
 
**********                                                         **********
 
สองคนเป็นเพื่อนรักกันและเป็นญาติกันด้วย  เรียนมหา-ลัยเดียวกันหากแต่คนละคณะ  แพรวาเป็นสาวอักษร  นิศาเรียนนิเทศฯ  หล่อนไม่เอาไหนเรื่องการบ้านการเรือน  ที่ทำได้ก็คือเจียวไข่กับต้มมาม่า  ขณะแพรวาทำเรื่องพวกนี้ได้สบาย  เธอสวยหวาน  ทั้งเรียบร้อยใจดีเหมาะกับอาชีพที่ทำอยู่เป็นที่สุด
 
ใครต่อใครที่ได้รู้จักทั้งสองคนมักจะเทคะแนนให้แพรวากันจนหมด  และหล่อนมักจะติดลบอยู่เสมอ  แต่นิศาก็รักแพรวาเหมือนกับคนอื่น ๆ นั่นแหละ
 
โรงเรียนที่แพรวาสอนอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก  พูดใหม่ก็คือย้ายบ้านมาอยู่ใกล้โรงเรียนนั่นเอง  นิศาตกลงย้ายออกจากคอนโดฯ ใจกลางเมือง  เพราะไม่ต้องการให้สาวน้อยที่น่ารักต้องลำบากเหน็ดเหนื่อยกับการจราจรในเมืองใหญ่  อีกอย่างบ้านหลังนี้ก็ถูกใจหล่อนนักหนา  ด้วยว่าสองข้างทางที่แยกมาจากถนนใหญ่เต็มไปด้วยต้นตะแบก  นิศาหวังจะได้เห็นสีม่วงตลอดแนวในฤดูร้อนอันแสนร้ายกาจของเมืองใหญ่  หล่อนรักฤดูหนาวมากเท่าไหร่ก็เกลียดฤดูร้อนมากเท่านั้น
 
 
**********                                                         **********
 
หญิงสาวบนเตียงยังคงหลับตาพริ้มสุขในอารมณ์  มายจัดดอกไม้ลงในแจกันทรงสูงริมหน้าต่าง  เขาเอาดอกเหี่ยวแห้งผูกเชือกแขวนไว้แทนหล่อน
 
กุหลาบส่งกลิ่นหอมรวยรินชื่นจมูก  นิศาทำจมูกฟุดฟิด
 
“มายเหรอ”  นิศาหรี่ตามองดูเขา
“ไง  หิวรึยัง”  มายถามด้วยห่วงใย  เขาก้มลงจูบผมหล่อน
นิศาครางในลำคอ
“ลุกเถอะ  ผมซื้อโดนัทมา  เอากาแฟมั๊ยเดี๋ยวผมจัดการให้”
มายฉุดหล่อนให้ลุกขึ้น  ขยี่ผมอย่างเอ็นดู
“มายเข้ามาได้ไง”
“คุณให้กุญแจผมไว้”
“ฮื่อ  ใช่จริงด้วย”
“นอนมากไปรึเปล่านี่”
“กี่โมงแล้ว”  หล่อนงัวเงียพยามมองหานาฬิกา
“เที่ยงแล้วครับ”  มายบอกล้อ ๆ กับคนนอนไม่รู้วันเวลาเช่นหล่อน
“พูดเล่นใช่ปะเนี่ย”
มายส่งนาฬิกาให้หล่อนดู
“ว๊าย...ตายแล้ว  ฉันนัดถ่ายปกหนังสือพี่ตุลย์  แพรเตือนแล้วเชียว”
“มายน่าจะรีบปลุก”  หล่อนหันมาทางเขาพร้อมโยนความผิดให้ทันที
“แล้วกัน”  มายยิ้ม
 
หล่อนยิ้มหวานรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ  ชั่วครู่มายจึงได้ยินเสียงของหล่อน
 
“มายจ๋า  ช่วยส่งผ้าเช็ดตัวให้หน่อย”
“เดี๋ยวเถอะ  ปล่อยให้ใส่ชุดวันเกิดออกมาเลย”  มายบ่น  แต่ก็ส่งผ้าให้หล่อน
 
เพียงชั่วครู่นิศาก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย  หล่อนไม่ค่อยจะพิถีพิถันเรื่องการแต่งตัวเท่าไหร่เลย  ใครมองว่านางแบบแต่งตัวเก่งและนำแฟชั่นอยู่เสมอไม่ทุกคนเสมอไปหรอก  สำหรับนิศาหากไม่ได้เดินอยู่บนแคทวอร์คก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง
 
นิศาชอบสวมใส่กระโปรงประเภทรุ่ยร่ายกรอมเท้า  ถึงเพื่อนสนิทจะมองไม่เห็นความเป็นผู้หญิงในตัวหล่อนเอาเสียเลยก็ตามทีเถอะ
 
คงเป็นเพราะรูปร่างที่ได้สัดส่วน  หน้าตาคมเพราะหล่อนเป็นส่วนผสมของหนุ่มเหนือกับสาวใต้  ผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ้งหน่อย ๆ ส่งให้หล่อนดูดีพอตัวไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหน
 
นิศาปล่อยผมหยิกลอนธรรมชาติเต็มกลางหลังใส่ต่างหูขนนกสีสด  สวมสร้อยหินสีและกำไลเงิน
 
“ผมไปส่ง”  มายอาสา
“ไม่ดีกว่า  ไว้ค่อยเจอกัน”  หล่อนยิ้มให้เขาหลังคำปฏิเสธ
“ว่าแต่มายหายไปไหนมาตั้งหลายวัน”
“ไม่มีอะไรหรอก  รีบไปเถอะเดี๋ยวจะสาย”  มายตัดบท
 
มายมองตามหล่อนอย่างเหนื่อยหน่าย  เขารักหล่อน  มายบอกกับตัวเองอย่างนั้น  แต่นิศาทำให้เขาหวาดระแวง  ตั้งแต่เจอกันจนเดี๋ยวนี้มายยังไม่รู้อยู่นั่นเอง  ว่าหล่อนรักเขาบ้างหรือเปล่า  บางทีหล่อนก็เอาใจเขาสารพัด  พอ ๆ กับที่หล่อนทำท่าไม่แคร์ไม่แยแสเขา  นิศามีบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ  เขามองหล่อนไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่  รู้เพียงว่าหล่อนช่างน่ารัก
 
 
****เกริ่น ๆ ไว้แค่นี้ก่อนค่ะ  ยังไงช่วยติชมด้วยนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา