ห่างรักไม่ห่างร้าย จากยัยตัวร้ายถึงนายตัวแสบ
เขียนโดย ยัยเด็กแสบ
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.23 น.
แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 21.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) @@วันวุ่นๆ ของยัยวายร้าย@@
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความติ๊ด ติ๊ด
“อือ~ ใครส่งข้อความมาเนี้ย วันนี้วันเสาร์ไม่ใช้เหรอไง” ติ๊ด ติ๊ด “โอ๊ย~อย่าให้รู้นะว่าเป็นข้อความไร้สาระ” ฉันลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงีย นิ้วมือเรียวยาวของฉันคล่ำหาไอโฟน 5 ของฉันแล้วในที่สุดฉันก็หาเจอหลังจากที่งมเข็มในเตียงคิงไซล์ของฉัน [มิงมิง] “โอ๊ย! ยัยบ้าส่งข้อความมาทำไมกันเนี้ยส่งมาตอน 6 โมงเช้าเนี้ยนะ=[]=”ฉันเหวอ แล้วรีบเปิดข้อความดูทันที ‘คุณอีฟฟี้ค่ะ เมื่อไรคุณจะเริ่มลงมือสักทีเค๊อะ ดิฉันรอลุ้นมาเป็นชาติแล้วนะเค๊อะหรือว่าซื่อบื่อไม่รู้ว่าหนุ่มฮอตที่ฉันหมายถึงคือใคร!!!! อย่าให้ดิฉันบอกนามนะเค๊อะ...รีบลงมือได้แล้วนะเค๊อะ วันนี้เป้าหมายของคุณอีฟฟี้อยู่ที่ร้านพี่สาวของเขา กรุณารีบสลัดคราบเด็กเอ๋อแล้วเปลี่ยนเป็นสาวลุกเปรี้ยว จี๊ด สุดเซ็กซี่ ได้แล้วนะเค๊อะถ้ายังไม่คืบหน้าถือว่าคุณแพ้พนันนะเค๊อะ’ เมื่อฉันอ่านจบฉันแทบจะล้มตัวลงนอนแล้วคลุมโป่งซุกรับความอบอุ่นจากผ้าห่มนุ่มๆ แต่ถ้าให้ฉันยอมแพ้ล่ะก็ไม่มีวันหรอก!!!!!!! 07:59 น. ณ สวนสาธารณะ “ถึงจะเริ่มต้นแบบไม่ดีแต่ผู้ชายก็ยังเป็นผู้ชายอยู่วันยังค่ำ หว่านเสน่ห์ไม่กี่วันเดียวก็ติดกับแล้วหรอกน่า ใช้ๆ น่าจะแค่แปบเดียวอ่า...ใช้ๆ”ฉันพูดไปพลางเดินวนไปวนมาอยู่หน้าร้านของพี่หวาน จะให้เข้าไปได้ไงกันก็ไอ้บ้านั้นมันยังอยู่แต่ถ้าออกไปแล้วฉันจะเริ่มภารกิจยังไง แถมต่อหน้าพี่หวานด้วยนะ...ต่อหน้าพี่หวานเชียวนะค่ะคุณผู้อ่าน กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งดังขึ้นนั้นทำให้ฉันหยุดเดินวนไปวนมาแล้วหันไปมองที่มาทันทีแล้วสายตาอันกลมโตของฉันก็ปะทะเข้ากับร่างสูงโปร่งของนายจาสเซ่ อะ...เอาไงดีเนี้ยช่างเถอะ ๆ “เธอมาถ่ำมองอะไรร้านพี่สาวฉันห๊ะ!!!!”จาสเซ่ตวาดเสียงดังลั่นนั้นทำเอาคนแก่ ๆแถวนี้มองเราเป็นตาเดียวแล้วเริ่มจับกลุ่มซุบซิบนินทาทันที ให้ฉันเดานะ...มันก็ไม่พ้นเรื่องฉันอยู่ดี ไอ้บ้านี้ไม่มียางอายหรือไงกัน-*- ทำเอาฉันต้องมาโดนนินทาแบบระยะเผาขนอย่างงี้!!!! “ฉันไม่ได้มาแอบดูนายก็แล้วกันหรอกน่า ฉันจะ...เข้าไปซื้อชาเย็น หลีกไปสิย่ะยืนขวางประตูอยู่ได้ เป็นผีเฝ้าประตูเหรอไงกันย่ะ”ฉันประชดประชันแล้วใช้ไหล่เล็กๆ ของฉันกระแทกเข้าให้กับแขนของไอ้หมาบ้าจาสเซ่แล้วรีบเดินเข้าไปที่เคาเตอร์บาร์ทันที “เอา...อีฟวันนี้มาออกกำลังกายเหรอจ๊ะ? แต่ใช้ชุดแปลกไปกว่าเดิมนะ?”พี่หวานทัก “ใส่มายั่วผู้ชายไงครับพี่หวาน”ฉันไม่ทันได้อ้าปากก็มีเสียงหมาเห่าโฮ่งๆ ดังมาแต่ไกลฉันหันไปมองหน้าจาสเซ่แล้วส่งค้อนให้ แต่ไอ้บ้าจาสเซ่กลับยักคิ้วดุนแก้มยั่วประสาทของฉัน “ตาจาส...พูดอย่างงั้นได้ไงอีฟเสียหายนะแล้วอีกอย่างจาสเสียมารยาทมากเลยนะพูดแทรกแบบนี้ได้ไงกัน”พี่หวานทำแก้มป่องดูน่ารักน่าเอ็นดูจัง-/////- อ๊ายยยยยย~ฉันคิดอะไรเนี้ย “พอดีวันนี้หนูจะไปที่ทำงานของป๊าน่ะค่ะ หนูเป็นลูกยังไงก็ต้องช่วยแบ่งเบาภาระของท่าน”ฉันตอบตามความจริง “เหอะ!...ใส่ชุดสายเดี่ยวกระโปรงสั้นแทบจะเห็นอยู่แล้วเนี้ยนะ จะไปทำงานฟ้าคงผ่าตายถ้าคนอย่างเธอน่ะไปช่วยพ่อทำงาน”จาสเซ่ประชด “นั้นมันก็เรื่องของฉัน คนนอกอย่าเสือก”ฉันตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “หนอย...ยัยเชื้อโรค” “ไอ้ปลาเหม็นเน่า” “ฉันเหม็นเน่าตรงไหนห๊ะ!!!!” “ยี้...เหม็นไปทั่วแหละย่ะตั้งแต่ตีนจรดหัว” “แล้วทำไมต้องเริ่มจากตีนก่อนด้วยล่ะ ต้องเริ่มจากหัวสิ” “แบร์:P” “หนอย!!!” “หยุดๆ เลยทั้ง 2 คนก่อนที่พี่จะเอาน้ำมาสาด”พี่หวานพูดขึ้นทำหน้าย่นใส่เรา 2 คน “ชิ!!!”เรา 2 คนสบถพร้อมกัน “โตกันจนป่านนี้ ยังจะมาทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระอีกจาสนะ อีฟเค้าจะไปช่วยพ่อทำงานแล้วมันหนักสมองส่วนไหนของเรากัน”ฉันแบร์ใส่จาสเซ่อย่างผู้มีชัย “เราเองก็เหมือนกันอีฟ...ใส่ชุดอย่างงี้ไปทำงานก็ไม่ถูกหรอกนะควรใส่ให้เรียบร้อยกว่านี้สิ”พี่หวานต่อว่าฉันบ้าง “เอ๊า...ทำไมมาว่าหนูเล่า หนูแค่จะไปที่ทำงานของป๊าหนูนะไม่ได้จะไปวัดซะหน่อย หนูไม่เอาแล้วชาเย็นไปล่ะ”ฉันเริ่มหงุดหงิดเลยตัดสินใจจะเดินออกไปจากร้าน “จะไปหาผู้ชายล่ะสิแล้วเอาพ่อมาอ้าง แรด”ฉันสะดุดกึกหันไปมองคนที่พูดอย่างช้าๆ นายจาสเซ่ยักคิ้วฉันเดินตรงเข้าไปหาจาสเซ่อย่างช้าๆ สายตามุ่งมั่น อยากว่าฉันดีนะ ฉันหมดความอดทนแล้ว เห็นดีกันแน่ “เมื่อกี้นายว่าฉันไงนะ? แรดเหรอ เอาพ่อมาอ้างเหรอ ฉันเจ็บใจจุงเบยบอกตรงๆ นะนายเนี้ยไม่กลัวจะกลายเป็นตุ๊ดเหรอที่มานั่งด่าผู้หญิงว่าแรด”ฉันถามพลางก้าวขาเข้าไปอย่างช้าๆ “ฉันจะกลัวไปทำไม ก็ในเมื่อฉันพูดจริงหรือเธอจะบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงแสนดีไม่เคยมีกิ๊ก”นายจาสเซ่ก็เริ่มไม่ยอมแพ้แล้วเหมือนกัน ฉันกดสายตาต่ำ “นั้นมันเมื่อก่อนฉันแค่เคยคิดว่าเป็นผู้หญิงแสนดีแล้วหมาไม่เห็นค่าฉันจะป็นคนดีไปทำไม”ฉันก้าวไปอย่างช้าอีกไม่กี่ก้าวฉันก็ใกล้จะถึงตัวแล้ว “เหรอ...เธอจะบอกว่าเธอไม่เคยมีกิ๊กเลยว่างั้นเหอะ...มีเป็นสิบๆ คนเลยล่ะสิไม่ว่า” “แล้วมันเกี่ยวกับนายเหรอ นายไม่ใช้แฟนฉันแล้วนี้” “ใช้...ฉันไม่ใช้แฟนเธอแล้วแต่เธอกำลังหลอกผู้ชายอยู่รู้ตัว...” ยังไม่ทันที่จาสเซ่จะพูดจบฉันก็จัดการปิดปากทันทีโดยใช้ปากของฉันยังไงล่ะ “นายเองก็ไม่ต่างจากฉัน ที่หลอกให้ผู้หญิงมาหลงรักแล้วบอกเลิกอย่างไม่สนใจว่าหัวใจก็ผู้หญิงคนนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหน”เมื่อฉันพูดจบ ฉันก็เดินออกไปจากร้านของพี่หวานเพื่อไม่ให้คนใจร้ายได้เห็นหยดน้ำตาที่กำลังไหลรินด้วยความเจ็บปวด และไม่อยากให้คนอย่างนั้นเห็นน้ำตาของฉันเป็นอันขาด ไม่มีวันจะได้เห็นไม่มีวัน... [บันทึกพิเศษ:จาสเซ่] เมื่อกี้มันอะไรกัน ยัยนั้นมาจูบผมเหรอแล้วจูบผมทำไม... “จูบเพราะต้องการให้จาสหยุดพูดยังไงล่ะ เราน่ะพูดไม่คิดแล้วไม่เจ็บใจบ้างเหรอไงที่ไปว่าเขาอย่างงั้นน่ะ”พี่หวานซ่ำเติมผม เหอะ...ยัยนั้นมันดีอะไรพี่สาวแท้ๆ ของผมยังไปเข้าข้าง “ก็ผมพูดเรื่องจริง...ถ้ารับความจริงไม่ได้ก็ควรตบหน้าผมสิแต่นี้มาจูบผมเนี้ยนะ”ผมพูดเสียงอ่อย ผมรู้ตัวว่าตัวเองผิดเต็มประดาที่ไปว่าอย่างงั้น “ช่างเถอะ...แต่ทีหลังหัดคิดก่อนพูดด้วยล่ะไม่งั้นคนที่เสียใจที่สุดก็คือจาสเองนั้นแหละ”พอพี่หวานพูดจบพี่สาวของผมก็ไปหลังร้านทิ้งให้ผมได้นั่งคิดอะไรเพลินๆ กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง เอ๊ะ!ลูกค้าเข้าร้านเหรอ แล้วพี่หวานทำไมยังไม่ออกมาอีกเนี้ย “พะ...” “ไม่ต้องเรียกหรอกจาส นี้ฉันเอง”เสียงทุ้มนุ่มดังมาทางหน้าประตูผมหันไปมอง โยเป... “นายมาทำอะไรที่นี้”ผมถาม โยเปทำหน้าลังเลเหมือนไม่อยากจะพูดเท่าไหร่ “รีบๆ พูดมาฉันไม่มีเวลาทั้งวันหรอกนะ”ผมเร่ง “นายรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้นายกำลังโดนหลอกใช้ให้เป็นเครื่องมืออยู่...”โยเปพูดเสียงเบาแต่ผมได้ยิน ผมขมวดคิ้วสมองเริ่มประมวลผล “เพื่อแลกกับสิ่งที่พนันกันเอาไว้ เป็นของชั้นเลิศ”โยเปเล่าอย่างช้าๆ ชัดเจน “แล้วใคร นายรู้ได้ยังไง แล้วหลักฐานล่ะ”ผมถามรัว โยเปไม่แสดงสีหน้าอะไรนอกจากหน้าตานิ่งๆ กับแววตาที่ราบเรียบซึ้งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของมัน “อีฟฟี้แล้วฉันก็รู้มาจากแจ๊กสัน ส่วนหลักฐานนายก็ไปถามจากมิงมิงไม่ก็แจ๊กสันดูสิ แล้วจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนาย”โยเปพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เหมือนกับ 2 ปีตอนนั้นแต่มันทำให้ผมเชื่อ ใช้ตอนนี้ผมก็ยังเชื้อ “ฉันเชื้อนาย...”ผมพูดเสียงหนักแน่น โยเปยิ้ม “ดี...งั้นฉันไปก่อนก็แล้วกันถ้าเกิดสงสัยอะไรขึ้นมาก็มาถามฉัน แล้วฉันจะบอกทุกอย่าง ทุกเรื่องที่นายอยากรู้...อ้อ!แล้วฉันขอเตือนให้นายอยู่ห่าง ๆ จากอีฟ ฉันไปล่ะ”เมื่อโยเปพูดจบ มันก็เดินออกไปจากร้านปล่อยให้ผมได้คิดอะไรบางอย่าง “ในเมื่อเธอจะหลอกฉันซ้ำ 2 ฉันก็จะไม่ยอมให้เธอหลอกฉันไปตลอดหรอก ฉันจะเอาคืนกับสิ่งที่เธอทำกับฉันไว้”ผมพูดกับตัวเองและตัดสินใจไว้อย่างแน่วแน่แล้วว่าผมจะไม่หลงกลเป็นครั้งที่ 2 [จบบันทึกพิเศษ:จาสเซ่] ชิ! น่าโมโหซะมัดพูดจาได้น่ารังเกียจที่สุด คนอะไรนิสัยแย่ แย่มาก โครตแย่ ฮึก...ไอ้คนบ้าอย่างนั้นจะเจ็บใจกับคำด่าของเรามั้ยก็ไม่รู้แต่หน้าหนาๆ อย่างงั้นก็คงไม่เจ็บหรอกมั้งมีแต่เราที่เจ็บ ผ่านไป 2 ปีแล้วยังไม่ลืมอีกยัยอีฟงี่เง่า ทำไมถึงไม่ลืมคนนิสัยเลวๆ แต่กลับยังจำได้อยู่อีก...ฮึก...จะทำยังไงนะฉันถึงจะรอดพ้นไปจากห้วงแห่งความเสียใจแล้วลืมของความทรงจำอันแสนเจ็บปวดนั้นไปซะทีT^T “ยัยอีฟ~”เสียงเรียกชื่อของฉันดังมาทางประตูหน้าบ้านนั้นทำให้ฉันรีบเช็ดคราบน้ำตานี้ สูดน้ำมูก รีบปรับเปลี่ยนอารมณ์ทันทีแล้วหันไปทางประตูพบกับจัสมิน มิงมิง แอล์ ฟาเรีย โตเกียว ลูกสน น้ำฟ้า โอร้า ยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตู ฉันพยักหน้าพวกนั้นรีบเดินเข้ามากันทันที “พวกแกมีอะไรถึงมาหาฉันที่บ้าน?”ฉันถามเสียงรำคาญ หงุดหงิด “ก็แหม...ฉันจะมาคุยกับแกเรื่องชมรมว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ได้ชื่อชมรมยัง แล้วเขียนกิจกรรมยังอะไรประมาณเนี้ย?”จัสมินถามพร้อมนั่งลงบนตัวโซฟา แล้วนั่งไขว้ห้างหยิบแก้วโกโก้ร้อนของฉันไปจิบ “ฉันให้ยัยสนเขียน...เอ่อ!ใช้ยัยสนแกเขียนเสร็จยังย่ะ”ฉันถามยัยลูกสน ยัยลูกสนก้มหน้างุดหลบสายตาเพชฌฆาตของฉัน “คะ...คือว่า...ฉันเขียนแต่ชื่อสมาชิกของชะ...ชมรมเรา(. . )”ยัยลูกสนพูดติดอ่างนั้นทำเอาฉันหัวเราะในความซื่อบื่อของยัยลูกสน “แล้วเอากระดาษนั้นมาหรือเปล่า?”ฉันถาม “อะ...เอามา”ลูกสนแสดงท่าทางเงอะงะ นั้นทำให้พวกเราหัวเราะร่วนยัยลูกสนมักจะกลายเป็นตัวตลกประจำกลุ่มแบบไม่รู้ตัวอยู่เสมอ “ก็เอามาสิ ฉันจะได้เขียนต่อเอ๊ะ!ฉันว่าเธอเขียนน่ะดีแล้ว ลายมือเธอสวยกว่าของฉันอีก”ฉันบ่นอิบนั้นทำให้ทุกคนทำตัวสบายอทิ ยัยฟาเรียเข้าครัวไปหยิบวอดก้าของพี่เฟ่มาขวดนึง แอล์ก็เดินไปเปิดทีวีหยิบขวดน้ำส้มของฉันเทใส่แก้วทรงสูงสำหรับใส่เบียร์ เหล้า ไวน์ โตเกียวเดินเข้าห้องนู๊นออกไปเข้าห้องนี้ โอร้าดูอัลบั้มรูปของฉันกับพี่อีฟเฟ่พร้อมวิจารณ์กับน้ำฟ้า-*- คำว่าเกร็จใจไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของพวกนี้หรอกอย่างน้อยน้ำฟ้าก็ไม่ด่าฉีนตอนเด็กว่าดำเหมือนยัยโอร้าก็แล้วกันก็แค่เกือบเผลอพูด-*- “ว่าไงจะให้ฉันเขียนอะไรเหรออีฟ”ลูกสนถามฉัน นั้นทำให้ฉันหลุดออกจากห้วงความคิดของฉัน “ฉัน ไม่มี สมาธิ”ฉันพูดดังๆ ชัดๆ แล้วกวาดตาไปรอบบ้านนั้นทำเอาทุกคนที่กำลังวุ่นวายหยุดการกระทำของตัวเอง “ขออันเชิญให้พวกเธอมาช่วยฉันคิดถ้ามาที่นี้แล้วยังทำตัวแบบนี้ ก็ไม่ต้องมานัดกันที่อื่นคงดีกว่า”ฉันแสดงความเคืองออกมา “อย่านะ!!!!!! โอเคพวกเราจะอยู่นิ่งๆ”เสียงของมิงมิงดังมาจากทางบันได “นี้เธออย่าบอกนะว่า...เธอขึ้นไปข้างบนไปส่องพี่ชายฉัน!!!”ฉันถามปนตกใจ “โอแม่เจ้า!”ยัยจิสมินครางออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ “ก็ไม่เชิง แค่อยากดูเฉยๆ”ยัยมิงมิงพูดพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “วันนี้ที่เรามาที่นี้ก็เพื่อชมรมของเรา ดังนั้นเราจะช่วยยัยอีฟ ยัยสน ยัยมินคิด แล้วเราค่อยสำรวจบ้านตอนเสร็จแล้วดีมั้ยพวกเรา?”มิงมิงพูดขึ้น นั้นทำเอาคนที่เหลือเฮ!ลั่น ให้ตายสิบ้านฉันนะไม่ใช้ป่าเขาลำเนาไพ ถึงจะมาสำรวจนู๊นนี้นั้นไม่มีความเกรงใจกันบ้างเลยเหรอไง(ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง=_=:นักเขียน) “นี้ยัยอีฟ พวกเราอุตสาห์มาช่วยทำไมถึงทำหน้าเหมือนกับพวกเราย้อนอดีตไปฆ่าโครตเหง้าแกเลยว่ะ”ฟาเรียประชด ฉันย่นหน้าใส่ “แล้วพวกแกเล็งชื่อชมรมไว้ในใจกันยังว่ะ”ฉันถามพลางจิบโกโก้ร้อน น้ำฟ้ากับโตเกียวออกมาพร้อมกับขนมกินเล่น “ยัง...เลยว่ะ ฉันคิดว่าชื่อชมรมเรานะเว้ย...มันต้องอลังการ แมกซ์กับพวกเราที่เป็นถึงสาวป๊อบปูลาร์ประจำโรงเรียนแถมยังรวมกันเป็นกลุ่มแบบนี้อีกอ่ะนะ”จัสมินพูดรัว พวกเราพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้างั้นก็ต้องเกี่ยวกับเจ้าหญิงน่ะสิค่ะ*0*”น้ำฟ้าพูดพลางทำตาประกาย ฟาเรียทำหน้าแหยง “ฉันก็เห็นด้วยนะค่ะ เพราะคำนิยามของเราในเว็บไซต์ของโรงเรียนนั้นบล็อกเราติดอันดับผู้ที่เข้ามาดูเยอะสุด”ลูกสนบอก พวกเราพยักหน้าแต่ฉันสงสัยจังพวกเรามีบล๊อกกันด้วยเหรอ(- -)? “ถ้างั้นเอางี้มั้ย...ชื่อปริ๊นเซลดาร์ก”ฟาเรียเสนอ น้ำฟ้ากับลูก ทำหน้าแหยงส่วนที่เหลือเฉยๆ “เจ้าหญิงความมืดเหรอค่ะ มันไม่เข้ากันเลยซะนิด”น้ำฟ้าพูดเสียงดัง “เธอไม่พอใจก็ออกจากกลุ่มแล้วไปเข้าชมรมของยัยปีศาจ 4 ตานั้นซะสิ”ฟาเรียเริ่มโมโห “ก็...ฉันพูดตามความจริงนี้ค่ะ หรือฟาคิดว่ามันเข้ากันเหรอค่ะหรือทุกคนเห็นว่ามันเข้า แต่ฉันคนนึงแหละค่ะ...ที่คิดว่าไม่เข้า” “นั้นมันก็เรื่องของเธอ แต่ฉันชอบชื่อนี้” “เอาแบบส่วนรวมสิค่ะ” “ฉันแค่เสนอ อย่างกับชื่อชมรมของเธอมันดีตายล่ะ” “ฉันก็แค่เสนอเหมือนกันค่ะ แต่ฉันยังไม่ได้เอ่ยชื่อเต็มของชมรมเลยนี้ค่ะ” “แล้วเธอจะเอายังไงกับฉัน มาตบกันเลยมั้ย!!” “...” “เงียบทำไม ตอบมาเซ่!!!!” ฟาเรียทวีความรุนแรงในความพูดแต่น้ำฟ้ากลับหยุดนิ่งแล้วสะอื้นเบา ไหล่เล็กๆ สั่นไหวเรียกความรู้สึกผิดจากฟาเรียได้ไม่น้อยนั้นทำให้ฟาเรียเลิกตะคอกน้ำฟ้าแล้วกระแทกตัวนั่งลง ลูกสนเช็ดน้ำตาให้กับน้ำฟ้าเบาโดยใช้มือเรียวยาวของเธอ สิ่งที่คุณผู้อ่านอ่านไปอยากจะบอกว่า....ธรรมดา เจอบ่อย แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ่ำ “ถ้างั้นเอางี้มั้ย คนที่คิดว่าจะตั้งชมรมแบบนี้คือใคร”จัสมินยืนบนโซฟาแล้วถามขึ้น “(-_-)^ \(- -)-)-)-)-)-)-)-)”ทำไมรู้สึกทะแม่งๆ “แล้วใครควรจะตั้งชื่อของชมรม^0^”จัสมินปลุกเร้า “(-_-)^^^ \(- -)-)-)-)-)-)-)-)”ตูว่าแล้ววววว “ถ้างั้นเชิญเลยจ๊ะ ยัยตัวร้าย”ยัยจัสมิน ฉันจะจับแกแล่เนื้อโรยเกลือแล้วเอาไปย่างให้หมากิน-*- “แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยเล่า ฉันไม่มีหัวด้านนี้หรอกน่า”ฉันโน้มน้าว “โธ่ๆ เด็กน้อยคิดแบบลวกๆ ก็ได้นะจ๋าจ๊ะ พี่สาวคนนี้ไม่ดุ ไม่ว่า หรอกนะจ๊ะ”จัสมินเอาแขนมาคล้องคอฉัน ฉันผลักออก “Fairy princess”ฉันพูดเสียงเบาหวิว “ว่าอะไรนะ หนูน้อย~”จัสมินถาม เอียงหูมาทางฉันนิดหน่อย ฉันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะจับหัวของยัยนั้นแล้วตะโกนไปว่า “Fairy princess”ยัยจัสมินถึงกับแทบตกเก้าอี้ ฮุๆ “ยัยบ้า มาตะโกนใส่หูฉันทำไมมิทราบย่ะ”จัสมินแหว พวกเราปล่อยหัวเราะก๊าก ยัยจัสมินหน้าแดง “เขียนเลยๆ ยัยสน”แอล์พูด ลูกสนก้มหน้าก้มตาเขียนทีนที “แล้วกิจกรรมล่ะ...” “ว่าไง 8 สาวมาทำอะไรที่นี้ฮึ” มิงมิงไม่ทันพูดจบเสียงตะโกนจากทางบันไดเรียกให้พวกเราหันไปมองปรากฏร่างของพี่อีฟเฟ่ที่ใส่แค่กางเกงยีนส์ตัวเดียวหัวเข็ดขัดหลุดลุ่ยนิดหน่อย ข้างๆ นั้นก็มีผู้หญิงหุ่นเอ็กส์ใส่ชุดที่ดูเหมือนจะหลุดออกจากร่าง ฉันน่ะชินแล้วแต่คนอื่นนี้สิ “อะ...เอ่อ”น้ำฟ้า “=0=;;;”ลูกสน “โอแม่เจ้า~”จัสมิน “หึ!”ฟาเรีย “ได้ยินเสียงอะไรมั้ย!!~”แอล์ “อกหักดังเป๊าะ”โอร้า “โอ้ววว~ทำไมต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ กระซิกๆT0T”โตเกียว “=[]=;;;;;”มิงมิง “ยัยป้า เข้ามาในบ้านของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ไงกันย่ะ ออกไปเลยนะ!!!!!”ฉันยืนขึ้นเท้าสะเอวแล้วตะคอกใส่ผู้หญิงคนนั้นจนหน้าหงาย “นี้! ยัยอีฟพี่เป็นคนพาเข้ามานะ แล้วก็ที่สำคัญบ้านนี้เรามีสิทธิคนละครึ่ง”พี่อีฟเฟ่พูดหน้าตาย ฉันกลอกตา “กฎข้อที่ 24 ห้ามพาผู้หญิงหน้าแก่ๆ อย่างงี้เข้ามาในบ้าน เชื้อโรคชัดๆ”ฉันทำหน้าเรียบเฉย กอดอก กดสายตาต่ำ ส่วนยัยป้าคนนั้นแทบปรี๊ดแตก แปะ แปะ ๆๆๆๆ เสียงปรบมือจากพวกจัสมินดังกันระนาวโดยเฉพาะมิงมิง ก็นะยัยนั้นคงอยากจะกระโจนเข้าไปตบหน้ายัยป้านั้นด้วยซ่ำ “หนอย...คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนย่ะ เป็นแค่น้องสาวไม่ใช้แม่ ไม่ใช้พี่ซะหน่อย...พี่เฟ่ค่ะจัดการกับน้องสาวปากสุนัขไม่รับประทานเลยสิค่ะ”ยัยป้านั้นยุ ฉันมองพี่เฟ่ตาเขียวพี่เฟ่ที่กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรขึ้นถึงกับหยุดซะงัก ฉันเดินจ้ำอ้าวไปทางยัยป้าก่อนจะจิกผมเดินไปทางประตู “กรี้ดดดดดด กรี๊ดๆ ปล่อยฉันนะนังบ้า ปล่อยฉ้านนนนนนนนนน”ยัยป้าแหกปากโวยวาย พยายามดิ้นแต่ดิ้นไม่หลุดจากเงื้อมมือมารจากฉัน เมื่อถึงหน้าประตูฉันปล่อยมือจากผมแล้วถีบเข้าไปเต็มรัก ยัยนั้นกระเด็นไปหลายเซนติเมตรแล้วหันหน้ามาทำท่าจะตวาดฉัน “หุบปากเน่าๆ ของป้าแล้วออกไปจากบ้านฉันเดียวนี้ แล้วจำใส่กะโหลกของป้าที่มันแทบจะกลวงแล้วว่า บ้านหลังนี้ฉันใหญ่!!!!!!! ไป๊ๆ”ฉันพูดจบก็ปิดประตูดังปังใส่หน้าของยัยป้า “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”เสียงกรี๊ดที่คล้ายกับผีบ้าดังลอดเข้ามาภายในบ้าน ตอนนี้ก็ถึงคิวของตัวการใหญ่ล่ะ ฉันคิดดังนั้นก็หันขวับไปมองพี่เฟ่ พี่เฟ่รีบหลบหน้าฉันทันที 5 นาทีผ่านไป “ไอ้พี่บ้า ไหนรับปากเป็นอย่างดีแล้วไงว่าจะไม่พาผู้หญิงเข้าบ้านตามกฎข้อที่ 24 นี้เป็นที่เท่าไหร่แล้วห๊ะ!!! “ฉันตวาดใส่พี่อีฟเฟ่ที่นั่งอยู่บนโชฟา ก้มหน้าก้มตา “พี่ขอโทษ”พี่อีฟเฟ่พูดเสียงอ่อย “ไม่!!!!!!” “นะo*^*o”พร้อมกับสายตาอ้อนๆ “ยกโทษให้ก็ได้”ฉันพูดเสียงกระท่อนกระแท่น “จริงนะ*0*”พี่อีฟเฟ่ทำตาเป็นประกายทันที “แต่มีข้อแม้”ฉันพูดเสียงเจ้าเลห์ “อะ...อะไร”พี่อีฟเฟ่พูดเสียงติดขัด อ่อยนิดๆ “ขัดห้องน้ำ 1 เดือน ทำความสะอาดบ้าน 1 อาทิตย์”ฉันพูดน้ำเสียงลัลล้า “อะไรนะ!!!!! ไม่เอาหรอกขัดตั้งเดือนนึงแถมยังต้องทำความสะอาดบ้านตั้งอาทิตย์”พี่อีฟเฟ่เริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจ ฉันมองพี่อีฟเฟ่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง “อะไรเล่า ยัยอีฟก็มัน...งานของผู้หญิงนี้น่า แล้วจะให้ผู้ชาย...” “อย่ามามั่ว ๆ งานของผู้หญิงเหรอเหอะ! ข้ออ้างชัดๆ งั้นวันนี้ไม่ต้องกินข้าว”ฉันพูดเสียงน้อยใจ “ง่ะ...โอเคๆ ขัดห้องน้ำ 1 เดือน ทำความสะอาดบ้าน 1 อาทิตย์?”พี่อีฟเฟ่ทวน “ใช้”ฉันยิ้มออก พี่อีฟเฟ่ลุกขึ้นทำท่าจะเดินขึ้นห้อง “หยุดอยู่ตรงนั้น ห้องเก็บอุปกรณ์น่ะทางนู๊นนะ”ฉันสกัดดาวรุ่งที่กำลังจะไปนอนแล้วชี้ไปทางห้องใต้บันได ซึ้งเป็นที่เก็บอุปกรณ์ในการทำความสะอาดบ้าน “โธ่!ยัยอีฟให้พี่นอนสัก 1 ชั่วโมงแล้วพี่ค่อยทำได้มั้ย?”พี่อีฟเฟ่ส่งสายตาปริบๆ “ทำ-เดียว-นี้!”ฉันเน้นทีละคำพี่อีฟเฟ่ทำท่าจะแย้งแต่ก็หุบปากฉับพลันเมื่อสายตาพิฆาตของฉันมองไปทางพี่อีฟเฟ่ “เชอะ!”พี่อีฟเฟ่สะบัดตูดแล้วเดินลงบันไดไปทางห้องเก็บอุปกรณ์ทันที “เอาล่ะ เสร็จธุระภายในบ้านแล้ว ว่าแต่กิจกรรมเราจะเอา...” “แคกๆ ยัยอีฟแกทำความสะอาดบ้านประสาอะไรว่ะ ทำไมห้องเก็บอุปกรณ์ฝุ่นเยอะขนาดนี้!!!!!”เสียงตะโกนของพี่อีฟเฟ่ดังขัดเสียงของจัสมิน ทุกคนถอนหายใจทันทีฉันกลอกตาเซ็ง “งั้นพี่ก็ทำให้เลยเซ่!!!!! อีฟจะประชุมเรื่องชมรม!!!!”ฉันตะโกนไปอย่างสุดเสียง “บะ!ได้ทีใช้ใหญ่เลยนะ อย่าให้ถึงคราวพี่นะอีฟ พี่จะจัดหนักจัดเต็มเลยคอยดู!!!!!-3-”พี่อีฟเฟ่ตะโกนทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น “เอ่อ...ไม่มีอะไรแล้วใช้มั้ย”จัสมินถาม ฉันพยักหน้า ยัยลูกสนเตรียมเขียนทันที “กิจกรรมของชมรมเรามันต้องเป็นของที่เราถนัดอยู่แล้วใช้มั้ยล่ะ?”โอร้าพูดขึ้น ฉัน จัสมิน พยักหน้า “ถ้างั้นฉันขอเสนอจัดตารางเดตเพื่อความสุขของคนไร้คู่”โอร้าเสนอขึ้น “อืม...จริงด้วย จดเลยๆ ยัยสน”แอล์เห็นด้วย ก็นะมันเป็นของถนัดจริงๆ นั้นแหละเดตเนี้ย~ “แล้วข้อ 2 ล่ะ?”มิงมิงพูดขึ้น พวกเราตกอยู่ในความคิดไม่มีใครเสนอขึ้นมา อืม.... ปิ๊ง! “ทุกวันเสาร์มีปาร์ตี้สำหรับคนที่ได้รับคัดเลือกเท่านั้น ถึงจะเข้าร่วมปาร์ตี้นี้ได้ และปาร์ตี้นี้จะมีการกำหนดว่าให้ใส่ชุดแฟนตาซีหรือชุดราตรีหรือชุดนอนหรือชุดอื่นๆ”ฉันร่ายยาว แต่คุณหนูลูกสนก็ยังจดทัน “มันเป็นความคิดที่วิเศษมากเลยนะย่ะ”จัสมินพูดขึ้นพร้อมกับปรบมือเบาๆ “แต่ว่านะ...ถ้าไม่บริการให้ผู้หญิงด้วย เราอาจเพิ่มคนที่แอนตี้ให้แก่เราด้วยก็ได้นะ”โตเกียวพูดขึ้น นั้นทำเอาทุกคนคิดตาม “แล้วกิจกรรมสำหรับผู้หญิงล่ะ?”ฟาเรียถามขึ้น “จัดคู่เดตให้กับสาวโสด ที่อยากสละโสดแล้วมีคนควงแขนไปไหนมาไหนด้วยกัน เป็นไงเลิศมั้ย^.<”แอล์พูดขึ้น ลูกสนจดแล้วเงยหน้ากวาดตามองพวกเรา “อารายยๆ ยัยคุณสน”จัสมินกัด ลูกสนหลบตาทันที “ฉันแค่สงสัยว่า ทำไมถึงไม่มีเกมส์สำหรับทุกอาทิตย์เพื่อเพิ่มความบันเทิงล่ะค่ะ คุณครู นักเรียน ภารโรง แม่บ้าน ทุกคนสามารถมาร่วมสนุกกันได้ โดยเราจะมีของรางวัลให้น่ะค่ะ”ลูกสนเสนอความคิด ฉันเห็นด้วยนะแบบนี้คงทำให้ชมรมนี้ไม่โดนแบนชัวร์:D “จดเลยสิยัยสน ฉันสนับสนุนความคิดของแก”โอร้าพูด พลางตบไหล่เล็กๆ นั้นเบาๆ แสดงความยินดี “ค่ะ”ลูกสนพยักหน้าตาเป็นประกาย “เอาแค่นี้ก็พอแล้วมั้ง”ฟาเรียพูดอย่างขี้เกียจ ฉันพยักหน้าเห็นด้วยฉันก็เริ่มรู้สึกขี้เกียจ อยากนอนให้ลืมความรู้สึกที่ไม่เคยจางหายไป “ฉันกลับก่อนนะ ยัยสนวันจันทร์แกเอาไปให้ครูด้วยล่ะ”ตัสมินสั่ง “ฉันก็ขอกลับด้วย มีนัดซ้อมเบสกับเจมส์”ฟาเรียพูดขึ้นก่อนจะเดินจากไป “เฮ้ย!วันนี้มีนัดกับแม่ไปช้อปปิ้งนี้น่า”แอล์พูดแล้วรีบกุลีกุจอวิ่งออกไปขึ้นรถเบนซ์สีดำวาวที่มีคนขับรถยืนรออยู่ “ตายจริง วันนี้ต้องเข้าวัดไปนั่งสมาธิกับคุณยายนี้น่า ฉันไปก่อนนะค่ะ”น้ำฟ้าพูดขึ้นก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลเข้มแล้วเดินออกไปจากบ้านฉันอย่างเรียบร้อย ช้าๆ อ่านะ.... “วันนี้ฉันว่าง แต่อยากไปอ่อยเหยื่อที่แถวพาราก้อน ฉันไปก่อนนะยัยสนยัยอีฟยัยมิง”โตเกียวพูดเสียงเบื่อๆ แล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างสบายๆ แต่เหมือนหล่อนแต่งหน้าระหว่างเดินไปด้วยนะ เชื้อเขาเลย=_= “แล้วสนล่ะ เธอไม่มีนัด ไม่ไปไหนเหรอ?”ฉันถามลูกสนอย่างไม่ใส่ใจ “เอ่อ...ฉันไม่มีนัดหรอกค่ะ แต่ว่าจะกลับบ้านไปทำแบบฝึกหัดอ่ะค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะค่ะเดียวติวเตอร์จะมาแล้ว ต้องไปเตรียมตัวก่อนไปก่อนนะค่ะมิง อีฟ”ลูกสนพูดจบเดินไปทางประตูโดยไม่ลืมเอกสารที่จดเอกสารเกี่ยวกับชมรมไปด้วย “แล้วแกล่ะยัยมิง อย่าบอกนะว่าจะอยู่ที่นี้”ฉันพูดอย่างรู้ทัน “เมื่อไหร่พี่เฟ่จะออกมานะ”ยัยมิงมิงไม่สนใจคำถามของฉัน เอาแต่จ้องไปทางห้องเก็บอุปกรณ์ “ยัยมิง ยัยบ้าไม่สนใจเพื่อนเลยนะ งั้นฉันไปนอนล่ะจะกลับเมื่อไหร่ก็เชิญออกไปเลยนะย่ะ”ฉันพูดอย่างน้อยใจแล้วเดินกระแทกเท้าไปทางบันได “เดียวๆ ยัยอีฟ”ยัยมิงมิงรีบมาดึงแขนฉันอย่างสุดแรง “อารายยยย”ฉันพูดเสียงรำคาญ “แก...แกบอกพี่เฟ่ให้หน่อยสิว่าฉันอยากช่วยพี่เขา”ยัยมิงมิงพูดพลางส่งสายตาอ้อนๆ ภาพนี้หายากนะเนี้ยยยย “เออ...พี่เฟ่!!!!!!!!!”ฉันเรียกพี่อีฟเฟ่ด้วยเสียง 18 หลอดถึงกับยัยมิงยังสะท้าน “อะไรว่ะ!!! แคกๆๆ”พี่อีฟ่เฟ่ก็ยังตะโกนด้วยเสียงอันทรงพลังลอดออกมาจากทางห้องอุปกรณ์ “ยัยมิงอยากช่วยพี่ทำความสะอาดบ้าน!!! ฝากด้วยนะ!!!!!”ฉันพูดจบก็เดินขึ้นไปชั้น 2 ฉันว่ายัยมิงคงได้หูหนวกก็วันนี้แหละ เหอๆ-.,- บ้านของฉันมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก พอมีพื้นที่ทำสวนญี่ปุ่นกับสวนฝรั่งเศล และพอมีโรงเก็บรถขนาดกลางได้ บ้านของฉันมี 2 ชั้น แต่ความกว้างนั้นก็เยอะอยู่ชั้นแรกจะมีห้องครัวเล็กๆ อยู่ติดกับห้องรับแขกทางฝั่งซ้ายส่วนทางฝั่งขวาเป็นห้องรับประทานอาหาร บันไดของฉันก็เป็นบันไดวนเล็กๆ แต่พอให้เดินได้อย่างไม่หวาดเสียว มีห้องใต้บันไดเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ ส่วนข้างบนชั้น 2 นั้นห้องนอนของฉันจะอยู่ฝั่งซ้ายอยู่ฝั่งเดียวกับห้องของพี่อีฟเฟ่ ส่วนฝั่งขวาห้องของปะป๊ากับแม่และตรงข้ามเป็นห้องนอนของแขก ภายในห้องของฉันตกแต่งด้วยสีขาวไข่มุกแซมสีชมพูอ่อนๆ ห้องฉันแบ่งเป็น 3 ห้องย่อยๆ ห้องนอนอยู่ทางขวามือ ห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนตรงกลางเป็นห้องชิวๆ ของฉัน ตรงกลางห้องของฉันจะมีโซฟาสีดำนุ่มๆ และทีวีจอแบนฝั่งผนัง โต๊ะเขียนหนังสือของฉันอยู่ริมใกล้หน้าต่าง มีตู้หนังสือขนาดกลาง 2 ตู้อยู่ข้างๆกับโต๊ะเขียนหนังสือของฉัน แล้วมีส่วนเก็บอุปกรณ์ในการวาดภาพของฉันเป็นมุมโปรดเลยล่ะ ไฟภายในห้องชิวๆ เป็นแบบห้อยลงมาแต่เป็นสีดำมันวาว ภายในห้องนอนของฉันเตียงคิงไซส์อยู่ตรงกลางของห้องหัวเตียงชิดกับผนังผ้าปูที่นอนเป็นสีดำสนิท ผ้าห่มเป็นสีดำลายตารางมีตู้เสื้อผ้าอยู่มุมหนึ่งของห้อง โต๊ะเครื่องแป้งอยู่ข้างตู้เสื้อผ้ามีระเบียงหน้าห้องผ้าม่านของฉันเป็นสีขาวลายดอกไม้ อ่า...นอนดีกว่าง่วงนอนยังไงไม่รู้ เมื่อฉันกำลังล้มตัวลงนอนนั้นโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเกิดสั่นอย่างรุนแรง ฉันจึงล่วงมือของฉันเข้าไปในกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ออกมา [โยเป] “ฮัลโหล โยเป”ฉันกลอกเสียงลงไปก้นของฉันสัมผัสกับเตียงหนานุ่มที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำยาปรับผ้านุ่ม [ว่างอยู่หรือเปล่า?]โยเปถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจ “ว่างสิ มีอะไรเหรอว่ามาเลยก่อนที่ฉันจะสลับเมือด”ฉันทำน้ำเสียงตลกๆ ยิ้มน้อยๆ ให้กับมุกฝืดๆของตัวเอง [ฮ่าๆๆ เป็นมุกที่ตลกใช้ได้ เปอยากคุยอีฟกับออกมาเจอฉันที่ร้านเบเกอรรี่หน้าปากซอยปบ้านอีฟได้มั้ย?]โยเปถาม ฉันเหลือบไปมองนาฬิกาเหลือบไปมองเตียงนอนแสนหนานุ่มก่อนจะตอบไปว่า “ค่อยเป็นวันพรุ่งนี้เถอะ...ฉันง่วงนอนมากกกกกกก พรุ่งนี้เจอกันที่สวนสาธารณะร้านหวานเย็นนะตอน 10 โมงล่ะ บาย”ฉันรัวแล้วกดวางสายปิดเสียงโทรศัพท์แล้วล้มตัวลงนอน หนักตาที่หนักอึ้งกำลังจะปิดก็ปรากฏเสียงมารขึ้น ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้นอนเนี้ยยยย อยากกระโดดเตียงตาย!!!T[]T
No5: จัดคู่เดตให้กับสาวโสด ที่อยากสละโสดแล้วมีคนควงแขนไปไหนมาไหนด้วยกัน เป็นไงเลิศมั้ย^.< ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ