Forent School ละลายหัวใจเจ้าชายเย็นชา (NC+)
8.7
เขียนโดย รักคนโสด
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.37 น.
14 session
103 วิจารณ์
468.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 12.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) Forent School *10* (Hot18+)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อกลับมาถึงโรงเรียนจันทราแก้วก็แยกกับพี่ๆ ของตนเองไปที่หอทันที มีคำเดียวในใจเลยตอนนี้ ง่วง อยากนอนสุดๆ ให้ตายเถอะ เธอเกลียดการนั่งรถเดินทางไปไหนมาไหนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็พอนั่งมันง่วงนี่นาน่านอนสุดๆ แต่พอนอนไปได้แป๊บเดียวก็ถึงจุดหมายซะแล้ว มันเซ็งโคตรๆ พอถึงห้องเธอก็ปิดประตูและตรงไปล้มตัวนอนลงบนเตียงเข้าสู่ห้วงนิทราไปทันที ก็คนมันง่วงอ่ะทำไงได้ล่ะ
หลังจากจันทราแก้วหลับไปแล้ว ก็มีร่างของคนคนหนึ่งที่ปีนหน้าต่างห้องเธอเขามา ซึ่งก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโซนิค เขาปิดหน้าต่างลงปิดม่านไว้เหมือนเดิม ขาเรียวยาวก้าวเข้าไปหาร่างบางที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เขาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ จับคนตัวเล็กให้นอนหงายดีๆ เห็นหน้าของอีกคนในตอนนอนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มสักทีสองที หากแต่เมื่อได้กลิ่นกายของอีกคน คำพูดขององค์จักรพรรดิที่เคยบอกกับเขาก็ดังก้องขึ้นในหัวจนเขาต้องหลุดพึมพำออกมา
“กุหลาบ...”
แปลกจริงๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเขากอดออกจะบ่อยกลิ่นตัวของจันทราแก้วนั้นหอมและกระตุ้นอารมณ์เขาเสมอแต่ตอนนี้กลิ่นตัวของคนตัวเล็กตรงหน้ากลับมีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ เจือปนด้วย ไม่เพียงแค่นั้นกลิ่นนี้มันยังปลุกอารมณ์ดิบในกายเขาอีกด้วย ถึงจะไม่มากแต่มันก็น่าแปลก น้ำหอมอย่างนั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ จันทราแก้วเกลียดกลิ่นน้ำหอมยิ่งกว่าอะไรดีขนาดตอนคบกันใหม่ๆ ยังสั่งเขาซะอย่างดีว่าห้ามใช้น้ำหอมเข็ดขาดแต่สำหรับเขามันไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก เพราะปกติเขาก็ไม่เคยคิดจะซื้อใช้อยู่แล้ว
“จันทรา...อย่าบอกนะว่าเราเป็นหนึ่งในบรรดาลูกแฝดขององค์จักรพรรดิน่ะ”
ตอนนี้ในสมองของเขาตีกันวุ่นไปหมด ใจหนึ่งก็คิดแบบนั้นแต่อีกใจก็คิดอยู่ว่าจันทราแก้วเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่เหรอถึงจะมีพลังพิเศษก็เถอะ แล้วอีกอย่างเจ้าตัวก็ดูไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังมีขีดจำกัดในการใช้พลัง ถ้าเป็นปีศาจเลือดบริสุทธิ์แบบเขาพลังนั้นจะใช้ได้ไม่มีขีดจำกัด ที่สำคัญกลิ่นตัวของจันทราถึงจะมีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ เจืออยู่บ้างแต่ก็เป็นกลิ่นกายของมนุษย์ไม่ใช่ปีศาจ ไม่ใช่อมนุษย์อย่างเขา
“ให้ตายเถอะ...”
จะคิดอะไรก็คิดไม่ออกเพราะตอนนี้กลิ่นกายของจันทราแก้วมันเร้าอารมณ์ของเขาจนคิดอย่างอื่นไม่ออกแล้ว อารมณ์ดิบของเขามันถูกกระตุ้นขึ้นมาทีละน้อยจนตอนนี้มันไม่สามารถที่จะทนไหวแล้ว อ่า...ใครเขาสั่งเขาสอนให้หื่นกันวะ
ใบหน้าคมซุกเข้าที่ซอกคอขาวที่ยังคงปรากฏรอยแดงจางๆ ของเขาอยู่ เริ่มจางแล้วเขาคงต้องทำเพิ่มสินะ ริมฝีปากหยักกดเม้มจนมันขึ้นรอยแดงชัดอีกครั้ง เมื่อจัดการสร้างหลักฐานบนคอจนพอใจแล้วริมฝีปากหยักลึกก็ลากขึ้นมาประกบกับริมฝีปากบาง มือหนาเริ่มไล้ไปทั่วกายสาวค่อยๆปลดอาภรณ์ของตนเองและร่างบางจนเปลือยปล่าวในที่สุด ลิ้นร้อนพยายามซอกซอนเข้าไปในโพรงปากของอีกคนแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ แน่ล่ะ ก็คนมันง่วงนี่จะนอน หลับอยู่แท้ๆ ใครมันจะไปมีอารมณ์วะ ใบหน้าหวานเบือนหนีสัมผัสจากชายหนุ่มไปอีกทาง โซนิคที่เห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาบางๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ปลุกดีๆ ไม่ตื่นงั้นคงต้องปลุกแบบเสียวๆ กันดูแล้วล่ะ
นิ้วเรียวลากไล้ไปตามร่างกายของร่างบางไปเรื่อยจนไปหยุดอยู่ที่ช่องทางสีหวาน มือหนาจับขาเรียวเล็กแยกออก แทรกตัวเองเข้าไปอยู่ตรงกลางส่งนิ้วเรียวเข้าไปในช่องทางนั้นหนึ่งนิ้ว การเข้าไปเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากคนตัวเล็กยังคงหลับและไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลยสักนิด จนในที่สุดเมื่อเข้ามาได้นิ้วเรียวก็เริ่มวนคลึงเบาๆ พอจะรู้สึกได้ว่าเริ่มมีน้ำออกมาช่วยทำให้การขยับมันง่ายขึ้นแล้วนิ้วที่สองและสามก็ตามเข้าไปชักเข้าออกจนร่างบางเผลอหลุดครางออกมาเป็นระยะ
“อ๊ะ...อื้ม...”
ขาเรียวเล็กเริ่มดิ้นไปมาพยายามจะหนีบเข้าหากันแต่ถูกร่างสูงจับไปเกี่ยวที่เอวเขาไว้แทน เขาดึงนิ้วออกมาจากช่องทางของจันทราแก้วและแทนที่ด้วยแก่นกายของตนทีเดียวจนสุดจนทำให้ร่างบางผวาลุกขึ้นมากอดคอเขาไว้ทั้งๆ ที่ยังคงหลับอยู่
“อื้อ!...อึดอัด!...”
เสียงครางบ่นเบาๆ เหมือนเสียงละเมอจากร่างบางทำให้ชายหนุ่มอดยิ้มขำไม่ได้ ถ้ารู้ว่าลักหลับแล้วจะได้เห็นอะไรที่มันน่ารักน่าฟัดแบบนี้เขาทำไปนานล่ะ ชายหนุ่มผลิกตัวเธอให้นั่งบนตัก
“อ่า...” ร่างสูงซี๊ดปากเบาๆ เพราะความคับแน่นของช่องทางของอีกคน มันตอดรัดเขาจนอยากจะจับร่างบางกระแทกหนักๆ ให้สะใจไปเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดที่ว่าร่างบางบนตัวเขาเริ่มขยับหนียุกยิกไปหมดในตอนนี้ แถมยังละเมอด่าออกมาตามด้วยมือที่เริ่มทุบตีเขา คงจะมีเหตุผลเดียวที่ทำให้ร่างบางหงุดหงิด กวนการนอนของเธอ
“โอ๊ย! อะไรวะ! คนจะนอนโว๊ย!”
จันทราแก้วทั้งทุบตีจิกดิ้นสารพัดทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่ลืมตา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รับรู้ถึงตัวตนของใครอีกคนที่อยู่ในร่างกายของตัวเองเลยสินะ โซนิคจับเข้าที่สะโพกบางและเริ่มขยับขึ้นลงหนักๆ เน้นๆ จนร่างบางถึงกับครางออกมา คงจะรับรู้แล้วสินะ ดวงตาหวานค่อยๆ ปรือขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าก็ทำเอาตาสว่างทันที
“เฮ้ย! พี่โซ! ทำอะไรจันทราเนี่ย...อ๊ะ”
ยังพูดไม่ทันจบประโยคดี ร่างสูงก็แกล้งกระแทกสวนขึ้นมาซะก่อน ร่างบางรู้เลยว่าพลาดท่าให้กับไอ้เจ้าชายจอมหื่นตรงหน้าเสียแล้ว เล็บจิกเข้าที่หัวไหล่เพราะคนที่อยู่ใต้ร่างจับเธอขย่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนครางไม่หยุด ไม่มีเวลาด่าเลย
“อ๊ะ! อ๊ะ!”
“อ๊าส์!”
“อ๊ะ! อ๊ะ!...อื้อ! หยุดทำไม!”
จันทราแก้วเอ่ยเสียงหงุดหงิด ให้ตายสิ! เมื้อกี้ก็กวนเธอจนตื่น พอตื่นมามีอารมณ์แล้วก็มาทำให้ค้างอีก ตบซะดีมั้ยเนี่ย!
“หืม? ก็พี่คิดว่าเราคงอยากนอนมากกว่าน่ะ พี่เลยหยุด...”
“จะบ้าเหรอ! จันทราร้องซะลั่นห้องขนาดนั้น ยังจะมาคิดว่าอยากนอนอีกเหรอ คนบ้า! แกล้งกันชัดๆ เลย!”
“หึ! ก็ใครจะไปรู้ล่ะครับ งั้นโอเค ต่อก็แล้วกัน”
“เดี๋ยวนี้เลย! อ๊าส์!”
สะโพกสอบกระแทกสวนขึ้นมาอย่างแรงจนคนตัวเล็กด้านบนถึงกับสะดุ้งและจุก สวนขึ้นมาได้ไม่บอกไม่กล่าว ไอ้พี่โซนิคบ้า! ดูเหมือนว่าประโยคที่ด่าในใจเมื่อกี้อีกคนจะได้ยิน ร่างสูงผลักจันทราแก้วให้นอนราบกับพื้นเตียงมือหนาจับขาร่างบางให้แยกออกกว้างกว่าเดิมและกระแทกกายเข้าหาไม่ยั้งทั้งเร็วและแรงจนคนตัวเล็กแทบทนไม่ไหวตอดรัดเขาจนอึดอัดไปหมด พอช่องทางเริ่มคลายโซนิคก็กระแทกกายเข้าหาอีกคนต่อ ก็ยังไม่เสร็จนี่นา ถึงคนใต้ร่างจะเสร็จแล้วก็เถอะแต่เขายังไม่เสร็จเพราะฉะนั้นมันก็ยังไม่จบ
“ยาวถึงเช้าเลยนะที่รัก...”
“จะบ้าเหรอ...พี่โซ!อ๊ะ!”
ถึงร่างบางจะพยายามทุบตีและขัดขืนเท่าไหร่มันก็เป็นแค่ช่วงแรกเพราะสุดท้ายก็ครางและให้ความร่วมมือกับเขาอยู่ดี แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาหลงรักได้ยังไงล่ะ
“พี่รักจันทรา...อ๊าส์!”
ตอนเช้าห้องเรียนดูครึกครื้นเป็นพิเศษเนื่องจากว่าอีกสองวันจะมีงานโอเพ่นเฮาท์และแต่ละห้องจะต้องตกลงกันว่าจะจัดกิจกรรมอะไร ซึ่งตกลงกันแล้วว่าจะเปิดเป็นร้านเบเกอร์รี่ กิจกรรมนี้คือจัดในห้องตัวเองแล้วคนภายนอกจะเข้ามาเยี่ยมชมรวมไปถึงคนในโรงเรียนด้วย หากห้องไหนรายได้มากที่สุดจะได้สิทธิ์ออกไปเที่ยวพักแรมนอกโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์ ไร้การเรียนการสอนใดๆ ทั้งสิ้น นั้นนับว่าเป็นสวรรค์ของนักเรียนทุกคนเลยล่ะ จึงทำให้ทุกคนจริงจังกันขนาดนี้ยังไงล่ะ และเพราะอีกสองวันจะมีงานโอเพ่นเฮาท์ทางโรงเรียนจึงหยุดการเรียนการสอนสามวันก่อนจะถึงวันงานเพื่อให้นักเรียนได้จัดเตรียมของกันให้เรียบร้อย
ทั้งห้องถูกเนรมิตให้กลายเป็นร้านเบเกอร์รี่เล็กๆ ตกแต่งสไตล์น่ารักๆ ผ่อนคลายจนคนในห้องเองยังอยากจะนั่งอยู่แต่ในห้องไม่อยากจะลุกออกไปไหนเลย รสริน รุ่งอรุณ แรมนภารับหน้าที่ทำเบเกอร์รี่ ทำเค้ก และพวกขนม ส่วนอุปกรณ์ในการทำนั้นก็เอามาจากบ้านของรสรินเพราะบ้านของเธอนั้นเปิดร้านขายเบเกอร์รี่ ซึ่งคุณแม่ของเธอนั่นใจดีมากๆ ไม่ขัดใจลูกสาวเลยข้าวของเครื่องผสมเครื่องปรุงทั้งหมดนั้นเอามาจากร้านของบ้านรสรินทั้งหมดนั่นหมายความว่าทั้งห้องแทบจะไม่ต้องออกเงินอะไรเลย ทำให้หัวหน้าห้องอย่างเวียร์ร่ายอมไม่ได้ เพราะมันเหมือนเอาเปรียบจนเกินไปจึงหารเงินกับคนทั้งห้องซื้อพวกแป้งพวกวัตถุดิบ ส่วนพวกเครื่องใช้อย่างอื่นก็ใช้ของจากร้านของรสรินซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย
แต่ดูเหมือนปัญหาจะอยู่ที่สามแม่ครัวของเรา เพราะถึงทั้งสามจะทำอาหารเป็นก็จริงแต่เรื่องทำขนม ทำเค้ก ทำเบเกอร์รี่พวกเธอเองก็ไม่เคยทำเหมือนกัน โดยเฉพาะรสริน ถึงที่บ้านเธอจะเปิดร้านเบเกอร์รี่แต่เธอเองก็ไม่เคยคิดจะลองทำเลยซักนิด มันยากในความคิดของเธอ ส่วนรุ่งอรุณและแรมนภานั้นเคยถูกพ่อส่งไปอยู่กับชิน พี่ชายคนล่ะแม่ของพวกเธอเธอ ก็เคยทำอยู่แต่ก็ไม่ได้อร่อยอะไรเลยแล้วมันก็ผ่านมาหลายปีแล้วด้วย น่ากังวลสุดๆ เพราะคนอื่นๆ ในห้องนั่นไม่มีใครทำเป็นซักคนเดียว
ส่วนจันทราแก้ว รายนั้นไม่เคยสนใจโลกอยู่แล้วล่ะนะ ไม่เคยทำอาหารกินเองเลยสักครั้ง อย่างตอนที่พ่อเธอส่งไปอยู่กับชิน สอนให้ทำอะไรก็ไม่ทำ ดูอย่างเดียวไม่เคยคิดที่จะทำ ขนาดชินทั้งสั่งทั้งบังคับแล้วก็ยังจะโยนมาให้รุ่งอรุณทำให้แล้วเอาไปชินบอกว่าทำแล้ว แสบสุดๆ ขนาดการบ้านหรืองานอะไรก็โยนมาให้พวกพี่ๆ ทำให้หมด ให้ตายเถอะนี่มันน้องคนสุดท้องหรือพระเจ้ากันแน่ ไม่รู้ว่าสอบผ่านมาได้ยังไง
ดังนั้นรุ่งอรุณกับแรมนภาจึงคุยกับรสรินว่าเย็นนี้จะไปหัดทำเบเกอร์รี่ที่บ้านของรสรินซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอได้ลากจันทราแก้วไปด้วย และแน่นอนว่าจันทราแก้วไปโซนิคก็ต้องตามติดไปด้วย เมื่อโซนิคไปเอริคและทีเซอร์ก็ตามไปด้วย มันทำให้ตะวันค่ำปล่อยให้ไปแค่นั้นไม่ได้ต้องตามไปกันท่าให้ถึงที่สุด คนที่ไปจึงมี แรมนภา รุ่งอรุณ จันทราแก้ว โซนิค ตะวันค่ำ เอริค และทีเซอร์
“จะไหวเหรอพี่รอง เราไม่ได้ทำกันมาหลายปีแล้วนะ”
“เอาน่า แม่ของรสเขาก็ต้องสอนเราแหละ อีกอย่างเราก็มีพื้นฐานมาแล้วถึงจะลืมๆ ไปบ้างแล้วก็เถอะ”
“กลัวร้านเขาพังจัง” เอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นหูของสองพี่สาวหรอกนะ
“เมื่อกี้ว่าอะไรนะจันทรา” รุ่งอรุณหันไปถามน้องสาวตัวเองควับ
“กลัวร้านเขาพัง” ย้ำอีกครั้งจนสองพี่สาวต้องลุกขึ้นมาล็อกคอ บีบจมูก แกล้งน้องตัวเอง(แบบเล่นๆ เบาๆ) ไปพักใหญ่ ทำเอาทีเษอร์อดขำกับภาพตรงหน้าไม่ได้ พอเห็นบรรดาพี่สาวตัวเองแกล้งจันทราแก้ว ตะวันค่ำจึงเข้ามาร่วมแจมด้วยอีกคนทำให้เสียงหัวเราะดังไปทั่งห้อง ทั้งเสียงจากทั้งสี่คนและเสียงจากเพื่อนในห้องที่เห็นเหตุการณ์ โซนิคเองถึงจะไม่แสดงออกทางหน้าตาไม่ได้ขำ หัวเราะหรือยิ้มแต่หากมองตาจะรับรู้ว่าเขากำลังเอ็นดูกับภาพตรงหน้าขนาดไหน
ยิ่งมองเหมือนยิ่งตกหลุมรัก นี่มันบ้าชัดๆ เขารู้สึกเหมือนตังเองตกหลุมรักจันทราแก้วทุกครั้งที่มองเธอ ไม่ธรรมดาจริงๆ ทำให้เขาตกหลุมรักได้ทุกวัน ไม่เบื่อบ้างหรือไงเด็กคนนี้
‘จันทราจะทำให้พี่รักไปถึงไหน แค่นี้ก็ไปไหนไม่รอดแล้วนะ...’
มาแล้วคร๊าบบบบบ หายไปนานคิดถึงผมกันมั้ยเอ่ย^^ กลับมากับบทเอ็นซี นิยายเรื่องนี้ไม่มีหรอกสาระ เอ็นซีอาจจะมีเยอะหรือน้อยตามอารมณ์ผมฮะมันไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ แต่ยังไงก็ยังมาอัพให้อยู่ตลอดนะฮะแต่อาจจะนานหน่อย รักคนอ่านทุกคนเลยนะฮะ <3
แล้วก็มีคนเม้นถามว่าจะมีภาคต่อมั้ย คงจะไม่มีล่ะนะฮะจะให้อยู่เรื่องเดียวกันไปเลยแต่ไม่เด่นเท่าโซนิคกับจันทราแก้ว ขอบคุณที่ติดตามฮะ ^^
หลังจากจันทราแก้วหลับไปแล้ว ก็มีร่างของคนคนหนึ่งที่ปีนหน้าต่างห้องเธอเขามา ซึ่งก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโซนิค เขาปิดหน้าต่างลงปิดม่านไว้เหมือนเดิม ขาเรียวยาวก้าวเข้าไปหาร่างบางที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เขาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ จับคนตัวเล็กให้นอนหงายดีๆ เห็นหน้าของอีกคนในตอนนอนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มสักทีสองที หากแต่เมื่อได้กลิ่นกายของอีกคน คำพูดขององค์จักรพรรดิที่เคยบอกกับเขาก็ดังก้องขึ้นในหัวจนเขาต้องหลุดพึมพำออกมา
“กุหลาบ...”
แปลกจริงๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเขากอดออกจะบ่อยกลิ่นตัวของจันทราแก้วนั้นหอมและกระตุ้นอารมณ์เขาเสมอแต่ตอนนี้กลิ่นตัวของคนตัวเล็กตรงหน้ากลับมีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ เจือปนด้วย ไม่เพียงแค่นั้นกลิ่นนี้มันยังปลุกอารมณ์ดิบในกายเขาอีกด้วย ถึงจะไม่มากแต่มันก็น่าแปลก น้ำหอมอย่างนั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ จันทราแก้วเกลียดกลิ่นน้ำหอมยิ่งกว่าอะไรดีขนาดตอนคบกันใหม่ๆ ยังสั่งเขาซะอย่างดีว่าห้ามใช้น้ำหอมเข็ดขาดแต่สำหรับเขามันไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก เพราะปกติเขาก็ไม่เคยคิดจะซื้อใช้อยู่แล้ว
“จันทรา...อย่าบอกนะว่าเราเป็นหนึ่งในบรรดาลูกแฝดขององค์จักรพรรดิน่ะ”
ตอนนี้ในสมองของเขาตีกันวุ่นไปหมด ใจหนึ่งก็คิดแบบนั้นแต่อีกใจก็คิดอยู่ว่าจันทราแก้วเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่เหรอถึงจะมีพลังพิเศษก็เถอะ แล้วอีกอย่างเจ้าตัวก็ดูไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังมีขีดจำกัดในการใช้พลัง ถ้าเป็นปีศาจเลือดบริสุทธิ์แบบเขาพลังนั้นจะใช้ได้ไม่มีขีดจำกัด ที่สำคัญกลิ่นตัวของจันทราถึงจะมีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ เจืออยู่บ้างแต่ก็เป็นกลิ่นกายของมนุษย์ไม่ใช่ปีศาจ ไม่ใช่อมนุษย์อย่างเขา
“ให้ตายเถอะ...”
จะคิดอะไรก็คิดไม่ออกเพราะตอนนี้กลิ่นกายของจันทราแก้วมันเร้าอารมณ์ของเขาจนคิดอย่างอื่นไม่ออกแล้ว อารมณ์ดิบของเขามันถูกกระตุ้นขึ้นมาทีละน้อยจนตอนนี้มันไม่สามารถที่จะทนไหวแล้ว อ่า...ใครเขาสั่งเขาสอนให้หื่นกันวะ
ใบหน้าคมซุกเข้าที่ซอกคอขาวที่ยังคงปรากฏรอยแดงจางๆ ของเขาอยู่ เริ่มจางแล้วเขาคงต้องทำเพิ่มสินะ ริมฝีปากหยักกดเม้มจนมันขึ้นรอยแดงชัดอีกครั้ง เมื่อจัดการสร้างหลักฐานบนคอจนพอใจแล้วริมฝีปากหยักลึกก็ลากขึ้นมาประกบกับริมฝีปากบาง มือหนาเริ่มไล้ไปทั่วกายสาวค่อยๆปลดอาภรณ์ของตนเองและร่างบางจนเปลือยปล่าวในที่สุด ลิ้นร้อนพยายามซอกซอนเข้าไปในโพรงปากของอีกคนแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ แน่ล่ะ ก็คนมันง่วงนี่จะนอน หลับอยู่แท้ๆ ใครมันจะไปมีอารมณ์วะ ใบหน้าหวานเบือนหนีสัมผัสจากชายหนุ่มไปอีกทาง โซนิคที่เห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาบางๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ปลุกดีๆ ไม่ตื่นงั้นคงต้องปลุกแบบเสียวๆ กันดูแล้วล่ะ
นิ้วเรียวลากไล้ไปตามร่างกายของร่างบางไปเรื่อยจนไปหยุดอยู่ที่ช่องทางสีหวาน มือหนาจับขาเรียวเล็กแยกออก แทรกตัวเองเข้าไปอยู่ตรงกลางส่งนิ้วเรียวเข้าไปในช่องทางนั้นหนึ่งนิ้ว การเข้าไปเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากคนตัวเล็กยังคงหลับและไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลยสักนิด จนในที่สุดเมื่อเข้ามาได้นิ้วเรียวก็เริ่มวนคลึงเบาๆ พอจะรู้สึกได้ว่าเริ่มมีน้ำออกมาช่วยทำให้การขยับมันง่ายขึ้นแล้วนิ้วที่สองและสามก็ตามเข้าไปชักเข้าออกจนร่างบางเผลอหลุดครางออกมาเป็นระยะ
“อ๊ะ...อื้ม...”
ขาเรียวเล็กเริ่มดิ้นไปมาพยายามจะหนีบเข้าหากันแต่ถูกร่างสูงจับไปเกี่ยวที่เอวเขาไว้แทน เขาดึงนิ้วออกมาจากช่องทางของจันทราแก้วและแทนที่ด้วยแก่นกายของตนทีเดียวจนสุดจนทำให้ร่างบางผวาลุกขึ้นมากอดคอเขาไว้ทั้งๆ ที่ยังคงหลับอยู่
“อื้อ!...อึดอัด!...”
เสียงครางบ่นเบาๆ เหมือนเสียงละเมอจากร่างบางทำให้ชายหนุ่มอดยิ้มขำไม่ได้ ถ้ารู้ว่าลักหลับแล้วจะได้เห็นอะไรที่มันน่ารักน่าฟัดแบบนี้เขาทำไปนานล่ะ ชายหนุ่มผลิกตัวเธอให้นั่งบนตัก
“อ่า...” ร่างสูงซี๊ดปากเบาๆ เพราะความคับแน่นของช่องทางของอีกคน มันตอดรัดเขาจนอยากจะจับร่างบางกระแทกหนักๆ ให้สะใจไปเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดที่ว่าร่างบางบนตัวเขาเริ่มขยับหนียุกยิกไปหมดในตอนนี้ แถมยังละเมอด่าออกมาตามด้วยมือที่เริ่มทุบตีเขา คงจะมีเหตุผลเดียวที่ทำให้ร่างบางหงุดหงิด กวนการนอนของเธอ
“โอ๊ย! อะไรวะ! คนจะนอนโว๊ย!”
จันทราแก้วทั้งทุบตีจิกดิ้นสารพัดทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่ลืมตา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รับรู้ถึงตัวตนของใครอีกคนที่อยู่ในร่างกายของตัวเองเลยสินะ โซนิคจับเข้าที่สะโพกบางและเริ่มขยับขึ้นลงหนักๆ เน้นๆ จนร่างบางถึงกับครางออกมา คงจะรับรู้แล้วสินะ ดวงตาหวานค่อยๆ ปรือขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าก็ทำเอาตาสว่างทันที
“เฮ้ย! พี่โซ! ทำอะไรจันทราเนี่ย...อ๊ะ”
ยังพูดไม่ทันจบประโยคดี ร่างสูงก็แกล้งกระแทกสวนขึ้นมาซะก่อน ร่างบางรู้เลยว่าพลาดท่าให้กับไอ้เจ้าชายจอมหื่นตรงหน้าเสียแล้ว เล็บจิกเข้าที่หัวไหล่เพราะคนที่อยู่ใต้ร่างจับเธอขย่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนครางไม่หยุด ไม่มีเวลาด่าเลย
“อ๊ะ! อ๊ะ!”
“อ๊าส์!”
“อ๊ะ! อ๊ะ!...อื้อ! หยุดทำไม!”
จันทราแก้วเอ่ยเสียงหงุดหงิด ให้ตายสิ! เมื้อกี้ก็กวนเธอจนตื่น พอตื่นมามีอารมณ์แล้วก็มาทำให้ค้างอีก ตบซะดีมั้ยเนี่ย!
“หืม? ก็พี่คิดว่าเราคงอยากนอนมากกว่าน่ะ พี่เลยหยุด...”
“จะบ้าเหรอ! จันทราร้องซะลั่นห้องขนาดนั้น ยังจะมาคิดว่าอยากนอนอีกเหรอ คนบ้า! แกล้งกันชัดๆ เลย!”
“หึ! ก็ใครจะไปรู้ล่ะครับ งั้นโอเค ต่อก็แล้วกัน”
“เดี๋ยวนี้เลย! อ๊าส์!”
สะโพกสอบกระแทกสวนขึ้นมาอย่างแรงจนคนตัวเล็กด้านบนถึงกับสะดุ้งและจุก สวนขึ้นมาได้ไม่บอกไม่กล่าว ไอ้พี่โซนิคบ้า! ดูเหมือนว่าประโยคที่ด่าในใจเมื่อกี้อีกคนจะได้ยิน ร่างสูงผลักจันทราแก้วให้นอนราบกับพื้นเตียงมือหนาจับขาร่างบางให้แยกออกกว้างกว่าเดิมและกระแทกกายเข้าหาไม่ยั้งทั้งเร็วและแรงจนคนตัวเล็กแทบทนไม่ไหวตอดรัดเขาจนอึดอัดไปหมด พอช่องทางเริ่มคลายโซนิคก็กระแทกกายเข้าหาอีกคนต่อ ก็ยังไม่เสร็จนี่นา ถึงคนใต้ร่างจะเสร็จแล้วก็เถอะแต่เขายังไม่เสร็จเพราะฉะนั้นมันก็ยังไม่จบ
“ยาวถึงเช้าเลยนะที่รัก...”
“จะบ้าเหรอ...พี่โซ!อ๊ะ!”
ถึงร่างบางจะพยายามทุบตีและขัดขืนเท่าไหร่มันก็เป็นแค่ช่วงแรกเพราะสุดท้ายก็ครางและให้ความร่วมมือกับเขาอยู่ดี แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาหลงรักได้ยังไงล่ะ
“พี่รักจันทรา...อ๊าส์!”
ตอนเช้าห้องเรียนดูครึกครื้นเป็นพิเศษเนื่องจากว่าอีกสองวันจะมีงานโอเพ่นเฮาท์และแต่ละห้องจะต้องตกลงกันว่าจะจัดกิจกรรมอะไร ซึ่งตกลงกันแล้วว่าจะเปิดเป็นร้านเบเกอร์รี่ กิจกรรมนี้คือจัดในห้องตัวเองแล้วคนภายนอกจะเข้ามาเยี่ยมชมรวมไปถึงคนในโรงเรียนด้วย หากห้องไหนรายได้มากที่สุดจะได้สิทธิ์ออกไปเที่ยวพักแรมนอกโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์ ไร้การเรียนการสอนใดๆ ทั้งสิ้น นั้นนับว่าเป็นสวรรค์ของนักเรียนทุกคนเลยล่ะ จึงทำให้ทุกคนจริงจังกันขนาดนี้ยังไงล่ะ และเพราะอีกสองวันจะมีงานโอเพ่นเฮาท์ทางโรงเรียนจึงหยุดการเรียนการสอนสามวันก่อนจะถึงวันงานเพื่อให้นักเรียนได้จัดเตรียมของกันให้เรียบร้อย
ทั้งห้องถูกเนรมิตให้กลายเป็นร้านเบเกอร์รี่เล็กๆ ตกแต่งสไตล์น่ารักๆ ผ่อนคลายจนคนในห้องเองยังอยากจะนั่งอยู่แต่ในห้องไม่อยากจะลุกออกไปไหนเลย รสริน รุ่งอรุณ แรมนภารับหน้าที่ทำเบเกอร์รี่ ทำเค้ก และพวกขนม ส่วนอุปกรณ์ในการทำนั้นก็เอามาจากบ้านของรสรินเพราะบ้านของเธอนั้นเปิดร้านขายเบเกอร์รี่ ซึ่งคุณแม่ของเธอนั่นใจดีมากๆ ไม่ขัดใจลูกสาวเลยข้าวของเครื่องผสมเครื่องปรุงทั้งหมดนั้นเอามาจากร้านของบ้านรสรินทั้งหมดนั่นหมายความว่าทั้งห้องแทบจะไม่ต้องออกเงินอะไรเลย ทำให้หัวหน้าห้องอย่างเวียร์ร่ายอมไม่ได้ เพราะมันเหมือนเอาเปรียบจนเกินไปจึงหารเงินกับคนทั้งห้องซื้อพวกแป้งพวกวัตถุดิบ ส่วนพวกเครื่องใช้อย่างอื่นก็ใช้ของจากร้านของรสรินซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย
แต่ดูเหมือนปัญหาจะอยู่ที่สามแม่ครัวของเรา เพราะถึงทั้งสามจะทำอาหารเป็นก็จริงแต่เรื่องทำขนม ทำเค้ก ทำเบเกอร์รี่พวกเธอเองก็ไม่เคยทำเหมือนกัน โดยเฉพาะรสริน ถึงที่บ้านเธอจะเปิดร้านเบเกอร์รี่แต่เธอเองก็ไม่เคยคิดจะลองทำเลยซักนิด มันยากในความคิดของเธอ ส่วนรุ่งอรุณและแรมนภานั้นเคยถูกพ่อส่งไปอยู่กับชิน พี่ชายคนล่ะแม่ของพวกเธอเธอ ก็เคยทำอยู่แต่ก็ไม่ได้อร่อยอะไรเลยแล้วมันก็ผ่านมาหลายปีแล้วด้วย น่ากังวลสุดๆ เพราะคนอื่นๆ ในห้องนั่นไม่มีใครทำเป็นซักคนเดียว
ส่วนจันทราแก้ว รายนั้นไม่เคยสนใจโลกอยู่แล้วล่ะนะ ไม่เคยทำอาหารกินเองเลยสักครั้ง อย่างตอนที่พ่อเธอส่งไปอยู่กับชิน สอนให้ทำอะไรก็ไม่ทำ ดูอย่างเดียวไม่เคยคิดที่จะทำ ขนาดชินทั้งสั่งทั้งบังคับแล้วก็ยังจะโยนมาให้รุ่งอรุณทำให้แล้วเอาไปชินบอกว่าทำแล้ว แสบสุดๆ ขนาดการบ้านหรืองานอะไรก็โยนมาให้พวกพี่ๆ ทำให้หมด ให้ตายเถอะนี่มันน้องคนสุดท้องหรือพระเจ้ากันแน่ ไม่รู้ว่าสอบผ่านมาได้ยังไง
ดังนั้นรุ่งอรุณกับแรมนภาจึงคุยกับรสรินว่าเย็นนี้จะไปหัดทำเบเกอร์รี่ที่บ้านของรสรินซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอได้ลากจันทราแก้วไปด้วย และแน่นอนว่าจันทราแก้วไปโซนิคก็ต้องตามติดไปด้วย เมื่อโซนิคไปเอริคและทีเซอร์ก็ตามไปด้วย มันทำให้ตะวันค่ำปล่อยให้ไปแค่นั้นไม่ได้ต้องตามไปกันท่าให้ถึงที่สุด คนที่ไปจึงมี แรมนภา รุ่งอรุณ จันทราแก้ว โซนิค ตะวันค่ำ เอริค และทีเซอร์
“จะไหวเหรอพี่รอง เราไม่ได้ทำกันมาหลายปีแล้วนะ”
“เอาน่า แม่ของรสเขาก็ต้องสอนเราแหละ อีกอย่างเราก็มีพื้นฐานมาแล้วถึงจะลืมๆ ไปบ้างแล้วก็เถอะ”
“กลัวร้านเขาพังจัง” เอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นหูของสองพี่สาวหรอกนะ
“เมื่อกี้ว่าอะไรนะจันทรา” รุ่งอรุณหันไปถามน้องสาวตัวเองควับ
“กลัวร้านเขาพัง” ย้ำอีกครั้งจนสองพี่สาวต้องลุกขึ้นมาล็อกคอ บีบจมูก แกล้งน้องตัวเอง(แบบเล่นๆ เบาๆ) ไปพักใหญ่ ทำเอาทีเษอร์อดขำกับภาพตรงหน้าไม่ได้ พอเห็นบรรดาพี่สาวตัวเองแกล้งจันทราแก้ว ตะวันค่ำจึงเข้ามาร่วมแจมด้วยอีกคนทำให้เสียงหัวเราะดังไปทั่งห้อง ทั้งเสียงจากทั้งสี่คนและเสียงจากเพื่อนในห้องที่เห็นเหตุการณ์ โซนิคเองถึงจะไม่แสดงออกทางหน้าตาไม่ได้ขำ หัวเราะหรือยิ้มแต่หากมองตาจะรับรู้ว่าเขากำลังเอ็นดูกับภาพตรงหน้าขนาดไหน
ยิ่งมองเหมือนยิ่งตกหลุมรัก นี่มันบ้าชัดๆ เขารู้สึกเหมือนตังเองตกหลุมรักจันทราแก้วทุกครั้งที่มองเธอ ไม่ธรรมดาจริงๆ ทำให้เขาตกหลุมรักได้ทุกวัน ไม่เบื่อบ้างหรือไงเด็กคนนี้
‘จันทราจะทำให้พี่รักไปถึงไหน แค่นี้ก็ไปไหนไม่รอดแล้วนะ...’
มาแล้วคร๊าบบบบบ หายไปนานคิดถึงผมกันมั้ยเอ่ย^^ กลับมากับบทเอ็นซี นิยายเรื่องนี้ไม่มีหรอกสาระ เอ็นซีอาจจะมีเยอะหรือน้อยตามอารมณ์ผมฮะมันไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ แต่ยังไงก็ยังมาอัพให้อยู่ตลอดนะฮะแต่อาจจะนานหน่อย รักคนอ่านทุกคนเลยนะฮะ <3
แล้วก็มีคนเม้นถามว่าจะมีภาคต่อมั้ย คงจะไม่มีล่ะนะฮะจะให้อยู่เรื่องเดียวกันไปเลยแต่ไม่เด่นเท่าโซนิคกับจันทราแก้ว ขอบคุณที่ติดตามฮะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ