มหาเวทย์เนตรสยบธาตุ

7.7

เขียนโดย CL666

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.57 น.

  3 ตอน
  11 วิจารณ์
  7,073 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 10.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) มรสุมโลหิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

         ท่ามกลางแสงแดดระอุร้อนแรงยามเที่ยงวัน อบอ้าวราวจะสาดแสงแผดเผา ทุกสรรพสิ่ง บนโลกใบนี้ให้ม้อดไหม้ ลมร้อนพัดต้องผิวกายดั่งคมมีดกรีดเฉือน อากาศเช่นนี้ช่างเป็นช่วงเวลาทรมานผู้คนยิ่งนัก แต่ทันใดนั้นเอง กลางแสงแดดที่แผดเผา บนพื้นทรายอันร้อนระอุนั้น พลันมีเงาร่างเลือนราง สายหนึ่งปรากฏ พ้นเนินทราย ตัดแสงเจิดจ้าของอาทิตย์ยามเที่ยง  ท้าทาย ฝ่าลมร้อนทะเลทราย ร่างนั้นสาวเท้าก้าวเดินอย่างมั่นคงยิ่ง มีแต่เสื้อผ้าคลุมกายเท่านั้นที่ปลิวไหวตามกระแสลม

 

          ทันใดนั้นเอง รอบบริเวณเกิดการแปรเปลี่ยนที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดเกิดขึ้น ท่ามกลางพื้นทะเลทรายอันร้อนระอุแห่งนี้พลันมีเงาร่างหลายสายโผล่พ้นพื้นทรายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  ครอบคลุมบริเวณแถบนั้นในทันที

 

           “  หยุดไว้สหาย  ทางสายนี้เจ้ามิอาจผ่านไปได้  ”

 

           เงาร่างปริศนา รายล้อมร่างผู้มาไว้ แบ่งเป็น หนึ่งหน้า  กระจายออก ซ้าย ขวา สี่ร่าง

 

           ร่างปริศนาที่มา การแต่งกายภายใต้ผ้าคลุมโหม่งดำสนิท การแต่งกายคล้ายคนพื้นที่อาศัยในแถบทะเลทราย เผยให้เห็นเพียงใบหน้าเท่านั้นเท่านั้น หนึ่งในผู้มาทั้งห้า หน้าตาดุร้ายร่าง สูงใหญ่เป็นหนึ่งในเงาร่างปริศนาที่มา พลันสาวเท้ายืนหยัดเบื้องหน้ากล่าววาจาต่อ

 

            “  หากเจ้ารับรู้สถานการณ์ ยังคงเปลี่ยนเส้นทางเดินใหม่ประเสริฐกว่า หาไม่แล้วคิดสำนึกเสียใจภายหลังก็สายไปแล้ว เส้นทางสายนี้ห้ามมิให้ผู้ใดสัญจรผ่านทางโดยเด็ดขาด  ”

 

             เงาร่างสายนั้นยืนหยัดมั่นไม่กล่าววาจา สอดประกายสายตาอัน ดุดันผ่านผ้าคลุมสีดำ ที่พัดปลิวไหวตลอดเวลา

 

             “  หรือว่าเจ้าเอง เป็นคนหูหนวก บ้าใบเหตุใดมิย่อมกล่าววาจา  ไม่พิไรอันใด ก็ประเสริฐ  ”

 

             ชายร่างปริศนาผู้มากล่าววาจา ยังมิทันขาดคำ มันพลัดสะบัดมือออกไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ปากกล่าววาจาแต่ลงมือรวดเร็วกว่าในเวลาเช่นนี้ยากนักที่จะ รับมือภายใต้การเปลี่ยนแปรกะทันหันได้ทัน การลงมือของมันออกจะอำมหิตเกินไปมากแล้ว

 

             อาวุธลับ กระสวยเงิน ถูกซัดออกไปหลายสิบจุด  ต้านแรงลมที่พัดรุนแรง ยากนักที่จะมองเห็นอาวุธเล็กระเอียดเช่นนี้ได้ แสดงถึงพลังข้อมือของผู้ใช้เป็นที่คาดคำนวนได้แล้ว อาวุธลับ ถูกซัดต้องเป้าหมายไม่พลาดเป้า แรงปะทะของอาวุธลับนี้ถึงกับทำให้ ร่างใต้ผ้าคลุมดำนั้น ทรุดลงกองบนพื้นราวกับลูกหนังถูกปล่อยลมก็มิปาน

 

             “  หากแม้นพูดจาภาษาคนมิได้ แต่คงไม่เป็นปัญหาที่จะกล่าววาจากับยมบาลในนรกใช่หรือไม่สหาย  ”

 

              ชายร่างปริศนาผู้มากล่าวพร้อมกับโบกมือ ซ้าย ขวา เป็นเชิงบอกให้ ชายผู้มาทั้ง สี่เดินเข้าไปสำรวจ

ความเป็นมาของชายใต้ผ้าคลุมที่ล้มลงแน่วนิ่งไม่เคลื่อนไหว

 

              ในทันใดนั้นเองขณะที่หนึ่งในชายทั้งสีที่กำลังใช้เดิมเข้าไปไกล หมายกระชากผ้าคลุมดำที่ปกปิดใบหน้าร่างลึกลับนั้นเหตุการณ์แปรเปลี่ยนไม่คาดคิดก็ก็เกิดขึ้น

 

               ชายร่างปริศนาเห็นผิดท่าจึงตระโกนฝ่า แรงลมออกไปเสียงดังลั่น

 

              “ รีบถอย ”

 

               ยังไม่ทันสิ้นเสียงที่เปล่งออกมาอย่างรีบร้อน ที่ยังคงยังกังวานก้องไปทั่วบริเวณ มีเสียงดัง ปานฉีกอาภรณ์ดั่ง ติดต่อกัน สี่ครั้ง แต่ล่ะครั้งปรากฏหยาดโลหิต สาดกระเซ่น กระจายออกเป็น จุดใหญ่ กระจายพุ่ง ไปทั่วบริเวณโดยรอบ เศษเนื้อชิ้นเล็กชินน้อยลอยล่องสู่เบื้องสูงสาดกระจายลง ดั่งห่าฝนโลหิตส่งกลิ่นคาวกระจายไปในสายลม  ช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก

 

               ชายร่างปริศนามิทันรับรู้เรื่องราวความเป็นไป ก่อนหลังช่างรวดเร็วราวกระพริบตา รู้สำนึกอีกที ทั่วบริเวณกระจายไว้ด้วย ซากเนื้อแหลกเละไปทั่วบริเวณแล้ว

 

               “ นี้เป็นเรื่องราวใดกันแน่ พวกมันจบชีวิตด้วยพลังฝีมือใด ”

 

                ชายร่างปริศนา แสดงสีหน้าปั้นยาก ยังคงมึนงง สงสัยตลึงลานกับที่

 

                “ ท่านมิต้องกังวล สงสัยใจไป  ยังคงพกพาความสงสัยนี้ไปเรียนถามต่อย

มบาลในนรกเถอะ ”

 

                เสียงของชายลึกลับดัง มาจากทางด้านหลังของชายปริศนา วาจาที่เปล่งออกมาราวน้แข็ง ชวนหนาวเหน็บจนอดที่จะสยิวกายมิได้ ขัดกับสภาพอากาศร้อนเช่นนี้ยิ่งนัก ชายร่างปริศนา เหงื่อแตกโทรมกาย แต่ยังคงยืนมั่น ค่อย ๆ ทันกายกลับไปช้า ๆ ทางต้นเสียง  ภาพที่ปรากฏ ต่อสายตาทำให้ คนอำมหิตเช่นมันถึงตลึงอ้าปากค้าง ต่อภาพที่เห็นถนัดตาเบื้องหน้า

 

                 “เจ้า ๆ ๆ  มิใช่มะ...”

 

                 โลหิตสาดพุ่งกระจาย พร้อมกับเสียงสุดท้ายที่เปล่งออกจากปากของชายปริศนาผู้เหลือเป็นคนสุดท้ายกลืนหายไปกับ  เสียงลมพายุทรายที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ดังหวีดหวิว ตลอดเวลา

 

                “ แล้วมนุษย์ ที่เจ้าว่าใช่มีร่างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน ฮึ ”

 

                 ชายลึกลับ เค้นเสียงในลำคอ ที่ยาวผิดรูปผิดร่าง สองมือที่กวัดแกว่งในอากาศ  ยาวหลายสิบเมตร หดกลับคืนสู่รูปร่างปรกติ เหมือนมนุษย์ทั่วไป เดินเปลือยเปล่าตรงไปหยิบผ้าคลุมดำที่กองอยู่บนพื้นทรายสวมใส่ดังเดิม สาวเท้าก้าวไปฝ่าลมพายุทะเลทรายหายลับไป ทิ้ง ร่องรอยซากศพ กระจัดกระจายไว้เบื้องหลัง

 

ความเป็นมาของชายลึกลับนี้มีความเป็นมาเช่นไร เหตุใดเหล่าชายปริศนาจึงเข้าขัดขวางมิให้ ผู้ใดย่างกายผ่าน ทะเลทราย แห่งนี้ เรื่องราวต่อไปจะเป็นเช่นไรโปรดติดตาม

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา