THE GAME 365 DAYS TO SURVIVE

9.0

เขียนโดย จันทร์ดำ

วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.18 น.

  3 ตอน
  19 วิจารณ์
  6,661 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 15.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ราตรีที่ ๒ : ดินแดนแห่งความฝัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                วาปปปป ... ภาพที่เคยแจ่มชัดเบื้องหน้าบัดนี้มีเพียงแต่สีขาวโพลน สติของผมค่อยๆเลือนหายไปพร้อมๆกับม่านตาที่กำลังจะปิดลง

 

            ‘No.978231 วายุ เจริญปัญญา อายุ17ปี กรุ๊ปเลือด O ส่วนสูง 170 ซ.ม. น้ำหนัก 58 กก. สีผิวแทน เส้นผมดำ ม่านตาดำ ทรงหน้าเรียว สัญชาติไทย ระบุตัวตนถูกต้อง ลงทะเบียนในชื่อ วายุ เจริญปัญญา ได้เข้าสู่ช่วงที่หนึ่งแล้ว’ เสียงประกาศบางอย่างดังขึ้นเรียกให้สติของผมกลับมาอีกครั้ง ผมยังคงอยู่ในตู้SDหากแต่สถานที่มันได้เปลี่ยนแปลงไป ภายในตู้SDว่างเปล่า ผมกดสวิทช์ประตูให้เปิดออก เบื้องหน้าคือห้องโถงสีขาวกว้างสุดลูกหูลูกตาตรงกึ่งกลางห้องมีบุคลากรท่านหนึ่งใส่ชุดสูทยืนอยู่บนแท่นคล้ายเคาท์เตอร์ต้อนรับของพนักงานร้านสะดวกซื้อ

 

            ‘สวัสดี No.978231 วายุ เจริญปัญญา ป๋อง ให้เรียกว่าอะไรดี?’ บุคคลเบื้องหน้ายิงคำถามผมอย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่ทันที่ผมสังเกตุว่าปากของเค้าไม่ได้ขยับเหมือนกับเสียงที่ผมได้ยิน “ไม่ต้องแปลกใจในSDแห่งนี้ภาษาทุกภาษาจะถูกตีความหมายให้สื่อสารและฟังได้รู้เรื่องเหมือนกันหมดทั่วทั้งโลก ฉันเป็นคนอเมริกาหรือที่บ้านพวกเธอเรียกกันว่าฝรั่ง” เค้าพูดดักก่อนที่ผมจะยิงคำถามไป

 

            “ฉันชื่อว่า ปิเอรี่ อันเบิร์ก ฉันสมัครงานลงมาในSDแห่งนี้ในฐานะผู้แนะนำผู้เริ่มเล่นเกมและฉันได้ตั้งโปรแกรมตัวฉันเองไว้ให้ตอบคำถามผู้เริ่มเล่นได้ในขอบเขตที่จำกัดเนื่องจากว่าตัวของฉันกำลังพักร้อนอยู่ใน City Land ต่อจากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับตัวเกมที่ละลำดับ”

 

            “ก็อย่างที่รู้ Soul Dream คือเกมแรกที่ดึงเอาสติสัมปชัญญะของผู้เล่นเข้ามาสู่ตัวเกมด้วยและยังเป็นเกมแรกของโลกที่ผู้เล่นจะต้องเล่นยาวนานถึงหนึ่งปี ระบบของเครื่องจะทำการดูแลร่างกายบนโลกความจริงด้วยเทคโนโลยีชนิดใหม่... เอาเป็นภาษาชาวบ้านนั่นก็คือเครื่องจะทำการยัดสารอาหารให้ร่างกายของพวกนายให้พอเพียงในแต่ละวันนั่นเอง ส่วนเจลสีเขียวอ่อนนั่นทำหน้าที่กระตุ้นร่างกายบนโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อให้ตอบสนองกับสภาวะแวดล้อมที่เกิดอยู่ในตัวเกม”

 

            “ยกตัวอย่างเช่นหากร่างกายในตัวเกมกำลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่หนาวเจลสีเขียวอ่อนหรือที่เราเรียกกันว่า ออล(onl) จะทำให้ร่างกายบนโลกความจริงของนายหนาวตามไปด้วย และไม่จำเป็นต้องกังวลว่าร่างกายบนโลกนั้นจะไม่ได้ออกกำลังกายเพราะหากนายขยับเท่ากับว่าร่างกายบนโลกของนายได้ขยับตามไปด้วย ความรู้สึกทุกอย่างจะถูกถ่ายทอดผ่านไปสู่โลกความจริงนั่นหมายถึงว่าหากนายถูกมดกัดนายก็จะเจ็บเหมือนมดกัดนั่นเอง”

 

            “และสุดท้ายนี้มีสองเรื่องที่นายควรรู้หนึ่งใน Soul Dream นายสามารถควบคุมความฝันได้ตามที่นายต้องการแค่ภายในเขตส่วนตัวของนายเท่านั้นซึ่งเราเรียกมันว่า โฮม(Home) หรือที่แปลว่าบ้านนายสามารถพาเพื่อนร่วมเกมเข้าบ้านได้แต่พวกเขาเหล่านั้นจะไม่มีอำนาจในการบิดเบือนหรือควบคุมในเขตของนาย สอง ผู้เล่นทุกคนจะสามารถพบเจอกันได้ที่ City Land ที่นั่นจะเป็นเสมือนกับโลกความจริงอีกหนึ่งใบเพียงแต่มันมีอะไรที่เจ๋งกว่าเยอะซึ่งนายต้องสัมผัสเอง และที่นี่อำนาจในการควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงทำให้ความคิดเกิดเป็นรูปธรรมของพวกนายนั่นไม่มีผล พวกนายจะได้รับอาชีพของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปตามความถนัดที่ระบบจะประมวลผลออกมาโดยอัตโนมัติ หากนายไม่ชอบอาชีพนั้นๆนายสามารถที่จะปฎิเสธได้”

 

            “อ่อ... เกือบลืมไปนี่คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะให้นาย” พูดจบปิเอรี่ก็ยื่นบางอย่างมาให้กับผม ผมยื่นมือออกไปรับมันคือกล่องสี่เหลี่ยมใสเล็กๆขนาดพอๆกับหัวแม่โป้ง

            “มันคืออุปกรณ์ประจำตัวของผู้เล่นทุกคน มันจะบอกรายละเอียดต่างๆที่นายอยากรู้ให้นายฟัง ถึงเวลาแล้วก้าวออกมา No.978231 วายุ เจริญปัญญา ป๋อง” ปิเอรี่ชายร่างใหญ่เรื่องหน้าตาไม่ต้องพูดถึงเวลาผมเจอฝรั่งหน้าพวกเขามักจะเหมือนๆกันโดยไม่มีเหตุผลนั่นคือผิวขาวผมทองดวงตาสีฟ้าดั้งโด่งริมฝีปากล่างหนากว่าริมฝีปากบนและใบหน้าทรงเหลี่ยมเหมือนซุปตาเมืองไทยที่ผมชอบคุณหม่ำไงครับ ... “ก้าวออกมา No.978231 วายุ เจริญปัญญา ป๋อง” ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนก้าวออกไปหนึ่งก้าวอย่างช้าๆ

 

            วูปปปปปปปป พื้นรอบตัวผมมีลำแสงสีขาวสว่างวิ่งวนอยู่รอบตัวเป็นวงกลมก่อนที่มันจะค่อยๆครอบคลุมร่างทั้งร่างของผม “จุดหมายปลายทางCityLand ...”เสียงปิเอรี่ดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ทุกอย่างจะหายไป “เฮ้ย!”

 

            “ไอ้ป๋อง... ไอ้ป๋อง !” ผมค่อยๆลืมตาช้าๆ ภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าคือก้อนเนื้อกลมๆมีกระที่สองข้างแก้มซ้ายและขวาพร้อมกับดวงตาตี่ๆใต้แว่นทรงกลมหนาเตอะ ซึ่งตัวผมในตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ไม่ได้ติดกับพื้นดินมันสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยเวลาที่ผมขยับ

 

            “เฮ้ย ตกใจหมดไอ้ต่อ มึงจะเอาหน้ามาใกล้ทำไมขนาดนี้วะ” ผมรีบผลักมันออก

            “มาช้านักวะ มึงดูรอบๆตัวมึงดิ”ไอ้ต่อเอ่ย

 

            ภาพที่ผมเห็นอยู่รอบตัวนั้นคือสิ่งที่ไม่เคยนึกฝันว่ามันจะมีอยู่บนโลก มันคือดินแดนแห่งความฝัน ใจกลางเมืองที่มีน้ำพุลอยได้ที่พวยพุงออกจากดอกไม้ยักษ์บนพื้นดินรอบๆถูกประดับประดาไปด้วยพืชไม้นานาพรรณที่ไม่เคยเห็นบนโลก ผู้เล่นทุกๆคนที่มาจากทั่วทุกมุมโลกกำลังเดินสำรวจด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกับพวกผม ท้องฟ้าสีคราม แสงแดดที่สดใส สาดลงมาให้เห็นเมืองทั้งเมืองที่ถูกสร้างจากทองคำ เพชรนิลจินดาที่มีค่าเหลือคณานับ ยังไม่รวมรถไฟฟ้าโปร่งใสที่เหาะเหินอยู่บนอากาศผมซึ่งยืนอยู่ด้านล่างสามารถมองทะลุเห็นผู้คนที่นั่งอยู่บนรถไฟได้อย่างชัดเจน พระเจ้านี่มันเหลือเชื่อสุดๆ

 

            “ม้าบินจ้า ม้าบินมาแล้วจ้า ยูนิคอน กริฟฟิน ก็มีนะจ๊ะ 20,000 โซลคอนจ้า” เสียงหนึ่งแววเข้ามาซึ่งเป็นเสียงประกาศขายของที่แปลกที่สุดเท่าที่ผมเกิดมาเคยได้ยิน ผมหันไปตามต้นเสียงนั้นก็เห็นชายหนุ่มผิวดำอายุราวยี่สิบห้ายี่สิบหกกำลังลากจูงรถไม้คันใหญ่เข้ามาที่น้ำพุดอกไม้นี่ ภายในรถไม้นั่นมี ม้าบินตัวน้อยๆและยูนิคอนกริฟฟินถูกขังอยู่ในกรงซึ่งเหมือนกับกรงนกในบ้านเรา ผมรีบเดินเข้าไปอย่างอยากรู้อยากเห็น

 

            “ไอ้ต่อๆมึงดู ไอ้เหี้ย ม้าบิน!” ผมตะโกนเรียกไอ้ต่ออย่างตื่นเต้น

            “เกิดมากูเพิ่งจะเคยเห็นเหมือนกันนี่ละวะ”ไอ้ต่อพูดโดยไม่ละสายตาจากสัตว์ในเทพนิยายพวกนี้แม้แต่น้อย

 

            “พวกเอ็งพึ่งมาถึงกันใช่ไหมไอ้หนู”ชายเจ้าของร้านขายสัตว์เทพนิยายเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู

            “ครับน้า น้าไปเอาไอ้พวกนี้มาจากที่ไหนเหรอครับ?”ผมถามด้วยความฉงน

 

            “ถามแบบนี้แสดงว่าพวกเอ็งยังไม่ได้เปิดดู โซลบอล ใช่ไหม?”ชายเจ้าของร้านถามก่อนหัวเราะร่า “ในนั้นจะบอกเอ็งทุกอย่างที่เอ็งควรจะรู้ไอ้หนู ว่าแต่พวกเอ็งชื่ออะไรน้าชื่อ ดอเจ เป็นคนแอฟริกา” น้าดอเจเอ่ยอีกครั้งก่อนหยุดรถเข็นพร้อมตั้งร้านโชว์สัตว์เลี้ยงเทพนิยายพวกนี้ออกสู่สายตาประชาชน

 

            “ผมชื่อป๋อง ส่วนไอ้อ้วนนี่ชื่อต่อ พวกผมมาจากประเทศไทยครับ”ผมรีบตอบพร้อมๆกับสำรวจดูรอบๆรถเข็นว่าจะมีสัตว์แปลกๆอะไรอีกไหมให้ผมได้ดูเป็นบุญตา ทันที่น้าดอเจจะสังเกตเห็นพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงก่อนพูดต่อไปว่า “พ่อแม่พวกเอ็งคงรวยกันน่าดูซิถึงได้มีปัญญาซื้อตู้ SD ที่ราคาสูงถึงหนึ่งล้านบาทมาให้เล่นกันได้” เมื่อได้ยินคำยอของน้าดอเจไอ้ต่อถึงกับทำเต๊ะท่าขาไขว้เป็นเลขสี่ในท่ายืน มือซ้ายเท้าเอวส่วนมือขวายันหุ่นควายๆของมันไว้กับรถเข็นก่อนเอ่ยแบบเก็กเสียงหล่อว่า “ก็ไม่เท่าไหร่หรอกน้า พ่อแม่ฉันน่ะ.......”หลังจากนั้นมันก็สาธยายความรวยของมันแบบน้ำไหลไฟดับ ส่วนผมได้แต่ตื่นตากับสิ่งอัศจรรย์รอบๆตัวที่อยู่เบื้องหน้า นี่ผมฝันไปหรือเปล่า เออก็ผมกำลังฝันอยู่นี่หว่า …

 

จันทร์ดำ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา