ความรัก ความหลัง และหนังเรื่องหนึ่ง

8.7

เขียนโดย hunny

วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.47 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  4,134 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ความรัก ความหลัง และหนังเรื่องหนึ่ง (ภาค ๑)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ความรัก ความหลัง และหนังเรื่องหนึ่ง (ภาค ๑)
 
๑...
 
สายลมแห่งรัตติกาลแผ่วรำเพยพากลิ่นหอมหวานของมวลบุปผามาสัมผัสจมูก พร้อมหอบเอาความเย็นยะเยือกมาสัมผัสเรือนกายสาวเจ้าอันไร้สิ่งปกปิด แสงสว่างจากดวงอัจกลับแก้วสาดส่องลงมาต้องแสงละมุนแลคล้ายรูปปั้นเรืองแสง หยดน้ำที่เกาะพราวตามวงหน้านวลเนียนค่อยๆ หยาดไหลจากปลายคางทอดสู่ร่องอกอันเอิบอิ่ม ก่อนจะหล่นลงบนผิวน้ำแล้วแตกตัวเป็นวงกว้างเรื่อยๆ ขจรขจายออกไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด...
 
นัยน์ตาเขียวครึ้มราวมรกตน้ำเอกทอดมองเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกอึดอัดคับข้อง วูบหนึ่งที่ร่องรอยความรวดร้าวฉายชัดในหน่วยตา ส่งให้วงหน้าซึ่งเคยสวยหวานกลายเป็นเรียบสนิทดุจตายไปแล้วทั้งตัว นิ้วเรียวงามลูบไล้เรือนกายอย่างช้าๆจากสะโพกเรื่อยลงสู่เรียวขา จากนั้นจึงวักน้ำล้างหน้าก่อนจะเงยขึ้นจ้องมองกระจกเงา จักษุสัมผัสวงหน้าซ้อนเหลื่อมกันมากกว่าหนึ่งหน้า... หากมีผู้ใดย่างกรายเข้ามาใกล้ขณะนี้ คงได้ยินเสียงพึมพำลอดไรฟันราวกับเค้นออกมาจากหัวใจที่แหลกสลาย
 
“...มึงจะต้องเจ็บยิ่งกว่าที่กูเคยเจ็บ ปวดยิ่งกว่าที่กูเคยปวด ร้อยเท่าพันเท่า...”
 
 
๒...
 
เม็ดฝนโรยตัวลงมากระทบพื้นปูนด้านหน้าระเบียงเสียงดังเปาะแปะ ผสานกับเสียงนกร้อง... จิ๊บ... จิ๊บ... และเสียงหรีดหริ่งเรไร แสงเงินแสงทองปลายขอบฟ้าแลดูขมุกขมัวคล้ายตะวันชิงพลบ ทั้งที่ความจริงควรจะเป็นย่ำรุ่งที่สดใส มีเพียงแสงแดดอ่อนละมุนส่องผ่านแมกไม้เช่นทุกวันที่ผ่านมา สายลมเยียบเย็นแผ่วรำเพยผ่านกังสดาลเสียงดังกรุ๊งกริ๊งเข้ามาปะทะวงหน้าสวยหวาน นัยน์ตาคมวับ... คมวาว... มีคิ้วเรียวดำพาดเฉียง จมูกเชิดแต่พองาม ริมฝีปากหยักอย่างได้รูป... เป็นสีชมพูเอิบอิ่มราวกลีบในของดอกกุหลาบ ยืนพิงบานประตูไม้สัก หญิงสาวแย้มริมฝีปาก เผยให้เห็นฟันขาวซี่เล็กๆ เรียงเรียบ ทอดมองภาพเบื้องหน้าด้วยอาการขบขันยิ่งนัก...
 
“พี่ลม ตื่นได้แล้ว”
 
ร่างสูงล่ำสันภายใต้ผืนผ้าห่มดึงหมอนจากศีรษะขึ้นมาปิดใบหูแน่น เหมือนไม่ต้องการสดับสรรพเสียงใดทั้งสิ้น นอกจากความเงียบ... เงียบกริบ...
 
“ไม่ตื่นใช่มั้ย?” หญิงสาวผู้ปลุกทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่อง ย่างสามขุมเข้าทุบแผงอกกว้างของอีกฝ่ายดังบึ้ก “นี่แน่ะ คนขี้เซา จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนนะ”
 
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง จับกำปั้นเล็กๆ ที่พยายามประทุษร้ายเข้ามาพรมจูบด้วยแรงสิเหน่หา ฝ่ายหญิงพยายามสะบัดอย่างใส่จริตจะกร้าน กลับยิ่งยุให้ฮอร์โมนทางเพศของชายหนุ่มพลุ่งพล่านมากขึ้น ราวกับม้าจากพงไพรที่พร้อมจะทะยานสู่รสสัมผัสอันเย้ายวนและเร้าร้อน...
 
“เมื่อคืนเราใช้งานพี่หนักไป รู้มั้ย?” ชายหนุ่มจรดจมูกโด่งงามลงบนซอกคอของหญิงสาวอย่างนุ่มนวล สองมือลูบคลำหนั่นเนื้อเนินสาวอย่างคึกคะนอง สองหูสดับสุ้มเสียงครวญคราง... โหยหวน... กระซิก... ระริกระรี้ ปานใจจะขาดรอนๆ...
 
“อย่าเถอะค่ะ พอแล้ว... พอ...” หญิงสาวเบี่ยงตัวออกห่างจากดวงหน้าคมสัน พลางชี้แจงอ่อนหวาน “เช้าแล้วนะคะ พี่ลมจะกินอะไร เดี๋ยวดาวทำให้”
 
ชายหนุ่มแกล้งช้อนตาปรอยๆ
 
“พี่อยากกินเธอ...”
 
“บ้า...” หล่อนกระทุ้งสีข้างเขาเบาๆ “พูดอะไรก็ไม่รู้ งั้นดาวทำผัดถั่งพูดีกว่า ของโปรดพี่ลม”
 
“จ้ะ พี่จะรอ”
 
“ระหว่างรอไปอาบน้ำด้วยนะคะ”
 
“ครับผม!” ชายหนุ่มรับคำหนักแน่น
 
หญิงสาวนามว่าดาวหัวเราะเสียงกังวานใส ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนลงไปยังห้องครัว เปิดเพลง She ของ Elvis Costello คลอเบาๆ ระหว่างประกอบอาหาร... เพลงที่เขาเคยใช้ร้องจีบหล่อน เมื่อครั้งยังเป็นสาวน้อยเพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่ง...
 
 
She
 
May be the face I can’t forget
 
A trace of pleasure or regret
 
May be my treasure or the price I have to pay.
 
 
น่าแปลกนัก... ผู้ชายคนนี้แพ้วพานเข้ามาในเส้นทางชีวิตของหล่อนรวดร็วเหลือเกิน เขามาพร้อมความพรั่งพร้อมบริบูรณ์ทุกอย่าง ทั้งสมบัติ รูปลักษณ์ และอุปนิสัย อีกทั้งยังเข้ามาเปลี่ยนประวัติศาสตร์บางหน้าในชีวิตของหล่อน ซึ่งควรเวิ้งว้างไร้จุดหมาย เปลี่ยนเป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิต สอนให้รู้จักการฉายภาพอดีตสีขาวเพื่อคงคุณงามความดีของตนเอง เพราะความห่วงใยเปี่ยมล้นนั่นเอง ทำให่หล่อนมีจิตใจปฏิพัทธ์ผูกพันต่อเขา... ก่อเกิดเป็นความรู้สึกกระสันหาทุกลมหายใจ...
 
หญิงสาวเดินกลับเข้ามาห้องนอนอีกครั้ง พบว่าคนรักของหล่อนอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวริมหน้าต่าง ทอดสายตามองสายฝนเบื้องหน้าด้วยอาการเหม่อลอย... ไร้จุดหมาย...
 
“พี่ลมคะ กับข้าวเสร็จแล้วนะ” หล่อนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ พลางซบศีรษะลงบนแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่าย
 
“พี่ยังไม่หิวเลย”
 
“ไม่เป็นไรค่ะ ดาวจะรอกินพร้อมพี่”
 
หล่อนโอบกอดเขาเอาไว้หลวมๆ สายตาทอดมองเหม่อออกไปยังแสงฟ้าแลบที่ปลายขอบฟ้า ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเบาๆ ราวกับมิใช่เสียงของตนเอง...
 
“พี่ลมรักดาวมั้ย?”
 
“รักสิครับ รักมากๆ ด้วย”
 
“แหม...” หญิงสาวอมยิ้ม “ทำเป็นปากหวาน...”
 
“รู้ได้ไงว่าพี่ปากหวาน ดาวเคยชิมเรอะ?” ชายหนุ่มทำตาหวานไหว ยื่นดวงหน้าคมสันเข้ามาใกล้หวังได้  เคลมสวาท
 
อีกฝ่ายตีแขนคนรักดังเพียะ
 
“บ้า! ชิมเชิมอะไร ไม่ได้เกี่ยวกันสักหน่อย”
 
“เกี่ยวสิ พี่อยากเกี่ยวดองกับดาว...” ชายหนุ่มเอียงคอมองหล่อน” แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ฟังเพลงจากพี่ก่อนดีกว่า”
 
เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มฟังไพเราะจับจิต เสมือนถ่ายทอดมาจากความรู้สึกบีบคั้นทางใจ หญิงสาวหลับตาพริ้ม... ความสุขล้นปรี่... ราวกับนิยายที่จบลงด้วยดี...
 
 
๓...
 
หัวใจเคยกระซิบบอกว่า... คนนี้แหละ ใช่แน่นอน คนที่จะฝันหวานใช้ชีวิตร่วมกัน คนที่จะฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปพร้อมกัน...
 
ชีวิตคู่สอนหล่อน... ฝันขมทั้งสิ้น!
 
ผู้ชายคนนี้ไม่เคยรักใครจริงมีเพียงเปลือกนอกให้ลุ่มหลง และยังไม่สิ้นสุดเพียงหล่อนเท่านั้น หากจะยังมีผู้แผ้วพานเข้ามาเพื่อลิ้มลองรสขมขื่นของความต่ำช้า ซึ่งมีเปลือกเสน่หาเป็นเครื่องเย้ายวนตาต่อไป...
 
หญิงสาวพยายามปลุกปลอบตนเองเรื่อยมา เหตุการณ์ครานั้นคงเป็นเพียงละครเรื่องหนึ่ง ละครชีวิตจริงที่หล่อนและ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ เป็นผู้แสดงนำ ละครชีวิตจริงที่ตอนจบ... หล่อนจะต้องเจ็บปางตาย...
 
 
๔...
 
ละครเปิดฉากแรกและฉากสุดท้ายที่คอฟฟี่ชอปใจกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ขึ้นชื่อในด้านการให้บริการที่เป็นเลิศและทันสมัย หญิงสาวท่าทางปราดเปรียวหมุนถ้วยกาแฟเล่นช้าๆ... ริมฝีปากเรียวบางแสยะยิ้มราวกับกำลัวพร่ำคำอาฆาตพยาบาทบางอย่างในใจ...
 
“ขอโทษนะคะ ใช่คุณทรายหรือเปล่า?”
 
นัยน์ตาคมปลาบฉายแววประหลาดใจเพียงครู่ ก่อนจะยิ้มให้เป็นเชิงผูกมิตร พลางกล่าวว่า “ใช่ค่ะ ดิฉันชื่อทราย”
 
“ฉันชื่อดาวค่ะ...” เจ้าของเสียงกังวานใสแนะนำตนเอง “...ขอโทษด้วยที่มาช้า โทร.นัดฉันออกมามีธุระอะไรหรือคะ?”
 
“เชิญนั่งก่อนสิ”
 
“ขอบคุณค่ะ”
 
ดาวหย่อนตัวลงนั่งด้วยท่วงท่าสง่างามสมเป็นกุลสตรี แพขนตาขลับดำและงอนงามกะพริบปริบๆ บ่งบอกว่าฉงนสนเท่ห์ใจมิน้อยกับการเชื้อเชิญของสตรีฝ่ายตรงข้าม...
 
“ฉันเริ่มเรื่องเลยนะคะ...” ทรายเกริ่นนำประเด็นที่จะกล่าวถึง เสมือนกับให้อีกฝ่ายเตรียมตั้งหลัก... ก่อนจะผงะหงายไม่เป็นท่า!
 
“ดีค่ะ อ้อมค้อมไปก็เสียเวลาเปล่า คุณกับฉันต่างมีธุระ...”
 
ทรายหัวเราะเสียงต่ำลึก บาดอารมณ์คนฟังยิ่งนัก
 
“คุณลมเคยเป็นสามีดิฉัน!”
 
ผู้ฟังขบริมฝีปากแน่น พยายามซ่อนริ้วรอยโทสะได้อย่างมิดแม้น
 
“เรอะคะ? ไม่ว่าอดีตพี่ลมจะเคยเป็นของใคร ฉันไม่สน... แต่ปัจจุบันพี่ลมเป็นสามีดิฉัน... สามีที่ดีเสียด้วย...”
 
“รู้สึกว่าคุณจะมั่นใจเหลือเกินนะคะ”
 
“แน่ล่ะ ฉันรู้จักเค้าดี”
 
“แล้วคุณรู้หรือเปล่า ว่าเค้าเป็น...”
 
ทันทีที่สดับวลีที่หลุดออกจากริมฝีปากอีกฝ่าย ดาวอยากจะลุกหนีไปให้ไกลแสนไกล... หากก็คล้ายถูกตรอกตรึงมิให้เขยื้อนตามดำกฤษณา เพราะเสียงของหญิงสาวผู้นั้นก้องอยู่ในหัวหล่อนตลอด กระทั่งต้องยกมือขึ้นกุมศีรษะแน่น
 
...คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณลมเป็นเอดส์!...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา