Angelics War นาย...อยากจะทำแบบนี้จริงๆเหรอ
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.20 น.
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 12.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) จนกว่าจะถึงวันนั้น (มีสปอยล์ตอนจบนะ!)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"พวกเธอคิดดีแล้วจริงๆเหรอ...เรื่องนั้นน่ะ"
เสียงซุบซิบของสาวน้อยสามคนดังขึ้นมาจากรอบโต๊ะไม้อัดสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังถูกใช้งานอยู่ในช่วงเวลานั้น ในตอนนี้ได้กลายมาเป็นสถานที่ประชุมส่วนบุคคลของเหล่าseiriทั้งสามคนที่ทำการยึดอำนาจจากมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของบ้านในระหว่างที่เขาคนนั้นกำลังเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขที่เข้ามาหลังจากเหตุร้าย"ที่ตัวเขาเองเป็นผู้ก่อขึ้น"ไปโดยปริยาย ทั้งนี้หัวข้อในการถกเถียงในครั้งนี้ก็คือ...
"มันก็แน่นอนอยู่แล้ว..! เธอไม่สังเกตเลยเหรอว่าพักหลังๆมานี่เจ้าหนุ่มนั่นไม่ได้ชายตามองพวกเราเลยสักนิดเดียว ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องนั้นเมื่อ2เดือนก่อนนั่นแหละ!"
ในขณะที่สถานการณ์รอบด้านเริ่มจะกดดันมากขึ้นเรื่อยๆเพราะสายตาส่อแวว"ปัญญาอ่อน"ของฮิโรมิและโยโซระที่ถูกส่งออกมาตลอดเวลาปกคลุมบรรยากาศทั่วห้องนั้นจนทำให้มิคาสะถึงกับถอนหายใจออกมาเสียงดังฟังชัด แต่ภายในความไร้สาระของสิ่งที่หลุดออกมาจากความคิดที่แสนจะไร้สาระยิ่งกว่าของฮิโรมินั้นก็มีบางสิ่งเข้าไปกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นในใจของอควารอยด์ตัวตัดบทจนเห็นพ้องตามเพื่อนของเธอทีละน้อย...
"ถ้างั้นต้องเริ่มแผนการจู่โจมกันแล้วล่ะ!!"
ถึงจะไม่ค่อยชอบวิธีการของยัยบ้าทั้งสองคนนั่นสักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นมิคาสะก็ยอมที่จะรับฟังและปฏิบัติตามแต่โดยดี เพราะเธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอะไรที่เปลี่ยนแปลงฮิซาชิของพวกเธอไปได้มากถึงขนาดนี้...
"เอาล่ะ! ตามแผนการ...มิคาสะไปก่อนเลย!" อ้าวเฮ้ย!! ไหงโยนก้อนอุจาร่วงมาทางนี้ฟะ!!
"รุ่นพี่ฮิซาชิ!" ปฏิบัติการทลายกำแพงคนโสด...เริ่มได้!!
"อะไรล่ะ! ยัยบ้า!!" และฮิซาชิก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยซักนิด... T^T'
"เอ่อ...คือแบบว่า... เดี๋ยวเราไปเที่ยวทะเล...กันไหมคะ!"
"อะไรฟะ! แค่ตอนนั้นยังโกลาหลกันไม่พออีกเหรอ เธอจะพาฉันไปเหนื่อยอีกแล้วใช่ไหม!!"
โอ้ย..! อย่างนายตอนนี้ไม่มีทางเหนื่อยอยู่แล้วล่ะ...
เอ๋! เดี๋ยวก่อน... เมื่อกี้นายบอกว่า"เหนื่อย"ใช่ไหม...
"นาย...ยังจำได้งั้นเหรอ..."
"เออ!! ตอนนั้นพวกเธอพาฉันเหนื่อยสุดๆเลย! จะให้ฉันไปดูแลร้านนั่นอีกแล้วล่ะสิ!!"
นายยังจำเรื่องเมื่อสองปีก่อนได้งั้นเหรอ... นายรู้ไหมว่านายกำลังทำให้ฉัน...
"มีเรื่องพูดแค่นี้ใช่ไหม... งั้นฉันไปก่อนล่ะ!"
อือ... ไปดีมาดี-- เดี๋ยวก่อนสิ!! แล้วแผนการทั้งหมดจะให้ฉันทำยังไง!!
เมื่อเห็นว่าบทบรรยายข้างบนที่ผ่านมานั้นเริ่มจะคล้ายกับนิยายรักมือใหม่เข้ามาทุกที มิคาสะก็รีบวิ่งเข้าไปเกาะแขนเด็กหนุ่มคนนั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว... แล้วแผนการที่ว่านั่นมันเกี่ยวข้องกับฮิซาชิยังไงเหรอ!?
"มิคาสะ... รอพรุ่งนี้ค่อยไปไม่ได้เหรอ... นี่มันจะเย็นแล้วนะ"
"ไม่ได้ค่ะ! ยังไงนายก็ต้องไปกับฉันตอนนี้! เวลานี้ด้วย!!"
มิคาสะกางปีกออกทันทีก่อนจะออกบินล่วงหน้าไปด้วยความเร็วสูงสุดจนเธอลืมดูไปเลยว่าในตอนนั้นพวกเธอกำลังอยู่ในสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ฮิซาชิไม่มีทางอื่นนอกจากจะตามเธอไปเรียกค่าเสียหายในการซ่อมหลังคาบ้านและพื้นชั้นสองที่ถูกทะลวงเป็นรูโหว่กว้าง...
ซึ่งก็เข้าทางseiriอีกสองคนที่กำลังจับตาดูพวกเขาคุยกันตั้งแต่เมื่อครู่นี้พอดี
การเดินทางนั้นใช้เวลานานกว่าที่คิด เนื่องจากมิคาสะที่รู้สึกตัวว่ามีคนไล่ตามมานั้นเริ่มแวะลงข้างทางเพื่อหาอะไรกินให้เต็มที่ก่อน เพราะเธออาจไม่ได้กินอีกต่อไปแล้วก็ได้...
และแล้วแผนการที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างในความนึกคิดอันเกินกว่าที่มนุษย์อย่างฮิซาชิจะหยั่งถึงได้ของอควารอยด์นั้นก็เริ่มต้นขึ้นทันทีที่มิคาสะพาฮิซาชิไปยังสถานที่แห่งความหลังเมื่อครั้งที่พวกเธอได้พบกับยูนะและมิรันเป็นครั้งแรก
แน่นอนว่าสำหรับฮิซาชิแล้ว...มันเป็นครั้งที่สอง!
"เธอพาฉันมาที่นี่ทำไม..."
"ฮิซาชิ... นายยังจำที่นี่ได้หรือเปล่า..."
มิคาสะเอ่ยออกมาเป็นครั้งแรกในขณะที่กำลังยืนหันหลังให้กับเด็กหนุ่มคู่สนทนาของเธอหลังจากที่ใช้พลังเสียงกว่าครึ่งไปกับการผลาญแหล่งพลังชีวิตของทั้งเธอ,เด็กหนุ่มที่ยอมให้เธออาศัยอยู่ด้วยรวมทั้งเหล่าเพื่อนสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์นาม"seiri"ไปจนเกลี้ยงหลอด
ซึ่งสถานที่ที่มิคาสะนำทางฮิซาชิมาก็คือ...หน้าผาที่พวกเธอเจอกับมิรันเป็นครั้งแรกเมื่อสองปีก่อนนั่นเอง!
"ตอนนั้นฉันกระตือรือร้นชวนนายออกนอกทางไปหาอะไรกินกัน... ตอนนั้นที่พวกเราได้เจอกับยูนะและพี่มิรันเป็นครั้งแรก... นายจำได้หรือเปล่า..."
ฮิซาชิเริ่มสังเกตได้ถึงสิ่งที่แปลกไปในตัวของเธอ เสียงของมิคาสะแผ่วลงและสั่นเครือ เหมือนกับเธอกำลัง...
"เอาน่าๆ ฉันยังจำได้อยู่ ตอนนั้นพวกเธอพาฉันมาที่นี่แล้วอธิษฐานตามความชอบของแต่ละคน เพราะงั้น...อย่าร้องไห้เลย"
ไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ มิคาสะก็หันกลับมาถามคำถามที่ทำให้เขาอึ้งไปพักนึง
"ฮิซาชิ... สำหรับนายแล้ว... ฉันน่ารักหรือเปล่า..."
ฮิซาชิตะลึงกับคำถามนั้นของเธอ แต่ที่ทำให้เขาอึ้งไปเลยก็คือ... ในดวงตาสีน้ำเงินที่สะท้อนประกายแสงสีส้มของอาทิตย์อัสดงด้านหน้านั้นมีน้ำใสๆไหลรินออกมาไม่ขาดสาย จนเด็กหนุ่มต้องพิจารณาตัวเองว่าเขาเผลอไปทำอะไรให้เพื่อนสาวของเขาเจ็บปวดหรือเปล่า!?
ซึ่งมันก็มีมากมายเหลือเกิน!!
"เอ่อ... อย่าร้อง---"
"ฉันถามนายอยู่นะ... ตอบฉันสิ"
มิคาสะเร่งรบเร้าคำตอบจากปากที่ปิดสนิทของฮิซาชิอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ฮิซาชิต้องตอบไปอย่างช่วยไม่ได้
"เออ! เธอน่ารัก น่ารักมากเลยล่ะ!!"
ฮิซาชิเดินเข้าไปโอบกอดเธอเอาไว้ แต่ทันทีที่มือของเขาสัมผัสที่ต้นคอของมิคาสะ เธอก็ทรุดลงไปกับพื้น
"นี่! เป็นอะไรหรือเปล่า มิคาสะ!!"
.
.
.
"ฮิซาชิคุง... นายพอจะรู้สึกได้หรือเปล่า!? ทุกๆการกระทำของฉัน...วิวัฒนาการจากความรัก...ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวฉันมาก..แล้วก็..คำพูดนั้น!"
"เพราะฉันคือ...เพียงคนเดียวของเธอ น่ะเหรอ!?"
มิคาสะหน้าแดงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ข้อความที่ถูกเซ็นเซอร์ไปนั้นไม่น่าจะเป็นสิ่งอื่นใดไปได้นอกจากคำๆนั้นแท้ๆ ดูยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายสำหรับคนที่ได้รู้จักกับ"ความรัก"แล้วไม่ใช่เหรอ!?
"นายยังจำได้สินะ...แล้วนายอยากจะรู้หรือเปล่าว่าคำๆนั้น...มันคืออะไร"
อควารอยด์สาวอมยิ้มเล็กน้อย ถึงแม้ว่าในตอนนี้ร่างกายของเธอจะมีอายุที่มากกว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆเธอแล้วก็ตาม...แต่ในอีกสองปีต่อจากนี้ ทุกสิ่งที่ประกอบเป็นเรื่องราวต่างๆนี้จะกลับมาสลับกันอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
"เออ... ฉันไม่อยากรู้หรอก... ก็มันเป็นสิ่งที่เธอต้องบอกกับฉันด้วยปากของตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่ฉันสมควรจะถามหรอก!"
ว่าแล้วเด็กหนุ่มคนนั้นก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่คิดที่จะหันกลับมารำลึกความหลังเมื่อสองปีก่อนกับสาวน้อยผู้แสนน่ารักเลยแม้แต่ครั้งเดียว อาจเป็นเพราะ...ทุกๆเสี้ยววินาทีของเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกจดจำเอาไว้ภายใต้เซลล์สมองทั้งแสนล้านชิ้นของเขาแล้วก็ได้
ฮิซาชิเดินจากไปทั้งรอยยิ้ม ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นเอง...มิคาสะที่ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังที่เริ่มมีกล้ามขึ้นมาแล้วของเด็กหนุ่มก็พูดอะไรบางอย่างออกมาเบาๆ เป็นคำพูดที่ไม่มีวันถูกส่งไปถึงฮิซาชิอย่างแน่นอน
"ถึงนายจะไม่รักฉัน...ถึงในหัวใจของนายจะไม่มีฉันอยู่เลย... ฉันก็จะรักนาย...จะปกป้องนายด้วยพลังทั้งหมดที่ฉันมี..."
"จริงไหม... สิ่งที่ฉันพูดออกมานั่นมีอะไรที่ต่างไปจากเธอหรือเปล่า..." มิคาสะเผยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะ...
"ชิบุกิ!?"
.
.
.
"ฮิซาชิ!! ถ้านายไม่รีบตื่นเดี๋ยวก็ได้ไปเรียนสายกันพอดี!!!"
สิ้นเสียงตะโกนของสาวน้อยหน้าใสที่ยอมรับความปรารถนาส่วนลึกในใจของเธอที่ดังกังวาลขึ้นไป ฮิซาชิก้าวลงบันไดมาอย่างงัวเงียหลังได้ยินเสียงตะโกนของโยโซระ ทั้งๆที่เมื่อคืนพวกเธอเองที่ชวนเขาอยู่เล่นเกมจนดึกเกินไปจนร่างกายของมนุษย์ทั่วไปไม่มีทางที่จะแบกสังขารลุกขึ้นมาจากที่นอนอันแสนสบายหลังจากที่โน้มตัวลงไปได้เป็นเวลา"10นาที"ได้แน่ๆ...
"ข้าวเช้าส่วนของนายเสร็จแล้วล่ะ! รีบๆกินแล้วไปมหา'ลัยซะล่ะ!!"
เสียงใสๆของสาวน้อยอีกคนดังขึ้นมาในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังดันตัวเองลุกขึ้นมาจากท่านอนแปลกๆหลังจากโชว์ฝีเท้าเทพในการลงบันไดโดยใช้ทักษะการกลิ้งลงมาแทนการเดิน ซึ่งในตอนนั้นมีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังไม่ได้ยัดอะไรใส่เข้าไปในช่องท้องอันว่างเปล่านอกจากน้ำเปล่าที่ไหลออกมาจากปากของเขาเอง...
"แล้วก็อย่าทำตัวเอ๋อล่ะ! เดี๋ยวว่าที่ภรรยาของนายจะเสียใจเอานะ!! ว่าแต่ฉันเองก็เหมือนกันนี่นา..."
สุดเสียงของสาวน้อยผมแดงอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งสองคนที่พูดออกมาก่อนหน้านี้ได้ทำให้ชายหนุ่มที่ไว้ผมทรงกระเซิงเป็นผีซาดาโกะเวอร์ชั่นผู้ชายผมยาวเท่าต้นคอถึงกับพ่นน้ำออกจากช่องปากเป็นสายรุ้งสวยงามในทันที
"หนวกหูน่า... ว่าแต่ทำไมseiriอย่างพวกเธอถึงไม่มีการนอนหลับพักผ่อนแบบสิ่งมีชีวิตอื่นๆบ้างนะ! ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปฉันคงได้ตายแน่ๆ...เพราะยัยฮิโรมิกับโยโซระนั่นแหละ!!"
"นายเป็นคนเปลี่ยนชีวิตของพวกเราให้ได้มาเดินบนเส้นทางที่ควรจะเป็นใช่ไหม... ถ้างั้นนายก็คงพร้อมที่จะแบกรับสิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นแล้วสินะ เจ้าหนุ่มน้อย...นายรู้บ้างหรือเปล่าว่ามีผู้หญิงแอบชอบนายอยู่ตั้งเท่าไหร่!? 20..!? 30..!? มากกว่านั้นอีกนะ"
ตายโหง!! ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ละก็ปล่อยให้โลกมันล่มสลายไปต่อหน้าต่อตายังจะดีซะกว่า!! ว่าแต่แบบนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ... แล้วว่าแต่ยัยผู้หญิงผมฟ้านี่พูดบ้าอะไรของเธอ เดี๋ยวจับประจานชื่อเล่นมันตรงนี้ซะหรอก!!
"ถ้านายจะเอ้อระเหยอยู่แบบนี้... นายจะให้ฉันควงแขนนายไปไหมล่ะ!"
เสียงอันแสนสดใสนี้ทำให้เขาหยุดกินทันที สาวน้อยผมน้ำเงินอีกคนหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม พร้อมกันนั้นก็มีผู้หญิงผมฟ้าอีกคนหนึ่งสาวเท้าเข้ามาเกาะแขนอีกข้างของฮิซาชิเอาไว้เหมือนกับจะประกาศศึกกับseiriที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างนั้นแหละ...
และแน่นอนว่าทั้งสองคนก็เขม่นใส่กันอย่างไม่มีใครยอมกัน
"เธอจะเล่นอะไรของเธองั้นเหรอ... อยากเจอ'พลาสม่า แสลชเชอร์'ของฉันขนาดนั้นเลยเหรอ หืมม์!?"
"ประโยคนั้นควรจะเป็นของฉันมากกว่านะ... แค่เธอวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายระหว่างต่อสู้อย่ามาท้าฉันเลย... หรือว่าอยากเจอท่า'Supremacy Inferno'ของฉันขนาดนั้นเลยเหรอ!?"
"ก็ไม่เห็นจะแคร์! เพราะยังไงฉันก็มีโอกาสแก้ตัวอีกเยอะ... เพราะไม่ว่ายังไงเจ้าหนุ่มนี่ก็ต้องเลือกฉันอยู่แล้ว! ว่าแต่ฉันได้ยินมาจากฮิซาชิคุงนี่ว่าเธอเคยเรียกฉันว่า'พี่สาว'มาก่อนไม่ใช่เหรอ!?"
สาวน้อยสองคนที่แย่งกันเกาะแขนของชายหนุ่มที่พวกเธอติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่เอาไว้ส่งสายตาเขม่นพร้อมกับเอ่ยวาจาข่มกันและกันอย่างลืมความสัมพันธ์เมื่อครั้งก่อนไปจนหมด เพราะในตอนนี้ทุกสิ่งที่ผ่านมานั้น"ไม่มีค่าอะไรเลย!!"
"ยัยพวกบ้า!! เจ้าหนุ่มยังไม่ได้เลือกใครสักหน่อย..! อย่าทำได้ใจไปนัก!!"
สาวน้อยผู้ไม่ใช่มนุษย์ทั้ง5คนที่ยังคงอยู่เฝ้าบ้านทำได้เพียงมองดูทั้งคู่เดินออกไปอย่างเจ็บใจ แต่ถึงยังไงทั้งสองคนนั้นก็ไม่มีวันทำอะไรเลินเล่อเกินเลยไปกว่าความสัมพันธ์ที่พวกเขามีให้กันเมื่อล่าสุดอยู่แล้ว... เพราะสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ ยัยสาวน้อยผมฟ้าที่ยืนเกาะแกะอยู่ข้างๆ
"ไม่ล่ะ! เพราะเธอไม่ใช่แฟนฉัน และฉันก็ไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ที่พวกเรามีด้วย..."
เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มที่พยายามทำหูทวนลมในสิ่งที่มิคาสะและseiriอีกคนหนึ่งกระทำดังนั้น สาวน้อยผมน้ำเงินก็เผยยิ้มออกมา แน่นอนว่าตลอดระยะเวลา8ปีที่ผ่านมา...
ตลอดเวลาที่พวกเขาทั้งสองได้พบกับเหล่าผู้ที่เรียกตัวเองว่า...หรือถูกเรียกด้วยชื่อ"seiri"คนอื่นๆอีกนับสิบคน แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาจะมีทั้งคราบน้ำตาหรือหยาดโลหิตที่ส่งกลิ่นคละคลุ้งอบอวลตลอดมา ความผูกพันที่ฮิซาชิกับมิคาสะมีให้กันตลอดมาก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว
"อือ... แต่ถึงยังไงเราก็จะเดินไปด้วยกันอยู่ดี" ฮิซาชิเดินออกจากบ้านไปด้วยกัน ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น
"จริงไหม... มิคาสะจัง...น้องสาวที่น่ารักที่สุดของฉัน!!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ