Angelics War นาย...อยากจะทำแบบนี้จริงๆเหรอ
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.20 น.
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 12.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
27) การเติบโตขึ้นของเด็กสาว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ตูมมมม!!!!มมมม!!!!!!!!
พลังขั้นสูงสุดของมิคาสะกับอาคาริควบแน่นเข้าหากันเป็นก้อนกลมที่มีความหนาแน่นสูงมากก่อนจะมีมวลรวมสูงเกินขีดจำกัดจนระเบิดใส่สาวน้อยทั้งสองคนที่พุ่งเข้าปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บหนักเท่าๆกันทั้งสองฝ่าย
ก็ถ้าไม่นับรวมอาการบาดเจ็บของฝ่ายผู้ผดุงความยุติธรรมที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ละก็นะ...
"ฉันก็บอกเธอแล้วไง...ว่าอควารอยด์อ่อนแออย่างเธอน่ะเอาชนะฉันไม่ได้หรอก!"
มิคาสะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทำไมแขนขวาของเธอถึงขยับไม่ค่อยได้ ซึ่งเธอเพิ่งจะมารู้หลังจากการปะทะกันเมื่อครู่นี้เอง...
เส้นใยกล้ามเนื้อแขนขวาของเธอยังไม่สมานตัวดีตั้งแต่การต่อสู้กับโยโซระเมื่อสองปีก่อน ส่วนกระดูกแขนก็ร้าวมาตั้งแต่การปะทะหมัดระหว่างเธอกับฮิซาชิ แล้วยิ่งเอามารวมกับการที่เส้นเอ็นยึดกระดูกแขนของเธอถูกการโจมตีครั้งสุดท้ายของฮิซาชิตัดขาดเมื่อก่อนหน้านี้เพียงไม่ถึงชั่วโมง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้แรงระเบิดเมื่อสักครู่นี้ส่งผลทำให้แขนขวาของเธอ...
ขาดกระเด็น!!!!!!
"มิคาสะ!!!!"
โยโซระกับฮิโรมิทำอะไรไม่ถูกหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของมิคาสะหลังจากที่เกิดระเบิดขึ้น แขนขวาเรียวสีขาวออกเหลืองๆของเธอในตอนนี้กลายเป็นเศษชิ้นเนื้อเละๆไปพร้อมกับแรงระเบิดนั้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าปัญหานั้นถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับseiriอย่างพวกเธอ สิ่งที่ทำให้เหล่าseiriทั้งสองรวมทั้งฮิซาชิตกใจนั้นเนื่องจากปริมาณเลือดที่ไหลออกมานั้นมากพอที่จะทำให้คนๆนั้นช็อกเสียชีวิตคาที่ไปแล้ว
"ทั้งที่ฉันบอกให้เธอกลับไปรักษาตัวก่อนแล้วแท้ๆนะ... ชอบทำอะไรเกินตัวอยู่เรื่อย!"
ทั้งๆที่มิคาสะได้รับบาดเจ็บจากการสูญเสียแขนไปทั้งลำจนไม่สามารถค้ำยันร่างกายให้ยืนอยู่ด้วยขาทั้งสองข้างแล้ว อาคาริก็กลับมาเป็นฝ่ายบุกเข้าหาเธออีกครั้งหนึ่งทั้งที่เคยสงบลงไปแล้วด้วยฝีมือของฮิซาชิที่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เธอสำนึกในสิ่งที่ก่อเอาไว้ได้แล้ว
ทั้งอย่างนั้นความปรารถนาจะแก้แค้นของอควารอยด์ที่หมายจะล้างเลือดของseiriสามคนที่กระเด็นเปรอะมือของอาคาริได้ไปกระตุ้นจิตใจที่อยากจะต่อสู้ของเธอจนตื่นขึ้นมา คราวนี้วิธีเดียวที่จะยับยั้งอาคาริให้สงบลงได้มีเพียงต้องฆ่าเธอทิ้งเท่านั้น...
ว่าแต่จะทำได้ยังไงล่ะ..!?
"หยุดได้แล้ว!! อาคาริ!!!"
ในระหว่างที่สาวน้อยชาวมนุษย์กำลังพุ่งเข้าหมายจะปลิดลมหายใจที่เหลืออยู่เพียงรวยรินของอควารอยด์ที่ล้มลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้นนั้น เด็กหนุ่มที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดมาตั้งแต่แรกก็เข้ามาขวางระหว่างพวกเธอทั้งสองคนพร้อมทั้งแลกหมัดปัดป้องซึ่งกันและกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งฮิซาชินั้นไม่ต้องการที่จะทำร้ายอาคาริมากนัก จึงทำให้การต่อสู้นั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก
"ทำไมกันล่ะ..!! ทำไมนายถึงต้องแบกรับความขมขื่นนี้เอาไว้คนเดียว!!! หยุดได้แล้วววว!!!!!"
seiriอีกสองคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักแต่ยังสามารถเข้าไปแทรกการต่อสู้ได้เมื่อได้เห็นสิ่งที่เด็กหนุ่มที่อ่อนโยนมากต้องกลั้นใจทำในสิ่งที่เขาไม่ได้ต้องการให้มันเหลือทางเลือกนี้เพียงตัวเดียวก็รีบบินออกไปขัดทัพนั้นทันที โดยไม่ได้สนใจในสิ่งที่ชายคนนั้นได้เตือนพวกเธอเอาไว้ตั้งแต่แรกเลยสักนิดเดียว
และเมื่อฮิซาชิเห็นว่าเพื่อนๆของเขาทั้งสองคนได้เลือกที่จะทำในสิ่งที่พวกเธอตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำโดยไม่เสียดายชีวิต เขาก็เริ่มที่จะผ่อนแรงลงให้ทั้งสองคนนั้นได้รู้สึกถึงความห่างชั้นของพลังระหว่างseiriกับอาคาริ ซึ่งนั่นเป็นจุดประสงค์เดียวที่เขาตั้งใจจะให้มันดำเนินไปได้ตั้งแต่ตอนที่เขาคุยกันบนดาดฟ้ากับอาคาริตามลำพังสองคน...
"เพื่อให้เหล่าseiriเก่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อรับศึกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้!!"
ถึงแม้ว่าการต่อสู้แบบสองต่อหนึ่งนั้นจะเป็นยุทธวิธีที่ได้ผลสัมฤทธิ์ดีมากในการต่อสู้ตบตีทั้งสำหรับชายและหญิง ถึงอย่างนั้นกลวิธีนี้กลับไม่สามารถสร้างความได้เปรียบเชิงยุทธภูมิอะไรในการต่อสู้กับอาคาริเลยแม้แต่นิดเดียว
เนื่องจากอาคารินั้นแข็งแกร่งกว่าโยโซระมากทำให้การโจมตีระยะกลางของเธอไม่สามารถสร้างความเจ็บปวดที่รุนแรงพอให้ฮิโรมิเข้ามาซ้ำได้ และเพราะฮิโรมิไม่มีอาวุธโจมตีในระยะกลางหรือไกลเลยแม้แต่อย่างเดียว ต่อให้เร่งพลังดาบคริสซาโอร์ให้มันขยายขอบเขตโจมตีให้มากขึ้น... การที่จะลงดาบเดียวให้โดนเป้าหมายขนาดเล็กที่เคลื่อนที่ในทิสทางต่างๆได้อย่างอิสระในระยะห่างเกินกว่า20เมตรนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆเลย
"เมื่อกี้การเคลื่อนที่อิริยาบทของเธอยังเฉียบคมอยู่เลยไม่ใช่เหรอ... แล้วทำไมตอนนี้ถึงช้าลงๆทีละนิดล่ะ! หือ..!?"
"หนวกหูจริง!! แทนที่จะมาว่ากันอย่างนี้...ทำไมเธอไม่เข้ามาให้ฉันฟันถึงที่เองล่ะ!! แบบนั้นมันง่ายกว่ามั้ย!!!"
แต่ถึงฮิโรมิจะตะโกนโต้ตอบคำพูดออกแนวกวนประสาทของคู่ต่อสู้ของเธอด้วยเสียงเชิงประชดออกไป อาคาริก็ไม่มีทีท่าว่าจะบุกเข้ามาหาเธอเลยแม้แต่นิดเดียว โยโซระจึงคิดจะช่วยยิงกระสุนเพลิงดำใส่คู่ต่อสู้ขิงพวกเธอหมายจะล่อเธอให้เข้ามาในรัศมีฟันของคริสซาโอร์ได้พอดี
และแน่นอนว่าอาคารินั้นก็ติดกับของเธอเข้าไปเต็มๆ...
"ทีนี้เธอก็ทำได้แค่บินไปตามทางที่ฉันขีดเอาไว้เท่านั้นแล้วล่ะนะ!!"
โยโซระกระหน่ำสาดกระสุนเพลิงดำใส่อาคาริอย่างต่อเนื่องโดยจะเน้นไปทางด้านข้างของเป้าหมาย เพื่อให้เธอไม่สามารถที่จะเบี่ยงเส้นทางออกไปจากแนวบินตรงได้ ซึ่งฮิโรมิก็ได้เข้ามาคอยท่าอยู่ที่ปลายทางนั้นแล้ว ฮิโรมิก็จัดการเงื้อดาบขึ้นเหนือศีรษะก่อนที่จะเร่งพลังของมันขึ้นสูงกว่าเดิมที่เคยทำมาเพื่อปิดบัญชีแค้นให้เหล่าเพื่อนของเธอที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับความแค้นที่ก่อร่างฝังลึกในจิตใจของมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเธอในทันที
ในจังหวะที่พลังของเธอพุ่งขึ้นสูงสุด ฮิโรมิก็เป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปหาอาคาริที่กำลังถูกโยโซระจำกัดทิศทางการบินเข้ามาหาเธอด้วยความเร็วที่สูงมากจนสามารถเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายที่อยู่ห่างออกไปเกือบร้อยเมตรได้ในเวลาเพียง2วินาที...
"ไปตายซะ...!!!!!!!!!"
ทันทีที่ทั้งสองคนกำลังจะเข้าปะทะกันอยู่นั้นเอง ฮิโรมิก็กุมดาบในมือขวาของเธอแน่นเป็นสัญญาณพร้อมจะฟันผ่าร่างนิ่มๆของสาวน้อยที่ฆ่าเพื่อนสนิทของเธอไปต่อหน้าต่อตาได้ทุกเมื่อ และในตอนนั้นเอง...
กลับมีรอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันขาวนวลของฝ่ายที่รับการโจมตีอย่างเรียบเนียนราวกับจะเยาะเย้ยกัน!
"โยโซระจัง เธออยากจะช่วยเพื่อนงั้นสินะ... งั้นเธอจะทำร้ายเพื่อนของตัวเองได้ลงคอเชียวเหรอ!?"
ในชั่วพริบตาที่ดาบของฮิโรมิจะสัมผัสร่างของเธอนั้น อาคาริสามารถยกมือขึ้นมาหยุดแขนของเธอได้อย่างง่ายดายทำให้ดาบสุดท้ายนั้นไม่สามารถฟันโดนตัวของเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าห่างไปไม่ถึงเมตรได้ พร้อมกันนั้น...ฮิโรมิกลับรู้สึกได้ว่าร่างของเธอกำลังจะถูกจับเหวี่ยงออกไป
"รีบหนีออกมา...ฮิโรมิ!!!!"
โยโซระรีบตะโกนให้สาวน้อยผมแดงเบี่ยงตัวออกมาจากแนวการยิงลูกเพลิงดำ แต่ก็ไม่ทัน... อาคาริสามารถจับแขนของเธอเหวี่ยงออกไปกลางฝนกระสุนเพลิงดำของโยโซระจนได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง เพราะถึงแม้ว่าโยโซระจะหยุดสาดกระสุนในทันทีที่อ่านเกมออกแล้วก็ตาม... ฝนกระสุนที่ยังไปไม่ถึงตัวเป้าหมายก็ยังคงพุ่งต่อไปอย่างไม่ลดละโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่มันจะเข้าจู่โจมนั้นจะเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า...
"ฮิโรมิ!!!!"
"เธอยังมีเวลามาเป็นห่วงคนอื่นอีกเหรอ... ยัยแองเจลอยด์ตัวน้อย!?"
ในขณะที่โยโซระกำลังอึ้งกับสิ่งที่เธอทำลงไปเมื่อครู่นี้อยู่นั้น อาคาริก็เข้ามาอยู่ข้างหลังเธออย่างไม่รอช้าพร้อมทั้งชาร์จพลังเตรียมยิงลำแสงเพลิงใส่เธออีกรอบ คราวนี้โยโซระรู้แล้วว่าเอจิสของเธอไม่สามารถใช้ป้องกันมันได้... เธอจึงรีบบินหลบการโจมตีนั้นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะสามารถทำได้
ซึ่งในกรณีอย่างนี้ ผู้ที่สามารถบินบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระโดยไม่จำเป็นต้องใช้ปีกจะสามารถทำได้คล่องกว่าเป็นไหนๆ...
"เธอคิดว่าจะหนีฉันพ้นหรือไง... ยัยแองเจลอยด์ตัวน้อย!"
เป็นอีกครั้งที่อาคาริทำให้เธอประหลาดใจ เธอไม่ได้สนใจที่จะใช้ลำแสงเพลิงในการสังหารโยโซระตั้งแต่แรกแล้ว อาคาริไล่ตามหลังโยโซระมาด้วยความเร็วที่สูงมากโดยในมือไม่มีลูกพลังสีส้มอยู่เลย แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรต่อ แองเจลอยด์ตัวน้อยก็ถูกหมัดขวาของมนุษย์เสยเข้าไปเต็มๆหน้าจนร่วงลงมายังพื้นดินด้วยความเร็วที่สูงยิ่งกว่าตอนที่ใช้หลบซะอีก
"ทำไมยัยนี่ถึงแข็งแกร่งขนาดนี้..."
โยโซระบ่นกับตัวเองก่อนที่จะหลับตารับความเจ็บปวดที่จะตามมา...
"ยัยบ้านี่!!!!!!"
ครืดดด...ดดดด!!!
มิคาสะพุ่งเข้ามารับเธอที่ตกลงมาด้วยความเร็วที่สูงมาก ทำให้ทั้งสองคนไถลไปหลายสิบเมตร... หลังจากที่การไถลหยุดลง โยโซระก็แหงนหน้าขึ้นมองเธอ แววตาของมิคาสะไร้ซึ่งความกลัวต่อสิ่งใดๆแม้แต่ความตายที่กำลังคืบคลาบเข้ามาใกล้ ในขณะนี้ร่างกายเธอเริ่มออกอาการซีดจากเลือดที่ไหลออกมาอีกครั้ง แม้ว่าจะห้ามเลือดจนหยุดไปแล้วก็ตาม
"มิ..."
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!!"
หลังจากที่ได้พักเหนื่อยในอ้อมแขนของมิคาสะที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวจนพอสมควรแล้ว โยโซระก็กวาดสายตามองหาฮิโรมิที่ตกลงมาจากท้องฟ้าก่อนหน้าเธออย่างไม่เป็นห่วงคอของตัวเองเลย จนไปพบสาวน้อยคนนั้นกำลังนอนหมดสติอยู่บนท่อนขาของฮิซาชิที่เข้าไปรับเธอตอนตกลงมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในขณะที่เธอกำลังมองเขาอยู่นั้นก็ได้รับการรักษาเบื้องต้นด้วยระบบฟื้นฟูร่างกายของมิคาสะที่เปิดขึ้นมาได้เล็กน้อย
ในระหว่างนั้นกลับมีสิ่งหนึ่งค่อยๆไหลออกมาจากร่างของโยโซระทำให้ปริมาณน้ำในร่างกายของเธอค่อยๆลดลงไปทีละนิด... เจ้าสิ่งนั้นไม่ใช่ของเหลวสีแดงสดแต่อย่างใด
"เพราะฉันคนเดียว... เพราะฉันอ่อนแอเกินไป...ทุกคนถึงต้องมาตาย เพราะฉันมันไร้พลัง...พวกเธอถึงต้องมาเจ็บปวดขนาดนี้ ฉันอยากจะให้ความรักกับทุกๆคน... ทั้งๆที่ฮิซาชิก็เคยบอกเอาไว้แล้วว่าความรักไม่ใช่ความเจ็บปวด แบบนี้มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเมื่อตอนนั้นเลยไม่ใช่เหรอ!!"
โยโซระร้องไห้ออกมา ในใจของเธอตอนนี้คงกำลังโทษตัวเองอยู่แน่ มิคาสะจึงได้แต่มองเธอด้วยสายตาที่บอบช้ำ
"เมื่อก่อนฉันก็เคยเป็นแบบเธอนี่แหละ..." มิคาสะพูดออกมาทั้งน้ำตา "เมื่อก่อนฉันน่ะอ่อนแอมาก ฉันเคยได้แต่ปล่อยให้พี่สาวฉันต้องตาย...และยังช่วยอะไรใครไม่ได้ด้วย... ถึงตอนนี้ถึงฉันจะแข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว มันก็ยังเป็นแบบเดิม... ฉันกลับไม่สามารถช่วยใครได้ทั้งนั้น... แม้แต่น้องสาวคนเดียวของฉันก็ตาม..."
"แต่ว่านะ! จะมัวมาโทษตัวเองอยู่ทำไม ในเมื่อตรงหน้าเราก็ยังมีคนที่เรารัก...และคนที่รักเราอยู่ แทนที่จะเอาเวลามาเสียใจเรื่องนั้น... สู้เอาเวลาตรงนั้นมาช่วยเหลือคนที่ยังมีชีวิตอยู่จะดีซะกว่า!!"
คำพูดของมิคาสะแทงเข้าไปในใจของเธอเต็มๆ นั่นสินะ! เราจะเอาเวลามาย้อนนึกถึงเรื่องนั้นทำไม ในเมื่อเรายังต้องช่วยคนที่ยังอยู่ให้รอดซะก่อน...
หลังจากที่มิคาสะใช้พลังรักษาร่างกายที่บาดเจ็บหนักของโยโซระจนพอจะยืนขึ้นได้แล้ว ตอนนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ฮิโรมิฟื้นขึ้นมาจากอาการหมดสติพอดี โยโซระจึงเดินเข้าไปหาสองคนที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้นด้วยฝีเท้าที่ช้ามาก ก่อนจะทรุดตัวลงไปกับพื้นด้วยเรี่ยวแรงที่แทบจะไม่มีเหลือ...
"ขอโทษด้วยจริงๆนะ... เพราะฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอบาดเจ็บขนาดไหน ฉันเลยทำร้ายเธอในตอนนั้น...ยกโทษให้ฉันด้วยนะ!..."
โยโซระพูดได้เพียงเท่านี้ก่อนที่ต่อมน้ำตาของเธอจะฉีกขาดจนมีน้ำตาพรั่งพรูออกมาอาบแก้มบางๆของเธอเต็มไปหมด ทั้งอย่างนั้นเด็กน้อยคนนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีแขนของใครคนหนึ่งเข้ามาโอบกอดร่างของเธอเอาไว้โดยไม่สนใจเลยว่าในตอนนี้บนร่างกายของเธอจะมีน้ำตาหรือรอยเลือดเปรอะอยู่เต็มไปหมด...
"อย่าไปใส่ใจเลย... แค่ฉันเห็นเธอยังมีชีวิตอยู่ก็ดีใจแล้วล่ะ..!"
"ตะ..แต่ว่า..!"
"ฉันสัญญากับยูนะเอาไว้ว่าจะเอาหัวใจของเจ้าหนุ่มคนนี้มาไว้ในครอบครอง แต่ว่า...ฉันก็อยากให้เธอได้มีความสุขกับเจ้าหนุ่มคนนี้ด้วยเหมือนกัน ต่อให้ใครจะมองว่าพวกเราง่ายหรืออะไรก็ตาม... สิ่งที่เจ้าหนุ่มคนนี้ทำเพื่อพวกเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผู้ชายคนเดียวที่ทำให้ผู้หญิงหกคนมีความสุขได้โดยไม่เจาะจงใครคนใดคนหนึ่งหรือคิดสกปรกกับพวกเราน่ะ...หายากนะ"
"ฉันอยากจะให้เธอ...รวมทั้งมิคาสะด้วย ฉันอยากจะให้พวกเราได้มีความสุขกับฮิซาชิคุงด้วยกัน ไปเดท...ไปเที่ยวสวนสัตว์...ไปทำอะไรหลายๆอย่างที่คนรักเขาจะทำให้กันโดยไม่สนว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน ฉันต้องการแค่นั้นจริงๆ!"
สิ่งที่ฮิโรมิพูดออกมานั้นได้สร้างความงุนงงให้กับโยโซระเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่เมื่อพวกเธอปรึกษากันในวันก่อนที่มิคาสะจะได้รับคำประกาศสงครามจากพวกฮิซาชินั้น เธอคิดเพียงแค่ว่าจะเอาเด็กหนุ่มคนนั้นเอาไว้ในครอบครองเพียงคนเดียว แม้แต่ตอนนี้เองก็ด้วย... ทั้งอย่างนั้น!!
"ทำไมล่ะ..!? ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น... ฉันน่ะเคยคิดอยากจะเอาฮิซาชิมาในครอบครองคนเดียว... เธอเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ!"
"ฉันน่ะเหรอ... ฉันคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้พวกเราได้มีความสุขกับเขา...โดยไม่ต้องทะเลาะแย่งชิงกัน อยากจะมีเด็กเป็นครึ่งมนุษย์-seiriกับฮิซาชิ ฉันเองก็อยากจะเห็นเด็กของเธอกับฮิซาชิเหมือนกันนะ ถ้าคนแม่น่ารักขนาดนี้...คนลูกจะน่ารักขนาดไหนนะ!"
ต่างกันเลย... ฮิโรมิไม่ได้คิดจะเอาฮิซาชิมาเป็นของตัวเองเลย เธอคิดเพียงจะมอบความสุขที่เธอได้รับให้คนอื่นรู้สึกด้วยเท่านั้น ทั้งๆที่รักฮิซาชิเหมือนกัน...ทำไมมีแต่ยัยนี่คนเดียวที่คิดต่างกันอยู่คนเดียว!?
"เข้าใจแล้วล่ะ..! พวกเราจะมีชีวิตรอดไปด้วยกัน...จะรัก...จะมีความสุขกับฮิซาชิไปด้วยกัน! มิคาสะก็ด้วยสินะ..!"
โยโซระได้รับพลังกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่งทั้งๆที่เธอใช้พลังไปหมดหลอดแล้ว ทั้งๆที่เธอไม่ได้รับพลังจากคนอื่นเข้ามาเลย... เจ้าพลังที่ได้รับมานี้เป็นสิ่งเดียวกับที่เธอเคยถามกับเด็กหนุ่มที่เธอหมายปองเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้มาแล้ว แม้จะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม...
"ฉันจะสอนให้เธอได้รู้จักกับความอบอุ่นนี้เอง เตรียมปากกากับสมุดให้พร้อมสำหรับคาบเล็กเชอร์นี้ด้วยล่ะ!!"
'โปรแกรมวิวัฒนาการ...ยูเรนัส เริ่มขั้นตอนทำงาน..!'
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ