Hexe
9.4
เขียนโดย Ejichiki
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.28 น.
5 บทที่
2 วิจารณ์
8,662 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 12.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) แม่มดผู้ยิ่งใหญ่ ( Part 1 )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ แสงไฟสีส้มสลัวจากดวงไฟดวงน้อยที่ลุกไหม้บนโต๊ะวางแจกันอันจ้อย ช่วยส่องสว่างให้ห้องที่เคยมืดทึมกลับมามองเห็นภายในได้ชัดถนัดตา ห้องแคบๆที่ประดับไปด้วยหนังสือเล่มน้อยใหญ่เรียงสลับกันไปตามชั้นหนังสือทั้งสี่ทิศตามกำแพงห้อง อีกทั้งยังมีบางเล่มถูกทิ้งให้วางระเกะระกะกระจายเกลื่อนไปทั่วห้อง ราวกับห้องทั้งห้องถูกทำให้กลายเป็นกองขยะหนังสือก็ไม่ปาน ...หากแต่
ในกองหนังสือกลับไม่ได้มีเพียงหนังสือเพียงเท่านั้น
หนังสือเล่มใหญ่สีดำคล้ายความมืดภายในห้องถูกเปิดออกทีละหน้าอย่างเชื่องช้า เก้าอี้โยกเก่าแก่รูปแบบคลาสสิกโยกคลอนเคลื่อนไหวสอดคล้องกับหน้าหนังสือที่ถูกเปิด หญิงสาวผู้มีดวงตาสีครามกำลังนั่งนิ่งอ่านหนังสือเล่มนั้นอยู่อย่างสงบ ไม่มีใครทราบว่าเธอเป็นใครหรือมาอยู่ที่นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และตัวหญิงสาวเองก็ไม่ได้สนใจสิ่งนั้นด้วย
เพราะตอนนี้ !!
เธอสนใจแค่สิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือมากกว่า
***********************************************
ชายป่ากาลาเทม ดินแดนพันธะสัญญาของแม่มด
กาลาเทม ดินแดนที่ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งพันธะสัญญาของเหล่าแม่มดในอดีต แม้กาลเวลาจะผ่านเนินนานเพียงใด ความเคารพนับถือต่อดินแดนที่เหล่าวีรชนผู้กล้าเหล่านั้นทอดกายฝังร่างเพื่อปกป้องดินแดนนี้ยังคงติดตรึงดวงใจเหล่าแม่มดรุ่นหลังๆไม่เสื่อมคลาย หากแต่บัดนี้ วินาทีนี้ ชายป่าด้านตะวันออกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กลับลุกไหม้โชติช่วงจากเปลวเพลิงแดงฉานด้วยฝีมือหญิงสาวเพียงหนึ่งคน
เปลวเพลิงแดงฉานลุกไหม้จากมือของหญิงสาว ก่อนมันจะลุกลามใหญ่โตเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นวงแหวนเพลิง พุ่งเข้าเผาไหม้ชายป่าด้านหน้า เพื่อช่วยเปลวไฟที่ไหม้อยู่แล้ว ให้โหมแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
" รู้สึกไม่ดีเลย ที่ต้องมาเผาทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือของตัวเองแบบนี้ "
หญิงสาวเอ่ยขึ้นเบาๆราวกับพูดกับตัวเอง
" อืม เราก็คิดเช่นท่านเหมือนกัน "
เสียงหญิงสาวอีกคนดังก้องขึ้นมา แต่หญิงสาวคนแรกกลับไม่รู้สึกตกใจหรือแตกตื่นอะไร ซึ่งนั่นคงเป็นเพราะเธอรู้ดีอยู่แล้ว ว่าหญิงสาวคนนี้จะต้องโผล่มาไม่ช้าก็เร็ว
ใช่ !? เพราะแผนการมันถูกวางไว้แบบนั้นนี่นา
ขนนกสีดำจำนวนมากปรากฏขึ้นบนอากาศรอบๆบริเวณนั้น ก่อนจะร่างหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงอย่างแผ่วเบา ร่างของหญิงสาวผู้สวมอาภรณ์สีดำทั้งร่างปรากฏแก่สายตาหญิงสาวผู้มีเปลวเพลิงอยู่ในมือ ดวงตาเศร้าสร้อยของเธอจับจ้องไปยังชายป่าที่ถูกทำลายไปด้วยเปลวเพลิงร้อนแรง เธอถอดหมวกทรงสูงของตนลงมาทาบไว้กับอกแทนคำขอโทษและไว้อาลัยกับการกระทำนี้ครู่หนึ่ง ก่อนที่ร่างหญิงสาวอีก 4-5 คนจะปรากฏตัวตามมาจากขนนกสีดำที่ร่วงหล่นเหมือนเศษเถ้าภูเขาไฟที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
" ท่านกิลเกียนู "
หญิงสาวผู้ถูกเรียกว่ากิลเกียนูเงยหน้ามองหญิงสาวคนแรก เธอจัดแจงสวมหมวกของตนแล้วพยักหน้าให้หญิงสาวผู้นั้น
เปรี๊ยะ!?
สะเก็ดไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วบริเวณรอบด้าน กิลเกียนูคว้าเอาขนนกสีดำขนหนึ่งที่ลอยคว้างอยู่ในอากาศไว้ในกำมือ เธอหลับตาพร้อมร่ายคาถาบางอย่างออกมา ก่อนจะกางมือออก ปล่อยให้ขนนกล่องลอยไปตามกระแสลม
หญิงสาวทั้งหมดจ้องมองขนนกที่กิลเกียนูปล่อยไปอันนั้นเขม็ง พวกเธอทั้งหมดต่างรู้ดีถึงสิ่งที่กิลเกียนูกำลังทำ ขนนกของกิลเกียนูยังคงล่องลอยต่อไปเรื่อยๆ แต่น่าแปลกที่การเคลื่อนไหวของมันกลับดูผิดธรรมชาติไปหน่อย เพราะการเคลื่อนไหวของมันนั้น ราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่
และเมื่อขนนกหยุดเคลื่อนไหว
วูมมมม!!
โพรงอากาศขนาดใหญ่ถูกเปิดออกโดยมีขนนกนั้นเป็นศูนย์กลาง เผยให้เห็นผืนป่าเขียวชอุ่มร่มรื่นดูมีมนต์ขลังสะกดความรู้สึกผู้พบเห็น ต่างกับป่าด้านนอกที่กำลังลุกไหม้ด้วยเพลิงกาฬ
" นี่สินะ ป่าศักดิ์สิทธิ์กาลาเทม "
" ใช่ นั่นคือกาลาเทมดินแดงแห่งพันธะสัญญา พวกท่านจงระวังตัวให้มาก ด้านในนั้นเต็มไปด้วยอันตรายที่เหล่าวีรชนแม่มดผู้กล้าในอดีตร่ายมนต์กำกับไว้เพื่อปกป้องคุ้มครอง พวกท่านต้องดุแลกันและกันให้ดี ส่วนเราจะปกป้องพวกท่านอยู่ตรงนี้ เราจะไม่ยอมให้ผู้ใดผ่านประตูนี้เข้าไปเด็ดขาด "
กิลเกียนูกล่าวหนักแน่น สีหน้าเธอเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนหากกลับแฝงไว้ด้วยความอาลัยเศร้า
หญิงสาวคนอื่นๆต่างโค้งให้กับกิลเกียนูด้วยความเคารพ ก่อนจะทยอยเข้าไปในป่ากาลาเทมจนหมดทุกคน เหลือไว้เพียงกิลเกียนูและหญิงสาวคนแรกที่ยังคงยืนอยู่ด้านนอก ไม่ได้เข้าไปตามคนอื่นๆ เธอยังคงยืนมองกิลเกียนูอยู่อย่างงั้น
" เพื่อแสงสว่างแด่เหล่าพี่น้อง ขอให้ท่านนำมันกลับไปให้ได้นะ "
" อืม !! "
หญิงสาวรับปากกิลเกียนู เธอก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในประตู เธอเหลือบมองกิลเกียนูอีกครั้ง
" รักษาตัวด้วย แล้วพบกันที่รันเทสต้า "
แล้วหญิงสาวผู้นั้นก็พลันหายตามกลุ่มคนอื่นๆที่เข้าไปก่อนหน้า กิลเกียนูทำได้เพียงส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้นั้น ก่อนประตูที่เธอเปิดไว้จะปิดลง เธอไม่อาจตอบรับคำขอสุดท้ายของหญิงสาวได้ เพราะคำว่า แล้วพบกันที่รันเทสต้านั้น มันหมายถึงเธอต้องมีชีวิตรอดกลับไปเท่านั้น
และมัน...
คงเป็นอะไรที่ยากมากเมื่อต้องเจอกับหญิงสาวสองคนนี้
ร่างของหญิงสาวผู้สวมชุดสุภาพสตรีชั้นสูงยุโรปปรากฏขึ้นต่อหน้ากิลเกียนู สองหญิงสาวผู้มีอาภรณ์ขาวและแดงเป็นจุดเด่น ก้าวเข้าหาเธอด้วยมาดมั่น แม้จะดูเชื่องช้าไม่รีบร้อนแต่กลับมั่นคงดั่งหินผา รูปร่างหน้าตาล้วนงดงามหมดจดแม้จะไม่เลิศเลอแต่สำหรับสายตาของกิลเกียนูแล้วนั้น ทั้งคู่กลับดูดียิ่งกว่ามวลผกาแมกไม้หรือจันทร์นวลที่สาดส่องอวดโฉมยามค่ำคืนเสียอีก อีกทั้งท่าทีลักษณะองอาจที่หญิงสาวทั้งสองแสดงออกมาให้เห็นมันทำให้เธอยิ้มน้อยๆออกมาได้
( ก็ต้องบอกว่าสมกับชื่อผู้กล้าล่ะนะ )
กิลเกียนูเพียงแค่คิดในใจ ดวงตาเธอจังจับจ้องหญิงสาวทั้งสองไม่วางตา แล้วเมื่อหญิงสาวทั้งสองเข้ามาใกล้ในระยะที่พอเพียง
.
.
เธอทั้งคู่ก็คุกเข่าลงไป !??
" ยินดีที่พบท่านค่ะ ท่านกิลเกียนู ข้าเชอร์วูด ส่วนนั่นเซราฟีม พวกเราศรัทธาตัวท่านมานานแล้ว " หญิงสาวในชุดขาวแนะนำตัวกับกิลเกียนู พร้อมๆกับแนะนำหญิงสาวอีกคนไปด้วยกัน
" ลุกขึ้นเถอะพี่น้องของเรา ท่านทำให้เราลำบากใจ "
กิลเกียนูพยายามขอให้ทั้งคู่ลุกขึ้น แต่ทั้งคู่กลับยืนกรานว่าจะขอคุกเข่าอย่างงี้จนการเจรจาจะเสร็จสิ้น แล้วจนแล้วจนรอด กิลเกียนูก็ไม่สามารถทำให้หญิงสาวสองคนนี้ใจอ่อนได้ เธอจึงไม่เซ้าซี้ทั้งคู่อีก แล้วบทสนทนาของทั้งสามก็เริ่มขึ้น เชอร์วูดทำสีหน้าจริงจังมากขึ้น ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากถามกิลเกียนู
" หากเราทั้งสองจะขอให้ท่านผู้เลิศล้ำหลีกทางให้ ท่านจะเห็นเป็นเช่นไร? "
น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นราบเรียบและเคารพคู่สนทนาอย่างกิลเกียนูด้วยใจจริง แต่ก็แฝงไว้ด้วยความแข็งกร้าวด้วยเช่นกัน
" เราทำแบบนั้นไม่ได้ แม้เราจะชื่นชมท่านทั้งสองแค่ไหน แต่ที่เรายืนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อการนั้น หากท่านทั้งสองยืนยันจะเข้าไปให้ได้ ก็ต้องผ่านเราให้ได้เท่านั้น "
" ข้าขอถาม ทำไมแม่มดผู้ยิ่งใหญ่เช่นท่านผู้คอยส่งวิญญาณเหล่าแม่มดสู่แดนสวรรค์ ถึงได้เข้ากับแม่มดฝ่ายเหนือ ด้วยฐานะของท่าน สมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะอยู่ตรงกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด แล้วทำไม.. "
บรรยากาศรอบด้านสงบลงทันทีเมื่อเชอร์วูดพูดจบ เปลวเพลิงยังคงลุกไหม้โหมกระหน่ำอยู่ สายลมยังคงพัดแรงหมุนวนไปทั่ว เศษเถ้าหรือใบไม้ที่กำลังลุกไหม้เองก็ยังคงล่องลอยไปตามสายลม หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับสงบราบเรียบเป็นธรรมชาติอย่างน่าแปลก กิลเกียนูทำเพียงยิ้มและส่งสายตาเศร้าสร้อยให้กับหญิงสาวทั้งสองคนด้านหน้า
" เราน่ะ!? เห็นความตายมามากนัก "
" ไม่ว่าจะเป็นแม่มดระดับไหน ขั้นอะไร สุดท้ายสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงขนนกสีดำที่ให้ไว้แทนค่าจ้าง ความยิ่งใหญ่ และรอยยิ้มที่ตราตรึงความทรงจำ เราไม่อยากให้สิ่งนั้นเป็นเพียงแค่ความทรงจำของเราเพียงผู้เดียว เราไม่ได้ต้องการพิธีใหญ่โตเอิกเกริกสมศักดิ์ศรี เราเพียงต้องการส่งวิญญาณเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ภายใต้แสงอาทิตย์แห่งอิสระเสรี ไม่ใช่ภายใต้เงามืดที่ต้องหลบซ่อนตามหลืบซอกประวัติศาสตร์ "
เชอร์วูดกับเซราฟีมอ้าปากเหวอเมื่อได้รับรู้ความตั้งใจจริง มันทำให้พวกเธอยิ่งศรัทธาในตัวกิลเกียนูมากขึ้นไปอีก แต่ยังไงซะ พวกเธอทั้งคู่ก็ได้รับรู้แล้ว ว่าความต้องการของกิลเกียนูกับสิ่งที่พวกเธอเชื่อมั่นนั้นสวนทางกัน
"…"
" ข้าทั้งสองเคารพการตัดสินใจของท่าน "
หญิงสาวทั้งคู่ลุกขึ้นมาหลังจากนั่งคุกเข่าอยู่นาน บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง อักษรโน๊ตดนตรีสีแดงปรากฏขึ้นไปทั่วบริเวณ พร้อมๆกันกับโซ่สีขาวที่ถูกลากจากโพรงอากาศโพรงหนึ่งสู่โพรงอากาศอีกโพรงหนึ่ง ซึ่งปรากฏขึ้นมามากมาย
" สุดท้ายนี้ข้าขอถาม "
" หากการต่อสู้นี้พวกเราพลาดทุกสิ่งคงไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่หากท่านพลาดพลั้งจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราเหล่าแม่มด "
" เมื่อถึงเวลานั้น ผู้สืบทอดนาม [ ปีกผู้วายชนม์ ] จะปรากฏตัว ขอให้พวกท่านพานางไปยังตะวันออก นั่นคือคำขอจากเรา "
เชอร์วูดกับเซราฟีมโค้งเล็กน้อยเป็นการแสดงออกว่ายอมรับในคำขอนั้น กิลเกียนูยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่
พลัน !!
ขนนกสีดำทมิฬก็ร่วงหล่นลงมากจากฟากฟ้า อีกทั้งยังครอบคลุมไปทั่วบริเวณราวกับจะยื้อแย่งพื้นที่กับโน๊ตเพลงสีแดงและโซ่สีขาวที่ปรากฏขึ้นมาก่อนหน้า มันเริ่มมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะถมพื้นดินให้ท่วมเต็มด้วยสีดำของมัน และยังคงร่วงหล่นต่อไปเหมือนหิมะร่วงพรู
" ...ปีกผู้วายชนม์ !! ระวังตัวด้วย เชอร์วูด ถ้าสัมผัสขนนกพวกนี้มากๆวิญญาณจะถูกชำระล้างสู่สวรรค์ "
เซราฟีมเอ่ยปากเตือนเชอร์วูด จากที่เคยเงียบนิ่งเป็นผู้เฝ้าดูอยู่นาน เชอร์วูดพยักหน้ารับว่าเข้าใจสิ่งที่เซราฟีมบอก แต่เธอกลับไม่มีอาการใดๆมากไปกว่ายืนประจันหน้ากับกิลเกียนู แม่มดผู้ยิ่งใหญ่ผู้คอยชี้นำทางวิญญาณสู่สวรรค์ เชอร์วูดเอื้อมมือสัมผัสขนนกสีดำที่กำลังร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าเบาๆ แม้จะเพียงเล็กน้อยของส่วนสัมผัส แต่เธอกลับรู้สึกได้ชัดเจน ถึงอณูวิญญาณที่สลายไปทันทีเมื่อสัมผัสมัน
" แม่มดขั้นเหนือขอบเขต ..เชอร์วูด !! "
" แม่มดผู้สูงส่ง เซราฟีม !? "
" แม่มดเหนือระดับ กิลเกียนู "
ทั้งสามประกาศชื่อของตนให้กันและกันได้รับรู้ ก่อนเปลวเพลิงที่ลุกไหม้จะโหมกระหน่ำบ้าคลั่งราวกับเย้ยหยันการต่อสู้ของแม่มดทั้งสาม ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวินาทีถัดมา
ในกองหนังสือกลับไม่ได้มีเพียงหนังสือเพียงเท่านั้น
หนังสือเล่มใหญ่สีดำคล้ายความมืดภายในห้องถูกเปิดออกทีละหน้าอย่างเชื่องช้า เก้าอี้โยกเก่าแก่รูปแบบคลาสสิกโยกคลอนเคลื่อนไหวสอดคล้องกับหน้าหนังสือที่ถูกเปิด หญิงสาวผู้มีดวงตาสีครามกำลังนั่งนิ่งอ่านหนังสือเล่มนั้นอยู่อย่างสงบ ไม่มีใครทราบว่าเธอเป็นใครหรือมาอยู่ที่นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และตัวหญิงสาวเองก็ไม่ได้สนใจสิ่งนั้นด้วย
เพราะตอนนี้ !!
เธอสนใจแค่สิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือมากกว่า
***********************************************
ชายป่ากาลาเทม ดินแดนพันธะสัญญาของแม่มด
กาลาเทม ดินแดนที่ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งพันธะสัญญาของเหล่าแม่มดในอดีต แม้กาลเวลาจะผ่านเนินนานเพียงใด ความเคารพนับถือต่อดินแดนที่เหล่าวีรชนผู้กล้าเหล่านั้นทอดกายฝังร่างเพื่อปกป้องดินแดนนี้ยังคงติดตรึงดวงใจเหล่าแม่มดรุ่นหลังๆไม่เสื่อมคลาย หากแต่บัดนี้ วินาทีนี้ ชายป่าด้านตะวันออกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กลับลุกไหม้โชติช่วงจากเปลวเพลิงแดงฉานด้วยฝีมือหญิงสาวเพียงหนึ่งคน
เปลวเพลิงแดงฉานลุกไหม้จากมือของหญิงสาว ก่อนมันจะลุกลามใหญ่โตเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นวงแหวนเพลิง พุ่งเข้าเผาไหม้ชายป่าด้านหน้า เพื่อช่วยเปลวไฟที่ไหม้อยู่แล้ว ให้โหมแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
" รู้สึกไม่ดีเลย ที่ต้องมาเผาทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือของตัวเองแบบนี้ "
หญิงสาวเอ่ยขึ้นเบาๆราวกับพูดกับตัวเอง
" อืม เราก็คิดเช่นท่านเหมือนกัน "
เสียงหญิงสาวอีกคนดังก้องขึ้นมา แต่หญิงสาวคนแรกกลับไม่รู้สึกตกใจหรือแตกตื่นอะไร ซึ่งนั่นคงเป็นเพราะเธอรู้ดีอยู่แล้ว ว่าหญิงสาวคนนี้จะต้องโผล่มาไม่ช้าก็เร็ว
ใช่ !? เพราะแผนการมันถูกวางไว้แบบนั้นนี่นา
ขนนกสีดำจำนวนมากปรากฏขึ้นบนอากาศรอบๆบริเวณนั้น ก่อนจะร่างหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงอย่างแผ่วเบา ร่างของหญิงสาวผู้สวมอาภรณ์สีดำทั้งร่างปรากฏแก่สายตาหญิงสาวผู้มีเปลวเพลิงอยู่ในมือ ดวงตาเศร้าสร้อยของเธอจับจ้องไปยังชายป่าที่ถูกทำลายไปด้วยเปลวเพลิงร้อนแรง เธอถอดหมวกทรงสูงของตนลงมาทาบไว้กับอกแทนคำขอโทษและไว้อาลัยกับการกระทำนี้ครู่หนึ่ง ก่อนที่ร่างหญิงสาวอีก 4-5 คนจะปรากฏตัวตามมาจากขนนกสีดำที่ร่วงหล่นเหมือนเศษเถ้าภูเขาไฟที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
" ท่านกิลเกียนู "
หญิงสาวผู้ถูกเรียกว่ากิลเกียนูเงยหน้ามองหญิงสาวคนแรก เธอจัดแจงสวมหมวกของตนแล้วพยักหน้าให้หญิงสาวผู้นั้น
เปรี๊ยะ!?
สะเก็ดไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วบริเวณรอบด้าน กิลเกียนูคว้าเอาขนนกสีดำขนหนึ่งที่ลอยคว้างอยู่ในอากาศไว้ในกำมือ เธอหลับตาพร้อมร่ายคาถาบางอย่างออกมา ก่อนจะกางมือออก ปล่อยให้ขนนกล่องลอยไปตามกระแสลม
หญิงสาวทั้งหมดจ้องมองขนนกที่กิลเกียนูปล่อยไปอันนั้นเขม็ง พวกเธอทั้งหมดต่างรู้ดีถึงสิ่งที่กิลเกียนูกำลังทำ ขนนกของกิลเกียนูยังคงล่องลอยต่อไปเรื่อยๆ แต่น่าแปลกที่การเคลื่อนไหวของมันกลับดูผิดธรรมชาติไปหน่อย เพราะการเคลื่อนไหวของมันนั้น ราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่
และเมื่อขนนกหยุดเคลื่อนไหว
วูมมมม!!
โพรงอากาศขนาดใหญ่ถูกเปิดออกโดยมีขนนกนั้นเป็นศูนย์กลาง เผยให้เห็นผืนป่าเขียวชอุ่มร่มรื่นดูมีมนต์ขลังสะกดความรู้สึกผู้พบเห็น ต่างกับป่าด้านนอกที่กำลังลุกไหม้ด้วยเพลิงกาฬ
" นี่สินะ ป่าศักดิ์สิทธิ์กาลาเทม "
" ใช่ นั่นคือกาลาเทมดินแดงแห่งพันธะสัญญา พวกท่านจงระวังตัวให้มาก ด้านในนั้นเต็มไปด้วยอันตรายที่เหล่าวีรชนแม่มดผู้กล้าในอดีตร่ายมนต์กำกับไว้เพื่อปกป้องคุ้มครอง พวกท่านต้องดุแลกันและกันให้ดี ส่วนเราจะปกป้องพวกท่านอยู่ตรงนี้ เราจะไม่ยอมให้ผู้ใดผ่านประตูนี้เข้าไปเด็ดขาด "
กิลเกียนูกล่าวหนักแน่น สีหน้าเธอเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนหากกลับแฝงไว้ด้วยความอาลัยเศร้า
หญิงสาวคนอื่นๆต่างโค้งให้กับกิลเกียนูด้วยความเคารพ ก่อนจะทยอยเข้าไปในป่ากาลาเทมจนหมดทุกคน เหลือไว้เพียงกิลเกียนูและหญิงสาวคนแรกที่ยังคงยืนอยู่ด้านนอก ไม่ได้เข้าไปตามคนอื่นๆ เธอยังคงยืนมองกิลเกียนูอยู่อย่างงั้น
" เพื่อแสงสว่างแด่เหล่าพี่น้อง ขอให้ท่านนำมันกลับไปให้ได้นะ "
" อืม !! "
หญิงสาวรับปากกิลเกียนู เธอก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในประตู เธอเหลือบมองกิลเกียนูอีกครั้ง
" รักษาตัวด้วย แล้วพบกันที่รันเทสต้า "
แล้วหญิงสาวผู้นั้นก็พลันหายตามกลุ่มคนอื่นๆที่เข้าไปก่อนหน้า กิลเกียนูทำได้เพียงส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้นั้น ก่อนประตูที่เธอเปิดไว้จะปิดลง เธอไม่อาจตอบรับคำขอสุดท้ายของหญิงสาวได้ เพราะคำว่า แล้วพบกันที่รันเทสต้านั้น มันหมายถึงเธอต้องมีชีวิตรอดกลับไปเท่านั้น
และมัน...
คงเป็นอะไรที่ยากมากเมื่อต้องเจอกับหญิงสาวสองคนนี้
ร่างของหญิงสาวผู้สวมชุดสุภาพสตรีชั้นสูงยุโรปปรากฏขึ้นต่อหน้ากิลเกียนู สองหญิงสาวผู้มีอาภรณ์ขาวและแดงเป็นจุดเด่น ก้าวเข้าหาเธอด้วยมาดมั่น แม้จะดูเชื่องช้าไม่รีบร้อนแต่กลับมั่นคงดั่งหินผา รูปร่างหน้าตาล้วนงดงามหมดจดแม้จะไม่เลิศเลอแต่สำหรับสายตาของกิลเกียนูแล้วนั้น ทั้งคู่กลับดูดียิ่งกว่ามวลผกาแมกไม้หรือจันทร์นวลที่สาดส่องอวดโฉมยามค่ำคืนเสียอีก อีกทั้งท่าทีลักษณะองอาจที่หญิงสาวทั้งสองแสดงออกมาให้เห็นมันทำให้เธอยิ้มน้อยๆออกมาได้
( ก็ต้องบอกว่าสมกับชื่อผู้กล้าล่ะนะ )
กิลเกียนูเพียงแค่คิดในใจ ดวงตาเธอจังจับจ้องหญิงสาวทั้งสองไม่วางตา แล้วเมื่อหญิงสาวทั้งสองเข้ามาใกล้ในระยะที่พอเพียง
.
.
เธอทั้งคู่ก็คุกเข่าลงไป !??
" ยินดีที่พบท่านค่ะ ท่านกิลเกียนู ข้าเชอร์วูด ส่วนนั่นเซราฟีม พวกเราศรัทธาตัวท่านมานานแล้ว " หญิงสาวในชุดขาวแนะนำตัวกับกิลเกียนู พร้อมๆกับแนะนำหญิงสาวอีกคนไปด้วยกัน
" ลุกขึ้นเถอะพี่น้องของเรา ท่านทำให้เราลำบากใจ "
กิลเกียนูพยายามขอให้ทั้งคู่ลุกขึ้น แต่ทั้งคู่กลับยืนกรานว่าจะขอคุกเข่าอย่างงี้จนการเจรจาจะเสร็จสิ้น แล้วจนแล้วจนรอด กิลเกียนูก็ไม่สามารถทำให้หญิงสาวสองคนนี้ใจอ่อนได้ เธอจึงไม่เซ้าซี้ทั้งคู่อีก แล้วบทสนทนาของทั้งสามก็เริ่มขึ้น เชอร์วูดทำสีหน้าจริงจังมากขึ้น ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากถามกิลเกียนู
" หากเราทั้งสองจะขอให้ท่านผู้เลิศล้ำหลีกทางให้ ท่านจะเห็นเป็นเช่นไร? "
น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นราบเรียบและเคารพคู่สนทนาอย่างกิลเกียนูด้วยใจจริง แต่ก็แฝงไว้ด้วยความแข็งกร้าวด้วยเช่นกัน
" เราทำแบบนั้นไม่ได้ แม้เราจะชื่นชมท่านทั้งสองแค่ไหน แต่ที่เรายืนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อการนั้น หากท่านทั้งสองยืนยันจะเข้าไปให้ได้ ก็ต้องผ่านเราให้ได้เท่านั้น "
" ข้าขอถาม ทำไมแม่มดผู้ยิ่งใหญ่เช่นท่านผู้คอยส่งวิญญาณเหล่าแม่มดสู่แดนสวรรค์ ถึงได้เข้ากับแม่มดฝ่ายเหนือ ด้วยฐานะของท่าน สมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะอยู่ตรงกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด แล้วทำไม.. "
บรรยากาศรอบด้านสงบลงทันทีเมื่อเชอร์วูดพูดจบ เปลวเพลิงยังคงลุกไหม้โหมกระหน่ำอยู่ สายลมยังคงพัดแรงหมุนวนไปทั่ว เศษเถ้าหรือใบไม้ที่กำลังลุกไหม้เองก็ยังคงล่องลอยไปตามสายลม หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับสงบราบเรียบเป็นธรรมชาติอย่างน่าแปลก กิลเกียนูทำเพียงยิ้มและส่งสายตาเศร้าสร้อยให้กับหญิงสาวทั้งสองคนด้านหน้า
" เราน่ะ!? เห็นความตายมามากนัก "
" ไม่ว่าจะเป็นแม่มดระดับไหน ขั้นอะไร สุดท้ายสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงขนนกสีดำที่ให้ไว้แทนค่าจ้าง ความยิ่งใหญ่ และรอยยิ้มที่ตราตรึงความทรงจำ เราไม่อยากให้สิ่งนั้นเป็นเพียงแค่ความทรงจำของเราเพียงผู้เดียว เราไม่ได้ต้องการพิธีใหญ่โตเอิกเกริกสมศักดิ์ศรี เราเพียงต้องการส่งวิญญาณเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ภายใต้แสงอาทิตย์แห่งอิสระเสรี ไม่ใช่ภายใต้เงามืดที่ต้องหลบซ่อนตามหลืบซอกประวัติศาสตร์ "
เชอร์วูดกับเซราฟีมอ้าปากเหวอเมื่อได้รับรู้ความตั้งใจจริง มันทำให้พวกเธอยิ่งศรัทธาในตัวกิลเกียนูมากขึ้นไปอีก แต่ยังไงซะ พวกเธอทั้งคู่ก็ได้รับรู้แล้ว ว่าความต้องการของกิลเกียนูกับสิ่งที่พวกเธอเชื่อมั่นนั้นสวนทางกัน
"…"
" ข้าทั้งสองเคารพการตัดสินใจของท่าน "
หญิงสาวทั้งคู่ลุกขึ้นมาหลังจากนั่งคุกเข่าอยู่นาน บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง อักษรโน๊ตดนตรีสีแดงปรากฏขึ้นไปทั่วบริเวณ พร้อมๆกันกับโซ่สีขาวที่ถูกลากจากโพรงอากาศโพรงหนึ่งสู่โพรงอากาศอีกโพรงหนึ่ง ซึ่งปรากฏขึ้นมามากมาย
" สุดท้ายนี้ข้าขอถาม "
" หากการต่อสู้นี้พวกเราพลาดทุกสิ่งคงไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่หากท่านพลาดพลั้งจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราเหล่าแม่มด "
" เมื่อถึงเวลานั้น ผู้สืบทอดนาม [ ปีกผู้วายชนม์ ] จะปรากฏตัว ขอให้พวกท่านพานางไปยังตะวันออก นั่นคือคำขอจากเรา "
เชอร์วูดกับเซราฟีมโค้งเล็กน้อยเป็นการแสดงออกว่ายอมรับในคำขอนั้น กิลเกียนูยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่
พลัน !!
ขนนกสีดำทมิฬก็ร่วงหล่นลงมากจากฟากฟ้า อีกทั้งยังครอบคลุมไปทั่วบริเวณราวกับจะยื้อแย่งพื้นที่กับโน๊ตเพลงสีแดงและโซ่สีขาวที่ปรากฏขึ้นมาก่อนหน้า มันเริ่มมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะถมพื้นดินให้ท่วมเต็มด้วยสีดำของมัน และยังคงร่วงหล่นต่อไปเหมือนหิมะร่วงพรู
" ...ปีกผู้วายชนม์ !! ระวังตัวด้วย เชอร์วูด ถ้าสัมผัสขนนกพวกนี้มากๆวิญญาณจะถูกชำระล้างสู่สวรรค์ "
เซราฟีมเอ่ยปากเตือนเชอร์วูด จากที่เคยเงียบนิ่งเป็นผู้เฝ้าดูอยู่นาน เชอร์วูดพยักหน้ารับว่าเข้าใจสิ่งที่เซราฟีมบอก แต่เธอกลับไม่มีอาการใดๆมากไปกว่ายืนประจันหน้ากับกิลเกียนู แม่มดผู้ยิ่งใหญ่ผู้คอยชี้นำทางวิญญาณสู่สวรรค์ เชอร์วูดเอื้อมมือสัมผัสขนนกสีดำที่กำลังร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าเบาๆ แม้จะเพียงเล็กน้อยของส่วนสัมผัส แต่เธอกลับรู้สึกได้ชัดเจน ถึงอณูวิญญาณที่สลายไปทันทีเมื่อสัมผัสมัน
" แม่มดขั้นเหนือขอบเขต ..เชอร์วูด !! "
" แม่มดผู้สูงส่ง เซราฟีม !? "
" แม่มดเหนือระดับ กิลเกียนู "
ทั้งสามประกาศชื่อของตนให้กันและกันได้รับรู้ ก่อนเปลวเพลิงที่ลุกไหม้จะโหมกระหน่ำบ้าคลั่งราวกับเย้ยหยันการต่อสู้ของแม่มดทั้งสาม ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวินาทีถัดมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ