The Extreme Hunter นักล่าท้าปีศาจ

6.4

เขียนโดย Flash

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.17 น.

  4 chapter
  2 วิจารณ์
  7,692 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 11.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) จุดเริ่มแห่งหายนะ Part 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

มันเป็นภาพของชายชุดดำคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้าไปในโบราณสถานกลางป่า ผ่านไปสักชั่วโมงชายคนนั้นก็ออกมาพร้อมกับบางสิ่งบางอย่าง เมื่อชายคนนั้นวิ่งออกมาถึงหน้าโบราณสถานก็พบผู้ดูแลสองคนขวางทางเขาไว้ ผู้ดูแลคนหนึ่งใส่ชุดสีขาว อีกคนหนึ่งใส่ชุดสีดำ ผู้ดูแลสีขาวเข้าไปพูดอะไรบางอย่างกับชายหนุ่มแต่รู้สึกว่าชายหนุ่มจะไม่ฟัง เขาผลักผู้ดูแลสีขาวออกก่อนที่ยิงสายฟ้าใส่ผู้ดูแลสีดำ แต่ผู้ดูแลสีดำหลบทันสายฟ้าจึงปะทะเข้ากับต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังจนล้มระเนระนาด!

ผู้ดูแลสีขาวพุ่งเข้าไปหาชายหนุ่มพร้อมกับมีดสั้นที่อยู่ในมือ เขาตวัดมีดสั้นใส่ชายหนุ่มแต่ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบทันทำให้คมมีดพลาดจากจุดตายไปโดนไหล่ขวาแทน ความเจ็บปวดจากบาดแผลนั้นทำให้ปล่อยบางสิ่งบางอย่างลงพื้น ก่อนที่จะใช้มือซ้ายกุมบาดแผล ผู้ดูแลสีดำใช้ทวนของเขากระแทกหน้าอกของชายหนุ่มจนลอยไปกระแทกต้นไม้ที่อยู่ด้านหลัง เขาพยายามดันตัวเองขึ้นแล้ววิ่งหนีไปทางป่าด้านหลัง ผู้ดูแลสีขาวล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของตัวเองก่อนที่จะหยิบวัตถุทรงกลมออกมาก่อนที่จะปามันออกไปทางที่ชายหนุ่มวิ่งหนีไป เสียงตูมดังขึ้นตามมา หลังจากจบการถ่ายทอดภาพที่ฉายก็หายไป

“มันเป็นภาพการโจรกรรมบางสิ่งบางอย่างในโบราณสถานของฟอเรสท์แอเรีย ซึ่งตอนนี้สิ่งนั้นก็คือ...” ครูซพูดก่อนที่จะกดสวิตช์อีกครั้ง

เลนส์สีแดงฉายภาพอีกครั้งแต่คราวนี้มันเป็นภาพม้วนกระดาษเก่าๆม้วนหนึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศเท่านั้น

“มันเป็นแผนที่โบราณ จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่ามันถูกสร้างขึ้นประมาณ 357 ปีก่อนและน่าจะถูกสร้างขึ้นโดยช่างทำแผนที่มืออาชีพ เนื่องรายละเอียดในแผนที่ค่อนข้างมาก...” ครูซอธิบายกำกับรูปภาพโดยคลายความเคร่งเครียดบนใบหน้าลงเล็กน้อย

“มันมีจุดหมายอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ?” ลูซถามแทรกขึ้นมาขณะที่เดินไปหยิบคุกกี้ที่ตู้หลังห้องประชุมมากินก่อนที่จะกลับมานั่งที่เก้าอี้เหมือนเดิม

“กำลังจะอธิบายอยู่นี่ไง อย่าขัดสิเว้ย!” ครูซตะโกนลั่นด้วยความโมโหก่อนที่จะหยิบมีดขนาดเล็กในกระเป๋าเสื้อของตนมาควงเล่นเหมือนกับจะบอกเป็นนัยประมาณว่า ‘ถ้าใครพูดขัดขึ้นมาอีกล่ะก็... มีดเล่มนี้จะไปปักที่หัวของคนๆนั้นทันที’

“เฮ้อ นิสัยเดิมอีกแล้ว” ราเฟลพึมพำกับตัวเองด้วยเบื่อหน่าย

ครูซยื่นมือไปทางภาพแผนที่ที่ถูกฉายขึ้นก่อนที่ดีดนิ้ว ภาพแผนที่ถูกกางออกก่อนที่จะหมุนไปรอบๆโต๊ะประชุมเพื่อให้ทุกคนได้เห็นรายละเอียด

“จากการนำภาพในแผนที่มาเปรียบเทียบกับแผนที่ของลอสท์แลนด์เมื่อประมาณ 357 ปีก่อน พบว่าสภาพพื้นที่มันใกล้เคียงกับทะเลทรายโกเบอร์ของเด็ทเซิร์ทแอเรีย จุดหมายน่าจะอยู่ที่ใดที่หนึ่งกลางทะเลทรายนั่นแหละ” ครูซอธิบายพร้อมกดสวิตช์ที่โต๊ะอีกครั้ง

ภาพแผนที่ที่ฉายหายไปแสงสีแดงก็เช่นกัน ก่อนที่เลนส์จะเรืองแสงสีน้ำเงินขึ้นมาแทน ก่อนที่แสงสีน้ำเงินนั้นจะฉายภาพกล่องกระดาษแข็งสีขาวกำลังลอยอยู่กลางอากาศก่อนที่กล่องนั้นจะถูกเคลือบด้วยสีเงินจากนั้นก็มีของตกแต่งโผล่ขึ้นมาเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย โดยรวมแล้วสิ่งนั้นดูเหมือน ‘กล่องของขวัญ’ก่อนที่กล่องที่อยู่บนอากาศจะค่อยๆลอยลงมายังพื้นโต๊ะช้าๆ

ครูซยื่นมือไปหยิบกล่องนั้นมาไว้บนมือก่อนที่จะกวาดตามองคนอื่นๆรอบๆโต๊ะ ตอนนี้สีหน้าของทุกคนนั้นคล้ายๆกันคือ อึ้ง! ตะลึง! ช็อก! อะไรประมาณนั้น แต่รู้สึกว่าจะมีคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้สักเท่าไหร่ ซึ่งคนๆนั้นก็คือ ราเฟล

 “แสงเคลื่อนย้ายงั้นเหรอ?” ราเฟลถามขึ้นพร้อมกับลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด “นายทำเสร็จเมื่อไหร่?”

“เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว แต่ยังไม่ได้นำออกมาให้ประชาชนทั่วไปใช้เพราะเรายังไม่รู้ความสามารถและขีดจำกัดของมัน แต่รู้สึกว่าจะไม่มีปัญหากับสิ่งของเล็กๆนะ” ครูซบอกพร้อมกับส่งกล่องของขวัญให้กับลูซ “นายช่วยเอาไปส่งที่นั่นทีนะ”

“ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ?” ลูซพูดสวนกลับก่อนที่จะลุกออกจากเก้าอี้ แต่เมื่อเขาเดินไปเปิดประตูเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่รั้งเขาไว้ เมื่อเขาก้มลงมองที่ลำตัวก็พบสายฟ้าสีเขียวมรกตกำลังรัดเขาอยู่ ซึ่งผู้ที่ใช้ก็คือ...

“ครูซ” ลูซเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจเล็กน้อย

“จะไปไหนเหรอ?” ครูซพูดด้วยเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ “ไม่ทำงานแบบนี้อย่างถูกตัดเงินเดือนเหรอ?”

“เฮ้ย อย่านะ!” ลูซตอบพร้อมกับยกมือห้าม “โอเค ฉันเอาไปส่งให้ก็ได้”

“ก็แค่นั้น” ครูซยื่นมือไปทางกล่องของขวัญ “Thunder lasso (บ่วงบาศอัสนี)” ครูซร่ายเวทย์ ก่อนที่สายฟ้าสีเขียวมรกตจะออกมาแล้วเชื่อมต่อกันเป็นเส้นยาวตรงปลายนั้นเชื่อมติดกันเป็นวงกลม

บ่วงบาศนั้นเข้าไปรัดกล่องของขวัญที่อยู่บนโต๊ะแล้วนำมันไปวางไว้บนมือของลูซอย่างรวดเร็ว ลูชมองกล่องของขวัญในมืออย่างไม่สบอารมณ์ เขาเปิดประตูออกก่อนที่จะร่ายเวทย์

“Fast move (เคลื่อนที่ชั่วพริบตา)” บนพื้นปรากฏวงเวทย์สีเงิน ก่อนที่แสงจากวงเวทย์นั้นจะเข้าคลุมร่างของลูซจากนั้นร่างของลูซก็หายไป พร้อมกับเสียงปิดประตูอย่างรุนแรง

ปัง!!

ที่จริงลูซไม่ได้ล่องหนหรือหายตัวไปไหนหรอก เพียงแต่เคลื่อนที่ด้วยความสูงจนตาเปล่ามองไม่ทันเท่านั้นเอง

 “มารยาททราม!” ครูซตะโกนไล่หลังลูซไป “น้องชายนายเนี่ยมันไม่มีมารยาทเลยนะ ลาสท์”

“เฮ้อ ปล่อยมันบ้างเถอะ” ลาสท์ตอบอย่างเบื่อหน่าย “แล้วเอาไงต่อ?”

“กินข้าว!!” คัลเสนอ

 “กินข้าวตอนตีสี่เนี่ยนะ?” ราเฟลถามแบบไม่ค่อยเชื่อหูตนเอง “แต่จะว่าไปก็…ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว”

“อืม งั้นก็ไปกินข้าวกันเถอะ” ครูซพูดพร้อมกับเดินออกจากห้องประชุมพร้อมกับทุกๆคน เมื่อทุกคนออกจากห้องเฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็ค่อยหายไป หลังจากที่ประตูปิดลงมันก็ค่อยๆกลืนไปกับผนัง เมื่อผ่านไปสักพักบริเวณที่เคยเป็นประตูก็กลายเป็นผนังไปเสียแล้ว!

ครูซเดินนำพวกเขาอีกสามคนเพื่อไปยังห้องๆหนึ่งที่อยู่ถัดจากบันไดวนที่ใช้สำหรับใช้ขึ้นไปด้านบน ซึ่งสร้างความประหลาดให้กับคัลนิดหน่อย

“ครูซ นายจะไปทำธุระที่ไหนก่อนเหรอ?”  คัลถามด้วยความสงสัย เพราะพวกเขานั้นเดินเลยบันไดมาแล้ว

“เปล่านี่ ก็กำลังจะขึ้นไปข้างบนไง” ครูซพูดพร้อมชี้นิ้วขึ้นด้านบน “ส่วนทำไมไม่ใช้บันไดน่ะ...เดี๋ยวพวกนายก็รู้”

 พวกเขาเดินไปที่ห้องๆนั้นเป็นประตูของห้องเป็นเหล็กกล้า ถ้าให้เดาจากสายตาคิดว่าน่าจะหนาไม่ต่ำกว่าห้านิ้ว ครูซเดินเข้าไปในห้องเป็นคนแรก ตามด้วยคนอื่นๆ ภายในห้องเป็นห้องแคบๆน่าจะจุคนได้ไม่เกินสิบคน ครูซปิดประตูห้อง

ประตูห้องค่อยๆเรืองแสงสีทอง ก่อนที่จะฉายภาพปุ่มสีทองแปดปุ่มออกมา ครูซกดปุ่มไปปุ่มหนึ่ง ภาพที่ฉายหายไป ประตูหยุดเรืองแสงแต่กลายเป็นผนังรอบๆเรืองแสงแทน และตอนนี้ห้องที่อยู่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นสู่ข้างบนด้วยความเร็วสูง!

            “ฉันถามพวกนายหน่อยเถอะ ทำไมมาช้านักล่ะ?” ครูซถามราเฟลกับลาสท์ “อย่าบอกนะว่า…ใช้บันได?”

                “ก็ใช่น่ะสิ” ราเฟลตอบอย่างเหนื่อยหน่าย “ทำไมต้องทำอะไรต้องทำอะไรให้มันยุงยากด้วย? แล้วกว่าจะมาถึงปราสาท กว่าจะผ่านด่านมาได้ กว่าจะ…”

                “เลิกพล่ามได้แล้ว” ครูซแทรกขึ้นมา ก่อนที่ราเฟลจะสาธยายความลำบากต่อ “สรุปก็คือฉันผิดใช่มั้ย?”

                “ใช่!”ราเฟลกับลาสท์ตอบพร้อมกัน

                กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!   

            เสียงสัญญาณเตือนที่ดังขึ้นบอกพวกเขาว่าถึงที่หมายแล้ว ครูซเปิดประตูออกแล้วเบื้องหน้าของพวกเราก็คือ…

                “สวนหลังปราสาทนี่” ลาสท์เอ่ยขึ้น “ซ่อนห้องลับไว้ในที่แบบนี้ มันดีแล้วแน่เหรอ?”

“คุณตาพูดเรื่องอะไรน่ะครับ?”ครูซเอ่ยถามอย่างสุภาพ “ห้องลับอะไรกัน?”

                ครูซรีบเข้าไปประคองลาสท์ที่อยู่ในคราบของชายชรา ราเฟลลองเปิดประตูห้องที่พวกเขาเพิ่งออกมาดู สิ่งแรกที่โผล่มาต้อนรับเขาก็คือ ฝุ่นโขม่งที่พุ่งออกมาจากห้อง ภายในห้องเป็นห้องเก็บของที่เก่าราวกับไม่มีคนใช้มาแล้วเป็นสิบปีไม่มีเค้าโครงของความเป็นห้องลับหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย

                ขณะที่พวกเขาทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าสู่ตัวปราสาท ครูซพูดกับลาสท์ด้วยเสียงที่ดังกว่ากระซิบเพียงเล็กน้อยว่า

                “นายอย่าเอะอะเสียงดังไป ที่นี่มีทหารเฝ้ายามอยู่เกือบทุกตารางนิ้ว แล้วก็ยังไม่มีใครรู้เรื่องห้องลับนอกจากคนที่ฉันไว้ใจจริงๆซึ่งก็คือพวกนายแล้วถ้าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไปล่ะก็…พวกเราซวยแน่ เพราะฉะนั้นเงียบเข้าไว้นะคุณตา”

                “นี่นายคิดว่าลูซจะไปถึงหรือยัง?”

                “ไม่รู้สิ”

                …

                ด้านลูซ ณ โฮลด์เดอร์ทาวน์

            ลูซเดินบนถนนจนมาถึงกลางเมือง เบื้องหน้าของเขาคือบ้านคอนกรีตสามชั้นสีขาว หน้าบ้านหลังนี้มีป้ายเขียนไว้ว่า ‘Extreme Hunter House’(เอ็กซ์ทรีม ฮันเตอร์ เฮาส์)

                ลูซเดินไปกดกริ่งที่หน้าบ้านแต่กลับไม่มีคนตอบกลับมา ลูซกดกริ่งอีกครั้งแต่ก็ไม่มีคนตอบกลับมาเหมือนเดิม      ลูซกดกริ่งรัวๆจนกริ่งแทบระเบิด ในที่สุดไฟห้องริมซ้ายสุดของชั้นที่สองของบ้านก็สว่างขึ้น ลูซอยากรู้ว่าทำไมผ่านไปตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีคนลงซักที

                “Sonic ears (สัมผัสหูขั้นสูง)” ลูซร่ายเวทย์ เกิดวงเวทย์สีเงินขึ้นที่พื้น นัยน์ตาของลูซค่อยๆเรืองแสงสีเงิน เสียงที่ลูซได้ยินค่อยๆเปลี่ยนไป จากเสียงที่แผ่วเบาเริ่มได้ยินชัดขึ้นราวกับไปอยู่ใกล้ๆ เขาได้ยินเสียงคนเดินลงบันได ก่อนที่จะมีเสียงอะไรบางอย่างกระแทกกับบันได ก่อนที่จะกระเด็นมากระแทกกับประตู

                โครม!

            ประตูถูกเปิดออกมา ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งค่อยๆเดินออกมา เขาเดินผ่านทางเดินมาจนถึงหน้าประตู ชายหนุ่มคนนั้น สูงโปร่ง มีนัยน์ตาสีฟ้าเข้ม ผมสีเทาที่ดูกระเซอะกระเซิงของเขาบอกได้เลยเขานั้นเพิ่งตื่นแน่นอน

                “มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?”ชายหนุ่มผมเทาถามด้วยเสียงงัวเงีย “มีจดหมายงั้นเหรอครับ?”

                “เปล่า” ลูซตอบเสียงเรียบ “มีคนฝากของมาให้”ลูซพูดพร้อมกับโยนกล่องสีเงินในมือให้ ชายหนุ่มผมเทารับไว้ เขามองกล่องในมืออย่างพินิจพิเคราะห์ ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยถามถึงผู้ส่งบุรุษไปรษณีย์ก็หายไปเสียแล้ว ทำให้เขาต้องกลับไปในบ้านพร้อมกับความสงสัย

                ‘ใครส่งมาวะ?’

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา