How can i say? ให้ตาย....ฉันพูดอะไรลงไป

-

เขียนโดย steponstep

วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 07.09 น.

  11 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 07.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) รัก...เศร้า....เหงา.....คอย.....

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  นานมากแล้วที่ฉันถูกมองว่าเป็นหญิงอึด ถึก และ ทน ใครจะไปรู้หล่ะว่าที่จริง ฉันอ่อนแอมากแค่ไหน มองดูบ้านก็ยังเหมือนเดิม แต่ทำไมชีวิตของฉันถึงเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันก็จะกลายเป็นแม่คนซะแล้ว หน้าที่อันยิ่งใหญ่อยู่ในมือฉันแล้ว ไม่มีทางไหนเลยที่ฉันจะมีโอกาสให้ได้ตามหารักแท้ ความรักคืออะไร ตลอดชีวิตที่ผ่านมาฉันรักใครไม่เป็น และยังไม่คิดจะเริ่มรักใครนอกจากตัวเองและแม่ รวมถึงเพื่อนที่แสนดีของฉัน นอกนั้น....หัวใจของฉันยังไม่มีที่ว่างพอจะให้ใครได้เลย แม้แต่....
       ฉันกลับถึงบ้านพร้อมแม่ก่อนที่แม่จะไปเข้าเวร มันเช้ามาก ถึงมากที่สุด โชคดีที่ฉันแขนหักข้างซ้าย ทำให้ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ หยุดงานตั้งหนึ่งวัน ฉันจะทำอะไรดี ช่วงนี้ฉันเครียดๆ คงหาอะไรแกเซ็งทำซะแล้ว ฉันค่อยๆ วทิ้งตัลงบนโซฟานุ่มๆและจ้องมองคุณหมอวัยกลางคนแสนสวยที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดของเข้าตู้เย็น ท่าทางแม่คงจะคิดว่าวันนี้ทั้งวันฉันคงอยู่แต่ในบ้าน คุณแม่วินิจฉัยผิดซะแล้ว 
       เอาไงดีนะ...จะไปช็อปปิ้งก็คงเดินจนเหนื่อยหอบและยากจนข้นแค้นในวันเดียวแน่ๆ หรือจะไปต่างจังหวัด แค่วันเดียวมันจะไปคุ้มอะไร เบื่อกับการต้องใช้ความคิดจริงๆ อ่า....คิดออกแล้ว ไปสวนสนุกดีกว่า ใช่...ฉันเครียดก็ต้องไปหาอะไรสนุกๆทำ ดี....ฉันจะสนุกให้สุดๆไปเลย ในขณะที่ฉันกำลังวางแผนหนีเที่ยวอันแยบยล แม่หันมามองหน้าฉันอย่างมีนัยบางอย่าง ก่อนจะรีบออกจากบ้านโดยเร็ว แม่คงไม่อยากให้ฉันออกไปไหนช่วงนี้ เพราะอาการป่วยของฉัน(ที่ฉันไม่คิดว่าหนักหนาอะไร) และ หลานตัวน้อยของแม่ที่อยู่ในท้องของฉัน ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ถึกทั้งแม่และลูกอยู่แล้ว ฉันมองดูเวลาที่นาฬิกา อีก 1 ชั่วโมงดรีมเวิลด์จะเปิด ยังมีเวลาให้ฉันได้ทำอะไรอีกหลายอย่าง ฉันเปิดดูข่าวตอนเช้าที่มีแต่ข่าวกีฬา ช่างน่าสลดหดหู่จริงๆ เชลซีของฉัน.....จบเถอะ
       โอ๊ะ...เสียงท้องฉันร้องดังแข่งกับเสียงทีวีที่เปิดดังสนั่น วันนี้หิวไวจังแฮะ นี่ไม่ปกติแล้วหล่ะ เวลาอาหารเช้าของฉันคือเวลาเดียวกับที่ดรีมเวิลด์เปิด แต่นี่....ต้องเป็นหลานคุณแม่แน่ๆ งอนแล้วนะ หิวแต่เช้าเลย ได้ซี่....ฉันกินให้ก็ได้ เชอะ...แต่อย่ากินมากนะ เข้าใจมั้ยเด็กน้อย..เดี๋ยวแม่เธออ้วนนะ ฉันเปิดประตูตู้เย็นแล้วคว้าเอาอาหารกล่องออกมาเข้าไมโครเวฟแบบไม่เต็มใจเท่าไรนัก
        อ่า.....อิ่มจัง แต่ให้ตายเถอะ...ฉันกินเลยไปถึงมื้อกลางวันเลยเหรอเนี่ย ฉันมองกล่องข้าวที่ไม่มีแม้แต่เม็ดข้าวเหลือเลยสักเม็ด ตั้ง 2 กล่อง วางแหม่ะ...อยู่ในถังขยะอย่างสวยงาม เฮ้อ...ฉันกินมากเกินไปแล้ว ช่างเป็นลูกที่ไม่รักแม่จริงๆ ฉันบอกแล้วนะว่าอย่ากินเยอะๆ แต่ไม่เป็นไร ไหนๆก็จะถึงเวลาย่อยแล้ว.....
      .......................................................................................
      "จอดตรงนี้แหละค่ะ" ฉันบอกกับคนขับแท็กซี่ ฉันมาก่อนเวลาดรีมเวิลด์เปิดประมาณห้านาที เหมือนเป็นการมาเพื่อลำลึกความหลังยังไงยังงั้น ตอนเด็กๆที่นี่คือสวนสนุกในความฝันของฉันและของเด็กอีกหลายๆคน ฉันชอบที่นี่ ถึงแม้จะไม่อลังการเท่ากับสวนสนุกที่ต่างประเทศ  แต่มันก็เต็มไปด้วยควมทรงจำดีๆ คงจะดีที่สุดของวัยเด็กของฉันด้วย
      เย้....ฉันได้ตั๋วมาแล้ว รวมเครื่องเล่นทุกชนิด จะรอช้าอยู่ทำไม่หล่ะ..ไอ..ได้เวลาสนุกกันแล้ว...ลุยเลย 
     ฉันจะเริ่มด้วยอะไรก่อนดีนะ ไหนดูในตั๋วซิ
     เฮริเคน....น่าสน เก็บไว้ท้าย
     ซุปเปอร์สแปรส...ไว้ก่อนสุดท้ายละกัน
     ไวกิ้ง...ไม่พลาดแน่นอน
     รถบั๊ม....เอ่อ...ไม่เอาดีกว่า ชนกันแรงแบบนั้น ฉันตกเลือดแน่ๆ
     รถไฟเหาะ....คงไหวอยู่
     ติ๊ด.....ติ๊ด.......
     เสียงอะไร อ้อ...โทรศัพท์มือถือที่พึ่งเปลี่ยนเสียงของฉันนี่เอง ใครโทร.มานะ ผิดเวลาจริงๆ ฉันเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วคว้าเอาโทรศัพท์ขึ้นมารับสายโดยที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่กระดาษ
     "ฮัลโหล"
     "...."
     "ฮัลโหล นั่นใครคะ"
     "ฉันเอง(บาร์) เธอยอมคุยกับฉันแล้วหรอ ดีใจจัง เอ่อ....ฉันขอโทษ ฉัน....."
     "นายอย่าสาธยายให้มากเลย มีอะไร ว่ามา..." นายทำลายเช้าวันใหม่ของฉันนะ แค่ได้ยินเสียงของเขาก็หมดสนุกแล้ว
     "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน อยากพาเธอไปทานข้าว เผื่อเราจะได้คุยอะไรกันบ้าง นานแล้ว....เอ่อ เอ่อ ฉันคิดถึงเธอจัง ไม่ได้คุยกันนานเลย เธอว่ามั้ย แค่...อยากปรับความเข้าใจหน่ะ" ฉันคงพูดแรงไป เสียงของเขาดูเศร้าขึ้นมาทันที
     "ไปกินข้าวหน่ะได้...แต่ตอนนี้คงยังไม่ได้ ฉันไม่ว่าง ที่สำคัญ จำไว้นะ นายไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่เห็นต้องปรับความเข้าใจอะไรกันเลยหนิ เพียงแค่ขอเวลาให้ฉันค่อยๆ ปรับตัวเท่านั้นพอ ซักวัน...ฉันจะคุยกับนายแล้วมองหน้านายได้เหมือนเดิม เชื่อฉันสิแต่แค่ให้เวลาหน่อยเท่านั้นเอง"
     "ดีใจจัง..ที่ได้ยินแบบนี้ จะให้ฉันไปรับที่ไหนดี"
     "ดรีมเวิลด์"
     "ยัยติ๊งต๊อง...เธอไปทำอะไรที่นั่นหน่ะ" เขาตะโกนใส่ฉันผ่านโทรศัพท์ทันที
     "อย่าตะโกนได้มั้ย พูดดีๆก็ได้ หูจะหนวกอยู่แล้ว ฉันมาคลายเครียดเท่านั้นแหล่ะ" ฉันตอบแบบที่เรียกทองไม่รู้ร้อน
     "คิดจะเล่นเครื่องเล่นอะไรอยู่...." เขายังตะโกนใส่ฉันอยู่ดี ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง ห๊ะ....
     "อย่างฉัน..คงเล่นรถคุณปู่หล่ะมั้ง" ฉันพูดประชด
     "ชักไม่ตลกแล้วสิ....ฉันรู้ว่าเธอต้องอยากจะเล่นอะไรที่หวาดเสียว แต่เธอไม่ได้มีแค่คนเดียวแล้วนะ"บาร์...นายบ้าชัดๆ โวยวาย น่ารำคาญที่สุด
      "ลูกฉันอดทนอยู่แล้ว" ฉันตอบกลับบ้าง
      "ฉันรู้...แต่นั่นเป็นลูกของเรา...ด้วยโปรด...ดูแลเขาหน่อยสิ ถึงเธอจะยังไม่รักเขา แต่ฉันรักแล้วนะ" 
      พูดแบบนี้ได้ไง...ไม่ได้รักเหรอ...ดีใจด้วยนะที่พ่อของเขารักเขาแล้ว เชอะ..จะมากไปแล้วนะ ก็ใช่..แต่นี่มันลูกของฉัน อยู่ในตัวของฉัน ฉันดูแลได้น่า ทำไมต้องมาสั่งนู่นนี่ ความผิดของนายไม่ใช่หรอ ถ้างั้นฉันจะแสดงความรักในแบบของฉันให้ดู
      "ฉันจะไปเล่นไวกิ้งแล้วนะ...บาย"
      "ไม่ได้นะ เธอไม่ได้เล่นมุกใช่มั้ย "เสียงของเขาเงียบลงทันที
      "ไม่..ไม่ได้เล่น " ฉันพูดจริง
      "เธอนี่ไม่รู้จักโตเลยจริงๆ" เขาหัวเสีย
      "อย่ามาสั่งได้มั้ย นายผิดเองนะ" เขาเงียบไปทันที  ก่อนจะเริ่มต้นพูดอีกครั้ง......
      "ฉันจะตามเธอไปเดี๋ยวนี่แหละ"
..................................................................................
      ฉันตัดสายทิ้ง แล้วรีบเดินไปที่เรือไวกิ้งทันที ฉันไม่สนว่าเขาจะตามฉันมาจริงหรือไม่ นั่นไม่สำคัญแล้ว ว๊าว..โชคดีชะมัดที่แถวไม่ยาวมาก 
      โอ๊ย...ฝรั่งที่อยู่ข้างหน้าฉันสองคน กระแทกมาที่ฉันเข้าอย่างจัง 
       "oh....sorry are you ok"
       "don' t worry" ฉันตอบ โดยที่ในใจก็ไม่พอใจเท่าไหร่นัก อะไรกัน ที่ก็แคบ ยังจะมาเล่นกันอีก แถมยังชนมาฉันด้วย ฉันท้องอยู่นะ ถ้าลูกฉันเป็นอะไรขึ้นมาหล่ะก็....โอ๊ะ...นี่...อะไร กัน ความรู้สึกเมื่อกี๊ ฉันเป็นห่วงลูกเหรอ ฉันเริ่มมีความรู้สึกของคนเป็นแม่ขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ อันที่จริงฉันควรจะดีใจนะ...จะว่าไปฉันรู้สึกโหวงๆที่ท้องยังไงชอบกล อาจจะเป็นเพราะตื่นเต้นมากไป มองโลกในแง่ดีเถอะ เขาคงไม่เป็นอะไร
       "คนต่อไปเลยครับ" 
     เสียงของพนักงานเร่งให้ฉันเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ฉันเดินไปนั่งบนที่นั่ง หลังจากที่คนรอบแรกกำลังเดินออกไปพร้อมกับเสียงเซ็งแซ่ เมื่อฉันนั่งลงกับที่จึงหันไปมองป้ายเตือนข้างๆ ตอนเด็กๆ ฉันคิดว่ามันเป็นป้ายที่งี่เง่าที่สุด มีหนึ่งป้ายที่ห้ามคนท้องขึ้น ฉันคิดเสมอว่าคนท้องที่ไหนจะมาขึ้น และตอนนี้ฉันกำลังทำในสิ่งที่ป้ายห้ามอยู่ บ้าจริง....สมองฉันตื้อไปหมด ไม่มีแม่ที่ไหนเขาทำแบบนี้กันหรอก ยัยติ๊งต๊อง มีแต่เธอไง ยัยไอ ยัยบ้า จะกลับไปก็...ใช่ ออกไปดีกว่า 
      กล๊อก.....
      ตัวล็อก ล็อกแล้ว ฉันออกไปไม่ทัน  ให้ตายเถอะ
       "เรามาสนุกกันเลยยยยยยย"
      เสียงพนักงานตะโกนใส่ไมโครโฟนมาจากข้างหลัง ราวกับว่าพวกเรากำลังอยู่ในงานคอนเสิร์ตยังไงยังงั้น เสียงเพลงเริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง ในทางกลับกัน ในใจของฉันก็ยังคงห่วงลูกไม่หาย ฉันกำลังจะทำอะไรพลาดไปรึปล่าว คงไม่นะ ไม่ว่าจะยังไง ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง
       เรือเหาะเริ่มออกตัว ข้างๆฉันไม่มีคนนั่ง สมองฉันเริ่มสั่งการอีกครั้ง ฉันต้องทำอะไรสักอย่างให้เกิดการกระแทกน้อยที่สุด 
       มันกำลังไปถึงยอดแล้ว....ฉันพยายายืดตัวแล้วยืนบนที่วางขา 
       ฟิ้ววววววว
       พร้อมกับเสียงกริ๊ด....ดังระงม  เหงื่อฉันออกแทบท่วมตัว ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ในท้องก็ปั่นป่วนไปหมด แย่แล้ว...ไม่นะ
       ฉันอดทนกล่ำกลืนอยู่สักพัก ไม่ช้าเรือเหาะก็ช้าลง และช้าลง 
       ฉันก้าวขาออกจากที่นั่งพร้อมกับมองไปตรงที่นั่งที่ว่างเปล่า เฮ้อ...โล่งอก ฉันคิดว่าจะตกเลือดซะแล้ว แต่ท้องของฉันยังไม่หายโหวงเลย ฉันคงไปไหนต่อไม่ได้แล้ว มีม้านั่งอยู่ใกล้ๆ โชคดีจัง ฉันค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งช้าๆอย่างระมัดระวัง ห่วงเธอจังเลย....ลูกของฉัน
       ฉันนั่งอยู่ตรงนี้ได้สักพักใหญ่  ไม่เอาแล้ว ฉันจะกลับบ้าน ฉันเอามือกุมที่ท้องเอาไว้ มันยังแย่อยู่เลย เฮ้อ...พ่อของลูกหน่ะห่วยแตกมากๆ แม่นั่งอยู่ตรงนี้ตั้งนานเขายังไม่โผล่มาเลย เขาคงไม่ห่วงลูกจริงๆหรอก มีแต่แม่เท่านั้นแหละที่ห่วงลูก เข้าใจมั้ย หวังว่าฉันคงพอจะเดินไหวแล้ว เมื่อฉันลุกขึ้น ทันใดนั้น ฉันก็หน้ามืดทันที...
       จิตใต้สำนึก...กำลังจะบอกอะไรกับฉันบางอย่าง ฉันผิดเอง..ใครก็ได้ช่วยฉัน ไม่....ช่วยลูกฉันที 
       "ไอ...ไอ....เธอเป็นอะไรรึปล่าว ทำไมหน้าซีดแบบนี้" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น บาร์นั่นเอง มาช้าชะมัด
       "ฉันหน้ามืด พาฉันไปหาแม่ที"
       "เธอเล่นไวกิ้งมาใช่มั้ย"
       "ใช่...รีบๆพาฉันไปเถอะน่า"
       "โง่จริงๆ ประชดฉันทำไม"
       "พอซะที เงียบเถอะน่า"
       บาร์ค่อยๆพยุงฉันที่เดินโซซัดโซเซเหมือนจะล้มไปที่รถของเขา ฉันทั้งหน้ามืดและมึนจนแทบจะไม่ได้สติแล้ว 
        "ฉันต้องพาเธอไปที่ไหน โรงพยาบาล หรือ คลินิค "
        "กี่โมงแล้ว" เสียงของฉันเริ่มแหบแห้ง
        "บ่ายโมงแล้ว"
        "ไปคลินิค...รีบไป"เขารีบออกรถทันที
        "เธอจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
       เสียงของเขาสั่นจนฉันรู้สึกได้.....
        "ฉัน....ไม่...รู้....บาร์....ช่วย...ลูกด้วย"
        ฉันพยายามตอบก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มดำมืดไป.....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา