เผลอรัก...จับใจ
10.0
เขียนโดย soso_sung
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.15 น.
20 chapter
0 วิจารณ์
24.80K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 20.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
17)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่17
ความรักเป็นเรื่องที่เข้าใจยากเหลือเกิน และกว่าเราจะเข้าใจมันเราก็ก้าวผิดพลาดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งเราอาจจะยอมรับมันได้และก้าวมันต่อไปอย่างระมัดระวัง แต่มันก็ชั่งเล่นตลกกับเราเหลือเกิน เรารักเขาแล้วแต่เขากลับไม่รักเรา หรือบางครั้งเรารักกันแต่เพียงไม่นานความรู้สักนั้นก็หายไป ทำให้คนที่ยังรักอยู่ต้องเกิดความไม่เข้าใจและพยายามที่จะหาข้อเท็จจริงว่าทำไม แต่บางครั้งเราจะทำใจที่จะถอยออกมาแต่มันก็ยังเดินตามเราไปทุกหนทุกแห่ง มันเป็นเครื่องมือที่น่ากลัวอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ผู้คนตั้งมากมายต่างต้องเจ็บปวดไปเพราะความรัก แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะรับความเจ็บปวดเพื่อแรกกับความสุขเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก ความรักเอ่ย...โปรดอย่าเล่นตลกกับฉันอีกเลย
“คุณหมอครับเธอเป็นยังไงบ้าง” หลังจากที่ขายไข่ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินนานถึงแปดชั่วโมงคุณหมอก็ได้ออกมา
“เอ่อ...ตอนนี้เธอ...”
“ไอ้หมอ...” เมื่อคาร์ลเห็นอาการชักช้าของคุณหมอเขาก็คว้าคอเสื้อ
“นายครับ” ลูกน้องของคาร์ลก็รีบเข้ามาคว้าตัวนายแทบไม่ทัน
“ใจเย็นๆก่อนนะครับ...คือคนไข้เสียเลือดมากแต่โชคดีที่กระสุนไม่ถูกส่วนที่สำคัญ แต่เธอก็ต้องการพักฟื้น”
“แล้วเธอปลอดภัยหรือยัง” คาร์ลยังคงใช้เสียงดังข่มคุณหมอ
“ผม...ห้าสิบห้าสิบครับเพราะเธอเสียเลือดมาก...ตอนนี้หมอยังไม่อยากให้ญาติเข้าไปรบกวนเธอ ผมขอเชิญคุณหรือญาติไปพบผมที่ห้องทำงานดีกว่า” และคุณหมอก็สปีดเท้าออกมาเมื่อเห็นท่าว่าคาร์ลจะเข้ามาคว้าตัวหมออีกครั้ง
และเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องทำงานของคุณหมอ คุณหมอก็ได้เอาภาพเอกซเรย์วางไว้ที่เครื่องฉาย
“คือเคสน์นี้สำหรับผมถือว่าหนักมากเพราะกระสุนนั้นเกือบโดนส่วนสำคัญ...” และคุณหมอก็ได้ชี้ยังตำแหน่งกระสุนที่อยู่เกือบเส้นเลือดใหญ่ที่ใกล้หัวใจ “แต่ผมก็เอามันออกมาได้สำเร็จ แต่สำหรับขานั้นผมยังไม่กล้าที่จะเอาออกเพราะเธออ่อนเพลียเกินไป... แต่โดยรวมทั้งหมด ก็พึ่งกับปาฏิหาริย์เท่านั้น” และเมื่อคุณหมอพูดจบก็รีบชิ่งออกจากห้องอย่างไม่ให้คาร์ลรู้ตัว
คาร์ลที่ได้ฟังคุณหมอแล้วก็ได้แต่ช็อคกับคำพูด รอ ‘ปาฏิหาริย์’ อย่างนั้นหรอ
ตอนนี้เขาเดินหมดสภาพที่ห้องฉุกเฉินอย่างหมดแรง เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดกับเขาอีกเพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งที่พ่อแม่ เขาก็รักษาความปลอดภัยทุกอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะพลาดแค่เรื่องใกล้ตัวเพียงแค่นี้
“คุณคะ” เสียงของพยาบาลเรียกเขาให้หลุดจากภวังค์
“คุณใช่คุณคาร์ลหรือเปล่าคะ” พยาบาลถามอีกครั้งแต่เขาก็ได้แต่พยักหน้าตอบเบาๆ
“คุณเข้าไปให้กำลังใจคนไข้ได้นะคะ” เพียงเท่านั้นคาร์ลก็ลุกขึ้นมองพยาบาลอย่างไม่เชื่อ
“แต่ได้แค่แปบเดียวนะคะ” ไม่ว่าจะเพียงวินาทีเดียวเขาก็ไม่อยากให้เวลานั้นหายไป ขอแค่ได้เจอเธอ ขอแค่ว่าเธอยังอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ดีใจแล้ว
และเมื่อเขาเดินเข้าสิ่งแรกที่เจอก็คือเสียงของเครื่องหายใจที่ดังอย่างสม่ำเสมอ ต่อมาเขาก็เห็นผู้หญิงที่นอนหลับตาพริบ เรียวปากที่เคยอมชมพูได้ซีดไปเพราะเสียเลือดมาก ข้างๆของเธอมีถุงน้ำเหลือและถุงเลือด สายระโยงรยางค์เต็มตัวเธอไปหมด และเมื่อเขาเข้าไปใกล้เธอเขาเพียงพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“ไขไข่ คุณตื่นขึ้นมาเถอะ”
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขารู้สึกปวดร้าว ยิ่งเห็นเรียวปากที่แห้งผาดนั้นเขายิ่งสงสารเธอจับใจ เขาอยากจะกอดเธอให้เธอได้หายเจ็บ เขาอยากจะกุมมือเพื่อให้เธอได้รู้ว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไปไหนอีก เขาอยากเป็นคนที่รับกระสุนแทนเธอเพื่อไม่ให้เธอได้นอนเจ็บปวดอยู่แบบนี้
“ผมขอร้อง...” เสียงนั้นเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ และน้ำใสๆก็ได้ไหลออกมาตามความรู้สึกที่ไม่อาจจะกดกลั้นมันได้ไว้อีก
“หมดเวลาเยี่ยมแล้วคะ” เสียงพยาบาลดังเพื่อเตือนเขาว่าหมดเวลาเยี่ยม และนั้นเป็นเสียงที่เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม แต่เขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้
“แล้วผมจะมาหาคุณใหม่นะครับ” คาร์ลพยายามทำเสียงให้เป็นปกติเผื่อว่าเธอฟังอยู่จะได้ไม่รู้สุกเศร้าตาเขา และเขาโน้มริมฝีปากหน้าจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมน
และเมื่อเขาเดินจากไป น้ำหยดใสๆก็ได้ไหลลินออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทโดยที่เจ้าตัวก็ไม่อาจจะรู้สึกตัว แต่ชายหนุ่มหาได้เห็นไม เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าตลอดเวลาที่เขาพูดคุยกับเธอ ส่งสัมผัสอุ่นๆนั้นให้เธอ ดวงจิตของเธอรับรู้ต่อการกระทำของเขา จิตของเธอพยายามที่จะตอบสนองให้เขาได้รับรู้ แต่ร่างกายหาได้ตอบสนองตามที่ใจต้องการ เพียงแค่ลืมตามันก็ยากแสนยากที่จะทำ ความรู้สึกนี้มันทรมานเหลือเกิน สวรรค์คะ...ได้โปรดช่วยฉันด้วย
ภาพต่างๆไม่อาจพ้นจากสวรรค์เบื้องบนได้ พวกเขาเห็นว่าใครทำอะไรและใครต้องการความช่วยเหลือ แต่ด้วยฐานะทางโลกและสวรรค์นั้นมีขอบเขตจำกัด พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากก็ได้เพียงแค่ส่งสื่อกลางไปให้ได้แค่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้มอบและผู้รับว่าจะพยายามกันได้มากแค่ไหน...
หลายเดือนต่อมา
ภาพที่ตามมาหลอกหลอนคาร์ลทุกคืนๆนั้นเป็นภาพหญิงสาวที่นอนจมกองเลือดเธอไม่อาจจะหลุดพ้นในความทรงจำของเขาได้เลยไม่อาจเลือนหายไปได้ เขาได้แต่คิดว่าถ้าเขาย้อนเวลาได้เขาจะไม่รู้จักเธอ เขาจะไม่เข้าไปก่อกวนเธอ เขาจะไม่ตกหลุมรักเธอ เขาจะไม่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา แต่เขาก็ต้องบอกตัวเองว่านั้นมันเป็นเพียงความคิด แต่ในเมื่อเรื่องในอดีตมันได้เกิดขึ้นแล้ว เขาก็ทำได้เพียงแค่รอให้เธอฟื้นขึ้นมาเท่านั้น
“คุณคาร์ล ปัง!”
เหตุการณ์ในตอนนั้นมันเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน ผมที่กำลังกอดขายไข่อยู่นั้น ก็ต้องโดนผลักออกมาและสิ่งที่เขาได้เห็นก็คือขายไข่รับลูกกระสุนนั้น เธอระบายยิ้มมองมาที่ผมแล้วเธอก็ล้มลงไปต่อหน้า เลือดสีแดงที่หลั่งไหลออกมามากมายจนเขาคิดว่าเธอจะต้องตายแน่ๆและในตอนนั้นผมแทบคลั่งที่รู้ว่าเธอจะต้องตาย ผมทำอะไรไม่ถูกและผมได้หันไปหาต้นเหตุ ผมก็เดินไปหาเพ้ย แต่ก่อนที่ผมจะเดินไปถึงตัวเธอ ผมเห็นเธอยกปืนเล็งที่ข้างศีรษะและไม่ทันที่ผมจะทันห้ามเธอ เธอก็ได้ลั่นไกปืนเสียแล้ว
“ไม่!!!” นั้นไม่ใช่เสียงของผม แต่เป็นเสียงของเจ้าสัวไทหยาง “พวกเอง พวกเองทำไรลูกข้า”
เจ้าสัวไทหยางเดินเข้าไปหาลูกสาวสุดที่รักด้วยขาที่เกือบจะล้ม และเมื่อถึงตัวลูกสาวเจ้าสาวก็ค่อยๆประคองเธอขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา “อาเพ้ย...ลื้อทำอะไรของลื้อ...” น้ำตาของประมุขและความเป็นบิดาได้ไหลรินลงหน้าลูกสาว “ลื้อทำอะไรลงไป ฮึกๆ”
และเมื่อเขามองภาพนั้นทำให้เขาผละออกเพื่อที่จะไปหาขายไข่ แต่ขายไข่ก็ได้หาไปแล้ว เธอถูกบุรุษพยาบาลห่ามใส่รถพยาบาลที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไร แต่ข้างกายเธอก็ได้มรเดลล์ดูแลอยู่
“ไขไข่...ไขไข่” เขาวิ่งตามรถพยาบาลที่เคลื่อนตัวออกไป
“นายครับ...” ลูกน้องของเขาต้องมาห้ามไม่ให้เขาวิ่งตามรถ และเหตุการณ์หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
และมาตอนนี้ไขไข่ก็ยังไม่ฟื้นสักที หลายเดือนที่เขาต้องอยู่อย่างคอยปาฏิหาริย์อย่างที่หมอว่า เขาก็แทบจะไม่ได้ทำมาหากินอะไร จนต้องให้เดลล์เข้ามาดูแลเธอให้ เขาอยากรู้ความเคลื่อนไหวของเธอทุกอย่าง เพราะเมื่อครั้งที่แล้ว จู่ๆเธอก็ช็อคขึ้นมา ทำให้เขาที่นั่งทำงานอยู่ถึงกับต้องหยุดและมาดูและเธอ หมอบอกว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากยา มันอาจจะแรงเกินไปแต่หากไม่ใช่เธอก็อาจจะไม่รอด แต่หมอก็พยายามที่จะช่วยเธอ ก็เพียงแค่หวังว่าเธอกลับมาหาเขาหรือเปล่า
“ผมยังรอคุณอยู่นะครับที่รัก” คาร์ลยังคงทำแบบนี้ทุกวัน เขาจะเข้ามาหาเธอ ทำกายภาพบำบัดเธอและก็จะบอกรักเธอทุกครั้ง บางครั้งเขาก็หาหนังสือนิทานมาเล่าให้เธอฟัง หรือหาเรื่อราวต่างๆที่เขาได้เจอมา
“ไขไข่ คุณฝันถึงผมบ้างหรือเปล่า”
“เมื่อวานผมชนะคู่แข่งด้วยละ คุณดีใจไม...”
“อาทิตย์หน้าผมต้องไปประชุมที่เซี่ยงไฮ้ ที่รักรีบๆตื่นนะครับ ผมจะได้พาคุณไปเที่ยวด้วย”
“ผมขออนุญาตตรวจคนไข้หน่อยนะครับ” คุณหมอเดินเข้ามาตรวจร่างกายขายไข่โดยมีพยาบาลคอยจดรายละเอียด
“เธอเป็นยังไงบ้างครับ”
“ปกติดีทุกอย่างครับ”
“แล้วเมื่อไรเธอจะฟื้นสักที”
“อันนี้...ผมก็ไม่สามารถบอกกอะไรได้ ขอตัวนะครับ” ถึงแม้ว่าขายไข่จะถอดเครื่องมือแพทย์ออกหมดแล้วแต่เธอก็ยังไม่ตื่น
“ตอนนี้เธอไปอยู่ไหนนะ...”
เขารอเธอได้เสมอ เขาเคยบอกตัวเองแบบนั้น ขอแค่ได้เจอเธอเขายอมได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขาชักจะไม่แน่ใจเสียแล้ว เธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบสนองเขาเลย เขาพาหมอทุกที่มาดูเธอแล้วก็ไม่เห็นวี่แวว เขาชักท้อแล้วนะ
“คุณคาร์ลคะ ไขไข่เป็นยังไงบ้างคะ” อาเยียนเพื่อนของไขไข่เดินเธอมาพร้อมกับของเยี่ยมเหมือนปกติทุกครั้งที่มาเยี่ยม ทำให้เขาที่จะร้องไห้ถึงกับต้องกลั่น
“เหมือนเดิมครับ... คุณคงอยากคุยกับเธอ ผมขอตัวก่อนนะครับ” น้ำเสียงของเขาไม่คงพอ
“คะ”
“ไขไข่แกจะนอนไปอีกนานไมว่ะ คุณคาร์ลเขารอแกอยู่นะเว้ย” พอคาร์ลเดินออกไปอาเยียนก็เดินเข้าไปหาเพื่อนที่ตอนนี้นอนหลับตาพริม
“ฉันก็รอแกเหมือนกันนะ...” อาเยียนปล่อยน้ำตาออกมาแล้วมองหน้าเพื่อนที่เธอสนิทมากที่สุด
“เหวินอี้กับยูมิก็มาเยี่ยมเธอนะ ถ้าเธอไม่ฟื้นแล้วฉันจะอยู่กับใครละ ฮึก...” พอพูดถึงจุดนี้อาเยียนก็ร้องไห้ไม่หยุดเธอสะอื้นปล่อยความอัดอั้นออกมาเพื่อให้เพื่อนตรงหน้าได้รับรู้
“ฉันขอโทษที่ร้องไห้นะ แกคงจะไม่สบายใจ งั้นเดี๋ยวฉันไปปอกแอปเปิ้ลที่แกชอบให้นะ” อาเยียนเช็ดน้ำตาและลุกไปปอกแอปเปิ้ลที่ตัวเองนำมาเยี่ยมเพื่อน แต่พอคล้อยหลังนิ้วมือเรียวที่นิ่งสนิทมาหลายเดือนก็กระดิก
“พ่อจ๋า..แม่จ๋า” เสียงเบาราวกระซิบรอดผ่านริมฝีปากแห้งเผือด ทำให้คนที่นั่งทำงานถึงกับชะงัก
“สงสัยหูเราคงเพี้ยน” คาร์ลเงยหน้ามองขายไข่ที่ยังคงนอนนิ่งอยู่
“น้ำ...” อีกแล้ว เขาได้ยินเสียงอีกแล้ว
“ไขไข่!” เขารีบวิ่งไปดูไขไข่ทันทีและสิ่งที่เขาพบคือดวงตาที่ปิดอยู่ดิ้นไปมา
“น้ำ...” เรียวปากเปิดออกร้องขอความต้องการ
“น้ำ...รอแปบนะไขไข่” คาร์ลมองริมฝีปากที่ขยับพูดในสิ่งที่ต้องการแล้วรีบทำตามทันทีเพื่อไม่ให้เธอต้องรอนาน “ระวังนะ” คาร์ลยกเธอขึ้นมาดื่มน้ำแล้ววางเธอลงอย่างเบามือ
“ไขไข่ ลืมตาสิที่รัก” คาร์ลร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่แทนที่ไขไข่จะลืมตาตามที่เขาบอกเธอกลับนอนนิ่งเหมือนเมื่อกี้เป็นเพียงแค่ความฝัน
“ไขไข่...” คาร์ลเรียกชื่อเธออีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม เธอนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง
“เธอเป็นอะไรไปครับ” คาร์ลเรียกคุณหมอมาตรวจพร้อมกับเล่าอาการที่เขาได้เจอ
“เธอปกติดีครับ ดูจากสีหน้าแล้วดูดีขึ้นจากเดิม ผมคิดว่า ‘ปาฏิหาริย์’ คงมาแล้สละครับ” และคุณหมอก็เดินออกไป ทิ้งไว้ให้คาร์ลทำความเข้าใจกับที่คำพูดของหมอ
“รีบๆกลับมานะครับ คนดีของผม” เมื่อเขาเข้าใจคำพูดของคุณหมอเขาก็โน้มหน้าจุมพิตที่หน้าผากมนเป็นรางวัล
“หนูยังไม่อยากกลับ” ตลอดเวลาที่ร่างกายของเธอนิ่งไม่ขยับตอบสนองใครเป็นเพราะเธออยู่กับบิดามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว
“มันถึงเวลาของลูกที่ต้องกลับไปแล้ว ที่นี้ไม่ใช่ที่ของลูกนะ” แม่พูดพร้อมกับเอาลือลูบหัวเบาๆ
“แต่หนู...” หญิงสาวพยายามแย้งแต่ก็ถูกพ่อขัดมาเสียก่อน
“หนูไม่เป็นห่วงคาร์ลหรอ ดูเขาทุกข์มากเลยนะ”
“นั้นสิจ๊ะ ไม่สงสารลูกป้าบ้างหรอ” ผู้หญิงตรงหน้าที่สวยราวรูปปั้นนั้นเป็นคุณแม่ของคุณคาร์ลที่ยืนคล้องแขนคู่ชีวิต
“ก็...แต่หนูไม่รู้วิธีกลับนิคะ” ขนาดเธอมาเธอยังไม่รู้ว่าเฮมาได้อย่างไรเลย พอรู้ตัวก็มีพ่อมีแม่มองอยู่ข้างๆเสียแล้ว
“เดี๋ยว สองแฝดพากลับเองจ๊ะ ลูกไม่ต้องห่วง” สองแฝดที่คุณแม่พูดถึงก็คือวิญญาณสาวที่ช่วยฉันเสมอๆ
“ยินดีจ้า” เธอสองคนพูดประสานเสียงพร้อมเดินเข้ามาควงแขนฉันคนละข้าง “ไปละนะจ๊ะ”
“เดี๋ยวก่อน...” ก่อนที่สองแฝดจะพาฉันกับ ฉันก็วิ่งเข้าไปกอดแม่ “ ‘รอ’ใช่แม่?”
“ใช่...แม่ขอโทษนะ ที่ทำได้เพียงแค่นั้น” แม่พูดออกมาด้วยเสียงเครือแล้วลูบหลังฉันเบาๆ
“หนูจะยัง ‘รอ’ นะคะ” ฉันสบตาแม่ที่ตอนนี้น้ำคลอเต็มหน่วยตา
“ลูกต้องอดทนนะ และแม่จะเป็นกำลังใจให้...” ภาพของคุณแม่เริ่มเลื่อนออกไปไกลขึ้นเลื่อยๆ
“เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังไม่ได้บอกลาพวกท่านเลย” แต่เธอก็แย้งไม่ทันเมื่อสองสาวพาเธอมาที่ห้องขาวสะอาดบริสุทธิ์ โดยมีร่างของเธอที่นอนอยู่
“แล้วเจอกันนะจ๊ะ” สองสาวหันมาหอมแก้มแล้วก็หายวับไป
“แล้วฉันจะกลับเข้าร่างยังไงดีละเนี่ย” ไขไข่เกาหัวตัวเองแล้วมองร่างของตัวเอง
“เอาวะ”เธอทำตามที่ดูละครและหนังโดยการที่เข้าไปนอนทับในร่างของเธอ “ได้ผลไมน่า”
“ไขไข่...” เสียงของคาร์ลดังข้างหูทำให้ไขไข่ลืมตาตื่น “คุณฟื้นแล้ว”
“...” เธอมองหน้าคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ เนื่องด้วยยังปรับสภาพไม่ทัน
“ผมจะตามคุณหมอมานะครับ” และพอคาร์ลจะออกไปตามคุณหมอไขไข่ก็ได้ยื่นมือไปจับข้อแขนเขาไว้แน่นและพยายามพูด
“ฉัน...เจอแม่คุณด้วย” เสียงที่แห้งผากทำให้คาร์ลถึงกับมองตาโต
“คุณว่าอะไรนะครับ” คาร์ลถามอีกครั้ง
“ฉันหิวน้ำ”
“อ่อ... แปบนึงนะ”
“ค่อยๆครับ”
“เมื่อกี้ฉันพูดว่า...”
“ผมจะไปตามคุณหมอมานะครับ”
“ฉันเจอแม่...ของคุณ” ฉันรีบพูดไปก่อนที่ความทรงจำที่ได้อยู่กับแม่จะหายไป
“แม่ของคุณฝากมาบอกว่า... ดูแลฉันด้วย” เพียงแค่นั้นคาร์ลก็หันกลับมามองฉันด้วยความตะลึงอีกครั้ง
“และคุณพ่อคุณบอกว่า...ถ้าคุณดูแลฉันไม่ดี คุณพ่อจะหาคนใหม่ให้ฉัน” เพียงเท่านั้นเขาก็วิ่งเข้ามาหาฉันทันที
“พอแม่ฉันตอบตกลงให้คุณดูแลฉัน แต่ก็ต้องอยู่ในความตัดสินใจของฉันอีกที” ฉันพูดต่อเพื่อให้เขาได้เข้าใจว่าฉันยังมีสิทธิ์ที่จะไม่รับรักเขา
“ผม...” คาร์ลผละออกจากฉันแล้วมองเข้ามานัยน์ตาเพื่อจะค้นหาอะไรบางอย่าง
“คุณไปตามคุณหมอเถอะคะ” สีหน้าของเขาบ่งบอกได้ว่าเขากลัวและไม่กล้าที่จะห่างไปจากฉัน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องจำใจออกไปตามคุณหมอ
“ขอผมตรวจดูหน่อยนะครับ” แล้วคุณหมอก็เอาไฟฉายมอส่องที่ดวงตาของฉัน ฟังเสียงการเต้นของหัวใจและอีกมากมาย
“โดยรวมปกตินะครับ อีกสักพักจะให้พยาบาลพาไปเอ็กซเรย์ดูภายในอีกทีนะครับ”
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ” ฉันกล่าวพร้อมรอยยิ้ม แต่คาร์ลยังคงนิ่งเงียบ
“ไม่เป็นไรครับ”
“เป็นอะไรไปคะ” ไขไข่หันไปถามคาร์ลที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองหน้าจอแทบเลต
“...” ไม่มีเสียงตอบรับ
“คุณคาร์ลคะ” ไขไข่ทักเสียงดังขึ้น
“...” คาร์ลเงยหน้าตามเสียงเรียกแต่ก็ยังไม่เอ่ยอะไร
“คุณดูแปลกๆไปนะคะ” ไขไข่ถามด้วยความไม่สบายใจ
“ผมก็ปกติดีนิ” แล้วเขาก็ก้มหน้า
“นี้นะที่ไม่แปลก” ไขไข่บ่นในใจแล้วเร่งเสียงโทรทัศน์
“คุณเบาๆเสียงหน่อยสิ ผมกำลังทำงาน” และเขาก็ทนไม่ได้จนต้องพูดออกมา แต่มีหรือที่ขายไข่จะสน
“ไขไข่” เขาเดินเข้ามาอยู่ข้างๆเมื่อไรไม่รู้แต่เขาก็คว้ารีโมทไปลดเสียงและปิดโทรทัศน์
“คุณปิดทำไมคะ ฉันกำลังดูอยู่” ไขไข่หันไปโวยเมื่อถูกแย่งรีโมท
“ผมจะไม่ว่าเลยถ้าคุณเปิดเสียงเบา ผมกำลังทำงานอยู่...”
“ที่นี้มันโรงพยาบาลไม่ใช้ออฟฟิศนิคะ” ไขไข่แย้งทันที
“นี้ใช่คุณหรือเปล่า” คาร์ลมองไขไข่ด้วยความไม่แน่ใจ
“แล้วที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันใช่คุณคาร์ลที่ฉันรู้จักหรือเปล่าคะ” ไขไข่ใช่คำถามเดียวกันย้อนถาม
“ผมจะออกไปข้างนอก” เมื่อเล่นจ้องตากันนานพอสมควรคาร์ลก็เป็นฝ่ายยอมแพ้แล้วเดินออกไปนอกห้องโดยทิ้งไขไข่ที่ไม่ละสายตาไปจากเขาเลย
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าคุณยังรอฉันอยู่” ไขไข่เอ่ยรำพังแล้วล้มตัวลงนอนมองออกไปนอกหน้าต่างที่ตอนนี้เริ่มที่สายฝนโปรยลงมา
“ก็แค่นั้นเอง...” น้ำตาที่จู่ๆไหลรินออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้ขายไข่เริ่มไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ฉันรักคุณนะคะ” และเธอก็หลับตาลงเพื่อซ่อนสิ่งที่อยู่ในตาให้หายกลับเข้าไป
เธอแค่อยากให้แน่ใจว่าคนที่เธอจะฝากชีวิตให้นั้น เขาสามารถดูแลเธอได้แค่ไหน และเธอก็เริ่มเชื่อในตัวเขามากขึ้นเพราะเขาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้ ถึงแม้ว่าเธอจะต้องเจ็บตัวไปบ้างแต่เธอก็พร้อมที่จะยอมรับความเจ็บปวดนั้นเพื่อให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นต้องการเขามาดูแลปกป้อง แต่มาตอนนี้เขากลับ...เปลี่ยนไป
ความรักเป็นเรื่องที่เข้าใจยากเหลือเกิน และกว่าเราจะเข้าใจมันเราก็ก้าวผิดพลาดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งเราอาจจะยอมรับมันได้และก้าวมันต่อไปอย่างระมัดระวัง แต่มันก็ชั่งเล่นตลกกับเราเหลือเกิน เรารักเขาแล้วแต่เขากลับไม่รักเรา หรือบางครั้งเรารักกันแต่เพียงไม่นานความรู้สักนั้นก็หายไป ทำให้คนที่ยังรักอยู่ต้องเกิดความไม่เข้าใจและพยายามที่จะหาข้อเท็จจริงว่าทำไม แต่บางครั้งเราจะทำใจที่จะถอยออกมาแต่มันก็ยังเดินตามเราไปทุกหนทุกแห่ง มันเป็นเครื่องมือที่น่ากลัวอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ผู้คนตั้งมากมายต่างต้องเจ็บปวดไปเพราะความรัก แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะรับความเจ็บปวดเพื่อแรกกับความสุขเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก ความรักเอ่ย...โปรดอย่าเล่นตลกกับฉันอีกเลย
“คุณหมอครับเธอเป็นยังไงบ้าง” หลังจากที่ขายไข่ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินนานถึงแปดชั่วโมงคุณหมอก็ได้ออกมา
“เอ่อ...ตอนนี้เธอ...”
“ไอ้หมอ...” เมื่อคาร์ลเห็นอาการชักช้าของคุณหมอเขาก็คว้าคอเสื้อ
“นายครับ” ลูกน้องของคาร์ลก็รีบเข้ามาคว้าตัวนายแทบไม่ทัน
“ใจเย็นๆก่อนนะครับ...คือคนไข้เสียเลือดมากแต่โชคดีที่กระสุนไม่ถูกส่วนที่สำคัญ แต่เธอก็ต้องการพักฟื้น”
“แล้วเธอปลอดภัยหรือยัง” คาร์ลยังคงใช้เสียงดังข่มคุณหมอ
“ผม...ห้าสิบห้าสิบครับเพราะเธอเสียเลือดมาก...ตอนนี้หมอยังไม่อยากให้ญาติเข้าไปรบกวนเธอ ผมขอเชิญคุณหรือญาติไปพบผมที่ห้องทำงานดีกว่า” และคุณหมอก็สปีดเท้าออกมาเมื่อเห็นท่าว่าคาร์ลจะเข้ามาคว้าตัวหมออีกครั้ง
และเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องทำงานของคุณหมอ คุณหมอก็ได้เอาภาพเอกซเรย์วางไว้ที่เครื่องฉาย
“คือเคสน์นี้สำหรับผมถือว่าหนักมากเพราะกระสุนนั้นเกือบโดนส่วนสำคัญ...” และคุณหมอก็ได้ชี้ยังตำแหน่งกระสุนที่อยู่เกือบเส้นเลือดใหญ่ที่ใกล้หัวใจ “แต่ผมก็เอามันออกมาได้สำเร็จ แต่สำหรับขานั้นผมยังไม่กล้าที่จะเอาออกเพราะเธออ่อนเพลียเกินไป... แต่โดยรวมทั้งหมด ก็พึ่งกับปาฏิหาริย์เท่านั้น” และเมื่อคุณหมอพูดจบก็รีบชิ่งออกจากห้องอย่างไม่ให้คาร์ลรู้ตัว
คาร์ลที่ได้ฟังคุณหมอแล้วก็ได้แต่ช็อคกับคำพูด รอ ‘ปาฏิหาริย์’ อย่างนั้นหรอ
ตอนนี้เขาเดินหมดสภาพที่ห้องฉุกเฉินอย่างหมดแรง เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดกับเขาอีกเพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งที่พ่อแม่ เขาก็รักษาความปลอดภัยทุกอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะพลาดแค่เรื่องใกล้ตัวเพียงแค่นี้
“คุณคะ” เสียงของพยาบาลเรียกเขาให้หลุดจากภวังค์
“คุณใช่คุณคาร์ลหรือเปล่าคะ” พยาบาลถามอีกครั้งแต่เขาก็ได้แต่พยักหน้าตอบเบาๆ
“คุณเข้าไปให้กำลังใจคนไข้ได้นะคะ” เพียงเท่านั้นคาร์ลก็ลุกขึ้นมองพยาบาลอย่างไม่เชื่อ
“แต่ได้แค่แปบเดียวนะคะ” ไม่ว่าจะเพียงวินาทีเดียวเขาก็ไม่อยากให้เวลานั้นหายไป ขอแค่ได้เจอเธอ ขอแค่ว่าเธอยังอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ดีใจแล้ว
และเมื่อเขาเดินเข้าสิ่งแรกที่เจอก็คือเสียงของเครื่องหายใจที่ดังอย่างสม่ำเสมอ ต่อมาเขาก็เห็นผู้หญิงที่นอนหลับตาพริบ เรียวปากที่เคยอมชมพูได้ซีดไปเพราะเสียเลือดมาก ข้างๆของเธอมีถุงน้ำเหลือและถุงเลือด สายระโยงรยางค์เต็มตัวเธอไปหมด และเมื่อเขาเข้าไปใกล้เธอเขาเพียงพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“ไขไข่ คุณตื่นขึ้นมาเถอะ”
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขารู้สึกปวดร้าว ยิ่งเห็นเรียวปากที่แห้งผาดนั้นเขายิ่งสงสารเธอจับใจ เขาอยากจะกอดเธอให้เธอได้หายเจ็บ เขาอยากจะกุมมือเพื่อให้เธอได้รู้ว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไปไหนอีก เขาอยากเป็นคนที่รับกระสุนแทนเธอเพื่อไม่ให้เธอได้นอนเจ็บปวดอยู่แบบนี้
“ผมขอร้อง...” เสียงนั้นเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ และน้ำใสๆก็ได้ไหลออกมาตามความรู้สึกที่ไม่อาจจะกดกลั้นมันได้ไว้อีก
“หมดเวลาเยี่ยมแล้วคะ” เสียงพยาบาลดังเพื่อเตือนเขาว่าหมดเวลาเยี่ยม และนั้นเป็นเสียงที่เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม แต่เขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้
“แล้วผมจะมาหาคุณใหม่นะครับ” คาร์ลพยายามทำเสียงให้เป็นปกติเผื่อว่าเธอฟังอยู่จะได้ไม่รู้สุกเศร้าตาเขา และเขาโน้มริมฝีปากหน้าจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมน
และเมื่อเขาเดินจากไป น้ำหยดใสๆก็ได้ไหลลินออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทโดยที่เจ้าตัวก็ไม่อาจจะรู้สึกตัว แต่ชายหนุ่มหาได้เห็นไม เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าตลอดเวลาที่เขาพูดคุยกับเธอ ส่งสัมผัสอุ่นๆนั้นให้เธอ ดวงจิตของเธอรับรู้ต่อการกระทำของเขา จิตของเธอพยายามที่จะตอบสนองให้เขาได้รับรู้ แต่ร่างกายหาได้ตอบสนองตามที่ใจต้องการ เพียงแค่ลืมตามันก็ยากแสนยากที่จะทำ ความรู้สึกนี้มันทรมานเหลือเกิน สวรรค์คะ...ได้โปรดช่วยฉันด้วย
ภาพต่างๆไม่อาจพ้นจากสวรรค์เบื้องบนได้ พวกเขาเห็นว่าใครทำอะไรและใครต้องการความช่วยเหลือ แต่ด้วยฐานะทางโลกและสวรรค์นั้นมีขอบเขตจำกัด พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากก็ได้เพียงแค่ส่งสื่อกลางไปให้ได้แค่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้มอบและผู้รับว่าจะพยายามกันได้มากแค่ไหน...
หลายเดือนต่อมา
ภาพที่ตามมาหลอกหลอนคาร์ลทุกคืนๆนั้นเป็นภาพหญิงสาวที่นอนจมกองเลือดเธอไม่อาจจะหลุดพ้นในความทรงจำของเขาได้เลยไม่อาจเลือนหายไปได้ เขาได้แต่คิดว่าถ้าเขาย้อนเวลาได้เขาจะไม่รู้จักเธอ เขาจะไม่เข้าไปก่อกวนเธอ เขาจะไม่ตกหลุมรักเธอ เขาจะไม่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา แต่เขาก็ต้องบอกตัวเองว่านั้นมันเป็นเพียงความคิด แต่ในเมื่อเรื่องในอดีตมันได้เกิดขึ้นแล้ว เขาก็ทำได้เพียงแค่รอให้เธอฟื้นขึ้นมาเท่านั้น
“คุณคาร์ล ปัง!”
เหตุการณ์ในตอนนั้นมันเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน ผมที่กำลังกอดขายไข่อยู่นั้น ก็ต้องโดนผลักออกมาและสิ่งที่เขาได้เห็นก็คือขายไข่รับลูกกระสุนนั้น เธอระบายยิ้มมองมาที่ผมแล้วเธอก็ล้มลงไปต่อหน้า เลือดสีแดงที่หลั่งไหลออกมามากมายจนเขาคิดว่าเธอจะต้องตายแน่ๆและในตอนนั้นผมแทบคลั่งที่รู้ว่าเธอจะต้องตาย ผมทำอะไรไม่ถูกและผมได้หันไปหาต้นเหตุ ผมก็เดินไปหาเพ้ย แต่ก่อนที่ผมจะเดินไปถึงตัวเธอ ผมเห็นเธอยกปืนเล็งที่ข้างศีรษะและไม่ทันที่ผมจะทันห้ามเธอ เธอก็ได้ลั่นไกปืนเสียแล้ว
“ไม่!!!” นั้นไม่ใช่เสียงของผม แต่เป็นเสียงของเจ้าสัวไทหยาง “พวกเอง พวกเองทำไรลูกข้า”
เจ้าสัวไทหยางเดินเข้าไปหาลูกสาวสุดที่รักด้วยขาที่เกือบจะล้ม และเมื่อถึงตัวลูกสาวเจ้าสาวก็ค่อยๆประคองเธอขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา “อาเพ้ย...ลื้อทำอะไรของลื้อ...” น้ำตาของประมุขและความเป็นบิดาได้ไหลรินลงหน้าลูกสาว “ลื้อทำอะไรลงไป ฮึกๆ”
และเมื่อเขามองภาพนั้นทำให้เขาผละออกเพื่อที่จะไปหาขายไข่ แต่ขายไข่ก็ได้หาไปแล้ว เธอถูกบุรุษพยาบาลห่ามใส่รถพยาบาลที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไร แต่ข้างกายเธอก็ได้มรเดลล์ดูแลอยู่
“ไขไข่...ไขไข่” เขาวิ่งตามรถพยาบาลที่เคลื่อนตัวออกไป
“นายครับ...” ลูกน้องของเขาต้องมาห้ามไม่ให้เขาวิ่งตามรถ และเหตุการณ์หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
และมาตอนนี้ไขไข่ก็ยังไม่ฟื้นสักที หลายเดือนที่เขาต้องอยู่อย่างคอยปาฏิหาริย์อย่างที่หมอว่า เขาก็แทบจะไม่ได้ทำมาหากินอะไร จนต้องให้เดลล์เข้ามาดูแลเธอให้ เขาอยากรู้ความเคลื่อนไหวของเธอทุกอย่าง เพราะเมื่อครั้งที่แล้ว จู่ๆเธอก็ช็อคขึ้นมา ทำให้เขาที่นั่งทำงานอยู่ถึงกับต้องหยุดและมาดูและเธอ หมอบอกว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากยา มันอาจจะแรงเกินไปแต่หากไม่ใช่เธอก็อาจจะไม่รอด แต่หมอก็พยายามที่จะช่วยเธอ ก็เพียงแค่หวังว่าเธอกลับมาหาเขาหรือเปล่า
“ผมยังรอคุณอยู่นะครับที่รัก” คาร์ลยังคงทำแบบนี้ทุกวัน เขาจะเข้ามาหาเธอ ทำกายภาพบำบัดเธอและก็จะบอกรักเธอทุกครั้ง บางครั้งเขาก็หาหนังสือนิทานมาเล่าให้เธอฟัง หรือหาเรื่อราวต่างๆที่เขาได้เจอมา
“ไขไข่ คุณฝันถึงผมบ้างหรือเปล่า”
“เมื่อวานผมชนะคู่แข่งด้วยละ คุณดีใจไม...”
“อาทิตย์หน้าผมต้องไปประชุมที่เซี่ยงไฮ้ ที่รักรีบๆตื่นนะครับ ผมจะได้พาคุณไปเที่ยวด้วย”
“ผมขออนุญาตตรวจคนไข้หน่อยนะครับ” คุณหมอเดินเข้ามาตรวจร่างกายขายไข่โดยมีพยาบาลคอยจดรายละเอียด
“เธอเป็นยังไงบ้างครับ”
“ปกติดีทุกอย่างครับ”
“แล้วเมื่อไรเธอจะฟื้นสักที”
“อันนี้...ผมก็ไม่สามารถบอกกอะไรได้ ขอตัวนะครับ” ถึงแม้ว่าขายไข่จะถอดเครื่องมือแพทย์ออกหมดแล้วแต่เธอก็ยังไม่ตื่น
“ตอนนี้เธอไปอยู่ไหนนะ...”
เขารอเธอได้เสมอ เขาเคยบอกตัวเองแบบนั้น ขอแค่ได้เจอเธอเขายอมได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขาชักจะไม่แน่ใจเสียแล้ว เธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบสนองเขาเลย เขาพาหมอทุกที่มาดูเธอแล้วก็ไม่เห็นวี่แวว เขาชักท้อแล้วนะ
“คุณคาร์ลคะ ไขไข่เป็นยังไงบ้างคะ” อาเยียนเพื่อนของไขไข่เดินเธอมาพร้อมกับของเยี่ยมเหมือนปกติทุกครั้งที่มาเยี่ยม ทำให้เขาที่จะร้องไห้ถึงกับต้องกลั่น
“เหมือนเดิมครับ... คุณคงอยากคุยกับเธอ ผมขอตัวก่อนนะครับ” น้ำเสียงของเขาไม่คงพอ
“คะ”
“ไขไข่แกจะนอนไปอีกนานไมว่ะ คุณคาร์ลเขารอแกอยู่นะเว้ย” พอคาร์ลเดินออกไปอาเยียนก็เดินเข้าไปหาเพื่อนที่ตอนนี้นอนหลับตาพริม
“ฉันก็รอแกเหมือนกันนะ...” อาเยียนปล่อยน้ำตาออกมาแล้วมองหน้าเพื่อนที่เธอสนิทมากที่สุด
“เหวินอี้กับยูมิก็มาเยี่ยมเธอนะ ถ้าเธอไม่ฟื้นแล้วฉันจะอยู่กับใครละ ฮึก...” พอพูดถึงจุดนี้อาเยียนก็ร้องไห้ไม่หยุดเธอสะอื้นปล่อยความอัดอั้นออกมาเพื่อให้เพื่อนตรงหน้าได้รับรู้
“ฉันขอโทษที่ร้องไห้นะ แกคงจะไม่สบายใจ งั้นเดี๋ยวฉันไปปอกแอปเปิ้ลที่แกชอบให้นะ” อาเยียนเช็ดน้ำตาและลุกไปปอกแอปเปิ้ลที่ตัวเองนำมาเยี่ยมเพื่อน แต่พอคล้อยหลังนิ้วมือเรียวที่นิ่งสนิทมาหลายเดือนก็กระดิก
“พ่อจ๋า..แม่จ๋า” เสียงเบาราวกระซิบรอดผ่านริมฝีปากแห้งเผือด ทำให้คนที่นั่งทำงานถึงกับชะงัก
“สงสัยหูเราคงเพี้ยน” คาร์ลเงยหน้ามองขายไข่ที่ยังคงนอนนิ่งอยู่
“น้ำ...” อีกแล้ว เขาได้ยินเสียงอีกแล้ว
“ไขไข่!” เขารีบวิ่งไปดูไขไข่ทันทีและสิ่งที่เขาพบคือดวงตาที่ปิดอยู่ดิ้นไปมา
“น้ำ...” เรียวปากเปิดออกร้องขอความต้องการ
“น้ำ...รอแปบนะไขไข่” คาร์ลมองริมฝีปากที่ขยับพูดในสิ่งที่ต้องการแล้วรีบทำตามทันทีเพื่อไม่ให้เธอต้องรอนาน “ระวังนะ” คาร์ลยกเธอขึ้นมาดื่มน้ำแล้ววางเธอลงอย่างเบามือ
“ไขไข่ ลืมตาสิที่รัก” คาร์ลร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่แทนที่ไขไข่จะลืมตาตามที่เขาบอกเธอกลับนอนนิ่งเหมือนเมื่อกี้เป็นเพียงแค่ความฝัน
“ไขไข่...” คาร์ลเรียกชื่อเธออีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม เธอนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง
“เธอเป็นอะไรไปครับ” คาร์ลเรียกคุณหมอมาตรวจพร้อมกับเล่าอาการที่เขาได้เจอ
“เธอปกติดีครับ ดูจากสีหน้าแล้วดูดีขึ้นจากเดิม ผมคิดว่า ‘ปาฏิหาริย์’ คงมาแล้สละครับ” และคุณหมอก็เดินออกไป ทิ้งไว้ให้คาร์ลทำความเข้าใจกับที่คำพูดของหมอ
“รีบๆกลับมานะครับ คนดีของผม” เมื่อเขาเข้าใจคำพูดของคุณหมอเขาก็โน้มหน้าจุมพิตที่หน้าผากมนเป็นรางวัล
“หนูยังไม่อยากกลับ” ตลอดเวลาที่ร่างกายของเธอนิ่งไม่ขยับตอบสนองใครเป็นเพราะเธออยู่กับบิดามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว
“มันถึงเวลาของลูกที่ต้องกลับไปแล้ว ที่นี้ไม่ใช่ที่ของลูกนะ” แม่พูดพร้อมกับเอาลือลูบหัวเบาๆ
“แต่หนู...” หญิงสาวพยายามแย้งแต่ก็ถูกพ่อขัดมาเสียก่อน
“หนูไม่เป็นห่วงคาร์ลหรอ ดูเขาทุกข์มากเลยนะ”
“นั้นสิจ๊ะ ไม่สงสารลูกป้าบ้างหรอ” ผู้หญิงตรงหน้าที่สวยราวรูปปั้นนั้นเป็นคุณแม่ของคุณคาร์ลที่ยืนคล้องแขนคู่ชีวิต
“ก็...แต่หนูไม่รู้วิธีกลับนิคะ” ขนาดเธอมาเธอยังไม่รู้ว่าเฮมาได้อย่างไรเลย พอรู้ตัวก็มีพ่อมีแม่มองอยู่ข้างๆเสียแล้ว
“เดี๋ยว สองแฝดพากลับเองจ๊ะ ลูกไม่ต้องห่วง” สองแฝดที่คุณแม่พูดถึงก็คือวิญญาณสาวที่ช่วยฉันเสมอๆ
“ยินดีจ้า” เธอสองคนพูดประสานเสียงพร้อมเดินเข้ามาควงแขนฉันคนละข้าง “ไปละนะจ๊ะ”
“เดี๋ยวก่อน...” ก่อนที่สองแฝดจะพาฉันกับ ฉันก็วิ่งเข้าไปกอดแม่ “ ‘รอ’ใช่แม่?”
“ใช่...แม่ขอโทษนะ ที่ทำได้เพียงแค่นั้น” แม่พูดออกมาด้วยเสียงเครือแล้วลูบหลังฉันเบาๆ
“หนูจะยัง ‘รอ’ นะคะ” ฉันสบตาแม่ที่ตอนนี้น้ำคลอเต็มหน่วยตา
“ลูกต้องอดทนนะ และแม่จะเป็นกำลังใจให้...” ภาพของคุณแม่เริ่มเลื่อนออกไปไกลขึ้นเลื่อยๆ
“เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังไม่ได้บอกลาพวกท่านเลย” แต่เธอก็แย้งไม่ทันเมื่อสองสาวพาเธอมาที่ห้องขาวสะอาดบริสุทธิ์ โดยมีร่างของเธอที่นอนอยู่
“แล้วเจอกันนะจ๊ะ” สองสาวหันมาหอมแก้มแล้วก็หายวับไป
“แล้วฉันจะกลับเข้าร่างยังไงดีละเนี่ย” ไขไข่เกาหัวตัวเองแล้วมองร่างของตัวเอง
“เอาวะ”เธอทำตามที่ดูละครและหนังโดยการที่เข้าไปนอนทับในร่างของเธอ “ได้ผลไมน่า”
“ไขไข่...” เสียงของคาร์ลดังข้างหูทำให้ไขไข่ลืมตาตื่น “คุณฟื้นแล้ว”
“...” เธอมองหน้าคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ เนื่องด้วยยังปรับสภาพไม่ทัน
“ผมจะตามคุณหมอมานะครับ” และพอคาร์ลจะออกไปตามคุณหมอไขไข่ก็ได้ยื่นมือไปจับข้อแขนเขาไว้แน่นและพยายามพูด
“ฉัน...เจอแม่คุณด้วย” เสียงที่แห้งผากทำให้คาร์ลถึงกับมองตาโต
“คุณว่าอะไรนะครับ” คาร์ลถามอีกครั้ง
“ฉันหิวน้ำ”
“อ่อ... แปบนึงนะ”
“ค่อยๆครับ”
“เมื่อกี้ฉันพูดว่า...”
“ผมจะไปตามคุณหมอมานะครับ”
“ฉันเจอแม่...ของคุณ” ฉันรีบพูดไปก่อนที่ความทรงจำที่ได้อยู่กับแม่จะหายไป
“แม่ของคุณฝากมาบอกว่า... ดูแลฉันด้วย” เพียงแค่นั้นคาร์ลก็หันกลับมามองฉันด้วยความตะลึงอีกครั้ง
“และคุณพ่อคุณบอกว่า...ถ้าคุณดูแลฉันไม่ดี คุณพ่อจะหาคนใหม่ให้ฉัน” เพียงเท่านั้นเขาก็วิ่งเข้ามาหาฉันทันที
“พอแม่ฉันตอบตกลงให้คุณดูแลฉัน แต่ก็ต้องอยู่ในความตัดสินใจของฉันอีกที” ฉันพูดต่อเพื่อให้เขาได้เข้าใจว่าฉันยังมีสิทธิ์ที่จะไม่รับรักเขา
“ผม...” คาร์ลผละออกจากฉันแล้วมองเข้ามานัยน์ตาเพื่อจะค้นหาอะไรบางอย่าง
“คุณไปตามคุณหมอเถอะคะ” สีหน้าของเขาบ่งบอกได้ว่าเขากลัวและไม่กล้าที่จะห่างไปจากฉัน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องจำใจออกไปตามคุณหมอ
“ขอผมตรวจดูหน่อยนะครับ” แล้วคุณหมอก็เอาไฟฉายมอส่องที่ดวงตาของฉัน ฟังเสียงการเต้นของหัวใจและอีกมากมาย
“โดยรวมปกตินะครับ อีกสักพักจะให้พยาบาลพาไปเอ็กซเรย์ดูภายในอีกทีนะครับ”
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ” ฉันกล่าวพร้อมรอยยิ้ม แต่คาร์ลยังคงนิ่งเงียบ
“ไม่เป็นไรครับ”
“เป็นอะไรไปคะ” ไขไข่หันไปถามคาร์ลที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองหน้าจอแทบเลต
“...” ไม่มีเสียงตอบรับ
“คุณคาร์ลคะ” ไขไข่ทักเสียงดังขึ้น
“...” คาร์ลเงยหน้าตามเสียงเรียกแต่ก็ยังไม่เอ่ยอะไร
“คุณดูแปลกๆไปนะคะ” ไขไข่ถามด้วยความไม่สบายใจ
“ผมก็ปกติดีนิ” แล้วเขาก็ก้มหน้า
“นี้นะที่ไม่แปลก” ไขไข่บ่นในใจแล้วเร่งเสียงโทรทัศน์
“คุณเบาๆเสียงหน่อยสิ ผมกำลังทำงาน” และเขาก็ทนไม่ได้จนต้องพูดออกมา แต่มีหรือที่ขายไข่จะสน
“ไขไข่” เขาเดินเข้ามาอยู่ข้างๆเมื่อไรไม่รู้แต่เขาก็คว้ารีโมทไปลดเสียงและปิดโทรทัศน์
“คุณปิดทำไมคะ ฉันกำลังดูอยู่” ไขไข่หันไปโวยเมื่อถูกแย่งรีโมท
“ผมจะไม่ว่าเลยถ้าคุณเปิดเสียงเบา ผมกำลังทำงานอยู่...”
“ที่นี้มันโรงพยาบาลไม่ใช้ออฟฟิศนิคะ” ไขไข่แย้งทันที
“นี้ใช่คุณหรือเปล่า” คาร์ลมองไขไข่ด้วยความไม่แน่ใจ
“แล้วที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันใช่คุณคาร์ลที่ฉันรู้จักหรือเปล่าคะ” ไขไข่ใช่คำถามเดียวกันย้อนถาม
“ผมจะออกไปข้างนอก” เมื่อเล่นจ้องตากันนานพอสมควรคาร์ลก็เป็นฝ่ายยอมแพ้แล้วเดินออกไปนอกห้องโดยทิ้งไขไข่ที่ไม่ละสายตาไปจากเขาเลย
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าคุณยังรอฉันอยู่” ไขไข่เอ่ยรำพังแล้วล้มตัวลงนอนมองออกไปนอกหน้าต่างที่ตอนนี้เริ่มที่สายฝนโปรยลงมา
“ก็แค่นั้นเอง...” น้ำตาที่จู่ๆไหลรินออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้ขายไข่เริ่มไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ฉันรักคุณนะคะ” และเธอก็หลับตาลงเพื่อซ่อนสิ่งที่อยู่ในตาให้หายกลับเข้าไป
เธอแค่อยากให้แน่ใจว่าคนที่เธอจะฝากชีวิตให้นั้น เขาสามารถดูแลเธอได้แค่ไหน และเธอก็เริ่มเชื่อในตัวเขามากขึ้นเพราะเขาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้ ถึงแม้ว่าเธอจะต้องเจ็บตัวไปบ้างแต่เธอก็พร้อมที่จะยอมรับความเจ็บปวดนั้นเพื่อให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นต้องการเขามาดูแลปกป้อง แต่มาตอนนี้เขากลับ...เปลี่ยนไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ