องศามายา

   หลังจากกลับมาจากกองถ่ายละครในช่วงดึก ชีรฎาก็รู้สึกเพลียเป็นอย่างมากเหตุด้วยซีนที่ต้องจุมพิตกับพระเอกกลางทะเลอันหนาวเหน็บนั้นเล่นเอาหลายเทคอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เพราะว่าตัวพระเอกที่อยากจะจูบเธอบ่อยๆหรอกน่ะ แต่เป็นเพราะเธอมากกว่าที่ไม่ค่อยจะมีสมาธิเอาเสียเลย กว่าจะปิดกองของวันได้ก็ปาไปเกือบตีหนึ่ง ทำเอาผู้กำกับและทีมสร้างถึงกับกุมขมับเครียดกันเลยทีเดียว

หวังว่าเช้าวันพรุ่งนี้จะคงมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นกับเธอด้วยเถิด สาธุ ก่อนจะทิ้งร่างอันไร้เรี่ยวแรงลงบนเตียงและก็ผล็อยหลับไปในที่สุด

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

มือเรียวบางเอื้อมไปกดปิดนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียงให้หยุดส่งเสียงก่อนที่แทรกตัวเองเข้าใต้ผ้าห่มเตรียมเข้าห้วงนิทรอีกครั้ง แต่เสียงรบกวนก็ดังขึ้นมาอีก สงสัยคราวนี้คงไม่ใช่นาฬิกาปลุกอย่างที่คิด

หญิงสาวคว้าโทรศัพท์ไอโฟนที่เพิ่งไปดาวน์มาสดๆร้อนๆ ก่อนจะกดรับทั้งที่ยังไม่ได้ดูที่จอสกรีนเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล๋”

“ชมพ์ แกอยู่ไหน?”

เสียงของแม่ชีแห่งชมพูทวีปแว่วเข้ามาแทนที่จะทำให้คนเบลอๆตื่นขึ้นมา ตรงกันข้ามกลับเหนี่ยวนำให้ง่วงมากขึ้นไปกว่าเดิม

“อยู่คอนโด” ปลายสายตอบกลับไปเสียงเนือยๆ ก่อนจะทิ้งโทรศัพท์ลงข้างตัวและก็เปิดลำโพงขยายแทน

“อ่านข่าวบันเทิงตอนเช้าหรือยัง ?”

“ยังอ่ะ ยังไม่ตื่นเลยเนี่ย ขอนอนก่อนแล้วค่อยตื่นมาอ่าน”

“ไม่ต้องนงต้องนอนมันแล้ว มีแต่ข่าวของแกเต็มไปหมดเลย”

“หา? ข่าวของฉัน” ชีรฎาเบิกตาโพลง ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอลุกขึ้นมานั่งอย่างงงๆ สภาพหัวยุ่งเหยิงราวกับผ่านการสู้รบมาหยกๆ

ตอนนี้ในหัวสับสนวุ่นวาย ไปหมด จะมีข่าวอะไรของเธอได้ในเมื่อช่วงนี้เก็บตัวเงียบไม่ได้ไปก่อเรื่องไว้ที่ไหนเลยน่ะ ข่าวมั่วหรือเปล่า?

“ใช่ๆ ข่าวแกกับผู้ชาย” ปลายสายตอบมาเสียงใคร่อยากรู้อยากเห็น

“ผู้ชาย? ใครกัน?”

ชีรฎาโพล่งออกมาสุดแสนจะสงสัยว่าใครคือคนที่ขึ้นพาดหัวข่าวกับเธอ

“ฉันก็ไม่รู้ เธอลองไปดูเองแล้วกัน แค่นี้ก่อนน่ะ”

“โอเค ขอบใจแกมากที่แจ้งข่าว”

ชีรฎากดตัดสายก่อนจะรีบเสิร์ชข่าวซุบซิบผ่านทางไอโฟนทันที

องศา ทายาทห้างดังติดใจน้องชมพู่ ชีรฎา

ถึงขั้นลอบส่องภาพกลางดึกในห้องนอน

พาดหัวข่าวไม่ได้ทำให้เธอกระจ่างแจ้งแถลงความอะไรเลยสักนิด ตกลงว่าเรื่องทั้งหมดมันคืออะไรกันแน่

วะว้าว วี้ดวิ้ว ข่าวร่ำข่าวลือที่ว่าคุณองศา ทายาท P.T.S. เป็นเพลย์บอยระดับประเทศคงจะมั่วนิ่มเสียแล้วล่ะค่ะ เพราะงานนี้ตัวจริงเสียงจริงที่คว้าใจหนุ่มหล่อคนนี้ไปครองปรากฏตัวออกมาแล้วจ้า ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลเลย ก็เป็นน้องชมพู่ ชีรฎา ดาราสาวหน้าเป๊ะของเรานี่เอง งานนี้จะมาหาว่ามาดามเพ้อหรือมโนไปเองไม่ได้น่ะคร่า เพราะหลักฐงหลักฐานทนโท่เสียขนาดนั้น เปิดรูปน้องชมพู่แฟนสาวดูกลางดึกทุกวั๊นทุกวันขนาดนี้ ท่าทางจะรักจริงหวังแต่เสียแล้ว อีกไม่นานเราคงจะได้ร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันกันแน่ๆ สงสารก็แต่เหล่าแฟนคลับของทั้งสองคงต้องแห้วไปตามๆกัน

โอย!! จะเป็นลม นี่มันอะไรกัน ข่าวโคตรจะมั่ว ไม่เห็นจะมีมูลเลยสักนิดเดียว ใครแอบส่องภาพใคร ใครจะแต่งกับใคร ใครคือองศา  แล้วฉันไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยล่ะเนี่ย?

แลดูชีวิตจะวุ่นวายมากขึ้นไปทุกที สื่อก็ชักจะเอาใหญ่แล้วหาเรื่องให้มาให้เธอไม่เว้นแต่ละวันที่สำคัญมีแต่ข่าวฉาวๆทั้งนั้น ไอเรื่องดีๆและไม่เคยคิดจะเอามานำเสนอพาดหัวข่าวกันบ้าง ช่างน่าน้อยใจยิ่งนัก

ชีรฎาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอามือขยี้ศีรษะอย่างแรงจนฟูฟ่องเหมือนซังกุงสมัยอาณาจักรโชซอนของเกาหลี ว่าจะยิ้มให้กับวันใหม่ที่แสนจะสดใสสักหน่อย แต่มาถึงเวลานี้แทบกระอักเลือดแทนต่างหาก

เหลือบไปมองนาฬิกาก็เกือบจะสิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว เลยต้องรีบไปแต่งองค์ทรงเครื่องเตรียมไปอีเว้นท์ตอนบ่ายสอง

ต้องละทิ้งเรื่องบั่นทอนจิตใจออกไปเสียก่อน เพราะงานนี้เขายิ่งใหญ่จริงๆ ต้องจัดเต็มเท่านั้นยิ่งจะเลิศและเป็นที่จับตามอง ที่สำคัญต้องทำตัวให้คุ้มกับเงินที่ได้มาตั้งหกหลัก ประเดี๋ยวจะติฉินนินทากันอีกว่าชมพู่หน้าเป๊ะคนนี้หน้าเงิน จ้างมาไม่คุ้มเสีย

ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงเศษ ก็เปลี่ยนซังกุงผมฟูให้กลายมาเป็นนางซินผมลอนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ตำรับตำราไก่งามเพราะขน คนงานเพราะแต่งนี่ใช้ได้ตลอดทุกยุคทุกสมัยจริงๆ

ร่างบางในชุดเดรสยาวด้านบนเป็นเกาะอกสีดำรัดรูปส่วนด้านล่างเป็นกระโปรงสีขาวปล่อยยาวพลิ้วลงมาตามธรรมชาติ แต่งแต้มด้วยเครื่องประดับไม่ว่าจะสร้อยและกำไลแฟชั่นไฮโซตามมาด้วยรองเท้าส้นสูงสีส้มแปร๊ดที่แลเห็นตั้งแต่รัศมีสองกิโลเมตร ก่อนที่จะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าหลุยส์ วิตตองและโทรศัพท์เครื่องหรูเตรียมพร้อมสำหรับการออกเดินทาง ครั้งนี้ทางเจ้าภาพส่งรถมารับเป็นกรณีพิเศษเลยไม่ต้องขับรถไปเองให้ชุดยับ

ถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้สักสองสามแช๊ะ เอาไว้ลงอินสตาแกรมให้แฟนคลับทุกเพศทุกวัยได้ชื่นชมของความงามอย่างมีคุณค่าของเธอ พร้อมกับไปส่องกระจกอีกครั้งเอาให้มั่นใจที่สุดว่าคืนนี้ใครหน้าไหนอย่างได้มาเทียบรัศมีความงามเพียงหนึ่งเดียวของเธอได้ ทั้งนี้ยังขอเติมปาก เติมคิ้วพอให้แลดูเปรี้ยวจี๊ดจาดขึ้นมาอีกหน่อย เดินนวยนาดโพสท่าเซ็กซี่ก่อนจะกระชับเกาะอกที่ชักจะหลวมๆและก็เดินออกจากห้องพัก

ด้วยความมั่นใจและมั่นหน้า ขอบอกเลยว่า ใครไม่เหลียวหันมามองเธอก็ให้มันรู้ไป

  ชีรฎาเดินไปกดลิฟต์ก่อนที่จะก้าวเข้าไปเมื่อประตูเปิดออก กดชั้นหนึ่งพร้อมทั้งปิด ประตูค่อยๆปิดช้าๆตามมาด้วยมือหนาอันปริศนาที่แทรกเข้าระหว่างประตูทั้งสองข้าง ก่อนที่ประตูจะเปิดออกและก็มีคนเดินเข้ามาร่วมลิฟต์กับเธอ คนๆนั้นเอื้อมมือไปกดปุ่มให้ประตูลิฟต์ปิด ตัวเธอนั้นไม่ได้หันไปมองว่าเป็นใครเพราะว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสนใจ แต่จากรัศมีพลังบางอย่างน่าจะระบุเพศคนที่ยืนข้างๆได้ว่าเป็นเพศชาย ตัวสูง ผิวเข้มๆออกสีแทน

จากชั้นสามสิบลงมาก็ค่อนข้างใช้เวลานานสักหน่อย ชีรฎาเริ่มขยับตัวพร้อมสะบัดผมเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา สังเกตเห็นคนข้างๆเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอโทรศัพท์เหมือนกัน

“คุณ!!”

เสียงของชายตรงหน้าเธอดังสะท้อนทั่วตัวลิฟต์

“คุณ!!” ชีรฎาชี้หน้าผู้ชายคนนั้นกลับอย่างตกใจไม่แพ้กันก่อนที่เธอจะรีบกดเปิดตัวลิฟต์เพราะว่าถึงชั้นหนึ่งพอดับพอดี พลางคิดว่าตัวเองรอดแน่แล้ว

ร่างบางรีบก้าวออกจากตัวลิฟต์อย่างไว พร้อมที่จะวิ่งด้วยความเร็วสูง หากแต่เวลานั้นเหมือนความเย็นวาบเข้าจู่โจมร่างกายของเธออย่างฉับพลัน

พรึ่บ!!