ประเด็นรัก พิทักยัยจอมเพี้ยน
9.4
เขียนโดย Sosrayty
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.12 น.
1 ตอน
3 วิจารณ์
3,814 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 22.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ประเด็นรัก พิทักยัยจอมเพี้ยน ตอนที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยูมีนร้องไห้สักพัก ก่อนเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าอย่างลวกๆก่อนลากลงมายังชั้นล่าง
“คุณหนูจะไปไหนคะ”สาวใช้ในบ้านร้องทักเมื่อเห็น
“อย่ามายุ่งกับฉัน”ยูมีนพูดเสียงเรียบ ทำให้สาวใช้ไม่กล้าถามอะไรอีก
ยูมีนเดินมาถึงรถก็จัดการโยนกระเป๋าใบใหญ่เข้าประตูหลังก่อนจะเดินมายังที่นั่งคนขับแล้วขับรถออกไปพร้อมต่อสายหาเพื่อนสาวคนสนิท
(ว่าไงยัยคุณหนู)
“อามิ ฉันขอไปอยู่กับแกสักพักได้ไหม”
(เห้ย อารมณ์ไหนเนี่ย แกเนี่ยนะจะมาอยู่คอนโดฉัน)
“จะทำไม ตอบมาว่าได้หรือไม่ได้”
(เออๆได้สิ ไหนบอกพ่อแกจับกลับบ้านไง)
“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ตอนนี้แกมาเปิดประตูห้องให้ฉันก่อนดีกว่า”
(มาถึงตอนไหนเนี่ย เออ รอแปบนึง ติ๊ด!)
“หวัดดี”ยูมีนกล่าวทัก
“มาหวัดดงหวัดดีอะไรล่ะ บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าเกิดอะไรขึ้น”อามิกอดอกถาม
“อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าชีวิตหน่อยเลย ให้ฉันเข้าไปก่อนได้ไหม ฉันเมื่อย”ฉันทำหน้าประมาณว่า เพิ่งวิ่งโอลิมปิกมาอะไรประมาณนั้น
“เออๆ เข้ามาดิ”เมื่อเข้ามานั่ง ยูมีนก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อามิฟัง
“ฉันว่าแกก็ผิดนะแทนที่จะขอโทษแตะกลับโวยวาย แต่พ่อแกก็เกินไปนะ”อามิว่า
“เห็นมั้ย ฉันก็มีหัวใจนะ”ยูมีนได้ทีก็ออดอ้อนเพื่อนสาว
“งั้นเอาเป็นว่าแกอยู่ที่นี่ไปก่อนได้ แต่ฉันไม่อยู่นะ พ่อฉันตามตัวฉันให้ไปช่วยงานที่บริษัททางนู้นน่ะสิ อีกนานกว่าจะกลับ แกอยู่ได้ใช่มั้ย”อามิหันมาถาม
“ได้สิจ๊ะ ยูมีนซะอย่าง”ยูมีนพูดอย่างภูมิใจในตัวเอง
“ดีมาก งั้นฉันไปก่อนนะ”พูดจบอามิก็รีบจ้ำเท้าเดินออกห้องไปโดยไม่หันหลังกลับเลยทีเดียว และไม่ยอมฟังเสียงคัดค้านที่ดังตามหลังของยูมีนเลยด้วยยูมีนนั่งถอนหายใจไปสักพักก่อนตัดสินใจอาบน้ำ
ปังๆๆๆ!
“โอ๊ย ใครมาทุบประตูกันเนี่ย ไม่มีมารยาท”ยูมีนบ่นอย่างหงุดหงิดก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มร่างกายตามด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมไหล่อีกผืนแล้วเดินออกไปเปิดประตู
“มาแล้วๆ อะไรนักหนา”ยูมีนว่าพลางเปิดประตู
“เธอเป็นใครเนี่ย”เจ้าของเสียงผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยถามยูมีนอย่างสงสัย
“ฉันเป็นเพื่อนของอามิ ตอนนี้อามิไม่อยู่ นายมีอะไรหรือไม่ ถ้าไม่กรุณาออกไปได้เลยนะ”ยูมีนถามเองตอบเอง
“ฉันก็เป็นแฟนเธอในอนาคตไงจ๊ะ”อินซูมองยูมีนอย่างพินิจเรืองร่าง ทำให้ยูมีนเริ่มระแวง
“อย่ามาทำบ้ากามน่าอินซู นั่นเพื่อนน้องสาวฉันนะ”เสียงท้วงที่ดังมาจากข้างหลังหอบกระเป๋าใบมหึมาเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาษะ
“พวกนายเป็นใคร นี่พวกนายเข้ามาไม่ได้นะ”ยูมีนเริ่มโวยเมื่อเห็นท่าไม่ดีของสองหนุ่ม
“แต่ฉันมีสิทธิ์เข้าในฐานะเจ้าของห้อง แต่คุณชายฮวงผู้นี้ไม่ทราบนะครับ”ซังอูหนุ่มหล่อมาดนิ่งพูดแกล้งเพื่อนชายอย่างไม่ไว้หน้า ตามประสาคนสนิท
“คุณชายคิมคร๊าบ ให้กระผมย้ายมาอยู่กับท่านเถอะ กระผมอยากจะเป็นบอดี้การ์ดให้กับสาวน้อยนางนี้”อินซูทำท่าทางน่าสงสารแต่แววตากลับเจ้าเล่ห์
“พูดมากน่าอินซู แกกลับไปได้แล้ว หมดหน้าที่ของแกแล้ว ไปๆ”ซังอูโบกมือไล่เพื่อน
“เออก็ได้ จำไว้เลยแก จะเก็บไว้กินเองน่ะสิเพื่อน”อินซูว่าแกล้งเพื่อน
“ไอ่บ้านี่”ซังอูเกิดหมันไส้ไล่เตะอินซูจนวิ่งหนีเข้าลิฟไป
“ฉันขอถามคำถามเดิม นายเป็นใคร และเป็นอะไรกับอามิไม่ทราบ”ยูมีนเปิดฉากถาม
“ฉันตอบไปแล้ว ส่วนเป็นอะไรกับอามิ เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”ซังอูตอบเสียงเรียบ
“ฉันจะถามอีกครั้งเดียวนะ ว่านายเป็นอะไรกับอามิ และมาทำอะไรที่นี่”
“น่ารำคาญจริงๆ ฉันเป็นพี่ชายของอามิ เป็นเพื่อนกันภาษาอะไร ไม่รู้ว่าอามิมีพี่ชายคือฉัน”
“ก็ฉันจะไปตรัสรู้หรอ ว่านายเป็นใคร ก็จู่ๆก็เดินจ้ำเข้ามา คนอื่นเขาก็ตกใจเป็นนะคะคุณพี่”ยูมีพูดเสียงสูง ซังอูเหลือบมองนิดหน่อย ก่อนเดินหอบกระเป๋าเข้ามาในห้องนอน ยูมีนเห็นจึงรีบตามไปหวังเพื่อจะพูดห้ามแต่...
“เธอจะยั่วฉันรึไง”ซังอูว่า ก่อนมองเรือนร่างขาวสะอาดของยูมีนจนเธอรู้สึกอาย
“จะบ้าหรอ ฉันจะมาเอาเสื้อผ้าฉันสิ”ยูมีนเปลี่ยนแผนตรงดิ่งไปยังกระเป๋าเสื้อผ้าสีชมพูหวานแหววใบโปรดของเธอ
“อย่าบอกนะว่านั่นกระเป๋าเธอน่ะ”ซังอูมองอึ้งๆผิดกับยูมีนที่มองซังอูแบบงงๆ
“ถ้าไม่ใช่ของฉันจะของใครล่ะ มีกันอยู่สองคนเนี่ย บ้ารึเปล่า”
“ก็มันเหมือนของฉันเลยนะสิยัยบื้อ”ซังอูว่า ยูมีนจึงชะเง้อไปมอง
“เฮ้ย ทำไมนายใช้กระเป๋าสีชมพูล่ะ นายเป็นแต๋วหรอ”
“ไม่ใช่ เธอจะบ้าหรอไง ออกจะแมนขนาดนี้ หรือเธอจะลอง”ซังอูเริ่มหาเรื่อง ‘นึกได้ยังไงว่าเราเป็นแต๋ว’
“ไม่ลงไม่ลองอะไรทั้งนั้นแหละ แล้วทำไมนายถึงใช้สีชมพูล่ะ”ยูมีนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เรื่องของฉัน ถ้ายังถามอีกฉันจะจับเธอปล้ำเพื่อพิสูจน์เลยเอ้า” ซังอูพูดทำให้ยูมีนเอามือปิดปากแทบไม่ทันก่อนจะค้อนใส่และเดินหนีไป
[SungAu Take]
หลังจากที่ยัยตัวแสบเดินออกไป ผมก็ต่อสายหาน้องสาวสุดป่วนของผมทันที
(ว่าไงคะพี่ชาย)
“คิดว่าไงล่ะ ทำไมไม่บอกว่าเพื่อนเรามาอยู่ล่ะห๊า”
(อ่าว พี่ชายไปห้องหรอคะ พ่อตามอามิมาช่วยงานที่นี่อ่ะค่ะ)
“รู้แล้ว แต่ทำไมไม่บอกก่อนว่าจะเอาเพื่อนมาอยู่ นี่พี่ย้ายมาอยู่นะ”
(แล้วพี่ทำไมไม่บอกอามิก่อนล่ะคะ)
“อย่ามาย้อนพี่นะ เพื่อนเราเป็นใครล่ะห๊า พี่ไม่เห็นคุ้นหน้าเลย”
(ยูมีน เพื่อนที่มหา’ลัยอ่ะค่ะ ยูมีทะเลาะกับที่บ้านมา เลยมาขออยู่สักพัก)
“ชื่อคุ้นๆนะ ใช่น้องสาวมินโฮหรือเปล่า”
(ใช่ค่ะ อามิขอตัวก่อนนะคะพี่ชาย คุณพ่อเรียกประชุมด่วนน่ะค่ะ บายค่ะ)อามิชิงตัดสายก่อนที่ผมจะถามอะไรไปมากกว่านี้ ผมถอนหายใจก่อนจะเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปหวังจะพบยัยตัวแสบนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ห้างนอก พอออกไปกลับไม่พบใครเลย นอกจากโทรศัพท์รุ่นเก๋ากึกเครื่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะทานอาหาร เมื่อกดดู พบคลิปเสียง จึงเปิดฟัง
(ถ้าแกยังไม่อยากให้แฟนของแกตาย มาเจอฉันที่เดิม คงจำได้สินะ แกรู้ใช่มั้ยว่าแกต้องทำยังไงซังอู มาเร็วๆล่ะ ไม่งั้นคงรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น)ผมอึ้งไป 15 วินาที ไม่คาดว่ายองเฮจะกล้าส่งคนมาลักพาตัวยูมีนไป ผมจึงรีบโทรหามินโฮทันที
(ขออภัย เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ...)
“อะไรวะเนี่ย”ผมสถบอย่างหัวเสีย แล้วรีบส่งข้อความเรียกคนในแก๊งให้มารวมตัวกันทันที
หลังจากที่ซังอูเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
“เอาไงดีวะอินซู คู่หูDuo แกเลยนะ”วูบินรองประธานหมายเลข 2 ของแก๊งพูดใส่ความเพื่อน
“ไม่ใช่ของฉันคนเดียวนะคุณชายซอง นู่นๆคนนู้นเลย”อินซูรองประธานหมายเลข 1 เพยิดหน้าไปทางซังอูที่นั่งเคลียสอยู่
“อย่ามัวเล่นดิ ช่วยกันคิดหน่อยว่าจะเอาไงดี”ซังอูกดเสียงต่ำ
“มีอะไรที่คุณชายคิม ประธานแก๊งผู้สูงส่งผู้นี้จะทำไม่ได้มั่งล่ะครับ”อินซูว่า
“แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำไมแกจะต้องห่วงใยอะไรมากมายด้วยวะ”ฮันเซรองประธานหมายเลข 3 ว่าบ้าง
“ยูมีนเป็นเพื่อนน้องสาวฉัน”ซังอูอธิบาย เพราะรู้ดีว่าพวกเขาไม่อยากจะเสี่ยงตายเพราะผู้หญิงคนเดียว
“แล้วทำไมต้องจับตัวเธอไปด้วย ไม่เห็นเกี่ยวเลย จับตัวอามิไป ก็ว่าอีกอย่าง”วูบินสงสัย
“ก็พวกนั้นเข้าใจว่ายูมีนเป็นแฟนฉันน่ะสิ”ซังอูยังคงอธิบาย
“แล้วจริงรึเปล่า ถ้าไม่จริง แกไม่มีวันสนใจหรอก ซังอู”วูบินพูดอย่างจับผิด
“แต่มันเป็นความรับผิดชอบของฉันที่ดึงตัวยัยนั่นเข้ามาเกี่ยว ขอบใจพวกแกนะที่มา”ซังอูพูดตัดบท ตัดสินใจลุยเดี่ยว แล้วจ้ำเท้าเดินออกไป
“เมื่อไหร่มันจะมาล่ะครับ นาย”ลูกน้องเบอร์หนึ่งของยองเฮเอ่ยถาม
“อยากตายไวหรอไง ขนาดฉันเป็นคนโดนจับ ยังไม่รีบเลย”ยูมีนเสียงสูง
“เอ๊ะ ยัยนี่”คนที่จับตัวยูมีนมาว่า ทำท่าจะตบฉัน ส่วนยูมีนยื่นหน้าให้ตบแบบไม่เกรงกลัวเลยสักนิด
“เอาน่า เดี๋ยวไอ่ซังอูมันมาทุกอย่างก็จบ”ยองเฮว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“มั่นใจจังนะ พวกแกมันก็แค่หมาหมู่ เอาแต่ซุ่มอยู่ข้างหลังมุดหัวอยู่ในที่มืด เก่งแต่ในรู ไม่มีทางจะเอาชนะได้หรอก”ยูมีนพูดจบ ด้ามปืนในมือของยองเฮก็ฟาดเข้ามาที่ปากของยูมีนจนเธอล้มลงไปนอนกองกับพื้น
“ไอ่พวกทุเรศอย่างพวกแก ไม่ตายดีแน่”ยูมีนคิดแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือและเท้าของเธอถูกมัด
“อยากโดนอีกใช่มั้ย ได้เลย จัดให้นะคนสวย”ยองเฮเลียริมฝีปาก ก่อนจะตรงเข้ามาอุ้มยูมีนพาไปยังห้องร้างที่อยู่ใกล้ๆ แล้วโยนเธอลงอย่างไม่ปราณี
“แกจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ”ยูมีนโวยวายและดิ้นพล่านอย่างหวาดกลัว พยายามมองหาทางหนี
“มานี่ซะดีๆ”ยองเฮก้มจูบยูมีน ยูมีนจึงกัดลิ้นของยองเฮ
“โอ๊ย!แกแสบนักนะ งั้นต้องเจออย่างนี้ถึงจะหมดฤทธิ์”ยองเฮชกเข้าที่ท้องของยูมีน ยูมีนจุกจนพูดอะไรไม่ออกแล้วก็สลบไป ยองเฮเห็นดังนั้นจึงคิดจะสานต่อความปรารถนาที่ตั้งไว้แต่...
“ไอ่ซังอูมันมาแล้ว นาย”ลูกน้องคนสนิทรีบวิ่งมาบอก ยองเฮจึงหยุดการกระทำตรงหน้า แล้วเดินออกไปเผชิญกับยองเฮ
“กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเชียว มาได้เวลาเหมาะเจาะเสียจริง”ยองเฮเสียงสูง
“แกทำอะไรเธอ”ซังอูกดเสียงต่ำอย่างแค้นเคือง
“ยังหรอก แต่ถ้ามาช้ากว่านี้ ไม่แน่ แกกล้ามากนะที่มาคนเดียว”
“มีอะไรมาคุยกับฉัน อย่าเอาผู้หญิงมาเกี่ยว”
“คนอย่างแก ห่วงคนอื่นเป็นด้วยหรอวะ”
“พูดมาก ส่งยูมีนมา”
“คนสวยชื่อยูมีนหรอ คุ้นๆนะ แล้วแกคิดว่าไง”ยองเฮพูดอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า
“ต้องการอะไร”ซังอูเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ กำมือแน่น
“ชีวิตของแกไง จัดการมัน”ยองเฮพูดก่อนหันไปสั่งลูกน้อง ลูกน้องของยองเฮหลายสิบคนตรงเข้ามาหาซังอู ซังอูต่อสู้กับคนเหล่านั้นได้อย่างทุลักทุเล เนื่องจากมีมากเกินไป แต่ในเวลาคับขันเช่นนี้ ก็มี...
“มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอ ยองเฮ”อินซูเดินเข้ามายังสถานที่ที่อันตรายนั้นพร้อมกับเพื่อนชายอีกสองคน
“ไม่คิดจะส่งการ์ดเชิญให้ฉันบ้างหรือไงเพื่อน”วูบินพูดบ้าง
“แกยังแผนสกปรกเหมือนเดิมนะไอ่ยองเฮ”ฮันเซพูดจบก็ตรงเข้าไปช่วยซังอูตามด้วยวูบิน อินซูส่งซิกให้ซังอูไปช่วยยูมีน ก่อนจะเข้าไปร่วมวงอีกแรง ซังอูรีบวิ่งตามหายูมีนจนพบสภาพของเธอที่นอนกองกับพื้นอย่างไม่มีท่าทีจะตื่น เขาจึงอุ้มยูมีนขึ้นพาดบ่า แล้วพาเธอออกไปยังที่ปลอดภัย นั่นคือคอนโดของเขานี่เอง
[SungAu Take]
ผมวางเธอลงบนเตียงนอนแล้วเดินไปหาอุปกรณ์ทำแผลที่ตู้ยามาวางไว้ข้างๆ ก่อนลงมือทำแผลให้ยูมีนอย่างเบามือ
“อื้อ”ยูมีนครางเบาๆหลังจากที่ผมใช้แอกอฮอล์เช็ดแผลที่มุมปากให้เธอ ผมเผลอมองใบหน้าขาวใสที่หลับตาพริ้ม ปากที่เคยโวยวายตอนนี้บวมเป่ง ผมมองเธออย่างหลงใหลก่อนเผลอตัวจุมพิตที่หน้าผากของเธออย่างลืมตัว เมื่อได้สติ ผมถอยกรูดแทบตกเตียง
“เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย เธอเป็นแม่มดหรือไง ยูมีน”ผมบ่นงึมงำ ก่อนเดินออกไปโทรศัพท์ที่ระเบียง
(ว่าไงคุณชายคิม ทิ้งเพื่อนเลยนะ)อินซูพูด
“แกบอกให้ฉันไปช่วยยูมีนก่อน”
(ก็ไม่ได้หมายความว่าพากลับคอนโด พาเข้าห้องนอน แล้วก็พา...)
“แกจะบ้าหรือไง เพื่อนน้องนะเว้ย”
(ให้มันเป็นเพื่อนน้องนานๆก็แล้วกันนะ ซังอู)
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี ตกลงว่าไงเรื่องยองเฮ”
(ก็ไม่ว่าไง ฉันจับมันส่งตำรวจแล้ว ข้อหาพยายามฆ่า)
“คิดถูกหรือไง ที่จับมันส่งตำรวจ”
(ทำไงได้ คุณชายซองบอกว่ายองเฮเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเขา เขาขอ)ซังอูลากเสียงยาว
“หากเกิดอะไรขึ้น ให้มันรับผิดชอบแล้วกัน”ผมบอก
(แล้วจะบอกให้ ว่าแต่ยูมีนเป็นไงบ้างล่ะ)
“ไม่เป็นไรมากหรอก สงสัยปากดีคงโดนปืนตบปากมา และคงโดนชกท้องล่ะมั้งตามเสตปอ่ะ ถึงได้สลบ”
(ไม่โดนปล้ำไปแล้วหรอว๊า)อินซูเสียงสูง
“ไม่มีร่อยรอยว่ะ สงสัยยังไม่ได้ทำ”
(เสียดายแทนมันว่ะ เป็นฉันเสร็จตั้งแต่เจอแล้ว)
“แกอยากตาย?”
(เฮ้ย ทำเป็นหวง)
“ใครหวง แกนี่ฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว แค่นี้แหละ”ผมชิงตัดสายก่อนที่อินซูจะพูดมากไปกว่านี้ ผมหันไปมองคนตัวเล็กที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ก่อนเข้าครัวเพื่อหาอะไรให้เธอทาน
“อื้อ”ยูมีนลืมตาขึ้นช้าๆก่อนมองไปรอบๆแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในคอนโด
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน”ยูมีนบ่นพึมพำก่อนยันตัวเองลุกนั่งอย่างยากลำบาก
“ตื่นแล้วหรอ อย่าเพิ่งลุกสิยัยทึ่ม”ซังอูรีบวางถาดอาหารลงบนโต๊ะและรีบมาช่วยพยุงยูมีนนั่ง
“นายว่าใครยัยทึ่ม”ยูมีนพูดอย่างเอาเรื่อง
“อย่ามาทำปากดีหน่อยเลย หายเจ็บแล้วหรือไง”ซังอูจิ้มที่ปากของยูมีนเบาๆ
“โอ๊ย! เจ็บนะ”ยูมีนโวยวาย
“ไปทำอีท่าไหนให้มันเอาปืนตบล่ะ”
“รู้ได้ไงว่าฉันโดนปืนตบ”ยูมีนถามอย่างอยากรู้
“แผลขนาดนี้ มดกัดมั้ง”ซังอูพูดกวน
“นี่นาย!”ยูมีนเตรียมจะวีนใส่ซังอู
“เธอนี่พูดมากจริง อ้าปากสิ”ซังอูจะยัดข้าวต้มเข้าปากยูมีน
“ฉันกินเองได้ ไม่ต้องป้อนหรอก”ยูมีนยื้อ
“ฉันป้อนกับเธอกินเองมันไม่ต่างกันหรอก จะกินดีๆหรือจะให้จับกรอกปาก”ซังอูขู่ ยูมีนจึงยอมทำตาม
“นายเป็นคนไปช่วยฉันหรอ”ยูมีนถาม
“ไอ่มดแดงไปช่วยเธอมั้ง”
“ฉันคุยกับนายดีๆแล้วนะ ยังไงก็ขอบใจนะ”ยูมีนพูดเสียงเบา
“ขอบใจอะไร ฉันแค่ต้องรับผิดชอบก็เท่านั้น”
“ยังไงซะ ถ้านายไม่สนใจซะอย่าง นายจะปล่อยฉันตายก็ได้นี่ นายก็ไม่เดือดร้อน แต่นายกลับเสี่ยงอันตรายไปช่วยฉัน แถมเจ็บตัวมาอีกต่างหาก แสดงว่านายเป็นคนดี ถึงแม้จะปากเสีย ไม่เป็นสุภาพบุรุษ เอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย เย็นชา ขี้บ่นหน่อยก็เถอะ”ยูมีนแกล้งว่า
“ที่ฉันไปช่วยน่ะนะ เพราะฉันกลัวยัยคุณหนูขี้วีน ชอบหาเรื่อง ทำตัวงี่เง่า พูดมาก ขี้บ่น เอาแต่ใจ เอะอะอะไรก้อขึ้นเสียง นิสัยแย่เข้าขั้นเลวร้าย จะนั่งร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนขอให้ซุปเปอร์แมนมาช่วย ฉันสงสาร บังเอิญฉันเป็นพวกใจบุญ ชอบปล่อยนกปล่อยปลา พาหมาไปวัดน่ะ”ซังอูก็แก้เผ็ดได้สมน้ำสมเนื้อเหมือนกัน
“นี่นายด่าฉันหรอ”ยูมีนลืมความเจ็บหันมาวีนทันที
“เธอด่าฉันก่อนนี่”ซังอูก็เล่นด้วย จึงเกิดสงครามการปาหมอนขึ้นตั้งแต่ในห้องนอนจนลามมายังห้องด้านนอก
“Hello คุณชายคิม โอ๊ย!”ฮันเซหงายหลังล้มตึง เพราะลูกหลงที่พลาดมาโดน
“หวานกันดีจังนะ ความสัมพันธ์ถึงไหนแล้วล่ะซังอู”อินซูแซว
“ใครบอกว่าหวาน เดี๋ยวจะขว้างให้หน้าแหกเลย จะฆ่ากันตายอยู่แล้ว ตรงไหนที่หวานยะ”ยูมีนยังไม่หยุดบ้า พลางขว้างหมอนใส่อินซู
“เธอจะฆ่าคนที่ช่วยชีวิตเธอเลยหรอ”อินซูยังคงพูดต่อ
“ก็ไอ่บ้านี่มันกล้าด่าฉัน มันต้องตาย ย๊าก!”ยูมีนขว้างหมอนโดนซังอูจนเซ
“ถ้าเทียบกับการฝ่าศัตรูหลายสิบคนเพื่อเข้าไปช่วยเธอคนเดียวล่ะ”ฮันเซว่าบ้าง
“อยากโง่ไปช่วยฉันเอง จะมาหวังอะไรกับฉันยะ โอ๊ย!”ยูมีนล้มตึงเพราะข้อเท้าพลิก
“เอ่า ซุ่มซ่าม”ซังอูบ่นก่อนเดินเข้ามาดู
“เขาเรียกอุบัติเหตุย่ะ”ยูมีนเถียง
“น่าจับทุ่มสักที มาๆฉันช่วย”ซังอูว่าพลางประครอง
“ไม่ต้อง ฉันยืนเองได้ โอ๊ย!”ยูมีนเกือบล้มลงไปหากไม่ได้ซังอูจับไว้ก่อน ไม่งั้นเธอคงได้เจ็บเบื้องล่างแน่ ซังอูพาเธอไปพักผ่อน กว่ายูมีนจะหยุดดื้อ เล่นเอาสี่หนุ่มหอบกันเลยทีเดียว ทั้งสี่มองยูมีนที่หลับอย่างอดยิ้มไม่ได้ เมื่อเวลาที่ยัยตัวแสบหลับปุ๋ยดูไร้พิษภัยน่ารักดีเหมือนกัน
“ซังอู ฉันมีเรื่องอยากถามแกว่ะ”หลังจากปิดประตูห้องนอน อินซูก็เริ่มถามปัญหาที่คาใจอยู่นาน
“ยูมีนเป็นใครกันแน่ ฉันไม่เชื่อหรอก เหตุผลที่แกบอกว่าเป็นเพื่อนของอามิน่ะ ไม่สามารถดึงแกไปเสี่ยงขนาดนั้นได้แน่ ไม่ต้องอ้างความรับผิดชอบด้วย เพราะแกมีเหตุผลเสมอ”วูบินว่าอย่างรู้ทัน
“คังยูมีน”เพียงแค่คำเดียวของซังอู ทั้งสามถึงกับอ๋อ
“น้องไอ่มินโฮน่ารักขนาดนี้เลยหรอวะเนี่ย”อินซูว่า
“ถ้ามินโฮรู้ว่าพวกเราดึงยูมีนมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ มันจะว่าไงเนี่ย”ฮันเซถามความเห็น
“เราต้องกันไม่ให้ยูมีนมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่าให้ยูมีนรู้”ซังอูว่า
“เราต้องบอกมินโฮว่ะ”วูบินพูด ซังอูพยักหน้า แล้วโทรหามินโฮทันที
(แกโทรหาฉันก่อนหน้านี้ มีอะไร)
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับแกว่ะ”
(เรื่องอะไร)
“ตอนนี้ยูมีนอยู่กับฉัน”
(แกรู้จักยูมีนได้ไง แล้วยูมีนไปอยู่กับแกตั้งแต่เมื่อไหร่)น้ำเสียงบ่งบอกความไม่พอใจของมินโฮทำซังอูใจแป้ว แต่ก็ตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มินโฮฟัง
“ให้เอาไงต่อ”
(ฉันฝากยูมีนไว้ที่แกได้ใช่มั้ย)มินโฮตัดสินใจพูดออกมา
“ทำไมแกยังไว้ใจฉันอยู่อีก”
(เพราะฉันเชื่อว่า แกจะดูแลยูมีนได้ และอีกอย่างที่นี่อันตรายเกินไป ถ้าพวกมันรู้ว่ายูมีนอยู่ไหน พวกมันไม่ปล่อยยูมีนแน่ แกรับปากฉันสิ แกต้องดูแลยูมีน ด้วยชีวิต)
“อืม ฉันรับปาก”
(ยูมีนเป็นเด็กดีนะ ภายนอกอาจจะดูแข็ง แต่ภายในยูมีนเป็นคนอ่อนไหวกับทุกเรื่องนะ ยูมีนต้องการคนดูแล ต้องการคนที่เข้าใจ ถ้ายูมีนชอบใคร ยูมีนจะให้ความสนใจ และเป็นห่วงคนๆนั้น หากยูมีนไม่สน เธอจะไม่เหลียวแลเลย จำไว้นะ)
“เข้าใจแล้ว ฉันจะดูแลยูมีนให้ดีที่สุด”
(ขอบใจ)มินโฮวางสายไป
“มันบอกให้ฝากยูมีนไว้กับฉันว่ะ”ซังอูหันไปบอกเพื่อน
“แกไหวหรอวะ ดื้อเข้าขั้นร้ายแรงขนาดนั้น”วูบินห่วงเพื่อน
“ไหวสิ มันต้องไหว”ซังอูว่า เพื่อนๆต่างถอนหายใจกันยกใหญ่
ยูมีนเดินโงนเงนออกมาเข้าห้องน้ำ เหลือบเห็นซังอูนอนขดอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ จึงหาผ้าห่มมาห่มให้
“เวลานายนอนก็ยังหล่อเหมือนเดิม แต่ปากนายน่ะ ร้ายใช่เล่นเลยนะ คิก ฝันดีนะตาทึ่ม”ยูมีนยิ้มน้อยๆก่อนเดินกลับเข้าห้องนอนไป ลับหลังยูมีน รอยยิ้มที่หาดูได้ยากของซังอูก็ผุดขึ้นมา
“ยัยแสบอย่างเธอ ก็มีมุมน่ารักดีนะ ฝันดีนะยัยแสบ”ซังอูหลับตาลงและผล็อยหลับไป
“โช้ง เช้ง!”เสียงที่ดังโครมครามไม่อาจทำให้ซังอูทนหลับตานอนได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปยังห้องครัวหวังจะดุผู้ที่ทำให้เกิดเสียง แต่ต้องหลุดหัวเราะ เมื่อเห็นท่าทางของยูมีนตอนทอดไข่ที่มือขวาถือตะหลิวคอยเขี่ยไข่โดยใช้มือซ้ายจับฝาหม้อบังน้ำมันที่กระเด็น โดดหลบน้ำมันไปมาทำอย่างกับว่ามันคือลูกกระสุนที่กระหน่ำยิง จนซังอูต้องเข้ามาช่วย
“ยืนเต้นแร้งเต้นกาอยู่ได้ มานี่ ฉันทำเอง”ซังอูว่าแล้วแย่งตะหลิวมา แล้วจัดการเอง
“ก็เห็นนายหลับอยู่ ฉันหิวน่ะ แต่ไม่อยากปลุก”ยูมีนทำหน้าจ๋อยแล้วเดินไปรอที่โต๊ะอาหาร
“ทอดเสียมากี่ฟองแล้วล่ะ”
“15 ฟองได้”ยูมีนยกมือนับนิ้วเหมือนเด็ก
“ทอดไม่เป็น คราวหลังปลุกฉันเลยนะ เปลืองไข่”ซังอูบ่น ยูมีนทำหน้ามุ่ย ซังอูจึงยิ้มกับความบ๊องของยูมีน
“ฉันว่านายยิ้มดูน่ารักกว่าปั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดอีก ทำอย่างกับว่าฉันไปฆ่าญาตินายตายงั้นแหละ”
“เรื่องของฉัน”ซังอูตีหน้าเข้มทันที
“รู้แล้วน่า แค่แนะนำเฉยๆ ชอบทำหน้าเหมือนพ่อกับพี่มินโฮเลย ไม่เข้าใจจริงๆว่าจะปั้นหน้ายุ่งให้มันได้อะไร”ยูมีนบ่นพึมพำพลางเดินไปยังโต๊ะอาหาร สักพักซังอูก็ยกอาหารที่ทำเสร็จแล้วมาวางที่โต๊ะ
“ทานละนะคะ”ยูมีนว่าแล้วลงมือทานอาหารอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก”ซังอูบ่น
“เรื่องของฉัน”ยูมีนได้ทีก็พูดกลับบ้าง ซังอูส่ายหน้าน้อยๆกับความที่อยากจะเอาชนะของยูมีน
“ทะเลาะอะไรกับที่บ้านมาล่ะ”เมื่อทานเสร็จซังอูจึงได้โอกาสถาม
“นายจะอยากรู้ไปทำไม”ยูมีนถามกลับอย่างสงสัย
“ก็แค่อยากรู้เท่านั้นเอง”ซังอูแกล้งว่า
“งั้นเอางี้ เรามาเล่นเกมถาม ตอบกันดีกว่า มีข้อแม้ว่าห้ามพูดโกหก”ยูมีนเสนอ
“เอางั้นก็ได้ ใครโกหกขอให้แฟนทิ้งละกัน”ซังอูเล่นด้วย
“ในฐานะที่ฉันเป็นกุลสตรี ฉันเริ่มก่อน ขอถามเลยนะว่า ครอบครัวนายมีกี่คน”ยูมีนเริ่มถาม
“คำถามอนุบาลมาก ครอบครัวฉันมีพ่อ แม่ ฉัน รวมแล้ว 3 คน”ซังอูตอบ
“OK ตานายแล้ว”ยูมีนพยักหน้ารับ
“เธอทะเลาะอะไรกับที่บ้านมา ขอเหตุผล 2 ข้อแล้วกัน”ซังอูถาม
“ข้อแรก พ่อฉันจับตัวฉันกลับมาที่นี่ ด้วยความที่ฉันไม่ยอม ฉันเลยโวยวายจนบ้านแตก”
“ก็สมควร”ซังอูว่า
“ส่วนข้อสอง ฉันพยามยามจะคุยกับพ่อ เอ๊ะ หรือพ่อพยายามจะคุยกับฉันนะ ช่างเถอะ ฉากเด็ดคือ พ่อผู้บังเกิดเกล้าประทับรอยพระหัตบน Face ของฉันT^T”ยูมีนทำท่าร้องไห้
“เป็นฉันนะ จะจับตบแล้วก็ฝัง ขุดมาตบแล้วก็ฝัง ขุดมาตบแล้วก็ฝัง ขุดมาตบแล้วก็ฝัง”ซังอูพูดไม่จบยูมีนก็ยกมือห้ามประมาณว่า ‘พอๆ’
“ฉันว่าถ้านายจะทำอย่างนั้นนะ ฆ่าฉันเถอะ”
“อืมๆ ตาเธอแล้วล่ะ”ซังอูว่า
“ฉันคาใจอ่ะ ว่าในเมื่อนายก็ออกจะแมนขนาดนี้ ทำไมต้องใช้กระเป๋าสีชมพูหวานแหววขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“กระเป๋าใบนั้นน่ะหรอ เพื่อนซื้อให้น่ะ”ซังอูซึมไปนิดหน่อย
“เพื่อนหรือแฟนกันแน่ บอกแล้วไงว่าห้ามโกหก”ยูมีนย้ำ
“แฟนเก่าน่ะ ที่จริงฉันไม่อยากจะใช้หรอก พอดีกระเป๋าของฉัน เพื่อนมันยืมไปแล้วยังไม่เอามาคืนอ่ะเลยหยิบมาใช้ก่อน”ซังอูว่า
“แฟนนายคือใครหรอ”ยูมีนถาม
“ตาฉันแล้วนะ”ซังอูท้วง
“รู้แล้ว ตาหน้าฉันให้นายถามสองข้อเลย แต่ตอบมาก่อนสิ”
“เธอชื่อ จัสมิน น่ะ”ซังอูตอบ
“ตานายแล้ว”
“เธอเคยมีแฟนมากี่คนแล้ว และเธอชอบผู้ชายแบบไหน”ซังอูถาม
“คำตอบแรกคือ ไม่เคยมีแฟน มีคนมาจีบเยอะมากๆนะ แต่ไม่โดนอ่ะ คำตอบที่สองคือ ฉันก็ไม่รู้นะว่าชอบผู้ชายแบบไหน แต่ถ้ามันใช่ ก็คือใช่ ไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่ แต่ถ้าให้เลือก ฉันชอบแบบนายอ่ะ ไม่น่าเบื่อดี^^”ยูมีนยิ้มกว้าง ซังอูยีผมของยูมีนอย่างหมันไส้ ที่จริงเขาเขินต่างหาก
“ทำไมนายต้องโดนไอ่พวกบ้านั่นตามล่าด้วยล่ะ”ยูมีนบ่นเสียงอ่อย
“คุณหนูจะไปไหนคะ”สาวใช้ในบ้านร้องทักเมื่อเห็น
“อย่ามายุ่งกับฉัน”ยูมีนพูดเสียงเรียบ ทำให้สาวใช้ไม่กล้าถามอะไรอีก
ยูมีนเดินมาถึงรถก็จัดการโยนกระเป๋าใบใหญ่เข้าประตูหลังก่อนจะเดินมายังที่นั่งคนขับแล้วขับรถออกไปพร้อมต่อสายหาเพื่อนสาวคนสนิท
(ว่าไงยัยคุณหนู)
“อามิ ฉันขอไปอยู่กับแกสักพักได้ไหม”
(เห้ย อารมณ์ไหนเนี่ย แกเนี่ยนะจะมาอยู่คอนโดฉัน)
“จะทำไม ตอบมาว่าได้หรือไม่ได้”
(เออๆได้สิ ไหนบอกพ่อแกจับกลับบ้านไง)
“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ตอนนี้แกมาเปิดประตูห้องให้ฉันก่อนดีกว่า”
(มาถึงตอนไหนเนี่ย เออ รอแปบนึง ติ๊ด!)
“หวัดดี”ยูมีนกล่าวทัก
“มาหวัดดงหวัดดีอะไรล่ะ บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าเกิดอะไรขึ้น”อามิกอดอกถาม
“อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าชีวิตหน่อยเลย ให้ฉันเข้าไปก่อนได้ไหม ฉันเมื่อย”ฉันทำหน้าประมาณว่า เพิ่งวิ่งโอลิมปิกมาอะไรประมาณนั้น
“เออๆ เข้ามาดิ”เมื่อเข้ามานั่ง ยูมีนก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อามิฟัง
“ฉันว่าแกก็ผิดนะแทนที่จะขอโทษแตะกลับโวยวาย แต่พ่อแกก็เกินไปนะ”อามิว่า
“เห็นมั้ย ฉันก็มีหัวใจนะ”ยูมีนได้ทีก็ออดอ้อนเพื่อนสาว
“งั้นเอาเป็นว่าแกอยู่ที่นี่ไปก่อนได้ แต่ฉันไม่อยู่นะ พ่อฉันตามตัวฉันให้ไปช่วยงานที่บริษัททางนู้นน่ะสิ อีกนานกว่าจะกลับ แกอยู่ได้ใช่มั้ย”อามิหันมาถาม
“ได้สิจ๊ะ ยูมีนซะอย่าง”ยูมีนพูดอย่างภูมิใจในตัวเอง
“ดีมาก งั้นฉันไปก่อนนะ”พูดจบอามิก็รีบจ้ำเท้าเดินออกห้องไปโดยไม่หันหลังกลับเลยทีเดียว และไม่ยอมฟังเสียงคัดค้านที่ดังตามหลังของยูมีนเลยด้วยยูมีนนั่งถอนหายใจไปสักพักก่อนตัดสินใจอาบน้ำ
ปังๆๆๆ!
“โอ๊ย ใครมาทุบประตูกันเนี่ย ไม่มีมารยาท”ยูมีนบ่นอย่างหงุดหงิดก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มร่างกายตามด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมไหล่อีกผืนแล้วเดินออกไปเปิดประตู
“มาแล้วๆ อะไรนักหนา”ยูมีนว่าพลางเปิดประตู
“เธอเป็นใครเนี่ย”เจ้าของเสียงผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยถามยูมีนอย่างสงสัย
“ฉันเป็นเพื่อนของอามิ ตอนนี้อามิไม่อยู่ นายมีอะไรหรือไม่ ถ้าไม่กรุณาออกไปได้เลยนะ”ยูมีนถามเองตอบเอง
“ฉันก็เป็นแฟนเธอในอนาคตไงจ๊ะ”อินซูมองยูมีนอย่างพินิจเรืองร่าง ทำให้ยูมีนเริ่มระแวง
“อย่ามาทำบ้ากามน่าอินซู นั่นเพื่อนน้องสาวฉันนะ”เสียงท้วงที่ดังมาจากข้างหลังหอบกระเป๋าใบมหึมาเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาษะ
“พวกนายเป็นใคร นี่พวกนายเข้ามาไม่ได้นะ”ยูมีนเริ่มโวยเมื่อเห็นท่าไม่ดีของสองหนุ่ม
“แต่ฉันมีสิทธิ์เข้าในฐานะเจ้าของห้อง แต่คุณชายฮวงผู้นี้ไม่ทราบนะครับ”ซังอูหนุ่มหล่อมาดนิ่งพูดแกล้งเพื่อนชายอย่างไม่ไว้หน้า ตามประสาคนสนิท
“คุณชายคิมคร๊าบ ให้กระผมย้ายมาอยู่กับท่านเถอะ กระผมอยากจะเป็นบอดี้การ์ดให้กับสาวน้อยนางนี้”อินซูทำท่าทางน่าสงสารแต่แววตากลับเจ้าเล่ห์
“พูดมากน่าอินซู แกกลับไปได้แล้ว หมดหน้าที่ของแกแล้ว ไปๆ”ซังอูโบกมือไล่เพื่อน
“เออก็ได้ จำไว้เลยแก จะเก็บไว้กินเองน่ะสิเพื่อน”อินซูว่าแกล้งเพื่อน
“ไอ่บ้านี่”ซังอูเกิดหมันไส้ไล่เตะอินซูจนวิ่งหนีเข้าลิฟไป
“ฉันขอถามคำถามเดิม นายเป็นใคร และเป็นอะไรกับอามิไม่ทราบ”ยูมีนเปิดฉากถาม
“ฉันตอบไปแล้ว ส่วนเป็นอะไรกับอามิ เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”ซังอูตอบเสียงเรียบ
“ฉันจะถามอีกครั้งเดียวนะ ว่านายเป็นอะไรกับอามิ และมาทำอะไรที่นี่”
“น่ารำคาญจริงๆ ฉันเป็นพี่ชายของอามิ เป็นเพื่อนกันภาษาอะไร ไม่รู้ว่าอามิมีพี่ชายคือฉัน”
“ก็ฉันจะไปตรัสรู้หรอ ว่านายเป็นใคร ก็จู่ๆก็เดินจ้ำเข้ามา คนอื่นเขาก็ตกใจเป็นนะคะคุณพี่”ยูมีพูดเสียงสูง ซังอูเหลือบมองนิดหน่อย ก่อนเดินหอบกระเป๋าเข้ามาในห้องนอน ยูมีนเห็นจึงรีบตามไปหวังเพื่อจะพูดห้ามแต่...
“เธอจะยั่วฉันรึไง”ซังอูว่า ก่อนมองเรือนร่างขาวสะอาดของยูมีนจนเธอรู้สึกอาย
“จะบ้าหรอ ฉันจะมาเอาเสื้อผ้าฉันสิ”ยูมีนเปลี่ยนแผนตรงดิ่งไปยังกระเป๋าเสื้อผ้าสีชมพูหวานแหววใบโปรดของเธอ
“อย่าบอกนะว่านั่นกระเป๋าเธอน่ะ”ซังอูมองอึ้งๆผิดกับยูมีนที่มองซังอูแบบงงๆ
“ถ้าไม่ใช่ของฉันจะของใครล่ะ มีกันอยู่สองคนเนี่ย บ้ารึเปล่า”
“ก็มันเหมือนของฉันเลยนะสิยัยบื้อ”ซังอูว่า ยูมีนจึงชะเง้อไปมอง
“เฮ้ย ทำไมนายใช้กระเป๋าสีชมพูล่ะ นายเป็นแต๋วหรอ”
“ไม่ใช่ เธอจะบ้าหรอไง ออกจะแมนขนาดนี้ หรือเธอจะลอง”ซังอูเริ่มหาเรื่อง ‘นึกได้ยังไงว่าเราเป็นแต๋ว’
“ไม่ลงไม่ลองอะไรทั้งนั้นแหละ แล้วทำไมนายถึงใช้สีชมพูล่ะ”ยูมีนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เรื่องของฉัน ถ้ายังถามอีกฉันจะจับเธอปล้ำเพื่อพิสูจน์เลยเอ้า” ซังอูพูดทำให้ยูมีนเอามือปิดปากแทบไม่ทันก่อนจะค้อนใส่และเดินหนีไป
[SungAu Take]
หลังจากที่ยัยตัวแสบเดินออกไป ผมก็ต่อสายหาน้องสาวสุดป่วนของผมทันที
(ว่าไงคะพี่ชาย)
“คิดว่าไงล่ะ ทำไมไม่บอกว่าเพื่อนเรามาอยู่ล่ะห๊า”
(อ่าว พี่ชายไปห้องหรอคะ พ่อตามอามิมาช่วยงานที่นี่อ่ะค่ะ)
“รู้แล้ว แต่ทำไมไม่บอกก่อนว่าจะเอาเพื่อนมาอยู่ นี่พี่ย้ายมาอยู่นะ”
(แล้วพี่ทำไมไม่บอกอามิก่อนล่ะคะ)
“อย่ามาย้อนพี่นะ เพื่อนเราเป็นใครล่ะห๊า พี่ไม่เห็นคุ้นหน้าเลย”
(ยูมีน เพื่อนที่มหา’ลัยอ่ะค่ะ ยูมีทะเลาะกับที่บ้านมา เลยมาขออยู่สักพัก)
“ชื่อคุ้นๆนะ ใช่น้องสาวมินโฮหรือเปล่า”
(ใช่ค่ะ อามิขอตัวก่อนนะคะพี่ชาย คุณพ่อเรียกประชุมด่วนน่ะค่ะ บายค่ะ)อามิชิงตัดสายก่อนที่ผมจะถามอะไรไปมากกว่านี้ ผมถอนหายใจก่อนจะเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปหวังจะพบยัยตัวแสบนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ห้างนอก พอออกไปกลับไม่พบใครเลย นอกจากโทรศัพท์รุ่นเก๋ากึกเครื่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะทานอาหาร เมื่อกดดู พบคลิปเสียง จึงเปิดฟัง
(ถ้าแกยังไม่อยากให้แฟนของแกตาย มาเจอฉันที่เดิม คงจำได้สินะ แกรู้ใช่มั้ยว่าแกต้องทำยังไงซังอู มาเร็วๆล่ะ ไม่งั้นคงรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น)ผมอึ้งไป 15 วินาที ไม่คาดว่ายองเฮจะกล้าส่งคนมาลักพาตัวยูมีนไป ผมจึงรีบโทรหามินโฮทันที
(ขออภัย เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ...)
“อะไรวะเนี่ย”ผมสถบอย่างหัวเสีย แล้วรีบส่งข้อความเรียกคนในแก๊งให้มารวมตัวกันทันที
หลังจากที่ซังอูเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
“เอาไงดีวะอินซู คู่หูDuo แกเลยนะ”วูบินรองประธานหมายเลข 2 ของแก๊งพูดใส่ความเพื่อน
“ไม่ใช่ของฉันคนเดียวนะคุณชายซอง นู่นๆคนนู้นเลย”อินซูรองประธานหมายเลข 1 เพยิดหน้าไปทางซังอูที่นั่งเคลียสอยู่
“อย่ามัวเล่นดิ ช่วยกันคิดหน่อยว่าจะเอาไงดี”ซังอูกดเสียงต่ำ
“มีอะไรที่คุณชายคิม ประธานแก๊งผู้สูงส่งผู้นี้จะทำไม่ได้มั่งล่ะครับ”อินซูว่า
“แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำไมแกจะต้องห่วงใยอะไรมากมายด้วยวะ”ฮันเซรองประธานหมายเลข 3 ว่าบ้าง
“ยูมีนเป็นเพื่อนน้องสาวฉัน”ซังอูอธิบาย เพราะรู้ดีว่าพวกเขาไม่อยากจะเสี่ยงตายเพราะผู้หญิงคนเดียว
“แล้วทำไมต้องจับตัวเธอไปด้วย ไม่เห็นเกี่ยวเลย จับตัวอามิไป ก็ว่าอีกอย่าง”วูบินสงสัย
“ก็พวกนั้นเข้าใจว่ายูมีนเป็นแฟนฉันน่ะสิ”ซังอูยังคงอธิบาย
“แล้วจริงรึเปล่า ถ้าไม่จริง แกไม่มีวันสนใจหรอก ซังอู”วูบินพูดอย่างจับผิด
“แต่มันเป็นความรับผิดชอบของฉันที่ดึงตัวยัยนั่นเข้ามาเกี่ยว ขอบใจพวกแกนะที่มา”ซังอูพูดตัดบท ตัดสินใจลุยเดี่ยว แล้วจ้ำเท้าเดินออกไป
“เมื่อไหร่มันจะมาล่ะครับ นาย”ลูกน้องเบอร์หนึ่งของยองเฮเอ่ยถาม
“อยากตายไวหรอไง ขนาดฉันเป็นคนโดนจับ ยังไม่รีบเลย”ยูมีนเสียงสูง
“เอ๊ะ ยัยนี่”คนที่จับตัวยูมีนมาว่า ทำท่าจะตบฉัน ส่วนยูมีนยื่นหน้าให้ตบแบบไม่เกรงกลัวเลยสักนิด
“เอาน่า เดี๋ยวไอ่ซังอูมันมาทุกอย่างก็จบ”ยองเฮว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“มั่นใจจังนะ พวกแกมันก็แค่หมาหมู่ เอาแต่ซุ่มอยู่ข้างหลังมุดหัวอยู่ในที่มืด เก่งแต่ในรู ไม่มีทางจะเอาชนะได้หรอก”ยูมีนพูดจบ ด้ามปืนในมือของยองเฮก็ฟาดเข้ามาที่ปากของยูมีนจนเธอล้มลงไปนอนกองกับพื้น
“ไอ่พวกทุเรศอย่างพวกแก ไม่ตายดีแน่”ยูมีนคิดแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือและเท้าของเธอถูกมัด
“อยากโดนอีกใช่มั้ย ได้เลย จัดให้นะคนสวย”ยองเฮเลียริมฝีปาก ก่อนจะตรงเข้ามาอุ้มยูมีนพาไปยังห้องร้างที่อยู่ใกล้ๆ แล้วโยนเธอลงอย่างไม่ปราณี
“แกจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ”ยูมีนโวยวายและดิ้นพล่านอย่างหวาดกลัว พยายามมองหาทางหนี
“มานี่ซะดีๆ”ยองเฮก้มจูบยูมีน ยูมีนจึงกัดลิ้นของยองเฮ
“โอ๊ย!แกแสบนักนะ งั้นต้องเจออย่างนี้ถึงจะหมดฤทธิ์”ยองเฮชกเข้าที่ท้องของยูมีน ยูมีนจุกจนพูดอะไรไม่ออกแล้วก็สลบไป ยองเฮเห็นดังนั้นจึงคิดจะสานต่อความปรารถนาที่ตั้งไว้แต่...
“ไอ่ซังอูมันมาแล้ว นาย”ลูกน้องคนสนิทรีบวิ่งมาบอก ยองเฮจึงหยุดการกระทำตรงหน้า แล้วเดินออกไปเผชิญกับยองเฮ
“กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเชียว มาได้เวลาเหมาะเจาะเสียจริง”ยองเฮเสียงสูง
“แกทำอะไรเธอ”ซังอูกดเสียงต่ำอย่างแค้นเคือง
“ยังหรอก แต่ถ้ามาช้ากว่านี้ ไม่แน่ แกกล้ามากนะที่มาคนเดียว”
“มีอะไรมาคุยกับฉัน อย่าเอาผู้หญิงมาเกี่ยว”
“คนอย่างแก ห่วงคนอื่นเป็นด้วยหรอวะ”
“พูดมาก ส่งยูมีนมา”
“คนสวยชื่อยูมีนหรอ คุ้นๆนะ แล้วแกคิดว่าไง”ยองเฮพูดอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า
“ต้องการอะไร”ซังอูเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ กำมือแน่น
“ชีวิตของแกไง จัดการมัน”ยองเฮพูดก่อนหันไปสั่งลูกน้อง ลูกน้องของยองเฮหลายสิบคนตรงเข้ามาหาซังอู ซังอูต่อสู้กับคนเหล่านั้นได้อย่างทุลักทุเล เนื่องจากมีมากเกินไป แต่ในเวลาคับขันเช่นนี้ ก็มี...
“มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอ ยองเฮ”อินซูเดินเข้ามายังสถานที่ที่อันตรายนั้นพร้อมกับเพื่อนชายอีกสองคน
“ไม่คิดจะส่งการ์ดเชิญให้ฉันบ้างหรือไงเพื่อน”วูบินพูดบ้าง
“แกยังแผนสกปรกเหมือนเดิมนะไอ่ยองเฮ”ฮันเซพูดจบก็ตรงเข้าไปช่วยซังอูตามด้วยวูบิน อินซูส่งซิกให้ซังอูไปช่วยยูมีน ก่อนจะเข้าไปร่วมวงอีกแรง ซังอูรีบวิ่งตามหายูมีนจนพบสภาพของเธอที่นอนกองกับพื้นอย่างไม่มีท่าทีจะตื่น เขาจึงอุ้มยูมีนขึ้นพาดบ่า แล้วพาเธอออกไปยังที่ปลอดภัย นั่นคือคอนโดของเขานี่เอง
[SungAu Take]
ผมวางเธอลงบนเตียงนอนแล้วเดินไปหาอุปกรณ์ทำแผลที่ตู้ยามาวางไว้ข้างๆ ก่อนลงมือทำแผลให้ยูมีนอย่างเบามือ
“อื้อ”ยูมีนครางเบาๆหลังจากที่ผมใช้แอกอฮอล์เช็ดแผลที่มุมปากให้เธอ ผมเผลอมองใบหน้าขาวใสที่หลับตาพริ้ม ปากที่เคยโวยวายตอนนี้บวมเป่ง ผมมองเธออย่างหลงใหลก่อนเผลอตัวจุมพิตที่หน้าผากของเธออย่างลืมตัว เมื่อได้สติ ผมถอยกรูดแทบตกเตียง
“เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย เธอเป็นแม่มดหรือไง ยูมีน”ผมบ่นงึมงำ ก่อนเดินออกไปโทรศัพท์ที่ระเบียง
(ว่าไงคุณชายคิม ทิ้งเพื่อนเลยนะ)อินซูพูด
“แกบอกให้ฉันไปช่วยยูมีนก่อน”
(ก็ไม่ได้หมายความว่าพากลับคอนโด พาเข้าห้องนอน แล้วก็พา...)
“แกจะบ้าหรือไง เพื่อนน้องนะเว้ย”
(ให้มันเป็นเพื่อนน้องนานๆก็แล้วกันนะ ซังอู)
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี ตกลงว่าไงเรื่องยองเฮ”
(ก็ไม่ว่าไง ฉันจับมันส่งตำรวจแล้ว ข้อหาพยายามฆ่า)
“คิดถูกหรือไง ที่จับมันส่งตำรวจ”
(ทำไงได้ คุณชายซองบอกว่ายองเฮเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเขา เขาขอ)ซังอูลากเสียงยาว
“หากเกิดอะไรขึ้น ให้มันรับผิดชอบแล้วกัน”ผมบอก
(แล้วจะบอกให้ ว่าแต่ยูมีนเป็นไงบ้างล่ะ)
“ไม่เป็นไรมากหรอก สงสัยปากดีคงโดนปืนตบปากมา และคงโดนชกท้องล่ะมั้งตามเสตปอ่ะ ถึงได้สลบ”
(ไม่โดนปล้ำไปแล้วหรอว๊า)อินซูเสียงสูง
“ไม่มีร่อยรอยว่ะ สงสัยยังไม่ได้ทำ”
(เสียดายแทนมันว่ะ เป็นฉันเสร็จตั้งแต่เจอแล้ว)
“แกอยากตาย?”
(เฮ้ย ทำเป็นหวง)
“ใครหวง แกนี่ฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว แค่นี้แหละ”ผมชิงตัดสายก่อนที่อินซูจะพูดมากไปกว่านี้ ผมหันไปมองคนตัวเล็กที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ก่อนเข้าครัวเพื่อหาอะไรให้เธอทาน
“อื้อ”ยูมีนลืมตาขึ้นช้าๆก่อนมองไปรอบๆแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในคอนโด
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน”ยูมีนบ่นพึมพำก่อนยันตัวเองลุกนั่งอย่างยากลำบาก
“ตื่นแล้วหรอ อย่าเพิ่งลุกสิยัยทึ่ม”ซังอูรีบวางถาดอาหารลงบนโต๊ะและรีบมาช่วยพยุงยูมีนนั่ง
“นายว่าใครยัยทึ่ม”ยูมีนพูดอย่างเอาเรื่อง
“อย่ามาทำปากดีหน่อยเลย หายเจ็บแล้วหรือไง”ซังอูจิ้มที่ปากของยูมีนเบาๆ
“โอ๊ย! เจ็บนะ”ยูมีนโวยวาย
“ไปทำอีท่าไหนให้มันเอาปืนตบล่ะ”
“รู้ได้ไงว่าฉันโดนปืนตบ”ยูมีนถามอย่างอยากรู้
“แผลขนาดนี้ มดกัดมั้ง”ซังอูพูดกวน
“นี่นาย!”ยูมีนเตรียมจะวีนใส่ซังอู
“เธอนี่พูดมากจริง อ้าปากสิ”ซังอูจะยัดข้าวต้มเข้าปากยูมีน
“ฉันกินเองได้ ไม่ต้องป้อนหรอก”ยูมีนยื้อ
“ฉันป้อนกับเธอกินเองมันไม่ต่างกันหรอก จะกินดีๆหรือจะให้จับกรอกปาก”ซังอูขู่ ยูมีนจึงยอมทำตาม
“นายเป็นคนไปช่วยฉันหรอ”ยูมีนถาม
“ไอ่มดแดงไปช่วยเธอมั้ง”
“ฉันคุยกับนายดีๆแล้วนะ ยังไงก็ขอบใจนะ”ยูมีนพูดเสียงเบา
“ขอบใจอะไร ฉันแค่ต้องรับผิดชอบก็เท่านั้น”
“ยังไงซะ ถ้านายไม่สนใจซะอย่าง นายจะปล่อยฉันตายก็ได้นี่ นายก็ไม่เดือดร้อน แต่นายกลับเสี่ยงอันตรายไปช่วยฉัน แถมเจ็บตัวมาอีกต่างหาก แสดงว่านายเป็นคนดี ถึงแม้จะปากเสีย ไม่เป็นสุภาพบุรุษ เอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย เย็นชา ขี้บ่นหน่อยก็เถอะ”ยูมีนแกล้งว่า
“ที่ฉันไปช่วยน่ะนะ เพราะฉันกลัวยัยคุณหนูขี้วีน ชอบหาเรื่อง ทำตัวงี่เง่า พูดมาก ขี้บ่น เอาแต่ใจ เอะอะอะไรก้อขึ้นเสียง นิสัยแย่เข้าขั้นเลวร้าย จะนั่งร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนขอให้ซุปเปอร์แมนมาช่วย ฉันสงสาร บังเอิญฉันเป็นพวกใจบุญ ชอบปล่อยนกปล่อยปลา พาหมาไปวัดน่ะ”ซังอูก็แก้เผ็ดได้สมน้ำสมเนื้อเหมือนกัน
“นี่นายด่าฉันหรอ”ยูมีนลืมความเจ็บหันมาวีนทันที
“เธอด่าฉันก่อนนี่”ซังอูก็เล่นด้วย จึงเกิดสงครามการปาหมอนขึ้นตั้งแต่ในห้องนอนจนลามมายังห้องด้านนอก
“Hello คุณชายคิม โอ๊ย!”ฮันเซหงายหลังล้มตึง เพราะลูกหลงที่พลาดมาโดน
“หวานกันดีจังนะ ความสัมพันธ์ถึงไหนแล้วล่ะซังอู”อินซูแซว
“ใครบอกว่าหวาน เดี๋ยวจะขว้างให้หน้าแหกเลย จะฆ่ากันตายอยู่แล้ว ตรงไหนที่หวานยะ”ยูมีนยังไม่หยุดบ้า พลางขว้างหมอนใส่อินซู
“เธอจะฆ่าคนที่ช่วยชีวิตเธอเลยหรอ”อินซูยังคงพูดต่อ
“ก็ไอ่บ้านี่มันกล้าด่าฉัน มันต้องตาย ย๊าก!”ยูมีนขว้างหมอนโดนซังอูจนเซ
“ถ้าเทียบกับการฝ่าศัตรูหลายสิบคนเพื่อเข้าไปช่วยเธอคนเดียวล่ะ”ฮันเซว่าบ้าง
“อยากโง่ไปช่วยฉันเอง จะมาหวังอะไรกับฉันยะ โอ๊ย!”ยูมีนล้มตึงเพราะข้อเท้าพลิก
“เอ่า ซุ่มซ่าม”ซังอูบ่นก่อนเดินเข้ามาดู
“เขาเรียกอุบัติเหตุย่ะ”ยูมีนเถียง
“น่าจับทุ่มสักที มาๆฉันช่วย”ซังอูว่าพลางประครอง
“ไม่ต้อง ฉันยืนเองได้ โอ๊ย!”ยูมีนเกือบล้มลงไปหากไม่ได้ซังอูจับไว้ก่อน ไม่งั้นเธอคงได้เจ็บเบื้องล่างแน่ ซังอูพาเธอไปพักผ่อน กว่ายูมีนจะหยุดดื้อ เล่นเอาสี่หนุ่มหอบกันเลยทีเดียว ทั้งสี่มองยูมีนที่หลับอย่างอดยิ้มไม่ได้ เมื่อเวลาที่ยัยตัวแสบหลับปุ๋ยดูไร้พิษภัยน่ารักดีเหมือนกัน
“ซังอู ฉันมีเรื่องอยากถามแกว่ะ”หลังจากปิดประตูห้องนอน อินซูก็เริ่มถามปัญหาที่คาใจอยู่นาน
“ยูมีนเป็นใครกันแน่ ฉันไม่เชื่อหรอก เหตุผลที่แกบอกว่าเป็นเพื่อนของอามิน่ะ ไม่สามารถดึงแกไปเสี่ยงขนาดนั้นได้แน่ ไม่ต้องอ้างความรับผิดชอบด้วย เพราะแกมีเหตุผลเสมอ”วูบินว่าอย่างรู้ทัน
“คังยูมีน”เพียงแค่คำเดียวของซังอู ทั้งสามถึงกับอ๋อ
“น้องไอ่มินโฮน่ารักขนาดนี้เลยหรอวะเนี่ย”อินซูว่า
“ถ้ามินโฮรู้ว่าพวกเราดึงยูมีนมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ มันจะว่าไงเนี่ย”ฮันเซถามความเห็น
“เราต้องกันไม่ให้ยูมีนมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่าให้ยูมีนรู้”ซังอูว่า
“เราต้องบอกมินโฮว่ะ”วูบินพูด ซังอูพยักหน้า แล้วโทรหามินโฮทันที
(แกโทรหาฉันก่อนหน้านี้ มีอะไร)
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับแกว่ะ”
(เรื่องอะไร)
“ตอนนี้ยูมีนอยู่กับฉัน”
(แกรู้จักยูมีนได้ไง แล้วยูมีนไปอยู่กับแกตั้งแต่เมื่อไหร่)น้ำเสียงบ่งบอกความไม่พอใจของมินโฮทำซังอูใจแป้ว แต่ก็ตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มินโฮฟัง
“ให้เอาไงต่อ”
(ฉันฝากยูมีนไว้ที่แกได้ใช่มั้ย)มินโฮตัดสินใจพูดออกมา
“ทำไมแกยังไว้ใจฉันอยู่อีก”
(เพราะฉันเชื่อว่า แกจะดูแลยูมีนได้ และอีกอย่างที่นี่อันตรายเกินไป ถ้าพวกมันรู้ว่ายูมีนอยู่ไหน พวกมันไม่ปล่อยยูมีนแน่ แกรับปากฉันสิ แกต้องดูแลยูมีน ด้วยชีวิต)
“อืม ฉันรับปาก”
(ยูมีนเป็นเด็กดีนะ ภายนอกอาจจะดูแข็ง แต่ภายในยูมีนเป็นคนอ่อนไหวกับทุกเรื่องนะ ยูมีนต้องการคนดูแล ต้องการคนที่เข้าใจ ถ้ายูมีนชอบใคร ยูมีนจะให้ความสนใจ และเป็นห่วงคนๆนั้น หากยูมีนไม่สน เธอจะไม่เหลียวแลเลย จำไว้นะ)
“เข้าใจแล้ว ฉันจะดูแลยูมีนให้ดีที่สุด”
(ขอบใจ)มินโฮวางสายไป
“มันบอกให้ฝากยูมีนไว้กับฉันว่ะ”ซังอูหันไปบอกเพื่อน
“แกไหวหรอวะ ดื้อเข้าขั้นร้ายแรงขนาดนั้น”วูบินห่วงเพื่อน
“ไหวสิ มันต้องไหว”ซังอูว่า เพื่อนๆต่างถอนหายใจกันยกใหญ่
ยูมีนเดินโงนเงนออกมาเข้าห้องน้ำ เหลือบเห็นซังอูนอนขดอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ จึงหาผ้าห่มมาห่มให้
“เวลานายนอนก็ยังหล่อเหมือนเดิม แต่ปากนายน่ะ ร้ายใช่เล่นเลยนะ คิก ฝันดีนะตาทึ่ม”ยูมีนยิ้มน้อยๆก่อนเดินกลับเข้าห้องนอนไป ลับหลังยูมีน รอยยิ้มที่หาดูได้ยากของซังอูก็ผุดขึ้นมา
“ยัยแสบอย่างเธอ ก็มีมุมน่ารักดีนะ ฝันดีนะยัยแสบ”ซังอูหลับตาลงและผล็อยหลับไป
“โช้ง เช้ง!”เสียงที่ดังโครมครามไม่อาจทำให้ซังอูทนหลับตานอนได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปยังห้องครัวหวังจะดุผู้ที่ทำให้เกิดเสียง แต่ต้องหลุดหัวเราะ เมื่อเห็นท่าทางของยูมีนตอนทอดไข่ที่มือขวาถือตะหลิวคอยเขี่ยไข่โดยใช้มือซ้ายจับฝาหม้อบังน้ำมันที่กระเด็น โดดหลบน้ำมันไปมาทำอย่างกับว่ามันคือลูกกระสุนที่กระหน่ำยิง จนซังอูต้องเข้ามาช่วย
“ยืนเต้นแร้งเต้นกาอยู่ได้ มานี่ ฉันทำเอง”ซังอูว่าแล้วแย่งตะหลิวมา แล้วจัดการเอง
“ก็เห็นนายหลับอยู่ ฉันหิวน่ะ แต่ไม่อยากปลุก”ยูมีนทำหน้าจ๋อยแล้วเดินไปรอที่โต๊ะอาหาร
“ทอดเสียมากี่ฟองแล้วล่ะ”
“15 ฟองได้”ยูมีนยกมือนับนิ้วเหมือนเด็ก
“ทอดไม่เป็น คราวหลังปลุกฉันเลยนะ เปลืองไข่”ซังอูบ่น ยูมีนทำหน้ามุ่ย ซังอูจึงยิ้มกับความบ๊องของยูมีน
“ฉันว่านายยิ้มดูน่ารักกว่าปั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดอีก ทำอย่างกับว่าฉันไปฆ่าญาตินายตายงั้นแหละ”
“เรื่องของฉัน”ซังอูตีหน้าเข้มทันที
“รู้แล้วน่า แค่แนะนำเฉยๆ ชอบทำหน้าเหมือนพ่อกับพี่มินโฮเลย ไม่เข้าใจจริงๆว่าจะปั้นหน้ายุ่งให้มันได้อะไร”ยูมีนบ่นพึมพำพลางเดินไปยังโต๊ะอาหาร สักพักซังอูก็ยกอาหารที่ทำเสร็จแล้วมาวางที่โต๊ะ
“ทานละนะคะ”ยูมีนว่าแล้วลงมือทานอาหารอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก”ซังอูบ่น
“เรื่องของฉัน”ยูมีนได้ทีก็พูดกลับบ้าง ซังอูส่ายหน้าน้อยๆกับความที่อยากจะเอาชนะของยูมีน
“ทะเลาะอะไรกับที่บ้านมาล่ะ”เมื่อทานเสร็จซังอูจึงได้โอกาสถาม
“นายจะอยากรู้ไปทำไม”ยูมีนถามกลับอย่างสงสัย
“ก็แค่อยากรู้เท่านั้นเอง”ซังอูแกล้งว่า
“งั้นเอางี้ เรามาเล่นเกมถาม ตอบกันดีกว่า มีข้อแม้ว่าห้ามพูดโกหก”ยูมีนเสนอ
“เอางั้นก็ได้ ใครโกหกขอให้แฟนทิ้งละกัน”ซังอูเล่นด้วย
“ในฐานะที่ฉันเป็นกุลสตรี ฉันเริ่มก่อน ขอถามเลยนะว่า ครอบครัวนายมีกี่คน”ยูมีนเริ่มถาม
“คำถามอนุบาลมาก ครอบครัวฉันมีพ่อ แม่ ฉัน รวมแล้ว 3 คน”ซังอูตอบ
“OK ตานายแล้ว”ยูมีนพยักหน้ารับ
“เธอทะเลาะอะไรกับที่บ้านมา ขอเหตุผล 2 ข้อแล้วกัน”ซังอูถาม
“ข้อแรก พ่อฉันจับตัวฉันกลับมาที่นี่ ด้วยความที่ฉันไม่ยอม ฉันเลยโวยวายจนบ้านแตก”
“ก็สมควร”ซังอูว่า
“ส่วนข้อสอง ฉันพยามยามจะคุยกับพ่อ เอ๊ะ หรือพ่อพยายามจะคุยกับฉันนะ ช่างเถอะ ฉากเด็ดคือ พ่อผู้บังเกิดเกล้าประทับรอยพระหัตบน Face ของฉันT^T”ยูมีนทำท่าร้องไห้
“เป็นฉันนะ จะจับตบแล้วก็ฝัง ขุดมาตบแล้วก็ฝัง ขุดมาตบแล้วก็ฝัง ขุดมาตบแล้วก็ฝัง”ซังอูพูดไม่จบยูมีนก็ยกมือห้ามประมาณว่า ‘พอๆ’
“ฉันว่าถ้านายจะทำอย่างนั้นนะ ฆ่าฉันเถอะ”
“อืมๆ ตาเธอแล้วล่ะ”ซังอูว่า
“ฉันคาใจอ่ะ ว่าในเมื่อนายก็ออกจะแมนขนาดนี้ ทำไมต้องใช้กระเป๋าสีชมพูหวานแหววขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“กระเป๋าใบนั้นน่ะหรอ เพื่อนซื้อให้น่ะ”ซังอูซึมไปนิดหน่อย
“เพื่อนหรือแฟนกันแน่ บอกแล้วไงว่าห้ามโกหก”ยูมีนย้ำ
“แฟนเก่าน่ะ ที่จริงฉันไม่อยากจะใช้หรอก พอดีกระเป๋าของฉัน เพื่อนมันยืมไปแล้วยังไม่เอามาคืนอ่ะเลยหยิบมาใช้ก่อน”ซังอูว่า
“แฟนนายคือใครหรอ”ยูมีนถาม
“ตาฉันแล้วนะ”ซังอูท้วง
“รู้แล้ว ตาหน้าฉันให้นายถามสองข้อเลย แต่ตอบมาก่อนสิ”
“เธอชื่อ จัสมิน น่ะ”ซังอูตอบ
“ตานายแล้ว”
“เธอเคยมีแฟนมากี่คนแล้ว และเธอชอบผู้ชายแบบไหน”ซังอูถาม
“คำตอบแรกคือ ไม่เคยมีแฟน มีคนมาจีบเยอะมากๆนะ แต่ไม่โดนอ่ะ คำตอบที่สองคือ ฉันก็ไม่รู้นะว่าชอบผู้ชายแบบไหน แต่ถ้ามันใช่ ก็คือใช่ ไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่ แต่ถ้าให้เลือก ฉันชอบแบบนายอ่ะ ไม่น่าเบื่อดี^^”ยูมีนยิ้มกว้าง ซังอูยีผมของยูมีนอย่างหมันไส้ ที่จริงเขาเขินต่างหาก
“ทำไมนายต้องโดนไอ่พวกบ้านั่นตามล่าด้วยล่ะ”ยูมีนบ่นเสียงอ่อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ