ϟHAVOC WHOPPER ปฏิบัติการเสี่ยงรักแค้นร้ายϟ
เขียนโดย Haven_line
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 09.46 น.
แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 16.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) EP1 should’n have to give a reason why
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
EP1 should’n have to give a reason why
You never call or listen to me anyway
I'd rather rage than sit around and wait all day
Don't get me wrong
I just need some time to play
ฉันแค่อยากได้เวลาไปแรดบ้างไรบ้าง (อ่านะ)
"สิบเก้านาที สี่สิบห้าวินาที…"
"หะ…หา!!!!"
"ทำไม…"
"นายจับเวลาด้วยเหรอ นายบ้าไปแล้วเหรอเนี่ย!"
"ฉันไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา เพราะทุกอย่างในชีวิตฉันจะต้องตรงเป๊ะอย่างที่ฉันคาดไว้"
…พูดเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของเวลาอย่างนั้นล่ะ ทั้งๆที่จริงๆแล้วของแบบนี้มันไม่สามารถเที่ยงตรงได้ทุกอย่างหรอก เชื่อฉันสิว่าถ้าหมอนี่เป็นคนตรงเวลาขนาดนั้น ฉันว่าเขาคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาๆแล้วล่ะ
"ฉันก็มาตรงเวลานี่นา ถือว่าวันนี้ฉันผ่าน!"
"ฉันยังตัดสินไม่ได้ และฉันยังไม่แน่ใจ เพราะฉะนั้นเธอยังต้องมีงานและภาระที่ต้องไปทำต่อจากนี้"
"งาน!!!! นายจะให้ฉันทำงานอะไรของนาย"
"ทำงานบ้านทั่วไปที่โชว์รูมของฉัน หวังว่าเธอคงจะทำได้…"
"โชว์รูม…ของนายเหรอ"
"อือ…ที่บ้านฉันมีกิจการเกี่ยวกับการขายรถที่รับมาจากเมืองนอก"
เขาบอกก่อนที่จะขับรถออกไปจากโรงพยาบาลอย่างช้าๆ ระหว่างทางเขาก็นั่งพูดเกี่ยวกับกิจการที่บ้านของเขาให้ฉันฟัง และทุกคนคงแปลกใจใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงไม่โต้เถียงอะไรเขาเลย ทั้งๆที่ฉันเกลียดเขาจับใจแบบนี้ แต่จริงๆแล้วฉันมีอะไรบางอย่างที่ต้องทำต่างหากล่ะ…
ฉันจะแก้แค้นเขาให้พ่อของฉัน และฉันคิดว่าเขาจะต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ…
"ว่าแต่เธอชื่ออะไร…"
"ฉันชื่ออัลเดล ส่วนนายชื่อวอฟใช่มั้ย…"
"อืม…แล้วเธอเป็นคนที่นี้เหรอ แปลกที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย"
"ชะ…ใช่ ใช่ ฉันก็เป็นคนในเขตนี้แหละ"
ฉันโกหกเขา… เพราะจริงๆแล้วบ้านของฉันอยู่ที่บรัสเซลส์เมืองหลวงของเบลเยี่ยม… และอยู่ในเขตฟลานเดอร์ ฉันจะพูดง่ายๆเลยแล้วกัน คือในประเทศเบลเยี่ยมจะแบ่งเป็นสองเขตคือฟลานเดอร์กับวัลโลเนีย(วัลลูน) และที่ฉันต้องระเห็จมาถึงวัลลูนก็เพราะว่าคุณแม่ไม่อยากให้เรากลายเป็นที่ต้องตาของผู้คนที่นั่น…
แต่ฉันก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้
"แล้วเธอเรียนที่ไหน…ถ้าเป็นมหา’ลัยเดียวกับฉันคงไม่ใช่แน่ๆ เพราะฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย"
"อ่อ!ฉันเรียนอยู่ในเมืองโน่น ไม่แปลกหรอกที่นายไม่เคยเห็นหน้าฉัน…แห่ะๆ"
"งั้นเหรอ…แล้วเธอมีปัญหาอะไรกับน้องสาวเธอหรือเปล่า ความจริงเรื่องเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอก แต่ยังไงฉันก็ยังฉุนที่เธอมาตะโกนด่าฉันปาวๆต่อหน้าผู้คนแบบนั้น"
"ฉันก็โกรธที่นายว่าน้องสาวฉันแบบนั้นเหมือนกันนี่…"
"แต่ยังไงเธอก็ต้องมาทำงานที่นี้ จนกว่าฉันจะหาแม่บ้านได้ก็แล้วกัน…ฉันมีเงินเดือนให้เธอด้วย"
"ไม่เป็นไรหรอก!!! ไม่ต้องก็ได้"
"ฉันทำเพื่อความสบายใจของเราสองคน เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ"
เขาพูดตัดประโยคทันทีเมื่อเห็นว่าฉันทำท่าจะโต้ตอบเขาอีกรอบ จริงๆแล้วถ้าฉันไม่รู้จักเขามาก่อนฉันอาจจะคิดว่าเขาเป็นคนดีก็ได้ แต่ติดที่ว่าฉันรู้จักเขาดีจนไม่สามารถเชื่อว่าเขาเป็นคนดีได้!
"นายไม่มีพี่น้องเลยหรือไง…"
"ไม่มี ฉันเป็นลูกคนเดียว…"
"แล้วทำไมนายถึงไปอยู่ในวงดนตรีHAVOC นั่นได้ล่ะ…"
"ฉันชอบเล่นดนตรี เหตุผลก็มีแค่นี้…แล้วพวกเราทั้งหมดในวงก็ชอบเล่นดนตรีเหมือนกัน"
จริงๆฉันก็ไปสืบประวัติเขามาจากพี่ญ่า(พนักงานในร้านขายขนมของฉัน) พี่ญ่าบอกว่าพวกเขาดังมากในเขตวัลโลเนีย จริงๆแล้ววัลโลเนียมีจังหวัดแยกไปเป็นสี่จังหวัดย่อยอีกน่ะ แล้วชื่อเสียงของพวกเขาก็ดังกระช่อนไปถึงหลายจังหวัดที่เหลือด้วย แต่พวกเขาไม่อยากเอาดีทางด้านนี้จริงๆเลยไม่คิดจริงจังเท่าไหร่…
ฉันว่าถ้าพวกเขาเอาดีทางด้านนี้ ชีวิตพวกเขาก็คงจะรุ่งไปถึงเขตฟลานเดอร์แน่ๆ
"จริงๆแล้วนายก็รวยนี่นา ทำไมยังต้องไปเล่นในบาร์นั่นอีกล่ะ"
"บาร์นั่นพวกฉันในวงทั้งหมดเป็นหุ้นส่วนกันเอง…เราคิดว่าน่าจะจัดที่ดีๆสักที่เพื่อได้เล่นดนตรีให้คนอื่นๆฟัง แล้วก็บางวันที่พวกเราเบื่อก็หาโอกาสมาเล่นแก้เซ็งได้"
"…ชีวิตนายคงโรยด้วยดอกกุหลาบเลยสิน่ะ"
"ก็ไม่เชิง…" เขาพูดขึ้นเบาๆด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยที่เป็นแบบฉบับดั่งเดิมของเขา ฉันเหล่สายตาไปมองเขาแวบนึงก่อนที่จะคิดในใจคนเดียวว่าความรวยที่พวกเขาหามาได้ก็มาจากการโกงคนอื่นทั้งนั้น และฉันไม่รู้ว่าเขาไปทำให้ครอบครัวของใครต้องล่มจมเหมือนครอบครัวของฉันหรือเปล่า
"แล้วบ้านเธอทำอะไร…"
"ก็เปิดร้านขายขนมทั่วไป พอดีคุณแม่ของฉันท่านชอบทำขนมขาย"
"แล้วพ่อของเธอล่ะ…"
"…พ่อเสียไปแล้วล่ะ เสียไปเพราะ…" เพราะครอบครัวของนายยังไงล่ะ!!!!
"เพราะอะไรเหรอ"
"อะ…อ่อ ก็โรคประจำตัวทั่วไปอ่ะ แต่ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ ฉันชินแล้ว…" ไม่จริง…
"ฉันเสียใจด้วยแล้วกัน เธอคงต้องหางานมาช่วยครอบครัวเยอะเลยสิน่ะ"
"…ใช่ พอพ่อฉันเสีย ทุกอย่างก็พังหมด"
ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่แปลกที่ความรู้สึกของฉันมันไม่ได้นิ่งเหมือนน้ำเสียงของฉันเลย ฉันต้องข่มอารมณ์เอาไว้ว่าไม่เป็นไร ทั้งๆที่ฉันยังต้องแอบร้องไห้บ่อยๆเวลาที่คิดถึงคุณพ่อ ฉันยังทำใจไม่ได้…
แต่ฉันยังมีคุณแม่และอัลดาร์ที่อยู่เคียงข้างฉัน…เพราะฉะนั้นฉันถึงต้องอดทน
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า…"
"อ๊ะ!..."
สัมผัสอุ่นๆที่แตะอยู่ตรงใบหน้าของฉันทำให้ฉันสะดุ้งตัวและรีบสะบัดมือของเขาออกจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว ฉันตกใจมากที่เขาใช้มือมาลูบไล้ใบหน้าของฉัน… ฉันไม่อยากให้เขารู้สึกสงสารหรือสมเพชฉันแต่อย่างใด แต่ลึกๆแล้วฉันก็รู้ดีว่าเขาก็ต้องรู้สึกแบบนั้นในใจ
"ถึงแล้วล่ะ…"
"ที่นี้น่ะเหรอบ้านนาย ทำไมมันดูใหญ่โตแบบนี้ล่ะ"
"ฉันอยู่คนเดียวที่นี้ พ่อกับแม่ฉันอยู่อีกทีนึง…แต่ก็แปลกที่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มีฉันอยู่แค่คนเดียว"
"ก็นายรวยนี่นา ไม่เห็นจะแปลกเลย"
"…ทำไมเธอถึงชอบพูดแบบนี้อยู่เรื่อย เธอมีอะไรหรือเปล่า"
"เปล่านี่!! ฉันขอลงไปดูแถวๆนี้หน่อยแล้วกัน"
ฉันบ่ายเบี่ยงคำถามของเขา โดยอ้างว่าจะเดินไปดูบริเวณรอบๆแถวโชว์รูมใหญ่ๆนี่ของเขาสักหน่อย ถ้าถามว่าที่นี้ดูหรูหรามากมั้ย ฉันก็คงตอบได้เต็มปากอย่าไม่ต้องลังเลเลยว่าโคตรหรู…และรถที่จอดเรียงรายกันอยู่ มันทำให้ฉันกลืนน้ำลายไม่ลงเลยทีเดียว เพราะดูจากราคาแต่ละคันมันกินกันไม่ขาดเลยจริงๆ
"เธอทำงานในบ้านฉัน…ไม่ใช่ตรงนี้"
"รู้แล้วนา ฉันแค่มาเดินดูเฉยๆ…จะได้คุ้นกับสถานที่ยังไงล่ะ"
"คุ้นแล้วก็ไปในบ้านฉันได้แล้ว วันนี้เธอไม่ต้องมาทำงานหรอก แค่มาดูว่าต้องทำตรงไหนบ้างก็พอ"
"อืม!!"
เขาพูดพลางเดินนำฉันเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่คาดว่าคงใช้เงินเยอะอยู่ในการสร้าง จริงๆแล้วบ้านเก่าของฉันมันก็ใหญ่พอสมควร แถมเมื่อก่อนฉันยังไม่ต้องทำงานบ้านแบบนี้เองด้วย…จะเรียกว่าฉันเป็นลูกคุณหนูอย่างเขาก็ว่าได้ เพราะฉันไม่เคยแตะงานพวกนี้เลยจริงๆ
"เธอไม่ต้องทำอะไรมาก แค่กวาดขยะ ถูพื้นแล้วก็เช็ดฝุ่นพวกนี้…"
"นี่นายไม่ได้จ้างแม่บ้านมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย"
"เกือบๆเดือนได้แล้วล่ะมั้ง…โทษทีที่มันรกไปหน่อย"
ไม่รกไปหน่อยหรอก แต่เหมือนรังหนูเลยล่ะพ่อคุณ! ฉันเบ้หน้าออกมาเมื่อรับรู้ว่าจะต้องมาทำงานแบบนี้ เอาจริงๆตั้งแต่คุณพ่อฉันเสียไป ทุกอย่างก็เหมือนล้มละลายไปหมด เราต้องขายบ้านเพื่อย้ายมาอยู่ที่นี้ และคุณแม่ก็ต้องสอนให้ฉันทำงานบ้าน เพราะถ้าท่านทำคนเดียวก็คงจะไม่ไหวแน่ๆ
"เธอไม่ต้องทำทุกอย่างให้เสร็จภายในวันเดียวหรอกน่ะ ทยอยทำอ่ะเข้าใจมั้ย…"
"ฉันไม่ได้โง่นา! นายไม่จำเป็นต้องบอกหมดหรอก"
"…อือ"
แปลกที่เขาไม่เถียงฉันเลย แต่เขากลับเดินนิ่งๆทำตัวเหมือนคุณชายมาดขรึมที่ถือตัวอะไรแบบนั้น แต่จริงๆแล้วถึงเขาไม่ทำแบบนั้น รัศมีความหล่อในตัวของเขาก็แผ่ออกมาจนคนอื่นๆรู้กันหมดแล้วล่ะว่าเขาเป็นไง
"ระวังหน่อยน่ะ ในห้องนอนฉันมันรกไปหน่อย"
"ทำไมหนังสือพวกนี้ถึงได้กระจัดกระจายแบบนี้ล่ะ แล้วไหนจะแผ่นดีวีดีนี่อีก…"
"นี่มันก็หน้าที่ของเธอที่ต้องทำนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป…"
"หา!!! มีหวังฉันคงได้เป็นโรคทางเดินหายใจแน่ๆ…"
"หึ…ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง"
เขาพูดพลางแค่นหัวเราะเมื่อฉันทำสีหน้าเหมือนคนใกล้จะตายเต็มที่ออกมให้เขาเห็น จริงๆเวลาที่เขายิ้มมันก็ดูดีอยู่หรอกน่ะ แต่ถ้าแค่นยิ้มแบบนี้มันดูเหมือนตัวร้ายเลย…แต่จะว่าไปมันก็เป็นเสน่ห์ส่วนตัวของเขาล่ะน่ะ ฉันไม่แปลกใจหรอกที่เขาจะมีสาวติดเยอะมาก เพราะเขาก็คือคนที่สมบูรณ์ทุกอย่าง…
"อ๊ะ…โอ๊ย!!!!!"
"ระวัง!!!!..."
ปึง !!!!
ในระหว่างที่ฉันเดินคิดอะไรเพลินๆนั้น ฉันก็เดินไปชนเข้ากับตู้ใส่แผ่นดีวีดีขนาดใหญ่ที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้องของเขาอย่างไม่ระวัง และนั่นจึงทำให้ตู้นั้นหล่นลงมาเกือบทับร่างของฉัน…
แต่โชคดีที่เขาคว้าตัวฉันเอาไว้ได้ทันและนั่นก็ทำให้ฉันนอนคร่อมอยู่บนร่างเขา!!!!!!
"สาบานได้ว่าถ้าเธอไม่ลุกออกจากตัวฉัน ฉันคงได้ตบะแตกแน่ๆ…"
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด >O<!! ฉันพยายามจะยันตัวให้ลุกออกจากการนอนทับร่างของเขา แต่ดูเหมือนที่ขาของฉันจะมีอะไรบางอย่างทับเอาไว้เลยทำให้ฉันรู้สึกเจ็บและชาจนเขยื้อนตัวไปไหนไม่ได้
"ฉันลุกไม่ได้อ่า T^T"
"งั้นเธอก็อยู่นิ่งๆ…ต้องอยู่นิ่งๆเข้าใจมั้ย"
"รู้แล้วนาคนบ้า!!!" พูดไปฉันก็เขินเหมือนกันที่ต้องมานอนทับร่างของเขาแบบนี้ แถมใบหน้าของเราก็อยู่ตรงกันพอดีจนฉันรู้สึกเมื่อยคอที่จะต้องยกใบหน้าให้ออกห่างจากเขา…
"ถ้าเมื่อยก็เอาหน้าลงมาก็ได้ ไม่ต้องยืดขนาดนั้นหรอก"
"มะ…ไม่เป็นไร ฉันไม่เมื่อยเลยสักนิด!"
"งั้น ลองขยับขาอีกทีสิ…"
ฉันลองทำตามที่เขาบอกโดยการขยับขาอย่างลองเชิง แต่ก็พบว่าอะไรที่มันทับขาฉันอยู่เมื่อกี้มันหายไปแล้ว แต่มันก็ยังทิ้งรอยแผลไว้ตรงขาของฉันเอาไว้ แถมยังมีรอยช้ำเป็นจ้ำๆด้วย T^T
"อ๊า!ขาฉันเป็นรอยไปหมดเลย T_T"
"ทายาไม่กี่วันก็หายแล้วนา ว่าแต่เธอจะลุกได้หรือยัง"
"…ดะ…ได้!!"
ปรากฏว่าทันทีที่ฉันยันตัวขึ้นได้แล้วกระโดดตัวขึ้นอย่างลืมตัว แผลที่ขาของฉันก็ทำฤทธิ์จนฉันล้มหงายตึงลงไปนอนบนพื้นอีกรอบอย่างเจ็บปวด แถมข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่แล้วก็ยิ่งระเนระนาดไปกันใหญ่…แง้ง ทำไมพระเจ้าต้องกลั่นแกล้งฉันด้วย!!
"ยัย…!!"
"ชะ…ช่วยฉันก่อนเถอะ ฉันลุกขึ้นไม่ไหวแล้ว งือๆ"
"ให้ตายสิ ทำไมเธอถึงซุ่มซ่ามแบบนี้ฮะ!"
"ก็มันล้มไปแล้วนี่ ถึงนายจะด่าฉันยังไงก็ย้อนกลับไปไม่ได้หรอก…"
"งั้นก็ช่วยเหลือตัวเองเอาแล้วกัน!! ปากเก่งอย่างนี้ฉันช่วยไม่ลงหรอก!"
เขาว่าพลางเดินผ่านฉันไปอย่างไม่หันกลับมามอง และตามด้วยการปิดประตูประชดแรงๆจนฉันสะดุ้งโหยงอย่างตกใจทั้งๆที่กำลังนั่งแผละอยู่บนพื้นแบบนี้ จริงๆถ้าฉันมีสติและไม่ใจลอย มันก็คงไม่ส่งผลให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้หรอกใช่มั้ย… นี่แค่วันเดียวฉันก็ทำข้าวของเขาพังหมดเลย
แต่…แต่นี่ก็เป็นจุดประสงค์ของฉันไม่ใช่เหรออัลเดล…
"บ้าจริงอัลเดล! เธอกำลังฟุ้งซ่านอะไรเนี่ย…"
ฉันพึมพำใส่ตัวเองก่อนที่จะค่อยๆพยุงตัวขึ้นจากพื้นทั้งๆที่ขามันแทบจะไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ แถมก้นฉันมันคงระบมไปหมดแล้วแน่ๆ แล้วถ้าพรุ่งนี้ก้นฉันบวมขึ้นมาล่ะ…แง้งแง้ง >O<!!!
"ลุกขึ้น!..."
"อ๊ะ…นายไปไหนมาเหรอ"
"โทรไปสั่งตู้มาใหม่ อีกอย่างตู้ใบนี้ก็อยู่กับฉันมานาน…พอเธอมาเจอมันเข้า มันก็คงแผลงฤทธิ์ใส่"
"ยังไงฉันก็ต้องขอโทษนายอยู่ดี…ขอโทษน่ะ"
"ช่างมัน…"
เขาพูดโดยไม่หันมามองฉัน แต่แขนเขาก็ยังคงเกี่ยวแขนฉันอยู่เพื่อช่วยฉันพยุงตัวขึ้นไปนั่งบนเตียงของเขา ฉันยิ้มออกมาเมื่อเห็นเขาแกล้งเมินใส่ฉัน…แถมฉันยังอุตส่าห์ลดศักดิ์ศรีเพื่อขอโทษเขา…
แต่หมอนี่กลับเอาแต่ทำหน้านิ่งและทำเหมือนไม่ใส่ใจคำขอโทษของฉันเลย!
"ฉันเจ็บขาอ่ะ…"
"นั่นตู้ยา!!"
"แต่ฉันเดินไม่ไหวอ่ะ…"
"เดินไม่ไหวก็ไม่ต้องทา!! ให้ตายสิเธอจะทำให้ฉันบ้าไปถึงไหนวะ…"
เขาบ่นฟึดฟัดอย่างอารมณ์เสีย แต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปเอากล่องยามาให้ฉันดีๆแต่เขาก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมานอกจากใบหน้าแบบฉบับของเขาคือใบหน้าดุร้าย…
"นายช่วยทายาให้ฉันหน่อยสิ ฉันปวดตัวไปหมดเลย…"
"!!!!!"
"ฉันปวดหลังเหมือนกระดูกจะหักเลย T^T"
"ถามจริง…เธอพูดแบบนี้กับผู้ชายทุกคนเลยหรือไง! รู้มั้ยว่าถ้าฉันเป็นพวกโรคจิต ป่านนี้เธอเละไปแล้วยัยงั่ง!"
"อ้าว…แล้วนายไม่ใช่โรคจิตเรอะ คิกๆ"
"เธออยากตายจริงๆใช่มั้ยอัลเดล!!"
"…ก็แค่ขำๆนา ฉันเห็นนายเอาแต่ขมวดคิ้วจนเบื่อแล้วล่ะ"
"แต่ฉันไม่ขำด้วย!...อีกอย่าง ฉันจริงจังกับทุกเรื่อง!"
เขาพูดและเดินมานั่งข้างๆฉัน ก่อนที่จะกระชากขายาวของฉันให้ไปพาดไว้บนตักของเขา… ฉันทั้งตกใจทั้งพูดไม่ออกที่เขาทำแบบนี้ และตอนนี้เขากำลังควานหาอะไรสักอย่างในกล่องยา ก่อนที่จะหยิบยามาหลอดนึง… จริงๆแล้วใบหน้าที่แลออกเย็นชานิดๆก็ทำให้เขาดูดีมากๆเลย
"อย่ามองหน้าฉัน! ฉันไม่มีสมาธิ"
"มะ…ไม่มองก็ได้"
"ไม่มองก็หันไปทางอื่น แล้วก่อนกลับบ้านเธอต้องมาเก็บดีวีดีพวกนี้เข้าชั้นให้หมด"
"ทั้งหมดนี้เหรอ O_o!!!"
"ใช่!!"
"มันไม่เยอะไปหน่อยเหรอ อย่างน้อยก็เห็นใจฉันหน่อยสิ…ฉันเจ็บขาอยู่น่ะ"
"แล้วมือเธอพิการหรือยังไง ถ้าเกิดเธอบ่นขึ้นมาอีกคำ…ฉันจะเอายานี่ยัดปากเธอ!"
"ไม่บ่นก็ได้…คนใจร้าย" ฉันบ่นพึมพำแต่ทว่าเขากลับคว้ามือของฉันทันที!
"เธอว่าใครใจร้าย?!"
"…ไม่ได้ว่านายสักหน่อย" แต่ว่าผู้ชายที่ชื่อวอฟต่างหาก…
"สงบปากสงบคำเอาไว้ให้ดีๆ…แล้วรู้ไว้ด้วยว่าฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ!"
รู้แล้วล่ะนาว่านายไม่ใช่เพื่อนเล่นฉัน ฉันอดแขวะเขาด้วยสายตาไม่ได้เมื่อเห็นว่าเขายังเอาแต่ทำหน้าบึ้งอยู่ขณะที่ใส่ยาให้ฉัน นิ้วของเขาลากผ่านผิวกายที่ขาของฉันอย่างช้าๆ…จนทำให้เลือดในร่างกายของฉันมันไหลขึ้นหน้าจนฉันรู้ร้อนที่ใบหน้าอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน…
"เป็นอะไร…"
"ปละ…เปล่า คือห้องของนายมันอบอ้าวไปนิดน่ะ"
"ฉันเปิดแอร์จนมันจะติดลบอยู่แล้ว เธอยังบอกว่าร้อนอีกเหรอ"
"จริงเหรอ!...แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกร้อนวูบวาบแบบนี้ล่ะ"
"หึ…นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอ"
"ระ…รู้อะไร!!!"
ฉันตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นเขาทำหน้าตามีพิรุธ แล้วไหนจะรอยยิ้มที่ดูแตกต่างจากเขาคนเก่าอีก ให้ตายเถอะฉันกลัวเขาขึ้นมาจับใจแล้วน่ะ…เขาเลื่อนมือขึ้นมาจากที่แตะอยู่ที่ขาของฉันก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงขาอ่อนของฉัน…
"ทะ…ทำอะไร!! นายทำบ้าอะไรอ่ะ"
"หน้าเธอแดงมากเลย…หึ"
"ไอ้บ้า ไอ้คนทะลึ่ง! เอามือของนายไปไกลๆเลยน่ะ!"
"ผิวเธอก็นุ่ม…ลื่นมือจริงๆ"
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด…"
ฉันกรี๊ดใส่หูของเขาเมื่อเห็นว่าเขาคิดจะลามปามฉันมากกว่าที่กำลังทำอยู่… และนั่นก็เป็นผลทำให้เขาชักมือของจากร่างกายของฉันและยกมือขึ้นปิดหูอย่างอารมณ์เสีย
"ให้ตายเถอะ เธอจะกรี๊ดหาพระแสงอะไร…"
"ฉันกรี๊ดเพื่อเรียกสติของนายกลับมาต่างหาก!"
"…ยุ่งไม่เป็นเรื่อง!"
"นายเป็นคนผิดน่ะตาบ้า! กล้าทำเมินเฉยใส่ฉันได้ยังไง!"
"แต่ฉันเป็นเจ้านายเธอน่ะ…อย่าลืม"
"ฮึ่ย!!!...ฉันเกลียดนายจริงๆ ให้ตายสิ"
"ทำเหมือนกับว่าฉันชอบเธอจังเลยน่ะ…"
"ฉันไม่ได้สั่งให้นายมาชอบฉันนี่!"
ฉันพูดขึ้นอย่างฉุนๆ ก่อนที่เขาจะเดินกลับมาหาฉันอีกรอบและโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆกับฉันพร้อมกับผลักร่างของฉันให้นอนราบไปกับเตียงของเขา…ไอ้บ้านี่คิดจะทำอะไรพิเรนท์ๆอีกแล้วเนี่ย >///<
"…แต่ถ้าฉันชอบเธอขึ้นมาล่ะ"
"…."
"หึหึ…" เขาเดินออกไปจากห้องพร้อมกับทิ้งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยไว้ให้…
แต่ทำไมหัวใจของฉันถึงเต้นแรงแบบนี้ล่ะ…
WRITER SAY ::
ฝากติดตามกันเยอะ ๆ น้าาาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ