ϟHAVOC WHOPPER ปฏิบัติการเสี่ยงรักแค้นร้ายϟ

10.0

เขียนโดย Haven_line

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 09.46 น.

  2 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,766 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 16.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Prologue ; I just saw your pain

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

HAVOC WHOPPER ปฏิบัติการเสี่ยงรักแค้นร้าย

 

 

 

Prologue I just saw your pain

 

 

 

 

 

WHOPPER SAY ::

Girl just hear me out, cuz I got somethin’ to say

สาวน้อย ฟังฉันหน่อยนะ เพราะฉันมีอะไรจะบอก


You hear me callin’ but still walkin’ away

เธอได้ยินฉันเรียกแล้วแต่ก็ยังเดินหนีไป


This pain inside just won’t go away

ความเจ็บปวดข้างในใจนี้มันไม่ยอมหายไปไหนเลย

Babe I can’t watch you slippin’ away


ที่รัก ฉันมองดูเธอเดินจากไปเฉยๆแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ

 

 

 

 

 

http://www.keedkean.com

 

 

 

 

 

 

 

11:13 P.M

 

 

ฉันนั่งมองร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังอ่อนแอลงไปทุกที เสียงลมหายใจของเธอที่กำลังค่อยๆขาดห้วงไปเรื่อยๆทำให้หัวใจของฉันมันปวดร้าวไปหมด ยิ่งฉันเลื่อนมือไปแตะใบหน้าที่แสนซีดเซียวของเธอ น้ำตาของฉันก็พลันไหลลงมาอย่างทรมาน ตอนนี้ฉันกำลังเจ็บปวดจนไม่มีทางที่จะเยียวยาใดๆได้อีกแล้ว…

 

 

"…อัลเดล"

 

 

"ฮึกๆ…คุณแม่ คุณแม่ค่ะ"

 

 

"ไม่เอาน่ะค่ะ อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้น่ะค่ะคนเก่ง…" ยิ่งคุณแม่ปลอบประโลมฉันด้วยคำพูดที่แสนดี น้ำตาของฉันก็ไม่มีท่าทีว่าจะเหือดแห้งลงไปลยสักนิด กลับกัน เพราะมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอ่อนแอมากกว่าเดิมอีก

 

 

"คุณแม่ค่ะ…อย่าทิ้งหนูไปน่ะ อย่าทิ้งหนูไป…ฮึกๆ"

 

 

"แม่จะอยู่ข้างๆหนู…แต่หนูต้องยิ้มให้แม่น่ะค่ะคนเก่ง"

 

 

"ฮือๆ…"

 

 

ฉันส่ายหัวไปมาเหมือนคนบ้าโดยไม่อยากยอมรับความจริงที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้และความจริงเหล่านี้ที่มันกำลังจะหวนกลับมาทำร้ายฉันอีกครั้งในตอนนี้… ถ้าฉันไม่เหลือใคร ถ้าฉันไม่มีคุณแม่ ฉันจะอยู่ได้ยังไง

 

 

"คุณแม่ไม่เป็นอะไรแล้วน่ะค่ะ…"

 

 

"ฮือๆ…คุณแม่ คุณแม่ค่ะ"

 

 

"อย่าร้องไห้เลยน่ะ คนเก่งต้องยิ้มให้คุณแม่เท่านั้น…เข้าใจมั้ยค่ะ"

 

 

"คุณแม่…ฮือๆ"

 

 

"คุณแม่จะอยู่กับหนูน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงน่ะค่ะคนเก่ง…แต่ตอนนี้หนูต้องกลับบ้านไปนอนได้แล้วน่ะค่ะ"

 

 

"หนูจะอยู่กับคุณแม่ หนูจะอยู่กับคุณแม่…ฮือๆ หนู หนู…"

 

 

ยิ่งฉันพยายามจะพูด ก็ดูเหมือนว่าน้ำตาที่กำลังไหลลงมามากมายนั้นมันทำให้เสียงของฉันเปล่งออกมาได้ยากเหลือเกิน และยิ่งฉันจะหยุดร้องไห้ มันก็ยิ่งทำให้ตัวของฉันสั่นเทาไม่หยุด…

 

 

"อย่าดื้อสิค่ะคนเก่ง…ไม่ดื้อน่ะค่ะ"

 

 

"คุณแม่…คุณแม่ต้องสัญญาว่าจะอยู่กับหนูน่ะค่ะ สัญญาน่ะค่ะ…"

 

 

"คุณแม่สัญญาค่ะคนเก่ง…"

 

 

ฉันเลื่อนมือไปจับมือของคุณแม่เอาไว้อย่างแนบแน่นเหมือนไม่อยากให้คุณแม่จากฉันไปไหน แต่ยิ่งเหมือนฉันจะอ้อนวอนต่อพระเจ้ามากเท่าไหร่ เหตุการณ์ร้ายๆก็ยิ่งเกิดขึ้นกับตัวฉันมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีฉันก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในสถานการณ์ยังไง

 

 

"คุณแม่พักผ่อนเถอะค่ะ พรุ่งนี้เช้าหนูจะเอาข้าวต้มอุ่นๆมาเยี่ยมน่ะค่ะคุณแม่…"

 

 

"ค่ะคนเก่ง…"

 

 

เมื่อคุณแม่ส่งยิ้มมาให้ฉันอีกครั้ง ฉันก็ปาดน้ำตาที่เกาะอยู่บนใบหน้าออกไปก่อนที่จะยื่นมือไปเลื่อนผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวของคุณแม่เอาไว้… ฉันเดินออกไปจากห้องแต่ภายในใจยังคงกระวนกระวายกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่หยุด เพราะมันเหมือนว่าทุกอย่างในชีวิตฉันมันผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ผ่านไปเร็วจนฉันไม่ทันจะได้ตั้งตัวเลยสักนิด และเมื่อรู้สึกตัวอีกที ฉันก็เดินออกมาอยู่นอกถนนใหญ่ซะแล้ว…

 

 

นี่ฉันใจลอยขนาดนี้เลยเหรอ…

 

 

ฉันเดินตรงไปเรื่อยๆเพื่อหวังจะหารถแท็กซี่สักคัน แต่ก็ดูเหมือนว่าบนถนนแห่งนี้จะหายากเหลือเกิน แต่ฉันก็โชคดีที่เดินมาเจอบาร์ใหญ่ๆแห่งหนึ่งที่ตั้งเด่นสง่าอยู่ริมถนน และดูจากรถราคาแพงทั้งหลายที่มาจอดที่นี้ ฉันคิดว่าที่นี้คงจะมีแต่คนรวยๆหรือพูดง่ายๆคือมีแต่คนระดับสูงอยู่ทั้งนั้น…

 

 

ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งปวดใจ…เพราะเมื่อก่อนฉันก็เคยอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา

 

 

ฉันเดินเข้าไปในบาร์เพื่อหวังจะซดแอลกอฮอล์แรงๆสักแก้ว เพื่อให้คลายจากอาการปวดหัวที่กำลังเป็นอยู่ ฉันนั่งลงที่เคาน์บาร์และสั่งอะไรสักอย่างมานั่งซดแก้เครียด…

 

 

"ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนมั้ยครับ…"

 

 

"…ไม่จำเป็น" ฉันตอบปฏิเสธโดยไม่หันไปมองหน้าผู้ชายคนนั้น

 

 

"ใจร้ายจังเลยน่ะครับ แค่นั่งคุยด้วย ก็ไม่ได้เหรอ"

 

 

"ฉันบอกว่าอย่ามายุ่ง!!! รีบไปซะ ก่อนที่ฉันจะเอาไอ้นี่สาดใส่หน้านาย!"

 

 

"โอเค โอเค…" เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นก่อนที่จะเดินออกไปจากฉันเมื่อเห็นว่าฉันไม่เล่นด้วยจริงๆ ให้ตายเถอะ ทำไมผู้ชายพวกนี้ถึงชอบมารุ่มร่ามกับฉันนักน่ะ! ฉันล่ะไม่ชอบเลยจริงๆ

 

 

"ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ"

 

 

"ขอเฟรนช์ฟรายส์ที่หนึ่งแล้วกันค่ะ"

 

 

"ครับ"

 

 

ฉันนั่งหมุนแก้วอย่างเซ็งๆ…และหันมองผู้คนในบาร์แห่งนี้อย่างเรื่อยเปื่อย จนสายตาคู่ดีของฉันก็ผลันหันไปสบตาเข้ากับผู้ชายร่างสูงคนนึงที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ไม่ห่างไปจากฉัน…ฉันจดจำเขาได้ขึ้นสมอง ทั้งแววตาที่ดูดุร้ายและใบหน้าที่ดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ไม่ว่าเขาจะแสดงอิริยาบถใดๆฉันก็เพ่งมองเขาอย่างไม่วางตา และสิ่งที่ฉันคิดไม่ถึงคือฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เจอกับผู้ชายคนนั้นที่นี้…

 

 

ฉันชื่ออัลเดล ฉันมีน้องสาวอีกคนชื่ออัลดาร์… และมีคุณแม่ที่แสนดี ส่วนคุณพ่อของฉันท่านได้เสียชีวิตไปไม่กี่เดือนที่ผ่านมา… ท่านเสียชีวิตเพราะตรอมใจ คุณพ่อของฉันคาดหวังกับการร่วมหุ้นแต่ก็ถูกหักหลังอย่างไม่ไยดี และอสังหาริมทรัพย์ที่คุณพ่อสร้างมาก็พังทลายลงต่อหน้าต่อตาเพราะมีคู่แข่งตัวร้ายมาชิงตัดหน้าโดยการเปิดโรมแรมยักษ์ใหญ่ที่ดูหรูหราและดูไฮโซกว่าโรมแรงของคุณพ่อฉันที่ท่านอุตส่าห์สร้างขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อของท่าน… โรมแรมของท่านค่อยๆแย่ลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายโรงแรมของเราก็ถูกปิดตัวลง…

 

 

และฉันก็ต้องจำใจยอมรับความจริงและต้องฟังเสียงร้องไห้ของคุณพ่อและคุณแม่ทุกคืน

 

 

"ได้แล้วครับ…"

 

 

"เดี๋ยวค่ะ! คือ…ผู้ชายคนนั้น ที่นั่งติดกับผนังคนนั้น เขาเป็นใครเหรอค่ะ"

 

 

"อ่อ คุณวอฟ…วอฟเปอร์ ลอบส์ ครับ เขาเป็นมือเบสของวงHAVOCที่เล่นประจำอยู่ที่บาร์แห่งนี้ครับ"

 

 

"วอฟเปอร์…"

 

 

"ครอบครัวของคุณวอฟมีกิจการใหญ่โตและเป็นที่รู้จักดีของคนในรัฐวัลลูนแห่งนี้ครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วคุณพ่อของคุณวอฟจะเป็นหน้าเป็นตาในหมู่สังคมชั้นสูงครับ…"

 

 

"เขารวยขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ…"

 

 

"ครับ และเขาก็เป็นที่ต้องตาของผู้หญิงในรัฐวัลลูนแห่งนี้ด้วยครับ ถือว่าเขาเป็นผู้ชายที่ห่ามและเถื่อนจนไม่ค่อยมีใครกล้าไปสุงสิงกับเขาเลยล่ะครับ"

 

 

สายตาของฉันจ้องมองไปที่เขาอย่างลืมตัว…แต่ไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกหลงรักอะไรเขาหรอกน่ะ แต่มันเกลียดจนละสายตาไปไหนไม่ได้ต่างหากล่ะ! เพราะครอบครัวของเขาทำให้กิจการของพ่อฉันล่มยังไงล่ะ!!

 

 

"เขานิสัยยังไงเหรอค่ะ…ขอโทษทีน่ะค่ะ ฉันแค่อยากรู้เฉยๆ"

 

 

"ไม่เป็นไรครับ คุณวอฟเขาเป็นคนไม่ค่อยเข้ากลุ่มกับใครเท่าไหร่ครับ บุคลิกทั่วไปก็คงเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด แต่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาดีครับ…แถมยังมีคนบอกกันมาว่าเป็นเสือผู้หญิงตัวยงด้วยล่ะครับ"

 

 

"…ชั่วจริงๆ"

 

 

"คุณว่ายังไงน่ะครับ"

 

 

"ปละ…เปล่าค่ะ" ฉันสะบัดมือไปมาและซัดแอลกอฮอล์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าขึ้นไปจนหมดแก้ว และรู้สึกเหมือนฉันคออ่อนเกินไปจนสายตาเริ่มพร่ามัวไป… กินแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ พรุ่งนี้ฉันจะต้องไปเปิดร้านอีก

 

 

"ขอโทษน่ะค่ะ!!! ขอโทษจริงๆค่ะ!"

 

 

เสียงดังวุ่นวายดังขึ้นโดยไม่ไกลจากฉันนัก และรู้สึกเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้นที่บาร์แห่งนี้ด้วย ฉันยืดตัวขึ้นเพื่อหวังจะกลับบ้าน แต่สายตาของฉันก็ลากไปเจอผู้หญิงร่างบางคนนึงที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นและกำลังก้มๆเงยๆอยู่ที่พื้น และแค่เห็นแผ่นหลังนั่นฉันก็จำได้เลยว่าเธอคือใคร!!

 

 

"อัลดาร์!!!!"

 

 

ฉันวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่กำลังนั่งร้องไห้โดยตัวสั่นเทาไปหมดนั่นคือน้องสาวของฉันเอง ฉันเข้าไปกระชากตัวเธอขึ้นมาจากพื้นและพบว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่…

 

 

"เธอมาทำอะไรที่นี้?? แล้วนี่กำลังทำบ้าอะไรอยู่ฮะ!! ไหนบอกจะไปค้างบ้านเพื่อนไงอัลดาร์!"

 

 

"พะ…พี่ พี่เดล!! "

 

 

"เธอมาทำอะไรที่นี้!"

 

 

"พี่เดลอย่าโกรธดาร์เลยน่ะค่ะ…ฮือๆ" เมื่ออัลดาร์เห็นหน้าฉัน เธอก็มีสีหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด และดูเหมือนว่าบุคคลรอบข้างจะหันมามองหน้าฉันเป็นตาเดียวกันด้วย

 

 

"ช่างมัน! แต่ตอนนี้เธอต้องกลับบ้าน…กลับบ้านกับฉัน!เดี๋ยวนี้!"

 

 

"ฮือๆ…แต่ดาร์ต้องทำงานน่ะค่ะพี่"

 

 

"…เธอเป็นพี่สาวของยัยห่วยแตกนี่เองเหรอ หึ?!" ฉันหันขวับไปมองผู้ชายที่ชื่อวอฟทันทีเมื่อเขาพ่นคำพูดร้ายกาจเหล่านั่นออกมา… ไอ้บ้านี่มันจะมากเกินไปแล้วน่ะ!!

 

 

"…นายไม่มีสิทธิ์มาพูดจาต่ำๆแบบนี้ใส่น้องสาวฉันน่ะไอ้บ้าเอ๊ย!!"

 

 

"หึ!..."

 

 

ฉันตะโกนใส่หน้าเขาอย่างเดือดดาลและพยายามจะลากตัวอัลดาร์ออกไปจากบาร์เฮงซวยนี่ แต่แล้วไม่ทันที่ฉันจะเดินไปได้ไกลเท่าไหร่ ผู้ชายที่ชื่อวอฟก็ตามมากระชากตัวฉันออกไปจนร่างของฉันเซไปชนเข้ากับแผงอกอันแข็งแกร่งของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว…

 

 

"ปละ…ปล่อย!!! ปล่อยฉันน่ะไอ้บ้า!"

 

 

"เธอคิดจะมาลากตัวน้องสาวห่วยแตกของเธอไปง่ายๆแบบนี้เหรอ…แหกตาดูซะ!ว่าน้องสาวเธอบริการได้ห่วยแตกสมชื่อหรือเปล่า " เขาพูดพลางกระชากเสื้อที่เขาใส่อยู่เพื่อให้ฉันดูผลงานที่ได้แต้มอยู่บนเสื้อของเขา

 

 

"น้องสาวฉันขอโทษนายไปแล้วนี่! กับอีแค่เสื้อตัวเดียว…นายไม่มีปัญญาซื้อใหม่หรือไงฮะ!!"

 

 

"เธอคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใครฮะ!!"

 

 

เขามองหน้าฉันเขม็งเมื่อเห็นว่าฉันไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่ายๆ แถมฉันยังตอบโต้เขากลับไปอย่างรุนแรงจนเขาทนไม่ได้ แต่ทว่าเขากลับยิ่งเพิ่มแรงบีบข้อมือของฉันจนฉันรู้สึกเจ็บไปหมด…

 

 

"แขนฉันจะหักอยู่แล้วน่ะไอ้บ้าเอ๊ย!!"

 

 

"เจ็บก็จ่ายค่าเสียหายมาสิ…ฉันแค่ยืมตัวน้องสาวเธอไปแค่คืนเดียวเท่านั้น มันคงไม่มากไปหรอกใช่มั้ย… หรือว่าเธอจะจ่ายเป็นตัวเธอแทนก็ได้ หึ!"

 

 

"ไอ้สารเลวเอ๊ย! ให้ตายแกก็ไม่มีวันได้น้องสาวฉันไปหรอก!!!"

 

 

ฉันสะบัดข้อมือของเขาออกแรงๆ ก่อนที่จะรีบไปคว้าร่างของน้องสาวฉันเอาไว้ แต่เมื่อรู้ตัวอีกที ก็มีผู้ชายสามสี่คนมาล็อกตัวน้องสาวของฉันเอาไว้เสียแล้ว…

 

 

มันจะมากเกินไปแล้วน่ะ! ไอ้พวกเลวนี่มันคิดจะทำระยำอะไรอีก!

 

 

"ไม่เอานา ฉันอุตส่าห์เจรจาด้วยคำพูดที่แสนนุ่มนวลแล้วน่ะ…"

 

 

"ฉันไม่เจรจากับผู้ชายเลวๆอย่างนาย!!"

 

 

ยิ่งเมื่อก่อนฉันเกลียดเขามากเท่าไหร่ ตอนนี้ความเกลียดนั่นก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆจนมันแทบจะระเบิดอยู่แล้ว และยิ่งเขากล้าที่จะมาทำนิสัยห่ามๆแบบนี้ใส่ฉัน ฉันก็ยิ่งอยากจะฆ่าเขาให้ตายลงตรงนี้!!

 

 

ฉันอยากให้เขาได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของพ่อฉันที่พวกเขาได้ก่อเอาไว้!!

 

 

"ถ้าเธอไม่ยอมยกน้องสาวของเธอให้ฉันดีๆ…ฉันก็ขอยกน้องสาวของเธอให้พวกนั้นก็แล้วกันน่ะ"

 

 

"ไอ้บ้าเอ๊ย! นายจะเอายังไง…นายจะเอายังไงกันแน่!"

 

 

"ยอมอ่อนข้อให้ฉันแล้วหรือไง…แม่คนเก่ง"

 

 

"พูดมา!!!!"

 

 

"เธอต้องชดใช้สิ่งที่เธอทำกับฉัน…ทั้งคำพูดที่เธอสำรอกออกมาและแววตาที่ดูจองหองนั่น มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำกับฉันมาก่อน!"

 

 

"…ฉันจะทำให้นายทุกอย่าง แต่นายต้องปล่อยตัวน้องสาวของฉัน!"

 

 

"ได้…ฉันจะปล่อยน้องสาวของเธอ"

 

 

เขาพูดพลางหันหน้าไปมองลูกน้องของเขาที่ยืนล็อกตัวน้องสาวของฉันอยู่ให้หลุดพ้นจากการพันธนาการของไอ้พวกเลวนั่น อัลดาร์วิ่งมาหาฉันด้วยน้ำตาและเธอก็กำลังกอดร่างของฉันเอาไว้อย่างหวาดกลัว

 

 

"มาทำงานที่นี้แทนน้องสาวของเธอ…และที่สำคัญ เธอต้องมาเป็นทาสของฉัน!!"

 

 

"ไอ้บ้าเอ๊ย! ฉันไม่ใช่คนรับใช้ของนายน่ะไอ้บ้า!!"

 

 

"อย่าผิดคำพูด!! ไม่งั้นฉันจะจัดการน้องสาวสุดที่รักของเธอซะ!"

 

 

"พะ…พี่อัลเดล ฮือๆ"

 

 

อัลดาร์เรียกฉันด้วยเสียงที่ดูสั่นไปหมด ฉันเอื้อมมือไปกุมมือน้องสาวเอาไว้แน่นเมื่อเธอเริ่มร้องไห้อย่างหนัก ฉันกำมืออีกข้างแน่นเพราะความโกรธแค้น…โกรธที่ไม่สามารถทำอะไรหมอนั่นได้เลย

 

 

"โอเค…ฉันจะมาทำงานที่นี้!!!"

 

 

"ให้มันได้อย่างนี้สิ…หึ!"

 

 

เขาเผยยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ แต่ฉันกำลังเม้มปากแน่นจนมันจะเป็นเส้นตรงเพราะความเกลียดที่มันได้สะสมอยู่จนล้นอก… ทั้งๆที่ฉันอยากจะแก้แค้นให้พ่อของฉัน แต่ฉันก็ถูกเขาเล่นงานอย่างไม่เหลือชิ้นดี!

 

 

ถึงแม้วันนี้ฉันจะแก้แค้นเขาไม่ได้!!แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่มีทางแก้แค้นเขานี่…!

 

 

 

09:30 A.M

 

 

"พี่ญ่าค่ะ วันนี้ลูกค้าแน่นร้านเลยน่ะค่ะ…"

 

 

"ใช่ค่ะน้องเดล…อาจจะเป็นเพราะสิ้นค้าล็อตใหม่ที่เราเพิ่งลงก็ได้ค่ะ"

 

 

"ค่ะ เดลฝากพี่เฝ้าร้านก่อนน่ะค่ะ…"

 

 

"ได้เลยค่ะ ฝากบอกคุณแม่น้องเดลด้วยน่ะค่ะว่าไม่ต้องเป็นห่วงที่ร้าน"

 

 

"ค่ะ เดลจะบอกให้น่ะค่ะ"

 

 

ฉันยิ้มกริ่มก่อนที่จะถือตะกร้าเล็กๆที่ใส่อาหารอยู่เดินออกไปนอกร้านเพื่อจะไปหาคุณแม่ที่โรงพยาบาล วันนี้ฉันต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อทำอาหารให้คุณแม่และทำอาหารตั้งเอาไว้ให้ดาเลนต์ด้วย หลังจากเรื่องเมื่อคืนฉันก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับอัลดาร์เลย เพราะเธอเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด…

 

 

ฉันก็ไม่คิดจะพูดอะไรต่ออีกแล้ว เพราะอัลดาร์เป็นคนที่จิตใจบอบบางมากน่ะ

 

 

ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!

 

 

"อุ๊ย!!!..."

 

 

ฉันเดินใจลอยจนเผลอเดินออกมานอกถนนอย่างไม่ตั้งใจ จนมีรถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาพอดี แต่ดูเหมือนเจ้าของรถจะแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด จนฉันต้องหยุดเดินและก้มหัวลงหลายครั้งอย่างรู้สึกผิดที่ตัวเองเดินไม่ระวังแบบนี้…

 

 

"เดินแบบนี้จะรีบไปตายหรือไง!" เจ้าของรถคันนั้นหยุดรถลงและเลื่อนกระจกรถลงมาเพื่อพูดกับฉัน

 

 

"นะ…นาย!!!!"

 

 

"ฉันก็นึกว่ายัยบ้าที่ไหน ที่แท้ก็เธอเองเหรอเนี่ย…"

 

 

"ฉันไม่ใช่ยัยบ้าน่ะ! เอาเถอะ ยังไงฉันก็ขอโทษที่เดินไม่ดูแล้วกัน!"

 

 

ฉันพูดและเดินหนีออกมาจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว ให้ตายสิ ไม่คิดเลยว่าฉันจะเจอกับผู้ชายกวนประสาทคนนี้อีกแล้ว และฉันก็ไม่อยากเจอกับหมอนี่มากๆเลยด้วย! ผู้ชายบ้าอะไร ตั้งท่าจะกัดและหาเรื่องฉันได้ตลอดเวลา

 

 

"ฉันยังพูดไม่จบ เธอไม่มีสิทธิ์เดินหนี!!"

 

 

"อะไรอีกเล่า! นายจะหาเรื่องอะไรฉันอีก"

 

 

"ไม่ได้จะหาเรื่อง แค่อยากเห็นหน้าเบ๊ของฉันชัดๆ! เพราะตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป…เธอจะต้องไปรับใช้ฉัน ไถ่ความผิดที่เธอทำไว้กับฉัน"

 

 

"นายบ้าไปแล้วหรือไง!! ฉันต้องมีเวลาว่างของฉันบ้างสิ"

 

 

"แต่ถ้าฉันสั่ง เธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ อย่าลืม! ว่าฉันกำลังถือไพ่เหนือกว่าเธอ!!"

 

 

"ฉันบอกแล้วไงว่าตอนนี้ฉันไม่ว่าง! นายฟังภาษาคนไม่ออกหรือไง"

 

 

"เธอนั่นแหละฟังภาษาคนไม่ออก! มากับฉันเดี๋ยวนี้!"

 

 

"ไอ้บ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น้า!!!"

 

 

เขารวบมือของฉันเอาไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะดึงแขนของฉันจนแทบจะหลุดและนั่นจึงทำให้ฉันโอดครวญอย่างเจ็บปวดเพราะรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ อีกทั้งยังแดงเถือกไปหมดทั้งแขนเลย!!!

 

 

"ถ้าไม่ดิ้นก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก ผู้หญิงแบบเธอนี่มันงี่เง่าจริงๆ"

 

 

"นายนั่นแหละงี่เง่า!!"

 

 

"ถ้าเธอไม่หุบปาก ฉันจะได้จัดการปิดปากให้เธอ…แบบที่ผู้ชายเขาทำกับผู้หญิงกัน!!"

 

 

"นะ…นาย!!!!"

 

 

และดูเหมือนว่าเมื่อฉันไม่ทำตามอย่างที่เขาบอก เขาก็เพ่งเล็งมาที่ฉันอีกครั้งโดยใช้สายตาคมๆนั่นหรี่มามองฉันอย่างไม่พอใจ เออ!เขาถือไพ่เหนือกว่าฉัน ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ปริปากพูดอะไรใช่มั้ยล่ะ!

 

 

แต่ยังไงฉันก็ต้องพูด! ถึงแม้จะต้องยอมอ่อนข้อให้เขาก็ตาม

 

 

"…นายช่วยพาฉันไปโรงพยาบาลหน่อยสิ น่ะๆๆๆ ไม่นานหรอก"

 

 

"ฉันเป็นคนขับรถของเธอหรือไงยัยบ้า!"

 

 

"ก็ฉันต้องเอาข้าวต้มไปให้คุณแม่นี่นา…ถ้าอย่างนั่นนายก็จอดตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันจะเดินไปเอง แล้วนายอยากใช้งานอะไรฉันก็ค่อยไปเจอกันที่บาร์ก็ได้"

 

 

"แม่เธออยู่โรงพยาบาลงั้นเหรอ"

 

 

"…อือ คุณแม่ไม่สบาย"

 

"ช่างเถอะ ฉันจะพาเธอไปเอง แต่ฉันให้เวลาเธอไม่เกิน 20 นาทีน่ะ ถ้าเกิน…เธอตายแน่!!"

 

 

"ไม่เกินหรอกนา…"

 

 

ฉันกระชับกล่องข้าวและหันไปมองหน้าคนที่กำลังขับรถอยู่ แค่ฉันมองเสี้ยวนึงของใบหน้าเขา ฉันยังรู้สึกว่าใบหน้าของเขามันลงตัวทุกอย่างเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นตา…จมูก…ริมฝีปาก…หรือผิวของใบหน้าที่ดูใสเกลี้ยงซึ่งปราศจากร่องรอยของใดๆ…

 

 

ใครหลายๆคนอาจพูดได้เต็มปากเลยว่าเขาหล่อ…มาก

 

 

"มองหน้าฉันทำไม…"

 

 

"อะ…อะไร!!! ฉันไม่ได้มอง!!!"

 

 

"ไม่ได้มองแล้วทำไมต้องสะดุ้งด้วยล่ะยัยบ้า! ให้ตายสิ เธอนี่มันบ้าจริงๆ"

 

 

"ก็ฉันตกใจนี่นา…เอ๊ะ ถึงโรงพยาบาลแล้วเหรอ"

 

 

"ถ้าเธอไม่ใจลอยขนาดนี้ เธอคงจะรู้ว่าถึงโรงพยาบาลนานแล้วล่ะยัยบื้อ…"

 

 

"ก็บอกว่าฉันไม่ได้ใจลอยไงเล่า!"

 

 

"ไม่ได้ใจลอยแล้วทำไมถึงโง่ไม่ดูทางว่าฉันขับมาถึงโรงพยาบาลตั้งนานแล้ว"

 

 

"นี่นายจะด่าว่าฉันให้ได้เลยใช่มั้ย ผู้ชายอะไร ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด"

 

 

"ฉันก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษอยู่แล้วนี่…"

 

 

เขาพูดพลางโน้มตัวลงมาอย่างช้าๆจนหัวใจของฉันเต้นบ้าขึ้นมาเฉยๆ… บะ…บ้า! หัวใจบ้า! อย่าเต้นแรงได้มั้ย ฉันเบนหน้าไปอีกทางอย่างใจสั่น และไม่นานก็รู้สึกว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากผู้ชายบางคนแถวนี้… ไอ้หมอนี่แกล้งฉันอีกแล้วเหรอเนี่ย –[]-!!

 

 

"ไอ้คนบ้า!..."

 

 

"รีบไปซะ ก่อนที่ฉันจะกินเธอในรถนี่"

 

 

"อะ…ไอ้!!" เมื่อเขาทำท่าจะทำอย่างที่พูดจริงๆ ฉันก็รีบกระโดดลงจากรถทันที…

 

 

ให้ตายเถอะ ถ้าปล่อยให้หัวใจเต้นแบบนี้บ่อยๆ ฉันต้องบ้าตายแน่ๆ…อัลเดล

 

 

 

 

http://www.keedkean.com

  

 

http://www.keedkean.com

 

 

 

 

WRITER SAY :

 

ย้ากกกก ><' เรื่องนี้เป็นเรื่องต่อของ HAVOC GUILT ปฏิบัติการล่าท้าหัวใจนายปีศาจ ค่ะ เพิ่งลงเมื่อวานวันนี้ก็ลงอีกเรื่องไว้รอเลย555555 :p ติดตามกันด้วยน้า

เค้าอัพแน่นอนถ้าอยากอ่านก็เม้นต์ติชมให้เค้ารู้ด้วยน่ะ :D

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา