ϟHAVOC GUILT ปฏิบัติการล่าท้าหัวใจนายปีศาจϟ
เขียนโดย Haven_line
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.41 น.
แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 18.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) EPS 01 HAVOC IS PERFECT !
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
HAVOC GUILT ปฏิบัติการล่าท้าหัวใจนายปีศาจ
EPS 01 HAVOC IS PERFECT !
GUILT SAY ::
You look so innocent
คุณช่างดูไร้เดียงสา
But the guilt in your voice gives you away
แค่ทำเสียงสำนึกผิด มันก็ทำให้คุณรอดตัว
Yeah you know what I mean
รู้ใช่ไหม ผมกำลังหมายถึงอะไร
How does it feel when you kiss when you know that i trust you
คุณรู้สึกยังไง ตอนที่จูบเขา เมื่อคุณก็รู้ว่าผมเชื่อใจคุณ
And do you think about me when he fucks you?
แล้วคุณเคยคิดถึงหน้าผมบ้างไหม? ตอนมีอะไรกับเขา?
Could you be more obscene?
คุณรู้สึกละอายกับสิ่งที่ทำไว้บ้างไหม?
[ GUILT ]
HAVOC เป็นวงดนตรีเล็กๆที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆของรัฐเล็กๆแห่งนี้ HAVOC หมายถึง ความหายนะ และความสูญเสีย ชื่อนี้เป็นชื่อที่ทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่าเป็นชื่อที่ดีที่สุดสำหรับวงเถื่อนๆอย่างพวกเรา และที่สำคัญ สมาชิกทุกคนในวงขึ้นชื่อในเรื่องของความเลวและเรื่องความโหดเป็นที่หนึ่ง
"DAMN ! ฉันเหนื่อยวะ เหนื่อยจนจะกินผู้หญิงได้เป็นสิบแล้ว"
"แกก็กินอยู่เป็นประจำนี่ไอ้โนว์"
"เงียบปากแกไปเลยไอ้วอฟ… ถ้าไม่อยากให้ฉันเอาเบสแกไปเผาอีก!!"
"ให้ตายเถอะ พวกแกนี่ทะเลาะกันได้ทุกวัน ถามจริงไม่เบื่อบ้างหรือไงว่ะ"
เสียงบ่นของไอ้ซีดังขึ้น และนั้นก็เป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถหยุดเสียงทะเลาะของไอ้โนว์กับไอ้วอฟได้ ผมเดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาตัวยาว ก่อนที่จะกรอกบรั่นดีเข้าปาก…
"ฉันอยากได้ผู้หญิงไว้แทะโลมสักคนว่ะ…ไปเรียกมาให้ฉันหน่อยดิ"
เสียงของไอ้โนว์ หรือที่รู้จักกันดีในนามของ โนเบิล NOBLE ซึ่งมันก็มีความหมายว่าสูงส่งหรือสง่านั้นเอง มันเป็นมือกลองของวงและบ้าคลั่งที่สุด ส่วนเรื่องฐานะของมันอย่าให้พูดถึง รวยยิ่งกว่ารวยซะอีก…แต่มันก็เป็นเสือผู้หญิงชนิดที่ว่าหาตัวจับยากมากเลยทีเดียว ใบหน้าที่ดูใสเกลี้ยงที่ดูเหมาะกับสีผิวใสๆของมันทำให้ดูเข้ากันเป็นอย่างดีจนทำให้ผู้หญิงหลายๆคนหลงกันหัวปักหัวปำ มันสูงประมาณร้อยแปดสิบห้า (สูงเป็นบ้า!) และนั้นยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้มันยิ่งดูหล่อเลวมากขึ้นด้วย
"ทำไมไม่ไปต่อที่บ้านล่ะว่ะ…ฉันรู้ดีว่าแกต้องการมากกว่าการแทะโลม หึๆ"
"F*CK WHOP !!"
ส่วนไอ้ผู้ชายที่เป็นตัวปรับกับไอ้โนว์ก็คือไอ้วอฟหรือที่ใครหลายๆคนเรียกกันว่า วอฟเปอร์ WHOPPER ซึ่งแปลว่าการโกหกที่ลวงโลก และนั้นก็คือสิ่งที่มันทำเป็นประจำ - -“ แต่มันก็โกหกได้เนียนมาก รวมทั้งหน้าตาที่แสนจะเย่อหยิ่งและเฉยชาของมันก็โคตรจะเถื่อนมหาเถื่อนเลย! ผมคิดว่านั้นคือเรื่องเดียวที่ผู้คนส่วนมากไม่อยากอยู่ใกล้มัน มันเป็นมือเบสของวงและผมอยากให้พวกคุณจับตามองเวลาที่มันบรรเลงกรีดนิ้วลงบนสายเบสให้ดีๆ เพราะมันโคตรจะเทพเลย และทรงผมที่ดูเซ่อๆทำให้มันดูเท่ห์อย่างเหลือร้ายจริงๆ ยิ่งรวมกับส่วนสูงที่เกินมาตรฐานไปแล้วก็ยิ่งทำให้มันดูเท่ห์อีกมากขึ้น
"ฉันอยากจะเอารองเท้านี้ฟาดหัวพวกแกคนล่ะทีสองทีจริงๆว่ะ…"
และคนที่สามารถหยุดสองคนนี้ได้ก็คือพี่ใหญ่สุดของวง มันชื่อซี หรือซีเลค SELECT ที่แปลว่าดีเลิศนั้นเอง มันเป็นมือกีต้าร์ของวงและเป็นหัวหน้าวง มันเป็นคนที่จัดว่าบรรลุนิติภาวะทางนิสัยและความคิดมากกว่าทุกคนและผมว่าชื่อนี้เหมาะกับมันมาก เพราะมันเหมือนเทพบุตรของสาวๆเลยล่ะ แต่เรื่องความเลวมันก็ไม่ได้แพ้ใครเหมือนกันน่ะ แต่ผมว่ามันก็คงเป็นคนที่ดูดีที่สุดในเรื่องนิสัยแล้วล่ะ
"ไอ้กิวล์มันตายหรือยังว่ะ…ทำไมวันนี้มันเงียบปากอย่างนี้ล่ะ"
"แกอยากจะกินอะไรรองท้องก่อนจะกินผู้หญิงหรือไงไอ้โนว์…"
"ฮ่ะ ๆ จะให้ฉันกินเท้าแกหรือไงไอ้กิวล์ ขอบายเหอะ…ฉันไม่ขอสู้กับแกเรื่องนี้แน่ๆ"
GUILT ที่แปลว่าความผิดหรือมลทิน นั้นคือชื่อของผม… ผมทำหน้าที่เป็นนักร้องนำในวง HAVOC และที่สำคัญผมเป็นคนที่ไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่เรื่องการต่อสู้ผมไม่ยอมใครเหมือนกัน และที่สำคัญ…ผมไม่ได้มั่วไปทั่วเหมือนไอ้โนว์มันหรอกน่ะ เพราะผมยังไม่คิดจะมีผู้หญิงเป็นตัวเป็นตน… แต่อีกไม่นานผมก็อาจได้เจอก็ได้ เรื่องแบบนี้ผมรอให้มันวิ่งเข้าหาผมเองดีกว่า
ที่บ้านของผมประกอบกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ผมไม่ชอบการบริหาร ไม่ชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับการบริหาร…แต่เฮ้! มันไม่ใช่เพราะว่าไอคิวของผมไม่ถึงหรอกน่ะ แต่ผมแค่เบื่อการเข้าสังคมต่างหากล่ะ ผมเบื่อผู้หญิงในโลกมายาที่ชอบเข้าหาผมโดยหวังอะไรบางอย่าง…
ผู้หญิงที่มีนิสัยแก่นลึกเป็นพวกชอบหวังผลแบบนั้น ผมรับไม่ได้จริงๆ!
"ไปสังสรรค์กันข้างนอกเถอะวะ ข้างในนี่อึดอัดเป็นบ้า"
"ฉันก็ว่าอย่างนั้น…"
ผมและเพื่อนที่เหลือใน HAVOC มารวมกลุ่มกันได้เพราะเรารักที่จะเล่นดนตรี รักเสียงเพลง แต่อาจจะแปลกที่พวกเราดูสมบูรณ์แบบกันทั้งกลุ่ม แต่ไม่ใช่เพราะพวกเราเลือกคนที่สมบูรณ์แบบหรอกน่ะ แค่เป็นเพราะพวกเรามาเจอกันในเวลาที่ประจวบเหมาะและทุกคนล้วนก็มีความต้องการที่จะตั้งวงดนตรีเหมือนกันล่ะมั้ง…
เอาเถอะ ตอนนี้พวกเรากำลังเดินออกจากห้องในสภาพที่เหงื่อโชกเต็มตัวหลังจากเมื่อกี้ที่พวกเราเล่นดนตรีจบ ผมเดินแหวกผู้คนที่ในบาร์แห่งนี้เพื่อหวังจะเดินไปยังโต๊ะประจำของพวกเรา แต่เมื่อผมหันไปมองรอบๆบาร์ ดวงตาของผมก็เผลอไปสบตาเข้ากับดวงตาคู่โตของผู้หญิงคนนึง…
หลายครั้งเหมือนกันที่ผมเผลอจ้องผู้หญิงคนนั้นอย่างลืมตัว…
"เป็นอะไรวะกิวล์"
"เปล่า"
ผมหันไปมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง… ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าความรู้สึกบ้าๆนี่มันเข้ามาอยู่ในหัวของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้า เธอดูแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆที่ผมพบเจอมา บอกได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิงคนนึงที่น่าสนใจมากๆ
ทั้งหุ่นและหน้าตาของเธอ…มันเกินมาตรฐานของผู้หญิงที่นี้ไปเลยล่ะ
"แกเหม่ออะไรอยู่วะ ช่วงนี้มีอะไรแปลกๆหรือไง"
"เปล่า…"
เมื่อผมพยายามจะมองหาเธออีกครั้งก็เมื่อเธอจะหายตัวไปจากตรงนี้ซะแล้ว ผมเลยได้แต่หรี่ตาลงมองพวกผู้หญิงที่กำลังเข้ามาคลอเคลียเพื่อนของผมอย่างอดทุเรศในใจไม่ได้… ผมไม่ชอบพวกแบบนี้จริงๆ
หนึ่งคืนคงเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนของพวกเรา แต่สำหรับผู้หญิงเหล่านี้มันไม่ใช่…
"มองแบบนี้แกสนใจหรือไงวะ" ไอ้วอฟพูดขึ้นขณะที่ผมกำลังกระดกเหล้าแทนน้ำเปล่า
"อย่า…อย่าเอาฉันไปเกลือกกลั้วกับผู้หญิงพวกนั้น"
"โหดว่ะ! " ผมรู้สึกได้ว่าผู้หญิงพวกนั้นหันมามองหน้าผมอย่างหวาดหวั่นแต่สุดท้ายก็ยังไม่หยุดที่จะคลอเคลียเพื่อนผม โอเค…ผมไม่ได้อคติกับพวกเธอหรอก แค่รู้สึกไม่ชอบแค่นั้นเอง
แต่จริงๆแล้วจะว่าไปผมก็เป็นเสือผู้หญิงชนิดเดียวกับไอ้โนว์มันเลยล่ะ หึ
[ END ]
3:24 P.M
ฉันรู้สึกอยากกลับบ้านมากๆ - -“ ฉันพยายามจะหาคนที่รู้จัก แต่ก็ไม่มีวี่แววของดาเลนต์ เบลหรือมาร์คเลย ไม่รู้พวกนั้นไปไหนกัน และตอนนี้ฉันก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำมากๆด้วย ฉันยืดตัวขึ้นก่อนที่จะเดินไปเรื่อยๆและไปเจอเข้ากับลูกศรชี้ทางไป ฉันก็เดินตามไปเรื่อยๆจนไปเจอกับห้องน้ำผู้หญิง –[]-!
หลังจากที่ฉันเข้าห้องน้ำเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนที่จะมุ่งหน้าจะออกจากบาร์แห่งนี้ และที่สำคัญฉันต้องกลับบ้านไม่เกินสี่โมงเย็นด้วย… ฉันมีนัดกับรายการทีวี T^T ฉันเดินออกจากห้องน้ำที่มีผู้คนพลุกพล่านเต็มไปหมด นี่ขนาดห้องน้ำน่ะเนี่ย –O-! ให้ตายเถอะ
"เฮ้ ! จะไปไหนฮะ ให้พี่ไปส่งมั้ย…"
ผู้ชายคนนึงใช้มือดึงแขนฉันเอาไว้ ก่อนที่จะใช้สายตามองสอดส่องทั่วร่างกายของฉันและแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด - -“ ฉันพยายามจะสะบัดแขนให้หลุดแต่หมอนี่ก็บีบแขนฉันราวกับจะทำให้แขนฉันแหลกละเอียดอย่างนั้นล่ะ ยิ่งนานเข้าฉันก็ยิ่งดีดดิ้นมากขึ้นจนเขาเริ่มโมโห
"ต้องการเงินสักเท่าไหร่ฮะ…กับการไปขึ้นเตียงกับพี่"
ผลัวะ !
จู่ๆผู้ชายคนนั้นก็ล้มลงไปอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็วจนฉันก็ใจหายเหมือนกัน แต่เมื่อกี้ฉันไม่ได้เป็นคนชกหมอนี่หรอกน่ะ แล้ว…ใครกันล่ะ
"อย่ามายุ่งกับเด็กของฉัน! "
อะไร… อะไรกัน ฉันหันหน้าไปมองผู้ชายร่างสูงนัยน์ตาสีดำสนิทที่กำลังยืนโอบเอวฉันอยู่ เขาตวัดแขนขึ้นมาโอบรอบตัวฉันเอาไว้จนแน่นและเพื่อให้ร่างกายเราแนบชิดกันชนิดที่ว่าไม่มีอะไรรอดผ่านไปได้อย่างนั้นล่ะ ยิ่งฉันจ้องหน้าเขาใกล้ๆ…มันยิ่งทำให้หัวใจของฉันเต้นเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ขอโทษครับ…ผมไม่คิดว่าจะเป็นเด็กของพี่ ขอโทษครับ…"
"ไสหัวไปซะ! " ผู้ชายคนนั้นมองหน้าเขาอย่างเลิ่กลั่กและวิ่งออกไปอย่างลุกลี้ลุกลนสุดชีวิต
คำพูดที่เย็นยะเยือกของเขาทำให้ฉันรู้สึกกลัวและขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ฉันไม่กล้าปริปากพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว มันดูเหมือนมีอะไรบางอย่างสั่งให้ฉันทำตามเขา…เขาก็ไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมเอามือที่โอบเอวฉันอยู่ออกไป แต่เขายิ่งกอดฉันแนบแน่นขึ้นกว่าเดิมซะอีก !
และตอนนี้ฉันรู้สึกอึดอัดแทบบ้า ! และในใจฉันก็เต้นเร็วมากเหมือนกำลังเจออะไรที่น่ากลัวมากๆ
"ขะ…ขอบคุณ ขอบคุณ"
ฉันพูดด้วยเสียงสั่นเทาและพยายามไม่หันไปมองหน้าเขา เขาค่อยๆปล่อยมือที่โอบตัวฉันออกและก่อนที่ฉันจะวิ่งออกไปจากเขา เขาก็กระชากตัวฉันเข้ามาใกล้และโน้มตัวลงมากระซิบข้างๆหูฉันเบาๆ
"ไปกับฉัน…"
"ปะ…ไปไหน !" ฉันโพล่งขึ้นมาเสียงดังด้วยความตกใจ และดูเหมือนคำถามของฉันจะไม่เข้าหูเขาเลยสักนิดเพราะสุดท้ายแล้วเขาก็กระชากตัวฉันให้เดินตามเขาไปจนได้
"หึ…คนนี้เหรอวะ"
เขาพาฉันมาที่ตรงโดยที่โต๊ะนั้นก็มีสมาชิกในวง HAVOC ครบทีมเลย… และยังมีผู้หญิงครบทุกคนเลยเหมือนกัน –O-! ฉันไม่กล้านั่งลงที่เก้าอี้และยืนอยู่ข้างหลังเขาอย่างหวาดหวั่น
"…ใช้ได้วะ รูปร่างและสัดส่วนกำลังดี"
ผู้ชายที่เป็นมือกลองคนนั้นกำลังจ้องมองฉันอยู่ ฉันรีบหลบไปอยู่ทางด้านหลังของผู้ชายที่ลากฉันมา และพยายามปกปิดร่างกายเพื่อไม่ให้หมอนั่นมาวิจารณ์ร่างกายและสัดส่วนของฉันได้อีก…
เหลือเชื่อเลย พวกนี้มันเป็นพวกโรคจิตและจิตเสื่อมแบบนี้นี่เอง…
"นายลากฉันมาที่นี้ทำไม…" ฉันถามขึ้นทั้งๆที่ยังยืนอยู่แบบนี้
"…เธอชื่ออะไร?" เขาถามชื่อฉัน ? ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้ถามชื่อฉันงั้นเหรอ ฉันอยากจะบ้า =[]=!
"แฟร์…ฉันชื่อแฟร์"
"อืม"
แต่เดี๋ยวก่อน… ฉันยังไม่รู้จักชื่อของพวกเขาเลยสักคน ไม่สิ…ไม่รู้จักใครสักคนในวงเลย พอฉันตอบเขาไปฉันเริ่มรู้สึกได้ว่าเริ่มมีโต๊ะใกล้เคียงหันมามองฉันมากขึ้นรวมถึงสมาชิกในวงคนอื่นๆด้วย ตอนนี้ฉันกำลังถูกพวกเขาจ้อง… บ้าจริง ทำไมพวกเขาถึงหล่อบัดซบแบบนี้ทั้งวงเลยน่ะ
"หึ !..." เพื่อนของเขาคนนั้นหัวเราะขึ้นก่อนที่จะกระดกเหล้าเข้าปากจนหมด
"ฉันต้องไปแล้ว…"
"ก็ไปสิ…ฉันไม่ได้มัดขาเธอไว้นี่"
อะ…ไอ้บ้านี่ !! ฉันแอบด่าเขาในใจ ก่อนที่จะเดินออกจากบาร์เฮงซวยนี่ พระเจ้า ไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อกี้ฉันจะได้คุยกับสมาชิกของวง HAVOC บอกตามตรงว่าพวกเขามีนิสัยที่ดูเป็นส่วนตัวพอสมควร และพวกเขาก็ดูดีชนิดที่หาตัวจับได้ยากกันเลยทีเดียว เรียกได้เลยว่าแค่เผลอสบตาพวกเขา ก็หาทางกลับยากเลยทีเดียว…
แล้วตอนนี้ฉันก็หาทางกลับบ้านไม่ได้เหมือนกัน T^T บ้าจริง
7:30 P.M @HOME
หลังจากที่ถามทางจากคนแถวนั้น ฉันก็ขึ้นรถเพื่อไปลงที่หน้ามหา’ลัยและขับรถจักรยานต์กลับบ้าน แต่สมองของฉันตอนนี้มันกำลังฟุ้งซ่านชนิดที่ต้องมีคนตะโกนดังๆเท่านั้นฉันจึงจะหลุดจากภวังค์ความคิดบ้าๆนี่
"มหา’ลัยเป็นไงบ้างลูก แม่เราโทรมาหาพ่อด้วยน่ะ…"
"ก็ดีค่ะ ทุกคนดูแลหนูดีมาก…ดีมากจริงๆ"
"ดีแล้วล่ะ แล้วก็…แม่เขาบอกให้เราโทรไปหาเขาด้วยน่ะ"
"แม่มีอะไรหรือเปล่าค่ะดิไลน์"
"เขาคงจะคิดถึงลูก ยังไงก็โทรไปคุยกับแม่เขาหน่อยแล้วกันน่ะ"
"ค่ะ"
ฉันก้มหน้าลงทานข้าว และหลังจากนั้นฉันก็อาบน้ำทำการบ้านและโทรคุยกับแม่อยู่ช่วงนึง แม่บอกว่าคิดถึงฉันมาก และถามว่าฉันเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า มีความสุขมั้ย และที่มหา’ลัยนั้นเป็นยังไงบ้าง เรานั่งคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงและแม่ก็วางไป หลังจากนั้นฉันก็อ่านหนังสือนิดหน่อยก่อนนอน
และตอนนี้ฉันก็กำลังจะเข้านอนแล้วด้วย…
"พรุ่งนี้ทุกอย่างคงดีกว่านี้แน่ๆ…"
ใช่ ฉันหวังว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างคงเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้น่ะ
9:10 A.M @UNIVERSITY
"อภัยให้พวกเราด้วยเถอะแฟรี่ T^T"
"ฉันชื่อแฟร์…"
"เธออย่าทำหน้าโหดแบบนั้นซิ เมื่อวานฉันไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเธอไว้จริงๆน่ะ พวกฉันแค่ติดลมไปหน่อย"
"ฉันไม่ได้โกรธอะไรพวกเธอทั้งนั้น พวกเธอวางใจได้เลย"
ฉันพยายามพูดให้พวกดาเลนต์เลิกง้องแง้งใส่ฉันได้แล้ว แต่ดูเหมือนยัยพวกนี่จะมีความพยายามในการง้องอนเก่งมากเหลือเกิน ฉันสาบานได้ว่าฉันพูดคำว่าไม่เป็นไรเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วล่ะ
"ฉันสัญญา…คราวหน้ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว T^T"
"มันจะไม่มีคราวหน้าอีกแล้ว เพราะฉันจะไม่ไปเหยียบที่นั่นอีกดาเลนต์"
"ขอร้องล่ะ…เมตตาพวกเราเถอะแฟร์ ฉันเสียใจจริงๆ"
"เฮ้ ! หยุดได้แล้ว ฉันไม่ได้โกรธพวกเธอสักนิด พวกเธอเข้าใจฉันหรือเปล่าเนี่ย"
"จริงเหรอ…"
โอเค เริ่มได้ผลแล้วล่ะ –O-!
"อืม มีอะไรไว้ค่อยคุยกันดีกว่า ตอนนี้ฉันต้องไปเรียนชีวะ แล้วเจอกัน…"
ฉันรีบมุ่งหน้าไปที่คลาสทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเข้าสายนิดๆ เมื่อฉันเข้าไปถึงห้อง ฉันก็ต้องชะงักเพราะมันไม่มีที่ว่างสำหรับฉันเลยน่ะซิ… จะว่าไปมันก็มีเหมือนกันน่ะ แต่มันเป็นที่ที่ฉันไม่ควรนั่ง
แต่สุดท้ายฉันก็ต้องนั่งอยู่ดี ให้ตายเถอะ…พระเจ้าจะกลั่นแกล้งฉันไปถึงไหน
"รายงานที่ผมจะสั่งให้พวกคุณทำเป็นรายงานที่ต้องทำเป็นคู่ เพราะฉะนั้นพวกคุณทุกคนต้อง…"
ฉันนั่งฟังที่อาจารย์ประจำคลาสพูดขึ้นและพอจะจับใจความได้คร่าวๆแล้วล่ะ ฉันลุกขึ้นและเดินไปหลังห้องเพื่อจะไปหาคนที่ไม่มีคู่ อันที่จริงฉันไม่กล้าหันหน้าไปถามผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆฉันหรอก ฉันกลัวเขา…
ไม่รู้ซิ แค่เห็นใบหน้าที่ดูขาวเกินคนของเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาเฉยเลย
"สวัสดี…ใช่แฟร์หรือเปล่า"
"ใช่…"
"ถ้าเธอไม่รังเกียจ…เรามาทำรายงานคู่กันดีมั้ย"
ฉันมองผู้ชายร่างผอมคนนึงที่สวมแว่นหนาเตอะอยู่บนใบหน้า ก็…โอเคน่ะ ถ้าได้ทำรายงานคู่กับคนแบบนี้ ฉันว่าฉันอาจจะไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้ เพราะหมอนี่ดูท่าทางเก่งอยู่เหมือนกัน
"ได้สิ…"
"งั้นเอาเป็นว่าเราจะมาทำรายงานคู่กันใช่มั้ยครับ"
"ไม่ใช่ !...เพราะเธอมีคู่แล้วล่ะ"
ฉันตวัดสายตาไปมองผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากฉันเท่าไหร่นัก เขาค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ฉันและหรี่ตาลงมองผู้ชายคนนั้นและจู่ๆเขาก็กระตุกยิ้มข้างมุมปากขึ้นมา… นั่นมันเป็นรอยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์ชัดๆ
"ครับ…ครับผมเข้าใจแล้ว"
เขาวิ่งออกไปแล้ว… ไอ้หมอนี่เป็นอสุรกายแน่ๆ ทำไมทุกคนถึงต้องกลัวเขาไปหมด กับอีแค่ท่าทางวางอำนาจของหมอนั่นก็ทำให้คนอื่นกลัวกันจนหัวหดไปหมด ฉันชักจะหมั่นไส้หมอนี่ขึ้นมาแล้วเหมือนกันน่ะ
"ขอโทษน่ะ ฉันจำไม่ได้ว่าเราคู่กันตั้งแต่เมื่อไหร่"
"งั้นก็จำเอาไว้ว่าตั้งแต่ตอนนี้เธอเป็นคู่ของฉัน…มานี่!"
ไม่ทันขาดคำเขาก็กระชากแขนฉันให้เดินไปตามเขา เขาบีบแขนฉันจนเจ็บไปหมดและระหว่างทางที่เขาดึงแขนฉัน มีผู้คนมากมายในมหา’ลัยที่สังเกตเขาและจ้องเขาตาเป็นมันเลยทีเดียว…และฉันอีกคนก็ตกเป็นเป้าสายตาของเด็กที่นี้ด้วย แล้วไอ้หล่อนี่จะพาฉันไปไหนกัน ! (ยังไม่รู้จักชื่อ)
"ขึ้นรถ…"
เขาพาฉันมาที่จอดรถ และบังคับให้ฉันขึ้นรถแลมเบอร์กินี่สีเหลืองที่ดูสว่างจนน่าแสบตา และมันก็คงจะมีราคาที่แพงนับสิบล้านแน่ อยากจะรู้จริงๆว่าเขาเอาเงินมาจากไหน.. ทำไมถึงรวยได้บัดซบแบบนี้
"ฉันไม่ขึ้น…ถ้านายไม่บอกว่านายจะพาฉันไปที่ไหน"
"ฉันบอกให้ขึ้นรถ…เดี๋ยวนี้!"
"ฉันไม่ขึ้น !!"
ต่อให้มีใครด่าว่าฉันโง่ที่ไปทำตัวกร่างใส่เขาแบบนั้นฉันก็ไม่สน จู่ๆจะให้ฉันขึ้นรถไปกับเขาทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไปไหนเนี่ยน่ะ ให้ตายฉันก็ไม่ขึ้นเด็ดขาด และเมื่อฉันยืนยันจะไม่ขึ้นรถไปกับเขา เขาก็ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ตัวฉันมากขึ้นและฉันก็ค่อยๆถอยร่นไปจนติดรถของเขา…
"ไม่เคยมีใครขัดคำสั่งของฉันได้…"
"งั้นฉันนี่แหละที่จะเป็นคนทำแบบนั้นคนแรก จำเอาไว้ !"
เมื่อฉันทำท่าจะวิ่งหนี ไอ้คนมือไวก็ฉวยแขนฉันไว้ทัน และบิดแขนของฉันจนแดงและเจ็บไปหมดจนฉันต้องเบ้หน้าออกมา… ได้ ! ในเมื่อเขากล้าทำแบบนี้ฉันก็กล้าที่จะทำแบบนี้เหมือนกัน
พลั่ก !
"ถ้านายเข้ามา ฉันจะเอารองเท้านี้ทุบรถนายให้แบะไปเลย !"
"หึ !...ก็ลองดู"
เมื่อเขาเห็นสีหน้าท่าทีที่เลิ่กลั่กของฉัน เขาก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และเดินตรงมาที่ฉันอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด และคนที่ลังเลนั้นกลับกลายเป็นฉันเอง ฉันทั้งกลัวและทั้งกล้าไปในวินาทีเดียวกัน ทั้งๆที่ในใจมันก็เต้นเร็วจนไม่สามารถจับจังหวะได้เลย…
"อย่าเข้ามาน่ะ !"
"ขึ้นรถ !"
"ไม่ !"
"ได้…."
"…กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด !!!"
เขาเข้ามากระชากร่างของฉันจนตัวปลิวไปติดกับร่างกายแข็งแกร่งของเขา แต่รองเท้าที่กุมในมือของฉันมันกลับไวซะยิ่งกว่าความคิดของฉันเสียอีก และฉันได้ใช้หัวรองเท้าขูดรถจนสีเหลืองๆนั้นจนเกิดรอยสีเทาๆขึ้น
และเหมือนกับความหายนะกำลังจะมาเยือนฉันแล้วสิ…
"เธอเตรียมตัวตายได้เลย…"
เสียงเย็นๆที่แสนจะนิ่งจนทำให้ฉันขวัญกระเจิงลอยเข้ามากระทบกับโสตประสาทของฉัน และนั้นทำให้สมองของฉันสั่งการว่าให้วิ่งออกไปจากที่นี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้… และฉันก็วิ่งหนีเขาสำเร็จ ไม่รู้ว่าฉันกลับเข้ามาในมหา’ลัยตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่รู้ๆตอนนี้ฉันกำลังสร้างเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต
"เฮ้ ! แฟร์"
"สะ…สวัสดีดิวล์"
"ทำไมทำหน้าตื่นขนาดนั้นล่ะ เป็นอะไรเหรอ"
"…นายว่าฉันต้องตายมั้ย T^T"
"ฮะ ? บ้านา เธอไปทำอะไรมางั้นเหรอ"
"ใช่…และตอนนี้ฉันกำลังจะบ้าแล้วดิวล์"
"ใจเย็นก่อนๆ…มีเรื่องอะไร ฉันช่วยเธอได้หรือเปล่า"
ไม่มีใครช่วยฉันได้หรอก และถ้าฉันบอกพวกเขาไป พวกเขาอาจจะเลิกคบกับฉันเลยก็ว่าได้…
"ไม่มีใครช่วยฉันได้หรอก…ไม่มีเลย"
…ฉันเพิ่งจะเคยรู้จักกับคำว่ามืดแปดด้านก็วันนี้แหละพระเจ้า ToT
WRITER SAY ::
เค้าไม่สนแล้วว่าจะมีคนอ่านมั้ย แต่มันอยากลง555555 รักคนอ่านทุกคนเลย คนเมนต์ด้วย แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าน่ะฮ้าาาา จุ้บจุ้บบบ ><'
แต่ทางที่ดีเมนต์หน่อยว่าเป็นไงบ้าง ต้องแก้ตรงไหนยังไงบ้าง ขอบคุณค่ะ :)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ