คิดถึง...
9.2
เขียนโดย TTkeanniyayf
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.48 น.
9 session
24 วิจารณ์
15.90K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2556 20.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ความรู้สึกดีๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ สองพี่น้องนั่งพูดคุยกันเป็นเวลานานเกือบชั่วโมงแต่อยู่ๆ เสียงของนับดาวก็เงียบหายไปและมีเสียงหนึ่งดังมาจากสิ่งของที่อยู่ในมือเธอดังขึ้นมาแทน นทีมองหาเห็นน้องสาวเจ้าของเครื่องโทรศัพท์มือถือต้นเสียงกำอยู่ในมือเขาจึงหยิบมาดูเบอร์พอเห็นว่าเป็นเพื่อนหนุ่มของโทรเข้ามาเขานิ้วใหญ่ไม่รีรอกดรับสายทันที
“ว่าไงค่ะพี่วิน” นทีแกล้งเพื่อนเขาโดยการเลียนเสียงน้องสาว
“ยัยตัวแสบหลับไปแล้วแกมีไรเดี๋ยวยัยดาวตื่นแล้วฉันจะบอกให้.........อืมได้ บาย” นทีรับคำจากเพื่อนหนุ่มแล้วกดวางสาย จากนั้นอุ้มน้องสาวขึ้นจะพาเธอไปยังห้องนอน แต่พอช้อนตัวเธอขึ้นมาดวงตากลมโตกลับลืมขึ้นเต็มตา
“ห้ามทำหล่นนะค่ะ” นับดาวบอกกับนทีและอ้อนพี่ชายโดยการเอามือคล้องคอและซบหน้ากับอกกว้าง
“ขึ้อ้อนจริงๆ เลยนะเรา เมื่อกี๊พี่วินของเราโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้จะมารับนะ” นทีบอกตามคำที่เพื่อนหนุ่มฝากไว้
“ค่ะ พี่ที...” นับดาวเรียกพี่ชายเสียงลากยาวติดอ้อนเล็กน้อย
“ว่าไง” นทีตอบรับน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่คนฟังฟังแล้วอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“ดาวรักพี่นะค่ะ” นับดาวมองหน้าพี่ชายและยิ้มกว้างอย่างจริงใจ
“พี่ก็รักน้องสาวของพี่เหมือนกัน มีอะไรก็บอกพี่ปรึกษาพี่ได้รู้ไหม” นทีหยอดคำหวานกับน้องสาวและไม่ลืมที่จะให้ความไว้วางใจกับเธอในฐานะพี่ชายที่ไม่ว่าน้องสาวจะสุขหรือทุกข์เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
“ค่ะ ^___^” นับดาวรับคำและยิ้มกว้างตาหยีให้กับนที
เช้าที่แสนสดใสของใครหลายคนแต่เป็นเช้าที่แสนน่าเบื่อสำหรับมาวินเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเขาเปิดประตูห้องนอนแต่ยังไม่ทันจะก้าวออกสายตาก็ปะทะกับร่างเล็กของมีนาเข้าเต็มๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ดูจะฝืนไปสักหน่อยของเธอทำให้เขาอยากจะปิดประตูห้องไว้ตามเดิม แต่หญิงสาวพูดทักทายและกล่าวขอโทษเขาเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาก่อนมาวินจึงมิอาจทำแบบที่ใจคิดได้ แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่มาวินจะดีใจหรือทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้
“คุณจะไปทำงานแล้วหรอค่ะ” มีนาถามเมื่อมาวินเดินผ่านหน้าเธอไป
“อืม” เขาหันหน้ามาตอบเธอสั้นๆ และจะก้าวเดินต่อแต่มีนาพูดรั้งเขาไว้ก่อน
“ทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิค่ะ วันนี้คุณแม่ไม่อยู่ฉันไม่อยากทานคนเดียว นะค่ะ” มีนาตีหน้าเศร้าและส่งสายวิงวอน
“...เชิญสิครับ” มาวินยืนคิดอยู่นานแต่ก็ยอมใจอ่อนอยู่ทานข้าวเช้ากับเธอ
“ค่ะ” มีนายิ้มจนแก้มปริและเดินนำมาวินไปที่โต๊ะอาหาร
และระหว่างที่ทั้งคู่ทานอาหารเช้าร่วมกันนั้นมีนาจะคอยถามนู่นถามนี่มาวินอยู่ตลอดเวลาเขาเองก็ตอบเท่าที่เธอถามโดยไม่รู้สึกรำคาญเพราะเรื่องที่เธอถามไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ไม่สามารถบอกใครได้ และอาจจะเป็นเพราะลึกๆ แล้วในใจเขาไม่ได้คิดรังเกียจเธอเพียงแต่เธอเข้ามาในแบบที่เขาไม่ชอบและรู้สึกว่าไม่สมควรเหมาะสมจึงปิดกั้นตนเอง ถ้ามองดูจากความเป็นจริงมีนาเองเป็นคนที่น่างสงสารคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับการกระทำและคำพูดของมารดาตนโดยที่ยังไม่เคยพูดคุยหรือทำความรู้จักในฐานะคนรู้ใจกับเขามาก่อน
“อิ่มแล้วหรอค่ะ” มีนาเห็นว่าเขารวบช้อนจึงเอ่ยถาม
“ครับ ขอตัวก่อนนะครับ” สายตามองดูนาฬิกาข้อมือเรือนหรูบอกเวลาหกโมงกว่า ร่างสูงของเขาเด้งตัวลุกขึ้นและเดินออกจากบ้านไปโดยเร็ว
“จะรีบไปหาน้องดาวอะไรนั่นล่ะสิ ชิ” มีนาหมันไส้ท่าทางรีบร้อนรนของมาวิน
“เป็นไงบ้างจ้ะหนูมีน อาหารเช้าวันนี้อร่อยไหมจ้ะ” คุณกุสุมาออกมาจากที่ซ่อน เธอแอบมองทั้งคู่อยู่นานแล้วพอเห็นว่าลูกชายออกไปเธอก็ออกมาตามแผนที่วางไว้
“ก็ดีค่ะคุณแม่” มีนาตอบและยิ้มให้คุณกุสุมา
“อีกไม่นานน่าจะมีข่าวดีใช่ไหมจ้ะ” คุณกุสุมาถามทีเล่นทีจริงและหัวเราะคิกคักกับหญิงสาว
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าของบ้านสิทธิทรัพย์อาภาเช้าวันนี้มีเพียงนทีและนับดาวสองพี่น้องของครอบครัวนั่งทานอาหารร่วมกันเพราะคุณบดินทร์และคุณนาราต้องเข้าบริษัทแต่เช้า นทีซึ่งทำงานตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของบิดาก็ต้องรีบตามไปเช่นกันแต่ที่ยังอยู่ก็เพราะเพื่อนชายบอกว่าจะมารับน้องสาวตนเขาจึงถือโอกาสนี้อยู่รอพบมาวินด้วย
“เจ็ดโมงแล้วทำไมยังไม่มาอีก” นทีมองดูเวลาและบ่นออกมาจนนับดาวเหลียวไปมองดูนาฬิกาของตนบ้าง
“รถคงติดมั้งค่ะ” นับดาวแก้ตัวแทนมาวินไปกับพี่ชายตนก่อนแต่น้ำเสียงก็แอบเศร้าหวั่นใจกลัวว่ามาวินจะลืมนัด
“งั้นพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวจะไปไม่ทันเข้าห้องประชุม” นทีบอกและยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มจนหมด
“บายค่ะ” นับดาวโบกมือเล็กน้อยและยิ้มหวานให้พี่ชาย
“คุณหนูอิ่มแล้วหรอค่ะ” ป้าแหววถามเมื่อคุณหนูของเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ค่ะป้า” นับดาวหยิบกระเป๋าสะพายใบสวยที่ได้จากมาวินสลับเปลี่ยนกันใช้กับใบที่ได้จากมารดาและหนังสือเดินไปรอมาวินที่หน้าบ้าน
นับดาวมองดูนาฬิกาอยู่หลายรอบจนตอนนี้ก็เริ่มจะสายมากแล้วแต่ยังไม่เห็นมาวินมาเสียที จะกดโทรศัพท์โทรหาก็กลัวจะว่าโทรไปเร่งเขาเธอจึงได้แต่ชะเง้อคอมองและเดินวนไปวนมาอยู่แบบนั้น ระหว่างที่เธอว้าวุ่นใจอยู่รถคันหนึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ตอนแรกนับดาวดีใจแทบจะกระโดดแต่พอมองดูรถอีกทีกลับไม่ใช่รถของมาวินคนที่เธอคอยอยู่
“ดาว” เจ้าของรถคันแปลกตาลดกระจกลงและเรียกชื่อเธอ
“ปีเตอร์” นับดาวเรียกชื่อเพื่อนหนุ่มด้วยความแปลกใจ
“เธอคอยฉันอยู่หรอ” เขาเห็นท่าทางของนับดาวก็โมเมไปเองว่าเพื่อนสาวนั้นยืนรอตน
“เอ่อ...” นับดาวไม่รู้จะตอบเพื่อนหนุ่มอย่างไร กลัวว่าถ้าพูดความจริงไปแลัวเพื่อนจะเสียหน้า
~ปี๊นปี๊น~ เสียงแตรรถของมาวินดังมาจากด้านหลังต่อจากรถของปีเตอร์
“ดาวพี่ขอโทษนะครับที่มาสาย พอดีพี่ทานข้าวกับที่บ้านน่ะแล้วรถก็ติดมากด้วยอย่าโกรธพี่นะครับ” มาวินจอดรถได้ก็รีบลงมาหานับดาวทันทีและด้วยความที่กลัวว่าเธอจะโกรธที่ตนมาสาย เขารีบแจงถึงสาเหตุที่มารับเธอช้าโดยไม่สนใจใครอีกคนที่จ้องมองอยู่
“ค่ะ เอ่อ...” นับดาวไม่ได้ฟังที่มาวินพูดสักเท่าไหร่ เธอเอียงตัวไปมองปีเตอร์ที่นั่งอยู่ในรถอย่างรู้สึกผิด
“ดาวฉันไปก่อนนะ” ปีเตอร์รู้ดีว่าชายแปลกหน้าที่มาใหม่ต้องมารับเพื่อนสาวของตนเป็นแน่ เพราะเมื่อวานเขาเห็นเธอขึ้นรถกลับกับเขา ปีเตอร์จึงต้องรีบตัดบทก่อนที่จะโดนปฏิเสธ
“ขอโทษด้วยนะปีเตอร์ ไว้เราจะเลี้ยงข้าวเธอนะ เจอกันที่คณะจ้ะ” นับดาวโบกมือให้เพื่อนหนุ่มพร้อมกับฉีกยิ้มจนมาวินนึกหมันไส้รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาตะหงิดๆ
“ไปกันรึยังครับ” เขาทำเสียงเข้มและเดินนำเธอไปที่รถ
เป็นอะไรของเค้า? นับดาวรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนไปจากอาการและสีหน้าที่แสดงออกมาของเขา
~กรี๊ดดดดดด~ เสียงสาวๆ ทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ เพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัยส่งเสียงร้องให้กับผู้เข้าประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยประจำปีการศึกษานี้
“คนเยอะจังเลยเนาะดาว” ปีเตอร์พูดขึ้นและหันไปทางเพื่อนสาวของเขา
“อื้ม น้องๆ ที่เข้าประกวดปีนี้ก็น่ารักทุกคนเลยดูสิ” นับดาวบอกให้เพื่อนหนุ่มของเธอมองไปยังผู้เข้าประกวดที่รอขึ้นเวทีอยู่
“อืม...แต่เธอน่ารักกว่านะ” ปีเตอร์คิดในใจและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
นักศึกษาจากทุกสาขาของแต่ละคณะทุกชั้นปีมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องประชุมใหญ่เพื่อดูการประกวดและให้กำลังใจตัวแทนของคณะตนเอง รวมถึงดาวและเดือนจากปีก่อนหน้านี้ทั้งหกคนก็มาร่วมโชว์ในวันนี้ด้วยและหนึ่งในนั่นก็มีนับดาวกับปีเตอร์สองเพื่อนซี้ที่ได้ตำแหน่งมาเมื่อตอนทั้งคู่อยู่ปีหนึ่งขึ้นร้องเพลงคู่กัน เมื่อดนตรีจบเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ดังขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายแล้วกรูเข้าไปให้ดอกไม้กับปีเตอร์กันที่ด้านหน้าเวที ส่วนนับดาวเองก็ไม่แพ้กันหนุ่มๆ ทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่เพื่อนๆ ร่วมชั้นหอบดอกไม้ช่อโตรวมกันมาให้ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน
สาวๆ ขี้อิจฉาทั้งหลายตาร้อนผ่าวมองนับดาวเป็นตาเดียว โดยเฉพาะกลุ่มของห้าสาวมหาภัยสำหรับนับดาวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเจอที่ไหนทั้งห้าสาวจะพุ่งตรงเข้ามาและหาเรื่องเธอได้ตลอดแต่ก็มีพระเอกขี่ม้าขาวอย่างปีเตอร์มาช่วยไว้ได้ทันเวลาทุกครั้ง การกระทำของปีเตอร์ทำให้สาวๆ ยิ่งเกลียดนับดาวมากขึ้นโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวรู้เพียงแต่เขาต้องปกป้องเธอจากพวกสาวๆ ขี้อิจฉาริษยาพวกนั้นทั้งหลาย
อย่างเช่นก่อนขึ้นเวทีวันนี้เกรซหัวหน้ากลุ่มห้าสาวแกล้งนับดาวโดยการเอากาวมาทาที่ไมค์ของเธอแต่เขาเข้ามาเห็นพอดีจึงเอาไมค์นั้นให้เกรซถือแทน ทำให้แผนที่วางไว้เป็นกรรมตามสนองแบบติดจรวดเห็นผลทันตากับเกรซสาวสวยที่สุดในกลุ่มไป และก่อนหน้านี้ก็ยังมีเพื่อนคนอื่นในกลุ่มแกล้งทำน้ำหกใส่นับดาวแต่ดีที่เขาช่วยเธอไว้ได้ทันก่อนที่น้ำจะหกรดเปื้อนเสื้อผ้าของเธอ และอื่นๆ อีกมากมายที่ปีเตอร์คอยช่วยเพื่อนสาวไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งห้าสาวได้
“เลิกยุ่งกับดาวซะ ถ้าฉันเห็นพวกเธอยังแกล้งหรือทำร้ายดาวอีกฉันจะแจ้งตำรวจ” ปีเตอร์ไม่เพียงแค่ขู่แต่เขาเอาจริงแน่หากพวกเธอยังไม่ยอมหยุดการกระทำ
“ยัยดาวมันมีอะไรดีทำไมพวกผู้ชายต้องคอยเอาใจมันด้วย ฉันทั้งสวยและก็ดูมีอะไรอะไรมากกว่ามันเป็นร้อยเท่าทำไมนายไม่มองฉันบ้าง ฉันชอบนายมานานแล้วนะปีเตอร์” เกรซสาวสวยพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจนหมดเปลือกโดยไม่คิดอายอีกต่อไปแล้วกับชายหนุ่มที่เธอชอบ
“แต่ฉันไม่ได้ชอบเธอ” ปีเตอร์ตอบแค่นั้นแล้วเดินจากหญิงสาวไปหานับดาวที่ยืนเตรียมตัวรอขึ้นเวทีอยู่
“อ้ายยกรี๊ดดดด” เกรซกระทืบเท้าเต้นเร้าๆ และร้องเสียงแหลมหนวกหูคนอื่นๆ
“เกรซเป็นอะไรหรอปีเตอร์” นับดาวถามด้วยความสงสัยที่เห็นเกรซร้องโวยวายอยู่
“จิ้งจกโดดใส่มั้งอย่าไปสนใจเลย เธอพร้อมไหม” ปีเตอร์เปลี่ยนเรื่องชวนนับดาวคุยเรื่องอื่นที่มีสาระมากกว่าการสนใจคนบ้าอย่างเกรซ
“พร้อมจ้ะ” นับดาวตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้ปีเตอร์
รอยยิ้มของนับดาวทำให้ปีเตอร์มีความสุขและยิ่งรู้สึกดีกับเธอมากขึ้นไปอีก ตั้งแต่วันแรกที่เจอจนถึงวันนี้นับดาวยังคงความน่ารักและดูน่าถะนุถนอมสำหรับเขาเป็นอย่างมาก สายตาของเขาไม่เคยมองหญิงอื่นใดนอกจากนับดาวเพื่อนสาวคนสนิทคนนี้ แต่เขาก็ได้แค่มองไม่กล้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอไปมากกว่าความเป็นเพื่อน เพราะกลัวว่าถ้าบอกความในใจไปแล้วความสัมพันธ์อันดีตลอดสามปีอาจจะพังทลายลงและสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการห่างเหิน เขาคงทนไม่ได้แน่ถ้าจะมีวันนั้นปีเตอร์จึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกไว้ในใจมาตลอดจนถึงวันนี้
“ว่าไงค่ะพี่วิน” นทีแกล้งเพื่อนเขาโดยการเลียนเสียงน้องสาว
“ยัยตัวแสบหลับไปแล้วแกมีไรเดี๋ยวยัยดาวตื่นแล้วฉันจะบอกให้.........อืมได้ บาย” นทีรับคำจากเพื่อนหนุ่มแล้วกดวางสาย จากนั้นอุ้มน้องสาวขึ้นจะพาเธอไปยังห้องนอน แต่พอช้อนตัวเธอขึ้นมาดวงตากลมโตกลับลืมขึ้นเต็มตา
“ห้ามทำหล่นนะค่ะ” นับดาวบอกกับนทีและอ้อนพี่ชายโดยการเอามือคล้องคอและซบหน้ากับอกกว้าง
“ขึ้อ้อนจริงๆ เลยนะเรา เมื่อกี๊พี่วินของเราโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้จะมารับนะ” นทีบอกตามคำที่เพื่อนหนุ่มฝากไว้
“ค่ะ พี่ที...” นับดาวเรียกพี่ชายเสียงลากยาวติดอ้อนเล็กน้อย
“ว่าไง” นทีตอบรับน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่คนฟังฟังแล้วอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“ดาวรักพี่นะค่ะ” นับดาวมองหน้าพี่ชายและยิ้มกว้างอย่างจริงใจ
“พี่ก็รักน้องสาวของพี่เหมือนกัน มีอะไรก็บอกพี่ปรึกษาพี่ได้รู้ไหม” นทีหยอดคำหวานกับน้องสาวและไม่ลืมที่จะให้ความไว้วางใจกับเธอในฐานะพี่ชายที่ไม่ว่าน้องสาวจะสุขหรือทุกข์เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
“ค่ะ ^___^” นับดาวรับคำและยิ้มกว้างตาหยีให้กับนที
เช้าที่แสนสดใสของใครหลายคนแต่เป็นเช้าที่แสนน่าเบื่อสำหรับมาวินเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเขาเปิดประตูห้องนอนแต่ยังไม่ทันจะก้าวออกสายตาก็ปะทะกับร่างเล็กของมีนาเข้าเต็มๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ดูจะฝืนไปสักหน่อยของเธอทำให้เขาอยากจะปิดประตูห้องไว้ตามเดิม แต่หญิงสาวพูดทักทายและกล่าวขอโทษเขาเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาก่อนมาวินจึงมิอาจทำแบบที่ใจคิดได้ แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่มาวินจะดีใจหรือทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้
“คุณจะไปทำงานแล้วหรอค่ะ” มีนาถามเมื่อมาวินเดินผ่านหน้าเธอไป
“อืม” เขาหันหน้ามาตอบเธอสั้นๆ และจะก้าวเดินต่อแต่มีนาพูดรั้งเขาไว้ก่อน
“ทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิค่ะ วันนี้คุณแม่ไม่อยู่ฉันไม่อยากทานคนเดียว นะค่ะ” มีนาตีหน้าเศร้าและส่งสายวิงวอน
“...เชิญสิครับ” มาวินยืนคิดอยู่นานแต่ก็ยอมใจอ่อนอยู่ทานข้าวเช้ากับเธอ
“ค่ะ” มีนายิ้มจนแก้มปริและเดินนำมาวินไปที่โต๊ะอาหาร
และระหว่างที่ทั้งคู่ทานอาหารเช้าร่วมกันนั้นมีนาจะคอยถามนู่นถามนี่มาวินอยู่ตลอดเวลาเขาเองก็ตอบเท่าที่เธอถามโดยไม่รู้สึกรำคาญเพราะเรื่องที่เธอถามไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ไม่สามารถบอกใครได้ และอาจจะเป็นเพราะลึกๆ แล้วในใจเขาไม่ได้คิดรังเกียจเธอเพียงแต่เธอเข้ามาในแบบที่เขาไม่ชอบและรู้สึกว่าไม่สมควรเหมาะสมจึงปิดกั้นตนเอง ถ้ามองดูจากความเป็นจริงมีนาเองเป็นคนที่น่างสงสารคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับการกระทำและคำพูดของมารดาตนโดยที่ยังไม่เคยพูดคุยหรือทำความรู้จักในฐานะคนรู้ใจกับเขามาก่อน
“อิ่มแล้วหรอค่ะ” มีนาเห็นว่าเขารวบช้อนจึงเอ่ยถาม
“ครับ ขอตัวก่อนนะครับ” สายตามองดูนาฬิกาข้อมือเรือนหรูบอกเวลาหกโมงกว่า ร่างสูงของเขาเด้งตัวลุกขึ้นและเดินออกจากบ้านไปโดยเร็ว
“จะรีบไปหาน้องดาวอะไรนั่นล่ะสิ ชิ” มีนาหมันไส้ท่าทางรีบร้อนรนของมาวิน
“เป็นไงบ้างจ้ะหนูมีน อาหารเช้าวันนี้อร่อยไหมจ้ะ” คุณกุสุมาออกมาจากที่ซ่อน เธอแอบมองทั้งคู่อยู่นานแล้วพอเห็นว่าลูกชายออกไปเธอก็ออกมาตามแผนที่วางไว้
“ก็ดีค่ะคุณแม่” มีนาตอบและยิ้มให้คุณกุสุมา
“อีกไม่นานน่าจะมีข่าวดีใช่ไหมจ้ะ” คุณกุสุมาถามทีเล่นทีจริงและหัวเราะคิกคักกับหญิงสาว
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าของบ้านสิทธิทรัพย์อาภาเช้าวันนี้มีเพียงนทีและนับดาวสองพี่น้องของครอบครัวนั่งทานอาหารร่วมกันเพราะคุณบดินทร์และคุณนาราต้องเข้าบริษัทแต่เช้า นทีซึ่งทำงานตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทของบิดาก็ต้องรีบตามไปเช่นกันแต่ที่ยังอยู่ก็เพราะเพื่อนชายบอกว่าจะมารับน้องสาวตนเขาจึงถือโอกาสนี้อยู่รอพบมาวินด้วย
“เจ็ดโมงแล้วทำไมยังไม่มาอีก” นทีมองดูเวลาและบ่นออกมาจนนับดาวเหลียวไปมองดูนาฬิกาของตนบ้าง
“รถคงติดมั้งค่ะ” นับดาวแก้ตัวแทนมาวินไปกับพี่ชายตนก่อนแต่น้ำเสียงก็แอบเศร้าหวั่นใจกลัวว่ามาวินจะลืมนัด
“งั้นพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวจะไปไม่ทันเข้าห้องประชุม” นทีบอกและยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มจนหมด
“บายค่ะ” นับดาวโบกมือเล็กน้อยและยิ้มหวานให้พี่ชาย
“คุณหนูอิ่มแล้วหรอค่ะ” ป้าแหววถามเมื่อคุณหนูของเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ค่ะป้า” นับดาวหยิบกระเป๋าสะพายใบสวยที่ได้จากมาวินสลับเปลี่ยนกันใช้กับใบที่ได้จากมารดาและหนังสือเดินไปรอมาวินที่หน้าบ้าน
นับดาวมองดูนาฬิกาอยู่หลายรอบจนตอนนี้ก็เริ่มจะสายมากแล้วแต่ยังไม่เห็นมาวินมาเสียที จะกดโทรศัพท์โทรหาก็กลัวจะว่าโทรไปเร่งเขาเธอจึงได้แต่ชะเง้อคอมองและเดินวนไปวนมาอยู่แบบนั้น ระหว่างที่เธอว้าวุ่นใจอยู่รถคันหนึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ตอนแรกนับดาวดีใจแทบจะกระโดดแต่พอมองดูรถอีกทีกลับไม่ใช่รถของมาวินคนที่เธอคอยอยู่
“ดาว” เจ้าของรถคันแปลกตาลดกระจกลงและเรียกชื่อเธอ
“ปีเตอร์” นับดาวเรียกชื่อเพื่อนหนุ่มด้วยความแปลกใจ
“เธอคอยฉันอยู่หรอ” เขาเห็นท่าทางของนับดาวก็โมเมไปเองว่าเพื่อนสาวนั้นยืนรอตน
“เอ่อ...” นับดาวไม่รู้จะตอบเพื่อนหนุ่มอย่างไร กลัวว่าถ้าพูดความจริงไปแลัวเพื่อนจะเสียหน้า
~ปี๊นปี๊น~ เสียงแตรรถของมาวินดังมาจากด้านหลังต่อจากรถของปีเตอร์
“ดาวพี่ขอโทษนะครับที่มาสาย พอดีพี่ทานข้าวกับที่บ้านน่ะแล้วรถก็ติดมากด้วยอย่าโกรธพี่นะครับ” มาวินจอดรถได้ก็รีบลงมาหานับดาวทันทีและด้วยความที่กลัวว่าเธอจะโกรธที่ตนมาสาย เขารีบแจงถึงสาเหตุที่มารับเธอช้าโดยไม่สนใจใครอีกคนที่จ้องมองอยู่
“ค่ะ เอ่อ...” นับดาวไม่ได้ฟังที่มาวินพูดสักเท่าไหร่ เธอเอียงตัวไปมองปีเตอร์ที่นั่งอยู่ในรถอย่างรู้สึกผิด
“ดาวฉันไปก่อนนะ” ปีเตอร์รู้ดีว่าชายแปลกหน้าที่มาใหม่ต้องมารับเพื่อนสาวของตนเป็นแน่ เพราะเมื่อวานเขาเห็นเธอขึ้นรถกลับกับเขา ปีเตอร์จึงต้องรีบตัดบทก่อนที่จะโดนปฏิเสธ
“ขอโทษด้วยนะปีเตอร์ ไว้เราจะเลี้ยงข้าวเธอนะ เจอกันที่คณะจ้ะ” นับดาวโบกมือให้เพื่อนหนุ่มพร้อมกับฉีกยิ้มจนมาวินนึกหมันไส้รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาตะหงิดๆ
“ไปกันรึยังครับ” เขาทำเสียงเข้มและเดินนำเธอไปที่รถ
เป็นอะไรของเค้า? นับดาวรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนไปจากอาการและสีหน้าที่แสดงออกมาของเขา
~กรี๊ดดดดดด~ เสียงสาวๆ ทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ เพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัยส่งเสียงร้องให้กับผู้เข้าประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยประจำปีการศึกษานี้
“คนเยอะจังเลยเนาะดาว” ปีเตอร์พูดขึ้นและหันไปทางเพื่อนสาวของเขา
“อื้ม น้องๆ ที่เข้าประกวดปีนี้ก็น่ารักทุกคนเลยดูสิ” นับดาวบอกให้เพื่อนหนุ่มของเธอมองไปยังผู้เข้าประกวดที่รอขึ้นเวทีอยู่
“อืม...แต่เธอน่ารักกว่านะ” ปีเตอร์คิดในใจและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
นักศึกษาจากทุกสาขาของแต่ละคณะทุกชั้นปีมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องประชุมใหญ่เพื่อดูการประกวดและให้กำลังใจตัวแทนของคณะตนเอง รวมถึงดาวและเดือนจากปีก่อนหน้านี้ทั้งหกคนก็มาร่วมโชว์ในวันนี้ด้วยและหนึ่งในนั่นก็มีนับดาวกับปีเตอร์สองเพื่อนซี้ที่ได้ตำแหน่งมาเมื่อตอนทั้งคู่อยู่ปีหนึ่งขึ้นร้องเพลงคู่กัน เมื่อดนตรีจบเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ดังขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายแล้วกรูเข้าไปให้ดอกไม้กับปีเตอร์กันที่ด้านหน้าเวที ส่วนนับดาวเองก็ไม่แพ้กันหนุ่มๆ ทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่เพื่อนๆ ร่วมชั้นหอบดอกไม้ช่อโตรวมกันมาให้ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน
สาวๆ ขี้อิจฉาทั้งหลายตาร้อนผ่าวมองนับดาวเป็นตาเดียว โดยเฉพาะกลุ่มของห้าสาวมหาภัยสำหรับนับดาวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเจอที่ไหนทั้งห้าสาวจะพุ่งตรงเข้ามาและหาเรื่องเธอได้ตลอดแต่ก็มีพระเอกขี่ม้าขาวอย่างปีเตอร์มาช่วยไว้ได้ทันเวลาทุกครั้ง การกระทำของปีเตอร์ทำให้สาวๆ ยิ่งเกลียดนับดาวมากขึ้นโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวรู้เพียงแต่เขาต้องปกป้องเธอจากพวกสาวๆ ขี้อิจฉาริษยาพวกนั้นทั้งหลาย
อย่างเช่นก่อนขึ้นเวทีวันนี้เกรซหัวหน้ากลุ่มห้าสาวแกล้งนับดาวโดยการเอากาวมาทาที่ไมค์ของเธอแต่เขาเข้ามาเห็นพอดีจึงเอาไมค์นั้นให้เกรซถือแทน ทำให้แผนที่วางไว้เป็นกรรมตามสนองแบบติดจรวดเห็นผลทันตากับเกรซสาวสวยที่สุดในกลุ่มไป และก่อนหน้านี้ก็ยังมีเพื่อนคนอื่นในกลุ่มแกล้งทำน้ำหกใส่นับดาวแต่ดีที่เขาช่วยเธอไว้ได้ทันก่อนที่น้ำจะหกรดเปื้อนเสื้อผ้าของเธอ และอื่นๆ อีกมากมายที่ปีเตอร์คอยช่วยเพื่อนสาวไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งห้าสาวได้
“เลิกยุ่งกับดาวซะ ถ้าฉันเห็นพวกเธอยังแกล้งหรือทำร้ายดาวอีกฉันจะแจ้งตำรวจ” ปีเตอร์ไม่เพียงแค่ขู่แต่เขาเอาจริงแน่หากพวกเธอยังไม่ยอมหยุดการกระทำ
“ยัยดาวมันมีอะไรดีทำไมพวกผู้ชายต้องคอยเอาใจมันด้วย ฉันทั้งสวยและก็ดูมีอะไรอะไรมากกว่ามันเป็นร้อยเท่าทำไมนายไม่มองฉันบ้าง ฉันชอบนายมานานแล้วนะปีเตอร์” เกรซสาวสวยพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจนหมดเปลือกโดยไม่คิดอายอีกต่อไปแล้วกับชายหนุ่มที่เธอชอบ
“แต่ฉันไม่ได้ชอบเธอ” ปีเตอร์ตอบแค่นั้นแล้วเดินจากหญิงสาวไปหานับดาวที่ยืนเตรียมตัวรอขึ้นเวทีอยู่
“อ้ายยกรี๊ดดดด” เกรซกระทืบเท้าเต้นเร้าๆ และร้องเสียงแหลมหนวกหูคนอื่นๆ
“เกรซเป็นอะไรหรอปีเตอร์” นับดาวถามด้วยความสงสัยที่เห็นเกรซร้องโวยวายอยู่
“จิ้งจกโดดใส่มั้งอย่าไปสนใจเลย เธอพร้อมไหม” ปีเตอร์เปลี่ยนเรื่องชวนนับดาวคุยเรื่องอื่นที่มีสาระมากกว่าการสนใจคนบ้าอย่างเกรซ
“พร้อมจ้ะ” นับดาวตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้ปีเตอร์
รอยยิ้มของนับดาวทำให้ปีเตอร์มีความสุขและยิ่งรู้สึกดีกับเธอมากขึ้นไปอีก ตั้งแต่วันแรกที่เจอจนถึงวันนี้นับดาวยังคงความน่ารักและดูน่าถะนุถนอมสำหรับเขาเป็นอย่างมาก สายตาของเขาไม่เคยมองหญิงอื่นใดนอกจากนับดาวเพื่อนสาวคนสนิทคนนี้ แต่เขาก็ได้แค่มองไม่กล้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอไปมากกว่าความเป็นเพื่อน เพราะกลัวว่าถ้าบอกความในใจไปแล้วความสัมพันธ์อันดีตลอดสามปีอาจจะพังทลายลงและสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการห่างเหิน เขาคงทนไม่ได้แน่ถ้าจะมีวันนั้นปีเตอร์จึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกไว้ในใจมาตลอดจนถึงวันนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ