Eve in Mystery book อีฟกับหนังสือแห่งความลึกลับ
8.0
เขียนโดย ShineLove
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.53 น.
28 บทตอน
54 วิจารณ์
40.65K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน พ.ศ. 2558 16.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) บทพิเศษ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ28
บทพิเศษ
สำหรับเหล่าผู้คุมหนังสือนั้น คุณอาจสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับสหาย หรือต้องการ
อะไรจากพวกเขากันแน่ และนี่คือบทเฉลย
คุณตาแอนดรูนั้นเคยเป็นอาของอีฟมาก่อน ในใจลึกๆแล้วท่านอยากจะกำจัดอีฟ
เนื่องจากอยากครอบครองทรัพย์สัมบัติไว้เป็นของตนเอง แต่ท่านกลับเสียชีวิตซะก่อน (พร้อมกับ
เรื่องที่ยังไม่ได้สะสางและค้างคาใจ) แอนดรูได้ไปขอวิญญาณเอลฟ์ในป่าให้ช่วยชุบชีวิตอีกครั้ง
ดังนั้นเขาจึงมีหูเหมือนเอลฟ์
สปาร์ค มิราเคิ้ล ชายหนุ่มผู้มีนิสัยชอบหาเรื่อง ชอบใช้กำลัง แน่นอน เขาเคยเป็นนักเลง
โจรมาก่อน และเคยเป็นฆาตกรที่มีประวัติมาลายคดีแล้ว วันหนึ่งสปาร์คได้เข้าไปปล้นบ้านของแอน
โทนี่ในยามวิกาล ขณะที่ทุกคนกำลังนอนอยู่ แอนโทนี่ก็ตกใจตื่นขึ้นมา เนื่องจากได้ยินเสียงฝีเท้า
และเงาปริศนาเข้ามาในบ้านทางหน้าต่าง เขาจึงก้าวเข้าไปในห้องครัว คว้ามีดทำอาหารมาหนึ่ง
เล่ม ในทันใดนั้นเอง สปาร์คก็ได้เดินเข้ามาพอดี แอนโทนี่ใช้มีดโจมตีสปาร์คครั้งแรกทันทีแต่ไม่
สำเร็จ สปาร์คจึงนำมีดจ่อเข้าที่คอของแอนโทนี่ ดังนั้นเขาจึงใช้มีดที่อยู่ในมือสวนกลับไปแทงเข้า
ที่ตาพอดี สุดท้ายเขาก็ต้องหนีไปเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่ตา และดวงตาข้างนั้นจึงใช้ไม่ได้อีกเลย (นี่
เป็นเหตุผลที่เขาต้องใส่ผ้าปิดตาข้างหนึ่งไว้) สปาร์ครู้สึกแค้นแอนโทนี่และต้องการกำจัดเขา
แฮร์รี่ แฮมเมอร์บรู๊ค ชายหนุ่มสมาร์ทผู้เป็นครูฝึกสอนโซเฟียในด้านของเวทย์มนต์คาถา
ต่างๆ เขาเห็นโซเฟียมีพลังที่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องการใช้พลังนั้นมาทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น
ซิลเวีย หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความอิจฉาและปราศจากความรัก วันหนึ่งเมื่อเธอหนีออก
จากบ้าน เธอได้พบเพชรสีใสแปลกประหลาดกะรัตหนึ่ง มันเปล่งประกายเป็นแสงสีม่วงน่าพิศวง
เมื่อซิลเวียจับมัน พลังวิเศษที่เป็นความมืดได้เข้าไปสู่ร่างกายของเธอ ทันใดนั้นเองเธอก็กลายเป็น
จอมเวทย์แห่งความมืดผู้เก่งกาจ และใช้พลังนี้สร้างหนังสือแห่งความลึกลับเล่มนี้ขึ้นมา ซิลเวีย
หวังว่าจะได้กำจัดบลูมที่รบกวนความทรงจำของเธอออกไปจากชีวิต และสร้างโลกใบใหม่ที่เธอ
เป็นผู้มีอำนาจทั้งหมด
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุกอย่างก็กลับมาสงบสุขได้เหมือนเดิมอีกครั้ง ไปสำรวจ
ชีวิตของพวกเขากันดีกว่า
[อีฟบรรยาย]
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ฉันกับคุณแม่ได้บอกเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดที่เราทั้งคู่ได้
เผชิญกันมา ฉันได้เพื่อนใหม่มาหนึ่งตัวคือเจ้าเฮ็ดวิก ดูเหมือนว่าคุณพ่อจะไม่เชื่อเรื่องเวทย์มนต์
และประหลาดนี้เท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เมื่อแม่ได้อธิบายว่าความฝันของฉันไม่ไร้สาระ พ่อก็
เริ่มที่จะไม่ดุว่าฉันเหมือนแต่ก่อน ส่วนฉันก็รักความฝันมากขึ้นเรื่อยๆ พลังวิเศษในวันนั้นทำให้ฉัน
รู้จักความฝันได้ดียิ่งขึ้น ฉันได้เริ่มกล้าทำตามความฝันของตัวเองบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป
การเขียนนิยาย หรือการที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ความฝันคือแรงผลักดันในชีวิตของฉัน
“แม่ค่ะ รูปนี้ดูโอเคไหมคะ” ฉันถามคุณแม่หลังจากที่สเก็ตและลงสีน้ำเป็นรูปวาดของ
คุณพ่อที่ต้องทนนั่งอยู่บนเก้าอี้ อยู่นานหนึ่งชั่วโมง
“โห..สวยมากเลยจ๊ะลูกรัก” แม่ชื่นชม “ถ้านำไปประกวดต้องได้รางวัลแน่ๆเลยจ๊ะ”
“ไหนๆพ่อขอดูฝีมือของลูกหน่อยซิ” พ่อรู้สึกตกใจในรูปวาดของฉัน (ท่านไม่เคยเห็นฉัน
วาดรูปมาก่อน เพราะว่าฉันไม่เคยวาดให้ท่านดูเลยสักครั้ง) “ว้าว..อัศจรรย์จริง พ่อไม่เคยเห็นลูก
วาดรูปได้สวยเท่านี้มาก่อนเลย”
ฉันหยิบพวงกุญแจรูปหนังสือสีน้ำตาลเล็กๆที่อลิซเคยมอบให้ มาดูพลางๆ ฉันไม่รู้ว่า
ตอนนี้ทุกคนจะเป็นยังไงบ้าง แต่ตอนนี้ฉันคิดถึงทุกคนมากๆเลยหละ
[แอนโทนี่บรรยาย]
ผมหนะเหรอ..ชีวิตแบบเดิมๆไม่มีอะไรมากมายนัก ผมรู้สึกเบื่อที่ต้องพบเจอกับอะไร
ซ้ำๆซากๆ แต่แบบนี้ดีกว่าในหนังสือตั้งเยอะ ไม่อันตราย และได้อยู่กับคุณตาของผมที่คอยนั่ง
ทำงานอดิเรกอยู่ที่บ้าน อ่านหนังสือ แกะสลักไม้ทุกๆวัน รู้สึกสบายใจชะมัดที่ไม่ต้องไปอยู่ใน
หนังสือบ้าๆอะไรนั่นอีก
“เจ้าแอนโทนี่..ตาขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม” คุณตาหันหน้ามาหาเขาที่นั่งอยู่บน
เก้าอี้ไม้ข้างๆ
“แน่นอนอยู่แล้ว ถามมาได้เลยครับตา” ผมตอบตกลง
“ตอนนั้นตาว่ามันแปลกๆ มีรูปหลานอยู่ในหนังสือเล่มหนึ่งที่ตาเคยอ่าน” คุณตามีฝีหน้า
สงสัย พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากชั้น ผมเห็นหนังสือสีน้ำตาลเก่าๆคร่ำ
ครึ “หนังสือเล่มนี้หนะ”
ผมรู้สึกตกใจทันทีที่ได้เห็นหนังสือเล่มนั้น มันจะพาเราเข้าไปในนั้นอีกรึเปล่าเนี่ย!“คุณ
ตา..เอ่อ..คือว่า” คุณตาเปิดหนังสือเล่มนั้นออก ในนั้นมีเพียงแต่รูปการ์ตูนกับเนื้อหานิทานธรรมดา
ไม่มีรูปของผม หรือเพื่อนๆ และก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรประหลาดๆเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกแล้ว
“ผมว่าคุณตาคงจะตาฝาดไปรึเปล่าครับ” ผมเอ่ยพลางรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปิดบังคุณตาแบบนี้คงไม่เป็นอะไรมาก อิอิ ผมแอบยิ้มนิดหน่อย มีความสุขมากๆ เมื่อได้คิดถึง
เพื่อนๆที่เคยอยู่ด้วยกันในหนังสือ ทุกคนจะเป็นยังไงบ้างนะ
[บลูมบรรยาย]
สำหรับฉันแล้วครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้พี่สาวของฉัน
มาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง แต่นั่นมันเป็นแค่อดีตสำหรับฉันไปแล้ว พี่ซิลเวียไม่เคยยอมรับอะไรได้
เลย.. ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในคฤหาสนนี้อีกครั้ง หลังจากที่ได้กลับมา
บ้าน ฉันรู้สึกได้ว่าพ่อกับแม่เป็นห่วงฉันมากๆ ฉันรักพ่อแม่ที่สุดเลย
“พ่อค่ะ..แม่ค่ะ หนูรักพ่อกับแม่นะค่ะ” ฉันบอกพ่อกับแม่ในขณะที่นั่งอ่านหนังสือเล่นๆ
อยู่ที่โซฟาชั้นล่าง พ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และคุณแม่กำลังนั่งดื่มกาแฟ
“พ่อกับแม่ก็รักลูกนะ.. ลูกเป็นคนเดียวที่พ่อกับแม่รักมากที่สุด” คุณพ่อเอ่ย
“และก็เป็นห่วงมากๆด้วย หลังจากที่ลูกหายตัวไปตอนนั้น” คุณแม่เอ่ยมีฝีหน้าเศร้า “แม่
รักหนู และรักพี่ซิลเวียด้วยเหมือนกันจ๊ะ แต่ตอนนี้แม่หวังว่าพี่เค้าจะกลับมาอีกครั้ง”
“อย่าเศร้าไปเลยค่ะแม่..เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว ส่วนพี่ซิลเวีย เขาคงอยู่ที่ไหนสัก
แห่งแน่ๆเลยค่ะ บนพื้นดินหรืออาจจะเป็นบนผืนฟ้า” ฉันตอบแม่ในใจก็รู้สึกคิดเช่นเดียวกัน
“จริงด้วยลูก..แม่จะไม่คิดเรื่องนี้อีกแล้ว” แม่ตอบ ฉันยิ้มให้กับแม่
“ตอนนี้หนูปลอดภัยดีครบสามสิบสองก็โอเคแล้วหล่ะค่ะ” ฉันพูด พ่อกับแม่หัวเราะ
[โซเฟีย]
ฉันอยู่คนเดียวมาตลอดเลยค่ะ.. แต่ฉันกลับไม่รู้สึกเหงาแบบนั้นอีกแล้ว แม้ฉันจะมองไม่
เห็นคุณแม่ แต่ฉันเชื่อค่ะ ว่าท่านยังคงอยู่กับฉันใกล้ๆ เพราะว่าสร้อยมุกเส้นนั้น ทำให้ฉันมองเห็น
ภาพของคุณแม่ได้ชัดเจนขึ้น ฉันมีความสุขที่ได้เจอแม่อีกครั้งในตอนนั้น ตอนนี้ฉันมีบ้านเป็นของ
ตัวเองแล้วนะค่ะ แอนนี่ เพื่อนของฉันมักจะมาเยี่ยมฉันบ่อยๆ
“สวัสดีโซเฟีย บ้านของน่ารักจังเลยนะ” แอนนี่กล่าวทักทาย ยื่นขนมให้ฉัน “ฉันเอา
ขนมพายมาฝากด้วย หวังว่าเธออาจจะชอบนะ”
“ของโปรดฉันเลยนะค่ะ” ฉันชอบกินพาย ชอบรสชาติของพายมากๆ“ขอบคุณมากๆนะค่ะ”
“ยินดีเสมอ สำหรับเพื่อนรักจ๊ะ” แอนนี่แสดงฝีหน้าปลื้มใจ “ออกไปเดินเล่นกันไหม วัน
นี้ท้องฟ้าโปร่ง อากาศสดใส เธอควรออกไปนอกบ้านบ้างนะ”
“ตกลง ฉันจะไปกับแอนนี่เองค่ะ” ฉันยิ้มอย่างที่ไม่เคยยิ้มมาก่อน
ฉันล็อคประตูบ้าน และออกจากประตูรั้วสีขาว แล้วไปเดินเล่นกับแอนนี่ ฉันคิดว่าจะออก
ไปหาซื้อสุนัขสักตัวหนึ่งมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนที่น่ารักสักตัวหนึ่งเร็วๆนี่ค่ะ หากพูดถึงตอนนั้นใน
หนังสือ..ฉันอยากเจอพวกเขาอีกสักครั้งจังเลยค่ะ เพราะเพื่อนๆทำให้ฉันรู้สึกไม่โดดเดี่ยวและ
อบอุ่น ทำให้ฉันเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง
ฉันมองพวกกุญแจที่พกมาด้วยในมือตอนนี้ คิดถึงภาพใบหน้าและรอยยิ้มของทุกคน ‘ทุก
คนสบายดีกันใช่หรือเปล่าค่ะ’
[อลิซบรรยาย]
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ฉันก็ได้ประสบการณ์ใหม่มาเยอะแยะเลย พ่อกับแม่
รู้สึกโล่งใจที่ฉันปลอดภัยและปฏิบัติภารกิจขององค์กรได้สำเร็จ ฉันคิดถึงพ่อกับแม่มากและเล่าถึง
เรื่องราวต่างๆทีเกิดขึ้นให้กับคุณพ่อและคุณแม่ฟัง
ผู้คุ้มหนังสือได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปแล้ว และมิติกาลเวลาของหนังสือแห่งความ
ลึกลับก็ได้ถูกลบออกไปอย่างเสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรทำแล้ว เมื่อมองพวกกุญแจหนังสือ
นี่แล้ว ฉันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเพื่อนทุกคนจริงๆ เพื่อนๆก็คงไม่คิดต่างไปจากฉันเหมือนกัน จริง
ด้วย!..ฉันนึกแผนการอะไรดีๆออกแล้วหละ เราจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งแน่ๆ รอก่อนนะเพื่อ
นทุกๆคน
ผ่านไปหนึ่งวัน อลิซได้เขียนจดหมายส่งผ่านมิติกาลเวลาไปถึงทุกคน
ถึงอีฟ,แอนโทนี่,บลูม,และโซเฟีย
สวัสดี ฉันอลิซนะ ยังจำฉันได้อยู่รึเปล่าเนี่ย ฮ่าๆ ฉันคิดว่าจำได้นะ เอาหละ เข้าเรื่องเลยละ
กัน คือว่าพรุ่งนี้ตอน 8.00 โมงเช้า ฉันจะไปรับพวกเธอทุกคนเลย รออยู่ที่หน้าบ้านก็แล้วกัน เราจะ
ได้มาเจอกันอีกครั้งแล้วนะ อย่าลืมหละ
จากอลิซ เวลลี่ฮุ๊ป
ณ ที่บ้านของสหายแต่ละคน ตามวันนัดหมาย เวลา 8.00 เช้า
ตอนนี้ทุกคนยืนอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเองแล้ว และกำลังรออยู่ สหายได้บอกพ่อกับแม่
ถึงเรื่องที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนๆเรียบร้อยแล้ว และท่านทุกคนก็อนุญาต
อลิซได้ใช้ห่วงไปที่ไหนก็ได้ เดินทางไปรับทุกคนที่อยู่หน้าบ้านจนครบหมดทุกคน แล้ว
พาทุกคนลอดห่วงมายังด้านหน้าของสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นร้านไอศกรีมนั่นเอง! ร้านนี้ตั้งอยู่ในที่
แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เป็นร้านที่อร่อยและได้จำนวนเยอะที่สุดในโลก ทันทีที่พวกเขาทุกคนมา
ถึงแล้วจึงเปิดประตูเข้าไป เกิดเสียงโมบายเปลือกหอยกระทบกัน
ลูกค้านั่งรับประทานไอศกรีมอย่างเอร็ดอร่อยกันในร้านพลางนั่งพุดคุยกันอย่างมีความ
สุขและสนุกสนาน ในร้านเปิดเพลงสบายๆคลอๆไป ทำให้บรรยากาศเหมาะแก่การทานไอศกรีม
“มากี่คนค่ะ” พนักงานเสิร์ฟชาวญี่ปุ่นถาม แต่พวกเขาไม่เข้าใจ อลิซจึงเอาวุ้นแปลภาษา
ให้ทุกคนกิน หลังจากนั้นจึงฟังออกว่าพูดอะไร
“5 คนกับอีก 2 ตัวค่ะ” อลิซตอบเธอ
“โอเคค่ะ..เอ..ที่นี่นำสัตว์เข้ามาไม่ได้นะค่ะ” เธอตอบมองไปยังเฮ็ดวิก
“ขอพิเศษวันหนึ่งก็แล้วกันนะค่ะ ขอร้องหละค่ะ” อลิซอ้อนวอนพนักงานเสิร์ฟเอาหัวและ
ตัวถูๆไปยังแขนของเธอราวกับแมวขี้อ้อน
“กะ..ก็ได้ค่ะ!” เธอรู้สึกอ้ำอึ้งผายมือไปยังตะที่นั่ง “5 คนกับ 1 ตัว พิเศษนะคะ เชิญนั่ง
โต๊ะนี้ได้เลยค่ะ”
สหายทุกคนนั่งลง เจ้าเฮ็ดวิกนั่งบนโต๊ะ พลางร้องเสียงดัง “กรู๊กกกก!” สายตาของทุก
คนจับจ้องไปที่นกฮูกอย่างประหลาดใจ
“เงียบๆหน่อยสิเจ้าเฮ็ดวิก!” แอนโทนี่ว่าให้มัน “เดี๋ยวทุกคนเค้าจะกินข้าวไม่อร่อยนะ”
“ทุกคนคงไม่เคยเห็นนกฮูกเป็นสัตว์เลี้ยงหละมั้ง” บลูมเอ่ย
“มาสั่งเมนูกันดีกว่า วันนี้ฉันเลี้ยงเอง คิคิ” อลิซบอกทุกคน.. เมื่อพนักงานเสิร์ฟวางเมนู
ลงบนโต๊ะ ทุกคนก็เริ่มสั่งเมนูไอศกรีมทันที บางชนิดก็เป็นไอศกรีมหลายลูกวางบนแก้ว ต่อกันจน
ยาวเป็นทอดราวกับหอคอยโตเกียว บางชนิดก็เป็นก้อนใหญ่จนล้นถ้วยออกมา มีของหวานประดับ
ลงไป อย่างเช่นคุกกี้ เวเฟอร์หรือครีม เกล็ดหิมะ วุ้น และอะไรอีกหลายอย่างให้เลือก
เมื่อทุกคนสั่งเมนูจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พนักงานจึงกลับเข้าไปทำไอศกรีมทันที หลัง
จากนั้นก็ออกมาพร้อมกับไอศกรีมที่ทำให้รู้สึกมหัศจรรย์เนื่องจากมันสูงมากเลยเหนือหัวของพวก
เขาขึ้นไป
“ในที่สุดเราก็ทานไอศกรีมด้วยกัน เย่!” แอนโทนี่เอ่ย “คิดถึงทุกคนเป็นบ้าเลย!”
“ได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ดีจังเลยค่ะ” โซเฟียเอ่ยพลางมองน้องหมาบนตัก “นี่เพื่อนใหม่
ของฉัน ชื่อชายด์ พันธุ์โกลเดนค่ะ”
“ว้าว! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะเลี้ยงสัตว์ด้วย” อลิซมีฝีหน้าตื่นเต้น คนอื่นๆรู้สึก
แปลกใจที่เห็นเธอมีสัตว์เลี้ยง “มาให้อุ้ม หน่อยสิเจ้าชายด์”
“หงึก..หงึก” เจ้าชายด์กัดนิ้วมือของอลิซเล่นทันทีเมื่อเธอจะอุ้มมัน “แฮ่ๆๆ”
“ทำไมต้องกัดฉันด้วย แงงง..ซิกๆ” อลิซแกล้งทำหน้าเศร้าๆ “เกิดมาไม่เคยมีสัตว์ตัว
ไหนชอบฉันเลยหรือนี่”
“ขอโทษทีค่ะ มันซนไปหน่อย” โซเฟียบอก คนอื่นๆหัวเราะ
“เป็นเพราะว่าเธอไม่สวยเหมือนโซเฟียเค้าหละมั้ง ฮ่าๆๆๆ!” แอนโทนี่พูดหยอกอลิซ
“แบร่ๆ!”
“ว่ายังไงนะ! เจ้าแอนโทนี่ตัวแสบ หนอยแหนะ!” อลิซกำมือเคาะหัวแอนโทนี่อย่างแรง
โซเฟียหน้าแดง เพราะรู้สึกเขินเล็กน้อย
“โอ๊ย! เจ็บนะ ยัยบ้า” แอนโทนี่ทำปากจู๋ แล้วทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกัน
“พอเลยทั้งสองคน..หยุดแค่นั้นแหละ นี่เรามากินไอศกรีม ไม่ได้มาโรงละครนะ” บลูม
บ่นใส่ทั้งคู่ แอนโทนี่และอลิซจึงยอมแต่โดยดี “ชิ!”
“ฉันหิวแล้ว มาทานกันดีกว่านะ!” อีฟเอ่ย ตามองไอศกรีมอย่างเปล่งประกาย แล้ว
ตะโกนเสียงดัง “จะทานแล้วนะค่ะ!”
“จะทานแล้วนะค่ะ/ครับ!” ทุกคนพูดพร้อมกัน แล้วถือช้อนและส้อมตักไอศกรีมของตัว
เองทานทันที
“กรู๊กกก/โฮ่งๆ!” สัตว์ทั้งสองตัวขานร้องเช่นเดียวกับสหาย พวกมันมองไอศกรีมที่อยู่
บนจานของตนเอง ด้วยความหิว และน้ำลายไหล
“อร่อยจังเลย!” อีฟเอ่ย และทุกคนรู้สึกได้ถึงความหวานของแต่ละรสชาติบนไอศกรีม
รสชาติที่ผสมผสานกันอย่างกลมกล่อม จนเมื่อหมดก็สั่งเพิ่มอีก
“ฉันมีความสุขที่สุดเลยหละวันนี้!” อีฟเอ่ย ทุกคนยิ้มแล้วหัวเราะไปพร้อมๆกัน
สหายทุกคนรับประทานไอศกรีมไปด้วย พลางย้อนพูดคุย แบ่งปันถึงเรื่องราวตอนที่เกิด
ขึ้นในหนังสือและหลังจากที่ได้ออกมาจากหนังสือ อย่างสนุกสนานและมีความสุข สหายทุกคน
ต่างก็คิดถึงกันและกันมาก หลังจากได้เดินทางและพยายามด้วยกันมาตลอดจนถึงจุดจบช่วงเวลานี้
เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการที่พวกเขาได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง และสหายทุกคน
คงจะจดจำและมีมิตรภาพที่ดีต่อกันแบบนี้ไปอีกนานแสนนานเลยหละ….
------ อีฟ แอนโทนี่ บลูม โซเฟีย อลิซ เฮ็ดวิก -----
------ Ending จบบริบูรณ์ --------
บทพิเศษ
สำหรับเหล่าผู้คุมหนังสือนั้น คุณอาจสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับสหาย หรือต้องการ
อะไรจากพวกเขากันแน่ และนี่คือบทเฉลย
คุณตาแอนดรูนั้นเคยเป็นอาของอีฟมาก่อน ในใจลึกๆแล้วท่านอยากจะกำจัดอีฟ
เนื่องจากอยากครอบครองทรัพย์สัมบัติไว้เป็นของตนเอง แต่ท่านกลับเสียชีวิตซะก่อน (พร้อมกับ
เรื่องที่ยังไม่ได้สะสางและค้างคาใจ) แอนดรูได้ไปขอวิญญาณเอลฟ์ในป่าให้ช่วยชุบชีวิตอีกครั้ง
ดังนั้นเขาจึงมีหูเหมือนเอลฟ์
สปาร์ค มิราเคิ้ล ชายหนุ่มผู้มีนิสัยชอบหาเรื่อง ชอบใช้กำลัง แน่นอน เขาเคยเป็นนักเลง
โจรมาก่อน และเคยเป็นฆาตกรที่มีประวัติมาลายคดีแล้ว วันหนึ่งสปาร์คได้เข้าไปปล้นบ้านของแอน
โทนี่ในยามวิกาล ขณะที่ทุกคนกำลังนอนอยู่ แอนโทนี่ก็ตกใจตื่นขึ้นมา เนื่องจากได้ยินเสียงฝีเท้า
และเงาปริศนาเข้ามาในบ้านทางหน้าต่าง เขาจึงก้าวเข้าไปในห้องครัว คว้ามีดทำอาหารมาหนึ่ง
เล่ม ในทันใดนั้นเอง สปาร์คก็ได้เดินเข้ามาพอดี แอนโทนี่ใช้มีดโจมตีสปาร์คครั้งแรกทันทีแต่ไม่
สำเร็จ สปาร์คจึงนำมีดจ่อเข้าที่คอของแอนโทนี่ ดังนั้นเขาจึงใช้มีดที่อยู่ในมือสวนกลับไปแทงเข้า
ที่ตาพอดี สุดท้ายเขาก็ต้องหนีไปเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่ตา และดวงตาข้างนั้นจึงใช้ไม่ได้อีกเลย (นี่
เป็นเหตุผลที่เขาต้องใส่ผ้าปิดตาข้างหนึ่งไว้) สปาร์ครู้สึกแค้นแอนโทนี่และต้องการกำจัดเขา
แฮร์รี่ แฮมเมอร์บรู๊ค ชายหนุ่มสมาร์ทผู้เป็นครูฝึกสอนโซเฟียในด้านของเวทย์มนต์คาถา
ต่างๆ เขาเห็นโซเฟียมีพลังที่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องการใช้พลังนั้นมาทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น
ซิลเวีย หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความอิจฉาและปราศจากความรัก วันหนึ่งเมื่อเธอหนีออก
จากบ้าน เธอได้พบเพชรสีใสแปลกประหลาดกะรัตหนึ่ง มันเปล่งประกายเป็นแสงสีม่วงน่าพิศวง
เมื่อซิลเวียจับมัน พลังวิเศษที่เป็นความมืดได้เข้าไปสู่ร่างกายของเธอ ทันใดนั้นเองเธอก็กลายเป็น
จอมเวทย์แห่งความมืดผู้เก่งกาจ และใช้พลังนี้สร้างหนังสือแห่งความลึกลับเล่มนี้ขึ้นมา ซิลเวีย
หวังว่าจะได้กำจัดบลูมที่รบกวนความทรงจำของเธอออกไปจากชีวิต และสร้างโลกใบใหม่ที่เธอ
เป็นผู้มีอำนาจทั้งหมด
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุกอย่างก็กลับมาสงบสุขได้เหมือนเดิมอีกครั้ง ไปสำรวจ
ชีวิตของพวกเขากันดีกว่า
[อีฟบรรยาย]
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ฉันกับคุณแม่ได้บอกเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดที่เราทั้งคู่ได้
เผชิญกันมา ฉันได้เพื่อนใหม่มาหนึ่งตัวคือเจ้าเฮ็ดวิก ดูเหมือนว่าคุณพ่อจะไม่เชื่อเรื่องเวทย์มนต์
และประหลาดนี้เท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เมื่อแม่ได้อธิบายว่าความฝันของฉันไม่ไร้สาระ พ่อก็
เริ่มที่จะไม่ดุว่าฉันเหมือนแต่ก่อน ส่วนฉันก็รักความฝันมากขึ้นเรื่อยๆ พลังวิเศษในวันนั้นทำให้ฉัน
รู้จักความฝันได้ดียิ่งขึ้น ฉันได้เริ่มกล้าทำตามความฝันของตัวเองบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป
การเขียนนิยาย หรือการที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ความฝันคือแรงผลักดันในชีวิตของฉัน
“แม่ค่ะ รูปนี้ดูโอเคไหมคะ” ฉันถามคุณแม่หลังจากที่สเก็ตและลงสีน้ำเป็นรูปวาดของ
คุณพ่อที่ต้องทนนั่งอยู่บนเก้าอี้ อยู่นานหนึ่งชั่วโมง
“โห..สวยมากเลยจ๊ะลูกรัก” แม่ชื่นชม “ถ้านำไปประกวดต้องได้รางวัลแน่ๆเลยจ๊ะ”
“ไหนๆพ่อขอดูฝีมือของลูกหน่อยซิ” พ่อรู้สึกตกใจในรูปวาดของฉัน (ท่านไม่เคยเห็นฉัน
วาดรูปมาก่อน เพราะว่าฉันไม่เคยวาดให้ท่านดูเลยสักครั้ง) “ว้าว..อัศจรรย์จริง พ่อไม่เคยเห็นลูก
วาดรูปได้สวยเท่านี้มาก่อนเลย”
ฉันหยิบพวงกุญแจรูปหนังสือสีน้ำตาลเล็กๆที่อลิซเคยมอบให้ มาดูพลางๆ ฉันไม่รู้ว่า
ตอนนี้ทุกคนจะเป็นยังไงบ้าง แต่ตอนนี้ฉันคิดถึงทุกคนมากๆเลยหละ
[แอนโทนี่บรรยาย]
ผมหนะเหรอ..ชีวิตแบบเดิมๆไม่มีอะไรมากมายนัก ผมรู้สึกเบื่อที่ต้องพบเจอกับอะไร
ซ้ำๆซากๆ แต่แบบนี้ดีกว่าในหนังสือตั้งเยอะ ไม่อันตราย และได้อยู่กับคุณตาของผมที่คอยนั่ง
ทำงานอดิเรกอยู่ที่บ้าน อ่านหนังสือ แกะสลักไม้ทุกๆวัน รู้สึกสบายใจชะมัดที่ไม่ต้องไปอยู่ใน
หนังสือบ้าๆอะไรนั่นอีก
“เจ้าแอนโทนี่..ตาขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม” คุณตาหันหน้ามาหาเขาที่นั่งอยู่บน
เก้าอี้ไม้ข้างๆ
“แน่นอนอยู่แล้ว ถามมาได้เลยครับตา” ผมตอบตกลง
“ตอนนั้นตาว่ามันแปลกๆ มีรูปหลานอยู่ในหนังสือเล่มหนึ่งที่ตาเคยอ่าน” คุณตามีฝีหน้า
สงสัย พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากชั้น ผมเห็นหนังสือสีน้ำตาลเก่าๆคร่ำ
ครึ “หนังสือเล่มนี้หนะ”
ผมรู้สึกตกใจทันทีที่ได้เห็นหนังสือเล่มนั้น มันจะพาเราเข้าไปในนั้นอีกรึเปล่าเนี่ย!“คุณ
ตา..เอ่อ..คือว่า” คุณตาเปิดหนังสือเล่มนั้นออก ในนั้นมีเพียงแต่รูปการ์ตูนกับเนื้อหานิทานธรรมดา
ไม่มีรูปของผม หรือเพื่อนๆ และก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรประหลาดๆเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกแล้ว
“ผมว่าคุณตาคงจะตาฝาดไปรึเปล่าครับ” ผมเอ่ยพลางรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปิดบังคุณตาแบบนี้คงไม่เป็นอะไรมาก อิอิ ผมแอบยิ้มนิดหน่อย มีความสุขมากๆ เมื่อได้คิดถึง
เพื่อนๆที่เคยอยู่ด้วยกันในหนังสือ ทุกคนจะเป็นยังไงบ้างนะ
[บลูมบรรยาย]
สำหรับฉันแล้วครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้พี่สาวของฉัน
มาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง แต่นั่นมันเป็นแค่อดีตสำหรับฉันไปแล้ว พี่ซิลเวียไม่เคยยอมรับอะไรได้
เลย.. ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในคฤหาสนนี้อีกครั้ง หลังจากที่ได้กลับมา
บ้าน ฉันรู้สึกได้ว่าพ่อกับแม่เป็นห่วงฉันมากๆ ฉันรักพ่อแม่ที่สุดเลย
“พ่อค่ะ..แม่ค่ะ หนูรักพ่อกับแม่นะค่ะ” ฉันบอกพ่อกับแม่ในขณะที่นั่งอ่านหนังสือเล่นๆ
อยู่ที่โซฟาชั้นล่าง พ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และคุณแม่กำลังนั่งดื่มกาแฟ
“พ่อกับแม่ก็รักลูกนะ.. ลูกเป็นคนเดียวที่พ่อกับแม่รักมากที่สุด” คุณพ่อเอ่ย
“และก็เป็นห่วงมากๆด้วย หลังจากที่ลูกหายตัวไปตอนนั้น” คุณแม่เอ่ยมีฝีหน้าเศร้า “แม่
รักหนู และรักพี่ซิลเวียด้วยเหมือนกันจ๊ะ แต่ตอนนี้แม่หวังว่าพี่เค้าจะกลับมาอีกครั้ง”
“อย่าเศร้าไปเลยค่ะแม่..เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว ส่วนพี่ซิลเวีย เขาคงอยู่ที่ไหนสัก
แห่งแน่ๆเลยค่ะ บนพื้นดินหรืออาจจะเป็นบนผืนฟ้า” ฉันตอบแม่ในใจก็รู้สึกคิดเช่นเดียวกัน
“จริงด้วยลูก..แม่จะไม่คิดเรื่องนี้อีกแล้ว” แม่ตอบ ฉันยิ้มให้กับแม่
“ตอนนี้หนูปลอดภัยดีครบสามสิบสองก็โอเคแล้วหล่ะค่ะ” ฉันพูด พ่อกับแม่หัวเราะ
[โซเฟีย]
ฉันอยู่คนเดียวมาตลอดเลยค่ะ.. แต่ฉันกลับไม่รู้สึกเหงาแบบนั้นอีกแล้ว แม้ฉันจะมองไม่
เห็นคุณแม่ แต่ฉันเชื่อค่ะ ว่าท่านยังคงอยู่กับฉันใกล้ๆ เพราะว่าสร้อยมุกเส้นนั้น ทำให้ฉันมองเห็น
ภาพของคุณแม่ได้ชัดเจนขึ้น ฉันมีความสุขที่ได้เจอแม่อีกครั้งในตอนนั้น ตอนนี้ฉันมีบ้านเป็นของ
ตัวเองแล้วนะค่ะ แอนนี่ เพื่อนของฉันมักจะมาเยี่ยมฉันบ่อยๆ
“สวัสดีโซเฟีย บ้านของน่ารักจังเลยนะ” แอนนี่กล่าวทักทาย ยื่นขนมให้ฉัน “ฉันเอา
ขนมพายมาฝากด้วย หวังว่าเธออาจจะชอบนะ”
“ของโปรดฉันเลยนะค่ะ” ฉันชอบกินพาย ชอบรสชาติของพายมากๆ“ขอบคุณมากๆนะค่ะ”
“ยินดีเสมอ สำหรับเพื่อนรักจ๊ะ” แอนนี่แสดงฝีหน้าปลื้มใจ “ออกไปเดินเล่นกันไหม วัน
นี้ท้องฟ้าโปร่ง อากาศสดใส เธอควรออกไปนอกบ้านบ้างนะ”
“ตกลง ฉันจะไปกับแอนนี่เองค่ะ” ฉันยิ้มอย่างที่ไม่เคยยิ้มมาก่อน
ฉันล็อคประตูบ้าน และออกจากประตูรั้วสีขาว แล้วไปเดินเล่นกับแอนนี่ ฉันคิดว่าจะออก
ไปหาซื้อสุนัขสักตัวหนึ่งมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนที่น่ารักสักตัวหนึ่งเร็วๆนี่ค่ะ หากพูดถึงตอนนั้นใน
หนังสือ..ฉันอยากเจอพวกเขาอีกสักครั้งจังเลยค่ะ เพราะเพื่อนๆทำให้ฉันรู้สึกไม่โดดเดี่ยวและ
อบอุ่น ทำให้ฉันเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง
ฉันมองพวกกุญแจที่พกมาด้วยในมือตอนนี้ คิดถึงภาพใบหน้าและรอยยิ้มของทุกคน ‘ทุก
คนสบายดีกันใช่หรือเปล่าค่ะ’
[อลิซบรรยาย]
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ฉันก็ได้ประสบการณ์ใหม่มาเยอะแยะเลย พ่อกับแม่
รู้สึกโล่งใจที่ฉันปลอดภัยและปฏิบัติภารกิจขององค์กรได้สำเร็จ ฉันคิดถึงพ่อกับแม่มากและเล่าถึง
เรื่องราวต่างๆทีเกิดขึ้นให้กับคุณพ่อและคุณแม่ฟัง
ผู้คุ้มหนังสือได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปแล้ว และมิติกาลเวลาของหนังสือแห่งความ
ลึกลับก็ได้ถูกลบออกไปอย่างเสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรทำแล้ว เมื่อมองพวกกุญแจหนังสือ
นี่แล้ว ฉันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเพื่อนทุกคนจริงๆ เพื่อนๆก็คงไม่คิดต่างไปจากฉันเหมือนกัน จริง
ด้วย!..ฉันนึกแผนการอะไรดีๆออกแล้วหละ เราจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งแน่ๆ รอก่อนนะเพื่อ
นทุกๆคน
ผ่านไปหนึ่งวัน อลิซได้เขียนจดหมายส่งผ่านมิติกาลเวลาไปถึงทุกคน
ถึงอีฟ,แอนโทนี่,บลูม,และโซเฟีย
สวัสดี ฉันอลิซนะ ยังจำฉันได้อยู่รึเปล่าเนี่ย ฮ่าๆ ฉันคิดว่าจำได้นะ เอาหละ เข้าเรื่องเลยละ
กัน คือว่าพรุ่งนี้ตอน 8.00 โมงเช้า ฉันจะไปรับพวกเธอทุกคนเลย รออยู่ที่หน้าบ้านก็แล้วกัน เราจะ
ได้มาเจอกันอีกครั้งแล้วนะ อย่าลืมหละ
จากอลิซ เวลลี่ฮุ๊ป
ณ ที่บ้านของสหายแต่ละคน ตามวันนัดหมาย เวลา 8.00 เช้า
ตอนนี้ทุกคนยืนอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเองแล้ว และกำลังรออยู่ สหายได้บอกพ่อกับแม่
ถึงเรื่องที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนๆเรียบร้อยแล้ว และท่านทุกคนก็อนุญาต
อลิซได้ใช้ห่วงไปที่ไหนก็ได้ เดินทางไปรับทุกคนที่อยู่หน้าบ้านจนครบหมดทุกคน แล้ว
พาทุกคนลอดห่วงมายังด้านหน้าของสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นร้านไอศกรีมนั่นเอง! ร้านนี้ตั้งอยู่ในที่
แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เป็นร้านที่อร่อยและได้จำนวนเยอะที่สุดในโลก ทันทีที่พวกเขาทุกคนมา
ถึงแล้วจึงเปิดประตูเข้าไป เกิดเสียงโมบายเปลือกหอยกระทบกัน
ลูกค้านั่งรับประทานไอศกรีมอย่างเอร็ดอร่อยกันในร้านพลางนั่งพุดคุยกันอย่างมีความ
สุขและสนุกสนาน ในร้านเปิดเพลงสบายๆคลอๆไป ทำให้บรรยากาศเหมาะแก่การทานไอศกรีม
“มากี่คนค่ะ” พนักงานเสิร์ฟชาวญี่ปุ่นถาม แต่พวกเขาไม่เข้าใจ อลิซจึงเอาวุ้นแปลภาษา
ให้ทุกคนกิน หลังจากนั้นจึงฟังออกว่าพูดอะไร
“5 คนกับอีก 2 ตัวค่ะ” อลิซตอบเธอ
“โอเคค่ะ..เอ..ที่นี่นำสัตว์เข้ามาไม่ได้นะค่ะ” เธอตอบมองไปยังเฮ็ดวิก
“ขอพิเศษวันหนึ่งก็แล้วกันนะค่ะ ขอร้องหละค่ะ” อลิซอ้อนวอนพนักงานเสิร์ฟเอาหัวและ
ตัวถูๆไปยังแขนของเธอราวกับแมวขี้อ้อน
“กะ..ก็ได้ค่ะ!” เธอรู้สึกอ้ำอึ้งผายมือไปยังตะที่นั่ง “5 คนกับ 1 ตัว พิเศษนะคะ เชิญนั่ง
โต๊ะนี้ได้เลยค่ะ”
สหายทุกคนนั่งลง เจ้าเฮ็ดวิกนั่งบนโต๊ะ พลางร้องเสียงดัง “กรู๊กกกก!” สายตาของทุก
คนจับจ้องไปที่นกฮูกอย่างประหลาดใจ
“เงียบๆหน่อยสิเจ้าเฮ็ดวิก!” แอนโทนี่ว่าให้มัน “เดี๋ยวทุกคนเค้าจะกินข้าวไม่อร่อยนะ”
“ทุกคนคงไม่เคยเห็นนกฮูกเป็นสัตว์เลี้ยงหละมั้ง” บลูมเอ่ย
“มาสั่งเมนูกันดีกว่า วันนี้ฉันเลี้ยงเอง คิคิ” อลิซบอกทุกคน.. เมื่อพนักงานเสิร์ฟวางเมนู
ลงบนโต๊ะ ทุกคนก็เริ่มสั่งเมนูไอศกรีมทันที บางชนิดก็เป็นไอศกรีมหลายลูกวางบนแก้ว ต่อกันจน
ยาวเป็นทอดราวกับหอคอยโตเกียว บางชนิดก็เป็นก้อนใหญ่จนล้นถ้วยออกมา มีของหวานประดับ
ลงไป อย่างเช่นคุกกี้ เวเฟอร์หรือครีม เกล็ดหิมะ วุ้น และอะไรอีกหลายอย่างให้เลือก
เมื่อทุกคนสั่งเมนูจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พนักงานจึงกลับเข้าไปทำไอศกรีมทันที หลัง
จากนั้นก็ออกมาพร้อมกับไอศกรีมที่ทำให้รู้สึกมหัศจรรย์เนื่องจากมันสูงมากเลยเหนือหัวของพวก
เขาขึ้นไป
“ในที่สุดเราก็ทานไอศกรีมด้วยกัน เย่!” แอนโทนี่เอ่ย “คิดถึงทุกคนเป็นบ้าเลย!”
“ได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ดีจังเลยค่ะ” โซเฟียเอ่ยพลางมองน้องหมาบนตัก “นี่เพื่อนใหม่
ของฉัน ชื่อชายด์ พันธุ์โกลเดนค่ะ”
“ว้าว! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะเลี้ยงสัตว์ด้วย” อลิซมีฝีหน้าตื่นเต้น คนอื่นๆรู้สึก
แปลกใจที่เห็นเธอมีสัตว์เลี้ยง “มาให้อุ้ม หน่อยสิเจ้าชายด์”
“หงึก..หงึก” เจ้าชายด์กัดนิ้วมือของอลิซเล่นทันทีเมื่อเธอจะอุ้มมัน “แฮ่ๆๆ”
“ทำไมต้องกัดฉันด้วย แงงง..ซิกๆ” อลิซแกล้งทำหน้าเศร้าๆ “เกิดมาไม่เคยมีสัตว์ตัว
ไหนชอบฉันเลยหรือนี่”
“ขอโทษทีค่ะ มันซนไปหน่อย” โซเฟียบอก คนอื่นๆหัวเราะ
“เป็นเพราะว่าเธอไม่สวยเหมือนโซเฟียเค้าหละมั้ง ฮ่าๆๆๆ!” แอนโทนี่พูดหยอกอลิซ
“แบร่ๆ!”
“ว่ายังไงนะ! เจ้าแอนโทนี่ตัวแสบ หนอยแหนะ!” อลิซกำมือเคาะหัวแอนโทนี่อย่างแรง
โซเฟียหน้าแดง เพราะรู้สึกเขินเล็กน้อย
“โอ๊ย! เจ็บนะ ยัยบ้า” แอนโทนี่ทำปากจู๋ แล้วทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกัน
“พอเลยทั้งสองคน..หยุดแค่นั้นแหละ นี่เรามากินไอศกรีม ไม่ได้มาโรงละครนะ” บลูม
บ่นใส่ทั้งคู่ แอนโทนี่และอลิซจึงยอมแต่โดยดี “ชิ!”
“ฉันหิวแล้ว มาทานกันดีกว่านะ!” อีฟเอ่ย ตามองไอศกรีมอย่างเปล่งประกาย แล้ว
ตะโกนเสียงดัง “จะทานแล้วนะค่ะ!”
“จะทานแล้วนะค่ะ/ครับ!” ทุกคนพูดพร้อมกัน แล้วถือช้อนและส้อมตักไอศกรีมของตัว
เองทานทันที
“กรู๊กกก/โฮ่งๆ!” สัตว์ทั้งสองตัวขานร้องเช่นเดียวกับสหาย พวกมันมองไอศกรีมที่อยู่
บนจานของตนเอง ด้วยความหิว และน้ำลายไหล
“อร่อยจังเลย!” อีฟเอ่ย และทุกคนรู้สึกได้ถึงความหวานของแต่ละรสชาติบนไอศกรีม
รสชาติที่ผสมผสานกันอย่างกลมกล่อม จนเมื่อหมดก็สั่งเพิ่มอีก
“ฉันมีความสุขที่สุดเลยหละวันนี้!” อีฟเอ่ย ทุกคนยิ้มแล้วหัวเราะไปพร้อมๆกัน
สหายทุกคนรับประทานไอศกรีมไปด้วย พลางย้อนพูดคุย แบ่งปันถึงเรื่องราวตอนที่เกิด
ขึ้นในหนังสือและหลังจากที่ได้ออกมาจากหนังสือ อย่างสนุกสนานและมีความสุข สหายทุกคน
ต่างก็คิดถึงกันและกันมาก หลังจากได้เดินทางและพยายามด้วยกันมาตลอดจนถึงจุดจบช่วงเวลานี้
เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการที่พวกเขาได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง และสหายทุกคน
คงจะจดจำและมีมิตรภาพที่ดีต่อกันแบบนี้ไปอีกนานแสนนานเลยหละ….
------ อีฟ แอนโทนี่ บลูม โซเฟีย อลิซ เฮ็ดวิก -----
------ Ending จบบริบูรณ์ --------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ