Yes! you are..ไม่ว่าจะยังไง เสียงหัวใจมันก็บอกว่าใช่เธอ!!
8.8
เขียนโดย HAJIKO
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.39 น.
10 บท
16 วิจารณ์
14.71K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 19.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เข้าใจผิด?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[บทที่สอง เข้าใจผิด : โหมดยัยบุ้งกี๋]
14.30 น. ห้องพยาบาล
....
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา มองไปรอบๆ ที่นี่ไม่ใช่โรงยิมแล้วนี่นา หรือว่าจะเป็นห้องพยาบาล
“โอ๊ย!”
ทันทีที่ฉันค่อยๆพยายามยันตัวขึ้น อาการหน้ามืดมันก็กลับมาอีกแล้ว เรียกว่าไม่หายไปเลยมากกว่า มันทำให้ฉันทรุดฮวบลงไปที่เตียงเหมือนเดิม T T
ฉันพยายามนึกๆ ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น ที่ทำให้ฉันต้องมานอนห้องพยาบาลแบบนี้ เริ่มตั้งแต่...ที่โรงอาหาร นั่งปลอบไอ้ธูปให้ใจเย็น ถัดไปก็ที่โรงยิม นั่งดูเขาแข่งบาสอยู่ดีๆ ลูกบาสสีส้มก็กระเด็นมาอัดฉัน แต่ฉันก็น่าจะนอนสลบอยู่ที่โรงยิมแล้วนี่นา
ทำไมฉันมาอยู่ที่ห้องพยาบาลได้ล่ะเนี่ย = =;; และแล้วภาพอีตาไคซัส ผู้เย็นชาและเย่อหยิ่งก็ลอยเข้ามา
ใช่! หมอนั่นอุ้มฉันมาที่นี่ นี่เอง!!! -///-
ฉันมองดูนาฬิกาที่ปลายเท้า บ่ายสองกว่า ฉันหลับไปหนึ่งชั่วโมงเลยหรอ?
ไม่ได้ๆ ถ้าขืนมัวแต่นอนอยู่นี่เดี๋ยวก็ไปไม่ทันชีสสำคัญพอดี แต่โอ๊ยยยย!! แล้วจะออกไปยังไงล่ะเนี่ย สงสัยคงมีวิธีเดียวแล้วล่ะมั้ง นั่นก็คือ...
เลื้อยยยย -0-
ให้ตายเหอะ! มีขาก็ไม่ได้ใช้! ก็มันยังมึนๆอยู่นี่นา ขืนลุกยืนมีหวังพื้นธรณีได้ดูดลงไปแน่! T T
“ทำอะไรน่ะ”
“ว้าย! เทวดาตกสวรรค์!!! O.o;”
ฉันกรีดร้องเบาๆเมื่อเห็นตาบ้าไคซัสมีวงแหวนสีเหลืองที่หัว = =;; เหมือนเทวดาเลยว่าม๊ะ?
“เทวดง เทวดาอะไรล่ะ เธอนี่เพ้อเจ้อ!”
เขาวางชามอะไรซักอย่างลงที่โต๊ะข้างๆ กลิ่นมันหอมมากเลยล่ะ รึว่านั่นจะเป็นข้าวต้ม
“อ่ะ...” เขายืนมือมาให้ฉัน
ให้ตายเถอะดามุส!(เบื่อโรบิ้นแล้วค่ะ เปลี่ยนๆมั่ง - -;;) เส้นหยักๆที่มือเรียงกันอย่างเป็นระเบียบสวยงาม แถมนิ้วก็เรียวยาวมากเลยด้วย หมอนี่ดูดีได้ทุกอณูจริงๆแม้แต่กระทั่งเส้นลายมือ ท่าทางมือนั่นจะนุ่มมากแน่ๆ ว่าแล้วก็สัมผัสเลยดีกว่า
อ...อ้าว อยู่ๆหมอนี่ก็ชักมือกลับทำให้ฉันรู้สึกเสียใจและเสียดายในเวลาไล่เลี่ยกัน
“ช้าจริงๆเลยเธอเนี่ย!” แต่เขากลับโอบสองมือมาอุ้มให้ฉันนอนลงบนเตียงผู้ป่วยแทน -///-
เขาลากเก้าอี้ข้างๆมานั่งข้างๆฉัน ว่าแต่อาจารย์ประจำห้องไม่อยู่เหรอเนี่ย - -;;
“นายมาที่นี่ได้ไง เพิ่งมาเรียนวันแรกไม่ใช่เหรอ? แล้วรู้ทางมาห้องพยาบาลได้ไง?” ฉันรัวคำถามเป็นชุด
“ฉันเคยเรียนอยู่ที่นี่ตอนม.1-ม.2 และพ่อของฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ร่วมสร้างโรงเรียนนี้ โอเคมั้ย?”
ฉันลืมไปว่าบ้านนายมันรวย - -;;
“อ๋อ..แล้วคนอื่นๆล่ะ ยัยเกรซ เจแปน ธูป และคีย์บอร์ด”
“พวกเขาก็ไปเรียนสิ จะให้มานั่งเฝ้านางฟ้าอยู่ที่นี่เหรอ?” น่าน โดนย้อนซะแล้วเรา -*-
“อ๋อ..แล้ว....” ฉันทำท่าจะถามต่อแต่เขาก็ขัดขึ้น ก็ฉันจะถามว่าทำไมนายไม่เรียน - -;;
“จะกินมั้ย? ข้าวต้มกุ้ง”
“(-_-) (_ _) (-_-) (_ _)”
ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบชามข้าวต้ม แต่ก็ถูกไคซัสชิงหยิบก่อน
“ฉันป้อน ป่วยอย่างเธอเนี่ยไม่น่าจะหยิบจับอะไรสะดวก” เขาพูดพลางตักข้าวต้มกุ้งคำแรกขึ้นแล้วเอาไปเป่าเบาๆ ก่อนจะมาจ่อที่ปากฉัน
ฉันมองข้าวต้มกุ้งที่จ่ออยู่ที่ปากสลับกับหน้าหล่อๆทว่าราวซาตานจุติของไคซัสก่อนจะอ้ำคำแรกเข้าปาก
ทั้งอร่อยทั้งหอมเลย =.,= หมอนี่ทำเองหรือเนี่ย แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หมอนี่มันลูกคุณหนูนี่นา แล้วเขามาทำดีกับฉันทำไม ทั้งๆที่ชื่อฉันเขายังไม่รู้จักเลย แต่เรื่องนั้นก็ช่างมันเหอะ ในเมื่อข้าวต้มกุ้งอร่อยขนาดนี้
ก็อย่างว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกัน แถมยาวซะด้วย มองอีกมุมหนึ่งเขาก็น่ารักใช่ย่อยเลยนะเนี่ย คนเราสมัยนี้มองกันแต่ภายนอกไม่ได้แล้ว เห็นหยิ่งๆอย่างนั้นทำแบบนี้ก็เป็น ^ ^;;
“จะว่าไป ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอนี่คัพซี”
อยู่ๆเขาก็พึมพำขึ้นมา มันก็ดังพอที่ทำให้ฉันได้ยิน ทำให้ฉันที่กำลังเคี้ยวคำที่สองถึงกับสำลัก!
“แค่กๆ Q^Q นายรู้ได้ไงอ่ะ!!”
“แล้วใครใช้ให้เธอหลับคาอกฉันหล่ะ? เอ้านี่น้ำ”
เขาพูดหน้าตาเฉยแต่ฉันนี่หน้าแดงจนแทบจะมุดส้วมหนีแล้วนะ Q^Q ตาบ้า! เห็นเงียบๆขรึมๆแบบนี้นายก็ลามกใช่ย่อยนะเนี่ย!!!
“แล้วมันใช่เรื่องน่าพูดมั้ยเล่า!!!”
ฉันตวาดเขาลั่น อายก็อาย เขินก็เขิน โกรธก็โกรธที่เขาพูดแบบนั้นวุ้ยย
“อ้าว..ที่ไทยเค้าห้ามพูดหรอ?” หมอนี่ตีหน้าซื่อได้น่าตบจริงๆ - -;;
“มันไม่ใช่เรื่องที่สมควรพูดเลยด้วยซ้ำตาบ้า!! Q^Q “
“ขอโทษทีๆ พอดีอยู่ที่ฝรั่งเศสนานไปหน่อย แล้วก็ไม่ค่อยได้กลับไทยด้วย เลยไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ฉันลืมอีกแล้วว่านายมันลูกครึ่ง -*-
เอ๊ะ! เมื่อกี้เขาหัวเราะเหรอ? ตั้งแต่เราเจอกันเมื่อสาม-สี่ชั่วโมงที่แล้ว ฉันไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเขาเลย จะมาเห็นก็ตอนนี้แหละ ริมฝีปากอมส้มของเขาที่ฉีกยิ้มเผยความจริงใจมันเพิ่มความน่ารักให้เขามากเลยนะ
“นาย...”
“อะไร?”
แล้วเขาก็หุบยิ้มทันที แล้วกลับมามองฉันด้วยสายตาเย็นชาอย่างเดิม ทำไมหมอนี่เปลี่ยนอารมณ์ง่ายจังฟะ -*-
“เปล่า...คือเมื่อกี้...”
“เมื่อกี้ทำไม?” อยากบอกจังว่าเวลานายยิ้มแล้วน่ารักมาก แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะไม่ได้เจอรอยยิ้มนั้นอีก
“คือนายยิ้มแล้ว....”
“ฉันยิ้มแล้วทำไม?”
...ผัวะ!!!!...
เพล้ง! ชามข้าวต้มตกลงเลอะพื้นทันที
“แก! ไอ้ไคซัส”
“คีย์บอร์ด ใจเย็น!” เจแปนและเกรซแทบวิ่งเข้ามาห้ามคีย์บอร์ดไม่ทัน เธอสองคนฉุดแขนคีย์บอร์ดไว้คนละข้าง
“คีย์บอร์ด นายทำแบบนี้ทำไม?” ฉันถามคีย์บอร์ดที่ต่อยไคซัสเข้าไปหนึ่งหมัดอย่างเต็มสตรีม นายแน่มากคีย์บอร์ด!!!
ไคซัสที่เสียหลักล้มลงค่อยๆยันตัวยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะมองคีย์บอร์ดด้วยสายตาเย็นชาแล้วเช็ดเลือดที่มุมปาก
“มันทำร้ายเธอ!!”
“มันแค่อุบัติเหตุ เขาไม่ได้ตั้งใจ!”
“เธอปกป้องมัน?!”
“ฉันไม่ชอบคนงี่เง่าหรอกนะคีย์บอร์ด แล้วอีกอย่างถ้าเขาคิดจะทำร้ายฉันจริงๆเนี่ย เขาไม่มานั่งหยอดข้าวต้มให้ฉันหรอก!” ฉันพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล
“แก!!!”
...ผัวะ...
...ผัวะ...
หมัดแรกคีย์บอร์ดชกเข้าไปที่หน้าของไคซัสซ้ำทันที แต่ดูเหมือนความอดทนของเขาจะหมดลง ไคซัสก็ต่อยเขาคืน อีกหนึ่งหมัดเต็มๆ
“นายอย่าทำให้เรื่องเล็กๆมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้มั้ย!!”
ถ้าฉันไม่เข้าไปห้ามตอนนี้ มีหวังสองคนนั่นฆ่ากันตายแน่! หรือไม่ก็มีหวัง ได้เข้าห้องงานวินัยทั้งคู่ แต่ใครล่ะจะเสียเปรียบ! ถ้าไม่ใช่คีย์บอร์ด เขาคงลืมไปแล้วว่าไคซัสเป็นถึงลูกผู้มีอิทธิพล
“หยุดทั้งสองคนเลยนะ!!.....โอ๊ยยย!”
ตุ๊บบบ!! ฉันลงไปนอนกองกับพื้นทันทีที่พยายามลุกขึ้น
“บุ้งกี๋!”
“เธอ!”
คีย์บอร์ดเป็นคนแรกที่เข้ามาพยุงตัวฉันขึ้นจากพื้น ตามด้วยเจแปนและเกรซ ไคซัสที่กำลังจะเข้ามาพยุงฉันด้วยก็ชะงักไป
“เห้ย! ‘ซัส เกิดอะไรขึ้นวะ!” ทาร์ชี่ที่วิ่งเข้ามาเดินมาหาไคซัส มองเราที ไคซัสที
“เรื่องเข้าใจผิดน่ะ ฉันว่าเราไปหาคริสกันเหอะ”
“เออๆ ยัยคุณหนูนั่นดูเหมือนจะอาระวาดแล้วด้วยล่ะที่ไม่เจอนาย ฉันเลยวิ่งมาตามนี่ไง” ทาร์ชี่พูดพลางมองมาที่พวกเราสี่คน
“งั้นก็ไปกันเหอะ ทางนี้มีคนดูแลแล้ว”
ทันทีที่ไคซัสพูดจบเขาก็เดินออกไปทันที ตามด้วยทาร์ชี่ที่เดินออกไป ทิ้งไว้แค่พวกเราสี่คน พร้อมปริศนาคำพูด
‘ทางนี้มีคนดูแลแล้ว...’
===================================================
14.30 น. ห้องพยาบาล
....
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา มองไปรอบๆ ที่นี่ไม่ใช่โรงยิมแล้วนี่นา หรือว่าจะเป็นห้องพยาบาล
“โอ๊ย!”
ทันทีที่ฉันค่อยๆพยายามยันตัวขึ้น อาการหน้ามืดมันก็กลับมาอีกแล้ว เรียกว่าไม่หายไปเลยมากกว่า มันทำให้ฉันทรุดฮวบลงไปที่เตียงเหมือนเดิม T T
ฉันพยายามนึกๆ ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น ที่ทำให้ฉันต้องมานอนห้องพยาบาลแบบนี้ เริ่มตั้งแต่...ที่โรงอาหาร นั่งปลอบไอ้ธูปให้ใจเย็น ถัดไปก็ที่โรงยิม นั่งดูเขาแข่งบาสอยู่ดีๆ ลูกบาสสีส้มก็กระเด็นมาอัดฉัน แต่ฉันก็น่าจะนอนสลบอยู่ที่โรงยิมแล้วนี่นา
ทำไมฉันมาอยู่ที่ห้องพยาบาลได้ล่ะเนี่ย = =;; และแล้วภาพอีตาไคซัส ผู้เย็นชาและเย่อหยิ่งก็ลอยเข้ามา
ใช่! หมอนั่นอุ้มฉันมาที่นี่ นี่เอง!!! -///-
ฉันมองดูนาฬิกาที่ปลายเท้า บ่ายสองกว่า ฉันหลับไปหนึ่งชั่วโมงเลยหรอ?
ไม่ได้ๆ ถ้าขืนมัวแต่นอนอยู่นี่เดี๋ยวก็ไปไม่ทันชีสสำคัญพอดี แต่โอ๊ยยยย!! แล้วจะออกไปยังไงล่ะเนี่ย สงสัยคงมีวิธีเดียวแล้วล่ะมั้ง นั่นก็คือ...
เลื้อยยยย -0-
ให้ตายเหอะ! มีขาก็ไม่ได้ใช้! ก็มันยังมึนๆอยู่นี่นา ขืนลุกยืนมีหวังพื้นธรณีได้ดูดลงไปแน่! T T
“ทำอะไรน่ะ”
“ว้าย! เทวดาตกสวรรค์!!! O.o;”
ฉันกรีดร้องเบาๆเมื่อเห็นตาบ้าไคซัสมีวงแหวนสีเหลืองที่หัว = =;; เหมือนเทวดาเลยว่าม๊ะ?
“เทวดง เทวดาอะไรล่ะ เธอนี่เพ้อเจ้อ!”
เขาวางชามอะไรซักอย่างลงที่โต๊ะข้างๆ กลิ่นมันหอมมากเลยล่ะ รึว่านั่นจะเป็นข้าวต้ม
“อ่ะ...” เขายืนมือมาให้ฉัน
ให้ตายเถอะดามุส!(เบื่อโรบิ้นแล้วค่ะ เปลี่ยนๆมั่ง - -;;) เส้นหยักๆที่มือเรียงกันอย่างเป็นระเบียบสวยงาม แถมนิ้วก็เรียวยาวมากเลยด้วย หมอนี่ดูดีได้ทุกอณูจริงๆแม้แต่กระทั่งเส้นลายมือ ท่าทางมือนั่นจะนุ่มมากแน่ๆ ว่าแล้วก็สัมผัสเลยดีกว่า
อ...อ้าว อยู่ๆหมอนี่ก็ชักมือกลับทำให้ฉันรู้สึกเสียใจและเสียดายในเวลาไล่เลี่ยกัน
“ช้าจริงๆเลยเธอเนี่ย!” แต่เขากลับโอบสองมือมาอุ้มให้ฉันนอนลงบนเตียงผู้ป่วยแทน -///-
เขาลากเก้าอี้ข้างๆมานั่งข้างๆฉัน ว่าแต่อาจารย์ประจำห้องไม่อยู่เหรอเนี่ย - -;;
“นายมาที่นี่ได้ไง เพิ่งมาเรียนวันแรกไม่ใช่เหรอ? แล้วรู้ทางมาห้องพยาบาลได้ไง?” ฉันรัวคำถามเป็นชุด
“ฉันเคยเรียนอยู่ที่นี่ตอนม.1-ม.2 และพ่อของฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ร่วมสร้างโรงเรียนนี้ โอเคมั้ย?”
ฉันลืมไปว่าบ้านนายมันรวย - -;;
“อ๋อ..แล้วคนอื่นๆล่ะ ยัยเกรซ เจแปน ธูป และคีย์บอร์ด”
“พวกเขาก็ไปเรียนสิ จะให้มานั่งเฝ้านางฟ้าอยู่ที่นี่เหรอ?” น่าน โดนย้อนซะแล้วเรา -*-
“อ๋อ..แล้ว....” ฉันทำท่าจะถามต่อแต่เขาก็ขัดขึ้น ก็ฉันจะถามว่าทำไมนายไม่เรียน - -;;
“จะกินมั้ย? ข้าวต้มกุ้ง”
“(-_-) (_ _) (-_-) (_ _)”
ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบชามข้าวต้ม แต่ก็ถูกไคซัสชิงหยิบก่อน
“ฉันป้อน ป่วยอย่างเธอเนี่ยไม่น่าจะหยิบจับอะไรสะดวก” เขาพูดพลางตักข้าวต้มกุ้งคำแรกขึ้นแล้วเอาไปเป่าเบาๆ ก่อนจะมาจ่อที่ปากฉัน
ฉันมองข้าวต้มกุ้งที่จ่ออยู่ที่ปากสลับกับหน้าหล่อๆทว่าราวซาตานจุติของไคซัสก่อนจะอ้ำคำแรกเข้าปาก
ทั้งอร่อยทั้งหอมเลย =.,= หมอนี่ทำเองหรือเนี่ย แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หมอนี่มันลูกคุณหนูนี่นา แล้วเขามาทำดีกับฉันทำไม ทั้งๆที่ชื่อฉันเขายังไม่รู้จักเลย แต่เรื่องนั้นก็ช่างมันเหอะ ในเมื่อข้าวต้มกุ้งอร่อยขนาดนี้
ก็อย่างว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกัน แถมยาวซะด้วย มองอีกมุมหนึ่งเขาก็น่ารักใช่ย่อยเลยนะเนี่ย คนเราสมัยนี้มองกันแต่ภายนอกไม่ได้แล้ว เห็นหยิ่งๆอย่างนั้นทำแบบนี้ก็เป็น ^ ^;;
“จะว่าไป ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอนี่คัพซี”
อยู่ๆเขาก็พึมพำขึ้นมา มันก็ดังพอที่ทำให้ฉันได้ยิน ทำให้ฉันที่กำลังเคี้ยวคำที่สองถึงกับสำลัก!
“แค่กๆ Q^Q นายรู้ได้ไงอ่ะ!!”
“แล้วใครใช้ให้เธอหลับคาอกฉันหล่ะ? เอ้านี่น้ำ”
เขาพูดหน้าตาเฉยแต่ฉันนี่หน้าแดงจนแทบจะมุดส้วมหนีแล้วนะ Q^Q ตาบ้า! เห็นเงียบๆขรึมๆแบบนี้นายก็ลามกใช่ย่อยนะเนี่ย!!!
“แล้วมันใช่เรื่องน่าพูดมั้ยเล่า!!!”
ฉันตวาดเขาลั่น อายก็อาย เขินก็เขิน โกรธก็โกรธที่เขาพูดแบบนั้นวุ้ยย
“อ้าว..ที่ไทยเค้าห้ามพูดหรอ?” หมอนี่ตีหน้าซื่อได้น่าตบจริงๆ - -;;
“มันไม่ใช่เรื่องที่สมควรพูดเลยด้วยซ้ำตาบ้า!! Q^Q “
“ขอโทษทีๆ พอดีอยู่ที่ฝรั่งเศสนานไปหน่อย แล้วก็ไม่ค่อยได้กลับไทยด้วย เลยไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ฉันลืมอีกแล้วว่านายมันลูกครึ่ง -*-
เอ๊ะ! เมื่อกี้เขาหัวเราะเหรอ? ตั้งแต่เราเจอกันเมื่อสาม-สี่ชั่วโมงที่แล้ว ฉันไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเขาเลย จะมาเห็นก็ตอนนี้แหละ ริมฝีปากอมส้มของเขาที่ฉีกยิ้มเผยความจริงใจมันเพิ่มความน่ารักให้เขามากเลยนะ
“นาย...”
“อะไร?”
แล้วเขาก็หุบยิ้มทันที แล้วกลับมามองฉันด้วยสายตาเย็นชาอย่างเดิม ทำไมหมอนี่เปลี่ยนอารมณ์ง่ายจังฟะ -*-
“เปล่า...คือเมื่อกี้...”
“เมื่อกี้ทำไม?” อยากบอกจังว่าเวลานายยิ้มแล้วน่ารักมาก แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะไม่ได้เจอรอยยิ้มนั้นอีก
“คือนายยิ้มแล้ว....”
“ฉันยิ้มแล้วทำไม?”
...ผัวะ!!!!...
เพล้ง! ชามข้าวต้มตกลงเลอะพื้นทันที
“แก! ไอ้ไคซัส”
“คีย์บอร์ด ใจเย็น!” เจแปนและเกรซแทบวิ่งเข้ามาห้ามคีย์บอร์ดไม่ทัน เธอสองคนฉุดแขนคีย์บอร์ดไว้คนละข้าง
“คีย์บอร์ด นายทำแบบนี้ทำไม?” ฉันถามคีย์บอร์ดที่ต่อยไคซัสเข้าไปหนึ่งหมัดอย่างเต็มสตรีม นายแน่มากคีย์บอร์ด!!!
ไคซัสที่เสียหลักล้มลงค่อยๆยันตัวยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะมองคีย์บอร์ดด้วยสายตาเย็นชาแล้วเช็ดเลือดที่มุมปาก
“มันทำร้ายเธอ!!”
“มันแค่อุบัติเหตุ เขาไม่ได้ตั้งใจ!”
“เธอปกป้องมัน?!”
“ฉันไม่ชอบคนงี่เง่าหรอกนะคีย์บอร์ด แล้วอีกอย่างถ้าเขาคิดจะทำร้ายฉันจริงๆเนี่ย เขาไม่มานั่งหยอดข้าวต้มให้ฉันหรอก!” ฉันพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล
“แก!!!”
...ผัวะ...
...ผัวะ...
หมัดแรกคีย์บอร์ดชกเข้าไปที่หน้าของไคซัสซ้ำทันที แต่ดูเหมือนความอดทนของเขาจะหมดลง ไคซัสก็ต่อยเขาคืน อีกหนึ่งหมัดเต็มๆ
“นายอย่าทำให้เรื่องเล็กๆมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้มั้ย!!”
ถ้าฉันไม่เข้าไปห้ามตอนนี้ มีหวังสองคนนั่นฆ่ากันตายแน่! หรือไม่ก็มีหวัง ได้เข้าห้องงานวินัยทั้งคู่ แต่ใครล่ะจะเสียเปรียบ! ถ้าไม่ใช่คีย์บอร์ด เขาคงลืมไปแล้วว่าไคซัสเป็นถึงลูกผู้มีอิทธิพล
“หยุดทั้งสองคนเลยนะ!!.....โอ๊ยยย!”
ตุ๊บบบ!! ฉันลงไปนอนกองกับพื้นทันทีที่พยายามลุกขึ้น
“บุ้งกี๋!”
“เธอ!”
คีย์บอร์ดเป็นคนแรกที่เข้ามาพยุงตัวฉันขึ้นจากพื้น ตามด้วยเจแปนและเกรซ ไคซัสที่กำลังจะเข้ามาพยุงฉันด้วยก็ชะงักไป
“เห้ย! ‘ซัส เกิดอะไรขึ้นวะ!” ทาร์ชี่ที่วิ่งเข้ามาเดินมาหาไคซัส มองเราที ไคซัสที
“เรื่องเข้าใจผิดน่ะ ฉันว่าเราไปหาคริสกันเหอะ”
“เออๆ ยัยคุณหนูนั่นดูเหมือนจะอาระวาดแล้วด้วยล่ะที่ไม่เจอนาย ฉันเลยวิ่งมาตามนี่ไง” ทาร์ชี่พูดพลางมองมาที่พวกเราสี่คน
“งั้นก็ไปกันเหอะ ทางนี้มีคนดูแลแล้ว”
ทันทีที่ไคซัสพูดจบเขาก็เดินออกไปทันที ตามด้วยทาร์ชี่ที่เดินออกไป ทิ้งไว้แค่พวกเราสี่คน พร้อมปริศนาคำพูด
‘ทางนี้มีคนดูแลแล้ว...’
===================================================
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ