RAUSANNE แทนใจรักในใจเธอ
เขียนโดย signorina
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.37 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 12.54 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) งานประกวดภาพถ่าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ15
~ งานประกวดภาพถ่าย ~
หลายวันต่อมา
แอลลิเซ่นขึ้นมานั่งบนรถประจำทางแล้ว เธอกวาดสายตาไปยังที่นั่งแถวท้ายๆ รถ แมคซ์นั่งอยู่คนเดียว เธอเดินไปนั่งข้างๆ แมคซ์ แล้วเอ่ยขึ้น
“โรวว์หล่ะ”
แมคซ์เลิกคิ้วสูง ทำหน้าแปลกใจ
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้แวะไปบ้านเล็กเลย อยู่กับคุณท่านมาหลายวันแล้ว ทำไมเหรอ”
“ฉันไม่เห็นเขามาหลายวันแล้ว”
เขาหยุดคิดนิดหนึ่ง แล้วเอ่ยต่อ “มันคงจะขับรถไปเองมั้ง โทรถามดูสิ”
“โทรแล้ว เขาปิดเครื่อง”
“อืม เดี๋ยวเจอที่โรงเรียนแล้วจะบอกให้ละกัน จะให้บอกว่าอะไรหล่ะ… คิดถึง คิดถึงมาก หรือว่าคิดถึงที่สุดดี” เขาแหย่
“ฝากถามว่ายังมีชีวิตอยู่รึเปล่าก็พอ” เธอว่า พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วเอ่ยต่อ
“ฉันมีคำถาม”
“อะไร”
“นายรู้เรื่องเขากับแคทธรินดีใช่มั้ย”
แมคซ์ยักไหล่ แล้วเอ่ย “เรื่องไหนหล่ะ”
“ทำไมจู่ๆ เขาก็ห่างเหินกับแคทธรินซะเฉยๆ ”
แมคซ์หันมามองหน้าเธอครู่หนึ่งอย่างพิจารณา “ไม่ใช่เพราะเธอหรอกน่าแอลลี่”
“ก็เล่ามาสิ” เธอว่าต่อ
แล้วแมคซ์ก็ย้อนเรื่องราวระหว่างโรวว์แซนกับแคทธรินให้เธอฟังว่า ความสนิทสนมกันของทั้งคู่นั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของโรวว์แซนเลย คุณปู่ของเขาชื่นชมในตัวแคทธรินอย่างมาก แคทธรินเป็นคนที่เข้าหาผู้ใหญ่ได้ดี ทุกครั้งที่แคทธรินอยู่ด้วยคุณปู่ของเขาจะมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องที่จู่ๆ เขาห่างเหินกับเธอนั้น ก็เกิดขึ้นหลังจากที่แคทธรินนั้นได้ป่าวประกาศกับใครต่อใครว่าเธอกับโรวว์แซนไม่ได้มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นใดๆ เลย เธอทำอย่างนั้นเพียงเพื่อต้องการคะแนนนิยมให้เธอได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียนในปีนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้โรวว์แซนผิดหวังมากและมองเห็นว่า แท้จริงแล้วแคทธรินเป็นคนที่ทำอะไรโดยนึกถึงผลประโยชน์มาก่อน เขาเลยคิดว่าควรจะห่างออกมาเสียตั้งแต่ตอนนั้น
แอลลิเซ่นลงจากรถประจำทาง แล้วเธอก็เดินมาเรื่อยๆ กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่แมคซ์เล่าให้เธอฟัง แล้วจู่ๆ มีก็โผล่มายืนขวางอยู่ข้างหน้า เธอสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่มีจะเอ่ยขึ้น
“คิดอะไรอยู่หรอแอลลี่ ใจลอยเชียวนะ”
“เปล่า คิดไปเรื่อยเปื่อยนะ”
“เออ นี่ เย็นนี้หลังเลิกเรียนไปเที่ยวงานประกวดภาพถ่ายกันนะ แมทบอกฉันว่าเขาส่งรูปเข้าประกวดด้วยหละ”
แอลลิเซ่นหันขวับมาหามี
“วันนี้หรอ”
“อื้ม !” มีพยักหน้ารับ
แอลลิเซ่นกำลังคิดว่าเธอจะบอกปฏิเสธมียังไงดี เธอไม่อยากไปดูผลงานภาพถ่ายที่มีรูปตัวเองแสดงท่าทางประหลาดๆ อยู่ในนั้น ถ้ามีได้เห็น มีจะต้องล้อเลียนเธอไปทั้งเทอมแน่ๆ เธอคิด
“ฉันคงไม่ไปนะมี” เธอว่า
“ทำไมหล่ะ”
“ฉัน เอ่อ…ฉัน…”
“โรวว์ก็ส่งรูปของเขาเข้าประกวดด้วยนี่ เธอไม่อยากเห็นหรอ อ๋อ หรือว่าเขาให้เธอดูแล้ว แหงละสิ”
แอลลิเซ่นส่ายหน้า
“เปล่า ฉันไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว”
“อ้อ จริงด้วย แมทบอกว่าอาทิตย์นี้เขาไม่ได้เข้าเรียนเลย”
แอลลิเซ่นขมวดคิ้ว เขาหายไปไหนของเขานะ เธอคิด
ภายในงานประกวดภาพถ่าย มีป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่มีข้อความเขียนว่า รอยยิ้มและมิตรภาพ มีเดินไปได้ครู่หนึ่งก็ขอตัวมองข้ามภาพถ่ายชิ้นอื่นๆ แล้วมุ่งตรงไปยังภาพที่แมททิว แฟนหนุ่มของเธอส่งเข้าประกวด
แอลลิเซ่นเดินดูภาพทีละชิ้นไปเรื่อยๆ แล้วเธอก็เดินมาหยุดอยู่ที่ภาพๆ หนึ่ง เป็นภาพเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งกำลังยื่นดอกไม้สีสวยให้หญิงสาวที่อายุมากกว่า เด็กน้อยยิ้มหวาน นัยน์ตาใสแจ๋ว แล้วแอลลิเซ่นก็เผลอยิ้มออกมา ใช่แล้ว ภาพนี้เป็นผลงานของแพททริค นั่นเอง
แอลลิเซ่นยังคงเดินชมภาพถ่ายไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินใจ แต่แล้วเธอก็ต้องหยุดชะงัก จ้องมองภาพถ่ายตรงหน้าอยู่ครู่ใหญ่ ขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด เธอพยายามย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเพื่อหาข้อสรุปถึงที่มาของภาพนี้ ภาพตรงหน้าเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังยิ้มน้อยๆ ด้วยรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ แลดูร่าเริงแจ่มใส เธอกำลังใช้สองมือลูบขนของม้าตัวใหญ่สีดำที่แสนสง่างาม ศีรษะของม้าโน้มลงมารับสัมผัสจากมือเธอ
แอลลิเซ่นยังคงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความสับสน เธอจำได้แล้วว่าเหตุการณ์นี้คือ วันที่เธอ โรวว์แซน แมททิวและมีไปขี่ม้ากันที่คอกม้าวินด์เซอร์ ภาพนี้คงเป็นตอนที่โรวว์แซนแนะนำม้าของเขาให้รู้จักนั่นเอง แอลลิเซ่นเดินไปรอบๆ บริเวณงานแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของโรวว์แซน ตอนนี้เธอเริ่มกังวลแล้ว เธอคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาได้ ก็กดหมายเลขโทรศัพท์บ้านเล็กคฤหาสน์วินด์เซอร์ แต่สายถูกตัดเข้าเครื่องรับฝากข้อความอัตโนมัติ เธอจึงฝากข้อความว่า
“คุณหายไปไหนของคุณ ตอนนี้ฉันกำลังโกรธสุดๆ ที่มีคนแอบถ่ายรูปฉันแล้วเอามาเผยแพร่ให้คนทั้งเมืองได้ดูกัน แต่ฉันก็พอจะลดอุณหภูมิความโกรธลงได้บ้างถ้าคุณมาปรากฏตัวตอนนี้ทันที ย้ำนะ ตอนนี้ทันที”
เธอกดวางสาย ยิ้มเล็กน้อยกับแผนการแสนเจ้าเล่ห์ในครั้งนี้
ตะวันใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว พิธีกรประกาศให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่หน้าเวทีใหญ่เพื่อฟังผลการประกวด แอลลิเซ่นเดินไปหามีและแมททิว มีกำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมากด้วยความมั่นใจว่าภาพถ่ายของแมททิวจะต้องได้รางวัลชนะเลิศมาครอง แอลลิเซ่นจำได้ว่าภาพนี้ มีเป็นคนคิดคอนเซปต์ขึ้นมาเอง เป็นภาพที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งในท่าทาง ขวยเขินกำลังยื่นช็อคโกแลตวาเลนไทน์ให้กับหญิงสาวรุ่นพี่ที่ส่งยิ้มมาให้
แอลลิเซ่นอดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงตอนที่มีเล่าให้ฟังว่าภาพถ่ายที่ชนะเลิศการประกวดเมื่อปีที่แล้วเป็นภาพที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในท่าทางขวยเขินกำลังยื่นช็อคโกแลตวาเลนไทน์ให้กับชายรุ่นพี่ที่ส่งยิ้มมาให้ มาถึงปีนี้มีก็เลยคิดไอเดียแบบสลับบทบาทกันบ้าง
หลังจากทานอาหารค่ำกันในงานแล้ว ทั้งสามคนก็กลับมายังรถ ระหว่างทางที่อยู่บนรถนั้น มีจะหันหลังมามองแอลลิเซ่นทุกๆ ห้านาที จนเมื่อถึงครั้งที่สามที่มีหันมา แอลลิเซ่นจึงหมดความอดทน
“ว่ามาสักทีสิ มีอะไร”
มีอ้าปากจะพูดแต่ก็หุบไว้ตามเดิมแล้วหันกลับไป
“คืนนี้ฉันคงจะปิดเครื่อง หวังว่าคงไม่มีใครโทรมานะ” แอลลิเซ่นแหย่
มีหันกลับมาทันที “ก็มันเป็นไปได้ยังไงอะ”
“อะไร”
“ก็มันเป็นไปได้ยังไง ที่ภาพถ่ายของเธอชนะได้รางวัลที่หนึ่งส่วนของฉันไม่ได้อะไรเลยเนี่ยสิ” มีว่าพร้อมถอนหายใจยาว
แมททิวมองแอลลิเซ่นทางกระจกหน้า แล้วส่งยิ้มแบบขำๆ
“ฉันไม่มีคำตอบให้เธอหรอกนะมี และอีกอย่างหนึ่งภาพถ่ายชิ้นนี้ไม่ใช่ของฉัน เป็นของโรวว์แซนต่างหากหล่ะ”
มีท้วงต่อ “ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ภาพถ่ายของเธอทั้งสองภาพได้รางวัลทั้งคู่ ภาพของโรวว์แซนได้แพ็คเกจเที่ยวเกาะที่สวยที่สุดทางตอนใต้สามวันสองคืน ส่วนอีกภาพหนึ่งก็ได้สิทธิพิเศษรับประทานอาหารค่ำสุดโรแมนติกที่ภัตตาคารอาหารสุดหรูใจกลางเมือง โอ้ย... ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”
แอลลิเซ่นค้าน
“และทั้งสองรางวัลที่เธอพูดถึงก็เป็นของโรวว์แซนกับแพททริคนั่นเอง”
มีหันมาอีกครั้ง “พอกันที ปีหน้าเธอต้องมาเป็นคนในภาพให้ฉันนะ ไม่งั้นฉันไม่ยอมจริงๆ ”
“นี่… มี ภาพถ่ายที่ได้รางวัลมันไม่ได้เป็นเพราะคนในภาพหรอกนะ และอีกอย่างหนึ่ง ปีหน้าฉันไม่คิดว่าฉันจะไปเป็นคนในภาพไหนทั้งนั้น ฉันบอกกับแพททริคไปแล้ว ส่วนโรวว์แซนเขาถ่ายรูปฉันตอนไหนฉันเองก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ”
มีค้อนใส่แอลลิเซ่นวงหนึ่งแล้วหันกลับไป
แมททิวหันมายิ้มให้มี แล้วพูดว่า “สุดสัปดาห์หน้าเราไปเที่ยวเกาะที่สวยที่สุดทางตอนใต้สามวันสองคืนกันดีมั้ยมี”
มีเบิกตาโพลง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าแล้วตอนนี้ แอลลิเซ่นส่ายศีรษะเบาๆ แล้วยิ้มให้เพื่อนสาว
โรวว์แซนขับรถเข้ามาจอดที่บ้านเล็ก รถจอดสนิทแล้ว เขาปรับเบาะแล้วเอนหลังอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง เขาลืมตาขึ้นแล้วเอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดเครื่อง แต่ก็เปลี่ยนใจปิดเครื่องไว้อย่างนั้นตามเดิม
อีกอึดใจหนึ่งต่อมา เขาก็ลงจากรถเดินตรงเข้าบ้าน แล้วก็หยุดชะงักเมื่อเห็นแมคซ์นอนอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น
“เฮ้ย นายไปไหนมาวะ โรวว์” แมคซ์เอ่ย
“ไปเยี่ยมเอ็ด ที่นี่มีอะไรบ้าง”
“นายไปหาเอ็ดเวิร์ดตั้งหลายวันเลยนะ มีอะไรรึเปล่า”
โรวว์แซนหันมานิดหนึ่ง “เปล่านี่ เอ็ดซื้อเรือลำใหม่เลยชวนฉันไปดู”
แมคซ์ว่า “อืม ที่นี่ก็ไม่มีอะไร คุณท่านแข็งแรงดี พ่อนายกับคุณเฮนรี่ไปเยี่ยมบริษัทสาขาที่ฝรั่งเศส อ้อ เร็วๆ นี้คุณเจสสิก้าจะกลับมาทำธุระที่นี่ด้วย”
โรวว์แซนหันขวับไปหาแมคซ์แล้วเอ่ยขึ้น
“อาเจสส์ มาทำอะไร”
แมคซ์ยักไหล่ แล้วยิ้มอย่างรู้ทัน “ไม่รู้สิ คงคิดถึงนายมั้ง”
โรวว์แซนนิ่วหน้าแล้วลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังเดินตรงไปยังบันไดขึ้นชั้นบน แมคซ์ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“แอลลี่ถามถึงนายอยู่นะ ตอนนี้เธอคงกำลังเป็นห่วงนายน่าดู โทรบอกเธอซะว่านายยังมีชีวิตอยู่”
โรวว์แซนพยักหน้าโดยไม่หันมามอง เขาเดินเข้าห้องไปแล้วทิ้งตัวลงที่เตียง อีกอึดใจต่อมาจึงเอื้อมมือไปกดปุ่มฟังข้อความที่ฝากไว้ มีข้อความจากอาของเขาที่กำชับว่าภายในสองสัปดาห์นี้ห้ามเขาไปไหน อีกสองข้อความจากแมคซ์ที่ให้เขาติดต่อกลับทันทีที่ฟังข้อความ และข้อความสุดท้ายจากแอลลิเซ่น เขาลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ยินเสียงเธอ
“คุณหายไปไหนของคุณ ตอนนี้ฉันกำลังโกรธสุดๆ ที่มีคนแอบถ่ายรูปฉันแล้วเอามาเผยแพร่ให้คนทั้งเมืองได้ดูกัน แต่ฉันก็พอจะลดอุณหภูมิความโกรธลงได้บ้างถ้าคุณมาปรากฏตัวตอนนี้ทันที ย้ำนะ ตอนนี้ทันที”
โรวว์แซนเผลอยิ้มออกมานิดหน่อย แต่แล้วก็กลับไปนิ่วหน้าอีกครั้งเมื่อนึกถึงภาพฉากสุดท้ายที่เขาเห็นแอลลิเซ่นกับชายหนุ่มข้างบ้านซึ่งกำลังวิ่งเล่นกันในสวน ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่าเพื่อน เขาถอนหายใจยาวแล้วทิ้งตัวลงนอนตามเดิม
โรวว์แซนครุ่นคิดถึงความจริงที่ว่า เขากับแอลลิเซ่นต่างก็ไม่เคยพูดถึงการคบหากันอย่างเป็นทางการเลย ดังนั้น เขามีสิทธิ์อะไรที่จะไปกำหนดหรือไปห้ามเธอไม่ให้คบหากับชายอื่น เขาคิด
แอลลิเซ่นหันไปมองนาฬิกาที่โต๊ะข้างเตียง นาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว เธอหันไปจ้องมองวัตถุขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ภาพถ่ายในกรอบสีดำที่ตอนนี้มีริบบิ้นโบว์สีแดงผูกอยู่ตรงมุมของกรอบรูป มีโทรศัพท์มือถือของเธอวางอยู่ใกล้ๆ นั้น เธอนิ่วหน้าเล็กน้อย ลุกลงจากเตียงไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เธอกดหมายเลขของโรวว์แซนแต่แล้วก็เปลี่ยนใจโทรหาแมคซ์แทน
“คราวนี้มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” แมคซ์กล่าว
“เขาหล่ะ” เธอเอ่ย
“อ้าว โรวว์ยังไม่โทรหาเธออีกเหรอ แอลลี่”
“เขาอยู่ไหน”
แมคซ์เงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “อ๋อ คือว่า เขาป่วยนิดหน่อยนะ”
“ป่วยหรอ แล้วทำไม…”
แมคซ์ขัดขึ้น “…พรุ่งนี้เขาไม่มีเรียนนะ ถ้าเธอจะมาฉันจะบอกเขาให้”
“เอ่อ ไม่รู้สิ ฉันมีเรียนเฉพาะช่วงเช้า ฉันอาจจะแวะไปช่วงบ่ายได้”
“โอเค”
แอลลิเซ่นวางสายจากแมคซ์ แล้วเดินกลับมาที่เตียง สายตายังคงจ้องมองภาพที่วางอยู่บนโต๊ะ ยิ่งทำให้เธอกังวลและคิดถึงโรวว์แซนมากขึ้น อยากให้เขามาปรากฏตัวต่อหน้าเธอในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
ขณะที่แอลลิเซ่นกำลังครุ่นคิดถึงโรวว์แซน ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
แอลลิเซ่นลุกจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู พบว่า เป็นแคทธรินที่ยืนอยู่หน้าประตู เธอถือถุงใส่ของบางอย่างและยื่นมาให้แอลลิเซ่น
“นี่อะไรเหรอแคท”
“ของๆ เธอไง โรวว์เขาแวะเอามาให้เมื่อหลายวันก่อน ฉันเพิ่งจะนึกได้ ขอโทษที” แคทธรินยักไหล่
“โรวว์แซน มาที่นี่เหรอ”
“ใช่ เขาไม่ได้บอกเธอหรือไง”
แอลลิเซ่นส่ายหน้าช้าๆ แล้วเอ่ยต่อ
“เขาคงแค่แวะมาคืนของเฉยๆ ”
แคทธรินยิ้ม “เขาเคยมานั่งเล่นที่นี่เป็นชั่วโมงๆ นะ ไม่เคยแค่แวะเฉยๆ ”
แอลลิเซ่นพยักหน้า ยิ้มตอบกลับไป ในใจก็หวนนึกถึงเรื่องที่แมคซ์เล่าให้ฟังถึงเรื่องระหว่างแคทธรินกับโรวว์แซน
“โอเค แค่นี้แหละ ราตรีสวัสดิ์นะ”
แอลลิเซ่นยิ้มให้และพยักหน้า ปิดประตูแล้วเดินกลับมาที่เตียง เธอเปิดถุงกระดาษดูสิ่งที่อยู่ข้างใน ปรากฏว่าเป็นเสื้อผ้าชุดเดียวกับที่เธอใส่ในวันที่ไปเที่ยวเล่นที่บ้านของเขา แอลลิเซ่นรู้สึกสับสนอีกครั้งกับข้อมูลใหม่ที่เพิ่มเข้ามา โรวว์แซนมาที่นี่เพื่อนำเสื้อผ้ามาคืนเธอ แต่เขากลับไม่ได้โทรบอกเธอ หนำซ้ำยังหายหน้าหายตาไปตั้งหลายวัน ถึงจะป่วยก็น่าจะโทรหากันได้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ เธอคิด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
มีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะการใช้ความคิดของเธออีกครั้ง
แอลลิเซ่นเดินไปเปิดประตู พบว่า เป็นแม่ของเธอนั่นเอง
“อ้าว แม่มีอะไรคะ”
“นี่จ้ะ ของลูก” แอนนายื่นกล่องใบใหญ่น้ำหนักเบามาให้เธอ
แอลลิเซ่นเปิดกล่องดู “ของหนูหรอ อะไรกันเนี่ย”
เธอดึงผ้าในกล่องขึ้นมาเปิดดู ปรากฏว่าเป็นชุดราตรียาวสำหรับงานเลี้ยงกลางคืนนั่นเอง
“เข้ามาก่อนค่ะแม่ แล้วอธิบายโดยละเอียด”
แอนนายิ้ม “ไม่มีอะไรใหญ่โตจ้ะ งานเลี้ยงของลูกสาวคนเล็กของตระกูลวินด์เซอร์ เธอประสบความสำเร็จในงานที่บริษัทสาขาย่อยที่ต่างประเทศ ก็เลยกลับมาจัดงานเลี้ยงในบรรดาญาติๆ คนสนิท แล้วครอบครัวเราก็ได้รับเชิญด้วย”
เงียบงันกันไปชั่วครู่
“เป็นไง สวยดีนะชุดนี้ แม่ว่าแฟนหนุ่มของลูกจะต้องตะลึงไปเลย”
“มันดู เอ่อ... หรูหราเกินไปนะคะ”
“ไม่หรอก นี่แอลลี่ เราต้องให้เกียรติลุงโคลและเจ้าของงานนะ โอเค ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แม่ไปนอนนะ”
แอนนาเดินผละออกไป แอลลิเซ่นถอนหายใจ คว้าชุดขึ้นมาแล้วเดินไปเก็บเข้าตู้
เธอกลับมานั่งลงที่เตียง สุดท้ายเมื่อไม่มีอะไรทำแล้วก็เลยล้มตัวลงนอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ