RAUSANNE แทนใจรักในใจเธอ

9.3

เขียนโดย signorina

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.37 น.

  25 ตอน
  0 วิจารณ์
  29.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 12.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) โชคไม่เข้าข้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

12

~ โชคไม่เข้าข้าง ~

 

            เช้าตรู่ที่บ้านวิลเลอรี่

 

            แอลลิเซ่นลงมาข้างล่างด้วยความเร่งรีบ เมื่อคืนหลังจากที่เธอตอบตกลงให้ โรวว์แซนมารับเธอไปเรียนด้วยกัน เธอมีแผนการเตรียมไว้อยู่แล้ว นั่นคือ เธอจะออกไปรอเขาตรงป้ายรอรถประจำทาง

            อืม เยี่ยม !

            ถึงแม้ว่าโรวว์แซนจะยืนกรานว่าเขากับแคทธรินเป็นแค่เพื่อนกัน และถึงแม้ว่าเธอเองก็บริสุทธิ์ใจ แต่เธอก็ยังไม่พร้อมที่จะให้แคทธรินมาเห็นเธอนั่งรถไปกับเขาเช่นนี้

            เธอเดินไปถึงป้ายรอรถ แล้วนั่งลง หยิบหูฟังขึ้นมาเสียบหู

 

            ครู่ต่อมา ปอร์เช่สีดำวาววับก็แล่นมาจอดตรงหน้า โรวว์แซนส่งยิ้มมุมปากแสน  ยียวนมาให้ทันที แอลลิเซ่นพยายามควบคุมสีหน้าให้ปกติที่สุด แล้วลุกขึ้นยืน เดินตรงไปที่รถแล้วก้าวขึ้นไปนั่ง แมคซ์นั่งอยู่ที่เบาะหลัง ก็เริ่มกวนประสาทเธอทันที

            “แอลลี่ ไอเดียสุดพิสดารนี้เป็นของเธอใช่มั้ยที่ให้มารับตรงนี้นะ ให้ตายสิ เธอคิดจริงๆ หรอว่าเขาจะลืม” 

            แอลลิเซ่นหันมายักไหล่ ยิ้มน้อยๆ ให้แมคซ์

 

            เมื่อคืน แอลลิเซ่นได้อ้างเหตุผลกับโรวว์แซนไปว่า ที่เธอให้เขามารับตรงนี้ก็เพราะเผื่อไว้ว่าเขาจะลืมมารับเธอ ถ้าหากภายในสิบห้านาทีเขายังไม่มา แอลลิเซ่นก็จะนั่งรถประจำทางไปทันที

            ขณะที่โรวว์แซนเคลื่อนรถไปข้างหน้าได้นิดหน่อย แมคซ์ที่กำลังอ้าปากจะพูดต่อก็หยุดชะงัก แล้วจู่ๆ เขาก็ผิวปาก สายตามองตรงไปยังถนนเบื้องหน้า แอลลิเซ่นจึงหันไปมองตาม

            โชคไม่เข้าข้างฉันเอาเสียเลย เธอคิด

 

            ภาพเบื้องหน้า ปอร์เช่สีแดงกำลังเลี้ยวโค้งออกมาด้วยความเร็ว คนขับชะลอความเร็วเล็กน้อยเมื่อมาถึงทางแยก แล้วเธอก็จ้องเขม็งมาทางนี้อยู่ราวๆ หนึ่งวินาที แล้วรีบหันกลับไป แล้วปอร์เช่สีแดงก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็ว

            แคทธริน นั่นเอง

            โรวว์แซนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกอะไรทั้งสิ้น

            แอลลิเซ่นนิ่ง รู้สึกว่าร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมา แล้วก็มีเสียงข้างหลังเอ่ยขึ้น

            “แอลลี่ ทำไมเธอถึงไม่นั่งรถแคทธรินไปเรียนด้วยกันหล่ะ”

            เธอเปล่งเสียงออกมาได้ในที่สุด “วันแรก ฉันก็นั่งรถแคทไป พอวันต่อมาก็ไม่อยากรบกวนเธออีก แล้วอีกอย่างคือ ฉันก็ชอบนั่งรถประจำทางมากกว่าด้วย”

            โรวว์แซนพูดขึ้นบ้าง “เหมือนผมไง” เขายิ้ม

            “โรวว์ นายเงียบไปเถอะ มีหน้าที่ขับก็ขับไป”

            โรวว์แซนท้วง “นายน่าจะมาขับบ้างนะ ฉันกับแอลล์จะได้ไปนั่งข้างหลัง”

            “ไม่มีทาง” แมคซ์ว่า

            แอลลิเซ่นแทรกขึ้นบ้าง

            “โรวว์แซน ทำไมคุณเรียกชื่อฉันว่า แอลล์ หล่ะ”

            เขานิ่วหน้าทันทีเมื่อได้ยินเธอเรียกชื่อต้นของเขาเสียเต็มยศ

            “นี่ เรียกผมว่า โรวว์ เฉยๆ เถอะ”

            แอลลิเซ่นยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อยก่อนจะเอ่ย “ได้สิคะ คุณโรวว์เฉยๆ เถอะ”

            แล้วแมคซ์กับแอลลิเซ่นก็หัวเราะกันอย่างชอบใจ

 

            ปอร์เช่สีดำแล่นมาจอดที่โรงเรียนมัธยมเซนต์ฮาโมนี่แล้ว

            ขณะที่แอลลิเซ่นกำลังจะเปิดประตูรถ โรวว์แซนช้อนมือของเธอข้างหนึ่งขึ้นมา เขาจุมพิตเร็วๆ ที่หลังมือเธอแล้วยิ้มให้ แอลลิเซ่นสะดุดกึก และก็เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกได้ถึงกระแสเลือดที่สูบฉีดอยู่บนใบหน้าเธอ แมคซ์กระแอมเสียงดังลั่นราวกับว่ามีเศษอุกกาบาตหล่นเข้าไปติดในหลอดลมของเขา

            ขณะที่รถของโรวว์แซนเคลื่อนออกไป แอลลิเซ่นรับรู้ได้ทันทีจากทางหางตา อืม สายตานับร้อยคู่กำลังจ้องเธอเขม็ง เธอเดินต่อไปเรื่อยๆ พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เมื่อเดินไปถึงล็อกเกอร์เก็บของ มียืนรออยู่แล้ว ทั้งสองทักทายกันแล้วก็เดินไปเข้าชั้นเรียน

 

 

            ลานจอดรถโรงเรียนเฮกซ์เตอร์

            แคทธรินยืนพิงปอร์เช่สีแดงของเธอในอิริยาบถสบายๆ สีหน้าราบเรียบของเธอไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นความรู้สึกข้างในที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้

            เธอกำลังวิเคราะห์ภาพที่เธอเห็นเมื่อยี่สิบนาทีที่ผ่านมา แอลลิเซ่นกับโรวว์แซน เป็นไปได้ยังไง เธอคิด

            โรวว์แซนแล่นรถเข้ามาจอดตรงซองจอดรถที่ประจำของเขา แคทธรินเดินมาหยุดอยู่ที่ท้ายรถ รอให้เขาก้าวเท้าลงมา

            “ไง” เขาเอ่ยทักเธอก่อน แล้วยิ้มร่าเริงเป็นพิเศษ

            “เช้านี้เรียนอะไรหรือโรวว์”

            “อ่า ตรีโกณฯ คุณหล่ะ”

            “ประวัติศาสตร์”

            เงียบ

            “คุณไม่เห็นบอกฉันเลยว่ารู้จักกับแอลลิเซ่นแล้ว” เธอว่า

            โรวว์แซนกำลังหยิบของที่เบาะหลัง ไม่พูดอะไรต่อ

            “เธออยู่บ้านเดียวกับฉันนะ โรวว์”

            เขาเอ่ยขึ้นในที่สุด

            “แล้วไงหรือ”

            “คุณคิดจะทำอะไรของคุณกัน” เธอว่า

            เขาหันมา “ผมชอบเธอ… แอลลิเซ่นนะ”

            แคทธรินชะงัก ไม่ทันตั้งตัว แอลลิเซ่นเนี่ยนะ เธอคิด

            “เธอรู้หรือเปล่าว่าคุณกับฉัน…”

            เขารีบท้วงขึ้น “เธอรู้อยู่แล้วว่าคุณกับผมเป็นเพื่อนกันมานาน” แล้วทำท่ามองนาฬิกา

            “โอเค ผมขอตัวก่อนนะ ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว”

            โรวว์แซนผละไปแล้ว แต่แคทธรินยังยืนอยู่ที่เดิม

 

            ตลอดทั้งวัน แอลลิเซ่นอารมณ์ดีอย่างผิดปกติ มีคอยสังเกตพฤติกรรมของเธอตั้งแต่เช้า ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มแต้มอยู่จางๆ มีบางครั้งที่จู่ๆ หน้าเธอก็ดูเป็นสีชมพูเรื่อๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล มีชักเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว

            “นี่ แอลลี่ ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือโรวว์แซนใช่มั้ย”

            “หืม ว่าไงนะ”

            มีกลอกตาไปมา ทำหน้าเซ็ง

            “ฉันนึกว่า เรื่องที่ฉันบอกเธอไปเมื่อวานนี้จะทำให้เธอตัดสินใจเลิกคบเขาไปแล้วเสียอีกนะ”

            แอลลิเซ่นยิ้มให้เพื่อนสาวที่กำลังทำหน้ายับยู่ยี่อยู่ตรงหน้า เธอรู้ว่ามีจริงใจและหวังดีกับเธอ แต่มีเข้าใจผิด เธอคิด

           

            “มี ฟังนะ โรวว์บอกว่าเขากับแคทธรินเป็นเพื่อนกัน”

            มีกลอกตาอีกครั้ง แล้วส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ

            “แล้วเธอก็เชื่อเขาหรอ”

            “ฉันเชื่อเขา แต่ก็กำลังจะหาทางพิสูจน์อยู่”

            “ยังไง” มีถาม

            “ตอนนี้ยังไม่รู้ เมื่อไหร่ที่รู้แล้วจะบอก”

            แอลลิเซ่นยิ้ม แล้วขยิบตาให้เธอหนึ่งที จบบทสนทนา

           

            นาฬิกาบอกเวลาห้าโมงเย็น

            แอลลิเซ่นกลับมาถึงบ้าน เธอก็วิ่งตรงขึ้นไปบนห้อง วางกระเป๋าให้เข้าที่แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินไปเลือกเสื้อผ้าและเดินเข้าห้องน้ำไป

            หลายนาทีต่อมา ขณะที่เธอกำลังเป่าผมอยู่หน้ากระจก ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

            ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

            “แอลลี่ ฉันเอง” อืม แคทธริน

            “เข้ามาเลยจ้าแคท”

            แอลลิเซ่นหันมายิ้ม เธอกำลังจะอ้าปากถามแคทธรินว่าวันนี้เป็นไงบ้าง แต่แล้วก็หยุดกึก เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อเช้า

            “เฮ้ แอลลี่ วันนี้ฉันเห็นเธอนั่งรถไปกับโรวว์แซนนี่”

            “อ๋อ ใช่” แอลลิเซ่นรู้สึกว่ามีเหงื่อผุดขึ้นมาเม็ดหนึ่งบนหน้าผากเธอ

            “เธอสองคนไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่นะ” แคทธรินยิ้มบางๆ

 

            แอลลิเซ่นเล่าอย่างย่อๆ ถึงความเป็นมาที่เธอรู้จักกับโรวว์แซน เธอสังเกตว่า แคทธรินตั้งใจฟังอย่างจริงจัง จนทำให้เธอรู้สึกประหม่า

            “อืม ดีแล้ว โรวว์แซนเขาเป็นคนน่ารักกับทุกคนเสมอ”

            น่ารักกับทุกคนเสมอหรอ แอลลิเซ่นคิด

            “ให้ตายสิ เขาพูดถึงฉันลับหลังว่ายังไงบ้างเนี่ย” เธอโวย

            แอลลิเซ่นจำได้ว่า โรวว์แซนไม่เคยเอ่ยถึงแคทธรินให้เธอได้ยินเลย แต่ถ้าเธอบอกแคทธรินไปอย่างนั้น คงไม่ดีแน่ๆ เธอคิด

            “เอ่อ เขาเล่าว่าครอบครัวของเธอกับเขาสนิทกันมานานแล้ว”

            อืม พูดให้คลุมเครือเข้าไว้ เธอคิด

            แคทธรินพยายามต่อไป

            “อื้ม แล้วเขาก็คงบอกว่าฉันกับเขา เราเป็นเพื่อนกัน ใช่มั้ย”

            แอลลิเซ่นชะงักอยู่ชั่วอึดใจ แล้วค่อยๆ พยักหน้า แคทธรินยิ้ม

            “เขาเป็นคนอย่างนั้นเสมอ เป็นคนไม่ชอบพูดมาก เมื่อก่อนตอนที่เราคบกันใหม่ๆ กว่าที่ใครๆ จะรู้ก็นานพอสมควรนะ ช่วงหลังมานี้เขาเริ่มห่างๆ ไปแต่ก็ยังไม่เห็นจะมีการบอกเลิกหรือบอกลาอะไรทำนองนั้นนะ ไม่รู้สิ”

            แล้วแคทธรินก็ยิ้มกว้างขึ้น แล้วหันหลังเดินออกไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา