Hireko Story เรื่องราวของฮิรีโกะ

6.6

เขียนโดย ShineLove

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 01.32 น.

  12 ตอน
  9 วิจารณ์
  19.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 22.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ความอบอุ่น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

       ต่อจากเรื่องราวตอนที่แม่และฉันสลบไปด้วยกัน.... พอฉันรู้สึกตัวอีกที ก็มาอยู่ในโรงพยาบาลและสถานที่ดูแลผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นแห่งหนึ่งใน สวิตเซอร์แลนด์..ฉันรู้สึกสบสัน กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและใจหายอย่างมาก.เพราะว่าฉัน ไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ได้ ...เมื่อฉันลืมตาขึ้น ฉันค่อยพยุงตัวขึ้นจากเตียงเเล้ว เหลียวมองไปรอบๆ ห้องพยาบาล...ฉันได้แต่คิดในใจ ว่าต้องการจะเห็นแม่ในตอนนี้ ..แต่่แม่ของฉันไม่อยู่ข้างๆฉันอีกเเล้ว.. ฉันยังเก็บความอบอุนนั้นไว้ภายในใจลึกๆของฉัน.. ในใจของฉันไว้อยู่..


หลังจากนั้น พยาบาลก็เข้ามาดูแลฉันในห้อง พยาบาลคนนี้ชื่อว่า 'ชายด์ คิมิโตะ' เธอเป็นพยาบาล คนสวิตเซอร์แลนด์ครึ่งญี่ปุ่น  ชายด์เป็นพยาบาลที่ใจดีคนหนึ่ง เมื่อชายด์เข้ามาในห้องที่ฉันอยู่ตอนนี้เป็นครั้งแรก ฉันและเธอ ก็ได้มีโอกาสที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน.. ชายด์บอกฉันว่า "เธอควรจะเข้มแข็งให้มากขึ้น และเปิดใจยอมรับมัน".. แต่ในเวลานี้ฉันเสียใจมากเลย..ในที่นี่ชายด์บอกว่า มีผู้ป่วยเช่นเดียวกับฉัน ที่ไม่้ต้องการเจอเรื่องแบบนี้...ตอนนี้ชายด์บอกว่า ฉันโชคดีมากที่ไม่เป็นอะไรมากนัก แค่มีไข้เล็กน้อยและหมดสติไปเท่านั้น.. ฉันนึกย้อนกลับไป ถึงภาพที่แสนเจ็บปวดในตอนนั้น.. เเล้วก็นึกย้อนไปอีก ตอนประมาณอายุ 5-6 ปีเท่าที่จำความได้ คุณแม่ของฉันได้มอบสร้อยเส้นหนึ่งแก่ฉัน เป็นสีเทา.. มันห้อยด้วยวัตถุขนาดปานกลาง เป็นทรงกลม ตรงกลางเป็นรูปผู้หญิงผมยาวใส่ชุดยาวชุดเดียว มีปีกอยู่ด้านหลัง แม่บอกว่่า เธอเป็นทูตองค์รักษ์ที่คอยปกปักษ์รักษาคนที่ใส่สร้อยเส้นนี้ เมื่อเกิดเรื่องเดือดร้อน หรือในเวลาที่ลำบาก ทูตองค์นี้ ก็จะออกมาช่วยเหลือเสมอ.. แม่เก็บสร้อยเส้นนี้ไว้นานเประมาณ 5 ปีแม่จึงเอาออกมา เำพราะว่าแม่ไม่ค่อยจะจำเป็นต้องใช้มันมากเท่าไหร่..มันจะทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยขึ้นเวลาที่ใส่มัน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความจริงหรือเปล่า? ฉันคิดอยู่ในใจคนเดียวโดยไม่บอกชายด์ให้รู้

ชายด์นั่งมองฉันด้วยใบหน้าที่กังวลและสงสัย..เเละเรียกฉัน
"ฮิรีโกะ" ฉันเหม่อ.."ฮิรีโกะ" ชายด์เรียกฉันครั้งที่สอง
ฉันตกใจ จึงมองไปที่ชายด์และก็ฝืนยิ้มเล็กน้อยให้กับเธอ "มีอะไรหรอ" ฉันพูด
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" ชายด์ถามฉัน
"ฉันแค่เหม่อลอย " ฉันตอบ
"ถ้ามีเวลาฉันจะเข้ามาหาเธออีก ตอนนี้ฉันดูแลผู้ป่วยคนอื่นเเล้วหล่ะ โชคดีนะ แล้วพบกันใหม่ บาย"
"โชคดีเช่นกันค่ะ บาย" ฉันอำลาเธอ
และแล้วเธอก็ออกจากห้องนี้ไป พร้อมคำอำลาและเสียงประตู..ตึก!

นี่เป็นเวลาเท่าไหร่กันนะ..ฉันมองไปที่เรือนนาฬิกาที่อยู่้ด้านหน้าของฉัน ..ตอนนี้ที่สวิตเซอร์เเลนด์เป็นเวลา  ประมาณ 8 โมงเช้า ... 

ฉันคิดว่า ควรที่จะำไปสูดอากาศสดชื่นข้างนอก..ฉันค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นจากเตียง และก็ค่อยๆเดินไปเปิดประตูห้องพยาบาล  

ตอนนี้ฉันเดินจับไปตามราวกำแพงเพราะรู้สึกเพลียๆ แต่ก็ไม่ค่อยมาก..ฉันเดินลงบันไดไปทีละขั้นสองขั้น สุดท้ายฉันก็ลงมาถึงด้านล่างจนได้ ..ฉันมองไปรอบๆ แล้วก็เจอมุมหนึ่ง ตรงนั้นมีที่ให้ชาวญี่ปุ่นที่ถูกส่งตัวมาที่นี่มาพักผ่อนกัน

พวกเขาดูมีความสุข.. ซึ่งก็ต่างกับฉันในตอนนี้มาก..ฉันค่อยๆเดินไปตรงมุมนั้น และไปนั่งตรงม้านั่งที่ทำจากไม้มีที่พิงตัวด้านหลัง .ตรงนี้มีต้นไม้คอยเป็นร่มเงาให้ชุ่มฉ่ำและเย็น  และคุณสายลม ...มีแสงแดด ที่เป็นความอบอุ่นให้แก่ฉัน ฉันชอบความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้ฉันมีความสุข อยากอยู่แบบนี้นานๆจังเลย  

หลังจากที่ฉันปล่อยตัวและเคลิ้มไปกับสิ่งที่อยู่รอบตัวในตอนนี้ ฉันก็เอามือล้วงและควักสร้อยที่แม่ให้ออกมาและก็จดจ่ออยู่ที่มันซักพัก แล้วคิดในใจว่า "ฉันไม่น่าเอามือควักมันออกมาเลย มันทำลายโลกที่แสนสงบสุขของฉัน" ... 
ฉันย้อนกลับไปนึกถึงภาพอันแสนเจ็บปวดที่เคยผ่านมา มันทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเลย..
และเมื่อมองสร้องเส้นนั้น ก็นึกถึงเรื่องราวของทูตองค์รักษ์นั่น..มันจะเป็นจริงหรือเปล่า? ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ..  
ในตอนนี้..ฉันไม่ควรที่จะกังวลเรื่องเหล่านี้สินะ ใช่เเล้ว ฉันต้องปล่อยวาง และมีความสุขไปกับมันต่างหาก... 

ในตอนนั้นเองฉันก็ได้ยินเสียงแห่งความสุข มีเสียงหัวเราะ ของชาวญี่ปุ่นอยู่ทั้งเด็ก,วัยรุ่น และผู้ใหญ่  เสียงนั้นมันทำให้ฉันยิ้มได้มากขึ้น..

ฉันเดินไป เพื่อทำความรู้จักกับคนกลุ่มนั้น ได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่อกัน ตอนนี้ฉันก็ได้รับรู้เเล้วว่า ยังมีคนที่พบเจอเรื่องราวที่เลวร้ายยิ่งกว่าฉันอีก แต่คนกลุ่มนั้นก็มีความสุขกับการที่ได้ใช้ชีวิต ในอิสระของพวกเขา.. พวกเขาและพวกเธอไม่คิดที่จะมองย้อนไปในอดีต หรือมองไปที่อนาคตเลย คนกลุ่มนั้นมีความสุขกับปัจจุบันของเขา ถึงแม้จะเลวร้ายซักเท่าไหร่.... เรื่องทั้งหมดนี้ ทำให้ฉันถึงกับต้องร้องไห้ .. ฉันประทับใจในความคิด เหตุผลและโลกที่อบอุ่นของพวกเขา  ... 

หลังจากที่ฉันได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดนี้ ทำให้ฉันได้พบเจอ ได้รับรู้อะไรอีกเยอะแยะเลยหละ ตอนนี้ ฉันขอไปเล่นกับพวกเด็กๆก่อนนะ... มาให้ฉันจับซะดีๆ :D

 

http://www.keedkean.com

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา