EXPLOSIVE BAND ระเบิดฝันสู่ดาว

9.7

เขียนโดย Yuren

วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.17 น.

  5 บท
  3 วิจารณ์
  8,397 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บท 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

บท 3

ณ ตอนนี้สันขับรถอยู่บนถนนทางหลวง ซึ่งเป็นทางกลับบ้านของเขา วันนี้เป็น

วันศุกร์ซึ่งตอนดึกๆนั้นรถติดมาก เพราะมันคือวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ทำงาน

หรือเรียนเพราะพรุ้งนี้ก็จะเป็นวันหยุดแล้ว จึงทำให้ผู้คนที่มาทำงานหรือมาเรียน

ในเมืองหลวงส่วนใหญ่ กลับบ้านกันหมด จึงทำให้รถติดเป็เรื่องนธรรมดาไปซะ

แล้ว จึงทำให้ชาวเมืองเรียกวันนี้กันว่า วันรถติดแห่งชาติ ในขณะสันรอ

สัญญาณไฟอยู่นั้นในรถของสันนั้น ก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา กริ้ง กริ้ง กริ้ง  และ

นั้นคือเสียงโทรศัพท์ของสันนั้นเอง “สวัสดีคับ สันพูดสายอยู่คับ”  

“สันนี้ฉันเองย่ะ” และเจ้าของของเสียงนี้ก็คือกวางนั้นเอง

“ออ ยัยกวางเองหรอ มีอะไรละ”  

“ไม่มีอะไรหรอกแค่โทรมาถามว่านายถึงบ้านยัง” 

“ยังไม่ถึง รถมันติดอยู่ คงอีกนานนั้นแหละ”  "อุ๋ยจริง! น่าสงสารจัง อิอิ"

"ชิ ฉันละกลัวรถเธอจะมาพังตอนนี้เหลือเกิน"  

"ฮาๆๆ ไม่พังหรอกน่า ถ้าเกิดพังจริงๆนายก็แก้ปัญหาเอาเองละกันนะ โทรมา

แค่นี้แหละ บาย เออ..ถ้าถึงบ้านโทรมาด้วย"   "เฮ้ย กวางเดี่ยวก่อนดิ เฮ้ย"

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด  "นั้น คิดจะว่างก็ว่างดูมันเฮ้อ…. โดนยัยบ้านี้หาเรื่องซวยๆให้อีกจน

ได้ ขออย่าให้มันพังเลย

และสันก็ ค่อยๆขับรถไปตามเส้นทางของรถที่ติด จนหลุดพ้นออกมาและสันก็

ขับรถต่อมาเรื่อยๆจนมาถึงบ้าน

"เฮ้อ!กว่าจะหลุดออกมาจากทางรถติดได้นี้ นึกว่ารถยัยกวางจะพังก่อนซะแล้ว

อีก" สันถอดหายใจยาวๆและบ่นกับตัวเองเบาๆ

ขณะนี้เป็นเวลา  20.00 น. สันก็ได้เดินทางมาถึงบ้านพอถึงบ้านสันก็ขับรถ

อย่างช้าๆเข้าไปจอดข้างในบ้านซึ่งมีที่ที่สามารถจอดรถได้ 10 คัน  และสันก็

ค่อยๆเปิดประตูเบาๆเพื่อลงมาจากรถ เพราะสันคงรู้ดีว่า ถ้าเกิดเปิดแรงแล้วมัน

ไปกระแทกกับอะไรเข้า แล้วรถของกวางเป็นรอย สันคงรู้ว่ามันจะเกิด

เหตุการณ์อะไรขึ้นกับตัวเขา หลังจากสันลงมาจากรถ สันก็ได้ยินเสียงหนึ่งถาม

ขึ้นมา "นั้นใครนะ" เสียงนั้นคือเสียงแม่ของสันเอง  "สันเองแม่"และสันเดิน

เข้าไปหาแม่ที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูเข้าบ้าน"เอารถใครมานะลูกเก่าถูกใจแม่ดีจัง" 

"ออ รถยัยกวางนะคับแม่"  "อ้าว แล้วรถของสันละลูก"  

"ออ สันไม่ได้เอารถไป"  "ทำไมไม่เอารถไปละลูก" แม่ถามด้วเสียงอยากรู้  

"อย่าให้เล่าเลยแม่ถ้าเล่าเดี๋ยววันนี้จะไม่ได้กินข้าวกันนะ ช่างมันเถอะคับ" สัน

พุดแล้วเดินยิ้มเข้าไปโอบเอวแม่ "จ๊ะๆ ปะเขาบ้านกันเถอะลูก"  

หลังจากสันและแม่พูดคุยสนทนากันเสร็จ ก็เดินเข้าไปในบ้าน 

"แม่ทำกับข้าวยังคับ ผมเริ่มจะหิวแล้ว"  

"แม่ทำไว้แล้วจ๊ะ อยู่บนโต๊ะอาหารน่ะไปกินกันเลยดีกว่า"  สันและแม่ก็เดิน

เข้าไปในห้องรับประทานอาหารซึ่งอยู่ชั้นล่างของบ้าน บ้านของสั้นนั้นมีสอง

ชั้น ซึ่งบ้านของสันนั้นมีฐานะทางการเงินที่ดี พ่อของสันนั้นทำงานเป็น

ผ.อ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในตัวเมือง เลยทำให้พ่อของสันไม่ค่อยมี

เวลาว่างให้กับครอบครัวเท่าไร แต่มันไม่ทำให้มีผลกระทบอะไรกับสันเลย

เพราะสันยังมีแม่ที่แสนดีค่อยดูแลสันอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้สันเขาเข้าใจในตัวพ่อ

ของเขาเองแม่ของสันนั้นเป็นทนายความซึ่งจะค่อยช่วยเหลือว่าความให้คนจน

ที่ถูกเอาลัดเอาเปรียบโดยไม่คิดค่าตอบแทนอะไรทั้งนั้น เลยทำให้แม่ของสัน

เป็นที่รักของพวกชาวบ้าน ซึ่งฐานะของบ้านสันแตกต่างกับฐานะของบ้านกวาง

อย่างสินเชิง แต่ก่อนบ้านของกวางมีฐานะปานกลาง ก่อนที่พ่อของกวางจะเสีย

บ้านของกวางนั้นเคยเป็นค่ายมวยชื่อดังมาก่อนมาก่อนเลยทำให้กวาง ออกแนว

ลุยๆ ห้าวๆ แต่พอพ่อของกวางเสียไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้น

เมื่อ 6 ปีที่แล้ว จึงทำให้ค่ายมวยปิดตัวลงเพราะไม่มีใครสามารถบริหารกิจการ

ต่อได้ หลังจากพ่อกวางเสียไปก็ทำให้ฐานะของครอบครัวกวางแย่ลงเรื่อยๆ

เพราะไม่มีเสาหลักของครอบครัวอย่างพ่อค่อยหาเงินมาจุนเจื้อครอบครัว

แต่ด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัวของสันทำให้ครอบครัวของกวางค่อยๆมี

ชีวิตที่ดีขึ้น กวางและสันนั้นรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วจึงทำให้เขาทั้งสองสนิทกัน

มาก และหลังจากสันได้รู้ว่าพ่อของกวางเสีย ตอนนั้นกวางอายุประมาณ 17

ส่วนสันอายุ 18 ปี สันได้ไปข้อร้องแม่และพ่อขอให้ช่วยเหลือครอบครัวของ

กวาง พ่อแม่ของสันจึงช่วยเปิดร้านขายของช่ำให้กับครอบครัวของกวาง 

จึงทำให้ครอบครัวของกวางสามารถเริ่มดูแลตัวเองได้

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  กลับมา ณ ห้องอาหารซึ่งสันและแม่กำลังนั้งรับ

ประทานอาหารกันอยู่  "แม่คับวันนี้พ่อไม่กลับมากินข้าวที่บ้านหรอคับ"

สันถามขึ้นถึงพ่อพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้องอาหาร 

"วันนี้พ่อเขามีคิวต้องผ่าตัดนะน่ะจ๊ะคงจะกินอาหารที่โรงพยาบาลนั้นแหละจ๊ะ"  

"หรอคับ" สันพูดขึ้นด้วยหน้าตาเศร้าๆ 

"ครอบครัวเราไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันนานแล้วนะคับ"              

"ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอกจ๊ะ ถ้าพรุ้งนี้พ่อเขาไม่กลับมากินข้าวบ้านนะ แม่จะ

ไปตามตัวพ่อเขาให้กลับมากินข้าวที่บ้านให้ได้เลยแม่ขอสัญญาเลยจ๊ะ"  

คุณแม่พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ทำให้คุณแม่ดูอบอุ่นมากเลย เพราะคุณแม่

เป็นอย่างนี้ไงจึงทำให้ผมรู้สึกมีความสุขและอบอุ่นเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณแม่

"เออ….แม่คับทำไมพ่อต้องทำงานหนักขนาดนี้ด้วยละคับ ทั้งๆที่ครอบครัวเราก็

มีฐานะที่ดีแล้วนะคับ"  "รอให้สันโตเดี่ยวสักวันสันก็รู้เองแหละจ๊ะ อะนี้มะเขือ

เทศที่ลูกชอบกินเยอะๆนะจ๊ะ" "คับ ขอบคุณมากคับ"

สักวันเดี่ยวเราก็รู้เองหรอ…

แม่เรานี้ชอบพูดให้เราสงสัยแล้วให้ไปคิดเองตลอดเลยอะ เอาเถอะ สักวันเดี่ยว

เราก็รู้เองนั้นแหละ  และการกินอาหารของสองแม่ลูกก็ดำเนินต่อไปจนถึงเวลา

21.03 น. "อิ่มแล้วหรอลูก" "อิ่มแล้วคับ"

"งั้นผมขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อนนะคับ"  "จ๊ะ อย่าลืมอาบน้ำนะลูก"แม่เตือนสัน

ด้วยความเป้นห่วงเพราะรู้ว่าเวลาสันง่วงที่ไรพอถึงเตียงนอนก็จะหลับทันที่โดย

ไม่คิดอะไรทั้งนั้น "คับแม่" พอสันพูดจบสันก็กำลังจะเดินขึ้นไปบนห้อง และสัน

ก็เอะใจขึ้นและหันมาพูดกับแม่ว่า "แม่ครับ!ถ้าพ่อกลับมาฝากบอกสวัสดีพ่อเขา

ด้วยนะคับ" "ได้เลยจ๊ะลูก" แม่ตอบและยิ้มให้กับสัน "ฝันดีคับผมรักแม่นะคับ"

"ฝันดีจ๊ะแม่ก็รักลูกเหมือนจ๊ะ"  "ผมไปละคับ"  หลังจากกินอาหารและได้พูด

คุยกับแม่เสร็จ สันจึงรีบเดินขึ้นไปบนห้องที่อยู่ชั้นสองอย่างเร่งรีบ พอถึงห้อง

สันก็รีบหยิบโทรและศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรไปหากวาง ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด

ตื๊ด พึ๊บ "ฮัลโหล" เสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาและนั้นก็เป็นเสียงของยัยกวางนั้นเอง

"โทษทีที่โทรมาช้าพึงกินข้าวเสร็จเลยโทรมาช้าหน่อย" สันพูดด้วยน้ำเสียง

เหนื่อย หอบ  "อืมไม่เป็นไรถึงบ้านปลอดภัยดีใช้ไหม" กวางถามขึ้นด้วยน้ำ

เสียงเป็นห่วง "ถามแปลกๆนะเธอถ้าฉันไม่ถึงบ้านปลอดภัยคงไม่โทรมาหาเธอ

อย่างนี้หรอกยัยบ้า ฮาๆ"  "คนเขาอุสาเป็นห่วงดันตอบกวนบาทาอีก ชิ เดี่ยว

แม่ปัดซัดให้ลอยละลิ้วเลยเดี้ย" กวางพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ 

"โอ้ๆ ใจเย็นๆน่าล้อเล่น ล้อเล่น"  "อืม ว่าแต่รถฉันเป็นไงบ้าง"

"ออ รถก็เป็นรถเหมือนเดิม มีล้อ มีเครื่อง พวงมาลัยเหมือนเดิม ไม่มีขา

ไม่มีหางงอกออกมาเพิ่มน่ะ"  

"หะ>>>> นายพูดว่าไงน้า>>>>" กวางพูดด้วยเสียงนางมารแบบที่พร้อม

จะเชือดสันได้ตลอดเวลาถ้าพูดอะไรไม่เข้าหูเธออีก 

"อะ อะ เออ  มะ มะ ไม่..มีอะไรจ๊ะ" สันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ 

"อืม..ดีมาก หึหึ"  "อึ๋ย ยัยนี้มันนางมารชัดๆ เกือบตายแล้วซิเรา เฮ้อ"สั้นพูด

ในใจพร้อมกับถอนหายใจยาวๆออกมาแบบเบาๆ  

"เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าสัน ที่ฉันให้นายโทรมาเนี้ย" "เพราะว่าโทรศัพท์เธอ

ไม่มีตัง" สันพูดขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกวนบาทา "อะไรนะ>>>>>>>"

"ปะ ปะ ป่าว แค่พูดแซวเล่นเฉยๆ"สันพูดด้วยน้ำเสียงสั้นๆ

"เอาดีๆละนะที่ฉันให้นายดทรมาเนี้ยฉันกะจะว่าจะมาคุยเรื่องที่เราคุยกันค้างไว้

ที่ร้านอาหารนะ นายจะยังเอาไงเกี่ยวกับเรื่องวง นายต้องการตั้งวงดนตรีจริงๆ

ใช้ไหม ถ้านายตอบว่าไม่นายเจอดีแน่" กวางถามแบบไม่มีทางให้สันเลือกคำ

ตอบได้เลย  "เออ…ถ้าเธอจะถามอย่างนี้ เธอบอกฉันให้ทำเลยดีกว่ามั้ง"

สันพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน "เอ้า จะตอบได้ยังนายท่าน"

"ถ้าเราตอบว่าไม่เราโดนยัยนั้นฆ่าแน่เลย เราไม่น่าบอกยัยนั้นเลยว่าเราอยาก

เป็นนักดนตรี เอาวะ เป็นไงเป็นกันลองเชื่อมันในตัวใยนั้นดูสักครั้งมันจะเป็น

อะไรไป" ที่ผมคิดอย่างนี้ไม่ใช้ผมไม่เชื่อใจยัยนั้นหรอกนะ แต่ผมคิดว่าผมยัง

ไม่พร้อมที่จะเดินทางบนเส้นทาง เส้นทางนี้ ถ้าพลาดอะไรขึ้นมามันอาจจะ

ทำให้ชีวิตนักดนตรี ที่ผมไฝ่ฝันมาตลอดชีวิตอาจต้องพังลงไปเลยก็ได้

และการตัดสินใจต่อไปจากนี้ก็คือ การตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก

หนุ่มคนหนึ่ง ที่มันอาจทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย

ก็ได้  "นี้นายจะเงียบไปถึงไหน" กวางพูดเร่งสันด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ

"เออ…อืม ใช้ฉันคิดจะตั้งวงดนตรีจริงๆ ทำไมหรอเธอจะช่วยฉันหรอ" 

สันพูดตอบและถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ  

"อืมก็ใช้นะสิถ้าฉันไม่ช่วยนายแล้วใครมันจะช่วยละ" กวางพูดด้วยน้ำเสียงที่ดู

สดใสต่างกับสันที่กำลังเครียดว่า สิ่งที่เขานั้นทำลงไปนั้นดีแล้วหรือ ?  

"แล้วเธอจะช่วยฉันยังไงละ?"  "นี้นายเครียดอะไรรึป่าวสัน" กวางพูดถามด้วย

น้ำเสียงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นห่วงสันมากๆ  

"นี้กวางที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ฉันไม่ได้ดูถูกเธอนะ แต่ฉันคิดว่าถ้าเกิดลอง

ทำลงไปตอนนี้มันจะดีหรอ ถ้าทุกอย่างมันพังมันล้มกลางทางแล้วความฝันของ

ฉันมันจะเป็นยังไงละ" สันพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดมาก "สัน มันก็ไม่แปลก

หรอกนะที่นายจะไม่เชื่อหมั้นในตัวของฉัน เพราะฉันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่มาจากไหน

ที่จะสามารถทำให้นาย ก้าวเดินเพียงแค่ก้าวเดี่ยวแล้วทำให้นายไปถึงความฝัน

ของนายได้เลย แต่ที่ฉันทำได้ก็คือยืนอยู่ข้างนายคอยให้กำลังใจนายถ้านาย

หมดแรง ท้อ หมดความพยายาม ฉันก็จะเป็นคนที่ฉุดนายขึ้นมาและทำให้นายสู้

อีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าหากผู้นำยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งมันยังไม่เริ่มต้นอะไรเลยสัก

อย่างแล้วผู้ช่วยอย่างฉันมันจะทำอะไรได้ละ ฉันไม่ขอให้นายเชื่อหมั้นในฉัน

หรอก แต่ฉันจะขอให้เวลามันเป็นตัวพิสูจน์ ทั้งความสามารถของฉันและนาย

ว่ามันจะไปได้ขนาดไหน ถ้าเกิดล้มกลางทางก็เริ่มใหม่ ก็เหมือนที่หลายๆคน

เคยพูดกันนั้นแหละ คนเราเกิดมาเพื่อล้มแล้วก็เรียนรู้ในสิ่งที่พลาด และถ้านาย

รู้ว่าตั้งวงขึ้นมาแล้วสักวันมันก็ต้องล้มมันก็ต้องจบกันไป ถ้าอย่างงั้นนายจะ

หายใจทำไมละ ทั้งๆที่รู้ว่าอนาคตไม่วันไหนสักวันเราก็ต้องตายอยู่ดีนะ

ความฝันนะไม่ใช้มีไว้ชนะ แต่ความฝันนะมันมีไว้ให้แพ้ต่างหาก

เราคิดว่าคำว่าแพ้นะมันน่าจะเป็นตัวนำเราไปสู่ความสำเร็จมากว่าคำว่าชนะนะ

คนที่ชนะมาตลอดสุดท้ายก็มาจบที่คำว่าแพ้ แต่คนที่แพ้นะสิแพ้มาตลอดแต่

สุดท้ายแล้วไง ก็มาจบตรงลงตรงที่คำว่าชนะ เพราะคนที่แพ้มาเยอะภูมิต้าน

ท้านก็จะเยอะ ส่วนที่ชนะตลอดนะไม่มีภูมิต้านทานความพ่ายแพ้หรอก

ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งแพ้ขึ้นมาคนที่เคยชนะมาตลอด คงจะไม่มีทางออกมาจาก

คำว่าพ่ายแพ้ได้หรอก นายพร้อมจะให้ฉันเดิมตามนายไปไหม" 

คำพูดทั้งหมดที่กวางพูดออกมานี้ทำให้สันเริ่มคิดได้ ว่าถ้าไม่แพ้ก็ไม่รู้จักคำว่า

ชนะ คนที่เริ่มมาปับแล้วมารู้จักกับคำว่าชนะเลยมักจะจบด้วยคำว่าแพ้เสมอ 

"โอเค เธอตามฉันมาให้ทันละ" สันพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและมีพลังจน

ทำให้กวางสามารถรู้สึกได้เลยว่าสันเริ่มจะเอาจริงเอาจังกับชีวิต และความฝัน

ของตัวเองขึ้นมาแล้ว  "อืม ฉันตามนายทันอยู่แล้วแหละน่า" กวางพูดด้วยเสียง

ที่ฟังก็รู้ว่ากำลังยิ้มอย่างมีความสุขอยู่

"กวางฉันขอบคุณเธอมากๆนะที่ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ถ้าเธอไม่พูดอย่างนี้ฉันคงจะ

อยู่เฉยๆ รอให้ความฝันมันวิ่งมาหาเองโดยที่ไม่ยอมออกไปวิ่งตามหาฝันด้วย

ตัวเอง"  สันพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังที่พร้อมจะเผชิญกับทุกๆอย่างที่

คอยขว้างเส้นทาง "ฉันพร้อมแล้ว เราจะเริ่มกันวันไหนดี" "พรุ้งนี้เลยละกัน"

กวางตอบสัน "เออ!สันเธอต้องทำอะไรเป็นอันดับแรก  

"มันแน่นอนอยู่แล้วสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ รวมวงหาคนมาเล่นให้ครบไงละ"

สันพูดด้วยน้ำเสียงอันแน่วแน่และมุ่งหมั้น 

"เธอช่วยฉันหาได้ไหมกวาง"  "ได้อยู่แล้ว งั้นพรุ่งนี้เราไปเริ่มหากันเลย" 

กวางตอบกลับแบบมั้นใจสุดๆ  "แล้วเราจะไปหากันที่ไหนละ"

สันถามด้วยความสงสัย  "ก็ที่มหาลัยฉันไงละ ฉันมีคนที่ฉันหมายหัวไว้แล้ว"

 

ซึ้งไหมละ ฮาๆๆ ถ้าชอบปรบมือๆๆ แปะๆๆๆๆ By Yuren(betllove)

 
 
          

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา