ฟัดหอคอยปฏิวัติโลกอนาคต Ar Tonelico : The R-evolution
เขียนโดย Paraluna
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 07.06 น.
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 07.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) วันสบายๆ ของพงศ์เทพ พาต 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฮ๊าว~~~~ ผมตืนขึ้นมาตอนบ่ายแก่ๆ ในวันหนึ่ง -*- มันก็เหมือนเดิมเหมือนทุกๆวัน
อาบน้ำ แปรงฟัน -.- แล้วที่สำคัญขาดไม่ได้ ฉี่ อ้า~~ สบายตัวจัง ผมไม่ชอบทาแป้ง
มันเหมือนคลุกฝุ่นยังไงก็ไม่รู้ แล้วผมก็ แต่ตัวชุดพนักงานร้านสะดวกซื้อแล้วก็เดินทางไปทำงาน
เมื่อผมได้ย้างเยื่องออกมาจากบ้านก็ได้ยินเสียง แรกตวาดมาจากห้องของพ่อผม
"เฮ๊ย นี่มันกี่โมงแล้วเดี๋ยวเค้าก็ไล่มึงออกหรอก" ผมในสภาพสลึมสลืสะดุงด้วยความตกใจ
แล้วดูนาฬิกาข้อมือ -*- แล้วอุทานแบบ ตุ๊ด ว่า "อุ๊ยตายว๊ายกรีด!!!ใบเตือนชัวอ๊าก....."
แล้วผมก็รีบวิ่งไปขึ้นวิน ยานไอพ่นโดยไว (-.- คล้ายๆมอไซแต่ใช้ระบบไอพ่น)
คนขับยานไอพ่น พอกว่า "รีบมั้ยไอ่น้อง" ผมทำสีหน้า ส่งซิกว่ารีบ คนขับ ซิ่งเต็มสปีด
ยานพุ่งปรูดด้วยความเร็วชนิดข้ามหลังคาบ้าน วิ่งเป็นเส้นตรง โอ้ววว *0* ถึงร้านที่ผม
ทำงานอยุ่โดยใช้เวลาแค่ 3 นาที เหมือนต้มมาม่า -*- ปกติจะเดินทางด้วยระยะเวลา 10 นาที
ย่นเวลาไปเยอะ ถ้าใช้คนขับรีบ แต่เสี่ยงโดนตำรวจจับ ผมเลยต้องเสียค่ารถถึงสองเท่า
ปกติก็ไม่ได้ไปทำงานสายทุกวันหรอกครับ ถ้าไปสายทุกวัน มีหวังไม่มีตังกินข้าวแน่ๆ
ไม่ใช่เพราะโดนไล่ออกนะ หากแต่เพราะคนขับยานไอพ่นมันเก็บค่าส่ง สองเท่า -*-
เพื่อผมเดินเข้ามาในร้านเพื่อเข้ากะ ที่ผมทำงานเสียงแรกที่มาต้อนรับเลย
"กรีด---- พี่นัท มาสายอีกแล้ว" ไม่ต้องบอกกูก็รู้อีดอก -*- ผมได้แต่คิดในใจด่ามัน
สาวน้อยคนนี้ที่ทักผมคนแรกเธอก็ทำงานที่เดียวกับผมแหละ เธอชื่อ พัชรีย์ มีแฟนแล้ว
แล้วผมก็ไม่ค่อยชอบนิสัยตรงที่มันเป็นคนตรงเกินไป ตรงขนาด หน้าอกยังเป็นแผ่นไม้กระดาน
ผมได้แต่คิดในใจ -*- ใครเป็นแฟนมันต้องเป็นยอดมนุษย์เป็นแน่แท้ เมื่อผมกำลังเดิน
เข้าไปตอกบัตร จู่ๆก็มีใบขาวๆลอยมา วิ้ววววว นั่นไงนรกมาเยื่อมันคือใบเตือน *0*
"เอ้าเซ็นซะ รอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย"ผู้จัดการบอกผม ผมก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเซ็น -.-
ผมก็เซ็นด้วยความเซ็ง -.-
"เอาไปให้พยานเซ็นด้วย"
ผู้จัดการบอกผม ผมรู้ทันทีว่าต้องเอาไปให้ยัยนั่นเซ็นแน่ๆก็เหมือนทุกทีที่ผมมาสาย
(ท่าจะบ่อย) ผมก็เอาไปให้ ยัยนั่น(พัชรีย์)เซ็นพยาน มันทำหน้าทำตาเหมือนสะใจ
ที่ได้ยำยีคนทำผิดใช่สิตูมันผิดหนิ ยำยีซะให้พอใจแต่เธอก็เปลี่ยนสีหน้า
ไปจากปกติแล้วบอกกับผมว่า
"พี่นัทมาให้เร็วๆกว่านี้หน่อยสิจะได้ไม่โดนใบเตือน"
ผมก็อึ้งพูดอะไรไม่ออก ปกติไม่ใช่แบบนี้หนิทำไมรอบนี้มาแปลก
ปกติจะหัวเราะคิกคัก เหมือนมีอะไรที่กังวลอยู่ในใจ คงจะไม่ได้เกี่ยวกับผมแน่ๆ
ชัว พัน เปอร์เซ็นต์ แล้วผมก็ตอบกลับไปว่า
" เออ เดวพี่จะมาเร็ว นับแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป"
แล้วผมก็เริ่มทำงานเหมือนปกติที่ทำอยู่ -.- คนร่างกายกำยำแบบผม แน่นอนผมต้องทำ
งานหนักๆ แน่นอน ใช่แล้วงานของผมคือ ยืนเป็นแคชเชียขายของให้ลูกค้า ฮ๊าๆๆ
อย่าคิดว่าเป็นงานสบายนะมันหนักเอาการทีเดียว ไหนจะต้องทักทายต้อนรับลุกค้า
ไหนจะต้องมาโดนลูกค้าที่เข้าคิวเยอะๆมาด่า
"เอ๊ยเร็วๆหน่อยดิมัวแต่ฝอยอยู่ได้"
"ครั้บพี่รอแป๊ปนะครับเดี่ยวผมเรียกน้องมาขายช่วย"
พอลุกค้าเยอะ ผมก็ต้องกดกรี่งเรียกยัยนั่นมามาช่วยขาย
เพื่อเป็นการพึงพอใจของท่านลุกค้า -.- แล้วจู่ ๆ ก็มีแม่ลูกคู่หนึ่ง
วิ่งเข้ามาในร้าน แบบตาลีตาเหลือก ผมก็ตกใจ ไม่ทันไรก็มีเสียง
รถตำรวจก็ดังอยู่หน้าร้าน มาแบบหลายคันด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ผมเลยออกมา
นอกเครืองแคชเชีย แล้วมาถามตำรวจว่า
"เกิดอะไรขึ้นครับพี่"
ตำรวจก็ถามผมกลับ
"น้องเห็น สองแม่ลูกวิ่งเข้ามาในร้านรึเปล่า มีเด็กติดเชื่อโรคปานมรณะ พวกพี่มาจับเด็กคนนั้น"
ผมก็นิ่งไปซักพัก ด้วยความอื้ง ตะลึง ไม่ใช่ว่ากลัวโรครอยปานมรณะนั่นหรอก
แต่ด้วยว่าทำไมต้องมาที่ร้านที่ตูทำงานด้วยฟระ T-T ผมก็บอกกับเบล
"เบล เคลียลุกค้าด้วย แล้วก็คุมเชิงถ่วงเวลาตำรวจไว้"
ยัยเบลทำสีหน้าไม่พอใจแล้วตวาดผมว่า
"พี่นัท หนูไม่ใช่เมียพี่นะอย่ามาสั่งหนูน๊ะ"
สราด อยากด่ามันจริงๆ แต่น้องผมก็คุมเชิงอยุ่ด้านนอก ผมก็เดินเข้าไปหาสองแม่ลุก
ซึ่งกำลังหลบพวกตำรวจอยู่ในร้าน แล้วเข้าไปบอกว่า
"มอบเด็กคนนั้นให้รัฐดูแลนะครับครับ"
แต่คนที่เป็นแม่ จะไปยอมห่างจากลูกได้อย่าไรตอบกลับมาด้วยน้ำตาใส่ผมอย่างแรง T-T
"นี่เป็นลุกสาวคนเดียวของฉัน ฉันไม่ยอมให้ใครมาพรากลูกฉันไปเด็ดขาด"
แต่ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้กล่อมต่อตามแบบสันติวิธี ท่านผู้จัดการสุดโหดของผม ที่ซุ่มอยู่
หลังร้านก็ออกมาตะโกนซะดังว่า
"แม่ลุกทั้งคู่อยู่ตรงนี้ คุณตำรวจเข้ามาเลย"
ชิบหายและยัยเบลก็กำลังฝอยกับตำรวจ อยู่ แต่เมื่อตำรวจได้ยินเสียง
ผู้จัดการผมตะโกนเท่านั้นแหละ แห่กันเข้ามาเป็นสิบ แล้วก็จับลูก
ของแม่คนนั้นไว้ ฉุดมาดื้อๆ คนเป็นลูกก็ร้องไห้ตะโกนว่า
"แม่ช่วยหนูด้วยหนูไม่อยากไป แม่......!!!!"
คนเป็นแม่ก็ไม่ยอมแพ้
"ปล่อยลูกฉันมานะไอ่พวกชาติหมา ฮือๆๆๆ"
แม่คนนี้นี่ด่าเจ็บจริงๆ -*- แต่ว่าไม่ทันที่พวกตำรวจจะก้าวประตูออกจาก
ร้านก็มีลูกบอลพลังลูกใหญ่ พุ่งมาซัดใส่พวกตำรวจเข้าอย่างจัง ตู้มมมม!!!! ผมก็มองไปที่
ยัยเบล ซึ่งกำลังร่ายมนต์เพลงชุดที่สอง *0* (ลูกแรกก็มาจากยัยเบล) "เอ๊ยเบลใจเย้นๆ"
ผมบอกกับน้องที่กำลังทนการกระทำของพวกตำรวจไม่ไหว แล้วยัยนั่นก็ตอบกลับมา
แบบทิ่มแทงจิตใจของลูกผู้ชายเป็นอันมาก
"พี่ทนได้เหรอที่เห็นแม่ลูกกำลังถูกพรากจากกัน"
จะว่าไปผม เออ -*- จะว่ายังไงดีละ มันก็.......
"ใครมันจะไปทนได้ละโว้ย.....!!!!!!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ