I'm not your playmate : กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงครับ!
8.4
19) 17 - Father...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ17
Father… พ่อ !?
ในที่สุดวันสุดท้ายของอาทิตย์นี้ซึ่งก็คือวันศุกร์ คาบบ่ายก็เริ่มขึ้น…
ส่วนเรื่องของเมื่อวานนี้ หลังจากที่คิงมันไปกันน้องมิ้นท์ ผมก็ไข้ขึ้นเลยขออาจารย์กลับบ้านไปก่อน... (นนท์เป็นคนพาผมไปส่งตอนพักกลางวัน แล้วกลับไปเรียนต่อตอนบ่าย) เรื่องนี้มันค่อนข้างอึดอัดสำหรับผมนิดหน่อยนะ แล้วผมก็ไม่ได้คุยกับมันเลย (เพราะผมไม่ให้มันเข้าห้องด้วยนั่นแหละ)
ยังไงก็... เอ่อ.... ช่างมันเถอะ
เอาเป็นว่ายังดีหน่อยที่คาบสุดท้ายของวันศุกร์บ่ายนี้เป็นคาบดนตรี พวกผมก็เก็บของ ตั้งแถวเดินมาที่ห้องดนตรีชั้นสอง ตึกกิจกรรม ภาคปฏิบัติวันนี้เห็นว่า’จารย์จะสุ่มเลขที่ออกมาเล่นดนตรีด้วย... เรื่องนี้น่ะ ไม่ใช่ตัวเองก็พอใจแล้วล่ะนะ
“เอาล่ะนะ วันนี้คนที่ได้เป็นผู้โชคดีคือ... หมายเลข... 17”
“17 ไม่มาค่า” ใครสักคนตอบ
“งั้นหมายเลข... 30”
“...”
30... คุ้นๆแหะ... ผมหันไปมองนนท์ที่นั่งเหวออยู่ข้างๆ
“30!”
“คร้าบ...” นนท์ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินไปเลือกกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลอ่อนออกมา “ผมเอากีต้าร์น้า”
“เอาเถอะๆ”
นนท์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลับตาทำสมาธิ... แล้วเริ่มร้องเพลงออกมา เท่าที่จำได้ มันเป็นคนที่เล่นดนตรีเก่ง แล้วก็ร้องเพลงเพราะด้วย
~ เธอจะรู้ไหม ฉันมีของจะเซอร์ไพรซ์ ฉันแอบเขียนเพลงไว้ให้เธอ เพลงที่แต่งมา จากทั้งหัวใจ ~
เฮ~! แปะๆๆ!!
แค่เสียงเพลงเริ่ม เสียงปรบมือทั่วห้องดังขึ้น นนท์ที่เล่นกีต้าร์โปร่งอยู่ด้านบนที่นั่ง แล้วหันมาส่งยิ้มมาทางผม เออ~ ไอ้พ่อศิลปินใหญ่...
ผมส่งกระแสจิตตอบโต้กับมันทางสายตา โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนนั่งจ้องอยู่อีกด้านนึง
~ เพลงที่รอเธอมาร้องด้วยกัน และจับมือใต้แสงตะวัน เมื่อกลับมาพบกันจะเปิดมันให้ฟัง ~
“เพลงนี้... ผมร้องให้ ‘เพื่อน’ ผมคนหนึ่งน่ะครับ”
ท่อนที่เป็นทำนอง ไม่มีบทร้อง นนท์ก็พูดแทรกขึ้นมา แล้วผมก็เผอิญสบตาที่มองตรงมายังผมได้พอดี... ความหมายลึกๆในดวงตาคู่นั้นทำให้ผมหลบสายตาไป ลมหายใจสะดุดขาดช่วง... เหมือนผมจะรู้สึกอะไรสักอย่างจากสายตานั่น แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
~ เขียน เพลงทุกเพลงที่มีไว้ให้เธอ ขอ เก็บทุกวันที่มีไว้ให้เธอ เพลงนี้ดีไซน์เพื่อใคร ตอบได้ว่าคือเธอ... ~ ( เพลงของเธอ : Split )
“เพราะจังๆ” เสียงคนด้านหน้าพูด... ( เสียอย่างเดียว นนท์คงหล่อสู่ โซ่xนิว ของไรท์ไม่ได้หรอก ฮ่าๆ : ไรท์ ) ...ผมก็ว่างั้นแหละ = =
“ดีมากๆ ลงมาได้แล้วนนทวัช มีใครจะอาสาเป็นคู่แข่งนนท์บ้างมั้ยล่ะ”
กริบ... อยากบอกว่าเงียบกริบกันทั้งห้องเลยทีเดียว เหอๆ
ผมหันไปมองคิงแล้วกระเถิบไปใกล้ๆ พร้อมเอาศอกกระทุ้ง บุ้ยใบ้ให้มันออกไปบ้าง แต่มันทำเฉย และถ้ามองไม่ผิด มันกำลังทำสายตา... ค้อน?
เหอๆ ค้อน? ไม่หรอกมั้ง?
“เป็นไง เพราะมั้ย?”
“มากๆ” ผมตอบพร้อมกอดคอนนท์โคลงเคลงไปมา แล้วหัวเราะกันเบาๆ
ชั่วโมงนี้ทั้งคาบมีคนโดนเรียกออกไปอีก 6-7 คน แต่ทั้งหมดนั้น... ไม่มีผมคร้าบ~ เป็นผู้หญิงส่วนมาก ก็ผู้หญิงมันมีมากกว่าชายตั้ง 2 เท่าเลยนี่นะ
ความจริงแอบภาวนาให้โดนเลขที่ไอ้คิง แต่สุดท้ายก็ไม่โดนแฮะ น่าเสียดายๆ!
หมดคาบพวกผมก็ต้องเดินไปเอากระเป๋าแล้วก็ค่อยกลับบ้าน... ถ้าผมยังไม่สบายไข้ขึ้นเหมือนเมื่อวานคงดีแล้วแท้ๆ จะได้ไม่ต้องมาโรงเรียน
“เออ ใช่! วันนี้มึงมีนัดใช่ป่ะ?”
“อือ กับพ่อน่ะ”
“อ้อ งั้นไปเลยป่ะ? โชคดีๆ”
“ยัง! รีบไล่ไปไหนว่ะ?”
“เอ้า! ฮ่าๆ” ผมขำกับท่าทางกรอกตาของมัน
“เก้า...” ผมส่งสายตากลับไปถามมัน “...ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”
“ไปกับมึงอ่ะนะ?”
“อือ”
“ไปหาพ่อมึงอ่ะนะ”
“ใช่” เท่านั้นแหละ ผมส่ายหน้าเต็มที่ ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากต้องเกร็ง ได้ข่าวว่าพ่อมันเป็นหมอศัลย์ แถมยังเนี้ยบเว่อร์ ไม่เอาอ่ะ
“น่าๆ ไปแปบเดียวๆ ไปเอาของที่พ่ออ่ะ”
“แล้วนัด?”
“ก็นัดพ่อไง เมื่อกี้ก็บอกไปล่ะ”
“นึกว่าแกล้งว่ะ โทษๆ”
“แล้วไง?” ผมมองหน้ามัน มันช่วยผมมาตั้งเยอะแล้วนี่เนอะ
“งั้น... ก็ได้” นนท์นิ่งไป เหมือนตกตะลึงแกมไม่เชื่อ
“ห้ะ? อะไรนะ?”
“ไปเด้ นัดกันที่ไหน ไปเลยๆๆ”
นนท์เบิกตากว้าง ก่อนค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างแทน ดีใจไปถึงไหนว่ะนั่น? แค่ไปหาพ่อ...
นนท์กับผม (แน่นอนว่าเอารถผมไปจอดที่หอผมแล้ว) มากันด้วยรถเมล์ (หรูซะไม่มี... //พวกผมยังม.ปลายนะเฮ้ย!) ที่แท้แล้วนนท์ก็นัดกับพ่อที่โรงพยาบาลของพ่อมันนั่นเอง
อย่าถามว่าคิงหายไปไหนนะครับ... มันก็ต้องไปหายัยน้องมิ้นท์แฟนมันสิครับ
พวกผมมานั่งที่เมซโซ่ ร้านกาแฟด้านล่าง มากับนนท์ก็ดีเหมือนกันคือมันเลี้ยง แต่ความจริงแล้วมันไม่ต้องเลี้ยงผมก็ได้นะ แต่ในเมื่อมันอยากเลี้ยง ผมก็ไม่ขัดศรัทธา กินฟรี อิ่มท้อง อร่อยอีกต่างหาก (ฮ่าๆ)
พ่อของนนท์เป็นผู้ชายใส่แว่น ท่าทางสุขุมดูเป็นผู้ใหญ่ ท่านกวาดสายตามองผมรอบหนึ่งแล้วเลิกสนใจผมไปในทันที... ผมดูแย่ขนาดนั้นเชียว?
“สวัสดีครับ” ผมไหว้
“เพื่อน?” ท่านถาม
“ครับ เก้า... นะครับ”
“คนนี้น่ะเหรอ...” คนนี้น่ะมันคนไหนล่ะครับ! สายตาลุงแก (เปลี่ยนสรรพนามอย่างเร็ว) ดูน่ากลัว ทำเอาผมแทบหัวหดไปเลย แต่สายตานั่นดูสำรวจมากกว่าจ้องจับผิด หรือดูถูก
“พ่อครับ!”
“เออๆ แล้วนี่จะไปไหนต่อ”
“ก็เรื่อยๆนะครับ อ๋อ... กะจะไปซื้อแว่นน่ะครับ”
“แว่น?” พ่อของนนท์แค่นเสียงขึ้นจมูกนิดหน่อย “ทีบอกให้ใส่ตั้งนานไม่ใส่ แล้วมาดลใจอะไรช่วงนี้ล่ะ หรืออานหนังสือหนัก?”
“เปล่าครับ... เพื่อนบอกว่าน่าจะใส่”
“เห็นเพื่อนดีกว่าพ่ออีกสินะ...”
เก้ารู้สึกจุกขึ้นมาทันที ตกลงว่านี่เขาผิด? หรือว่าอะไรหว่า? เขาเป็นคนที่แนะนำให้มันใส่แว่นใช่ป่ะ? งั้นถ้าพ่อมันรู้ พ่อมันก็ด่าผมทางอ้อมอ่ะดิ แต่พ่อมันไม่รู้นี่หน่า
“เปล่าครับ”
“เอาล่ะจะกลับแล้วใช่มั้ย?”
“ครับ?”
“วันนี้พ่อเข้าเวรนะ”
“ครับ”
ดูจากบรรยากาศพ่อลูก เหมือนครอบครัวนี้ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ แต่ปกตินนท์มันก็คล้ายๆแบบนี้ หรือมันจะเป็นโครโมโซมของตระกูลกันล่ะนั่น
“งั้นผมกลับก่อนล่ะกันนะครับ” นนท์ว่าแล้วลุกขึ้นไหว้ ผมก็รีบทำตามทันที
“เดี๋ยว... เก้าใช่มั้ย?”
“ครับ?”
“นนท์ไม่เคยพาเพื่อนมาแนะนำให้พ่อรู้จักเลย ยังไงก็ฝากดูแลนนท์ด้วยนะ”
“ครับ? ครับ... ได้ครับ...”
“ใครดูแลใครกันแน่ครับพ่อ?” นนท์ยิ้ม
“...” พ่อนนท์เลิกคิ้ว “อย่างนั้นหรอกเหรอ? เขารู้เรื่องแล้วหรือไง?”
เฮ้ยๆๆ! สนใจคนหัวโด่คนนี้หน่อย เขาคือใคร? เรื่องนั้นเรื่องไหน? แล้วอย่างนั้นอย่างไหนครับคุณพ่อ!!?
“...ยังครับ” นนท์ดูสลดลงเล็กน้อย
“เฮ้อ~” พ่อนนท์ส่ายหน้า “เมื่อวานเราคุยกันรู้เรื่องแล้วใช่มั้ย?”
“...ครับ...พ่อ...” คุยกันเรื่องอะไรว่ะครับ?
ผมมองซ้ายที ขวาที แต่พ่อนนท์หันมาสายหน้าพร้อมรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวกว่าเดิม 2 ไม่สิ 10 เท่าเลยล่ะกัน ตามความรู้สึก
“อยากรู้ก็ถามลูกชายฉันดูสิ พ่อไปล่ะ” เขาหันมาพูดกับผมแล้วเดินหนีไปในทันที
“คุยกันเรื่องอะไรอ่ะ”
“ยังไม่ต้องรู้หรอน่า จะกลับมั้ยบ้านเนี่ย หา?!”
“กลับจ้าๆ โหดชิบ”
“อ่อใช่! ไปตัดแว่นก่อน”
“เออๆ” ไหนๆก็ได้กินฟรีแล้ว ช่วยอีกนิดอีกหน่อยก็ได้ว่ะ
ผมกับมันพากันไปเดินเลือกแว่นอยู่ที่ร้านแว่น (แหงอยู่แล้ว จะซื้อแว่นแบบไม่รู้ว่าสายตาสั้นเท่าไหร่จะเดินไปซื้อในห้างดอกบัว (โลตัส) ได้รึไง!)
เดินเกือบสิบรอบทั่วร้าน ลองไปลองมาสุดท้ายผมก็เอาเลือกกรอบสีขาวน้ำตาลที่พออยู่บนหน้ามันแล้วทำให้มันดูดีขึ้น (ความจริงแล้วทำให้หน้ามันดูเด็กลง ฮ่าๆ) กับกรอบสีดำเงิน ซื้อมาสองอันเผื่อเป็นอันสำรอง แล้วเราก็ได้รู้อีกอย่างนึงว่าสายตามันสั้น 75 แล้ว
เย้! ยินดีด้วย (เกี่ยว?)
มันมาส่งผมที่หอ (แน่นอนว่ารถเมล์เช่นกันเดิม) ผมลามันที่หอพักตรงป้ายรถเมล์แล้วก็เดินขึ้นมา ที่ห้องของผม แล้วผมก็เห็นผู้ชายคนนึงกำลังยืนโมโหอยู่หน้าห้อง ไม่ต้องทายก็รู้ได้เลยว่าเป็นใคร คนที่ผมทั้งอยากเจอและไม่อยากเจอมันมากที่สุดตอนนี้...
“คิง” ผมพูดชื่อมันด้วยเสียงแผ่วเบา...
Father… พ่อ !?
ในที่สุดวันสุดท้ายของอาทิตย์นี้ซึ่งก็คือวันศุกร์ คาบบ่ายก็เริ่มขึ้น…
ส่วนเรื่องของเมื่อวานนี้ หลังจากที่คิงมันไปกันน้องมิ้นท์ ผมก็ไข้ขึ้นเลยขออาจารย์กลับบ้านไปก่อน... (นนท์เป็นคนพาผมไปส่งตอนพักกลางวัน แล้วกลับไปเรียนต่อตอนบ่าย) เรื่องนี้มันค่อนข้างอึดอัดสำหรับผมนิดหน่อยนะ แล้วผมก็ไม่ได้คุยกับมันเลย (เพราะผมไม่ให้มันเข้าห้องด้วยนั่นแหละ)
ยังไงก็... เอ่อ.... ช่างมันเถอะ
เอาเป็นว่ายังดีหน่อยที่คาบสุดท้ายของวันศุกร์บ่ายนี้เป็นคาบดนตรี พวกผมก็เก็บของ ตั้งแถวเดินมาที่ห้องดนตรีชั้นสอง ตึกกิจกรรม ภาคปฏิบัติวันนี้เห็นว่า’จารย์จะสุ่มเลขที่ออกมาเล่นดนตรีด้วย... เรื่องนี้น่ะ ไม่ใช่ตัวเองก็พอใจแล้วล่ะนะ
“เอาล่ะนะ วันนี้คนที่ได้เป็นผู้โชคดีคือ... หมายเลข... 17”
“17 ไม่มาค่า” ใครสักคนตอบ
“งั้นหมายเลข... 30”
“...”
30... คุ้นๆแหะ... ผมหันไปมองนนท์ที่นั่งเหวออยู่ข้างๆ
“30!”
“คร้าบ...” นนท์ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินไปเลือกกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลอ่อนออกมา “ผมเอากีต้าร์น้า”
“เอาเถอะๆ”
นนท์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลับตาทำสมาธิ... แล้วเริ่มร้องเพลงออกมา เท่าที่จำได้ มันเป็นคนที่เล่นดนตรีเก่ง แล้วก็ร้องเพลงเพราะด้วย
~ เธอจะรู้ไหม ฉันมีของจะเซอร์ไพรซ์ ฉันแอบเขียนเพลงไว้ให้เธอ เพลงที่แต่งมา จากทั้งหัวใจ ~
เฮ~! แปะๆๆ!!
แค่เสียงเพลงเริ่ม เสียงปรบมือทั่วห้องดังขึ้น นนท์ที่เล่นกีต้าร์โปร่งอยู่ด้านบนที่นั่ง แล้วหันมาส่งยิ้มมาทางผม เออ~ ไอ้พ่อศิลปินใหญ่...
ผมส่งกระแสจิตตอบโต้กับมันทางสายตา โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนนั่งจ้องอยู่อีกด้านนึง
~ เพลงที่รอเธอมาร้องด้วยกัน และจับมือใต้แสงตะวัน เมื่อกลับมาพบกันจะเปิดมันให้ฟัง ~
“เพลงนี้... ผมร้องให้ ‘เพื่อน’ ผมคนหนึ่งน่ะครับ”
ท่อนที่เป็นทำนอง ไม่มีบทร้อง นนท์ก็พูดแทรกขึ้นมา แล้วผมก็เผอิญสบตาที่มองตรงมายังผมได้พอดี... ความหมายลึกๆในดวงตาคู่นั้นทำให้ผมหลบสายตาไป ลมหายใจสะดุดขาดช่วง... เหมือนผมจะรู้สึกอะไรสักอย่างจากสายตานั่น แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
~ เขียน เพลงทุกเพลงที่มีไว้ให้เธอ ขอ เก็บทุกวันที่มีไว้ให้เธอ เพลงนี้ดีไซน์เพื่อใคร ตอบได้ว่าคือเธอ... ~ ( เพลงของเธอ : Split )
“เพราะจังๆ” เสียงคนด้านหน้าพูด... ( เสียอย่างเดียว นนท์คงหล่อสู่ โซ่xนิว ของไรท์ไม่ได้หรอก ฮ่าๆ : ไรท์ ) ...ผมก็ว่างั้นแหละ = =
“ดีมากๆ ลงมาได้แล้วนนทวัช มีใครจะอาสาเป็นคู่แข่งนนท์บ้างมั้ยล่ะ”
กริบ... อยากบอกว่าเงียบกริบกันทั้งห้องเลยทีเดียว เหอๆ
ผมหันไปมองคิงแล้วกระเถิบไปใกล้ๆ พร้อมเอาศอกกระทุ้ง บุ้ยใบ้ให้มันออกไปบ้าง แต่มันทำเฉย และถ้ามองไม่ผิด มันกำลังทำสายตา... ค้อน?
เหอๆ ค้อน? ไม่หรอกมั้ง?
“เป็นไง เพราะมั้ย?”
“มากๆ” ผมตอบพร้อมกอดคอนนท์โคลงเคลงไปมา แล้วหัวเราะกันเบาๆ
ชั่วโมงนี้ทั้งคาบมีคนโดนเรียกออกไปอีก 6-7 คน แต่ทั้งหมดนั้น... ไม่มีผมคร้าบ~ เป็นผู้หญิงส่วนมาก ก็ผู้หญิงมันมีมากกว่าชายตั้ง 2 เท่าเลยนี่นะ
ความจริงแอบภาวนาให้โดนเลขที่ไอ้คิง แต่สุดท้ายก็ไม่โดนแฮะ น่าเสียดายๆ!
หมดคาบพวกผมก็ต้องเดินไปเอากระเป๋าแล้วก็ค่อยกลับบ้าน... ถ้าผมยังไม่สบายไข้ขึ้นเหมือนเมื่อวานคงดีแล้วแท้ๆ จะได้ไม่ต้องมาโรงเรียน
“เออ ใช่! วันนี้มึงมีนัดใช่ป่ะ?”
“อือ กับพ่อน่ะ”
“อ้อ งั้นไปเลยป่ะ? โชคดีๆ”
“ยัง! รีบไล่ไปไหนว่ะ?”
“เอ้า! ฮ่าๆ” ผมขำกับท่าทางกรอกตาของมัน
“เก้า...” ผมส่งสายตากลับไปถามมัน “...ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”
“ไปกับมึงอ่ะนะ?”
“อือ”
“ไปหาพ่อมึงอ่ะนะ”
“ใช่” เท่านั้นแหละ ผมส่ายหน้าเต็มที่ ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากต้องเกร็ง ได้ข่าวว่าพ่อมันเป็นหมอศัลย์ แถมยังเนี้ยบเว่อร์ ไม่เอาอ่ะ
“น่าๆ ไปแปบเดียวๆ ไปเอาของที่พ่ออ่ะ”
“แล้วนัด?”
“ก็นัดพ่อไง เมื่อกี้ก็บอกไปล่ะ”
“นึกว่าแกล้งว่ะ โทษๆ”
“แล้วไง?” ผมมองหน้ามัน มันช่วยผมมาตั้งเยอะแล้วนี่เนอะ
“งั้น... ก็ได้” นนท์นิ่งไป เหมือนตกตะลึงแกมไม่เชื่อ
“ห้ะ? อะไรนะ?”
“ไปเด้ นัดกันที่ไหน ไปเลยๆๆ”
นนท์เบิกตากว้าง ก่อนค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างแทน ดีใจไปถึงไหนว่ะนั่น? แค่ไปหาพ่อ...
นนท์กับผม (แน่นอนว่าเอารถผมไปจอดที่หอผมแล้ว) มากันด้วยรถเมล์ (หรูซะไม่มี... //พวกผมยังม.ปลายนะเฮ้ย!) ที่แท้แล้วนนท์ก็นัดกับพ่อที่โรงพยาบาลของพ่อมันนั่นเอง
อย่าถามว่าคิงหายไปไหนนะครับ... มันก็ต้องไปหายัยน้องมิ้นท์แฟนมันสิครับ
พวกผมมานั่งที่เมซโซ่ ร้านกาแฟด้านล่าง มากับนนท์ก็ดีเหมือนกันคือมันเลี้ยง แต่ความจริงแล้วมันไม่ต้องเลี้ยงผมก็ได้นะ แต่ในเมื่อมันอยากเลี้ยง ผมก็ไม่ขัดศรัทธา กินฟรี อิ่มท้อง อร่อยอีกต่างหาก (ฮ่าๆ)
พ่อของนนท์เป็นผู้ชายใส่แว่น ท่าทางสุขุมดูเป็นผู้ใหญ่ ท่านกวาดสายตามองผมรอบหนึ่งแล้วเลิกสนใจผมไปในทันที... ผมดูแย่ขนาดนั้นเชียว?
“สวัสดีครับ” ผมไหว้
“เพื่อน?” ท่านถาม
“ครับ เก้า... นะครับ”
“คนนี้น่ะเหรอ...” คนนี้น่ะมันคนไหนล่ะครับ! สายตาลุงแก (เปลี่ยนสรรพนามอย่างเร็ว) ดูน่ากลัว ทำเอาผมแทบหัวหดไปเลย แต่สายตานั่นดูสำรวจมากกว่าจ้องจับผิด หรือดูถูก
“พ่อครับ!”
“เออๆ แล้วนี่จะไปไหนต่อ”
“ก็เรื่อยๆนะครับ อ๋อ... กะจะไปซื้อแว่นน่ะครับ”
“แว่น?” พ่อของนนท์แค่นเสียงขึ้นจมูกนิดหน่อย “ทีบอกให้ใส่ตั้งนานไม่ใส่ แล้วมาดลใจอะไรช่วงนี้ล่ะ หรืออานหนังสือหนัก?”
“เปล่าครับ... เพื่อนบอกว่าน่าจะใส่”
“เห็นเพื่อนดีกว่าพ่ออีกสินะ...”
เก้ารู้สึกจุกขึ้นมาทันที ตกลงว่านี่เขาผิด? หรือว่าอะไรหว่า? เขาเป็นคนที่แนะนำให้มันใส่แว่นใช่ป่ะ? งั้นถ้าพ่อมันรู้ พ่อมันก็ด่าผมทางอ้อมอ่ะดิ แต่พ่อมันไม่รู้นี่หน่า
“เปล่าครับ”
“เอาล่ะจะกลับแล้วใช่มั้ย?”
“ครับ?”
“วันนี้พ่อเข้าเวรนะ”
“ครับ”
ดูจากบรรยากาศพ่อลูก เหมือนครอบครัวนี้ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ แต่ปกตินนท์มันก็คล้ายๆแบบนี้ หรือมันจะเป็นโครโมโซมของตระกูลกันล่ะนั่น
“งั้นผมกลับก่อนล่ะกันนะครับ” นนท์ว่าแล้วลุกขึ้นไหว้ ผมก็รีบทำตามทันที
“เดี๋ยว... เก้าใช่มั้ย?”
“ครับ?”
“นนท์ไม่เคยพาเพื่อนมาแนะนำให้พ่อรู้จักเลย ยังไงก็ฝากดูแลนนท์ด้วยนะ”
“ครับ? ครับ... ได้ครับ...”
“ใครดูแลใครกันแน่ครับพ่อ?” นนท์ยิ้ม
“...” พ่อนนท์เลิกคิ้ว “อย่างนั้นหรอกเหรอ? เขารู้เรื่องแล้วหรือไง?”
เฮ้ยๆๆ! สนใจคนหัวโด่คนนี้หน่อย เขาคือใคร? เรื่องนั้นเรื่องไหน? แล้วอย่างนั้นอย่างไหนครับคุณพ่อ!!?
“...ยังครับ” นนท์ดูสลดลงเล็กน้อย
“เฮ้อ~” พ่อนนท์ส่ายหน้า “เมื่อวานเราคุยกันรู้เรื่องแล้วใช่มั้ย?”
“...ครับ...พ่อ...” คุยกันเรื่องอะไรว่ะครับ?
ผมมองซ้ายที ขวาที แต่พ่อนนท์หันมาสายหน้าพร้อมรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวกว่าเดิม 2 ไม่สิ 10 เท่าเลยล่ะกัน ตามความรู้สึก
“อยากรู้ก็ถามลูกชายฉันดูสิ พ่อไปล่ะ” เขาหันมาพูดกับผมแล้วเดินหนีไปในทันที
“คุยกันเรื่องอะไรอ่ะ”
“ยังไม่ต้องรู้หรอน่า จะกลับมั้ยบ้านเนี่ย หา?!”
“กลับจ้าๆ โหดชิบ”
“อ่อใช่! ไปตัดแว่นก่อน”
“เออๆ” ไหนๆก็ได้กินฟรีแล้ว ช่วยอีกนิดอีกหน่อยก็ได้ว่ะ
ผมกับมันพากันไปเดินเลือกแว่นอยู่ที่ร้านแว่น (แหงอยู่แล้ว จะซื้อแว่นแบบไม่รู้ว่าสายตาสั้นเท่าไหร่จะเดินไปซื้อในห้างดอกบัว (โลตัส) ได้รึไง!)
เดินเกือบสิบรอบทั่วร้าน ลองไปลองมาสุดท้ายผมก็เอาเลือกกรอบสีขาวน้ำตาลที่พออยู่บนหน้ามันแล้วทำให้มันดูดีขึ้น (ความจริงแล้วทำให้หน้ามันดูเด็กลง ฮ่าๆ) กับกรอบสีดำเงิน ซื้อมาสองอันเผื่อเป็นอันสำรอง แล้วเราก็ได้รู้อีกอย่างนึงว่าสายตามันสั้น 75 แล้ว
เย้! ยินดีด้วย (เกี่ยว?)
มันมาส่งผมที่หอ (แน่นอนว่ารถเมล์เช่นกันเดิม) ผมลามันที่หอพักตรงป้ายรถเมล์แล้วก็เดินขึ้นมา ที่ห้องของผม แล้วผมก็เห็นผู้ชายคนนึงกำลังยืนโมโหอยู่หน้าห้อง ไม่ต้องทายก็รู้ได้เลยว่าเป็นใคร คนที่ผมทั้งอยากเจอและไม่อยากเจอมันมากที่สุดตอนนี้...
“คิง” ผมพูดชื่อมันด้วยเสียงแผ่วเบา...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ