I'm not your playmate : กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงครับ!
8.4
14) 12 - Committee
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ12
Committee… คณะกรรมการห้อง
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยโว้ยยยย!!!”
“แหกปากหาพ่อมึงเหรอครับ?”
ย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์ที่ผมจะตะโกนแหกปากโวยวายเมื่อสักครู่ เป็นพอดีกับตอนที่หนังเดินเข้ามาแล้วเอ่ยปากขอแรงผมทำงานหนึ่งอย่างในช่วงกีฬาสี
ซึ่งงานนั้นคือการไปเป็นคณะกรรมการของห้อง 2 ที่ผมอยู่ ส่วนนนท์กับฟอร์ดมันต้องเป็นอยู่แล้วของห้อง 1 อ่ะนะ เพราะมันสองคนเป็นคณะกรรมการโรงเรียน อ้อ ส่วนห้อง 4 อย่างพวกกาย ปาย จีน นะ มันไม่ได้เป็นหรอก ห้องนั้นผู้หญิงเป็นใหญ่
“ไม่ ยังไงก็ไม่! ไม่มีทาง!!” ผมตะโกนลั่นจนคนรอบข้างหันมามอง
“เหอะนะๆๆๆ แค่ทำงานนิดหน่อยเอง”
“งี้ก็ไม่ได้แข่งกีฬาอ่ะดิ”
“ไม่ใช่นะครับ งานคณะกรรมการห้องไม่ได้ให้เป็นคณะกรรมการครับ ให้แค่ช่วยประสานงานของคณะกรรมการโรงเรียน กับห้องของพวกคุณแค่นั้นเอง” ฟอร์ดรีบอธิบาย
“ไม่รู้ล่ะไม่เป็นโว้ย!”
ผัวะ!
“ฟังฟอร์ดให้จบก่อนดิว่ะครับ” หนังมันตบหัวผมครับ
“มึงก็เอานนท์ไปเป็นดิว่ะ”
“โห ไอ้พวกห่า อย่าเกี่ยงกัน พวกกูก็เป็นเนี่ย”
“หา?” พวกไอ้นะที่เดินเข้ามาในห้องผมบอกอย่างสบายๆ คือถึงคาบแรกยังไม่เริ่ม พวกมันก็ไม่ควรออกมานอกห้องนะ
“กู นะ แล้วก็ฟ้า เพื่อนในห้องน่ะ พวกเราสามคนเป็นตัวแทนห้องโว้ย”
จีนพูดยิ้มๆ เหมือนมันใหญ่มาก เหมือนมันเป็นประธาน เหมือนมันสุดยอดโคตรๆ เอิ่ม...
แต่ว่านะไม่น่าเชื่อจริงๆ พวกมันยอมทำงาน อเมซซิ่ง... มาก ผมออกอาการตกใจนิดๆ ไม่น่าเชื่อจริงๆ แปลกประหลาดมาก มากเว่อร์ มากสุดๆ
“ส่วนห้องมึง ที่กูกับฟอร์ดส่งชื่อไปเป็นมึง นนท์ คิง พวกมึงสามคนเลย ดีใจมั้ยว่ะ?” หนังพูด
เอ่อ... คือมันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่จะให้ผมไปทำงานกับพวกคิงตอนนี้อ่ะนะ?
“งานมีแค่ทำซุ้มต้อนรับผู้ปกครอง ประสานงานส่งรายชื่อนักกีฬาของชั้นของแต่ละสี แล้วก็นิดๆหน่อยๆนะครับ”
...ไอ้นิดๆหน่อยๆนี่แหละน่ากลัว... จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วที่พี่ยักษ์มั้งเป็นคณะกรรมการห้องเนี่ย พี่แกยังบอกว่าน่ากลัวเลย งานจิปาถะทั้งหลาย ว่าชื่อมันน่ากลัวแล้ว งานพวกนี้น่ากลัวกว่า
“คนนึงไม่ต้องทำทุกอย่างหรอกน่า” หนังรีบสนับสนุนคำพูดของฟอร์ด
ห่อเหี่ยวๆ... ทำไมมันดื้อด้านกันแบบนี้ว่ะ?
“ไปเหอะน่า กำจัดความหมองเศร้าแล้วพุ่งเข้าไป!” นนท์ให้กำลังใจแบบแปลกๆ
“หรือจะเรียกว่า ไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย!!” นะรีบตบมุกของนนท์
“แป้กว่ะ นะ แป้ก”
... และแน่นอนว่ามันแป้กตามสไตล์ของไอ้นะ จีนเลยพูดพร้อมมองหน้านะนิ่งๆ
“เออ กูก็ว่างั้นแหละ” ไอ้นะทำท่าหมาหงอยได้น่าตลกมาก
“ฮ่าๆ” ผมหัวเราะอย่างร่าเริง
“ตกลงเอาไงมึง?”
“เอาอย่างที่มึงพูดแหละ เป็นก็เป็นว่ะ”
“เย้~” หนังกับฟอร์ดปะมือกันยิ้มๆ
“เฮ้อ~” เอาเถอะเหนื่อยนิดเหนื่อยหน่อย ปีสุดท้ายแล้วโว้ย! สู้ๆ!
“เฮ้อ~~”
มีคนหายใจต่อจากผมอย่างดังถึงสองคนเพื่อเรียกร้องความสนใจ สองคนนั้น คือปาย กับกายครับ มันทำหน้าเซ็งแล้วมุ่ยหน้านิดๆ
“มีไรว่ะ”
“ทั้งกลุ่มมีแค่พวกกูสองคนที่ไม่ได้เป็นเหี้ยไรเลย”
“เอาน่าๆ สบายออกไม่ใช่เหรอ”
“เอ๋~ ความจริงแล้ว ปายกับกายก็มาช่วยพวกเราได้นะ” ฟอร์ดบอก
“จริงอ่ะ”
“อื้อ”
ดูนะครับ ถ้าพวกมันมาช่วยจริง มันจะได้หน้ามากมาย เพราะมันไม่มีรายชื่อคนที่ต้องช่วยงาน แต่มันมาช่วยงาน ดูสิ... มันจะได้หน้ามากแค่ไหน
“งั้น เย็นนี้มารวมกันที่สนามฟุตซอลใหญ่นะครับ พวกผมไปบอกประธานก่อนล่ะ”
“เดี๋ยว” ผมเรียกพวกมันสองคนไว้
“อะไรว่ะ?” หนังทำหน้าเซ็งๆ
“...คิงมันตกลงแล้วเหรอว่ะ” ผมกลั้นใจถาม
“เออดิ ถามไรแปลกๆว่ะ พวกกูไปล่ะ”
“เจอกันตอนพักครับ ทุกคน”
“ฮื่อ”
พวกผมตอบรับแล้วส่งมันไปจนลับตา เป็นพวกมันก็ดีนะ ชีวิตสนุกสนานวุ่นวายดี แต่ก็น่าสงสาร เหนื่อยกันตาย วิ่งไปนู่น ไปหาคนนู้นคนนี้ เห็นแล้วอยากกัดลิ้นตายมากกว่า
“แล้วพวกแกมาทำไม”
“พูดเพราะหน่อยสิจ๊ะ น้องเก้า”
“ขนลุกว่ะ ปาย”
“ฮ่าๆ พวกเรามาดูรายชื่อนะ ว่าใครอยู่สีไหนบ้าง พรุ่งนี้คาบบ่ายจะได้นัดกันแยกสีถูก”
“จีน นะ กูอยู่สีเหลือง ปายอยู่กับนน์สีแดงใช่มั้ยว่ะ? ส่วนหนัง ฟอร์ดอยู่สีเขียว มึง...กับคิงอยู่สีฟ้า” กายพูด “ถูกป่ะว่ะ?”
“หา? หะ! อะไรนะ?”
“ไม่ใช่เหรอ พวกกูเพิ่งถามคิงมันเมื่อเช้าเองนะเว้ย” นะรีบโวยวาย “ที่เหลือกูว่าถูกหมดแล้วนะ”
“เปล่าๆ กูแค่ตกใจ ถึงจะดีใจที่มีคนอยู่สีเดียวกันก็เถอะ”
ตกใจ แปลกใจ... และแอบหน่ายใจ ทำไมโลกมันกลมเยี่ยงนี้ว่ะ หนีเท่าไหร่ก็ไม่พ้น หนีเท่าไหร่ก็ยังเจอ อุตส่าห์แอบมีความหวังเล็กๆนะเนี่ย
“แฟนมันอยู่สีไหนว่ะ?” นนท์ถาม
“อ้อ สีฟ้าเหมือนกัน ขนาดกูไม่ได้ถามยังเสนอหน้ามาบอก” จีนทำหน้าเซ็งๆ
“11 รด ฉิบหาย”
“เอิ่ม...” พวกมึงกำลังด่าเด็กผู้หญิงอยู่นะครับ
“ฮ่าๆ กูก็เกลียดเด็กคนนี้ว่ะ” นนท์พูด “มึงรู้ไรป่ะ ไอ้เหี้ยคิงแม่งโดนสวมเขาว่ะ”
“หะ?”
“เด็กคนนี้แม่งคบอยู่กับไอ้โย เด็กม.5อ่ะ แต่เด็กนั่นแม่งก็ไม่รู้หรอกนะ ไอ้คิงแม่งก็ควาย พวกกูกำลังจะบอกความจริงแต่แม่งเสือกไม่ฟังเฉย”
“เอ้า!” พวกนั้นแม่งตะโกนกันลั่น
“ไหงงั้นว่ะ”
“เอออ่ะดิ แม่งเอ๊ย!”
อ่า นนท์ มึงหัวเสียเว่อร์ไปป่ะเนี่ย?
ผมจ้องมันอย่างงงๆ เมื่อวานนี้ ไม่สิ เมื่อกี้มันยังแทบไม่รู้สึก ไม่คิดอะไรสักอย่างเลยนี่หว่า พอมีคนยุ เอ๊ย! มีคนถามมันก็ใส่อารมณ์เต็มที่จน เอิ่ม...
“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะอย่างสุดเสียงจนเพื่อนรอบๆหันมามอง
“มึงเป็นเชี่ยไรว่ะเก้า”
“เปล่าๆ มึงน่ารักว่ะนนท์”
“ห้ะ?” เพื่อนทั้งกลุ่มผมหันมามองอย่างตกใจ โดยเฉพาะเจ้าตัวที่อึ้งอ้าปากหวอไปแล้ว
“นี่ถ้ามึงเป็นผู้หญิงนะ กูจีบไปแล้ว”
“อ่า...”
เคยเห็นผู้ชายหน้าแดงมั้ยครับ นนท์กำลังเป็นอยู่น่ะ จริงๆนะ เจ้าตัวเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ยังคงก้มหน้า ถึงหน้ามันไม่หวานแต่ก็ไม่โหดนะครับ คนติดมันก็มีอยู่เยอะแต่มันไม่รู้ตัวและไม่คิดจะสนใจแค่นั้นเอง
“เก้าๆ มึงเช็คสมองนิดนึงนะ มึงเป็นไรป่ะเนี่ย” กายรีบถาม
“โห พวกมึงอ่ะ ดูดีๆดิว่ะ นนท์น่ารักจริงๆนะเนี่ย ฮ่าๆๆ” ถึงท่าทางผมจะพูดล้อเล่น แต่มันคือเรื่องจริงนะครับ เชื่อผมกันบ้างเถอะ
“ก... กูว่ากูกลับห้องดีกว่า ป่ะๆ จีน นะ ปาย ไปๆกลับห้อง”
“เอ้า โชคดีนะเว้ย เดี๋ยวกูจะได้จีบนนท์ต่อ”
“อย่างมึงเป็นได้แค่รับล่ะว่ะ!” กายส่ายหัว แล้วพูดอย่างไม่จริงจังแล้วเดินออกไป
“อะไรคือรับว่ะ”
“จากการทดลอง ทำให้ได้ทราบว่า...”
ผัวะ! จีนตบหัวนะอีกดอก
“พอๆ เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วมึง พวกกูไปล่ะ บาย”
“บาย”
พวกมันเดินออกทางหลังห้อง อีกไม่นานก็ถึงโฮมรูมแล้ว ผมที่ทำงานเสร็จก็ยังว่างอยู่ดีเลยไม่รู้จะทำอะไร
“นนท์ๆ ตกลงว่ารับคืออะไรว่ะ”
“อ่า... อ่อ...”
“ฮัลโหลๆ เทสต์ๆ มึงพูดไรว่ะ”
“คือ... คือ...”
“โอเค ช่างมันเถอะ ไม่อยากรู้แล้ว”
ผมทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วเลื้อยลงไปกับโต๊ะ ทั้งเซ็ง ทั้งเบื่อ ไม่มีอะไรทำเลย รู้งี้ไม่ทำการบ้านมาก็ดีหรอก จะได้ไม่เหนื่อย
“อ่า... หน้าร้อน ไม่ๆ นี่หน้าฝน... เฮ้อ~” ผมบ่นแบบนี้ซ้ำไปมา
“พอเหอะสัด นี่พฤศจิกแล้วโว้ย เอารวมๆก็หน้าหนาว”
นนท์คงเซ็งที่ผมบ่นวนไปวนมามันเลยเถียงออกมา พอมันไม่ทำตัวเขินแล้วเลยกลับมาเป็นปกติ ความจริงแล้ว ผมเห็นมันเขินไม่บ่อยหนัก
...แต่พอมันเขินแล้วน่ารักดี
มันทำท่าเลื้อยลงไปกับโต๊ะตามแบบผมบ้าง หน้ามันหันมาทางผม มันยิ้มให้ผมเล็กน้อย มันเป็นคนง่ายๆสบายๆแบบนี้อยู่แล้วล่ะเนอะ
“ถ้าเป็นแบบมึงได้ก็คงดี”
“หือ? เป็นแบบกู แบบไหนว่ะ?”
“สบายๆ ไม่เครียดไง... แต่ต้องแอบรักคนอื่นเนี่ย กูไม่เอานะ ไม่ค่อยชอบ ฮ่าๆ”
ผมพูดพร้อมกับยื่นเอานิ้วไปเขี่ยๆแก้มมัน มันก็ไม่ได้ว่าอะไร สักพักผมเลยจิ้มลงไป แก้มมันป่องเพราะมันอมลมไว้ แล้วก็นิ่มดีด้วย น่าจิ้มชะมัด
“เล่นพอรึยัง”
น้ำเสียงคุ้นหูอยู่ทางด้านหลัง คิงเดินเข้ามานั่งด้านข้างอีกข้างของผม บรรยากาศอึดอัดทำให้ผมกับนนท์ลุกขึ้นมานั่งตัวตรงในไม่ช้า
“อืม” ผมพูดจบแล้วก็เงียบกันไปจนครูก้าวเข้ามา
...คาบโฮมรูมได้เริ่มขึ้นแล้ว
Committee… คณะกรรมการห้อง
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยโว้ยยยย!!!”
“แหกปากหาพ่อมึงเหรอครับ?”
ย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์ที่ผมจะตะโกนแหกปากโวยวายเมื่อสักครู่ เป็นพอดีกับตอนที่หนังเดินเข้ามาแล้วเอ่ยปากขอแรงผมทำงานหนึ่งอย่างในช่วงกีฬาสี
ซึ่งงานนั้นคือการไปเป็นคณะกรรมการของห้อง 2 ที่ผมอยู่ ส่วนนนท์กับฟอร์ดมันต้องเป็นอยู่แล้วของห้อง 1 อ่ะนะ เพราะมันสองคนเป็นคณะกรรมการโรงเรียน อ้อ ส่วนห้อง 4 อย่างพวกกาย ปาย จีน นะ มันไม่ได้เป็นหรอก ห้องนั้นผู้หญิงเป็นใหญ่
“ไม่ ยังไงก็ไม่! ไม่มีทาง!!” ผมตะโกนลั่นจนคนรอบข้างหันมามอง
“เหอะนะๆๆๆ แค่ทำงานนิดหน่อยเอง”
“งี้ก็ไม่ได้แข่งกีฬาอ่ะดิ”
“ไม่ใช่นะครับ งานคณะกรรมการห้องไม่ได้ให้เป็นคณะกรรมการครับ ให้แค่ช่วยประสานงานของคณะกรรมการโรงเรียน กับห้องของพวกคุณแค่นั้นเอง” ฟอร์ดรีบอธิบาย
“ไม่รู้ล่ะไม่เป็นโว้ย!”
ผัวะ!
“ฟังฟอร์ดให้จบก่อนดิว่ะครับ” หนังมันตบหัวผมครับ
“มึงก็เอานนท์ไปเป็นดิว่ะ”
“โห ไอ้พวกห่า อย่าเกี่ยงกัน พวกกูก็เป็นเนี่ย”
“หา?” พวกไอ้นะที่เดินเข้ามาในห้องผมบอกอย่างสบายๆ คือถึงคาบแรกยังไม่เริ่ม พวกมันก็ไม่ควรออกมานอกห้องนะ
“กู นะ แล้วก็ฟ้า เพื่อนในห้องน่ะ พวกเราสามคนเป็นตัวแทนห้องโว้ย”
จีนพูดยิ้มๆ เหมือนมันใหญ่มาก เหมือนมันเป็นประธาน เหมือนมันสุดยอดโคตรๆ เอิ่ม...
แต่ว่านะไม่น่าเชื่อจริงๆ พวกมันยอมทำงาน อเมซซิ่ง... มาก ผมออกอาการตกใจนิดๆ ไม่น่าเชื่อจริงๆ แปลกประหลาดมาก มากเว่อร์ มากสุดๆ
“ส่วนห้องมึง ที่กูกับฟอร์ดส่งชื่อไปเป็นมึง นนท์ คิง พวกมึงสามคนเลย ดีใจมั้ยว่ะ?” หนังพูด
เอ่อ... คือมันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่จะให้ผมไปทำงานกับพวกคิงตอนนี้อ่ะนะ?
“งานมีแค่ทำซุ้มต้อนรับผู้ปกครอง ประสานงานส่งรายชื่อนักกีฬาของชั้นของแต่ละสี แล้วก็นิดๆหน่อยๆนะครับ”
...ไอ้นิดๆหน่อยๆนี่แหละน่ากลัว... จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วที่พี่ยักษ์มั้งเป็นคณะกรรมการห้องเนี่ย พี่แกยังบอกว่าน่ากลัวเลย งานจิปาถะทั้งหลาย ว่าชื่อมันน่ากลัวแล้ว งานพวกนี้น่ากลัวกว่า
“คนนึงไม่ต้องทำทุกอย่างหรอกน่า” หนังรีบสนับสนุนคำพูดของฟอร์ด
ห่อเหี่ยวๆ... ทำไมมันดื้อด้านกันแบบนี้ว่ะ?
“ไปเหอะน่า กำจัดความหมองเศร้าแล้วพุ่งเข้าไป!” นนท์ให้กำลังใจแบบแปลกๆ
“หรือจะเรียกว่า ไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย!!” นะรีบตบมุกของนนท์
“แป้กว่ะ นะ แป้ก”
... และแน่นอนว่ามันแป้กตามสไตล์ของไอ้นะ จีนเลยพูดพร้อมมองหน้านะนิ่งๆ
“เออ กูก็ว่างั้นแหละ” ไอ้นะทำท่าหมาหงอยได้น่าตลกมาก
“ฮ่าๆ” ผมหัวเราะอย่างร่าเริง
“ตกลงเอาไงมึง?”
“เอาอย่างที่มึงพูดแหละ เป็นก็เป็นว่ะ”
“เย้~” หนังกับฟอร์ดปะมือกันยิ้มๆ
“เฮ้อ~” เอาเถอะเหนื่อยนิดเหนื่อยหน่อย ปีสุดท้ายแล้วโว้ย! สู้ๆ!
“เฮ้อ~~”
มีคนหายใจต่อจากผมอย่างดังถึงสองคนเพื่อเรียกร้องความสนใจ สองคนนั้น คือปาย กับกายครับ มันทำหน้าเซ็งแล้วมุ่ยหน้านิดๆ
“มีไรว่ะ”
“ทั้งกลุ่มมีแค่พวกกูสองคนที่ไม่ได้เป็นเหี้ยไรเลย”
“เอาน่าๆ สบายออกไม่ใช่เหรอ”
“เอ๋~ ความจริงแล้ว ปายกับกายก็มาช่วยพวกเราได้นะ” ฟอร์ดบอก
“จริงอ่ะ”
“อื้อ”
ดูนะครับ ถ้าพวกมันมาช่วยจริง มันจะได้หน้ามากมาย เพราะมันไม่มีรายชื่อคนที่ต้องช่วยงาน แต่มันมาช่วยงาน ดูสิ... มันจะได้หน้ามากแค่ไหน
“งั้น เย็นนี้มารวมกันที่สนามฟุตซอลใหญ่นะครับ พวกผมไปบอกประธานก่อนล่ะ”
“เดี๋ยว” ผมเรียกพวกมันสองคนไว้
“อะไรว่ะ?” หนังทำหน้าเซ็งๆ
“...คิงมันตกลงแล้วเหรอว่ะ” ผมกลั้นใจถาม
“เออดิ ถามไรแปลกๆว่ะ พวกกูไปล่ะ”
“เจอกันตอนพักครับ ทุกคน”
“ฮื่อ”
พวกผมตอบรับแล้วส่งมันไปจนลับตา เป็นพวกมันก็ดีนะ ชีวิตสนุกสนานวุ่นวายดี แต่ก็น่าสงสาร เหนื่อยกันตาย วิ่งไปนู่น ไปหาคนนู้นคนนี้ เห็นแล้วอยากกัดลิ้นตายมากกว่า
“แล้วพวกแกมาทำไม”
“พูดเพราะหน่อยสิจ๊ะ น้องเก้า”
“ขนลุกว่ะ ปาย”
“ฮ่าๆ พวกเรามาดูรายชื่อนะ ว่าใครอยู่สีไหนบ้าง พรุ่งนี้คาบบ่ายจะได้นัดกันแยกสีถูก”
“จีน นะ กูอยู่สีเหลือง ปายอยู่กับนน์สีแดงใช่มั้ยว่ะ? ส่วนหนัง ฟอร์ดอยู่สีเขียว มึง...กับคิงอยู่สีฟ้า” กายพูด “ถูกป่ะว่ะ?”
“หา? หะ! อะไรนะ?”
“ไม่ใช่เหรอ พวกกูเพิ่งถามคิงมันเมื่อเช้าเองนะเว้ย” นะรีบโวยวาย “ที่เหลือกูว่าถูกหมดแล้วนะ”
“เปล่าๆ กูแค่ตกใจ ถึงจะดีใจที่มีคนอยู่สีเดียวกันก็เถอะ”
ตกใจ แปลกใจ... และแอบหน่ายใจ ทำไมโลกมันกลมเยี่ยงนี้ว่ะ หนีเท่าไหร่ก็ไม่พ้น หนีเท่าไหร่ก็ยังเจอ อุตส่าห์แอบมีความหวังเล็กๆนะเนี่ย
“แฟนมันอยู่สีไหนว่ะ?” นนท์ถาม
“อ้อ สีฟ้าเหมือนกัน ขนาดกูไม่ได้ถามยังเสนอหน้ามาบอก” จีนทำหน้าเซ็งๆ
“11 รด ฉิบหาย”
“เอิ่ม...” พวกมึงกำลังด่าเด็กผู้หญิงอยู่นะครับ
“ฮ่าๆ กูก็เกลียดเด็กคนนี้ว่ะ” นนท์พูด “มึงรู้ไรป่ะ ไอ้เหี้ยคิงแม่งโดนสวมเขาว่ะ”
“หะ?”
“เด็กคนนี้แม่งคบอยู่กับไอ้โย เด็กม.5อ่ะ แต่เด็กนั่นแม่งก็ไม่รู้หรอกนะ ไอ้คิงแม่งก็ควาย พวกกูกำลังจะบอกความจริงแต่แม่งเสือกไม่ฟังเฉย”
“เอ้า!” พวกนั้นแม่งตะโกนกันลั่น
“ไหงงั้นว่ะ”
“เอออ่ะดิ แม่งเอ๊ย!”
อ่า นนท์ มึงหัวเสียเว่อร์ไปป่ะเนี่ย?
ผมจ้องมันอย่างงงๆ เมื่อวานนี้ ไม่สิ เมื่อกี้มันยังแทบไม่รู้สึก ไม่คิดอะไรสักอย่างเลยนี่หว่า พอมีคนยุ เอ๊ย! มีคนถามมันก็ใส่อารมณ์เต็มที่จน เอิ่ม...
“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะอย่างสุดเสียงจนเพื่อนรอบๆหันมามอง
“มึงเป็นเชี่ยไรว่ะเก้า”
“เปล่าๆ มึงน่ารักว่ะนนท์”
“ห้ะ?” เพื่อนทั้งกลุ่มผมหันมามองอย่างตกใจ โดยเฉพาะเจ้าตัวที่อึ้งอ้าปากหวอไปแล้ว
“นี่ถ้ามึงเป็นผู้หญิงนะ กูจีบไปแล้ว”
“อ่า...”
เคยเห็นผู้ชายหน้าแดงมั้ยครับ นนท์กำลังเป็นอยู่น่ะ จริงๆนะ เจ้าตัวเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ยังคงก้มหน้า ถึงหน้ามันไม่หวานแต่ก็ไม่โหดนะครับ คนติดมันก็มีอยู่เยอะแต่มันไม่รู้ตัวและไม่คิดจะสนใจแค่นั้นเอง
“เก้าๆ มึงเช็คสมองนิดนึงนะ มึงเป็นไรป่ะเนี่ย” กายรีบถาม
“โห พวกมึงอ่ะ ดูดีๆดิว่ะ นนท์น่ารักจริงๆนะเนี่ย ฮ่าๆๆ” ถึงท่าทางผมจะพูดล้อเล่น แต่มันคือเรื่องจริงนะครับ เชื่อผมกันบ้างเถอะ
“ก... กูว่ากูกลับห้องดีกว่า ป่ะๆ จีน นะ ปาย ไปๆกลับห้อง”
“เอ้า โชคดีนะเว้ย เดี๋ยวกูจะได้จีบนนท์ต่อ”
“อย่างมึงเป็นได้แค่รับล่ะว่ะ!” กายส่ายหัว แล้วพูดอย่างไม่จริงจังแล้วเดินออกไป
“อะไรคือรับว่ะ”
“จากการทดลอง ทำให้ได้ทราบว่า...”
ผัวะ! จีนตบหัวนะอีกดอก
“พอๆ เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วมึง พวกกูไปล่ะ บาย”
“บาย”
พวกมันเดินออกทางหลังห้อง อีกไม่นานก็ถึงโฮมรูมแล้ว ผมที่ทำงานเสร็จก็ยังว่างอยู่ดีเลยไม่รู้จะทำอะไร
“นนท์ๆ ตกลงว่ารับคืออะไรว่ะ”
“อ่า... อ่อ...”
“ฮัลโหลๆ เทสต์ๆ มึงพูดไรว่ะ”
“คือ... คือ...”
“โอเค ช่างมันเถอะ ไม่อยากรู้แล้ว”
ผมทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วเลื้อยลงไปกับโต๊ะ ทั้งเซ็ง ทั้งเบื่อ ไม่มีอะไรทำเลย รู้งี้ไม่ทำการบ้านมาก็ดีหรอก จะได้ไม่เหนื่อย
“อ่า... หน้าร้อน ไม่ๆ นี่หน้าฝน... เฮ้อ~” ผมบ่นแบบนี้ซ้ำไปมา
“พอเหอะสัด นี่พฤศจิกแล้วโว้ย เอารวมๆก็หน้าหนาว”
นนท์คงเซ็งที่ผมบ่นวนไปวนมามันเลยเถียงออกมา พอมันไม่ทำตัวเขินแล้วเลยกลับมาเป็นปกติ ความจริงแล้ว ผมเห็นมันเขินไม่บ่อยหนัก
...แต่พอมันเขินแล้วน่ารักดี
มันทำท่าเลื้อยลงไปกับโต๊ะตามแบบผมบ้าง หน้ามันหันมาทางผม มันยิ้มให้ผมเล็กน้อย มันเป็นคนง่ายๆสบายๆแบบนี้อยู่แล้วล่ะเนอะ
“ถ้าเป็นแบบมึงได้ก็คงดี”
“หือ? เป็นแบบกู แบบไหนว่ะ?”
“สบายๆ ไม่เครียดไง... แต่ต้องแอบรักคนอื่นเนี่ย กูไม่เอานะ ไม่ค่อยชอบ ฮ่าๆ”
ผมพูดพร้อมกับยื่นเอานิ้วไปเขี่ยๆแก้มมัน มันก็ไม่ได้ว่าอะไร สักพักผมเลยจิ้มลงไป แก้มมันป่องเพราะมันอมลมไว้ แล้วก็นิ่มดีด้วย น่าจิ้มชะมัด
“เล่นพอรึยัง”
น้ำเสียงคุ้นหูอยู่ทางด้านหลัง คิงเดินเข้ามานั่งด้านข้างอีกข้างของผม บรรยากาศอึดอัดทำให้ผมกับนนท์ลุกขึ้นมานั่งตัวตรงในไม่ช้า
“อืม” ผมพูดจบแล้วก็เงียบกันไปจนครูก้าวเข้ามา
...คาบโฮมรูมได้เริ่มขึ้นแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ